เมื่อทุกการหลับฝันแทบทุกคืนของศศพินท์เธอต้องได้ไปพบเจอเหตุการณ์บุคคลและสถานที่ ที่ไม่รู้จักและไม่รู้ทำไมต้องฝันว่าได้มาทีนี่ แล้วที่นี่คือที่ไหนกันนะ แล้วเหตุเธอถึงต้องฝันซ้ำๆถึงที่แห่งนี้
รัก,เกิดใหม่,ข้ามเวลา,ย้อนยุค,ไทย,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เล่ห์รัก บุพนิมิตเมื่อทุกการหลับฝันแทบทุกคืนของศศพินท์เธอต้องได้ไปพบเจอเหตุการณ์บุคคลและสถานที่ ที่ไม่รู้จักและไม่รู้ทำไมต้องฝันว่าได้มาทีนี่ แล้วที่นี่คือที่ไหนกันนะ แล้วเหตุเธอถึงต้องฝันซ้ำๆถึงที่แห่งนี้
อันความรักสิ่งนี้ ยากนัก จริงฤา จากจบพบคือรัก ว่าไว้
ยังจะยากภัคดี นานอยู่ ฤๅพี่ สุดแต่ใจพี่ไซ้ บ่ได้ รักเดียว
โคลงสี่สุภาพ บรรยายถึงเรื่องความรัก ที่ถูกบันทึกด้วยลายมือสะสลวยอยู่หน้ากระดาษในสมุดบันทึกเล่มเก่าแก่ในหีบโบราณภายในบ้านเรือนไทยแห่งหนึ่งทีดูจาก รูปแบบและปกภายนอกของสมุดเล่มนี้ ก็บอกถึงความเก่าแก่ ที่มีอายุไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยปีแน่นอน บทโคลงนี้ ที่ผู้ที่หยิบขึ้นมาอ่านที่ไรต้องรู้สึกเจ็บปวดจนน้ำตารินไหลโดยไม่ทราบสาเหตุ เหมือนกับว่าต้องตกอยู่ใน ความรู้สึกแสนเศร้านั้น ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องราวของตนเองเลย ทำไมกันนะ…
@ หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์ ที่หยิบยกอ้างถึงบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ แลบางเหตุการณ์สำคัญทาประวัติศาสตร์มาบาง ตัวครเอกและหลายตัวในเรื่องไม่มีจริงในประวัติศาสตร์ ถูกแต่ขึ้นมาใหม่ รวมถึงบทสนทนาทุกบทเป็นการแต่งขึ้นมาใหม่ทั้งสิ้น หากผิดพลาดประการใด ผู้แต่งขออภัยมาในที่นี้ด้วยนะค่ะ
แสงอาทิตย์พ้นขอบฟ้ามาสักสองสามชั่วโมงแล้ว วันนี้การจราจรวันนี้ดูไม่หนาแน่นติดขัดมากเท่าใดนักคงเพราะเป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ บริเวณบ้าน ทาวน์โฮมสองชั้นตั้งอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรแถบชาญเมือง มีพื้นที่ใช้ค่อนข้างจำกัดตามราคาบ้านที่ไม่ได้สูงมาก
ศศพินทุ์ยืนรถน้ำไม้ดอกไม้ประดับบริเวณสวนเล็กๆหน้าบ้านของเธอ สวนดอกไม้เล็กๆ นี้เปรียบเสมือนโอเอซิสแห่งความรื่นรมย์ ท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองใหญ่ ล้อมรอบด้วยรั้วไม้ระแนงสีขาวบริสุทธิ์ที่ทาสีอย่างประณีตแปลงดอกไม้หลากสีสัน ดอกกุหลาบสีแดงสดใสบานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมกรุ่นไปทั่วบริเวณ ข้างๆ
ในมุมหนึ่งของสวน มีน้ำพุตั้งขนาดเล็กตระหง่านอยู่ตรงกลาง บ่อน้ำใสแจ๋วสะท้อนเงาของดอกไม้ที่อยู่รายล้อม รอบๆ น้ำพุประดับด้วยกระถางดอกไม้ดินเผาสีสันสดใสที่ปลูกต้นไม้นานาพันธุ์ ในวันหยุดแบบนี้ความสุขของคนรักสงบแบบเธอก็คือการได้อยู่บ้านกับครอบครัวและดูแลต้นไม้ดอกไม้ที่เธอรัก
“ ปุยปุย อย่างวิ่งมาใส่น้ำสิ เดี๋ยวตัวก็เปี๊ยกเลอะเทอะหรอก เดี๋ยววิ่งเข้าแม่ก็บ่นเอาอีก นั้นดูสิเปี๊ยกหมดแล้วนั้น ปุยปุยออกไปอย่าดื้อ ”
ศศพินทุ์ร้องห้ามเจ้าหมาโกลเดินริทรีฟเวอร์ตัวโตขนยาวฟูนุ่มแต่ทำตัวซนเหมือนเด็กๆตัวเล็กๆ ที่กำลังวิ่งเล่นน้ำจากปลายสายยางที่เธอกำลังฉีดรถต้นไม้อยู่ด้วยน้ำเสียงดุแกล้มเอ็นดู เจ้าสัตว์เลี้ยงแสนรักของตน เจ้านอกจะไม้ฟังแล้วยังวิ่งสะบัดน้ำใส่ศศพินทุ์อย่างสนุกสนานในมันคงคิดว่าเสี่ยงดุนั้นเป็นการเชื้อเชิญให้เล่นด้วย
“ ลูกจันทร์ ลูกจันทร์ มานี่เร็วมาดูย่าหน่อย ย่าเป็นอะไรไม่รู้ เร็วลูกเร็ว ลูกจันทร์ ลูกจันทร์ ”
ดวงแขผู้เป็นมารดาของศศพินทุ์ตะโกนเรียกด้วยน้ำเสียงตกใจแบบสุดชีวิตออกมาจากด้านในบ้าน เธอรีบละสายยางแล้วรีบวิ่งเข้าไปภายบ้านอย่างเร่งรีบ
“ เกิดอะไรขึ้นละคะ แม่ย่าเป็นอะไรค่ะ ทำไมย่าถึงนอนสลบไปแบบนั้น”
“ แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันลูก แม่มัวทำอาหารอยู่ในครัว พอเดินออกมาจากในครัวเจออย่านอนสลบอยู่ตรงนี้แล้ว ไม่รู้เป็นอะไร สลบไปตอนไหน”
สองแม่ลูกสนทนากันขณะที่ในอ้อมแขนของผู้เป็นแม่กำลังประครองอุ้มช้อนร่างหญิงสูงวัยที่สลบไม่ได้สติอยู่
“ ย่าค่ะ ย่าค่ะ ย่า ”
ศศพินทุ์เรียกหญิงชราดังขึ้น พร้อมเขย่าไปที่ร่างของหญิงชราแรงขึ้น แต่ร่างในอ้อมกอดมารดานั้นไม่มีปฏิกิิยาใดตอบรับเลย
“ ไม่ได้การณ์แล้วค่ะแม่ จันทร์ว่าโทรตามรถพยาบาลก่อนดีกว่านะคะ”
…………………….
บริเวณหน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลคึกคักไปด้วยผู้คน มีทั้งญาติของผู้ป่วยที่นั่งรอข่าวคราวอยู่ด้วยความกังวลใจ บุคลากรทางการแพทย์ที่เดินขวักไขว่ไปมาด้วยสีหน้าเร่งรีบ และเสียงไซเรนรถพยาบาลที่ดังขึ้นเป็นระยะ
บรรยากาศโดยทั่วไปเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความกังวลใจ ศศพินทุ์นั่งกุมมือกันมารดาด้วยความหวาดกลัวเป็นห่วงและกระวนกระวายใจเฝ้ารอข่าวอาการป่วยของหญิงชราผู้เป็นที่อยู่ด้านในห้องฉุกเฉิน
“ ลูกจันทร์ ย่าเป็นยังไงบ้างลูก เกิดอะไรขึ้นดวง แม่เป็นอะไร ”
ชายร่างสูงผิวสองสีส่งเสียงถามด้วยน้ำเสียงเชิงตระหนกตกใจในขณะที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งมายังบริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน เขาคือสันติบิดาของศศพินทุ์และสามีของดวงแขนั่นเอง
“ ไม่รู้เหมือนกันพี่สัน ดวงทำอาหารอยู่ในครัวพอเดินออกมาเจอแม่นอนสลบอยู่ที่พื้นแล้ว เลยตามลูกจันทร์ให้มาช่วยพาหาหมอ”
“ ย่าคงไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะพ่อถึงมือหมอแล้ว พ่อทำใจดีดีไว้นะคะ เดี๋ยวความดันขึ้นจะป่วยไปอีก พ่อนั่งก่อนนะคะ”
บุรุษในชุดกาวน์สีขาวรูปร่างท้วมบอกถึงอาชีพของบุรุษผู้นั้นว่าต้องเป็นคุณหมอไม่ผิดเพี้ยน เปิดประตูเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน ตามมาด้วยสตรีในชุดพยาบาลนางหนึ่ง ทั้งสามคนที่กำลังนั่งรอรีบรุดจากที่นั่งไปยืนเบื้องหน้าคุณหมออย่างราวเร็ว
“ ญาติคุณจวนใช่ไหมครับ คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ แต่หมอขอคุยกับญาติผู้ป่วยที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเคสนี้สักหน่อยนะครับ ”
………………………………
ภายในห้องตรวจที่เงียบสงบและสว่างไสว หมอคุณหมอร่างท้วมในชุดกาวน์สีขาวนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน ใบหน้าของเขามีแววตาที่เฉียบคมและท่าทางที่เป็นมิตร บนโต๊ะทำงานของเขามีเครื่องมือแพทย์ต่าง ๆ วางอยู่เป็นระเบียบ พร้อมกับกองแฟ้มประวัติผู้ป่วยที่เรียงซ้อนกันเป็นตั้ง ศศพินทุ์นั่งฟังคุณหมอที่กำลังให้รายละเอียดเกี่ยวกับอาการของผู้ย่าของต้นที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามคุณหมอ
“ อาการโรคหัวใจคุณจวน ตอนนี้ผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวขั้นสุดที่หัวใจเสียหายอย่างถาวรหรืออ่อนแรงจนไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้อย่างเพียงพอ สาเหตุเกิดจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด จนไม่สามารถใช้การได้ปกติแล้วนะครับ หมอจำเป็นต้องรักษาด้วยการการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจ สู่หัวใจดวงใหม่ที่แข็งแรงกว่าเดิมโดยด่วนแต่การรักษานี้จากการประเมินอาการเป็นการผ่าตัดบริเวณกึ่งกลางหน้าอกหรือผ่าตัดด้วยเทคนิคส่องกล้อง เพื่อเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียม และแก้ไขลิ้นหัวใจของผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ ค่ารักษาที่หมอประเมินแล้วค่อนข้างสูงครับ ค่าใช้ร่วมทั้งราว 800,000 บาท ญาติคนไข้สะดวกที่จะทำการรักษาหรือไมครับ ”
“ ตั้ง 800,000 บาท เลยหรือค่ะคุณหมอ ”
ศศพินทุ์กล่าวด้วนน้ำเสียงตกใจอย่างหนักกับค่ารักษาย่าของหล่อน เงินมากมายขนาดนี้มนุษย์เงินเดือนอย่างหล่อนจะไปหาที่ไหนได้เล่า
“ ครับเนื่องจากคนไข้มีอายุมากแล้วจริงต้องทำการรักษาอย่างระมัดระวังต้องใช้เครื่องไม้เครื่องมีและยาต่าง ๆที่มีคุณภาพสูงมากทำให้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง”
“ ค่ะคุณ ยังไงขอเวลาไปปรึกษากลับที่บ้านก่อนนะคะแล้วจะมาแจ้งคำตอบ”
“ ได้ครับแต่อยากให้รีบตัดสินใจเพื่อประโยชน์ของคนไข้ เนื่องจากอาการไม่สู้ดีนัก หมอเข้าใจเรื่องค่าใช้จ่าย จะพยายามหาทางช่วยนะครับแต่เบื้องอยากรบกวนญาติลองหารือกันดูก่อน ”
…………………….
ในมุมหนึ่งของมหาวิทยาลัยที่คึกคัก ร้านกาแฟขนาดกะทัดรัดตั้งตระหง่านอยู่ราวกับโอเอซิสแห่งความสงบ บรรยากาศภายในอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมกรุ่นของเมล็ดกาแฟที่คั่วใหม่และเสียงเพลงแจ๊สเบาๆ ที่ลอยมาตามสายลม โต๊ะไม้สีขาวมินิมอนที่ถูกตั้งเรียงรายอยู่ทั่วทั้งร้าน ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเชื้อเชิญ ผนังประดับด้วยภาพวาดสีน้ำมันแนว Abstract Art ซึ่งเพิ่มเสน่ห์ให้กับการดื่มด่ำกาแฟไปพร้อมกับชมงานงานศีลปะ ลูกค้าหลากหลายกลุ่มนั่งอยู่ที่โต๊ะของตนเอง บางคนกำลังจดจ่อกับการเรียน บางคนกำลังสนทนากันอย่างออกรส และบางคนก็เพียงแค่เพลิดเพลินกับการดื่มกาแฟอย่างสงบ
“ โห 800,000 เลยหราจันทร์ แล้วแกจะไปหาจากที่ไหนไปจ่ายเนี๊ยเงินเยอะขนาดนั้น แค่ทุกวันนี้เงินเดือนแต่ละเดือนก็จะไม่พอกินแล้ว พ่อกับแม่แกไปขายของที่ตลาดก็ใช่ว่าจะได้เยอะอะไร เศรษฐกิจแบบนี้ขายไม่ขาดทุนก็เก่งแล้ว ”
“ ไม่รู้เหมือนกันอะแครท คิดจนหัวจะระเบิดก็ไม่เห็นหนทางเลย แต่ฉันจะปล่อยให้ย่าป่วยแล้วไม่หาเงินรักษาฉันก็ทำไม่ได้หรอก ตอนนี้รู้สึกสงสารพ่อจับใจเลยนะแครท พ่อคือเครียดมากจนไม่กินข้าวกินปลา ฉันกลัวพ่อจะล้มป่วยไปอีกคน แม่ก็เครียดตามไปด้วย เงินเยอะขนาดนั้นจะไปหาทางไหนได้ทัน”
“ เวรกรรมอะไรของแกนักหนาหนอจันทร์เรื่องโน้นเรื่องนี้ไม่หยุดหย่อน ไหนจะเรื่องฝันประหลาดของแกอีก ถ้าฉันเป็นฉันต้องเป็นบ้าแน่ๆ ”
“ นั้นสิ ฉันคงไปทำอะไรใครไว้หนักหนาและชีวิตที่ได้หนักหนาขนาดนี้ เห่อนี่ก็ยังไม่ได้จ่ายค่าเทอมของอาทิตย์เลยนะแล้วมาเกิดเรื่องใหม่ขึ้นอีก จะหาเงินที่ไปไหนทัน น้องก็เรียนเทมอสุดท้ายแล้วด้วย เห่อคิดไปก็ยังหาทางออกไม่ได้ เออแครทพรุ่งนี้วันหยุดเราไปวัดกันไหมฉันอยากไปทำบุญถวายถวายสังฆทาน และก็อยากไปนั่งสมาธิเจริญสติสักหน่อย แล้วจะไปกราบสนทนาธรรมกับหลวงลุง เผื่อจะคิดอะไรออกบ้าง ”
“ ได้สิแก่ แต่ฉันไม่นั่งสมาธิกับแกด้วยนะ เดี๋ยวระหว่างช่วงแกนั่งสมาธิฉันจะหาเดินเล่นแถวๆนั้นรอไม่ต้องห่วงนะเดี๋ยวฉันนั่งดูไลฟ์สด เอฟเครื่องสำอางรอชิลๆจ๊ะเพื่อนสาว”
“แกนี่จริงๆเลยนะแครท ชวนให้ปฎิบัติเจริญสติกับฉันบ้าง ชวนแกตั้งแต่สมัยเรียนจนทุกวันนี้แกไม่ยอมคล้อยตามฉันสักทีเลยนะ แต่ชวนไปลองเครื่องสำอางละก็ไม่เคยปฏิเสธเลยแม่คุณคนงาม ”
“ บุญฉันอาจจะไม่ถึง บาปหนักกว่าละมั้งแก ไม่รู้เป็นยังไงพอเริ่มสวดมนต์หนักสมาธิที่ไรมันร้อนๆ ยังไงไม่รู้ บางที่ก็ง่วงจะอยากจะนอนสมาธิไปเลยไม่ไหวจริงๆ ฮาฮาฮา ฉันขอเป็นคนงามอย่างที่แกว่าก็แล้วกันนะ แต่เอาเถอะจ๊ะคุณแม่ชี ขอให้อานิสงส์ผลบุญที่แกทำมาตลอดตั้งแต่เด็กจนมันดลบันดาลให้แกมีชีวิตที่ดีขึ้นพ้นทุกข์โศกสักทีเถอะนะ ฉันเชื่อว่าแกเป็นคนดีมันต้องมีทางออกสักทางละ”
“ก็คงเป็นกรรมเก่ามั้งแก ทีทำให้ฉันเจอแต่เรื่องอะไรมากมายให้ต้องต่อสู้แบบนี้ ใช้ๆไปให้มันหมดไป เผื่อชาติหน้ามีจริงจะได้สบายกับเขาบ้าง”
“ จ้าแม่ชีของฉัน สาธุ เจ้าค่ะคุณศศพินทุ์ ”
“ ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง………”
เสียงเมโลดีโทรศัพท์ดังขึ้นจากกระเป๋าสะพายผู้หญิงที่วางอยู่บนโต๊ะกาแฟ ศศพินทุ์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองที่หน้าจอเบอร์ที่โชว์ คือทวีรัตน์แฟนหนุ่มของเธอนั้นเอง เธอรีบกดรับสาย
“ ฮัลโหลคะพี่วี ”
“ จันทร์ วันนี้พี่ไม่ได้ไปโรงพยาบาลเยี่ยมย่าจันทร์ละนะ พี่มีงานด่วนต้องตามเจ้านายไปต่างจังหวัดนะคะที่รัก พี่ขอโทษด้วยนะมันฉุกเฉินจริงๆ”
“ ต้องไปวันนี้เลยหรือค่ะ ไปหลายวันเลยหรอ จังหวัดอะไรอะคะ ”
“ ไปภูเก็ตอะ ไปยังไม่รู้ไปกี่วัน แต่น่าจะไม่น้อยกว่า 5 วันหรอกงานนี้ เพราะดูงานหลายที่หลายอย่าง ”
“ โหไปนานเลยสิ พี่คะวีเย็นนี้มาเจอกันก่อนไม่ได้หราคะ จันทร์มีเรื่องจะปรึกษาหน่อย เครียดมากเลย อยากเจอพี่วีมาก เราไม่เจอกันนานละนะ”
“ ไม่ได้หรอกจันทร์อย่างอแงสิค่ะ เย็นนี้พี่ต้องเตรียมเอกสารเยอะเลย ไหนจะจัดกระเป๋าเสื้อผ้าอีก ”
“ นะคะพี่วีจันทร์อยากปรึกษาพี่วีมาก อยากมากเจอด้วย จันทร์ไม่รู้จะปรึกษาใครเลยจริงๆนะคะ ”
“ บอกไม่ได้ก็ไม่ได้สิ จันทร์อย่างอแงพูดไม่รู้เรื่องได้ไหม แค่นี้นะพี่ยุ่ง ”
“ พี่วี เดี๋ยวพี่วีคะ อย่าพึ่งวาง ”
“ ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด….. ”
ปลายสายตัดสายไปแบบไม่ไยดี กับคำรอร้องของเธอสักนิด
“ พี่วีของแกนี่คือเป็นแฟนหรือเป็นผีเนี๊ยกันแน่จันทร์ ”
แคทลียาถามเชิงเหน็บแนมเพื่อนสนิทของเธอ เมื่อเห็นการกระทำของผู้ชายปลายสานที่ทำกับเพื่อนสนิทของเธอ
“อะไรของแกเนี๊ย แครทผีเผลออะไรกัน ”
“ ก็พี่วีของแกอะหลังๆเนี๊ยฉันไม่เคยเห็นหน้าเลยนะ นี่ขนาดแกมีปัญหายังไม่สนใจ ไม่มาหา มาดูแล อยู่เคียงข้างแกบ้าง ตกลงเขายังเป็นแฟนแกไหม อารมณ์เหมือนผีรู้ว่ามีแต่มองไม่เห็นงะ”
แคทลียา กล่าวด้วยน้ำเสียงขุ่นแสดงความเห็นแบบไม่พอใจในแฟนหนุ่มของเพื่อน
“ แกก็ช่างเปรียบเปรยนะ พี่วีเขากำลังจะได้เลื่อนตำแหน่งรองผู้จัดการ เขาก็เลยต้องทำงามเต็มที่และก็ต้องเอาใจนาย นายไปไหนก็ไปก็ต้องตามไปช่วยงาน อีกอย่างเรื่องของฉันมันก็ฉุกเฉินพี่วีเขาคงจะเคลียร์งานไม่ทันละ แกอย่าไปอคติกับเขาให้มากนักเลย ”
“ จ้าแม่คนดี แม่คนคนคิดบวก ผู้ชายพูดอะไรก็เชื่อหมดหัดมองโลกแง่ร้ายบ้างก็ได้นะยะ ไอ้คนเก่าๆที่ผ่านมาแล้วแกต้องเสียใจอะ เพราะแกมองโลกในแง่ดีแบบนี้ไงละ ”
“ พี่วีเขาคงไม่เหมือนคนอื่นๆพวกนั้นหรอกแก อีกอย่างฉันกับพี่วีก็คบกับมาตั้ง 3 ปีละนะไม่เห็นเขาจะมีอะไรไม่ดี ก็แค่ช่วงนี้ละเขาย่งๆ แต่ก่อนเขาก็ดูแลฉันดีนะ ตอนยังไม่ซื้อรถเขาก็มารับมาส่งตลอด ช่วงนี้เขาน่าจะยุ่งมากจริงๆละ ”
“ เออถ้าเขาดีจริงๆอย่างแกพูดฉันก็ดีใจด้วย ฉันก็อยากเห็นแกมีความสุข แต่ที่เตือนเนี๊ยเพราพฤติกรรมหลังๆของเขามันแปลกไง ช่างเถอะเดี๋ญวจะหาว่าฉันจุ่นจ่านชีวิตแก”
“ โอ๊ยงอนหรา อย่างอนเลยน๊าแก ฉันรู้ว่าแกรักและหวังดีกับฉันที่สุดไม่มีแกฉันก็ไม่ใครแล้วน่า เอาเป็นว่าฉันจะพยายามระวังตามที่แกเตือนนะ ดีๆกันเดี๋ยวฉันเลี้ยงขนมมื้อนี้ก็ได้ ”
ศศพินทุ์กล่าวเชิงง้องอนเพื่อนสาวพร้อมยกจานที่ใส่สตรอว์เบอร์รีชีสพาย ขึ้นแล้วใช้ช้อนเล็กๆตัก ยืนไปที่หน้าใกล้ๆริมฝีปากของแคทลียา ลักษณะเชิงจะป้อนให้
“ ไม่ต้องมาเอาขนมมาล่อฉันหรอกย่ะ ฉันเลี้ยงเองแกจะได้เก็บเงินไว้ใช้ภาระแกเยอะ ฉันไมงอนแกหรอก รักแกจะตายยายแม่ชีของเพื่อน ”
ขณะที่สองสาวกำลังสนทนาอยู่นั้น ร่างสูงโปร่งของผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งมองการสนทนานั่นอยู่บนเก้าอี้บรากาแฟมุมนึ่งภายในร้านเดียวกัน ศนิเขาอย่างตั้งใจฟังเสียงสนทนาของทั้งคู่ ในมือถือแก้วกาแฟร้อนค่อยจิบช้าๆใบหน้าเรียบเฉยดูนิ่งขรึมแต่แฝงไปด้วยความแสดงอาการครุ่นคิดอะไรบ้างอย่าง สองสาวยังคงสนทนากันโดยไม่รู้เลยว่ากำลังถูกดวงตาคมคู่หนึ่งจับจองอยู่อย่างไม่ละสายตา