“เลล่าสาวยน้อยร่างบางที่ตกอยู่สถาการณ์ที่น่าลำบากใจ เเม้ชายหนุ่มตรงหน้าจะมีถึงสอง ทว่าสัมผัสได้เพียงคนเดียว”
ดราม่า,รัก,แฟนตาซี,ผู้ใหญ่,ชาย-หญิง,บ้าน,กาแฟ,Nc,นิยาย18+,โรมานซ์,ผี,ผีในห้อง,รักข้างเดียว,รักไม่สมหวัง,รักโรแมนติก,รักสามเศร้า,นักธุรกิจ,เเฝด,วิญญาณ,แฟนตาซี,รักวัยรุ่น,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
*
*
*
*
ท่ามกลางสายฝนที่ซู่ซ่าราวกับเพลงบรรเลงแห่งธรรมชาติ บรรยากาศเย็นชื้นกลับร้อนระอุด้วยเสียงครวญครางอันเร่าร้อนของหญิงสาวราวกับบทเพลงแห่งราคะ
"อ๊าๆ อืมม อาร์เดน" เธอขมิบเกร็งสู้แรงปรารถนาของชายหนุ่มตรงหน้า ร่างกายสั่นระริก
"ฉันขอชิมเธอมากกว่านี้ได้ไหม" เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ซาบซ่าน ก้มลงประทับริมฝีปากลงบนทรวงอกนุ่มนวลของเธอราวกับผีเสื้อโบยบินบนกลีบกุหลาบสองมือโอบกอดเอวร่างบางไว้เเน่น
"อื้ออ อ๊า อาร์เดน ฉัน...ไม่ไหวแล้ว" เลล่าพูดด้วยน้ำเสียงกระเส่า
“พูดให้ดังขึ้นอีกได้ไหม” เขาเร้าร้อนขึ้น กระโจนเข้าสู่ห้วงรักอันล้ำลึกของเธอ
"เรียกชื่อฉันอีกสิ เลล่า" เอื้อก เธอสะดุ้งตื่นเพราะเสียงฟ้าร้องที่ดังโคลมคล้ายเสียงกลองรบ
.
.
"ฉันฝันบ้าอะไรอีกแล้วเนี่ย" สาวน้อยร่างบางก้มมองนาฬิกา “ให้ตายสิตื่นสายอีกแล้ว”
ในยามรุ่งอรุณที่แสนวุ่นวายของเมืองใหญ่ เป็นวันที่ฉันต้องไปส่งเเม่ที่สนามบิน
เเต่เเล้วเสียงคุ้นเคยของมารดาก้องกังวานผ่านประตูห้อง
"เลล่า ตื่นรึยังลูกสายกว่านี้เเม่ตกเที่ยวบินพอดี”
เลล่ารีบพลิกกายลุกจากที่นอน จัดผ้าปูที่นอนให้เรียบร้อย ก่อนจะพุ่งตัวไปยังห้องน้ำ เธอเปิดฝักบัวให้น้ำอุ่นไหลรินลงมาบนร่างกายอย่างช้าๆ จากอกสู่หน้าท้อง แล้วค่อยๆ ไหลลงไปรวมสู่ห้วงลึกของเธอ
"อื้อ... รู้สึกดีจัง” เธอพึมพำพรางอดคิดถึงเรื่องในฝันไม่ได้ ชายหนุ่มนุ่มนวลในฝันของเธอ เขาคือใครกันนะ ทำไมฉันถึงจำชื่อเขาไม่ได้
"ให้ตายสิ คิดยังไงก็คิดไม่ออก ฉันอาจจะบ้าไปแล้วก็ได้" เธอเผลอพูดออกมา
"อะไรนะเลล่า พูดกับแม่รึเปล่า" เสียงของมารดาถามผ่านประตู
"เปล่าค่ะแม่" เธอตอบปัดไป เธอไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องความฝันนี้เด็ดขาด
สายน้ำอุ่นยังคงไหลรินลงมาบนร่างกายของเลล่า แต่ความคิดของเธอกลับไหลย้อนกลับไปยังห้วงฝัน ชายหนุ่มในฝันของเธอ... เขาเป็นใครกันนะ……….
******
ณ สนามบินอันกว้างใหญ่ เสียงประกาศดังแว่วมาเป็นระยะ ท่ามกลางผู้คนมากมายที่เดินทางมาและจากไป
เลล่าโอบกอดหญิงผู้เป็นที่รักของเธอ น้ำตาที่ไม่อาจกลั้นได้หลังไหลออกมาอย่างไม่อาย
"หนูรักแม่นะ" เธอเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ
"เลล่า แม่รักลูกนะ" มารดากอดเธอตอบด้วยความรักและความห่วงใย
สองเเม่ลูกนั่งรอรอบบินอย่างเงียบๆ แม้ว่ามารดาของเลล่าจะคอยกลับมาหาเธอเป็นครั้งคราว แต่ก็คงไม่ได้บ่อยนัก ถึงแม้ว่าจะสามารถติดต่อกันได้ทุกวัน แต่เลล่าก็ยังชอบการที่มีแม่คอยอยู่เคียงข้าง
"เลล่า ลูกจะไม่ไปต่างประเทศกับแม่จริงๆ หรอ เปลี่ยนใจเมื่อไหร่บอกแม่ได้นะ" มารดาถามขึ้นอีกครั้ง
เลล่าครุ่นคิดสักพัก เธอตัดสินใจไว้แล้วว่าจะอยู่ที่นี่ เพราะความฝันของเธอคือการเปิดร้านกาแฟ
"หนูตัดสินใจแล้ว ไว้แม่แวะมาหาหนูบ้างนะ" เธอส่งยิ้มบอกลาแม่
เธอได้เจอกับพ่อเลี้ยงที่มารอรับเเม่ เลล่ากล่าวทักทายพ่อเลี้ยงของเธอนิดหน่อย
ก่อนท่านทั้งคู่เดินห่างเธอไปอย่างช้าๆ จนรู้ตัวอีกที เครื่องบินก็ออกตัวแล้ว
"เห้อ ต้องอยู่คนเดียวจริงๆ แล้วสินะ" แม้ว่าจะเหงาเพียงใด ความฝันต้องมาก่อน
"สู้เขาสิเลล่า เธอทำได้" เธอให้กำลังใจตัวเอง
ก่อนอื่น เธอโทรหาคุณลุงเจ้าของบ้านที่เธอตื้อเขามาตลอดหลายอาทิตย์ เเต่คุณลุงยังคงเมินเฉย เเต่รอบนี้ต้องสำเร็จเเน่ ซื้อของติดไม้ติดมือไปด้วยดีกว่า…
ช่วงเวลานี้ฉันต้องเดินทางกลับจากสนามบินด้วยรถยนต์คันโปรด ฉันเหลือบสายตามองดูเวลาหน้ารถ
“ตอนนี้ 15:45 เเล้วหรอเนี่ย”
ในขณะนั้นที่กำลังขับรถกาลเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ฉันพรางมองโทรศัพท์เป็นระยะๆ ว่าคุณลุงเจ้าของบ้านที่ฉันปรารถนาไว้รับสายที่ฉันโทรไปรึยัง เเม้ว่าเส้นทางที่ฉันมุ่งหน้าไปจะใกล้ถึงเต็มทียังไม่มีวี่เเววที่คุณลุงจะรับสายฉันเลย
“ไม่ว่างรึเปล่านะ”ฉันมุ่งหน้าตามเส้นทางอย่างมุ่งมั่นคล้ายกับนักเเขงวิ่งเข้าเส้นชัยจนถึงจุดหมาย
ฉันเลี้ยวรถลงจอดอย่างชำนาญ ชำเลืองมองบ้านหลังใหญ่ ที่รอบล้มไปด้วยสวนดอกไม้ทุ่งหญ้าที่เขียวขจีดูร่มรื่นต่างกับความวุ่นวายในเมืองใหญ่
“ที่นี่เเหละเหมาะที่จะเป็นร้านกาแฟของฉัน”
ฉันยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ
“เลล่า~”
เสียงกระซิบข้างหูเป็นเสียงที่คุ้นเคย
“ใครกันนะ เสียงใครนะ”
ฉันคิดสับสนเสียงกระซิบนั้นช่างคุ้นหูเป็นเนื้อเสียงที่นุ่มนวลต่างกับในฝันไปเล็กน้อย โทนเสียงที่คล้ายกันเเต่ฉันกับรู้สึกกำกวม‘คล้ายกับคนในฝันจริงรึเปล่านะ หรือไม่ใช่‘
“นี่ฉันบ้าไปแล้วจริงๆ”
“สวัสดีครับคุณเลล่า” เสียงคุณลุงทำเอาฉันหลุดออกจากภวังค์
“สวัสดีค่ะ คุณลุง” ฉันก้มหน้าลงเล็กน้อยเป็นการเเสดงถึงความนอบน้อม
พร้อมกับยื่นขนมที่ฉันซื้อมาติดมือมา คุณลุงเองก็รับสินน้ำใจจากฉัน จู่ๆเเววตาของคุณลุงดูครุ่นคิดราวกับอยู่คนละโลกกับฉัน
“คุณลุงคะ เป็นอะไรรึเปล่า” ฉันเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“งั้นคุณเลล่าอยากเข้าไปดูข้างในก่อนไหมครับ”
ดวงตาของฉันเบิกโพลงด้วยความตื้นตันใจราวกับว่าฉันกำลังอยู่ในความฝัน ฉันอ้อนวอนคุณลุงมาตลอดสัปดาห์นี้ ฉันทนกับความตื่นเต้นนี้ไม่ไหวแล้ว นัยน์ตาของฉันจ้องตรงไปที่ประตูบ้านพร้อมพยักหน้าเบาๆ
คุณลุงเดินนำหน้าฉันเหมือนไกด์นำทาง พร้อมอธิบายห้องต่างๆ เสียงของคุณลุงค่อยๆ เบาลงเสมือนว่าฉันกำลังจมดิ่งลงไปในโลกแห่งความฝัน สิ่งรอบข้างของฉันค่อยๆ เบาบางลงอย่างกับว่ามีโหมดหน้าชัดหลังเบลอ
สายตาของฉันจับจ้องไปที่บันไดรูปทรงโค้งที่งดงามเหมือนงานศิลปะ ทุกอย่างได้รับการออกแบบมาอย่างสมบูรณ์แบบ ตรงด้านซ้ายมือมีเก้าอี้หนังสีขาวสไตล์ยุโรปตั้งอยู่ข้างหน้าต่างบานใหญ่ที่มองออกไปเห็นต้นไม้ใหญ่และริมแม่น้ำที่อยู่สุดปลายสายตา แสงตะวันใกล้พลบค่ำส่องลงกระทบกับกระจกบานใหญ่ บรรยากาศในบ้านอบอวลไปด้วยความสุขที่ไม่อาจบรรยายได้
ฉันก้าวขึ้นบันไดสีขาวอย่างช้าๆ ลวดลายบันไดที่ปราณีตประดุจฉันเป็นเจ้าหญิง กระทั่งปลายเท้าของฉันแตะถึงชั้นสองของบ้าน ทางเดินที่กว้างใหญ่สะอาดตาที่ตกแต่งด้วยสีขาวสไตล์บ้านยุโรปสลับกับสีเขียวของธรรมชาติ หน้าต่างที่มีอยู่ทุกหนแห่งทำให้ฉันรู้สึกปลอดโปร่งเปรียบดั่งว่าฉันกำลังล่องลอยอยู่บนปุยเมฆ
“ชั้นสองจะมีห้องน้ำเเยก เเละสองห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว” คุณลุงกล่าว
ฉันเดินตามคุณลุงอีกครั้ง ห้องเเรกของชั้นสองเป็นห้องนอนใหญ่ ‘ฉันคิดว่าสวยมากเเต่มันใหญ่ไปสำหรับการนอนคนเดียว สงสัยต้องหาเเฟนเเล้วล่ะถึงจะเหมาะอิอิ’ ฉันคิดในใจ ส่วนอีกห้องเป็นห้องนอนขนาดกำลังดี มีหน้าต่างบานใหญ่ ที่มองออกไปเห็นทุ่งหญ้าเขียวขจีกับเเม่น้ำไหลผ่าน
“ห้องนี้สวยจริงๆเลยนะคะคุณลุง” ฉันเเสดงความคิดเห็น
“ห้องนี้เคยเป็นห้องของคุณหนูน่ะครับ” คุณลุงเปรย
“ห้องของคุณหนูหรอคะ” ฉันเอ่ยถามด้วยความสงสัย
คุณลุงเเค่พยักหน้าเเละถามฉันว่ายังสนใจบ้านหลังนี้อยู่รึเปล่า เเน่นอนฉันสนใจเเม้ว่าบ้านอาจะมีต้องซ่อมเเซ่มอยู่บ้าง เเต่โดยรวมฉันไม่ผิดหวังเลยล่ะ
“ทำไมคุณลุงถึงไม่ยอมขายให้ฉันตั้งเเต่ทีเเรกล่ะคะ”
“คนที่ตัดสินใจเป็นเจ้าบ้านครับ ลุงเเค่มีหน้าที่มาทำความสะอาดบ้าน ตัดหญ้า ดูเเลเป็นครั้งคราว ลุงก็ไม่รู้อะไรมาก อยู่ๆคุณหนูก็อนุมัติครับ ปกติบ้านนี้คุณหนูค่อนข้างหวงมากเลยครับ ลุงดูเเลมาตลอดสิบปี”
“คุณลุงเสนอขายเท่าไหร่คะ” ฉันคิดในใจว่าอาจจะต้องราคาสูงเนื่องจากบ้านที่สวยเเละใหญ่ขนาดนี้ เแพงแค่ไหนฉันจะสู้
“คุณหนูยังไม่ได้เสนอราคาเต็มจำนวนมาเลยครับ เเต่คุณหนูอนุญาตให้คุณเลล่าเข้ามาอยู่ก่อนได้”
ฉันขมวดคิ้วเล็กน้อย “มีแบบนี้ด้วยหรอเนี่ย” ฉันพึมพำพรางคิดในใจเจอนักต้มตุ๋นเเล้วรึเปล่าเนี่ย อยู่ๆจะขายก็ขาย เเถมให้เข้ามาอยู่บ้านเเบบยังไม่คิดเรื่องราคาอีก ฉันไม่ได้กินปลาน้อยนะ ชิ!
“ถ้าไม่มีสัญญาชัดเจนเเบบนี้ ส่วนเจ้าของบ้านก็ยังไม่เคยเจออีก จะให้มั่นใจได้ไงคะ ว่าคุณลุงไม่ได้หลอ-!@_@“
“นี่ครับ สำเนาโฉนดที่ดินและสัญญาการซื้อขายที่ดิน คุณเลล่าจ่ายค่ามัดจำตามจำนวนที่ระบุไว้ได้เลยครับ”
เเล้วทำไมไม่บอกตั้งเเต่เเรกT-T ฉันเผลอพูดไม่เข้าท่าอีกเเล้ว ฉันก้มหน้าอ่านสัญญาอย่างตั้งใจสัญญาปกติดี เเต่ทำไมข้อท้ายๆมัน…
******
กฎ 3 เดือนก่อนทำการซื้อขายบ้าน
1. เจ้าของบ้านมีสิทธิ์เข้าออกบ้านได้ตามอำเภอใจ กี่โมง เวลาไหนก็ได้
2.จำไว้ให้ขึ้นใจว่าตอนนี้ผู้ซื้อตกเป็นผู้เช่าอย่างเลี่ยงไม่ได้
3.ต้องเคารพเจ้าของบ้านไม่มียกเว้น
4.หากต้องการต่อเติมต้องขออนุญาตจากเจ้าบ้านเท่านั้น
5.เจ้าของบ้านต้องการสำรวจผู้ซื้อว่ามีคุณสมบัติมากพอในการซื้อขายหรือไม่
*หากไม่อนุมัติ สัญญาการซื้อขายเป็นอันจบ*
นี่มันสัญญาบ้าบออะไรเนี่ย!! ล้อเล่นรึเปล่า อยากเห็นหน้าเจ้าของชะมัด ทำเรื่องซื้อขายบ้านอย่างกับว่าขายของเด็กเล่นรึไงกัน แต่อีกใจหนึ่งฉันว่าที่นี่เหมาะเลยที่จะสานฝันฉัน ลาออกจากงานมาเเล้วด้วย ทำไงดี ฉันคิดน้อยไป….แต่ยังไงซ่ะฉันจะต้องสู้ เจอคนเเบบนี้มันต้องสู้เท่านั้น!! ฉันนั่งครุ่นคิดไตร่ตรองไปมา
เขาแกล้งฉันรึเปล่านะ?
เเล้วถ้าฉันมาอยู่ที่นี่ เเล้วเขาเข้ามาล่ะ?
ฉันจะปลอดภัยไหม?
หน้าก็ไม่เคยเห็น?
“ในสัญญา หนูรู้สึกไม่ค่อยดีเลยค่ะ หนูจะปลอดภัยไหมคะ”
“หากคุณเลล่าเซ็นสัญญา จะมีเเม่บ้านมาอยู่ที่นี่หนึ่งคนครับ จนกว่าจะหมดสัญญาเลย เเต่หากคุณหนูพึงพอใจ อาจจะอนุมัติขายบ้านได้ไวขึ้นครับ”
“ถ้างั้นตกลงค่ะ”
ฉันเซ็นสัญญาลงใบอย่างไม่เต็มใจนัก พร้อมระบุประวัติส่วนตัวของฉันนิดหน่อยอย่างเช่น เบอร์โทรศัพท์ เเละที่อยู่ปัจจุบันฉัน
ฉันยื่นค่ามัดจำให้คุณลุงเป็นเงินเก็บก้อนใหญ่แต่ เอาล่ะเงินยังเหลือ เเค่นี้สบายมาก สบายก็บ้าเเล้ว ฮื้ออ~~~T-T เงินเก็บฉัน
“ขอบคุณครับ ย้ายของเข้ามาอยู่ได้เลยครับ เเต่เเม่บ้านมาพรุ่งนี้เช้านะครับ”
“ขอบคุณเช่นกันค่ะคุณลุง เดินทางปลอดภัยนะคะ”
คุณลุงเดินออกจากบ้านไปพร้อมยื่นกุญแจบ้านให้ฉัน ฉันยืนลาพร้อมน้อมตัวลงเคารพอย่างสุภาพ ภาพคุณลุงเลือนลางค่อยๆห่างสายตาของฉันไป ก่อนจะมาเหลือบมองมาที่ตัวเอง
เหลือตัวฉันคนเดียวอีกเเล้วสินะ ฉันมองดูนาฬิกาอีกครั้ง 17:52
“เวลาเดินไวขนาดนี้ตั้งเเต่เมื่อไหร่กัน” ฉันเดินกลับเข้าบ้าน พร้อมกันเเนบตัวลงบนเก้าอี้สีขาวข้างบันได
‘ฉันอยากนอนที่นี่จัง~~ กลางคืนจะสวยเเค่ไหนกันนะ’ ฉันมองเห็นเเต่ความสวยงามของบ้านจนลืมสัญญาที่ทำเอาหนักใจอยู่ไม่น้อย ฉันหยิบกุญเเจรถพร้อมออกตัวมุ่งหน้ากลับไปเอาของที่ต้องใช้นิดหน่อย เปิดเพลงที่ชอบ มองดูพระอาทิตย์ที่กำลังใกล้ลับฟ้าผ่านกระจกรถ คืนนี้ฝนจะตกหรือเปล่านะ
รถที่เเล่นอยู่บนถนน ต่างพากันรีบเร่งเเต่ฉันกลับรู้สึกอยากทำอะไรให้ช้าลง
รถเเล่นขึ้นเนินสะพานเห็นเเม่น้ำที่กว้างใหญ่ เริ่มมีเเสงไฟระยิบระยับ
ตื้ด……..ตื้ด……เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“สวัสดีค่ะ เลล่าพูดค่ะ”
“สวัสดีครับ ผมเห็นคุณเซ็นสัญญามาคงอ่านกฎครบทุกข้อใช่ไหมครับ”
“ตอนนี้ฉันขับรถอยู่ค่ะ ถ้าคุณอยากคุยเรื่องนี้ ช่วยโทรมาวันอื่นนะคะ”
ฉันกดวางสาย….
ฉันเหนื่อยจริงๆ คิดถึงเเม่จังพรุ่งนี้คงถึงเเล้วสินะ ฉันก็อยากไปอยู่หรอกต่างประเทศเเต่ฉันขอใช้ชีวิตที่นี่ให้เบื่อก่อนเเล้วกัน ฉันเลิกคิดเเละมุ่งหน้ากลับไปเอาของที่จำเป็นก่อนกลับมานอนที่บ้านเช่า ‘อยากพักผ่อนให้เต็มอิ่มเลย’
ณ บ้าน(ในฐานะผู้เช่า)
“โอเคร เอามาครบเเล้ว” ฉันมองสำรวจให้มั่นใจว่าเตรียมของมาครบ “ห้องนี้สวยมากจริงๆ” ฉันมองออกไปทีหน้าต่าง
อาบน้ำดีกว่า ฉันลุกขึ้นเตรียมตัวอาบน้ำ ‘น้ำไหลปกติไหมนะ’ ฉันคิดระหว่างที่กำลังเดินไปที่ห้องน้ำ
“เอ๊ะ ฉันเอาผ้าเช็ดตัวมาด้วยนี่นาหายไปไหนเเล้ว” ฉันเดินลงไปที่ชั้นล่าง หางตาฉันเหลือบไปเห็น ชายหนุ่มร่างใหญ่
“คุณลุงหรอคะ”
สิ้นสุดเสียงฉันกลับมีเเต่ความเงียบ ‘ฉันคิดมากไปรึเปล่านะ’ ฉันพยายามคิดในเเง่บวกว่าอาจจะตาฝาดไปเอง “นี่ไงผ้าขนหนู ล่วงตอนขึ้นบันไดนี่เอง” ฉันเดินหยิบผ้าขนหนูที่ตก ก่อนกลับขึ้นห้องไป อาบน้ำเปิดเพลงอย่างผ่อนคลาย
“เลล่า~”
ฉันหันขวับ พร้อมกับหยุดเพลงทันที ‘ใช่เสียงคนเรียกไหมนะ มีคนเรียกฉัน’ ฉันรีบอาบน้ำเเล้วออกมาสอดส่อง ในมือฉันกำลังกำมือถือเเน่นสุดชีวิต
“คุณลุง คุณแม่บ้าน”
ใครกันที่เอ่ยเรียกชื่อของฉัน ฉันหวาดกลัวราวกับว่าเป็นโจรหรือคนวิกลจริต ฉันพยายามย่องเบาที่สุดเพื่อสำรวจภายในบ้าน 'หากพวกเขาไม่ออกมา ฉันคงต้องร้องไห้แน่ๆ' ทันใดนั้น เสียงลมก็พัดกระโชกดัง ฟิ้ว~ ฟิ้ว~ กระทบกับหน้าต่าง บรรยากาศตึงเครียด หัวใจของฉันเต้นระรัว ขนลุกไปทั่วทั้งร่าง การมองเห็นของฉันเริ่มพร่ามัว น้ำตาเอ่อล้นในดวงตา 'ในบ้านไม่มีใคร' ฉันพยายามตั้งสติ กำลังจะหันหลังกลับขึ้นไปชั้นสอง
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด!!!"
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ อกผาย ไหล่กว้าง คิ้วหนาดำ ดวงตาสีฟ้ากลมโต ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพู จมูกโด่งเป็นสัน ใบหน้าหล่อเหลาประดุจภาพวาด มาปรากฏตัวอยู่ข้างหลังฉันอย่างฉับพลัน
"ฉันขอโทษที่ทำให้ตกใจ"น้ำเสียงของเขาแผ่วเบา
".................." ฉันช็อกจนตัวแข็งราวกับหินใหญ่ที่นิ่งสงบไม่ไหวติง
"ฉันไม่รู้ว่าเธอสามารถมองเห็นฉันได้"ร่างสูงย่อตัวลงเล้วมองมาที่ใบหน้าน้อยๆของเลล่าใกล้ขึ้นทีละนิด
"คุณเป็นใคร ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นบ้านเช่า คุณก็ต้องออกไป"
ฉันพูดพร้อมกับคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรหา 191 เพื่อขอความช่วยเหลือ
"ฉัน...ฉันไม่มีที่ไปแล้ว ได้โปรดอย่าไล่ฉันไปเลย" น้ำเสียงของชายหนุ่มสั่นเครือ ต่างจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูแข็งแกร่ง
ฉันพยายามตั้งสติ 'เลล่า ใจเย็นๆ เข้าไว้' ฉันหายใจเข้าลึกๆ ชายหนุ่มรูปงามเริ่มเข้ามาใกล้ฉันทีละก้าว
"อย่าเข้ามานะ"
เขาโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้นเรื่อยๆ 'ใกล้เกินไปแล้ว' ฉันหลับตาปี๋ กำโทรศัพท์มือถือไว้แน่น
"เห็นไหมเลล่า ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ใกล้กันเพียงใด เราก็..."
ฉันลืมตาขึ้น ใบหน้าของฉันและชายหนุ่มซ้อนทับกันอยู่
‘จูบเเรกของฉัน โดนขโมยโดยคนโรคจิตหน้าหล่อ’ นั้นคือความคิดสุดท้ายก่อนที่ภาพจะตัดไป…
*****
“เลล่า” ผมเอ่ยชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล เธอหมดสติไป
‘ทำไงดีล่ะ จะอุ้มเธอก็ไม่ได้’ ผมเเค่อยากทักทายเธอเท่านั้น นี่เป็นครั้งเเรกที่มีคนเห็นผมได้ สัมผัสถึงการมีอยู่ของผม ที่ผ่านมาทุกคนมองข้ามผมมาตลอด ‘รวมถึงคนในครอบครัว’
ผมนั่งเฝ้าเธอไม่ห่างไปไหน สาวน้อยดูต่างจากเมื่อกี้อย่างลิบลับ ใบหน้าเธอดูสดใสราวกับคนกำลังฝันหวาน
“อาร์เดน อาร์เดน”เลล่าละเมอพูด เสียงที่เปล่งออกมาเเผวเบามาก ผมเดาไม่ออกจริงๆว่าเธอพูดว่าอะไรกันเเน่ ใบหน้าเธอค่อยๆเริ่มเเดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ใบหูอมพู มือน้อยๆของเลล่าขยับมาตรงที่หน้าตักผม ถึงแม้จะสัมผัสกันไม่ได้
แต่ความรู้สึกนั้นปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันดัง ‘ตึกตัก’ออกมา
‘เธอฝันอะไรกันนะ หรือว่าจะไข้ขึ้น’ ผมจ้องมองหน้าเธอ ปลายมือเรียวยาวกำลังเอื้อมไปที่ใบหน้าจิ้มลิ้มของเลล่า‘น่ารักจัง’
“เปรี๊ยงงงง!!…”เสียงฟ้าร้องดังขึ้นกระทันหัน เสียงฟ้าร้องที่กระโชกดัง ทำให้ชายหนุ่มหลุดออกจากห่วงภวังค์ ร่างกายผงะออกจากสาวร่างบางอย่างเลี่ยงไม่ได้
‘หืมคืนนี้ฝนตกอีกแล้วสินะ’ ผมพยายามใช้กำลังทั้งหมดที่มีปิดหน้าต่างทุกบาน เเละหาผ้าอุ่นๆมาห่มให้เธอ
’ฝันดีนะเลล่า’
Talk
อ่านเเล้วเป็นอย่างไรบ้าง อย่าลืมมาComment
เเชร์ความคิดเห็นกันน้า