ท่ามกลางแสงไฟมากมายและความวุ่นวายในกรุงเทพ มีเพียง ‘เขา’ ที่เป็นจุดโฟกัสเดียวของหัวใจ จนรับรู้ถึงลมหายใจของเขาแค่คนเดียว
ชาย-ชาย,รัก,ไทย,ยุคปัจจุบัน,โรแมนติก,feel good,รักแรกพบ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
แสงไฟกับลมหายใจของเธอท่ามกลางแสงไฟมากมายและความวุ่นวายในกรุงเทพ มีเพียง ‘เขา’ ที่เป็นจุดโฟกัสเดียวของหัวใจ จนรับรู้ถึงลมหายใจของเขาแค่คนเดียว
กลางลานกว้างของศูนย์การค้าในย่านใจกลางกรุงเทพฯ
เวลาใกล้ค่ำที่ไฟเมืองสะท้อนผ่านกระจกสูงจนดูคล้ายแกลเลอรีกลางอากาศ
‘ที’ – เด็กหนุ่มผิวแทนในเสื้อฮู้ดเปื้อนสี สะพายกระบอกใส่ภาพบนหลัง
ยืนมองอีกฝ่ายด้วยแววตานิ่งลึก จริงใจ แต่ยังเก็บซ่อนไว้ด้วยความลังเลบางอย่าง
เขาเพิ่งเดินทางมาส่งภาพงานที่วาดตามโจทย์ของอาจารย์
และไม่คาดว่าจะได้เจอเจ้าของโปรเจกต์ตัวจริงแบบนี้
‘วี’ – ผู้ชายหน้าตาตี๋ๆ ในเชิ้ตแขนพับกับกางเกงผ้าสบายๆ
ยืนอยู่ในพื้นที่จัดงานท่ามกลางศูนย์การค้า เขาดูเหมือนคนที่คุ้นเคยกับผู้คน
แต่กลับมองทีอย่างสนใจ ราวกับเจออะไรบางอย่างที่น่าค้นหา
ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนยังมีอยู่
แต่เย็นวันนั้น… เป็นจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่กำลังจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป
ในขณะที่ทีมงานกำลังทยอยเก็บอุปกรณ์และพูดคุยกันด้วยความเหน็ดเหนื่อย วียังคงมีสีหน้าใจเย็น แต่แอบหันไปมองทีเป็นระยะ
เด็กหนุ่มที่นั่งเงียบ ๆ อยู่คนเดียวโดยไม่แสดงอาการเบื่อหรือเร่งเร้า เขาแค่เลื่อนมือถือไปมาอย่างไม่จริงจัง ราวกับเฝ้ารออะไรบางอย่าง
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย วีเดินออกมาหาพร้อมรอยยิ้ม
“ขอโทษที่ให้รอนานนะ”
“ไม่เป็นไรครับ” ทีลุกขึ้น “พี่ทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว กินอะไรกันดีครับ”
“ทีเลือกเลย” วีพูดพร้อมหยิบกระเป๋าสะพาย “เป็นคนโชว์งาน ควรได้รางวัลหน่อย”
ทียิ้มเล็กๆ แล้วชี้ขึ้นไปยังชั้นบน “มีร้านอาหารญี่ปุ่นที่ผมชอบอยู่น่ะครับ ข้าวหน้าปลาดิบอร่อยมาก”
--
บรรยากาศภายในร้านญี่ปุ่นไม่ใหญ่เกินไป แต่ตกแต่งด้วยไม้สีอ่อนและโคมไฟกระดาษที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น โต๊ะที่ทั้งสองนั่งอยู่ติดกระจก มองออกไปเห็นแสงไฟของห้างที่ยังคงคึกคักแม้จะล่วงเข้าค่ำ
“กินแบบนี้บ่อยเหรอ” วีถาม ขณะคนซุปมิโสะเบาๆ
“ไม่บ่อยครับ ปกติอยู่หอ งบจำกัด” ทีตอบพร้อมรอยยิ้มแบบไม่คิดมาก “แต่ถ้าได้กินกับคนที่ชวน ก็รู้สึกว่ารสชาติมันดีขึ้นเยอะเลย”
วียิ้มหัวเราะเบาๆ แล้วไม่พูดอะไรต่อทันที เขาแค่เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาทีตรงๆ
“ไม่ค่อยได้ออกมากินข้าวกับใครหลังเลิกงานเท่าไหร่เลย”
ทีเลิกคิ้วนิดๆ “เพราะอะไรครับ?”
“ไม่รู้สิ…” วีวางช้อนซุปลงช้าๆ “เหนื่อยมั้ง”
“แต่พอดีวันนี้มีคนชวน ก็เป็นเรื่องราวดีๆ อยู่นะ”
ทีไม่ได้พูดอะไรต่อ แค่ยิ้มออกมาช้าๆ ก่อนจะก้มหน้ากินข้าวหน้าปลาดิบตรงหน้าอย่างตั้งใจ
ระหว่างที่ทีนั่งฟังวีเล่าเรื่องทีมงาน เรื่องปัญหาเบาๆ ที่เจอในงานวันนี้ และเรื่องลูกค้าที่หลงเข้ามาในโซนจัดแสดงผิดด้าน
เขารู้สึกว่าวีดูสดใสกว่าที่เห็นตอนทำงานอยู่หน้าฉาก ไม่มีความตึง ไม่มีระยะห่างแบบที่เขาคิดไว้ตอนแรก
เขาชอบฟังเสียงของวี มันไม่ได้ดังหรือเรียบเป็นทางการเหมือนตอนที่คุยกับกลุ่มลูกค้า
แต่กลับมีความเป็นกันเอง ปนความล้าเล็กๆ ที่ฟังแล้วอบอุ่นโดยไม่รู้ตัว
ก่อนแยกกันหน้าห้าง วีหันมาหาอีกครั้ง พร้อมเสียงพูดที่ทำให้ทีเผลอกลั้นยิ้ม
“ไว้ถ้าทีว่างวันไหน…บอกนะ อยากไปดูเวลาทีทำงานบ้างเหมือนกัน”
แสงไฟริมถนนยังคงสว่างอยู่
แต่ไม่สว่างเท่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในใจของใครบางคน
--
ร้านกาแฟริมถนนในซอยอโศก ไม่ได้โดดเด่นอะไรนัก แต่มีโต๊ะไม้ตัวหนึ่งที่อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เงาไม้พลิ้วผ่านหน้าต่างกระทบหน้าใครบางคนในยามสาย — และวันนี้วีเป็นคนที่ได้นั่งอยู่ตรงนั้น
“มาก่อนเวลานะครับ” เสียงของทีดังขึ้นข้างหลัง เขาถือสเก็ตช์บุ๊คเล่มบางไว้ในมือ
“กลัวทีเบี้ยว ไม่อยากเสียหน้า” วีตอบเรียบ ๆ แต่รอยยิ้มน้อย ๆ บอกว่ายินดีที่อีกคนมาจริง
ทีนั่งลงตรงข้าม เปิดเมนูด้วยความเงียบเฉพาะตัว วีสังเกตได้ว่ามือของทีมีคราบสีติดอยู่ตรงข้อนิ้ว
“เมื่อกี้เพิ่งวาดงานมา?”
“ครับ…ภาพใหม่ ยังไม่ลงสีดีนัก”
“ว่าแต่…พี่มีเวลาว่างวันธรรมดาแบบนี้ด้วยเหรอ?”
“พอดีเลื่อนนัดลูกค้า เพราะอยากดื่มกาแฟกับใครบางคน”
คำพูดดูเล่น ๆ แต่ในใจวีเองก็ตกใจเล็กน้อยว่าเขากล้าพูดอะไรแบบนั้นออกไป
…
หลังจากนั้น ทั้งคู่เดินเล่นกันต่อที่สวนเบญจกิตติ ในบรรยายกาศของช่วงบ่ายที่มีแดดอ่อน ๆ
วีมักจะพูดมากกว่าเสมอ ส่วนทีจะตอบน้อย แต่คำพูดกลับตรงใจจนน่าแปลก
“บางทีเราก็อยู่ในโลกต่างกันเกินไป” วีเอ่ยขณะมองบ่อน้ำตรงหน้า
“พี่มีแต่ตาราง งาน คำสั่ง ลูกค้า…แต่ของทีคือสี ภาพ และความเงียบ”
ทีเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนตอบ
“แต่โลกมันกว้างพอให้เรามาเจอกันใช่ไหมล่ะครับ”
…
คืนนั้น วีกลับมาถึงห้องก็ยังยิ้มอยู่ เขาเปิดโทรศัพท์แล้วพิมพ์ข้อความหาอีกฝ่าย
“วันนี้สนุกดี…ถ้าว่างอีกเมื่อไหร่ นัดกันใหม่นะ”
ไม่ถึงนาทีก็มีข้อความตอบกลับ
“แน่นอนครับ ถ้าพี่ไม่เบื่อผมซะก่อน :) ”
…