แฝดสองกำลังดีแต่แฝดสี่แม่ค่อนข้างจะปวดหัว

ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด - ตอนที่ 29 ภรรยาและลูกคือดวงใจของข้า ปลดเหรียญอ่านฟรี 7 กันยายน 68 ติดเหรียญถาวร 14 กันยายน 68 โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จีน,รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,เกิดใหม่,นิยายรักจีนโบราณ,เกิดใหม่,ครอบครัว,แม่ลูกแฝด,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

จีน,รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,เกิดใหม่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นิยายรักจีนโบราณ,เกิดใหม่,ครอบครัว,แม่ลูกแฝด

รายละเอียด

ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฝดสองกำลังดีแต่แฝดสี่แม่ค่อนข้างจะปวดหัว

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

ใครมันจะไปคาดคิดว่าชีวิตของผู้หญิงที่ได้เกิดมาสมบูรณ์พร้อมทุกอย่างจะมีจุดจบที่น่าอนาถเพียงเพราะเดินไปตามควายกลางทุ่งหญ้าในวันฝันตกจึงถูกฟ้าผ่าแต่แล้วเรื่องราวชีวิตของวาสนาที่ดูจะสิ้นวาสนากลับไม่ได้มีจุดจบอยู่เพียงแค่นั้นแต่มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเมื่อดวงวิญญาณของเธอถูกส่งไปอีกภพหนึ่งเพื่อใช้ชีวิตใหม่ในนามของไป๋ฮวาซูหญิงสาวผู้มีลูกชายและลูกสาวฝาแฝดที่คลอดออกมาครั้งเดียวถึงสี่คนแม้จะโชคดีที่ได้สามีเป็นคนเอาถ่านแต่ก็ใช่ว่าไป๋ฮวาซูคนใหม่จะไม่ต้องใช้ความพยายามสร้างฐานะให้ครอบครัวและดูแลลูกเสียเมื่อไหร่

 

หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้

1. ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์ (4 เหรียญ)

2. ปลดเหรียญอ่านฟรี 1 สัปดาห์

3. หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบค่ะ (8 เหรียญ)

สารบัญ

ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 1 ฟ้าผ่าตายเพราะควายเป็นเหตุ,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 2 แฝดสองพอทนแฝดสี่พอเลย,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 3 ท่านแม่หาใช่เป็นคนน่ากลัว,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 4 ก็เลยแกล้งความจำเสื่อมเสียให้มันจบๆ ไป,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 5 เป็นแม่สามีที่แก่กะโหลกกะลา,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 6 สะใภ้ใหญ่บ้านไป๋เป็นคนดีที่มีน้ำใจ,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 7 ชีวิตเก่าเลี้ยงควายแต่ชีวิตใหม่ได้เลี้ยงเด็ก,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 8 ค่าจ้างไม่มีก็ไม่เป็นไรหัวผักกาดหัวเดียวก็ได้ข้ายินดีรับ,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 9 ถึงจะเกิดใหม่ก็ยังเกิดแต่กับ...,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 10 ความสุขที่ไม่เคยได้สัมผัส,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 11 เป็นเด็กย่อมซุกซนเป็นของธรรมดา ปลดเหรียญอ่านฟรี 15 สิงหาคม 68 ติดเหรียญถาวร 22 สิงหาคม 68,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 12 ท่านพี่ไม่อยากเปิดร้านขายสุราบ้างหรือไร ปลดเหรียญอ่านฟรี 16 สิงหาคม 68 ติดเหรียญถาวร 23 สิงหาคม 68,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 13 เตรียมเปิดร้านขายสุรากันดีกว่า ปลดเหรียญอ่านฟรี 17 สิงหาคม 68 ติดเหรียญถาวร 24 สิงหาคม 68,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 14 นี่ข้ามีสามีเป็นเศรษฐีหรอกหรือ ปลดเหรียญอ่านฟรี 18 สิงหาคม 68 ติดเหรียญถาวร 25 สิงหาคม 68,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 15 การเริ่มต้นใหม่ไม่มีอะไรที่ราบรื่น ปลดเหรียญอ่านฟรี 19 สิงหาคม 68 ติดเหรียญถาวร 26 สิงหาคม 68,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 16 เพื่อนเล่นที่ดีที่สุดของลูก ปลดเหรียญอ่านฟรี 20 สิงหาคม 68 ติดเหรียญถาวร 27 สิงหาคม 68,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 17 ร้านสุราสกุลไป๋ ปลดเหรียญอ่านฟรี 21 สิงหาคม 68 ติดเหรียญถาวร 28 สิงหาคม 68,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 18 วิถีทางการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งแม่บ้านอันดับหนึ่ง ปลดเหรียญอ่านฟรี 22 สิงหาคม 68 ติดเหรียญถาวร 29 สิงหาคม 68,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 19 เจ็บช้ำเพราะคำคน ปลดเหรียญอ่านฟรี 25 สิงหาคม 68 ติดเหรียญถาวร 1 กันยายน 68,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 20 ภรรยาข้าหาใช่สตรีเกียจคร้าน ปลดเหรียญอ่านฟรี 26 สิงหาคม 68 ติดเหรียญถาวร 2 กันยายน 68,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 21 ข้าคงไม่มีปัญญาเลี้ยงดูภรรยาถึงสองคน ปลดเหรียญอ่านฟรี 27 สิงหาคม 68 ติดเหรียญถาวร 3 กันยายน 68,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 22 เป็นคนชั่วร้ายโดยสันดาน ปลดเหรียญอ่านฟรี 28 สิงหาคม 68 ติดเหรียญถาวร 4 กันยายน 68,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 23 สูญเสียไปเท่าไหร่ข้าจะเอาคืนมาให้ร้อยเท่าพันเท่า ปลดเหรียญอ่านฟรี 29 สิงหาคม 68 ติดเหรียญถาวร 5 กันยายน 68,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 24 ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องเหน็ดเหนื่อยจนเกินไป ปลดเหรียญอ่านฟรี 30 สิงหาคม 68 ติดเหรียญถาวร 6 กันยายน 68,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 25 สุราดีเพราะมีภรรยาช่วยชี้แนะ ปลดเหรียญอ่านฟรี 1 กันยายน 68 ติดเหรียญถาวร 8 กันยายน 68,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 26 น้องสะใภ้การละคร ปลดเหรียญอ่านฟรี 2 กันยายน 68 ติดเหรียญถาวร9 กันยายน 68,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 27 ทุกครอบครัวล้วนมีดราม่า ปลดเหรียญอ่านฟรี 5 กันยายน 68 ติดเหรียญถาวร 12 กันยายน 68,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 28 ในเมื่อมีภรรยาอยู่ตรงนี้สามีจึงไม่ต้องกังวลใจ ปลดเหรียญอ่านฟรี 6 กันยายน 68 ติดเหรียญถาวร 13 กันยายน 68,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 29 ภรรยาและลูกคือดวงใจของข้า ปลดเหรียญอ่านฟรี 7 กันยายน 68 ติดเหรียญถาวร 14 กันยายน 68,ปวดหัวแทบบ้าเมื่อเกิดใหม่มาเป็นมารดาของลูกแฝด-ตอนที่ 30 ความเมตตาครั้งสุดท้าย (จบ) ปลดเหรียญอ่านฟรี 8 กันยายน 68 ติดเหรียญถาวร 15 กันยายน 68

เนื้อหา

ตอนที่ 29 ภรรยาและลูกคือดวงใจของข้า ปลดเหรียญอ่านฟรี 7 กันยายน 68 ติดเหรียญถาวร 14 กันยายน 68

ไป๋จิ่งลู่ประสบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันมากมายและยากที่จะรับมือในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่กระนั้นเขาก็พยายามปรับตัวเพื่อให้เวลากับครอบครัวและงานเท่าๆ กันเพื่อใช้ทั้งสองสิ่งนั้นเป็นเครื่องเยียวยาจิตใจโดยในหนึ่งเดือนนั้นเขาจะหยุดงานหนึ่งครั้งเพื่อใช้เวลากับลูกๆ และภรรยาพยายามทำทุกอย่างตามเวลาเช่นเดียวกับที่ภรรยาเลี้ยงดูบุตรในระยะนี้จึงมีความสุขมากได้ทำงานที่รับสืบทอดมาจากท่านปู่ผู้ล่วงลับและได้ทำกิจกรรมด้วยกันทั้งครอบครัวไปพร้อมๆ กัน

“ท่านพ่อเจ้าขา ตื่นหรือยังเจ้าคะ” เสียงเล็กๆ ของลูกสาวทั้งสองคนดังขึ้นอยู่ที่ข้างๆ หูแต่คนเป็นพ่อแม้จะรู้สึกตัวตื่นแล้วแต่ก็ยังแกล้งนอนหลับตาอยู่แบบนั้นทำให้ลูกน้อยทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วปีนขึ้นเตียงไปปลุกท่านพ่ออย่างรวดเร็ว

ในวันหยุดเป็นธรรมดาที่บ้านรองสกุลไป๋จะตื่นสายกันเล็กน้อยแต่ก็ไม่สายจากเดิมมากนักเพียงแค่สองเค่อถึงครึ่งชั่วยามเท่านั้นและเป็นเรื่องปกติที่ไป๋จิ่งลู่มักจะตื่นสายที่สุดและเขาก็จะถูกลูกๆ บุกมาปลุกถึงเตียงนอนเช่นวันนี้

“ท่านพ่อ ตื่นได้แล้วเจ้าค่ะ ตื่นได้แล้ว” เจ้าตัวเล็กของบิดาพร้อมใจกันเขย่าและส่งเสียงเรียกที่ไม่ต่างจากเสียงลูกแมวร้องเหมียวเหมียวและหลังจากที่ปล่อยให้เด็กๆ เรียกอยู่สักพักบิดาก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมทั้งคว้าลูกๆ ทั้งสองคนเขามากอดฟัดเรียกเสียงหัวเราะสนุกสนานให้ดังคับเรือนกันเลยทีเดียว

“ท่านพี่ปล่อยลูกก่อนเจ้าค่ะให้หัวเราะนานๆ แบบนั้นข้ากลัวพวกเขาจะสำลักหรืออาเจียนได้” เสียงที่ดังออกไปนอกห้องนอนทำให้ไป๋ฮวาซูที่เดินมาตามลูกๆ ที่หายมาปลุกบิดานานสองนานต้องรีบมาแยกท่านพ่อขี้แกล้งออกจากลูกสาวที่หัวเราะกันจนแก้มกลมๆ ขึ้นสีแดงหน้าไปหมด

“พ่อขอโทษลูกรักเอาล่ะพ่อจะไม่พวกแกล้งเจ้าแล้วค่อยๆ หายใจกันก่อน” แน่นอนว่าไป๋จิ่งลู่ต้องเชื่อฟังภรรยาเป็นอย่างดีเมื่อนางบอกให้หยุดแล้วลูกเอาก็อุ้มลูกทั้งสองคนด้วยแขนคนละข้างด้วยความทะนุถนอมค่อยๆ กอดปลอบจนเด็กๆ หายเหนื่อยจากการหัวเราะที่บิดาแกล้งหยอกจนน้ำตาแทบไหล

“เด็กดีของแม่เจ้าออกไปรอท่านพ่อข้างนอกดีกว่า ท่านพี่ก็ทำธุระส่วนตัวนะเจ้าคะข้าจะไปตั้งอาหารเช้ารอ” แม้จะเป็นวันหยุดของสามีแต่ทว่าร้านขายสุราไม่ได้หยุดไปด้วยเพราะมีคนงานทั้งสองบ้านช่วยกันทำงานอย่างขยันขันแข็งและในวันหยุดเช่นนี้จะไม่มีใครมารบกวนคนบ้านไป๋เลยแม้แต่หลานๆ ทั้งสองคนพวกเขาจะตื่นแต่เช้าไปช่วยงานในร้านส่วนเรื่องอาหารการกินพี่สาวเหรินและพี่สะใภ้เซี่ยจะคอยดูแลให้

ถึงแม้ว่าไป๋จิ่งลู่และไป๋ฮวาซูจะเคยบอกหลานทั้งสองคนไปแล้วว่าให้มาใช้เวลาวันหยุดด้วยกันแต่เด็กชายก็ยืนยันว่าพวกเขาอยากให้ครอบครัวของท่านลุงและป้าสะใภ้ใช้เวลากันแบบส่วนตัวทั้งไป๋เฟยหลิงและไป๋เฟยอินไม่ได้มีความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอะไรด้วยเข้าใจในทุกๆ อย่างดี อีกอย่างหนึ่งที่นี่ก็มีแต่ผู้ใหญ่ใจดีทุกๆ คนสั่งสอนแต่สิ่งดีๆ ให้เด็กทั้งสองคนต่างจากเมื่อครั้งที่อยู่กับครอบครัวซึ่งคนที่สอนแต่สิ่งดีๆ ให้พวกเขาจะมีก็แต่ท่านปู่เท่านั้นเอง

เช้าวันนี้ไป๋ฮวาซูต้มเกี๊ยวน้ำง่ายๆ ให้สามีและลูกๆ กินแต่นางก็ยังยังเป็นไป๋ฮวาซูคนเดิมที่คิดถึงคนอื่นอยู่เสมอโดยเฉพาะคนที่ทุ่มเททำงานร่วมกันมาดังนั้นนางจึงเตรียมห่อเกี๊ยวและตั้งน้ำแกงเผื่อเอาไว้ให้ทุกๆ คนด้วยและทุกคนที่ร้านจะได้กินเกี๊ยวต้มใส่ผักและลูกชิ้นหมูทำเองเป็นอาหารมื้อกลางวัน

“กลิ่นน้ำแกงหอมยิ่งนักวันนี้ท่านแม่คนเก่งของเจ้าทำอะไรให้พวกเรากินกันหรือลูกรัก” เมื่อเข้ามาในห้องโถงของบ้านไป๋จิ่งลู่ไม่ลืมที่จะหอมศีรษะเล็กๆ ของลูกๆ ทีละคนส่วนภรรยานั้นเขาจับมือของนางเพียงเบาๆ เป็นการทักทายกันอย่างเป็นทางการและดูคล้ายกับว่าทั้งคู่จะเริ่มคุ้นชินกับแตะเนื้อต้องตัวกันมากขึ้นเพราะบ่อยครั้งที่ไป๋จิ่งลู่และไป๋ฮวาซูต่างก็จับมือไม่ก็โอบเอวกันสัมผัสเนื้อตัวของและกันอย่างเป็นธรรมชาติ

“เกี๊ยวน้ำเจ้าค่ะท่านพ่อ น้ำแกงหอมมากท่านแม่ใส่ทั้งหัวผักกาดและผักหลายอย่างลงไปต้มในหม้อ” มีมี่อธิบายให้บิดาฟังพร้อมทั้งทำจมูกฟุดฟิดสูดดมกลิ่นหอมของน้ำแกงที่อยู่ในชามตรงหน้าของตนเอง

“เพราะท่านแม่รู้ว่าพวกเจ้าชอบหัวผักกาดต้มที่ทั้งนิ่มและหวานนางจึงใส่มันลงไปต้มในน้ำแกงให้พวกเจ้าอย่างไรเล่า โอ้ พ่อได้รับดอกไม้หัวผักกาดดอกโตมาด้วยตั้งหลายดอก” อาหารของภรรยานอกจากจะมีรสชาติอร่อยแล้วหน้าตายังงดงามทุกจานอย่างน้ำแกงที่ใส่มากับเกี๊ยวต้มนั้นไป๋ฮวาซูใช้มีดตัดๆ มันเพียงไม่กี่ครั้งก็ได้หัวผักกาดหั่นแว่นเป็นดอกไม้สวยๆ ซึ่งนางก็ทำแบบเดียวกันกับหัวผักกาดแดงด้วยทำให้ตอนนี้นั้นในชามเกี๊ยวของทุกคนในครอบครัวต่างก็มีดอกไม้เบ่งบานสวยงามเต็มชาม

มื้ออาหารเช้าง่ายๆ แต่แสนอร่อยผ่านไปด้วยความราบรื่นและหลังจากที่ช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดจานชามแล้วไป๋จิ่งลู่ก็ชวนลูกๆ และภรรยาไปนั่งเล่นกันที่ศาลาไม้เลื้อยด้วยในวันนี้จะไม่มีการทำงาน ไม่มีการเรียนพวกเขาจึงต้องมาคุยกันว่าจะทำอะไรกันต่อไปเพื่อให้เวลาที่เหลือทั้งวันนั้นมันไม่น่าเบื่อ

“เราไปเดินซื้อของกันดีหรือไม่พ่อจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่พวกเจ้าและมารดาซื้อเสื้อผ้าใหม่คือตอนที่เราเปิดร้านกันและนั่นมันก็ผ่านมานานเกินครึ่งปีแล้วนอกจากเสื้อผ้าถ้าหากอยากกินขนมหรือซื้อของเล่นพ่อก็จะซื้อให้” ถ้าให้ลูกๆ นั่งเล่นกันแต่ภายในรั้วบ้านไป๋จิ่งลู่ก็เกรงว่าพวกเขาจะเบื่อหน่ายจึงตั้งใจเสนอตัวเลือกพาลูกๆ ไปเดินซื้อของในตลาดของตัวอำเภอที่แม้จะอยู่ห่างจากร้านไปไม่มากแต่เด็กๆ ก็ใช่ว่าจะได้ไปกันบ่อยนักส่วนมากพวกเขาจะไปเล่นกันที่แม่น้ำมากกว่า

“แม่ก็ว่าดีเหมือนกันพวกเราไม่ได้ไปเดินเล่นในตลาดกันมานานแล้ว” ไป๋ฮวาซูเห็นด้วยกับสามีแม้ตอนนี้รายได้ของครอบครัวจะทำให้นางและลูกๆ สามารถซื้อทุกอย่างที่ต้องการได้แต่ทว่าครอบครัวเล็กๆ ของหญิงสาวยังคงใช้เงินอย่างรู้คุณค่าไม่เคยสุรุ่ยสุร่ายหรือให้ว่าใช้จ่ายเกินตัวในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ประหยัดจนเกินความจำเป็น

เมื่อทั้งบิดามารดาเห็นไปในทางเดียวกันว่าควรจะไปซื้อของที่ตลาดเด็กๆ จึงรีบวิ่งกลับเข้าห้องนอนของตัวเองเพื่อไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเพราะแม้ว่าชุดที่สวมใส่อยู่นั้นจะสะอาดดีแต่มันก็ไม่ใช่ชุดที่ควรจะใส่นอกบ้านเมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วท่านแม่ที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยเช่นกันก็ได้เดินเข้ามาช่วยดูแลความเรียบร้อยและหวีผมมัดผมให้

ที่ตลาดยังคงคึกคักอย่างที่มันเป็นอยู่ทุกวันและเพราะทุกๆ คนเพิ่งอิ่มอร่อยกับอาหารเช้ามาได้ไม่นานจึงไม่ได้แวะเหลาอาหารหรือโรงน้ำชาที่ไหนก่อนแต่ร้านค้าแรกที่มุ่งหน้าไปที่แรกคือร้านขายอาภรณ์ที่ถึงจะไม่ได้มีขนาดใหญ่ที่สุดในอำเภอแต่ก็มีข้าวของครบครันอีกทั้งเถ้าแก่เนี้ยของร้านก็มีอัธยาศัยดีอีกด้วย

“เหมือนพวกเจ้าจะรู้ว่าที่ร้านเพิ่งมีสินค้าใหม่เข้ามาเมื่อวานข้ายังไม่ได้นำออกมาวางขายเลยเพราะยังไม่มีเวลาจัดจะรังเกียจไหมหากจะเข้ามาเลือกชุดกันในห้องด้านหลังมีทั้งชุดเด็ก ชุดผู้ใหญ่อีกทั้งยังมีเนื้อผ้าให้เลือกหลากหลายเจ้าสามารถตั้งงบประมาณมาได้เลย” เถ้าแก่เนี้ยคุ้นเคยกับไป๋จิ่งลู่ดีเพราะนางเคยเป็นนายจ้างของมารดาเขามาก่อนเมื่อชายหนุ่มพาครอบครัวมาที่ร้านจึงไม่ลังเลเลยที่จะต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี

“หากไม่รบกวนเถ้าแก่เนี้ยมากจนเกินไปพวกข้าขอไปเลือกชุดในห้องด้านหลังก็ได้ขอรับ” ด้วยความเกรงใจหากว่าทางร้านจะมีลูกค้าคนอื่นเข้ามาจับจ่ายซื้อของจะกลายเป็นว่าไปเกะกะเพราะครอบครัวเขามีเด็กมาด้วยกันถึงสี่คนอาจจะทำให้คนอื่นไม่สะดวกก็เป็นได้

“เช่นนั้นตามมาข้าจะดูแลพวกเจ้าเอง” ครอบครัวบ้านไป๋เดินตามเถ้าแก่เนี้ยไปยังห้องด้านหลังของร้านค้าที่คล้ายจะเป็นห้องสำหรับพักสินค้าเอาไว้ชั่วคราวโดยในนี้มีตู้ไม้หลายใบที่เต็มแน่นด้วยเสื้อผ้าหลากหลายสีสันซึ่งชุดราคาแพงจะถูกแขวนแยกเอาไว้ส่วนที่มีราคารองๆ ลงมาก็ถูกพับเก็บอย่างเรียบร้อย

“ชุดของเด็กหญิงอยู่ทางนี้มีสีหวานๆ สวยๆ เข้ามาเยอะแยะเลยนะส่วนชุดของเด็กผู้ชายออกจะน่าเสียดายนิดหน่อยที่สีสันไม่สดใสเท่าเด็กผู้หญิงแต่ก็ยังพอจะมีให้เลือกอยู่ และตู้นี้เป็นชุดของผู้ใหญ่มีชุดผ้าไหมสีชมพูอมม่วงมาใหม่ข้าคิดว่าเหมาะกับภรรยาของเจ้ามาก” เถ้าแก่เนี้ยแนะนำตามความเหมาะสมของผู้สวมใส่หาได้ตั้งใจจะขายแต่ชุดผ้าไหมราคาแพงแต่เพราะไป๋ฮวาซูสวมใส่ชุดผ้าไหมแล้วทั้งงดงามอ่อนหวานนางจึงแนะนำไป

แม้ไป๋ฮวาซูจะมีลูกแล้วถึงสี่คนแต่รูปร่างของนางยังคงเข้ารูปเข้าทรงดีอยู่จึงสวมใส่ชุดอะไรก็สวยงามเมื่อคราวก่อนเถ้าแก่เนี้ยร้านขายอาภรณ์ยังจำได้ดีว่าเป็นเถ้าแก่เนี้ยแห่งร้านสุราสกุลไป๋ที่มาซื้อชุดผ้าไหมสีชมพูไปจากร้านของนางซึ่งชุดนั้นแม้จะสวยงามมากแต่เพราะสีสันมันสดใสเกินไปนิดแทนที่จะขับผิวกลับทำให้ผู้สวมใส่ดูหมองคล้ำไม่น่ามองก็เห็นจะมีแต่ไป๋ฮวาซูนี่แหละที่สวมชุดนั้นออกมาแล้วผิวพรรณดูจะผุดผาดมากขึ้นกว่าเดิม

“ขอข้าดูชุดที่ว่าหน่อยได้หรือไม่ขอรับ” เนื่องจากภรรยายังติดพันเรื่องดูแลลูกดังนั้นไป๋จิ่งลู่จึงตอบเถ้าแก่เนี้ยด้วยตัวเองและนอกจากนั้นยังขอให้นางช่วยเลือกชุดผ้าไหมที่เข้าคู่กันของบุรุษให้อีกหนึ่งชุด

“ข้าดีใจแทนภรรยาที่มีสามีเอาใจใส่เช่นเจ้าเสียจริงๆ พูดก็พูดเถอะสามีบางคนไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าภรรยาของพวกเขาจะสวมใส่อะไรส่วนมากก็พาพวกนางมาทิ้งเอาไว้จากนั้นก็ตามมาจ่ายเงินแต่ที่ร้ายไปกว่านั้นสามีบางคนก็ให้ภรรยาซื้อหาเสื้อผ้าอาภรณ์ใส่กันเองเห็นจะมีแต่เจ้านี่แหละที่ช่วยเลือกช่วยดูให้ทั้งลูกและเมีย” เถ้าแก่เนี้ยเอ่ยชมเมื่อไป๋จิ่งลู่ดูแลทั้งลูกและภรรยาอย่างอ่อนโยนโดยเขาช่วยบุตรสาวตัดสินใจเมื่อพวกนางเลือกสีชุดที่ต้องการไม่ได้ส่วนกับบุตรชายก็ช่วยดูขนาดชุดให้พอดีกับตัวให้ด้วยกิริยาที่แสนจะอ่อนโยน

และส่วนของภรรยาเขาก็ยิ่งเอาใจใส่นอกจากชุดของนางจะต้องมีการตัดเย็บอย่างประณีตแล้วยังต้องมีชุดของบุรุษสีใกล้เคียงกันให้เขาได้ใส่คู่กันอีกด้วยแต่นั่นก็เป็นแค่เพียงชุดที่ใช้สำหรับใส่ออกไปนอกบ้านแต่หากเป็นชุดทำงานประจำวันของตนเองนั้นชายหนุ่มยังคงเลือกผ้าฝ้ายสีเข้มเป็นหลักดังเดิมเพราะเมื่อทำเลอะเทอะจะได้ไม่เสียดายมากเท่าไหร่นัก

“ชีวิตข้าก็มีเพียงแค่บุตรและภรรยาเท่านั้นขอรับดังนั้นจึงอยากดูแลให้พวกเขาทั้งสุขกายและสบายใจ” ไป๋จิ่งลู่ตอบเถ้าแก่เนี้ยอย่างไม่มีลังเลโดยระหว่างนั้นก็ทอดสายตาจ้องมองไปที่บุตรและภรรยาอย่างอ่อนโยนเป็นยิ่งนัก

“ถึงเจ้าไม่บอกข้าก็รู้เห็นแบบนี้แฝดสี่น่าจะมีน้องๆ ในเร็ววันแล้วใช่หรือไม่” เห็นสามีภรรยารักกันดีเถ้าแก่เนี้ยก็อดไม่ได้เลยที่จะหยอกเย้าทำเอาคนฟังถึงกับเขินจนคลำหาเสียงตัวเองไม่เจอไปชั่วขณะหนึ่ง

“ท่านพี่ร้อนหรือเจ้าคะเหตุใดจึงหน้าแดงคอแดงเช่นนั้น” พลันไป๋ฮวาซูหันมามองเห็นสามียืนหน้าแดงอยู่กับเถ้าแก่เนี้ยก็ตกใจเผลอคิดไปว่าในห้องนั้นจะร้อนไปสำหรับเขาจึงรีบนำผ้าเช็ดหน้าของตนเองมาซับเหงื่อให้แต่ดูอย่างไรแล้วสามีก็ยังตัวแห้งสนิทไม่มีเหงื่อซึมออกมาเลยสักหยด

“ขอบใจเจ้ามากฮวาเอ๋อร์แต่ไม่เป็นอะไรหรอกเจ้าไปดูลูกๆ เถิดไม่ต้องเป็นห่วงข้า” ไป๋จิ่งลู่ขอบคุณภรรยาก่อนจะส่งนางกลับไปให้บุตรสาวที่ตอนนี้กำลังวุ่นวายอยู่กับการเลือกผ้าสำหรับนำไปฝึกหัดปักผ้าเช็ดหน้าด้วยตนเองอยู่