‘ปฐพี’ ถูกวิญญาณของ ‘เมธัส’ ขอให้ช่วยหาแฟนให้อดีตคนรักอย่าง ‘ภูริ’ เพื่อจะได้หมดห่วงแล้วไปผุดไปเกิด งานนี้ภารกิจจะสำเร็จหรือไม่ คิวปิดจะแผลงศรใส่ใคร หรือสุดท้ายศรที่แผลงออกไปจะวกกลับมาปักหัวใจตัวเอง
รัก,ตลก,ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ไทย,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ที่สุดในปฐพี‘ปฐพี’ ถูกวิญญาณของ ‘เมธัส’ ขอให้ช่วยหาแฟนให้อดีตคนรักอย่าง ‘ภูริ’ เพื่อจะได้หมดห่วงแล้วไปผุดไปเกิด งานนี้ภารกิจจะสำเร็จหรือไม่ คิวปิดจะแผลงศรใส่ใคร หรือสุดท้ายศรที่แผลงออกไปจะวกกลับมาปักหัวใจตัวเอง
ภู ภูริ
อายุ 37 ปี
อาชีพ นักธุรกิจ / เจ้าของโรงแรม / เจ้าของสถานบันเทิง
สถานะ โสด
+++++
ดิน ปฐพี
อายุ 20 ย่าง 21
อาชีพ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ / พนักงานพาร์ตไทม์สถานบันเทิง
สถานะ โสด
+++++
เมธ เมธัส
อายุ 25 ปี
อาชีพ วิญญาณ
สถานะ มีห่วง
+++++
‘ปฐพี’ เด็กหนุ่มผู้มีความสามารถพิเศษในการมองเห็นวิญญาณ ถูก ‘เมธัส’ ที่ตายไปแล้วกว่า ๑๐ ปี ขอร้องให้ช่วยหาแฟนให้ ‘ภูริ’ อดีตคนรักที่ฝังใจกับรักครั้งเก่าจนไม่ยอมมีรักครั้งใหม่ เพื่อจะได้หมดห่วงแล้วไปผุดไปเกิดกับเขาสักที
“เฮียชอบคนแบบไหนเหรอ”
“ถามทำไม จะจีบกูหรือไง”
“อื้อ จะจีบให้คนอื่น” คำตอบที่ได้รับส่งผลให้คิ้วหนาเลิกขึ้นสูงได้เป็นอย่างดี “เฮียชอบคนลักษณะแบบไหนเหรอ”
“ตัวเล็ก ผิวขาว พูดเก่ง ขี้เล่น อารมณ์ดี”
ได้ยินเช่นนั้นปฐพีจึงเอี้ยวหน้าไปมองเมธัสนิ่งงัน ดูท่าแล้วภูริคงจะยังฝังใจกับแฟนเก่าที่ตายไปแล้วจริง ๆ
งานนี้ภารกิจคิวปิดของปฐพีจะสำเร็จหรือไม่ เมธัสจะได้ไปผุดไปเกิดตามที่ตั้งใจหรือเปล่า แล้วใครกันที่จะได้มาเป็นเจ้าของหัวใจคนใหม่ของภูริ หรือว่าสุดท้ายแล้ว...ศรที่คิวปิดแผลงออกไปจะวกกลับมาปักใส่หัวใจตัวเอง
ติดตามได้ใน...ที่สุดในปฐพี
ช่องทางทวงนิยาย
หรือทวงในแท็ก
#ที่สุดในปฐพี
ติดเหรียญตั้งแต่บทที่ 4 เป็นตั้นไป
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องสมมติซึ่งถูกสร้างขึ้นมาจากจินตนาการของนักเขียนเท่านั้น ตัวละครทั้งหมดไม่มีตัวตนอยู่จริง เหตุการณ์ทั้งหมดภายในเรื่องไม่ได้เกิดขึ้นจริง มีการบรรยายถึงวิญญาณ การเสียชีวิต การฆ่าตัวตาย การทำพิธีกรรมปลดปล่อยวิญญาณที่สมมติขึ้นซึ่งอาจไม่สมจริงเท่าไรนัก การกระทำบางอย่างของตัวละครไม่เหมาะสมและไม่ควรลอกเลียนแบบ นักอ่านควรใช้วิจารณญาณเป็นอย่างยิ่ง
ไม่อนุญาตให้ผู้ใดทำการคัดลอกเป็นอันขาด
- ZANIA -
บทที่ ๑๘
เคลียร์ใจ
“พี่เมธ ผมจะอนุญาตให้พี่ใช้ร่างเป็นกรณีพิเศษ เพราะฉะนั้นถ้ามีอะไรจะคุยกันก็คุยให้จบตั้งแต่ครั้งนี้นะ” ได้ยินเช่นนั้นเมธัสก็ขมวดคิ้วเข้าหากันมุ่น “ผมคิดว่าวิธีนี้น่าจะช่วยให้พี่ไปตามทางของพี่ได้”
“แต่ว่าร่างกายของน้องดินจะเป็นอันตรายนะ คราวของน้องหญิงก็...”
“ผมไม่เป็นอะไรหรอก พี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”
ปฐพีรีบพูดแทรกก่อนเมธัสจะได้พูดจบ เพราะเขารู้ว่าอีกฝ่ายจะต้องคัดค้านเรื่องนี้แน่ เขาทบทวนมาดีแล้วเรื่องที่จะให้วิญญาณตัวขาวยืมใช้ร่าง คิดว่าเพียงแค่ครู่เดียวมันคงไม่เป็นอะไร
“เอาตามนี้แหละเนอะ มาลองวิธีสุดท้ายกัน จะได้ไม่มีอะไรค้างคาใจ”
“ขอบคุณมากเลยนะน้องดิน พี่จะไม่อยู่ในร่างน้องดินนาน จะไม่ทำให้น้องดินเป็นอะไรเด็ดขาด”
คนฟังยิ้มรับคำขอบคุณจากคนที่มองตัวเองด้วยสายตาซาบซึ้ง ครู่หนึ่งก็เหลือบไปมองภูริที่หน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความเครียดขึง ถัดมาก็ยื่นมือไปหยิบธูปที่วางอยู่บนชั้นขึ้นมาจุดหนึ่งดอก อธิษฐานในใจแล้วปักลงไปในถ้วยทรายละเอียด ยามสบตากับวิญญาณเจ้าของห้องก็พยักหน้าบอกให้เริ่มได้เลย ดังนั้นเมธัสจึงเข้าไปสิงร่างน้องเพื่อจะได้คุยกับภูริให้จบ
เมื่อวิญญาณกับร่างกายผสานกันเป็นหนึ่ง เมธัสก็หมุนตัวกลับหลังไปมองอดีตคนรักที่ยังไม่ปริปากพูดจาตั้งแต่มาถึง ซึ่งคราวที่ภูริเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นเมธัสไม่ใช่ปฐพีก็ตกใจแล้วถอยหลังไปหนึ่งก้าว หัวใจภายในทรวงอกบีบรัดตัวจนเจ็บหน่วง กรอบตาร้อนผะผ่าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
“กลัวเมธเหรอครับ”
“เฮียแค่ตกใจ”
ครั้นตั้งสติได้ ภูริก็เข้าไปกอดอดีตคนรักแน่นซึ่งอีกคนก็กอดตอบแล้วลูบแผ่นหลังกว้างเพื่อปลอบประโลมไปในตัว อ้อมกอดของภูริมันยังอุ่นเหมือนเดิมกับที่เมธัสเคยได้สัมผัส แต่ว่าตอนนี้มันก็ไม่ใช่อ้อมกอดที่มีไว้เพื่อเขาอีกต่อไปแล้ว
“เฮียคิดถึงเธอนะ”
“เมธก็คิดถึงเฮียครับ แต่ว่าเราต้องรีบคุยกันให้จบ เมธอยู่ในร่างน้องดินนานมากไม่ได้ เพราะน้องจะได้รับผลกระทบเอา”
ยามได้ยินว่าการที่เมธัสอยู่ในร่างของปฐพีอาจก่อให้เกิดผลกระทบกับเจ้าของร่าง ภูริก็ผละออกห่างแล้วสบตากับคนที่ตัวเองมองเห็นเป็นอดีตคนรักด้วยอาการสั่นไหว
“เรารบกวนน้องให้น้อยที่สุดกันเถอะนะ”
ภูริกดหน้ารับคำแล้วเดินตามแรงจูงไปนั่งบนเตียงหลังกว้าง ต่างคนต่างจ้องหน้ากันครู่หนึ่ง เมธัสก็น้ำตาไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความรู้สึกในวันวานหวนกลับเข้ามาราวกับว่าเขากำลังนั่งอยู่ในเหตุการณ์วันนั้นก่อนที่เขาจะตายไม่มีผิด แม้เวลาผ่านเป็นสิบปีเขาก็ยังลืมความรู้สึกนั้นไม่ลง
“เรื่องในวันนั้นมันไม่มีอะไรเลยนะเมธ เฮียกับปริมไม่ได้มีอะไรอย่างที่เธอคิด เฮียแค่ไปส่งเพราะเห็นว่าเขาเมาแล้วรีบกลับบ้านไปหาเธอ เฮียไม่ได้หักหลังเธออย่างที่เข้าใจ เฮียไม่เคยไปทำอะไรกับใครลับหลังเธอเลยสักครั้ง ปริมก็แค่อยากทำให้เราแตกคอกัน ตอนคบกันเฮียก็มีแค่เธอคนเดียว จริงจังกับเธอคนเดียว เฮียไม่มีวันทรยศความไว้ใจของเธอแน่นอนเมธ...ไม่คิดที่จะทำเลยด้วยซ้ำ”
เมื่อภูริเป็นคนเปิดปากพูดก่อนด้วยน้ำเสียงติดสั่น เมธัสก็หลุดสะอื้นออกมาด้วยความรู้สึกเสียใจ เขาเสียใจที่วันนั้นไม่เชื่อมั่นในตัวของคนรักจนทำให้ทุกอย่างมันพังลง หากเขามีสติสักนิด ใจเย็นลงอีกหน่อย เราคงไม่ต้องทะเลาะกันใหญ่โตแล้วจบลงด้วยการพลัดพรากโดยที่ยังไม่ได้ร่ำลาแบบนี้
“เฮียขอโทษที่ทำให้เธอเสียใจ ขอโทษที่ตะคอกใส่แล้วก็ไล่เธอไปแบบนั้น”
พูดมาถึงตรงนี้ ภูริก็น้ำตาไหลลงมาเป็นสาย เขารอวันที่จะได้ขอโทษเมธัสต่อหน้าแบบนี้มานานมาก แต่มันก็ไม่เคยมีโอกาสนั้น ตลอดมาเขาจึงทำได้เพียงขอโทษกับรูปภาพที่ไม่มีการตอบโต้กลับผ่านธูปดอกหนึ่งที่ไม่รู้ว่าจะนำพาคำขอโทษไปถึงหรือไม่ ทว่าวันนี้เขาได้ทำอย่างที่อยากทำมาตลอดเพราะเด็กที่โลกเต็มไปด้วยความสดใสคนหนึ่ง
“เฮียขอโทษนะ ขอโทษที่ทำให้เธอต้องตาย ฮึก!”
“พอแล้ว อย่าโทษตัวเองแบบนั้น เมธไม่อย่างได้ยินว่าเฮียโทษตัวเองอีกแล้ว”
เมธัสยกมือขึ้นประกบแก้มที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาของอดีตคนรักแล้วพยายามเช็ดออกให้ ทว่ามันก็ไหลลงอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
“เลิกโทษตัวเองเถอะนะ เฮียไม่ได้เป็นคนทำให้เมธตาย เรื่องวันนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่ความผิดของเฮียเลย”
“แต่เฮียไล่เธอ ถ้าเฮียไม่ไล่เธอไปแบบนั้นมันก็คงไม่เกิดเรื่อง”
“เมธเป็นคนตัดสินใจออกไปเอง เมธเป็นคนที่ทำให้ตัวเองตาย ฮึก! ไม่ใช่เฮียสักหน่อย” วิญญาณตัวขาวภายในร่างของเด็กหนุ่มรู้สึกบีบรัดที่หัวใจขึ้นมายามเห็นว่าคนพี่ยังไม่เลิกโทษตัวเองสักที “เมธไม่เคยโกรธ ไม่เคยโทษว่าเป็นความผิดเฮีย คนมันถึงคราวตาย ยังไงมันก็ต้องตาย เฮียไม่ผิดเลย...”
“แต่เฮียไม่ได้อยากให้เธอตาย”
“เมธก็ไม่ได้อยากตายทั้งที่ยังไม่ได้บอกลาเฮียเหมือนกัน แต่เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว สายน้ำที่ไหลไปแล้วมันไม่มีวันย้อนกลับ เราแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว”
เมธัสขยับนิ้วหัวแม่มือลูบแก้มที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาไม่ต่างจากตัวเองด้วยความทะนุถนอม
“รู้ไหมว่าทุกครั้งที่มาที่นี่ เฮียไม่เคยยิ้มให้เมธเลยสักครั้ง เมธต้องทนดูคนที่เมธรักเศร้าหมองเวลามองรูปของตัวเอง ต้องทนมองเฮียทุกข์ทรมานเพราะตัวเองมาเป็นสิบปี”
“เฮียขอโทษ”
“เมธอยากให้เฮียยิ้มเยอะ ๆ ยิ้มกว้าง ๆ เหมือนอย่างตอนที่อยู่กับน้องดินนะ” คนพูดพยายามคลี่ยิ้มให้ทั้งที่น้ำตาไหลลงมาไม่หยุด “เมธอยากให้เฮียมีความรักที่ดี อยากเห็นเฮียมีความสุขกับใครสักคนที่เฮียรักเขาแล้วเขาก็รักเฮีย ไม่ใช่ต้องมานั่งทุกข์ระทมเพราะเมธแบบนี้”
“เฮียทำไม่ได้ เฮียรักใครใหม่ไม่ได้ มันไม่ยุติธรรมกับเธอ”
“ได้สิ มันได้อยู่แล้ว” เมธัสส่ายหน้าไปมาเพื่อคัดค้านคำของคนพี่ “เฮียเลิกโทษตัวเอง เลิกรู้สึกผิดต่อเมธเถอะนะ เมธตายเพราะมันเป็นกรรมของเมธเอง ไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้น”
“แต่...”
“เฮียภูอยากเสียน้องดินไปจริง ๆ เหรอครับ”
คนถูกย้อนถามเม้มริมฝีปากตัวเองแน่นยามนึกถึงใบหน้าสดใสของคนที่ทำให้ตัวเองหวั่นไหวใจสั่นได้ พอคิดว่าต้องเสียน้องไปอีกคน ความเจ็บปวดมันก็ทวีคูณขึ้นเป็นเท่าตัว
“น้องดินเป็นคนดีมากนะ ถ้าเฮียอยากรักน้องก็รักได้เลย รักได้มากเท่าที่เฮียอยากรัก รักมากกว่าเมธกี่ร้อยกี่พันเท่าก็ได้ เมธไม่ว่าอะไรเลย”
“ไม่กลัวว่าเขาจะมาแทนที่เธอเหรอ”
“ที่ตรงนั้นมันไม่ใช่ของเมธตั้งแต่วินาทีที่ลมหายใจดับลงแล้ว” เมธัสลดมือไปจับมือหนาแล้วบีบกระชับเพื่อให้กำลังใจคนที่ยังอยู่ “เฮียปล่อยเมธไปได้ไหมครับ ปล่อยมือเมธแล้วเป็นอิสระจากกันสักที สิ่งที่เมธต้องการมากที่สุดในชีวิตนี้ก็คือการได้เห็นเฮียมีความสุขนะ”
“เฮียรักคนอื่นได้จริง ๆ ใช่ไหม”
“รักได้เท่าที่ต้องการเลย ส่วนเมธ...เฮียก็เก็บไว้ในลิ้นชักที่ลึกที่สุดในใจ นึกถึกกันแค่ในบางครั้งบางคราวก็พอ”
ความรู้สึกหนักอึ้งที่กดทับหัวใจมาตลอดสิบปีเบาลงทันตาหลังจากเคลียร์ใจกับอดีตคนรัก ด้วยเหตุนั้นเองภูริจึงดึงอีกคนเข้ามากอดด้วยความขอบคุณ ไม่ใช่แค่เมธัสที่ต้องการอิสระจากเขา ส่วนลึกในใจเขาเองก็ต้องการอิสระจากอีกฝ่ายเช่นกัน ซึ่งวันนี้โซ่ตรวนที่มัดขาเขาให้ตรึงอยู่กับอดีตได้ถูกปลดพันธนาการออกเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่กำลังกอดให้กำลังใจกันอยู่นั้น เมธัสก็รู้สึกอึดอัดภายในกายก่อนจะถูกดีดออกจากร่างของปฐพีกะทันหัน เขาคิดว่ามันคงถึงขีดจำกัดเวลาแล้วจึงไม่ได้ตกใจอะไร ทว่ายามหันไปมองแล้วเห็นว่าน้องแน่นิ่งอยู่ในอ้อมกอดของภูริก็เกิดร้อนรนใจขึ้นมา เขารู้สึกได้ว่ามันกำลังจะเกิดเรื่องอะไรไม่ดีขึ้น
“กลิ่นเลือด...”
ภูริที่ได้กลิ่นเลือกจาง ๆ ลอยมาจากตัวคนที่ก่อนอยู่จึงผละออกมา ครั้งเห็นว่าตอนนี้ปฐพีแน่นิ่งไปโดยมีเลือดกำเดาไหลออกมาไม่หยุดจึงรีบปลุกให้ตื่น
“ดินได้ยินเฮียไหม ดิน!”
“เฮียภู ฮึก! น้องไม่ไหวแล้วแน่เลย”
“ดินตื่นขึ้นมาหาเฮียสิ”
ภูริพยายามปลุกน้องให้ตื่นอย่างสุดความสามารถ ครั้นสัมผัสไม่ได้ถึงอัตราการเต้นของหัวใจ เขาก็รีบอุ้มปฐพีวางลงบนพื้นแล้วทำการปั๊มหัวใจให้ด้วยอาการหวั่นวิตก เขากลัวเหลือเกินว่าน้องจะเป็นอะไรไปทั้งอย่างนี้ กลัวว่าน้องจะจากไปอีกคน
“ตื่นขึ้นมาสิดิน แบบนี้เฮียใจไม่ดีเลยนะ”
“ฮึก! น้องดิน” เมธัสที่ช่วยอะไรไม่ได้เดินไปเดินมาราวกับหนูติดจั่น “พะ พี่ขอโทษ อย่าเป็นอะไรไปเลยนะ”
“ดิน กูบอกให้ตื่นไง!”
แกรก!
ครั้นประตูห้องถูกเปิดพรวดพราดออกแล้วกลุ่มคนจำนวนหนึ่งบุกเข้ามา ภูริก็หันไปมองด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่พยาบาลจึงรีบถอยห่างเพื่อให้มืออาชีพเป็นคนช่วยเหลือน้องแทน ส่วนตัวเองก็คอยยืนมองอย่างกังวล
ไม่รู้หรอกว่าใครเป็นคนเรียกรถพยาบาลมาในเวลานี้ แต่มันก็ทันการณ์พอดีเพราะน้องกำลังแย่
“หัวใจกลับมาเต้นแล้ว รีบพาไปโรงพยาบาล!”
เมื่อเจ้าหน้าที่นำปฐพีขึ้นเปลแล้วพาออกไป ภูริก็รีบตามไปอีกคน ส่วนเมธัสนั้นหายตัวลงมารอหน้าอาคารซึ่งมีรถพยาบาลจอดอยู่ ขณะกำลังด้อม ๆ มอง ๆ ไปยังลิฟต์เพื่อรอให้ทุกคนออกมา ท่านเจ้าที่ก็โผล่มายืนด้านข้างแล้วมองตามด้วยความอยากรู้ กระทั่งลิฟต์เปิดออกจึงได้รู้ว่าใครเป็นอะไร
“พวกเอ็งทำอะไรกันฮะเจ้าเมธ”
“น้องดินให้ผมยืมร่างครับลุง”
“ไอ้พวกนี้นี่ ชอบฝืนธรรมชาติกันซะจริง”
เมธัสไม่ได้สนใจเสียงบ่นของท่านเจ้าที่แล้วทำท่าจะตามขึ้นไปบนรถพยาบาลเพราะเป็นห่วงปฐพี ทว่าก้าวขาได้เพียงแค่ก้าวเดียวเขาก็ถูกดึงแขนไว้ก่อน
“เอ็งไปด้วยไม่ได้หรอกเมธ เด็กนั่นมันไม่มีสติสัมปชัญญะ มันขอทางให้เอ็งผ่านเหมือนทุกทีไม่ได้”
“แต่ผมเป็นห่วงน้อง”
“เป็นห่วงก็ทำได้แค่รอมันอยู่ตรงนี้ ยังไงเอ็งก็ออกไปไม่ได้อยู่ดีเพราะไม่มีใครอัญเชิญ”
วิญญาณตัวขาวได้แต่เม้มปากแน่นแล้วมองตามท้ายรถฉุกเฉินที่วิ่งห่างออกไปด้วยความเป็นห่วง ไม่นานนักซูเปอร์คาร์สุดหรูแสนคุ้นเคยก็ตามออกไปอีกคัน
มีภูริตามไปด้วยคงช่วยอะไรได้มากกว่าเขาที่เป็นวิญญาณ ระหว่างนี้เขาคงทำได้แค่ภาวนาให้น้องปลอดภัยเท่านั้น
อย่าเป็นอะไรไปเลยนะน้องดิน...
#ที่สุดในปฐพี
เอาจนได้ไหมละน้องดินนนนน
ผู้ปกครองคนไหนเป็นคนส่งรถพยาบาลมาคะ พี่พร้อมหรือพี่พยัคฆ์ หนูจะไปกราบตักงาม ๆ สักที ฮืออออออ
อย่าเป็นอะไรนะลูก
- ZANIA -