ถึงเกิดมาจนก็ไม่เป็นไรเพราะเราจะรวยได้ด้วยสมองและสองมือ

ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย - ตอนที่ 6 แค่ของเลียนแบบ โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ครอบครัว,ปลูกผัก,เกิดใหม่,จีน,นิยายรักจีนโบราณ,#จูจูคนเก่ง,ครอบครัว,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ครอบครัว,ปลูกผัก,เกิดใหม่,จีน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นิยายรักจีนโบราณ,#จูจูคนเก่ง,ครอบครัว

รายละเอียด

ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ถึงเกิดมาจนก็ไม่เป็นไรเพราะเราจะรวยได้ด้วยสมองและสองมือ

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

การเกิดมาพร้อมพรสวรรค์ที่ไม่สามารถอธิบายให้ใครฟังได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบากนักในการใช้ชีวิตเมื่อครั้งยังเยาว์วัยแต่เมื่อเติบโตจนรู้ความเจียงเฟยจูกลับใช้ความสามารถที่มีติดตัวมาช่วยชีวิตคนทั้งครอบครัวไว้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเสาหลักอย่างบิดาเกิดมาหายตัวไปท่ามกลางสงครามไม่รู้เป็นไม่รู้ตายแต่เด็กสาวก็สามารถเป็นผู้นำครอบครัวฝ่าฟันอุปสรรคนานาประการจนได้มีความมั่งคั่งและมั่นคงได้ในที่สุด

แต่มันคงไม่มีอะไรที่เด็กสาวคนหนึ่งจะต้องการมากกว่าการที่มีโอกาสได้กลับมาอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวอีกครั้งเจียงเฟยจูจึงผลักดันและสนับสนุนสมาชิกในครอบครัวทุกวิถีทางให้ฐานะทางบ้านยิ่งมั่งคงและมั่งคงมากขึ้นไปโดยมีความหวังลึกๆ ในใจว่าเมื่อพบตัวบิดาท่านจะได้ไม่ต้องไปใช้ชีวิตนอนกลางดินกินกลางทรายและสุ่มเสี่ยงเช่นที่ผ่านๆ มาในเมื่อครอบครัวมีเส้นทางทำมาหากินเป็นของตนเองแล้ว

 

หมายเหตุ

1. นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ

2. มีการใช้ชื่อศัพท์ภาษาจีนเพื่ออรรถรสและมีการใส่วงเล็บชื่อภาษาไทยไว้ท้ายคำนะคะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้

1. ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์

2. ปลดเหรียญอ่านฟรี สัปดาห์

3. หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบค่ะ

สารบัญ

ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 1 ท่านแม่ไม่ต้องเป็นกังวล,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 2 หาลู่ทาง,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 3 ผลไม้ป่าของดีมีราคา,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 4 อย่าได้เห็นแก่เงิน,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 5 จัดลำดับการทำงาน,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 6 แค่ของเลียนแบบ,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 7 มีปากเสียง,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 8 เกินหน้าเกินตา

เนื้อหา

ตอนที่ 6 แค่ของเลียนแบบ

“พี่สาววันนี้มีสิ่งแปลกใหม่ที่หน้าร้านของท่านด้วยข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลยมันคืออะไรหรือเจ้าคะ” คุณหนูเหลยลูกค้าประจำของร้านมาถึงแต่เช้าและสะดุดตากับโหลแก้วหลายใบที่เจียงเฟยจูกัดฟันซื้อมันมาใช้เพื่อให้ลูกค้าเห็นวัตถุดิบสดใหม่ในการปรุงอาหารของนางโดยในโหลแก้วนั้นด้านในจะบรรจุกุ้งแห้ง ปลาป่น ถั่วลิสงคั่ว และพริกป่นที่คั่วและบดสดๆ ใหม่ๆ เอาไว้

“วันนี้มีรายการอาหารใหม่เรียกว่ายำผลไม้เจ้าสนใจลองชิมหรือไม่เสี่ยวหลิง” แน่นอนว่าเมื่อมีรายการอาหารใหม่เจียงเฟยจูก็ยินดีที่จะทำให้ลูกค้าประจำของนางได้ลองชิมเสมอ

“แน่นอนเจ้าค่ะแต่ถึงจะยังไม่ได้ชิมข้าก็พอจะเดาได้ว่ามันต้องอร่อยมาก” คุณหนูเหลยมั่นใจในฝีมือของพี่สาวแซ่เจียงอยู่เสมอไม่ว่านางจะทำอะไรออกมามันก็มักจะมีรสชาติอร่อยมากนอกจากผลไม้ปรุงรสต่างๆ แล้วเหลยจื่อหลิงยังเคยได้กินน้ำแกงไก่ตุ๋นบำรุงร่างกายที่พี่สาวตั้งใจตุ๋นมาฝากเมื่อครั้งที่นางป่วยแม้จะใช้เครื่องปรุงและสมุนไพรไม่ต่างจากที่แม่ครัวที่เรือนสกุลเหลยทำแต่มันกลับมีรสชาติที่แตกต่างและทำให้เด็กหญิงถึงกับลืมรสชาติของน้ำแกงนั้นไม่ลงกันเลยทีเดียว

“เช่นนั้นเจ้ารอพี่สาวสักครู่นะ เสี่ยวเจินเจ้าอย่าลืมติดป้ายบอกราคาที่หน้าร้านให้พี่ด้วย” เมื่อมีรายการอาหารเพิ่มขึ้นเจียงเฟยจูจึงคิดว่านางควรแจ้งราคาไว้ชัดเจนลูกค้าจะได้ไม่สับสนเพราะยำผลไม้จะขายในราคาสูงกว่าผลไม้คลุกผงปรุงรสและผลไม้แช่น้ำปรุงรสเล็กน้อยเพราะใช้วัตถุดิบมากกว่าเมื่อวานนี้เจียงเฟยจูจึงตั้งใจเขียนป้ายรายการอาหารพร้อมราคาด้วยความตั้งใจอีกทั้งยังวาดรูปผลไม้ลงไปอีกสองสามชนิดเพื่อหวังใช้มันในการดึงดูดลูกค้าและนำมาติดไว้ด้านหน้าของโต๊ะขายของ

ยำผลไม้ของเจียงเฟยจูวิธีการทำไม่ได้ยุ่งยากเพราะนางทำน้ำยำปรุงสำเร็จมาแล้วจากน้ำตาลเคี่ยวกับน้ำผสมเกลือเล็กน้อยให้มีรสชาติหวานนำเค็มตามคล้ายกับรสชาติของน้ำปลาหวานเครื่องจิ้มที่คุ้นเคยในชีวิตหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว เวลาจะขายก็เพียงนำผลไม้ที่มีรสออกเปรี้ยวหลายๆ ชนิดมาหั่นซอยให้เป็นเส้นๆ ขนาดเท่าๆ กันคลุกด้วยน้ำยำให้เข้ากันดีในขั้นตอนนี้หากใครชอบพริกจะเติมพริกป่นลงไปหลังจากตักใส่กระทงแล้วก็แค่โรยกุ้งแห้งหรือปลาป่น ถั่วลิสงคั่วและหัวหอมแดงซอยบางๆ ก็เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอน

“กลิ่นหอมมากเลยเจ้าค่ะหน้าตาอาหารข้าไม่คุ้นเคยเลยแม้แต่น้อยแต่มั่นใจว่ามันจะต้องอร่อยแน่ๆ” คุณหนูเหลยที่มีความมั่นใจในตัวของพี่สาวจูจูเต็มสิบส่วนเอ่ยชมก่อนจะใช้ตะเกียบคีบยำผลไม้เข้าปากชิมโดยไม่ลังเล

รสชาติหวานอมเปรี้ยวมีความเผ็ดเล็กน้อยรวมไปถึงสัมผัสหลากหลายในปากไม่ว่าจะเป็นกรุบกรอบจากผลไม้หรือความหนุบหนับจากกุ้งแห้งทำให้เด็กสาวยิ่งเคี้ยวอาหารในปากยิ่งเพลิดเพลินท่าทางคุณหนูน้อยที่หลับตาพริ้มในขณะที่ปิดปากเคี้ยวอาหารทำให้ชาวบ้านที่เดินผ่านไปผ่านมาถึงกับต้องหยุดดูว่าร้านแผงลอยเล็กๆ นี้ขายอะไร

“ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าคุณหนูผู้นี้กำลังกินอะไรนางจึงได้มีสีหน้ามีความสุขเช่นนั้น” ท่านป้าคนหนึ่งที่เก็บความสงสัยเอาไว้ไม่อยู่เดินตรงเข้ามาถามเจียงเฟยจูในทันที

“คุณหนูเหลยกำลังรับประทานยำผลไม้ของร้านข้าอยู่เจ้าค่ะท่านป้าหากท่านสนใจเชิญลองชิมก่อนได้” ว่าแล้วมือเล็กๆ ที่แข็งแรงของเจียงเฟยจูก็จัดการแบ่งยำผลไม้ในชามที่เพิ่งทำให้คุณหนูเหลยชิมให้ท่านป้าผู้นี้บ้างอีกทั้งนางยังตักใส่กระทงใบเล็กที่สามารถชิมได้สองถึงสามคำวางเรียงเป็นระเบียบใส่ถาดให้ชาวบ้านที่เดินผ่านไปผ่านมาได้ลองชิมโดยไม่หวงของ

“วันนี้ข้ามีรายการอาหารใหม่ที่ชื่อว่ายำผลไม้มานำเสนอราคาจะแตกต่างจากผลไม้คลุกผงปรุงรสและผลไม้แช่น้ำปรุงรสเล็กน้อยเพราะวัตถุดิบที่ใช้มีมากกว่าแต่รับประกันว่ารสชาติของมันจะไม่ทำให้พวกท่านต้องผิดหวังอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ” เมื่อชาวบ้านเริ่มเข้ามารุมล้อมเจียงเฟยจูก็เริ่มพูดเชิญชวนลูกค้าพร้อมแนะนำอาหารจานใหม่ไปด้วยส่วนเจียงเฟยเจินก็กำลังเดินถือถาดใส่อาหารทดลองชิมไปแจกจนทั่ว

“ยำผลไม้ราคาแปดอีแปะเชียวหรือแม่หนูเท่าที่ดูก็เป็นเพียงผลไม้ป่ามิใช่หรือ” มีใครสักคนตะโกนติเรื่องราคาขึ้นมาเสียเสียงดังทำให้บรรดาลูกค้าถึงกับถอยกรูดกันด้วยความตกใจในราคาขายของยำผลไม้หนึ่งกระทง

“จริงอยู่ที่วัตถุดิบหลักจะเป็นเพียงผลไม้ป่าที่ไม่มีราคาแต่ท่านอย่าลืมนะเจ้าคะว่าในยำผลไม้นี้ข้ายังใส่วัตถุดิบอื่นๆ ลงไปอีกมาก ข้าจึงมั่นใจว่าการที่ขายในราคานี้นั้นมันเหมาะสมแล้ว” เด็กสาวตอบคำถามด้วยรอยยิ้มและตั้งใจผายมือให้ชาวบ้านมองเห็นทั้งกุ้งแห้งสีอ่อนรวมถึงถั่วลิสงคั่วสีนวลในขวดโหลแก้วลำพังภาชนะที่ใช้บรรจุวัตถุดิบนั้นก็มีราคาแพงระยับซึ่งอันที่จริงนางจะนำวัตถุดิบใส่ไหเอาไว้ก็ได้เพียงแต่มันจะไม่ทำให้ลูกค้ามองเห็นภาพที่ชัดเจนจึงต้องยอมลงทุน

ซึ่งนอกจากวัตถุดิบในขวดแก้วนี้แล้วเจียงเฟยจูยังมีวัตถุดิบลับอันเป็นสูตรเด็ดเคล็ดลับของตัวเองอีกหนึ่งอย่างที่ไม่สามารถเปิดเผยได้เป็นไม้ตายของอาหารสูตรนี้อีกหนึ่งอย่างซึ่งมันเป็นสิ่งที่นางลองเสี่ยงลงมือทำดูแล้วมันก็ให้ผลดีมากแม้จะต้องใช้เวลาและความใส่ใจในการทำมากสักหน่อยก็ตาม

“ก็จริงของเจ้าเอาล่ะข้าขอซื้อยำผลไม้สองกระทงจะซื้อไปฝากลูกๆ ที่บ้านพวกเขาน่าจะชอบกินกันแต่ขอแบบไม่ใส่พริกนะแม่หนูบ้านข้ามีแต่เด็กๆ” แล้วท่านป้าที่เดินเข้ามาถามเป็นคนแรกก็มาสั่งยำผลไม้ซึ่งนอกจากเจียงเฟยจูจะตั้งใจทำให้อย่างใส่ใจแล้วนางยังแนะนำวิธีการรับประทานให้อร่อยด้วยการแยกผลไม้และน้ำยำปรุงรสให้ลูกค้าเผื่อว่ายังไม่รับประทานในทันที

“พี่สาวข้าขอสั่งยำผลไม้ด้วยห้ากระทงส่วนผลไม้คลุกผงปรุงรสและผลไม้แช่น้ำปรุงรสก็ขอซื้ออีกอย่างละสองกระทงเจ้าค่ะ” คุณหนูเหลยที่เพิ่งชิมยำผลไม้หมดกระทงเล็กๆ ไปเดินมาสั่งอาหารที่ต้องการด้วยความอารมณ์ดีโดยไม่ลืมที่จะให้คนงานที่เดินติดตามมาด้วยวิ่งกลับไปที่ร้านขายสมุนไพรสกุลเหลยเพื่อไปนำปิ่นโตใส่อาหารมาให้นางเพิ่ม

“พี่สาวจะแยกน้ำยำผลไม้ไปให้เจ้านะเสี่ยวหลิงเวลาจะกินค่อยนำผลไม้มาคลุกกับน้ำยำและโรยหน้าด้วยเครื่องในกระทงนี้หากคลุกไปเลยสักพักผลไม้จะคายน้ำออกมาทำให้เสียรสและยำจะแฉะจนไม่น่ารับประทาน” หญิงสาวยังคงแนะนำคุณหนูเหลยเช่นเดียวกับที่และนำลูกค้าคนอื่นๆ ซึ่งผลจากการมีรายการอาหารใหม่มาเพิ่มทำให้วันนี้เจียงเฟยจูปิดร้านเร็วขึ้นกว่าเดิมเกือบจะครึ่งชั่วยามเพราะไม่มีผลไม้จะขายอีกแล้ว

แต่แล้วสิ่งที่เจียงเฟยจูเคยคิดเล่นๆ เอาไว้ก็เป็นความจริงขึ้นมาจนได้เมื่อหลังจากที่นางขายยำผลไม้ได้ราวๆ หนึ่งเดือนกว่าๆ ก็มีร้านค้ามาตั้งแผงขายยำผลไม้เช่นเดียวกันซึ่งสองสามวันแรกลูกค้าก็แห่ไปอุดหนุนร้านนั้นจนเด็กสาวขายได้ไม่ดีเท่าที่ควรแต่นางก็ยังไม่ได้เป็นกังวลเพราะสามารถเดาสถานการณ์ของร้านนั้นได้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป

“จูเอ๋อร์ยังมียำผลไม้อยู่หรือไม่ข้ามาซื้อให้เสี่ยวหลิงวันนี้นางต้องช่วยท่านแม่อยู่ที่เรือนจึงมิได้ออกมาเดินตลาด อ้อ ขอซื้อทุกรายการอย่างละสามกระทงนะ” ช่วงสายๆ ของวันคุณชายใหญ่เหลยจื่อซวานเดินมาที่ร้านของเจียงเฟยจูพร้อมปิ่นโตเพื่อมาซื้อยำผลไม้ตามคำขอของน้องสาวสุดที่รัก

โดยปกติแล้วเหลยจื่อหลิงจะรับประทานผลไม้ที่ร้านของเจียงเฟยจูทุกวันอีกทั้งยังซื้อไปฝากคนที่ร้านขายสมุนไพรเป็นประจำทำให้พี่ชายอย่างเขาคุ้นเคยกับอาหารรสเปรี้ยวแต่กลมกล่อมที่ปรุงจากผลไม้พวกนี้ไปโดยปริยาย

“ยังมีอยู่เจ้าค่ะ คุณชายใหญ่เหลยรอสักครู่นะเจ้าคะ” เจียงเฟยจูตอบคำถามด้วยใบหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มและมือเล็กๆ ที่ดูนุ่มนิ่มของนางก็หยิบผลไม้ออกมาหั่นด้วยมีดคมอย่างคล่องแคล่วในขณะที่น้องสาวนั้นรับปิ่นโตไปจัดวัตถุดิบที่เป็นเครื่องเคียงและน้ำยำใส่กระทงใบเล็กๆ ด้วยความรวดเร็วเมื่อเสร็จแล้วก็ไปตักผลไม้แช่น้ำปรุงรสต่อเมื่อมีสองแรงแข็งขันช่วยกันจึงทำให้คุณชายใหญ่เหลยยืนรอเพียงแค่ครู่เดียว

“เห็นเสี่ยวหลิงเล่าให้ฟังว่ามีร้านมาขายยำผลไม้เหมือนเจ้าที่ในตลาดแล้วเช่นนี้ไม่มีผลกระทบอะไรหรือ” คุณชายใหญ่เหลยเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ปิดบังเลยว่าเป็นห่วงเนื่องจากเขาคุ้นเคยกับพี่น้องสกุลเจียงดีเพราะเป็นทั้งคู่ค้าและลูกค้ากันมานานแล้วบ้านเจียงนอกจากจะมาซื้อหาสมุนไพรรักษาโรคแล้วยังเก็บสมุนไพรมาขายให้ร้านของครอบครัวเขาอยู่บ่อยๆ และทุกครั้งก็จะขายได้ราคาค่อนข้างสูงเนื่องจากนางมีวิธีการจัดการสมุนไพรอย่างถูกต้องเหมาะสมไม่ใช่เก็บมาส่งๆ อย่างที่บางคนชอบทำกัน

“ก็น่าจะมีผลบ้างแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่เพียงแค่ต้องใช้เวลาขายของนานกว่าเดิมเล็กน้อยเท่านั้น ขอบคุณคุณชายใหญ่เหลยที่ถามไถ่กันนะเจ้าคะ” ถึงจะบอกอีกคนไปว่าต้องขายของนานกว่าเดิมแต่เจียงเฟยจูก็ไม่เคยใช้เวลาอยู่ตลาดเกินกว่าครึ่งวันสักครั้งนางเมื่อยังขายของหมดจะพาเสี่ยวเจินกลับบ้านได้ทันเวลาอาหารกลางวันเสมอ

“การค้าก็เป็นเช่นนี้แต่ข้ามั่นใจว่าเจ้าขายของดีมีคุณภาพและมีเอกลักษณะเฉพาะตัวไม่นานลูกค้าก็จะมองเห็นถึงความแตกต่างนั้นได้ด้วยตนเองเอง”

คำที่คุณชายใหญ่เหลยว่าไว้นั้นไม่เกินจริงเพราะไม่ถึงสิบวันลูกค้าที่เคยหายหน้าหายตาไปนานก็กลับมาอุดหนุนสองพี่น้องสกุลเจียงกันอย่างแน่นขนัดพร้อมๆ กับที่นางได้ยินเรื่องเล่าจากชาวบ้านกินแตงที่มาพูดถึงร้านขายยำผลไม้อีกร้านให้เจียงเฟยจูและเจียงเฟยเจินได้ยินได้ฟัง

เท่าที่จับใจความได้ร้านขายยำผลไม้ร้านใหม่นั้นเป็นคนของเถ้าแก่ฉินเจ้าของร้านขายผลไม้เจ้าใหญ่ในตำบลนี้ที่คิดเลียนแบบวิธีการทำยำผลไม้ของเจียงเฟยจูซึ่งแรกๆ ก็เหมือนจะดีแม้ว่าน้ำยำจะมีรสชาติแตกต่างกันอยู่บ้างแต่ก็ไม่มีปัญหาเนื่องจากที่ร้านใหม่นั้นให้ผลไม้เยอะกว่าแต่พอผ่านไปไม่นานลูกค้าก็พบว่าผลไม้ที่ใส่ยำนั้นมีส่วนที่เน่าเสียอีกทั้งในยำก็เจอเส้นผมหลายต่อหลายครั้งผู้คนจึงเลิกอุดหนุนร้านนั้นและกลับมาซื้อร้านต้นตำรับของสองพี่น้องสกุลเจียงกันเช่นเดิม

“พี่ใหญ่เจ้าคะลูกค้ากลับมาซื้อยำผลไม้ที่ร้านของเราแล้วน่าดีใจยิ่งนัก” เสี่ยวเจินยิ้มกว้างให้พี่สาวแม้วันนี้ลูกค้าจะมาอุดหนุนอาหารที่พี่ใหญ่ทำกันจนแน่นร้านทำให้แทบไม่มีเวลาได้นั่งพักเลยแต่เด็กหญิงตัวน้อยก็ยังคงมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าเล็กๆ ของนาง

“ยิ่งลูกค้ามาซื้ออาหารร้านเรามากเท่าไหร่เสี่ยวเจินก็ต้องยิ่งรักษามาตรฐานเอาไว้พี่ใหญ่จะบอกเจ้าเอาไว้เลยว่านอกจากรสชาติแล้วความสะอาดของแม่ค้าก็สำคัญทุกๆ วันพี่จึงต้องถักเปียไม่ก็มัดผมของพวกเราเก็บให้เรียบร้อย ก่อนหยิบอาหารก็จำเป็นต้องล้างมือหากร้านสกปรกลูกค้าเห็นเข้าก็จะไม่กลับมาอุดหนุนพวกเราอีก”

“เสี่ยวเจินเข้าใจเจ้าค่ะ แต่ว่าข้าอยากขายของได้มากกว่านี้จังเลย” โชคดียิ่งนักที่ทั้งน้องชายน้องสาวของเจียงเฟยจูเป็นเด็กที่ว่าง่ายหากพวกเขามีใครสักคนมีนิสัยดื้อรั้นนางคงจะปวดหัวมากกว่านี้และสิ่งที่น้องสาวเพิ่งพูดออกมาก็ทำให้คนเป็นพี่เริ่มคิดทบทวนว่าทุกวันนี้พวกนางแบกผลไม้ใส่ตะกร้ามาแค่เท่าที่พอไหวทำให้สินค้าที่จะขายมีปริมาณจำกัดมันจะดีกว่าหรือไม่หากคิดจะหาอะไรมาช่วยทุ่นแรงในเรื่องการขนของ

ทุกวันนี้เจียงเฟยจูจะเป็นคนที่สะพายตะกร้าใบใหญ่ที่ใส่ผลไม้ส่วนเจียงเฟยเจินนั้นจะสะพายตะกร้าใส่ของใช้อื่นๆ ที่เบากว่าซึ่งนับว่าเป็นโชคดีที่ของใช้อย่างเช่นโต๊ะหรือถาดนั้นเถ้าแก่หูหรือท่านปู่หูให้ฝากไว้ที่ร้านพวกนางจึงไม่ต้องแบกไปกลับให้ต้องเหนื่อยเพิ่มมากขึ้น

“เอาไว้พี่จะเก็บเงินไปซื้อรถเข็นสักคันนะเสี่ยวเจินพวกเราจะได้ขนของมาขายได้มากขึ้นกว่านี้"