ธนิดาถูกจับไปเป็นตัวประกันระหว่างรอชดใช้หนี้ให้มาเฟียอย่างนาวิน ความใกล้ชิดค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความรัก ทว่าท่ามกลางอันตรายและความลับที่ปิดซ่อนไว้ ทั้งสองจะเอาชนะโชคชะตาและความเสี่ยงของโลกมาเฟียได้หรือไม่
รัก,ดราม่า,แอคชั่น,ยุคปัจจุบัน,เลือดสาด,ดราม่า,มาเฟีย,นางเอกเก่ง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
สัญญาใจใต้รัตติกาลธนิดาถูกจับไปเป็นตัวประกันระหว่างรอชดใช้หนี้ให้มาเฟียอย่างนาวิน ความใกล้ชิดค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความรัก ทว่าท่ามกลางอันตรายและความลับที่ปิดซ่อนไว้ ทั้งสองจะเอาชนะโชคชะตาและความเสี่ยงของโลกมาเฟียได้หรือไม่
นาวิน หัวหน้าแก๊งมาเฟียเงาจันทรา ดึง ธนิดา หญิงสาวธรรมดา เข้ามาในโลกอันตรายของเขาด้วยข้ออ้างหนี้ 50 ล้านของพ่อเธอ แต่เมื่อการทรยศของ ภูมิ ลูกน้องคนสนิท และการโจมตีจากแก๊งเสือดาวรุนแรงขึ้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่กลับลึกซึ้งเกินคาด ธนิดาค้นพบความลับของพ่อเธอ ขณะที่นาวินเผยความเปราะบางและความปรารถนาที่จะปกป้องเธอ
ทั้งสองต้องเผชิญสงครามเลือดกับเสือดาว ฝ่าฟันการต่อสู้สุดดุเดือด และการสูญเสียที่เจ็บปวด ธนิดากลายเป็นนักสู้เคียงข้างนาวิน
เรื่องราวของนาวินและธนิดาคือการเดินทางของความรักที่เกิดท่ามกลางความโหดร้าย การต่อสู้เพื่ออิสรภาพ และคำสัญญาที่แข็งแกร่งกว่าความตาย
แสงไฟจากโคมไฟตั้งโต๊ะสีเหลืองนวลส่องสว่างห้องพักในโรงแรมลับที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยแคบๆ ของเมือง บรรยากาศในห้องนี้เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ตัดกับความโหดร้ายของโลกภายนอก ผนังสีครีมที่เริ่มลอกบางจุดและม่านสีน้ำตาลเก่าที่ปิดหน้าต่างบานเดียวทำให้ห้องนี้ดูเหมือนที่หลบภัยชั่วคราวมากกว่าบ้าน กลิ่นยาและผ้าพันแผลลอยอยู่ในอากาศ ผสมกับกลิ่นฝุ่นจากพรมเก่าที่วางอยู่ใต้เตียงเดี่ยวขนาดเล็ก โต๊ะไม้ตัวเก่าที่มีรอยขีดข่วนวางอยู่มุมห้อง ข้างๆ กันมีเก้าอี้สองตัวที่ดูไม่เข้ากัน
นาวินนั่งอยู่บนเตียง ร่างของเขายังอ่อนแรงจากบาดแผลที่ได้รับจากการต่อสู้ในโกดังเมื่อคืน แขนขวาของเขาถูกพันผ้าพันแผลแน่น ขาข้างซ้ายที่ถูกยิงมีผ้าก๊อซพันทับ และใบหน้าของเขาซีดจากความเจ็บปวดและการเสียเลือด เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีเทาที่ลูกน้องคนหนึ่งของเขานำมาให้หลังจากที่หมอประจำตระกูลจัดการบาดแผลของเขาให้เรียบร้อยแล้ว ดวงตาคู่คมของเขามองไปที่กล่องเหล็กเล็กๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะ มันเป็นกล่องที่เขาเก็บเอกสารสำคัญเอาไว้
ธนิดานั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียง เธอสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีเทาที่เปื้อนเปรอะไปด้วยคราบฝุ่นและเลือดแห้งจากเมื่อคืน แต่ตอนนี้เธอไม่สนใจมัน เธอมองไปที่นาวินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกังวลและความผูกพัน มือของเธอวางนิ่งบนตัก แต่ใจของเธอยังคงเต้นรัวจากภาพเหตุการณ์ที่โกดัง ภาพที่เธอยิงภูมิตาย และภาพที่นาวินล้มลงในอ้อมแขนของเธอ เธอรู้สึกถึงความเหนื่อยล้าที่ครอบงำร่างกาย แต่ความมุ่งมั่นในใจของเธอยังไม่จางหาย
ทั้งคู่รอดมาจากโกดังได้ด้วยความช่วยเหลือจากลูกน้องที่ยังภักดีเพียงไม่กี่คนที่ตามมาช่วยหลังจากธนิดาพยุงนาวินออกจากที่นั่น พวกเขาพานาวินมาที่โรงแรมลับแห่งนี้เพื่อให้หมอที่เขาไว้ใจรักษาเขา และตอนนี้ เมื่อความตายถูกผลักออกไปชั่วครู่ ทั้งคู่จึงมีเวลาคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและอนาคตที่รออยู่ข้างหน้า
“คุณรู้สึกยังไงบ้าง” ธนิดาถามเบาๆ เธอขยับเก้าอี้เข้าไปใกล้เตียงเล็กน้อย
นาวินหันมามองเธอ เขายิ้มบางๆ แม้ว่าจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “ดีขึ้นแล้ว ขอบคุณเธอที่พาฉันมาถึงที่นี่”
“ฉันบอกแล้วว่าฉันจะไม่ทิ้งคุณ” เธอพูดแล้วยื่นมือไปแตะที่มือของเขาที่วางอยู่บนเตียงเบาๆ “เราสัญญากันแล้ว”
นาวินมองไปที่มือของเธอที่สัมผัสเขา และความอบอุ่นจากสัมผัสนั้นทำให้เขารู้สึกถึงบางอย่างที่เขาไม่เคยรู้สึกมานาน นั่นก็คือความหวัง เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “ฉัน... มีอะไรต้องบอกเธอ”
ธนิดาขมวดคิ้ว เธอรู้สึกถึงความจริงจังในคำพูดของเขา “อะไรเหรอ” เธอถาม “เกี่ยวกับแก๊งเสือดาวหรือเปล่า”
“ไม่” เขาตอบแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงด้วยความยากลำบาก แล้วเดินไปที่โต๊ะไม้ เขาเปิดกล่องเหล็กนั้นด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย ก่อนจะหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมา มันเป็นสัญญาหนี้ที่เขาเคยบอกเธอว่าพ่อของเธอติดค้างเขา 50 ล้านบาท
“นี่คืออะไร” ธนิดาถาม เธอลุกขึ้นและเดินไปยืนข้างเขา
“สัญญาหนี้ของพ่อเธอ” เขาตอบแล้วหันมามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “แต่ตอนนี้ มันไม่มีความหมายแล้ว”
ก่อนที่ธนิดาจะได้พูดอะไร เขาหยิบไฟแช็กจากกระเป๋าเสื้อและจุดไฟที่มุมของกระดาษ แสงไฟสีส้มลุกไหม้ขึ้นช้าๆ และเผาสัญญานั้นจนกลายเป็นเถ้าถ่านในมือของเขา ธนิดามองด้วยความตกใจ แต่เธอก็ไม่ได้ขัดขวางอะไร
“คุณทำแบบนี้ทำไม”
“เพราะฉันไม่อยากให้มันผูกมัดเธออีกต่อไป” เขาเอ่ยตอบแล้วปล่อยทิ้งเถ้าถ่านไว้บนโต๊ะและหันมามองเธอ “ฉันตัดสินใจแล้ว ธนิดา ฉันจะเลิกเป็นมาเฟีย”
คำพูดของเขาทำให้ธนิดาชะงัก เธอมองเข้าไปในดวงตาของเขาและเห็นความจริงใจที่ซ่อนอยู่ “เลิก?” เธอถาม “คุณหมายถึงอะไร”
“ฉันเบื่อแล้ว” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน “เบื่อกับเลือด เบื่อกับการฆ่า และเบื่อกับการสูญเสียทุกอย่างที่ฉันรัก” เขาหยุดพูดชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “ฉันทำทั้งหมดนี้เพื่อน้องชายของฉัน แต่ตอนนี้ เขาปลอดภัยแล้ว และฉันมีเธอ... ฉันอยากเริ่มต้นใหม่ เพื่อเธอ”
ธนิดารู้สึกถึงน้ำตาที่เอ่อขึ้นมาในดวงตา เธอไม่เคยคิดว่านาวินชายที่เคยเย็นชาและโหดร้าย จะพูดอะไรแบบนี้ออกมา เธอยิ้มบางๆ และส่ายหน้า “คุณไม่ต้องทำเพื่อฉัน ฉันไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ฉันอยากอยู่กับคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นยังไง”
นาวินมองเธอด้วยความประหลาดใจ “เธอแน่ใจเหรอ” เขาถาม “โลกมาเฟียมันโหดร้ายนะ เธอเห็นแล้วนี่ว่ามันทำอะไรกับเราบ้าง”
“ฉันรู้ และฉันยอมรับมันได้ เพราะฉันรักคุณ”
คำพูดของเธอทำให้นาวินเงียบไป เขามองเธอนานกว่าปกติ และในดวงตาของเขา เธอเห็นความรู้สึกที่ลึกซึ้ง ความรักที่เขาไม่เคยกล้าพูดออกมา เขายื่นมือออกไปจับมือของเธอแน่น “ฉันก็รักเธอเหมือนกัน และเพราะแบบนั้น ฉันเลยอยากให้เรามีชีวิตที่ดีกว่านี้”
ธนิดาพยักหน้ารับ เธอบีบมือของเขาเบาๆ และพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง “แต่ก่อนที่เราจะเริ่มต้นใหม่ เราต้องจัดการกับพวกเสือดาวให้จบ ไม่งั้นพวกมันจะตามล่าเราตลอดไป”
นาวินยิ้มมุมปาก รอยยิ้มเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “เธอพูดถูก เราจะเผชิญหน้ากับพวกมันครั้งสุดท้าย และหลังจากนั้น เราจะทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง”
ทั้งคู่เงียบไปชั่วขณะ มีเพียงเสียงหวีดหวิวของลมจากด้านนอกที่พัดผ่านหน้าต่างเท่านั้นที่ดังขึ้น ธนิดารู้สึกถึงความสัมพันธ์ของเธอกับนาวินที่มาถึงจุดสูงสุด จุดที่ทั้งคู่ยอมรับกันและกันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นอดีตที่เจ็บปวดหรืออนาคตที่ไม่แน่นอน เธอรู้ว่าเธอพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน ตราบใดที่เธอยังมีเขาอยู่ข้างๆ
“แล้วเราต้องทำยังไง” เธอถามในที่สุด
นาวินลุกขึ้นจากเตียงด้วยความยากลำบาก เขาเดินไปหยิบปืนกลจากกระเป๋าที่วางอยู่มุมห้อง และหันมามองเธอ “ฉันยังมีลูกน้องที่ภักดีอยู่บ้าง เราจะวางแผนโจมตีเสือดาวที่ฐานของพวกมัน ครั้งนี้ เราจะจบทุกอย่าง”
ธนิดาพยักหน้ารับ เธอเดินไปหยิบปืนพกของเธอที่วางอยู่บนโต๊ะ และยืนเคียงข้างเขา “ฉันพร้อมละ เราจะสู้ไปด้วยกัน”
นาวินมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคารพและความรัก เขายื่นมือออกไปโอบกอดเธอ และทั้งคู่ยืนอยู่อย่างนั้นนาน ความอบอุ่นจากร่างของกันและกันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ทั้งคู่รู้สึกปลอดภัยในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนนี้
“ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง” เขาพูดเบาๆ “ฉันจะปกป้องเธอ”
“และฉันก็จะปกป้องคุณ” เธอตอบ
ทั้งคู่ปล่อยจากอ้อมกอดและหันมองออกไปที่หน้าต่าง แสงจันทร์สาดส่องลงมาผ่านม่านเก่าๆ และทั้งคู่รู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนของชะตากรรมของพวกเขา ไม่ว่าจะจบลงด้วยชัยชนะหรือความตาย พวกเขาจะเผชิญหน้ามันด้วยกัน