“เธอคือปีศาจไร้หัวใจ— เขาคือทาสที่ไร้ชีวิต… แต่เมื่อหัวใจที่เย็นชาสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากโซ่ตรวน ความรักต้องห้ามจึงบานสะพรั่งกลางหิมะเปื้อนเลือด” — โซ่รักนางร้ายไร้หัวใจ —
เกิดใหม่,ชาย-หญิง,แฟนตาซี,ดราม่า,จิตวิทยา,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
โซ่รักนางร้ายไร้หัวใจ“เธอคือปีศาจไร้หัวใจ— เขาคือทาสที่ไร้ชีวิต… แต่เมื่อหัวใจที่เย็นชาสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากโซ่ตรวน ความรักต้องห้ามจึงบานสะพรั่งกลางหิมะเปื้อนเลือด” — โซ่รักนางร้ายไร้หัวใจ —
หลังตายจากโลกเดิมอย่างไร้ค่า “อีเรน” กลับลืมตาขึ้นในโลกใหม่—ในร่างของ “ทาส” ผู้ไร้อิสรภาพ ภายใต้การครอบครองของหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าไร้หัวใจที่สุดในจักรวรรดิ… “ไลลาธ วาน คาร์มีลล์” ขุนนางสาวผู้ฆ่าได้โดยไม่กระพริบตา นางร้ายเลือดเย็นที่ใครต่างก็หวาดกลัว
แต่แทนที่อีเรนจะเกรงกลัว เขากลับมองเห็นความว่างเปล่าในดวงตาสีแดงของเธอ เห็นความโดดเดี่ยวที่ซ่อนอยู่หลังใบหน้าราบเรียบไร้อารมณ์ และด้วยถ้อยคำเยือกเย็นแต่แฝงความเข้าใจ เขาค่อย ๆ เปลี่ยนเธอที่เย็นชาดั่งน้ำแข็ง ให้รู้จัก “ความรู้สึก” ที่เธอเคยฝังกลบมาตลอดชีวิต
ในโลกที่โหดร้ายยิ่งกว่าไฟนรก ความสัมพันธ์ระหว่าง “ทาส” กับ “นางร้าย” ค่อย ๆ เบ่งบานท่ามกลางเลือด หิมะ และเงาแห่งการทรยศ แต่เมื่ออำนาจและศัตรูพยายามแยกทั้งสองออกจากกัน ความรักของพวกเขาจึงกลายเป็น “บาป” ที่ไม่มีใครยอมรับ
สุดท้าย… เมื่อความรักของปีศาจกับทาสต้องแลกด้วยชีวิต
พวกเขาจะเลือก “อยู่เป็นศัตรูของโลก” หรือ “ตายในอ้อมกอดของกันและกัน”?
⸻
หากต้องการแบบยาวขึ้น (ใช้สำหรับหลังปกหรือแพลตฟอร์มขายนิยาย) บอกได้นะครับ ผมจัดให้!
ของขวัญจากแม่มด
“เจ้าตื่นสาย”
เสียงเรียบเย็นของเธอดังขึ้นในเช้าหนึ่งที่หมอกหนาทึบจนแม้แต่แสงจันทร์ก็ไม่มีแรงจะเจิดจ้า
ผมลืมตาขึ้นช้า ๆ จากพื้นแข็ง
และพบเธอยืนอยู่ปลายเตียง
สวมชุดคลุมสีดำสนิท ผ้าคลุมผมสั้นเหนือไหล่ปลิวเบา ๆ ตามแรงลมจากหน้าต่างที่เปิดไว้
เธอไม่เคยเปิดหน้าต่าง
แต่วันนี้…เธอเปิด
แปลว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไป
“ตามมา” เธอสั่ง ไม่รอคำตอบ
ผมเดินตามเธอไปยังห้องใต้ดินอีกแห่ง
ไม่ใช่เรือนทาส แต่เป็นห้องทรงกลมใต้คฤหาสน์ — มีเพียงเทียน 6 เล่มวางรายรอบแท่นศิลากลางห้อง
กลิ่นกำยานจาง ๆ คลุ้งอยู่ในอากาศ
บนแท่นศิลา มีหีบดำขนาดเท่าอกวางอยู่
ตกแต่งด้วยอักษรเก่าที่แม้แต่ผม…ก็รู้สึกขนลุก
เธอยื่นมือไปเปิดฝาหีบ
เสียงบานไม้ดังเอี๊ยดเบา ๆ เผยให้เห็นวัตถุภายใน
มันคือ “ปลอกคอ” ทำจากเงินทมิฬ
ประดับอัญมณีสีแดงเหมือนตาอสูร
“นี่คือของขวัญ” เธอกล่าว โดยไม่สบตา
“ให้ผมหรือ?”
“ใช่ — ข้าเคยใส่มันไว้กับสัตว์เดรัจฉานที่ข้าเลี้ยง… แต่เจ้าคงไม่ต่างนัก”
ผมขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้ถอย
เธอยื่นมือมาช้า ๆ
และก่อนที่ผมจะพูดอะไร เธอก็ล็อกมันไว้รอบคอผมในจังหวะเดียว
เสียง “แกร๊ก” ของกลไกในปลอกคอดังขึ้น
มันเย็นเฉียบ…เย็นจนแสบผิว
“มันมีเวทมนตร์?” ผมถาม พลางแตะเบา ๆ ที่ขอบโลหะ
“เปล่า”
“ข้าไม่เชื่อในเวท — แต่ข้าสร้างมันเองกับมือ”
เธอเอียงศีรษะเล็กน้อย รอยยิ้มบางแวบขึ้นมุมปาก
“มันเป็นเพียงโลหะธรรมดา…แต่ใช้กุญแจแค่ดอกเดียว”
“และข้า…คือคนเดียวที่ถือกุญแจนั้น”
ผมมองหน้าเธอ — พิจารณาเธออย่างจริงจัง
แม้เธอจะพูดว่า ‘ทาส’
แต่สายตาเธอมีบางอย่าง…ที่ลึกกว่าเจ้านายกับสิ่งของ
“คุณอยากขังผมไว้ใช่ไหม”
“เปล่า”
“ข้าแค่อยากแน่ใจว่าเจ้าจะไม่หายไปไหน — อย่างน้อย…ไม่ใช่ตอนนี้”
“คุณกลัวเหงาเหรอ” ผมพูดขึ้นเบา ๆ
เธอหันมาช้า ๆ
แววตาเปลี่ยน…น้อยนิด แต่เปลี่ยน
“ข้าไม่เคยเหงา” เธอตอบทันที
“งั้นคุณแค่กลัวว่า หากผมหายไป…คุณจะไม่รู้ว่าจะเจ็บหรือเปล่า”
เธอไม่ตอบ
แค่มองผมนิ่ง ๆ
ผ่านไปสิบวินาที — เธอกลับเดินเข้าใกล้ และยกมือสัมผัสปลอกคอบนคอผม
ไม่แรง…ไม่เบา
เพียงพอให้สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิปลายนิ้วเธอ
“มันสวยดีใช่ไหม” เธอกระซิบ
“ข้าทำมันจากเงินที่เคยหลอมจากแหวนหมั้นของข้า”
ผมชะงัก
“คนที่ให้แหวนกับข้า…แทงมือข้าด้วยมีดเล่มเดียวกับที่เขาเคยใช้ตัดเค้กงานหมั้น”
ความเงียบตกลงทันที
ไม่มีคำพูดใดเหมาะสมจะตอบกลับเรื่องแบบนั้น
ผมเพียงเอ่ยเบา ๆ
“คุณเลือกจะสร้าง ‘โซ่’ จากเศษของอดีต…แล้วใส่มันไว้กับผม”
เธอเงียบไปครู่หนึ่ง
ก่อนจะพูดช้า ๆ ราวกับคำสารภาพที่เธอไม่เคยให้ใคร
“เพราะเจ้าดูเหมือนคนที่…จะไม่ทรยศข้า แม้ข้าจะทำลายเจ้าก่อนก็ตาม”
ผมเงยหน้าขึ้นสบตาเธออีกครั้ง
“คุณรู้ไหมว่านั่นแปลว่าอะไร”
เธอไม่ตอบ
ผมพูดต่อ
“มันแปลว่า…คุณเริ่มกลัวการสูญเสียมากกว่าการถูกหักหลังแล้ว”
เธอยืนนิ่ง
ดวงตานั้นสะท้อนอะไรบางอย่าง — ราวกับเธอกำลังสู้กับตัวเอง
แล้วเธอก็พูดขึ้นในที่สุด
เสียงเบากว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
“อย่าหนีไปไหน…แม้ข้าจะกลายเป็นสัตว์ร้ายก็ตาม”
ผมพยักหน้า
มือแตะปลอกคอเบา ๆ
“ผมไม่หนี…ไม่ใช่เพราะปลอกคอหรอก”
เธอจ้อง
“แต่เพราะผมอยากรู้…ว่านางร้ายไร้หัวใจคนหนึ่ง จะเปลี่ยนไปได้แค่ไหน หากเธอเริ่มรู้จักคำว่า ‘รัก’”