เพราะข้าวหอมถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ศจีผู้เป็นแม่เลยเป็นห่วงว่าลูกจะดูแลตัวเองไม่ได้ เลยไปขอพรจากเทวดา เรื่องวุ่น ๆ เลยตามมาไม่หยุด

คุณแม่ขา ...ขอพรเทวดาทำไม - บทที่ 7 ข้อตกลง โดย Just W. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,รัก,เกิดใหม่,ครอบครัว,ไทย,เกิดใหม่,พล็อตสร้างกระแส,คอมเมดี้,โรแมนติก,ชายหญิง,รัก,ครอบครัว,ย้อนเวลา,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

คุณแม่ขา ...ขอพรเทวดาทำไม

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,รัก,เกิดใหม่,ครอบครัว,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เกิดใหม่,พล็อตสร้างกระแส,คอมเมดี้,โรแมนติก,ชายหญิง,รัก,ครอบครัว,ย้อนเวลา

รายละเอียด

คุณแม่ขา ...ขอพรเทวดาทำไม โดย Just W. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เพราะข้าวหอมถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ศจีผู้เป็นแม่เลยเป็นห่วงว่าลูกจะดูแลตัวเองไม่ได้ เลยไปขอพรจากเทวดา เรื่องวุ่น ๆ เลยตามมาไม่หยุด

ผู้แต่ง

Just W.

เรื่องย่อ

คุณแม่ขาขอพรเทวดาทำไม


คำขอของแม่…กับพรของเทวดา


“ท่านเทพเจ้าขา! ลูกช้างมีลูกสาวอยู่คนเดียว ช่วยเสกเป่าให้ยัยตัวดีกลับใจ หันมาสนใจการทำงาน หาเงินหาทองบ้างเถอะนะเจ้าคะ”


ศจีพูดกับรูปเทวดา น้ำเสียงปนเหนื่อยใจและกังวลลึก ๆ ในใจเธอคิดถึงลูกสาวเพียงคนเดียว—ข้าวหอม


และพรที่ศจีขอก็…ถูก “จัดให้” โดยไม่ทันตั้งตัว


รุ่งเช้าของวันถัดมา ข้าวหอมตื่นขึ้นมาในบ้านไม้โทรม ๆ 


ไม่มีแอร์ ไม่มีเครื่องสำอาง ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีเงิน ไม่มีบัตรเครดิต


ข้าวหอมกำลังจะได้เรียนรู้ว่า


การใช้ชีวิต…ไม่ใช่แค่การอยู่ไปวัน ๆ แต่คือการ “เอาตัวรอด” ด้วยสองมือของตัวเอง




และนี่คือเรื่องราวของคุณหนูที่ถูกส่งย้อนเวลามาใช้ชีวิตแบบบ้าน ๆ


เพื่อเรียนรู้ว่าความลำบาก โดยมีเทวดาตัวดี และพ่อแม่ที่ไม่ได้มีความทรงจำในชาติก่อนติดมาคอยช่วยเหลือให้ข้าวหอมได้เติบโตขึ้น


❤️❤️❤️❤️


*เรื่องนี้เป็นแนวฟีลกู้ดนะคะ ไม่มีดราม่าหนัก


** ฝากกดติดตาม กดหัวใจ กดเพิ่มเข้าชั้นให้ไรท์ด้วยนะคะ


❤️❤️❤️❤️




 



สารบัญ

คุณแม่ขา ...ขอพรเทวดาทำไม-บทที่ 1 ข้าวหอม,คุณแม่ขา ...ขอพรเทวดาทำไม-บทที่ 2 เทวดาเจ้าขา,คุณแม่ขา ...ขอพรเทวดาทำไม-บทที่ 3 เตียงที่แข็งกระด้าง,คุณแม่ขา ...ขอพรเทวดาทำไม-บทที่ 4 เป็นอิสระ,คุณแม่ขา ...ขอพรเทวดาทำไม-บทที่ 5 ดับไฟ,คุณแม่ขา ...ขอพรเทวดาทำไม-บทที่ 6 สายเมฆ,คุณแม่ขา ...ขอพรเทวดาทำไม-บทที่ 7 ข้อตกลง

เนื้อหา

บทที่ 7 ข้อตกลง

“งั้นผมขออนุญาตทำให้คุณป้าลองใช้ดูนะครับ” เสียงทุ้มของสายเมฆดังเข้ามาถึงในห้องนอน ทำให้ข้าวหอมที่กำลังอยู่ในห้วงนิทราต้องงัวเงียเล็กน้อย เธอพลิกตัวบิดขี้เกียจก่อนจะลุกจากเตียงนอนไม้เก่า ๆ อย่างไม่เต็มใจนัก


‘เจ้ามิจฉาชีพนั่นมาหลอกอะไรคุณแม่อีกแล้วเนี่ย ดีนะที่ฉันตื่นมาพอดี ไม่งั้นมีหวังแม่ต้องโดนหลอกจนหมดตัวแน่ ๆ !’ ข้าวหอมคิดอย่างขุ่นเคือง เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมา เธอก็รีบเปิดประตูห้องพรวดพราดออกไปแทบจะทันที


ในห้องครัว แม่กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมอาหารมื้อเช้า ส่งกลิ่นหอมของข้าวต้มและกับข้าวอ่อนๆ คลุ้งไปทั่ว ส่วนสายเมฆก็กำลังก้ม ๆ เงย ๆ ทำอะไรบางอย่างอยู่ใกล้ ๆ เตาไฟ


“ทำอะไรกันอยู่เหรอคะแม่?” ข้าวหอมถามแม่ด้วยน้ำเสียงที่จงใจให้ดังพอที่จะให้ชายหนุ่มอีกคนได้ยิน ดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยจ้องเขม็งไปยังสายเมฆอย่างไม่วางตา แววตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจฉายชัดเจนจนใครก็ดูออก


‘ยัยเด็กบ้านี่… มองฉันแบบนี้อีกแล้วนะ! ฉันกำลังช่วยแม่เธออยู่นะเนี่ย!’ สายเมฆไม่ได้ตอบโต้คำถามของข้าวหอม เขายังคงก้มหน้าก้มตาทำที่ตากเนื้อแห้งต่อ เพียงแต่ริมฝีปากหยักได้รูปเม้มเข้าหากันเล็กน้อยอย่างอดกลั้น


ศจี จึงหันมาตอบลูกสาวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “พอดีแม่ไปตลาดได้เนื้อมาเยอะเลยลูก ว่าจะทำเนื้อแห้งเก็บไว้กินนาน ๆ แต่วันนี้แม่ต้องรีบออกไปช่วยบ้านป้าแจ่มทำนาน่ะ ตากทิ้งไว้ก็กลัวหมาจะมากินเสียหมด”


“คุณแม่ฝากหนูช่วยดูก็ได้นี่นา” ข้าวหอมเอ่ยปากเสนอตัวทันที สายตายังคงไม่ละไปจากสายเมฆ พลางเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยอย่างท้าทาย


ศจีมองหน้าข้าวหอมอย่างไม่น่าเชื่อ สายตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจระคนสงสัย ‘ลูกฉันคงเพี้ยนไปแล้วจริง ๆ เมื่อก่อนไม่ใช่ไม่เคยขอร้องให้นั่งเฝ้าเนื้อตากแห้ง แต่ขอไปทีไรก็ตอบกลับมาว่าขี้เกียจทุกที พอกลับมา เนื้อก็โดนหมากินเกือบหมดทุกครั้งไป’


เหมือนข้าวหอมจะรับรู้ความคิดของศจีได้โดยไม่ต้องมีคำพูดใด ๆ เมื่อนึกย้อนไปถึงความทรงจำของเจ้าของร่างนี้ที่เธอเข้ามาสถิต เธอจึงตระหนักได้ว่าเมื่อก่อนเจ้าของร่างนี้คงเป็นเด็กที่ไม่เอาไหนจริง ๆ อย่างที่แม่คิด


“ถ้าแม่ไม่ไว้ใจให้หนูดูเนื้อ แม่ก็ให้เจ้านี่ดูให้ก็ได้นี่คะ อาศัยนอนบ้านเราฟรี ๆ ก็ต้องตอบแทนบุญคุณบ้างสิคะ” ข้าวหอมพูดด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น สายตาเหลือบมองสายเมฆอย่างไม่เป็นมิตร


“เอ๊ะ! หรือเขาจะรีบเดินทางต่อไปแล้ว? งั้นหนูเฝ้าได้ค่ะแม่! แม่ไว้ใจหนูได้นะครั้งนี้” แค่คิดว่าเจ้ามิจฉาชีพหน้าหล่อคนนี้จะไปจากบ้านเธอ อารมณ์ของเธอก็ดีขึ้นมาทันทีอย่างน่าประหลาด


“ข้าวหอม!!!” ศจีเอ่ยเสียงดังด้วยความตกใจและไม่พอใจในกิริยาของลูกสาว “ลูกทำไมเรียกผู้มีพระคุณว่า ‘เจ้านี่’ ได้ยังไง เอาใหญ่แล้วนะเราน่ะ เขาแก่กว่าลูกนะ ลูกต้องเรียกเขาว่า พี่ หรือ น้า ก็ได้! แล้วก็สายเมฆเขายังไม่มีที่ไป แม่กับพ่อปรึกษากันแล้วว่าจะให้อยู่ที่บ้านเราไปก่อน” ศจีพูดรวดเดียวจบ ดวงตาคู่สวยจ้องมองลูกสาวอย่างตำหนิ ก่อนจะหันไปทางสายเมฆพร้อมรอยยิ้มขอโทษแทนลูก


“เดี๋ยวหนูไปเก็บของในห้องเก็บของออกหน่อยนะลูก แม่จะให้เขานอนห้องนั้น” กล่าวจบ ศจีก็หันกลับไปทำอาหารเช้าต่อโดยไม่รอฟังคำตอบใดๆ จากข้าวหอม


นี่ดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่คุณเคยขอให้จำใช่มั้ยครับ? เรื่องราวเกี่ยวกับ ข้าวหอม ที่ย้อนเวลากลับมา


ข้าวหอมเดินฮึดฮัดออกไปเก็บของด้วยท่าทีไม่พอใจ และไม่ได้ลงมาทานอาหารเช้ากับพ่อแม่ของเธอ ความขุ่นเคืองเล็ก ๆ ก่อตัวขึ้นในใจเธอ เพราะรู้สึกว่าแม่เข้าข้างคนอื่น


หลังจากที่พ่อกับแม่ของเธอออกไปที่นาของป้าแจ่มแล้ว ข้าวหอมก็ค่อย ๆ ย่องออกมาจากห้องของเธออย่างเงียบเชียบ เพื่อแอบดูว่าสายเมฆกำลังทำอะไรอยู่


เธอค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้สายเมฆจากทางด้านหลัง และสิ่งที่เธอเห็นทำให้เธอประหลาดใจ สายเมฆกำลังนำมุ้งเก่า ๆ ที่ผ่านการซักและตากจนแห้งแล้ว มาประกอบเข้ากับโครงไม้ไผ่เป็นชั้น ๆ รูปร่างของมันคล้ายกับที่ตากเนื้อที่วางขายอยู่ในแอปพลิเคชันช้อปปิ้งออนไลน์ที่เธอเคยเห็นแม่บ้านซื้อมาใช้


'ว่าแต่ทำไมเจ้าบ้านี่ถึงทำออกมาเหมือนเป๊ะเลยล่ะ' ข้าวหอมคิดในใจ 'หรือว่าเจ้านี่ก็ฉลาด? แต่ดูจากหน้าก็ไม่น่าใช่... หรือว่าเจ้านี่ก็ย้อนเวลามาเหมือนเรา? ถึงมันจะเหลือเชื่อ แต่เรายังย้อนเวลามาได้ เจ้านี่ก็อาจจะมาได้ เพราะจะว่าไปแล้วเจ้านี่ก็ดูไม่เหมือนคนในยุคนี้เท่าไหร่' ข้าวหอมคิดวนไปวนมา ตีกับความคิดของตัวเองอย่างสับสน


หลังจากไตร่ตรองอยู่สักพัก ข้าวหอม ก็ตัดสินใจเดินเข้าไปหาสายเมฆที่กำลังง่วนอยู่กับการสร้างสิ่งประดิษฐ์จากมุ้งและไม้ไผ่


“นี่… นายอยากอยู่บ้านนี้เหรอ?” ข้าวหอมเอ่ยถามเสียงจริงจัง ดวงตาจับจ้องไปที่สายเมฆอย่างไม่วางตา


“ฉันจะยอมให้นายอยู่ ถ้านายตอบความจริงฉันมา แต่ฉันขอบอกไว้ก่อนนะว่า ถ้าโกหกแม้แต่นิดเดียว นายจะอยู่ที่นี่อย่างไม่มีความสุขแน่! ฉันจะทำทุกทางให้พ่อกับแม่ไล่นายไป แต่ถ้านายตอบความจริง ฉันจะยอมสงบศึกกับนายเป็นการชั่วคราว”


สายเมฆเงยหน้าขึ้นมอง แล้วตอบรับด้วยน้ำเสียงสุภาพตามที่ศจีเคยบอกไว้


“ครับ น้องอยากถามอะไร?” เขาเลือกใช้คำว่า 'น้อง' เพื่อกันท่าไม่ให้ข้าวหอมเรียกเขาว่า 'น้า' ซึ่งคงจะฟังดูไม่เข้าท่าเอาเสียเลย


ข้าวหอมถึงกับสะดุ้งเล็กน้อยที่เขาเรียกเธอว่า 'น้อง' แต่ช่างเถอะ… ในเวลานี้มีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องจัดการ


“ฉันเป็นคนจากอนาคตที่ย้อนเวลากลับมา” ข้าวหอมเอ่ยออกมาอย่างไม่รีรอ เธอคิดมาดีแล้ว เธอเป็นคนชัดเจน หากเขาไม่เชื่อและคิดว่าเธอเพี้ยนก็ไม่เป็นไร เพราะตอนนี้ที่บ้านเธอก็คิดว่าเธอเพี้ยนอยู่แล้ว แต่ถ้าหากเขามีชะตาเช่นเดียวกับเธอ อย่างน้อยเวลาเธอต้องการทำอะไรบางอย่าง ก็สามารถให้เขาเป็นคนลงมือแทนได้ โดยที่พ่อกับแม่ไม่รู้สึกว่าเธอแปลกประหลาด และที่สำคัญกว่านั้น อีกอย่างพวกเขาก็จะได้ช่วยเหลือกัน เพื่อพลิกฟื้นฐานะทางบ้านให้กลับมาดีได้เหมือนที่เธอเคยเป็น


สายเมฆตกใจที่จู่ ๆ ข้าวหอมก็โพล่งเรื่องนี้ออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ‘ช่างไม่กลัวคนอื่นจะคิดว่าเพี้ยนเลยหรือไง?’ เขานึกในใจ


มันเป็นครั้งแรกที่สายเมฆรู้สึกว่าข้าวหอมจริงจังและหากเขาโกหกว่าไม่ได้มาจากอนาคตเธอคงรังควานเขาจนได้ออกจากบ้านนี้แน่ ๆ เขาใช้ความคิดอยู่เพียงชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจว่าเขาจะไม่บอกเธอว่าเขาคือเทวดาที่ทำให้เธอกลับมาที่นี่ แต่จะยอมรับกับเธอว่ามาจากอนาคตเช่นกัน เพราะอย่างน้อยเธอก็จะได้สงบศึกกับเขาชั่วคราว เขาจะได้ช่วยเหลือให้เธอและครอบครัวกลับมามั่งคั่งดังเดิม แล้วเขาก็จะได้กลับไปใช้ชีวิตสบายบนสวรรค์เสียที


“ใช่… ฉันย้อนเวลามา” สายเมฆแสร้งทำเป็นดีใจจนออกนอกหน้า “ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอก็เป็นเหมือนฉัน ฉันดีใจมากจริง ๆ ที่มีคนย้อนเวลามาเหมือนกัน!”


“อย่าเพิ่งดีใจไป!” ข้าวหอมรีบเบรกอารมณ์ของสายเมฆทันที


“ถึงจะย้อนอดีตมาเหมือนกัน แต่นายอย่าลืมนะว่าตอนนี้ นายอาศัยอยู่ที่บ้านฉัน ดังนั้นเรามาทำข้อตกลงกัน”


“ได้ๆ” สายเมฆรีบตอบรับ


“น้องข้าวหอมจะกำหนดข้อตกลงอะไรมา พี่จะทำตามหมด”


“อย่างแรก เลิกเรียกฉันว่าน้อง” ข้าวหอมรีบตัดบทเสียงแข็ง


“ฉันเป็นลูกคนเดียวและไม่คิดจะมีพี่ชาย”


“แต่แม่ข้าวหอมบอกให้ข้าวหอมเรียกผมว่าพี่หรือน้านี่นา… หรือน้องข้าวหอมจะให้ผมเรียกว่า หลานข้าวหอม ดีล่ะ?” สายเมฆแกล้งยียวนข้าวหอมกลับไป


“อีตาบ้า! อย่ามาเรียกฉันว่าหลานนะ! ปู่ชั้นไม่มีลูกอย่างนายหรอก!” ข้าวหอมทำปากยู่ใส่ชายหนุ่มอย่างขัดใจ


“เอางี้ นายก็เรียกฉันว่า ข้าวหอม ตามปกติ ส่วนฉันก็จะเรียกนายว่า พี่ ละกัน!”


สายเมฆเห็นข้าวหอมทำท่าทางงอน ๆ พลันเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมาในใจ ‘แปลกจังแฮะ… ทำไมถึงรู้สึกว่าเวลายัยนี่โมโหแล้ว น่ารักดี’


หลังจากนั้นข้าวหอมก็บอกกฎและหน้าที่ต่าง ๆ ของสายเมฆเวลาอยู่ในบ้านอย่างละเอียด ซึ่งสายเมฆก็ตกปากรับคำทุกประการ


เมื่อได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ทั้งคู่ก็กลับไปช่วยกันทำที่ตากเนื้อแห้งกันต่อ