เพราะติดรถคนแปลกหน้าในคืนวันฝนตก ชีวิตที่ยุ่งเหยิงของเธอจึงได้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล

ความรักมาทักทายยามเมื่อฝนโปรยปรายลงมา - ตอนที่ 3 ชีวิตยังต้องไปต่อ โดย อติญา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ยุคปัจจุบัน,นิยายโรมานซ์,นิยายโรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ความรักมาทักทายยามเมื่อฝนโปรยปรายลงมา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ยุคปัจจุบัน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นิยายโรมานซ์,นิยายโรแมนติก

รายละเอียด

ความรักมาทักทายยามเมื่อฝนโปรยปรายลงมา โดย อติญา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เพราะติดรถคนแปลกหน้าในคืนวันฝนตก ชีวิตที่ยุ่งเหยิงของเธอจึงได้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล

ผู้แต่ง

อติญา

เรื่องย่อ

สำหรับผู้หญิงคนหนึ่งการถูกคนรักทรยศหักหลังเป็นเรื่องเลวร้ายเกินกว่าที่หัวใจจะแบกรับความเสียใจเอาไว้ได้แต่ใครมันจะไปรู้ว่าในค่ำคืนที่ปวดร้าวกลับมีหยาดฝนโปรยปรายลงมาชำระล้างบาดแผลบนดวงใจที่บอบช้ำและเป็นการเปิดทางให้เห็นว่าหลังจากฝนตกนั้นยังคงมีสายรุ้งที่แสนงดงามและท้องฟ้าที่สดใสกับรักครั้งใหม่รอคอยเธออยู่เสมอ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้

1. ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์ (4 เหรียญ)

2. ปลดเหรียญอ่านฟรี 1 สัปดาห์

3. หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มตั้งแต่ตอนที่ 6 ไปจนถึงตอนจบค่ะ (8 เหรียญ)

สารบัญ

ความรักมาทักทายยามเมื่อฝนโปรยปรายลงมา-ตอนที่ 1 ความจริงที่มาพร้อมกับสายฝน,ความรักมาทักทายยามเมื่อฝนโปรยปรายลงมา-ตอนที่ 2 ลบเลือนความทรงจำที่เลวร้าย,ความรักมาทักทายยามเมื่อฝนโปรยปรายลงมา-ตอนที่ 3 ชีวิตยังต้องไปต่อ,ความรักมาทักทายยามเมื่อฝนโปรยปรายลงมา-ตอนที่ 4 นอกใจก็คือนอกใจขอไม่รับความเห็นต่าง,ความรักมาทักทายยามเมื่อฝนโปรยปรายลงมา-ตอนที่ 5 อยู่ดีไม่ว่าดีดันไปเตะเจอตอ,ความรักมาทักทายยามเมื่อฝนโปรยปรายลงมา-ตอนที่ 6 หนทางการก้าวหน้าโดยการเอาเต้าไต่,ความรักมาทักทายยามเมื่อฝนโปรยปรายลงมา-ตอนที่ 7 ลำบากนิดหน่อยแต่ก็สบายใจมากๆ,ความรักมาทักทายยามเมื่อฝนโปรยปรายลงมา-ตอนที่ 8 ชีวิตที่เป็นสุข,ความรักมาทักทายยามเมื่อฝนโปรยปรายลงมา-ตอนที่ 9 ความพยายามอยู่ที่ไหนก็พยายามต่อไปเถอะนะ,ความรักมาทักทายยามเมื่อฝนโปรยปรายลงมา-ตอนที่ 10 คนสันดานเสีย,ความรักมาทักทายยามเมื่อฝนโปรยปรายลงมา-ตอนที่ 11 มันร้อนจนถึงขึ้นนั่งไม่ติด ปลดเหรียญอ่านฟรี 20 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 27 ตุลาคม 68,ความรักมาทักทายยามเมื่อฝนโปรยปรายลงมา-ตอนที่ 12 เป็นคนที่ชั่วซ้ำชั่วซ้อน ปลดเหรียญอ่านฟรี 21 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 28 ตุลาคม 68,ความรักมาทักทายยามเมื่อฝนโปรยปรายลงมา-ตอนที่ 13 จะต้องเข้มแข็งและอดทนอีกมากมายแค่ไหน ปลดเหรียญอ่านฟรี 22 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 29 ตุลาคม 68,ความรักมาทักทายยามเมื่อฝนโปรยปรายลงมา-ตอนที่ 14 แล้วมันต่างกันที่ตรงไหน ปลดเหรียญอ่านฟรี 23 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 30 ตุลาคม 68,ความรักมาทักทายยามเมื่อฝนโปรยปรายลงมา-ตอนที่ 15 ลองไปพักสักหน่อยก็คงดี ปลดเหรียญอ่านฟรี 27 ตุลาคม 68 ติดเหรียญถาวร 3 พฤศจิกายน 68

เนื้อหา

ตอนที่ 3 ชีวิตยังต้องไปต่อ

“ก่อนหน้านี้ผมมีคนรักครับแต่เราเลิกกันเมื่อหกเดือนก่อนหลังจากที่เธอรู้ว่าผมต้องเดินกลับมาเมืองไทยผมเลยมีของใช้พวกนี้กลับมาด้วยแต่ไม่ต้องห่วงนะมันเป็นของใหม่ยังไม่เคยแกะใช้เลยที่สำคัญยังไม่หมดอายุแน่นอน” เพื่อไม่ให้อีกคนเป็นกังวลคีรีภัทรจึงเปิดปากเล่าเรื่องส่วนตัวออกมา

“อื้อ”

จากนั้นก็ไม่มีเรื่องที่จะต้องพูดมากเพราะต่างฝ่ายต่างใช้ร่างกายพูดคุยกันแทนคำพูดไปหมดแล้วอีกทั้งคีรีภัทรยังเป็นผู้นำที่ดีใช้ลูกล่อลูกชนหยอกเย้าให้หญิงสาวผ่อนคลายและเผยความต้องการของตนเองออกมาให้เขาได้รู้จนหมดเปลือกและนั่นเองก็ทำให้เขาได้คนพบว่าผู้หญิงตัวเล็กแค่นี้นั้นมีอัตราการร่อนเอวที่ว่องไวอย่างเหลือเชื่อ

“อยากอาบน้ำสักหน่อยไหมครับ” หลังจากนอนเอาขาเกยกันบนโซฟาตัวโตอยู่สักพักให้ร่างกายได้ปรับลมหายใจจนหายเหนื่อยเจ้าของห้องก็พลิกร่างของหญิงสาวแปลกหน้าให้ขึ้นมานอนทับอยู่บนร่างกายของตัวเองพลางถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ถ้าไม่อาบคงนอนไม่ได้แน่” ไม่อยากจะคิดภาพว่าร่างกายของตัวเองนั้นเหนียวหนับไปด้วยน้ำอะไรต่อมิอะไรบ้างขืนนอนไปทั้งแบบนี้ก็น่าเกลียดเกินไปหน่อยแล้ว

“ถ้าอย่างนั้นเราไปอาบน้ำกัน” ไม่พูดเปล่าคีรีภัทรก็อุ้มกระเตงคนตัวเล็กไปยังห้องน้ำที่ห้องพักชั้นบนในทันทีเพียงเพราะห้องพักด้านล่างนั้นไม่มีอ่างอาบน้ำให้ใช้

“รออยู่ตรงนี้ก่อนผมเปิดน้ำใส่อ่างแป๊บเดียว” รินญาดาถูกวางแหมะเอาไว้ที่เคาน์เตอร์ในห้องน้ำโดยในตอนนี้เธอมีชุดคลุมอาบน้ำสวมปิดร่างกายเปลือยเปล่าเอาไว้ลวกๆ แต่อีกคนกลับยืนเปลือยกายทำนั่นทำนี่อย่างไม่อายแต่ไม่รู้ว่าทำไมเธอจึงถอนสายตาออกมาจากกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์แบบของเขาไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว

ในขณะที่เธอเกิดมามีรูปร่างหน้าตาเหมือนผีปั้นหลุดมือแต่อีกคนกับมีร่างกายที่สมบูรณ์แบบดุจเทพรังสรรค์ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างที่สมส่วนหรือว่ากล้ามเนื้อที่สมบูรณ์แบบช่วยให้อิจฉาที่สำคัญเรื่องหน้าตายิ่งไม่ต้องพูดถึงเขาหล่อมาก หล่อแบบนี้ไปเป็นนายแบบหรือดาราได้สบายๆ

“เหม่ออะไรครับ คุณชอบกลิ่นครีมอาบน้ำกลิ่นไหนผมมีลาเวนเดอร์กับกลิ่นอะไรไม่รู้แต่มันสดชื่นดีนะ” เมื่อเอ่ยปากถามแล้วอีกคนไม่ได้พูดอะไรคีรีภัทรจึงขยับกายมายืนเบื้องหน้าเธอพร้อมขวดครีมอาบน้ำที่ใช้สำหรับตีฟองโดยเฉพาะ

“ขอกลิ่นสดชื่นก็ได้ค่ะ” ก่อนจะตอบรินญาดาเผลอกลืนน้ำลายดังเอื้อกทำเอาอีกคนเลิกคิ้วทันทีที่ได้ยิน

“สงสัยจะไม่ได้อาบน้ำกันง่ายๆ แล้วล่ะ” เพราะสายตาของหญิงสาวมิได้ปิดบังความรู้สึกส่วนลึกของตัวเองดังนี้อีกฝ่ายจึงมองเห็นแรงปรารถนาที่ซ่อนอยู่เต็มสองตาและก็แน่นอนนอนว่าคีรีภัทรนั้นไม่ได้ทำให้เธอต้องผิดหวังยังคงชักพาหญิงสาวตะกายขึ้นไปแตะปุยเมฆขาวที่นุ่มฟูบนท้องฟ้าได้อย่างไร้ที่จะติได้กว่าที่ทั้งสองคนจะได้อาบน้ำกันจริงๆ ที่ด้านนอกก็มีแสงสีทองของเช้าวันใหม่ทอขึ้นจับท้องฟ้าเรียบร้อยแล้ว

รินญาดาตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนเที่ยงวันและสิ่งแรกที่เธอทำคือการต่อสายหาเจ้านายเพื่อขอลางานในวันนี้ซึ่งทันทีที่หัวหน้าได้ยินเสียงของเธอก็อนุมัติวันลาให้ทันทีอย่างไม่มีลังเลเพราะลูกน้องคนนี้ไม่ใช่คนที่จะลางานพร่ำเพรื่อหรือว่าเป็นพวกที่ชอบป่วยการเมือง

“อรุณสวัสดิ์ครับ หิวหรือยังเช้านี้ผมมีโจ๊กกับไข่ดาวขนมปังปิ้งคุณอยากจะกินอะไรดี” หลังจากวางสายหญิงสาวก็ทิ้งหัวลงไปบนหมอนอีกครั้งเพราะยังรู้สึกง่วงอยู่ไม่ใช่น้อยแต่ไม่ทันที่จะได้หลับตานอนเจ้าของห้องก็เข้ามาพร้อมกาแฟหอมๆ ในมือสองแก้ว

“ผมไม่รู้ว่าคุณดื่มอะไรเลยทำกาแฟดำใส่น้ำผึ้งมาให้ดื่มก่อน” เดินไม่กี่ก้าวก็มาหยุดอยู่ที่ข้างเตียงที่ตอนนี้หญิงสาวแปลกหน้ากำลังนอนอยู่โดยที่สวมชุดนอนของเขาเป็นภาพที่แปลกตาแต่ทว่าดูไม่รู้สึกว่ามันตะขิดตะขวงใจแต่อย่างใดเลยออกจะรู้สึกว่ามันน่ารักดีเสียด้วยซ้ำไป

“ดื่มได้ค่ะแต่ว่ารบกวนคุณมาทั้งคืนแล้วคงต้องกลับแล้วค่ะ” หญิงสาวหยัดกายขึ้นมาจากเตียงพลางกล่าวอย่างเกรงใจเพราะเมื่อคืนนั้นตัวเองก็ทำเรื่องวุ่นวายไปไม่น้อยจนมาถึงตรงนี้ชายแปลกหน้ายังหยุดงานมาเพื่ออยู่กับเธออีกมันน่าเกรงใจจนไม่รู้จะพูดอย่างไรออกไปดี

“หืม... แล้วจะไปไหนต่อครับเมื่อคืนคุณบอกว่าออกมาจากคอนโดแล้วนี่นาไม่ต้องห่วงครับผมมีเวลาว่างอันที่จริงเพิ่งกลับมาถึงเมืองไทยยังไม่ถึงเวลาที่ต้องทำงาน ผมไปเป็นเพื่อนคุณได้นะ” อันที่จริงคีรีภัทรไม่จำเป็นต้องสนใจอะไรเธอมากไปกว่านี้ก็ได้แต่เมื่อได้เห็นดวงตากลมโตที่ยังมีประกายของความโศกเศร้าอยู่จึงออกจะเป็นห่วงทั้งๆ ที่นิสัยส่วนตัวของเขาไม่ใช่เรื่องที่จะไปชอบสนใจเรื่องของชาวบ้าน

“ฉันตั้งใจว่าจะเขาไปเก็บของสักหน่อยแล้วกลับไปอยู่ที่บ้านคุณย่าแถบชานเมืองค่ะคงไม่รบกวนคุณแล้วเพราะข้าวของฉันก็มีไม่มากอะไร” เมื่อคิดถึงคอนโดที่อยู่ร่วมกับคนรักมาหลายปีในห้องนั้นแทบไม่มีสิ่งที่เป็นหลักฐานการมีตัวตนของรินญาดาเลยนอกจากเสื้อผ้าในตู้ทั้งหนังสือหรือแม้แต่ของสะสมของเธอปวีย์นั้นจะพูดเสมอว่ามันรกและเกะกะจึงไม่ชอบให้เอาไปเก็บไว้ที่ห้องข้าวของนอกจากเสื้อผ้าแล้วจะอยู่ที่บ้านคุณย่าทั้งสิ้น

“เอาเป็นว่าให้ผมไปด้วยดีกว่าครับเพื่อความปลอดภัยถ้าคุณอยากตื่นแล้วก็ล้างหน้าล้างตาออกไปกินข้าวนะผมรออยู่ข้างล่าง อ้อ เสื้อผ้าของคุณอยู่ในตู้ในห้องน้ำนะครับผมซักและอบให้เรียบร้อยแล้ว” แม้จะอยากหอมหัวกลมๆ ของเธอสักหนึ่งฟอดแต่สิ่งที่ชายหนุ่มทำก็เพียงแค่จับเส้นผมที่รุ่ยร่ายอยู่ทัดหูให้จากนั้นก็เดินออกจากห้องนอนของตัวเองไปอย่างเงียบๆ เพื่อให้เวลาส่วนตัวกับเธอ

ใช้เวลาไม่นานรินญาดาก็ลงมารับประทานอาหารเช้าง่ายๆ ที่เจ้าบ้านเตรียมเอาไว้ให้แต่ไม่รู้ทำไมเมื่อเดินผ่านห้องรับแขกแล้วจึงรู้สึกขัดๆ เขินๆ ไปหมดแล้วมันจะเป็นไรไปได้ถ้าไม่ใช่ว่าเมื่อคืนนี้เธอถูกพาสำรวจโซฟาหนังตัวโตแทบจะทุกมุมแถมเมื่อคืนเธอยังทำมันเปียกเลอะเทอะอีกด้วย

“ผมจัดการแล้วครับไม่ต้องเป็นห่วงทุกอย่างสะอาดเหมือนเดิมแล้ว” เพราะสายตาของหญิงสาวไม่ปิดบังในยามที่ปรายตาไปมองยังโซฟาตัวใหญ่เขาจึงต้องพูดให้เข้าใจก่อนที่เธอจะเขินจนตัวแตกไปเสียก่อน

“เอ่อ ค่ะ” หลังกินมื้อเช้าเสร็จสิ้นแน่นอนว่ารินญาดาต้องอาสาทำความสะอาดล้างถ้วยล้างชามเพราะมันเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เธอจะทำเพื่อตอบแทนชายแปลกหน้าคนนี้ได้หลังจากนั้นเมื่อพร้อมออกเดินทางคีรีภัทรก็เรียกชาวีที่พักอยู่ชั้นล่างของคอนโดเดียวกันให้หน้าที่ของตนเองนั่นก็คือการขับรถเนื่องจากเขายังไม่ชินกับถนนหนทางของประเทศไทยเพราะจากไปใช้ชีวิตที่ต่างแดนนานอยู่หลายปีต่างกับชาวีที่บินไปๆ มาๆ ทั้งทำงานให้พี่ชายของเขาที่เมืองไทยและไปทำงานด้วยกันที่ต่างประเทศ

“ผมจะรอข้างล่างนะครับคุณขุนเขา คุณผู้หญิง หากต้องการความช่วยเหลือก็โทรลงมาบอกได้” ชาวีให้ความเป็นส่วนตัวกับเจ้านายของตัวเองส่วนหนึ่งที่ทำให้เขามองเธอด้วยสายตาที่อ่อนลงเพราะคุณขุนเขาก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวที่เจ้าขายได้ช่วยให้รอดชีวิตจากการถูกรถชนให้ฟังทั้งหมดแล้วจะเว้นก็แต่เรื่องส่วนตัวที่ทั้งคู่ได้ทำร่วมกันนั้นจะละไว้เพราะไม่จำเป็นต้องเล่า

“ครับพี่ชาวีผมไปไม่นาน”

“คุณชื่อขุนเขาเหรอคะ เรียกฉันว่าญาดาก็ได้ขอโทษด้วยนะคะที่เสียมารยาทที่ไม่ได้แนะนำตัวแล้วไหนจะเรื่องเมื่อคืนอีกยังไม่ได้ขอบคุณคุณขุนเขาเลยสักคำ” เมื่อได้ยินพี่ชายหน้าดุเรียกชื่อคนที่อยู่กับตัวเองทั้งคืนจึงรู้สึกตัวเลยว่าเสียมารยาทไปหลายอย่าง

“ครับคุณญาดา ไปเถอะเราไปเก็บของกันคุณจะได้ออกไปจากตรงนี้จริงๆ เสียที” แม้จะช้าไปที่จะได้แนะนำตัวแต่คีรีภัทรก็ไม่ได้คิดติดใจอะไรในตอนนี้เขาเพียงแต่ต้องการที่จะพาผู้หญิงคนนี้ขึ้นไปจัดการธุระของเธอให้เสร็จสิ้นเร็วๆ

ไม่น่าเชื่อว่ารินญาดาใช้เวลาเก็บข้าวของออกจากคอนโดที่อาศัยอยู่กับคนรักมากว่าห้าปีภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงและสิ่งที่เธอนำติดตัวออกมาก็มีเพียงเสื้อกับของใช้ส่วนตัวในห้องน้ำนอกจากนั้นเธอก็ไม่คิดจะขนอะไรไปเลยเพราะคอนโดมิเนียมแห่งนี้ตอนซื้อเป็นชื่อของปวีย์เนื่องจากทั้งคู่มิได้จดทะเบียนสมรสกันจึงไม่สามารถทำธุรกรรมร่วมกันได้

แต่กระนั้นค่าผ่อนจ่ายรายเดือนเธอก็ช่วยเหลือเขามาตลอดผ่านเงินกองกลางที่ทั้งคู่จะโอนให้กันทุกวันสิ้นเดือนและบัญชีนั้นฝั่งของอดีตคนรักจะนำไปบริหารเองและเธอก็ไม่เคยไปทวงถามเลยว่าเขาใช้จ่ายเงินกองกลางไปกับอะไรบ้างเพราะว่าเชื่อใจกันมาตลอด

แต่พอตอนนี้มาย้อนคิดกลับไปรินญาดารู้ตัวแล้วว่าตัวเองพลาดไปหลายสิ่งหลายอย่างเพราะความไว้วางใจจึงกลายเป็นคนโง่ให้อีกคนเอาเปรียบแต่เธอก็ไม่คิดจะไปทวงถามให้มันเกิดปัญหาถือว่าเงินที่ใช้จ่ายร่วมกันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเธอซื้อความฉลาดให้ตนเองจากนี้ต่อไปจะได้ไม่โง่ให้ใครมาเอาเปรียบกันได้อีก

“คุณมีของแค่นี้จริงๆ เหรอครับ” คีรีภัทรมองกระเป๋าเดินทางสองใบโตๆ ที่หญิงสาวขนออกมาจากห้องนอนด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อสายตาของตนเองเพราะเธอบอกว่าอาศัยอยู่ที่นี่มาราวๆ ห้าปีแต่มันก็ไม่น่าจะมีของใช้ส่วนตัวเพียงแค่กระเป๋าเดินทางสองใบ

“มีแค่นี้จริงๆ ค่ะอย่างอื่นฉันคงไม่ขนไปให้หนักเพราะที่บ้านของคุณย่าก็มีข้าวของเครื่องให้ครบทุกอย่างแล้วฉันจะกลับไปที่บ้านหลังนั้นเดือนละหนึ่งหรือสองครั้งอยู่แล้วต้องคอยไปดูแลบ้านมันจะได้ไม่โทรมถึงจะไม่ค่อยช่วยอะไรเลยก็เถอะบ้านมันเก่าแล้วก็มีบ้างที่อะไรมันจะผุพังแต่หลังจากนี้คิดว่าต้องซ่อมแซมจริงจังสักที”

“ถ้าอย่างนั้นแบ่งมาครับผมช่วยลากไปเอง” กระเป๋าเดินทางสองใบถูกชายหนุ่มแย่งไปด้วยมือทั้งสองข้างส่วนรินญาดานั้นทำเพียงสะพายกระเป๋าของใช้ส่วนตัวเดินตามหลังเขามาเงียบๆ เมื่อลงมาถึงชั้นล่างของคอนโดคุณพี่ชายหน้าดุก็รับช่วงต่อนำกระเป๋าไปเก็บในรถก่อนจะเคลื่อนรถออกมาเพื่อรับตัวเธอกับเจ้านายของตนเองไปส่งยังจุดหมายต่อไปซึ่งเป็นบ้านหลังเล็กในย่านชานเมืองที่มีบรรยากาศแตกต่างจากสถานที่แรกที่จากมาอย่างสิ้นเชิง

“คุณกำลังจะบอกว่าที่นี่มันไกลจากในเมืองมากใช่ไหมคะฉันก็คิดอย่างนั้นค่ะแต่รู้สึกว่าอยู่ที่นี่แล้วสบายใจมากกว่าเลยไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาอะไรอีกอย่างหนึ่งรถไฟฟ้าก็จะเปิดทดลองใช้อีกไม่นานนี้แล้วน่าจะช่วยเรื่องการเดินทางได้พอสมควร” แม้อีกคนจะไม่ได้พูดแต่สายตาที่ดูตะลึงกับบรรยากาศเงียบสงบและการเดินทางที่ยาวนานพอสมควรก็ทำให้รินญาดาพอจะเดาออกว่าชายหนุ่มคิดอะไรอยู่

“บ้านคือที่ที่เราอยู่แล้วสบายใจครับ ผมต้องรีบไปแล้วนะที่เหลือคุณจัดการได้ใช่ไหม” แม้จะยังไม่อยากจากอีกคนไปในตอนนี้แต่เพราะพี่ชายที่อายุห่างกันหลายปีโทรมาหาเมื่อสักครู่บอกว่ามีเรื่องงานอยากให้ไปคุยกันเขาจึงต้องรีบไปพบเพื่อป้องกันการโดนบ่นจนหูชาไม่ว่าจะคุณพ่อหรือคุณแม่คีรีภัทรไม่เคยกลัวแต่ถ้าเป็นกับพี่ชายอย่างภพนทีเขาบอกได้เพียงว่าเป็นคนสุดท้ายในโลกที่เขาจะมีปัญหาด้วย

“จัดของในกระเป๋าสองใบมันเรื่องเล็กค่ะฉันทำได้ ขอบคุณมากนะคะคุณขุนเขาแล้วก็ฝากขอบคุณคุณชาวีด้วย” ก่อนจากกันรินญาดาค้อมศีรษะให้เขาอย่างสุภาพโดยไม่ลืมที่จะส่งยิ้มแสดงความจริงใจเป็นการบอกลาคนแปลกหน้าแต่ว่ากลับช่วยเหลือเธอในหลายๆ เรื่อง