“เจ้าคือดวงใจข้าที่ใกล้แตกสลายลงอีกครั้ง” —อเล็กซานเดอร์
ชาย-หญิง,รัก,แฟนตาซี,ดาร์ค,ตะวันตก,แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,ผจญภัย,ดราม่า,โรมานซ์แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
A Tale of Thousand Stars ปาฏิหาริย์รักข้ามพิภพ“เจ้าคือดวงใจข้าที่ใกล้แตกสลายลงอีกครั้ง” —อเล็กซานเดอร์
ท่ามกลางความรุ่งโรจน์แห่งจักรวรรดิอังกฤษ คำสาปโบราณกำลังจะตื่นขึ้น…
ปี ค.ศ. 1847 ภายใต้ร่มเงาแห่งพระราชินีนาถวิกตอเรีย หญิงสาวแปลกหน้า—เอเลนอร์ เฮสติงส์—ตื่นขึ้นในร่างของสตรีสูงศักดิ์โดยไร้ซึ่งความทรงจำ
เมื่อโชคชะตานำพาให้เธอได้พบกับดยุก อเล็กซานเดอร์ คาเวนดิช ทายาทแห่งตระกูลผู้ถูกพันธนาการด้วยความลับและบาปกรรมในอดีต ทั้งสองถูกผูกมัดด้วยสายสัมพันธ์เร้นลับและแรงปรารถนาที่ท้าทายขีดจำกัดของกาลเวลา
ท่ามกลางเงามืดของคฤหาสน์แชตส์เวิร์ธ คำสาปร้ายและอดีตอันโหดร้ายค่อย ๆ เผยโฉม เอเลนอร์และอเล็กซานเดอร์ต้องร่วมกันไขปริศนาและเดิมพันด้วยหัวใจ หากปรารถนาจะมีวันพรุ่งนี้ พวกเขาต้องเลือกระหว่างความรักกับความตาย
นวนิยายแฟนตาซี-โศกนาฏกรรมรัก ที่จะพาคุณดำดิ่งสู่โลกแห่งคำสาบาน อำนาจ และการทรยศ กับปาฏิหาริย์ของสองดวงวิญญาณที่ถูกลิขิตให้พานพบเพียงเพื่อจากลาและคําอธิษฐานที่พลิกชะตาฟ้าและดิน
“แม้ม่านเวลาจะขวางทางเราไว้ไกล แต่หัวใจยังร่ำร้องเรียกหา
ใต้ท้องฟ้าที่พราวด้วยหมู่ดาวนับพันครา ความรักยังเลอเลิศเยียวยารอยแผลใจ
แม้ศตวรรษจะพาเราให้ห่างไกล แต่สองวิญญาณยังผูกสายใยแน่นมั่นมิแปรผัน
หนึ่งหัวใจในสองร่างที่ใฝ่ฝัน ดวงดาราจะนำทางเราทุกคืนวัน
ให้ปาฏิหาริย์ผลิบานไม่ว่าวันพรุ่งเป็นเช่นไร”
— เอเลนอร์ บาร์เน็ตต์
✽ ✽ ✽
วันที่ 25 ตุลาคม ปี ค.ศ. 1847 คือวันที่ฉันเริ่มจดบันทึกเล่มนี้หลังจากที่ได้ตื่นขึ้นมาในฐานะ เลดี้ เอเลนอร์ บาร์เน็ตต์ ทั้งยังตรงกับวันเกิดของฉันในชีวิตเก่า และกำลังจะได้พบกับ ใต้ฝ่าพระบาท อเล็กซานเดอร์ คาเวนดิช คู่หมั้นของฉันในอีกไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนี้
✽ ✽ ✽
หลังทินกรอัสดงได้ครึ่งยาม นาฬิกาไขลานไม้สลักทองที่แขวนอยู่บนผนังด้านในห้องนอนก็ตีบอกเวลาว่าในขณะนี้กำลังจะสี่ทุ่มตรงแล้ว ในเหมันต์ฤดูเช่นเดือนตุลาคมนี้ งานเลี้ยงเต้นรำในช่วงค่ำคืนเพื่อสันทนาการมักถูกจัดขึ้นโดยเหล่าผู้สูงศักดิ์อยู่บ่อยครั้ง และจะมีเพียงแค่คนกลุ่มน้อยที่มียศถาบรรดาศักดิ์เท่านั้น ที่จะได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานที่จัดขึ้นในคฤหาสน์ของตระกูลขุนนาง จุดประสงค์ของงานมีไว้เพื่อหลากหลายเหตุผลด้วยกัน อาทิเพื่อความบันเทิง เพื่อการจับคู่ให้ลูกให้หลาน เพื่อการหาหุ้นส่วนทางธุรกิจ และเพื่อการเมือง
ส่วนฉัน เลดี้ เอเลนอร์ บาร์เน็ตต์ กำลังถูกรับเชิญให้ไปร่วมงานเลี้ยงเต้นรำในคืนนี้ในฐานะคู่หมั้นอย่างเป็นทางการของ ใต้ฝ่าพระบาท อเล็กซานเดอร์ คาเวนดิช หรือดยุกแห่งเดวอนเชียร์คนปัจจุบัน ต่อไปนี้ฉันจะขอแทนชื่อของเขาว่า ‘ท่านอเล็กซาน’ เพื่อง่ายต่อการเล่าเรื่อง
ลิเลียนได้เตรียมชุดแสนสวยสำหรับออกงานเลี้ยงเต้นรำไว้ให้กับฉันอยู่หนึ่งชุด นางบรรจงสวมมันและจัดแต่งให้ภาพลักษณ์โดยรวมออกมาดูดีที่สุด ให้สมกับตำแหน่งคู่หมั้นของเจ้าภาพในคืนนี้
ชุดที่หล่อนเตรียมมาเป็นชุดเดรสที่ยาวจนลากพรมสีงาช้าง มันทำมาจากผ้าไหมแท้เนื้อลื่นที่เย็บจับจีบแน่นตั้งแต่ช่วงอกจรดปลายกระโปรง สะท้อนแสงไฟวาววับดั่งแสงจันทร์ในยามราตรี พร้อมทั้งแขนเสื้อแบบเปิดไหล่อย่างอ่อนช้อยที่ขับผิวขาวซีดของฉันให้ดูนวลสะดุดตา เสริมตามด้วยประดับลูกไม้ปักมืออย่างประณีตที่ริมขอบอกและข้อมือ และสุดท้ายที่จะขาดไปไม่ได้เลยสำหรับสตรีในยุคนี้ ‘คอร์เซ็ต’ ที่ใช้รัดเอวให้แน่นกระชับ เสริมให้เรือนร่างอรชรนี้คอดสวยเข้ารูปตามพิมพ์นิยมของยุคสมัย
นางมวยผมของฉันเกล้าขึ้นสูงอย่างมีศิลป์ ประดับด้วยหวีมุกและหมุดสีทองคำ ลิปสติกถูกนำมาแต่งแต้มที่ริมฝีปากด้วยสีแดงเข้มจากกลีบกุหลาบแรกแย้ม ท้ายสุดคือการพรมกลิ่นน้ำหอมชั้นดีจากฝรั่งเศสให้ทั่วทั้งตัวโดยเน้นที่ซอกคอทั้งสองข้าง
ก่อนจะเตรียมตัวออกเดินทาง ลิเลียนได้สวมผ้าคลุมบางเบาแนบหลังจากไหล่จรดปลายเท้าที่ประดับพลอยสีเลือดนกไว้กันหนาว ทั้งยังมีเข็มกลัดทองคำที่ตอกตราประจำตระกูลบาร์เน็ตต์ไว้ตรงอก สภาพอากาศของกรุงลอนดอนนั้นหนาวจับใจถึงกระดูก หากไม่ห่มกายให้หนาอุ่นดีแล้วเสีย อาจจะไม่สบายจากหวัดฤดูกาลได้ทีเดียว
“คุณหนูช่างงดงามเหลือเกิน คืนนี้ใต้ฝ่าพระบาทต้องถูกใจท่านมากเป็นแน่”
ลิเลียนกล่าวชมฉันหลังจากที่คลุมเสื้อให้เสร็จสรรพ ฉันส่องดูตัวเองที่กำลังนั่งอยู่หน้ากระจกด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะมีโอกาสได้แต่งตัวเช่นนี้มาก่อนในชีวิต แม้แต่งานเลี้ยงใหญ่สักงานยังไม่เคยเลยที่จะได้มีโอกาสสัมผัสมัน แต่ก็ยอมรับจากใจจริงอย่างที่นางว่า เลดี้เอเลนอร์ท่านนี้สวยงามน่าชื่นชมยิ่งนัก
“พี่แน่ใจนะว่าฉันจะไม่เป็นไร”
ฉันเกิดรู้สึกประหม่าที่ต้องไปร่วมงานเลี้ยงทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ความอะไรทั้งสิ้น
“แม้จะความจำเสื่อม แต่คุณหนูยังสามารถสื่อสารรู้เรื่อง คุณหนูเพียงเต้นรำกับใต้ฝ่าพระบาทก็เพียงพอแล้วเจ้าค่ะ”
“แล้วฉันจะคุยกับเขารู้เรื่องหรือพี่”
ลิเลียนแสดงสีหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“คุณหนูมิจำเป็นต้องสนทนาอะไรกับท่านในคืนนี้ก็ได้เจ้าค่ะ เงียบไว้เป็นพอ”
‘จะเป็นไปได้อย่างไร เต้นรำด้วยกันแต่ไม่ต้องพูดคุยอะไรกัน เขาเป็นคู่หมั้นของฉันไม่ใช่หรือ’
แม้จะมีความสงสัยเต็มไปหมด แต่ฉันก็ไม่คิดถามอะไรเพิ่มเติมเพราะเข้าใจว่าคงเป็นมารยาทที่คนที่นี่พึงกระทำ เมื่อทุกอย่างเสร็จพร้อม ลิเลียนก็เดินนำไปยังรถม้าที่จอดรออยู่ที่หน้าคฤหาสน์ และออกเดินทางในทันที