ความมืดไม่เคยกลัวใคร — แต่ใครหลายคน…กลัวความลับที่ซ่อนในนั้น
ลึกลับ,ระทึกขวัญ,ดาร์ค,ไทย,น่ากลัว,สยองขวัญ,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เสียงที่หายไปความมืดไม่เคยกลัวใคร — แต่ใครหลายคน…กลัวความลับที่ซ่อนในนั้น
โรงแรมเก่าโทรมที่มีข่าวลือเกี่ยวกับคนหายตัวไปอย่างลึกลับ ตั้งตระหง่านท่ามกลางสายฝน
ในความมืด…มีความลับรอการเปิดเผย
โรงแรมที่ไม่มีทางเข้า ไม่มีทางออก
มีเพียงเสียงกระซิบจากแขกเก่าที่ถูกลืมเลือน
“อยู่กับเราที่นี่เถอะ…”
เสียงกระซิบสุดท้ายยังวนเวียนอยู่ในหู แม้เมธาจะพยายามปิดหูแน่นเท่าไร เสียงนั้นก็ไม่เคยเงียบไปจริง ๆ มันฝังแน่นลงไปในเส้นประสาท
เขานั่งอยู่กลางห้อง 203 — หน้าซีดเหงื่อซึม ขอบตาดำคล้ำ ร่างกายเหมือนผ่านศึกมาทั้งคืน ทั้งที่เพิ่งผ่านมาแค่สองวันหลังเช็กอิน
ดวงตาเขาเหม่อลอย ก่อนจะกวาดสายตาไปรอบห้อง — ซอกมุมเดิม พื้นไม้เดิม กลิ่นอับเดิม แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนเดิม
บางอย่างเปลี่ยนไป
เขารู้สึก…เหมือนห้องนี้ “กำลังเฝ้ามองเขา”
เมธาพยุงตัวขึ้นมาอย่างอ่อนแรง เดินไปยังโต๊ะเขียนหนังสือตรงมุมห้อง เค้าลังเลใจอยู่พักนึงก่อนตัดสินใจที่จะไม่ใช้โน้ตบุ๊คบันทึกเหตุการณ์ และเปิดกระเป๋าเพื่อหยิบสมุดโน้ตออกมา และเริ่มเขียนเรื่องแปลกประหลาดที่เขาเจอมาเมื่อคืน— แต่สิ่งที่เขาเห็นในสมุดดังกล่าวไม่ใช่ลายมือของเขา
มีตัวอักษรเล็ก ๆ สีจาง เขียนอยู่บนหน้ากระดาษแผ่นท้ายสุด
“ถ้าเธอเจอบันทึกนี้ แปลว่าเธอก็โดนเหมือนกัน…”
เขาเบิกตากว้าง “ตัวหนังสือใครวะ?” เขาพึมพำก่อนจะรีบเปิดดูหน้าก่อนหน้า ไล่ไปทีละแผ่นจนถึงแผ่นที่มีคราบน้ำตาเป็นวงมัว ๆ ตรงกลาง
“ชื่อของมันคือ 203 มันไม่ใช่แค่ห้อง แต่มันมีตัวตน มันเปลี่ยนรูปร่างได้ มันรู้ว่าเรา ‘กลัว’ อะไร แล้วมันจะทำให้เราติดอยู่กับมัน”
“ฉัน…ไม่รู้ว่าตอนนี้วันอะไรแล้ว ทุกครั้งที่พยายามออกไป ฉันกลับมาที่เดิม”
ลายมือค่อย ๆ เบี้ยวลง จนเกือบอ่านไม่ออก แต่เมธาก็ยังไล่อ่านไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งบรรทัดสุดท้ายเขียนไว้ด้วยหมึกสีแดงซีด
“อย่าไว้ใจ กระจก”
เมธาหันควับไปทางผนังฝั่งซ้าย — มีกระจกติดอยู่จริง ๆ
เขาไม่ทันสังเกตเลยว่ามันอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไร หรือว่า…มันเพิ่งโผล่มา?
เขาเดินเข้าไปใกล้ ๆ ด้วยจิตใจเต้นแรง กระจกใสสะท้อนใบหน้าโทรมของเขาอย่างชัดเจน แต่ในนั้น…ไม่มีอะไรผิดปกติ
…ยกเว้นว่าเงาของเขาในกระจก “กำลังยิ้ม”
ทั้งที่ตัวจริงไม่ได้ยิ้มเลยแม้แต่น้อย
________
เมธาผงะถอยกรูด ใจเต้นแรงจนเหมือนจะหลุดออกจากอก
เงาในกระจกยังคงยิ้ม ทั้งที่ใบหน้าของเขานิ่งสนิท
ยิ่งมองนาน เขายิ่งรู้สึกว่า ‘อีกคน’ ในกระจกไม่ได้ทำแค่สะท้อน แต่กำลัง…จ้องเขากลับ
แล้วมันก็ ขยับคิ้ว
ไม่ใช่การเคลื่อนไหวที่เขาทำตาม
แต่เป็นการเคลื่อนไหวของมันเอง
เงาในกระจกยักคิ้วให้เขา
“ไม่จริง…”
เขาเบือนหน้าหนี ปิดเปลือกตาแน่นพยายามเรียกสติ
แต่ทันใดนั้น…เสียงแกร๊กเบา ๆ ดังขึ้นที่พื้น
เมธาหันไปมอง ก็เห็นไม้กระดานตรงมุมห้องแง้มขึ้นเล็กน้อย
มันเป็นจุดเดียวกับที่เขาเคยได้ยินเสียงคลาน เสียงกระซิบ เสียงขูดผนัง
เหมือนมีใครบางคน…พยายาม “เปิดมันจากด้านล่าง”
เขาค่อย ๆ เดินไปใกล้ มือหนึ่งถือไฟฉาย อีกมือเอื้อมไปแตะไม้กระดาน
มันเย็น…เหมือนน้ำแข็ง
เมื่อแง้มแผ่นไม้ขึ้น เขาก็พบว่า ใต้พื้นห้องนี้มี “โพรง” ขนาดพอให้เด็กตัวเล็ก ๆ มุดเข้าไปได้
ในนั้นมืดสนิท แต่พอเขาส่องไฟลงไป
สิ่งแรกที่เห็นคือ — สมุดบันทึกปกเก่า ๆ ถูกวางอยู่บนนวมสีซีด
ข้าง ๆ มีตุ๊กตาไหมพรมตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่งที่มีคราบสีน้ำตาลเปื้อนครึ่งหน้า
เขาเอื้อมมือหยิบสมุดขึ้นมาอย่างระวัง ฝุ่นหนาเตอะกระจายเป็นสาย
ปกเขียนด้วยลายมือหวัดแบบเด็กว่า:
“ของหนูอรณี ห้ามเปิดนะ!”
เขานิ่งไป
…อรณี?
ชื่อนี้…เขาเคยเจอในเว็บบอร์ดเก่า ๆ ที่พูดถึงเรื่องลึกลับของโรงแรมแห่งนี้
เด็กหญิงที่หายตัวไปจากบ้านเด็กกำพร้า และชื่อเดียวกันนี้เคยโผล่มาในข้อความหลอนหลายครั้ง
เมธาหยิบสมุดบันทึกขึ้นมาอย่างระแวดระวัง แล้วเปิดอ่านหน้าต้น ๆ
เสียงเด็กผู้หญิงในหัวเงียบไป เหมือนกำลังเฝ้าดูเขาอยู่
หน้ากระดาษแรกเขียนไว้ว่า:
“วันนี้หนูอยู่คนเดียวอีกแล้ว พวกนั้นไม่ยอมเล่นด้วย
คุณแม่บอกว่าถ้าหนูไม่ดี หนูจะโดนขัง
แต่หนูแค่ร้องเพลงแค่นั้นเองนะ…”
เสียงในหัวของเมธาดังขึ้นทันที — เพลงเด็ก ๆ ท่อนสั้น ๆ ดังขึ้นคลอในความคิด
เขาไม่รู้ว่ารู้จักมันจากไหน
แต่กลับสามารถฮัมตามได้โดยอัตโนมัติ
“แสงเทียนไหวไหวในห้องมืด ใครซ่อนอยู่ ใครซ่อนอยู่…”
เขาปิดสมุดแทบไม่ทัน ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนตัวเองเพิ่งทำบางอย่างผิดมหันต์
แต่ทันใดนั้น…เงาจากกระจกด้านหลังกลับขยับอีกครั้ง
คราวนี้…ไม่ใช่เงาของเขาแล้ว
แต่เป็นเด็กผู้หญิงผมยาวในชุดกระโปรงสีขาวที่ยืนอยู่ “ข้างหลังเขา” ในภาพสะท้อน
______________
“อรณี…” เมธากระซิบ
เขามองภาพสะท้อนในกระจกตรงหน้า
เด็กผู้หญิงในชุดขาวยืนอยู่ข้างหลังเขาจริง ๆ
…แต่เมื่อเขาหันกลับไป เธอ “หายไป”
กลับไปดูที่กระจกอีกครั้ง…ก็ไม่มีเธอแล้ว
ราวกับกระจกบานนั้นเป็นโลกอีกใบ โลกที่เก็บความทรงจำไว้ไม่ยอมปล่อย
เขากัดฟันแน่น หันกลับไปที่สมุดบันทึก เปิดอ่านหน้าถัดไป
ลายมือหวัดยิ่งกว่าเดิม ราวกับเขียนตอนน้ำตาไหลพราก
“วันนี้คุณแม่ตบหนู เพราะหนูร้องเพลงอีกแล้ว
เขาบอกว่าเสียงของหนูน่ารำคาญ หนูไม่ควรร้อง
แต่เสียงมันอยู่ในหัวหนู หนูไม่ได้ตั้งใจ…”
เมธาสัมผัสได้ถึงบางอย่าง
บรรยากศที่เต็มไปด้วยความโกรธ ความเศร้า ความโดดเดี่ยว…กระจายอยู่ในห้อง
“หนูไม่อยากอยู่คนเดียว หนูอยากมีเพื่อน
หนูอยากมีใครสักคนที่ฟังหนูบ้าง…”
บรรยากาศในห้องเปลี่ยนไปในทันที
อุณหภูมิลดลงจนเมธาต้องกอดตัวเอง
เสียงขูดเบา ๆ ดังขึ้นจากพื้น…แล้วเลื้อยไปตามผนัง
เสียงกระซิบวนกลับมาอีกครั้ง
“พี่…ฟังหนูไหม…”
เมธาวางสมุดลงอย่างระวัง หันมองไปรอบห้อง
แต่ในวินาทีนั้นเอง ไฟทุกดวงในห้องก็ดับลง!
เสียงขูดกลายเป็นเสียงวื่ง
อะไรบางอย่างกำลังวิ่งวนรอบห้อง — แต่เขา “มองไม่เห็นมัน”
ประตูห้อง 203 กระแทกปัง!
แล้วเปิดออกเองช้า ๆ เผยให้เห็น “เงาเด็กหญิง” ยืนอยู่ในทางเดินมืด ๆ
ร่างเธอเบี้ยวเหมือนภาพที่กำลังจะถูกฉีก
“หนูอยู่ที่นี่มาตลอด…”
“แต่ไม่มีใครเห็นหนูเลย…”
เมธาถอยกรูดจนหลังชนผนัง
เขาอยากวิ่ง อยากกรีดร้อง แต่ขากลับขยับไม่ออก ราวกับถูกบังคับให้ยืนอยู่ตรงนี้
เพื่อรับฟัง
“หนูแค่…อยากให้ใครสักคน…เชื่อหนูบ้าง”
เสียงนั้นแผ่วลง…ก่อนร่างเงาในประตูจะจางหายไปกับความมืด
เหลือเพียงประตูที่ยังเปิดอยู่ และลมเย็นจัดที่พัดเข้ามา
เมธาทรุดตัวลง หอบหายใจ หน้าซีดเผือด
เขารู้แล้ว…
เด็กคนนั้น — ยังไม่ไปไหนเลย
และที่แห่งนี้…อาจเป็นที่ที่เธอ ยังถูกขัง อยู่จนถึงวันนี้