ถึงเกิดมาจนก็ไม่เป็นไรเพราะเราจะรวยได้ด้วยสมองและสองมือ

ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย - ตอนที่ 2 หาลู่ทาง โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ครอบครัว,ปลูกผัก,เกิดใหม่,จีน,นิยายรักจีนโบราณ,#จูจูคนเก่ง,ครอบครัว,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ครอบครัว,ปลูกผัก,เกิดใหม่,จีน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นิยายรักจีนโบราณ,#จูจูคนเก่ง,ครอบครัว

รายละเอียด

ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ถึงเกิดมาจนก็ไม่เป็นไรเพราะเราจะรวยได้ด้วยสมองและสองมือ

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

การเกิดมาพร้อมพรสวรรค์ที่ไม่สามารถอธิบายให้ใครฟังได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบากนักในการใช้ชีวิตเมื่อครั้งยังเยาว์วัยแต่เมื่อเติบโตจนรู้ความเจียงเฟยจูกลับใช้ความสามารถที่มีติดตัวมาช่วยชีวิตคนทั้งครอบครัวไว้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเสาหลักอย่างบิดาเกิดมาหายตัวไปท่ามกลางสงครามไม่รู้เป็นไม่รู้ตายแต่เด็กสาวก็สามารถเป็นผู้นำครอบครัวฝ่าฟันอุปสรรคนานาประการจนได้มีความมั่งคั่งและมั่นคงได้ในที่สุด

แต่มันคงไม่มีอะไรที่เด็กสาวคนหนึ่งจะต้องการมากกว่าการที่มีโอกาสได้กลับมาอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวอีกครั้งเจียงเฟยจูจึงผลักดันและสนับสนุนสมาชิกในครอบครัวทุกวิถีทางให้ฐานะทางบ้านยิ่งมั่งคงและมั่งคงมากขึ้นไปโดยมีความหวังลึกๆ ในใจว่าเมื่อพบตัวบิดาท่านจะได้ไม่ต้องไปใช้ชีวิตนอนกลางดินกินกลางทรายและสุ่มเสี่ยงเช่นที่ผ่านๆ มาในเมื่อครอบครัวมีเส้นทางทำมาหากินเป็นของตนเองแล้ว

 

หมายเหตุ

1. นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ

2. มีการใช้ชื่อศัพท์ภาษาจีนเพื่ออรรถรสและมีการใส่วงเล็บชื่อภาษาไทยไว้ท้ายคำนะคะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้

1. ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์ (  4 เหรียญ)

2. ปลดเหรียญอ่านฟรี 1 สัปดาห์

3. หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบค่ะ ( 8 เหรียญ) 

สารบัญ

ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 1 ท่านแม่ไม่ต้องเป็นกังวล,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 2 หาลู่ทาง,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 3 ผลไม้ป่าของดีมีราคา,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 4 อย่าได้เห็นแก่เงิน,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 5 จัดลำดับการทำงาน,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 6 แค่ของเลียนแบบ,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 7 มีปากเสียง,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 8 เกินหน้าเกินตา,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 9 พบโชคใหญ่,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 10 พลิกชีวิต,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 11 ขยับขยาย ปลดเหรียญอ่านฟรี 14 กรกฎาคม 68 ติดเหรียญถาวร 21 กรกฎาคม 68,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 12 เริ่มเข้าที่เข้าทาง ปลดเหรียญอ่านฟรี 15 กรกฎาคม 68 ติดเหรียญถาวร 22 กรกฎาคม 68,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 13 กิจการภายในครอบครัว ปลดเหรียญอ่านฟรี 16 กรกฎาคม 68 ติดเหรียญถาวร 23 กรกฎาคม 68,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 14 การพัฒนาที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ปลดเหรียญอ่านฟรี 17 กรกฎาคม 68 ติดเหรียญถาวร 24 กรกฎาคม 68,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 15 วัตถุดิบอันล้ำค่า ปลดเหรียญอ่านฟรี 18 กรกฎาคม 68 ติดเหรียญถาวร 25 กรกฎาคม 68,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 16 พริบตาเดียว ปลดเหรียญอ่านฟรี 19 กรกฎาคม 68 ติดเหรียญถาวร 26 กรกฎาคม 68,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 17 ข่าวจากชายแดน ปลดเหรียญอ่านฟรี 21 กรกฎาคม 68 ติดเหรียญถาวร 28 กรกฎาคม 68,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 18 ท่านพ่อกลับบ้าน ปลดเหรียญอ่านฟรี 22 กรกฎาคม 68 ติดเหรียญถาวร 29 กรกฎาคม 68,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 19 เข้าป่าขุดโสม ปลดเหรียญอ่านฟรี 23 กรกฎาคม 68 ติดเหรียญถาวร 30 กรกฎาคม 68,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 20 เตรียมการฟื้นฟูร่างกายบิดา ปลดเหรียญอ่านฟรี 24 กรกฎาคม 68 ติดเหรียญถาวร 31 กรกฎาคม 68,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 21 สถานการณ์โดยทั่วไป ปลดเหรียญอ่านฟรี 25 กรกฎาคม 68 ติดเหรียญถาวร 1 สิงหาคม 68,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 22 ปกป้องครอบครัว ปลดเหรียญอ่านฟรี 27 กรกฎาคม 68 ติดเหรียญถาวร 3 สิงหาคม 68,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 23 จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ปลดเหรียญอ่านฟรี 28 กรกฎาคม 68 ติดเหรียญถาวร 4 สิงหาคม 68,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 24 เรื่องร้ายผ่านพ้น ปลดเหรียญอ่านฟรี 29 กรกฎาคม 68 ติดเหรียญถาวร 5 สิงหาคม 68,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 25 ขยับขยายกิจการ ปลดเหรียญอ่านฟรี 30 กรกฎาคม 68 ติดเหรียญถาวร 6 สิงหาคม 68,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 26 พึ่งพาอาศัย ปลดเหรียญอ่านฟรี 31 กรกฎาคม 68 ติดเหรียญถาวร 7 สิงหาคม 68,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 27 ยิ่งเติบโตยิ่งงดงาม ปลดเหรียญอ่านฟรี 1 สิงหาคม 68 ติดเหรียญถาวร 8 สิงหาคม 68,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 28 มีคนร้อนใจ ปลดเหรียญอ่านฟรี 4 สิงหาคม 68 ติดเหรียญถาวร 11 สิงหาคม 68,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 29 เหตุร้าย ปลดเหรียญอ่านฟรี 5 สิงหาคม 68 ติดเหรียญถาวร 12 สิงหาคม 68,ท่านแม่เจ้าขา ข้าจะพาให้ท่านร่ำรวย-ตอนที่ 30 ฟ้าหลังฝน (จบ) ปลดเหรียญอ่านฟรี 6 สิงหาคม 68 ติดเหรียญถาวร 13 สิงหาคม 68

เนื้อหา

ตอนที่ 2 หาลู่ทาง

สกุลเจียงทั้งบ้านใหญ่ของบิดาของเจียงเฟยจูและบ้านรองของท่านอาเจียงหนิงเทียนนั้นมีอาชีพหลักคือการหาของป่าและล่าสัตว์เอาไปขายในตัวตำบลแต่โชคดีที่ทั้งสองบ้านพอจะมีที่ดินทำนาปลูกข้าวของตนเองจึงมีฐานะพอมีพอกินไม่ขัดสนแต่ไม่ถึงกับสบายเป็นเศรษฐีดังนั้นเจียงเฟยจูจึงต้องมาคิดหาทางเพิ่มรายได้ให้ครอบครัวเพราะไม่มีอะไรการันตีได้ว่าจะหาท่านพ่อพบได้ในเร็ววัน

และหลังจากที่พบเจอท่านพ่อแล้วยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะต้องหาเงินอีกมากเท่าไหร่เพื่อใช้ในการดูแลรักษาฟื้นฟูร่างกายของบิดาให้กลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมเพราะฉะนั้นการที่มีเงินติดบ้านเอาไว้ย่อมเป็นสิ่งที่สมควรที่สุดแล้วสำหรับเวลานี้

วันรุ่งขึ้นหลังจากที่ครอบครัวได้รับข่าวที่ไม่สู้ดีเจียงเฟยจูใช้เวลาส่วนมากนั่งคิดทบทวนว่าตัวเองจะสามารถทำงานอะไรเพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้ครอบครัวดีซึ่งโดยปกติแล้วมารดาจะพานางเข้าไปขายผลไม้ป่าไม่ก็ของป่าที่ตัวตำบลวันเว้นวันส่วนบ้านของท่านอานั้นแทบจะเข้าตำบลทุกวันแต่จะไปในยามสายเนื่องจากต้องไปดูกับดักสัตว์ที่วางเอาไว้ในตอนกลางคืนเสียก่อน

ซึ่งบ่อยครั้งที่มีสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยเช่น ไก่ป่า กระต่ายป่ามาติดกับดักแต่ก็บ่อยอยู่ที่มีกวางหรือหมูป่ามาตกลงไปหลุมดักสัตว์ที่ขุดเอาไว้สัตว์ที่ขายได้ราคาก็ขายไปแต่ส่วนใหญ่ท่านอาเล็กมักจะจับไก่ป่ามาให้บ้านใหญ่เลี้ยงเอาไว้เพื่อกินไข่ถึงแม้ไข่ของไก่ป่าจะมีขนาดไม่ใหญ่นักก็ตาม

ในระหว่างที่มารดายังคงนั่งนิ่งๆ และปล่อยให้น้ำตารินไหลบุตรทั้งสามคนยังทำหน้าที่ประจำวันของตัวเองไปอย่างไม่ขาดตกบกพร่องและทุกคนจะเลือกทำงานอยู่ในบริเวณตัวเรือนที่มองเห็นท่านแม่ได้ง่ายมากกว่าการเข้าป่าไปหาผลไม้หรือล่าสัตว์ทั้งนี้ก็เพื่อความสบายใจของตนเอง

“เสี่ยวเจินคิดว่าผลไม้คลุกผงลูกเหมย (ลูกบ๊วย) ของพี่ใหญ่มีรสชาติเป็นอย่างไรบ้าง” หลังจากที่หายตัวเข้าไปในครัวอยู่นานสองนานเจียงเฟยจูก็ออกมาพร้อมถือชามใบใหญ่ใส่ผลไม้ป่าคลุกผงลูกเหมยหรือว่าผงบ๊วยที่นางทำเองออกมาซึ่งวิธีทำก็ไม่ได้ยากช่วงไหนที่มีลูกเหมยป่าออกมากก็แค่เก็บผลที่เริ่มสุกมาดองเกลือกับน้ำตาลทิ้งไว้เป็นเวลาสองเดือนจากนั้นในเดือนที่สามก็เอาขึ้นจากไหดองมาตากแดดให้แห้งสนิทเท่านี้ก็จะได้ผลเหมยดองรสชาติเค็มหวานตากแห้งเก็บไว้รับประทานได้นานแล้ว

ส่วนขั้นตอนการทำผลไม้คลุกผงลูกเหมยก็แค่แกะเนื้อของลูกเหมยดองตากแห้งออกมาบดให้ละเอียดสลับกับนำออกตากแดดและนำกลับมาบดซ้ำๆ ให้มีลักษณะเป็นผงซึ่งเจียงเฟยจูจะทำเก็บเอาไว้ในปริมาณมากๆ เวลาจะรับประทานเพียงตักผงลูกเหมยป่นและน้ำตาลมาผสมกันสามารถใส่ได้มากๆ หากว่าชอบรสชาติจัดจ้านจากนั้นนำผลไม้ป่ารสเปรี้ยวหั่นเป็นชิ้นพอดีคำมาคลุกเคล้าลงไปเท่านี้ก็สามารถรับประทานได้อร่อยแล้วนอกจากนี้จะพลิกแพลงเติมผงพริกป่นลงไปอีกรสน้อยก็จะได้รสชาติอีกแบบหนึ่งซึ่งอร่อยไม่แพ้กัน

“อร่อยมากเจ้าค่ะพี่ใหญ่ ที่ตลาดข้าไม่เคยเห็นใครขายผลไม้ปรุงรสแบบนี้เลยสักคน หากท่านพี่ต้องการทำขายข้าสนับสนุนเต็มที่” ไม่ต้องเอ่ยปากน้องสาวคนเล็กก็พอจะรู้ว่าพี่สาวอยากจะนำผลไม้คลุกผงลูกเหมยไปขายเพราะนางได้ยินพี่สาวเปรยๆ กับท่านอาเรื่องการขายของเอาไว้เมื่อตอนเช้าวันนี้ก่อนที่ท่านอาเล็กจะเข้าไปขายของในตำบลได้แวะมาดูพวกนางพี่น้องก่อนด้วยความเป็นห่วง

“หากพี่ใหญ่อยากขายผลไม้ข้าจะไปเก็บมาให้ท่านทุกวันเลยขอรับเพราะอย่างไรข้าก็ต้องเข้าป่าไปล่าสัตว์อยู่แล้ว” แม้จะไม่ได้เข้าป่าลึกกับท่านอาแค่บริเวณชายป่าเจียงเฟยหมิงก็ล่ากระต่ายและไก่ป่าไม่ก็นกกลับมาบ้านได้ทุกวันส่วนมากก็เอามาปรุงอาหารกินกันภายในครอบครัวแต่ถ้าช่วงไหนล่าสัตว์ได้เยอะพี่ใหญ่และท่านแม่ก็จะช่วยกันทำเนื้อรมควันรวบรวมเอาไปขายที่ในตลาด ทุกๆ สามสี่วันก็เข้าไปขายกันเสียหนึ่งครั้งไม่ว่าจะทำออกมามากเท่าไหร่ก็ขายหมดทุกทีเด็กชายจึงมีกำลังใจมากที่จะเข้าป่าไปทุกๆ วัน

“พี่คิดว่ามันน่าจะทำเงินให้เราได้เพราะหากขายแต่ผลไม้ป่าโดยไม่มีการดัดแปลงหรือปรุงแต่งคงจะไม่มีใครกินเพราะรสชาติของมันค่อนข้างเปรี้ยวอีกทั้งผลไม้ป่าเป็นสิ่งที่หาง่ายไม่ค่อยมีราคาใครๆ ก็สามารถไปเก็บมากินได้อยู่แล้ว” ป่าแถบนี้มีผลไม้มากมายหลายอย่างถึงแม้ว่าผลไม้ป่าจะมีกลิ่นที่แตกต่างแต่รสชาติของมันนั้นกลับไปในทางเดียวกันเสียหมดจะต่างกันที่เปรี้ยวมากเปรี้ยวน้อยไปตามชนิดและความสุกของมัน

อย่างที่สวนหลังบ้านของเจียงเฟยจูมีทั้งต้นลูกเหมย (ต้นบ๊วย) ต้นต้าเจ่า (พุทราป่า) ต้นเถาจื่อ (ลูกท้อ) ต้นผิงกั่ว (แอปเปิล) และต้นโย่วจึ (ส้มโอ) ที่มันเปรี้ยวจนเข็ดฟันแต่เมื่อท่านพ่อขุดมันมาปลูกไว้ในสวนตามคำขอของนางก็คล้ายกับว่าพวกมันจะมีรสชาติที่เปรี้ยวน้อยลงกว่าเดิมที่สำคัญยังออกดอกออกผลให้เก็บกินกันได้ทั้งปี ภายในเรือนของนางจึงไม่เคยขาดผลไม้สดและผลไม้ดองที่ใช้ปรุงรสอาหารให้มีรสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น

อย่างผลเหมยดองเค็มและดองแบบเค็มหวานของนางนั้นมีรสชาติดีมากไม่ว่าจะนำไปปรุงอาหารหรือว่าชงเป็นเครื่องดื่มต่างช่วยเพิ่มความอยากรับประทานอาหารให้มากขึ้นได้ในครอบครัวเจียงเมื่อมีใครเพิ่งสร่างไข้หากได้ดื่มน้ำแกงหมูสับใส่ผลเหมยดองเข้าไปรับรองว่ากินข้าวได้หมดชามกันทุกคน

“แต่ขายแค่อย่างเดียวไม่น่าพอพี่ว่าจะทำผลไม้แช่น้ำปรุงรสจากลูกเหมยดองให้พวกเจ้าลองชิมหากว่ามันอร่อยพี่ก็จะทำขายด้วย” ในชีวิตที่เท่าไหร่ไม่รู้ของเจียงเฟยจูนางเคยเป็นแม่ค้าขายผลไม้ทั้งผลไม้สด ผลไม้ดองและผลไม้แปรรูปต่างๆ อย่างผลไม้แช่บ๊วยซึ่งแน่นอนสูตรการปรุงและการทำต่างๆ มันยังติดตัวนางมาถึงชาตินี้แม้วัตถุดิบจะมีค่อนข้างจำกัดแต่เด็กสาวก็มั่นใจว่าตนเองจะสามารถดัดแปลงและปรุงมันขึ้นมาใหม่ได้เพราะของแบบนี้มันพลิกแพลงและดัดแปลงกันได้ตลอดอยู่แล้วอาหารนั้นมันไม่มีสูตรตายตัวสามารถปรับได้ตามความเหมาะสม

“ข้าจะรอชิมเจ้าค่ะเอาไว้ท่านอาเล็กกับอาสะใภ้กลับมาพี่ใหญ่ก็ลองเอาผลไม้ที่ทำไปฝากให้ลองชิมสิเจ้าคะเราจะได้มีคนช่วยติชม” หลังจากกลืนผลไม้ที่กินอยู่จนหมดปากน้องสาวตัวน้อยของเจียงเฟยจูก็เสนอแนะวิธีการที่จะทำให้พี่สาวมั่นใจในฝีมือของตนเองเพิ่มขึ้นเพราะเด็กหญิงเข้าใจดีว่าหากชิมกันเองในบ้านมันจะได้ผลออกมาเป็นอร่อยอย่างเดียวแน่นอนอยู่แล้ว

“เป็นความคิดที่ดีถ้าเช่นนั้นพี่จะไปเตรียมผลไม้แล้วก็ทำอาหารกลางวันเลยก็แล้วกันท่านแม่จะได้กินข้าวกินยาด้วย” ด้วยมารดายังมีอาการเหม่อลอยจนน่ากังวลเจียงเฟยจูจึงปรึกษาท่านอาตั้งแต่เมื่อเช้าและได้คำแนะนำว่าควรต้มเมล็ดในของผลต้าเจ่าที่มีฤทธิ์ผ่อนคลายให้มารดาดื่มไปก่อนเพื่อจะได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่นางจึงไม่ลังเลเลยที่จะทำด้วยไม่อยากให้มารดามานั่งคิดมากจนฟุ้งซ่านเกินไปจนนอนไม่หลับเพราะมันจะส่งผลให้สุขภาพจะทรุดโทรมลงได้

ส่วนผลไม้แช่บ๊วยหรือผลไม้แช่น้ำปรุงรสนั้นทำไม่ยากเพียงแต่ต้องใช้เวลาสักนิดเพื่อที่จะให้น้ำปรุงรสซึมเข้าเนื้อผลไม้โชคดีที่ก่อนหน้านางไปเก็บผิงกั่วมาไว้ในครัวจึงไม่ต้องไปวุ่นวายออกไปเก็บผลไม้ให้เหนื่อย

ผลผิงกั่วที่ล้างทำความสะอาดให้ดีแล้วผึ่งพักเอาไว้ให้แห้งจากนั้นก็นำลูกเหมยดองเค็มหวานมาบี้ๆ พอแตกผสมกับน้ำดองจากนั้นก็ผสมน้ำเติมน้ำตาลและเกลือให้ออกรสหวานนำรสเปรี้ยวและเค็มตามห่างๆ เมื่อได้รสชาติที่ต้องการแล้วก็แค่นำขึ้นตั้งไฟให้เดือดรอจนน้ำปรุงเย็นสนิทแล้วจึงค่อยนำผลไม้ที่ต้องการหั่นเป็นชิ้นก่อนนำลงไปแช่ทิ้งไว้ราวๆ สองเค่อถึงครึ่งชั่วยามก็กินได้แล้วแต่ข้อควรระวังคืออย่าแช่ผลไม้เอาไว้ในน้ำปรุงรสนานจนเกินไปเพราะเนื้อผลไม้จะเหี่ยวไม่กรอบอร่อย

 

“รสชาติเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะท่านอา ท่านอาสะใภ้ข้าตั้งใจจะทำผลไม้พวกนี้ไปขายในตำบล” หลังจากที่ท่านอาทั้งสองกลับมาจากขายของป่าที่ตลาดแล้วเจียงเฟยจูก็ฝากให้น้องๆ ดูแลท่านแม่ส่วนตัวเองก็เดินมาที่เรือนของท่านอาที่อยู่ค่อนไปทางท้ายหมู่บ้านที่มีความเป็นส่วนตัวนอกจากนี้ที่นาของทั้งบ้านใหญ่และบ้านรองเจียงยังอยู่ด้านหลังของบ้านท่านอานี่เองจึงทำให้ดูแลความเรียบร้อยได้ง่าย

“รสชาติไม่คุ้นลิ้นแต่กินแล้วหยุดไม่ได้เลยล่ะอาคิดว่ามันต้องขายได้แล้วก็ขายดีด้วย ดูสิน้องๆ ของเจ้ากินกันเพลินเลยพอก่อนเถอะถิงเอ๋อร์ เสี่ยวจินหากเจ้ากินผลไม้มากไปจะกินข้าวได้น้อยแล้วมารดาเจ้าก็จะโกรธเอาอีก” นอกจากจะปรามบุตรสาวที่ยังคงหยิบผลไม้เข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ ไม่หยุดแล้วเจียงหนิงเทียนที่อารมณ์ดีเพราะขายของป่าหมดเร็วก็ยังแวะปูดหยอกเย้าภรรยาของตนเองอีกด้วย

“มันอร่อยอย่างที่ท่านอาของเจ้าว่าจริงๆ นี่คือผลเหมยป่าที่เจ้าเคยดองมาให้อาสะใภ้ใช่หรือไม่” เจียงซินหยานอาสะใภ้ผู้คุ้นเคยกับรสชาติของผลเหมยดองของหลานสาวสามีเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ

“ใช่เจ้าค่ะอาสะใภ้เพียงแต่นำมาปรุงเพิ่มอีกนิดให้รสชาติเข้มข้นขึ้น” เจียงเฟยจูไม่คิดที่จะปิดบังอะไรเพราะมันก็ไม่ใช่ความลับนางจึงบอกอาสะใภ้ไปตรงๆ เพียงแต่ไม่ได้ลงรายละเอียดวิธีการทำเท่านั้นเอง

“เช่นนี้แล้วเจ้าจะไปขายผลไม้ของเจ้าวันไหนเล่าจูเอ๋อร์จะได้ออกไปพร้อมกันกับอาเลย” ถึงแม้ระยะทางจากหมู่บ้านไปยังตลาดในตัวตำบลจะใช้เวลาเดินไม่ถึงสองเค่อแต่หลานของเขาก็เป็นสตรีเจียงหนิงเทียนจึงเป็นห่วงนางมากพอๆ กับที่ห่วงบุตรสาวของตนเองจึงไม่อาจปล่อยให้พวกนางไปขายของกันตามลำพังได้

“อีกวันสองวันเจ้าค่ะท่านอาข้าตั้งใจว่าจะขึ้นเขาไปหาดูผลไม้ป่ามาเพิ่มให้มันมีความหลากหลายสักนิดแล้วก็ตั้งใจว่าจะเก็บลงมาให้เยอะสักหน่อยเจ้าค่ะแล้วหลังจากนั้นสามสี่วันค่อยขึ้นไปเก็บสักครั้งจะได้เอาเวลามาทำอย่างอื่นด้วย” เรื่องนี้เด็กสาวคิดทบทวนมาเป็นอย่างดีแล้วด้วยนางยังมีงานอย่างอื่นที่เรือนให้ดูแลจะขึ้นเขาทุกวันอย่างที่ท่านอาเล็กทำคงไม่ได้อีกทั้งตอนนี้ท่านแม่ยังต้องการคนดูแลอย่างใกล้ชิดนางจึงไม่อยากออกจากบ้านไปเป็นระยะเวลานานๆ

“ถึงอย่างไรแล้วในห้องครัวของเจ้าก็ยังมีห้องเก็บอาหารใต้ดินหากนำผลไม้ไปเก็บไว้ที่นั่นก็ช่วยยืดอายุของพวกมันได้มาก” ทั้งบ้านใหญ่และบ้านรองต่างก็ขุดห้องใต้ดินไว้สำหรับกักตุนอาหารเนื่องจากตำบลนี้เคยประสบทั้งภัยหนาวและภัยแล้งชาวบ้านที่อยู่กันมาตั้งแต่บรรพบุรุษรุ่นปู่ย่าจึงไม่ลืมที่จะสั่งสอนลูกหลานให้เตรียมห้องใต้ดินเอาไว้เสมอไม่ว่าจะปลูกสร้างเรือนใหม่ขึ้นกี่หลังก็ไม่อาจละเลยสิ่งสำคัญข้อนี้ไปได้

“ทราบแล้วเจ้าค่ะ น้องรองลงไปช่วยจัดการทำความสะอาดห้องใต้ดินให้ข้าแล้ว” พูดถึงห้องใต้ดินเจียงเฟยจูก็อดที่จะคิดถึงบิดาไม่ได้เพราะหากยามที่ท่านพ่อไม่ได้ไปทัพในทุกๆ ปีท่านจะขึ้นเขาไปขุดหัวเผือกหัวมันต่างๆ มาเก็บสะสมไว้เสียจนเต็มห้องใต้ดินเพื่อให้มั่นใจว่าลูกๆ และภรรยามีอาหารอยู่เสมอถึงแม้ว่าหัวมันที่ท่านพ่อขุดไว้จะหมดไปจากห้องใต้ดินนานแล้วแต่นางก็ยังเก็บหัวพันธุ์เอาไปปลูกกินได้อยู่โดยไม่ต้องขึ้นเขาไปหาขุดเอาเองให้เหนื่อยอยากกินอะไรมากแค่ไหนก็แค่ปลูกพวกมันเอาไว้ที่สวนหลังด้านหลังเรือนของตนเอง

“อยากขึ้นเขาไปเก็บผลไม้เมื่อไหร่ก็บอกอาได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจอาจะพาไปแล้วก็จะให้น้องๆ ของเจ้าไปช่วยเก็บด้วย” แม้บุตรสาวทั้งสองคนยังเล็กนักแต่พวกนางก็รู้ความและทำงานบ้านได้แล้วอีกทั้งเด็กทั้งสองคนยังเคยตามเจียงหนิงเทียนและภรรยาขึ้นเขามาตั้งแต่อายุยังไม่ทันเต็มห้าขวบปีดีพวกนางจึงมีความรับผิดชอบพอที่ช่วยเหลืองานต่างๆ ของที่บ้านได้มากพอสมควร

“พวกข้าอยากไปช่วยพี่สาวเก็บผลไม้เจ้าค่ะ” เจียงลี่จินน้องเล็กสุดของสองครอบครัวที่มีอายุเพียงเจ็ดขวบปีอาสาอย่างขยันขันแข็ง

“ข้าก็จะไปด้วยเจ้าค่ะ” เจียงลี่ถิงวัยสิบขวบก็พยักหน้าว่าเห็นด้วยกับน้องสาวของตัวเองอย่างเต็มที่ด้วยความที่เด็กๆ ทั้งบ้านใหญ่และบ้านรองเติบโตมาด้วยกันจึงสนิทสนมกลมเกลียวกันเป็นอย่างดีคล้ายจะเป็นพี่น้องท้องเดียวคลานตามกันมาเกิดก็มิปาน

“พี่สาวขอบใจเจ้าทั้งสองคนมากเลยนะ อย่างไรแล้วก็ต้องขอรบกวนท่านอาเล็กและอาสะใภ้สักระยะหนึ่งนะเจ้าคะข้าอยากหาเงินเก็บสะสมเอาไว้ให้มากในระหว่างที่รอทางกองทัพตามหาท่านพ่ออีกอย่างตัวท่านแม่ก็กำลังขวัญเสียคิดว่าต่อจากนี้คงต้องใช้เงินอีกมากอย่างน้อยๆ ก็ต้องซื้อยาบำรุงชั้นดีมาต้มให้ท่านแม่ดื่ม” ดูๆ แล้วมารดาของเจียงเฟยจูไม่น่าจะฟื้นตัวได้ง่ายๆ ดังนั้นการขายของป่าให้พอมีเงินใช้ไปเป็นวันๆ หรือการรอเพียงเบี้ยหวัดของบิดาจากทางการไม่น่าจะเป็นเรื่องดี