‘ซานซาน’ (San San) จาก สาวน้อยจอมแก่น (The Mischievous Girl) สู่ชายาของอ๋องสิบเอ็ดรูปงามอย่าง ‘ลี่หยางอ๋อง’ (Li Yang Wang)

苏杉杉 ชะตาลิขิต มาเป็นชายาอ๋อง 11 - ตอนที่ 4 หญิงในดวงใจ โดย เจ้าแพนด้าขอบตาดำ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ย้อนยุค,จีน,คลั่งรักขั้นสุด,วัยว้าวุ่น,จีนโบราณ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

苏杉杉 ชะตาลิขิต มาเป็นชายาอ๋อง 11

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ย้อนยุค,จีน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

คลั่งรักขั้นสุด,วัยว้าวุ่น,จีนโบราณ

รายละเอียด

苏杉杉 ชะตาลิขิต มาเป็นชายาอ๋อง 11 โดย เจ้าแพนด้าขอบตาดำ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

‘ซานซาน’ (San San) จาก สาวน้อยจอมแก่น (The Mischievous Girl) สู่ชายาของอ๋องสิบเอ็ดรูปงามอย่าง ‘ลี่หยางอ๋อง’ (Li Yang Wang)

ผู้แต่ง

เจ้าแพนด้าขอบตาดำ

เรื่องย่อ



เรื่องราวของ ‘ซูซานซาน’ ที่ถูกทิ้งไว้หน้าหอบุปผาในวันที่ฝนตกและเติบโตภายใต้การดูแลของน้าหงส์นั้น น่าสนใจและเต็มไปด้วยความรักที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยการเอาใจใส่และการปกป้อง ซานซานได้รับการเลี้ยงดูให้เติบโตเป็นคนร่าเริงและเป็นที่รักของผู้คนในหอบุปผา ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่ทำให้เธอเป็นคนที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่ได้พบเจอ


แต่เมื่อซานซานต้องมาพัวพันกับ ‘ลี่หยางอ๋อง’ หรืออ๋องสิบเอ็ด ซึ่งมีฉายาว่าราชาปีศาจ ความขัดแย้งระหว่างบุคลิกของเขาและความอ่อนหวานของซานซานก็เริ่มต้นขึ้น ท่านอ๋องที่เย็นชาและดุดันในสนามรบ ไม่เคยมองหญิงใดๆ กลับถูกดึงดูดด้วยซานซาน การที่เขามองเธอเป็นคนเดียวในสายตาของเขา 


ซานซานที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและร่าเริงสามารถทำให้ ‘ลี่หยางอ๋อง’ หรือราชาปีศาจที่เคยเป็นคนเย็นชาและห่างเหินจากความรัก กลับเปิดใจและมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งกับเธอ ความสัมพันธ์ของพวกเขาคงเป็นการผสมผสานของความท้าทายและการเรียนรู้จากกันและกัน เป็นเรื่องราวความรักที่ไม่น่าเบื่อและน่าติดตามอย่างยิ่ง




*******สำหรับฉาก NC นักเขียนขอติดเหรียญเป็นค่าขนมเล็กๆน้อยๆน้าา🙏🥰❤️


# เป็นกำลังใจให้พี่🐺กับน้อง🐭ด้วยนะค๊า ❤️❤️❤️





สารบัญ

苏杉杉 ชะตาลิขิต มาเป็นชายาอ๋อง 11-ตอนที่ 1 เด็กผู้น่าสงสาร,苏杉杉 ชะตาลิขิต มาเป็นชายาอ๋อง 11-ตอนที่ 2 สายตาคู่นั้น,苏杉杉 ชะตาลิขิต มาเป็นชายาอ๋อง 11-ตอนที่ 3 คุณชายนิรนาม,苏杉杉 ชะตาลิขิต มาเป็นชายาอ๋อง 11-ตอนที่ 4 หญิงในดวงใจ

เนื้อหา

ตอนที่ 4 หญิงในดวงใจ






ร่างเล็กที่วิ่งปนเหนื่อยหอบวิ่งออกมาจากหอบุปผาอย่างท่าทางเร่งรีบ "ให้ตายเถอะ วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับข้ากันเนี้ย "  ทั้งเจอคุณชายโรคจิตคนนั้น กับ ไอ้ผู้ชายบ้ากามมาดึงมือ คิดแค่นี้ก็ขนลุกไปทั้งตัว อีกทั้งน้าหงส์ดีนะวิ่งออกมาทันไม่งั้นได้ลากยาวบ่นถึงดึกเป็นแน่ 






~ เกาลัดผัดน้ำตาลจ้า ~ 






"เกาลัดผัดน้ำตาลนิ หอมจังเลย กินก่อนละกัน กินเสร็จค่อยมาคิดอีกทีว่าทำยังไงต่อ" ซานซานไม่รอช้าที่จะเดินไปยังต้นตอของกลิ่นที่โชยชวนให้น้ำไหลอย่างเกาลัดผัดน้ำตาล


" กินอีกกี่ทีก็อร่อยเหมือนเดิม อย่างนี้สิค่อยมีความสุขหน่อย ไม่มีอะไรสู้เกาลัดผัดน้ำตาลนี้ได้เลยจริงๆ " แต่ก็เกือบสำลักเกาลัดที่กินจู่ๆมีเสียงทักขึ้นมาแต่พอหันกลับไปมองเจ้าของเสียง พอรู้ว่าเจ้าของเสียงคือใคร มือถึงกับอ่อนถุงใส่เกาลัดผัดน้ำตาลในมือก็ล่วงลงพื้นเป็นที่เรียบร้อย


"ซูซานซาน..."




เสียงทุ้มที่เอ่ยเรียกชื่อเธอ ทำให้ซานซานชะงักงันทันที หญิงสาวหันมองเจ้าของเสียงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตกใจ




"ท่าน!"




ใช่แล้ว คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือ ลี่หยางอ๋อง ชายที่เธอเพิ่งพบในหอบุปผา ชายที่เธอเผลอไปสบตาเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ




"แม่นาง ดูเหมือนเราจะพบกันอีกครั้งโดยไม่ได้นัดหมาย" น้ำเสียงของเขานิ่งเรียบ แต่สายตากลับดูจับจ้องอย่างพิจารณา




ซานซานกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะรีบก้มลงเก็บถุงเกาลัดที่ตกอยู่บนพื้น เธอพยายามหลีกเลี่ยงการสบตากับเขา




"ข้าคงต้องขอตัวก่อน ข้าคงทำให้ท่านอ๋องเข้าใจผิด ข้าไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเหตุการณ์นั้น..." เธอพูดอย่างรวดเร็ว หวังจะจบเรื่องให้ไวที่สุด


"เดี๋ยวก่อน" ลี่หยางอ๋องพูดขึ้น ทำให้เธอชะงักอีกครั้ง


"เจ้ารู้หรือไม่ว่าเพลงที่เจ้าดีดในหอบุปผาเมื่อครู่นั้น เป็นเพลงโปรดของผู้ใด?"




ซานซานเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างงุนงง "เพลงนั้นหรือ? ข้าเพียงแต่เล่นเพลงที่น้าหงส์เคยสอนให้ข้า ไม่ทราบว่ามันมีความสำคัญเช่นใด?"




ลี่หยางอ๋องขมวดคิ้วเล็กน้อย ราวกับคำตอบของเธอทำให้เขาสงสัยมากขึ้นไปอีก




"เพลงนั้นคือบทเพลงที่หาฟังได้ยาก เป็นเพลงที่มีเพียงไม่กี่คนในวังหลวงเท่านั้นที่รู้จัก เจ้าเรียนเพลงนี้มาจากใครกันแน่?" ซานซานเริ่มสับสน เธอไม่เคยคิดว่าเพลงธรรมดาที่น้าหงส์สอนเธอจะมีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์




"ข้าไม่รู้จริงๆ น้าหงส์เป็นคนสอนข้าเท่านั้น..."




สายตาของลี่หยางอ๋องเริ่มเปลี่ยนไป ราวกับกำลังค้นหาคำตอบที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอ "ดูเหมือนข้าจะต้องพบกับ 'น้าหงส์' ของเจ้าสักครั้งแล้ว" เขาพูดพร้อมรอยยิ้มที่ยากจะเดาความคิด


ซานซานถึงกับหน้าซีด "ไม่! น้าหงส์ไม่เกี่ยวอะไรด้วย ท่านอย่าไปพบนางเลย!" แต่ดูเหมือนคำพูดของเธอจะไร้ผล ลี่หยางอ๋องเพียงแค่ยิ้มบางๆ 




"คนอุส่าช่วยไม่คิดจะขอบคุณเลยรึ" ที่เขาตามมาคือมาทวงบุญที่ช่วยเมื่อกี้เองรึ  "ที่ท่านตามข้ามาก็เพราะจะมาทวงบุญคุณงั้นรึ"




พอซานซานพูดจบเขากลับหัวเราะขำออกมาเบาๆแลดูชอบใจกับคำพูดของคนตรงหน้า "ท่านขำอะไร มีอะไรให้น่าขำกัน" ซานซานพูด 




"เปล่าๆ แค่ขอบคุณก็ถือเป็นการทวงบุญคุณด้วยงั้นรึ" เขาค่อยๆเดินเข้ามาทีละนิด ทีละนิด และยื่นใบหน้าเข้าใกล้จนเกือบจะชิดใบหน้าของอีกฝ่าย "ท่านจะทำอะไร " ซานซานพูดแทรกขึ้นมา "ข้าเพียงจะหยิบเกาลัดที่เจ้ากินเลอะปากออกให้"




"ขอบคุณ"




อะไรกันทำไมใจเต้นแรงขนาดนี้เนี้ยจะหลุดออกมาอยู่เแล้ว มันเป็นอาการอะไร




"เอาล่ะๆ ข้ามีเรื่องที่ต้องไปทำ  เรื่องทวงบุญคุณอะไรไม่มีหรอก  ข้าทำตามหน้าที่ของบุรุษ ข้าหวังว่าจะมีโอกาสเจอเจ้าอีกเร็วๆนี้" พอเขาพูดเสร็จเขาก็เดินจากไปเลยทิ้งให้ซานซานยื่นมองหลังเขาเดินจากไป 


"ใครอยากจะเจอท่านอีกกัน คนบ้า!" พูดแล้วซานซานก็ก้มเก็บถุงเกาลัดผัดน้ำตาลขึ้นมา " ให้ตายเถอะ เย็นหมดแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไร ยังอร่อย"




ฝั่งท่านอ๋องที่เดินออกมาได้สักพักก็ยังหุบยิ้ม ทำให้คนติดตามอย่างมู่ตงค่อยยิ้มตามไปด้วย "ดูท่านสิ ไม่หุบยิ้มตั้งแต่คุยกับแม่นางซานซาน คราบอ๋องปีศาจหายไปแล้ว" 




"หน้าข้าทำไมกัน  หยุดพูดเตรียมตัวเข้าวังหลวง" ท่านอ๋องรีบตัดบทก่อนที่คนสนิทอย่างมู่ตงจะสาวยาวยิ่งกว่านี้


"ขอรับ ๆ ข้าหุบปากแล้ว" มู่ตงรีบตอบรับพลางหันหน้ากลับมาเดินตามหลังท่านอ๋องอย่างเงียบ ๆ ถึงแม้ในใจยังเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น




ลี่หยางอ๋องที่เดินนำหน้าไปนั้น สีหน้าแม้จะนิ่งเรียบ แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความครุ่นคิด




"ซูซานซาน..." เขาพึมพำชื่อนั้นเบา ๆ อย่างเผลอตัว




มู่ตงที่เดินตามหลังแอบได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปาก "ท่านอ๋องนี่ช่างแปลกเสียจริง ดูเหมือนจะมีอะไรในใจนะขอรับ" ลี่หยางอ๋องเหลือบมองลูกน้องคนสนิทอย่างมู่ตงด้วยสายตาคมกริบ "ข้าบอกให้หยุดพูด เจ้าไม่ได้ยินหรือไร?"




"ขอรับ! หยุดแล้วขอรับ" มู่ตงยกมือขึ้นปิดปากตัวเองทันที




เมื่อเดินทางถึงวังหลวง ลี่หยางอ๋องตรงไปยังตำหนักขององค์ฮ่องเต้ทันที ไม่รอช้า ความเงียบสงบของตำหนักใหญ่เพิ่มความขรึมให้กับบรรยากาศ




"ถวายบังคมฝ่าบาท" ลี่หยางอ๋องคุกเข่าลงพร้อมกับกล่าวอย่างนอบน้อม




องค์ฮ่องเต้ที่ประทับอยู่บนบัลลังก์ทอดสายตามองน้องชายของตนด้วยความพึงพอใจ "เจ้าไม่เคยมาสายเลยสักครั้ง น้องข้าช่างน่าเชื่อถือสมดังคำเล่าลือจริง ๆ"


"มีสิ่งใดที่พระองค์ต้องการให้ข้ารับใช้?" ลี่หยางอ๋องถามตรงประเด็น




องค์ฮ่องเต้ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเอนตัวพิงบัลลังก์ "ข้ามีบางเรื่องที่ต้องการให้เจ้าไตร่ตรองอย่างจริงจัง..."




สายตาขององค์ฮ่องเต้ที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง ทำให้ลี่หยางอ๋องรู้ว่าเรื่องที่กำลังจะพูดต้องเกี่ยวกับเรื่องแต่งตั้งชายาแน่นอน




"หากเป็นเรื่องแต่งตั้งชายา ข้าขอปฏิเสธเช่นเดิมพ่ะย่ะค่ะ" เขาตอบกลับทันที




องค์ฮ่องเต้หัวเราะเบา ๆ "ข้าไม่แปลกใจเลย แต่คราวนี้เจ้าคงปฏิเสธไม่ได้ง่าย ๆ"




ลี่หยางอ๋องเลิกคิ้วเล็กน้อย "หมายความว่าอย่างไร?"




องค์ฮ่องเต้ยิ้มกว้างขึ้น "ข้าอาจมีใครบางคนที่เหมาะสมสำหรับเจ้าแล้ว"




คำพูดนั้นทำให้ลี่หยางอ๋องรู้สึกตงิดใจ เขาไม่รู้เลยว่า 'ใครบางคน' ที่องค์ฮ่องเต้พูดถึงนั้นจะเกี่ยวข้องกับหญิงสาวที่เขาเพิ่งพบเจอหรือไม่… 'ซูซานซาน'














โรงเตี๊ยมหมินฉาง




เห้อ~ เห้อ~ เสียงถอดหายใจของคนที่นั่งอมทุกข์อย่างซานซานที่ตอนนี้ได้แต่นั่งถอดหายใจไปมา 




"ซานซาน นั่งถอดหายใจแรงขนาดนี้  โดนน่าหงส์ดุมาอีกแล้วรึ" 


"เปล่าเสียหน่อย เห้อ~ " ซานซานพูดตอกกลับแล้วก็มานั่งถอดหายใจอีกครั้ง "ปากเจ้าบอกว่าเปล่า แต่มานั่งถอดหายใจดังจนลูกค้าข้าหนีหมดแล้ว" 


"พี่จื่อเหยียน ข้าว่าข้าก่อเรื่องให้หอบุปผาแล้วล่ะ" จื่อเหยี่ยนเมื่อได้ยินก็รีบมานั่งตรงข้ามทันที "คงจะเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ เพราะไม่อย่างงั้นเจ้าไม่มานั่งถอดหายใจเช่นนี้หรอก"


"ก็คงเป็นเช่นนั้น "


"ไหนลองบอกข้ามาสิว่าเจ้าไปทำอะไรมา" 




จื่อเหยียน กับ หยางจื่อ สองพี่น้องเป็นเจ้าของโรงเตี๊ยมที่ซานซานชอบมาหลบมาอยู่ตอนที่โดนน้าหงส์ดุมา ทำให้ซานซานสนิทสนมกับทั้งสองคนนี้มากก็ว่าได้




"คือว่า......ข้าดันไปมีเรื่องกับคนตระกูลมู่เข้าแต่นั่นข้าถูกกระทำก่อน  แต่มีคนช่วยข้าไว้ แต่ดูท่าคนของตระกูลมู่คงจะไม่มีวันเลิกราเป็นแน่ พี่จื่อเหยียนข้ากลัวพวกเขาจะไปทำอะไรหอบุปผาทั้งๆที่ข้าเป็นต้นเหตุ" จื่อเหยียนเมื่อได้ยินคำพูดจบประโยคของซานซาน ก็ค่อยเอามือไปลูบหัวของซานซานเบาๆเพื่อปลอบใจ


"มันคงไม่เป็นอย่างที่เจ้าคิดหรอก อย่าได้กังวลไปเลย วันนี้ข้ารู้ว่าเจ้าจะมา ข้าเตรียมขนมกุ้ยฮวาของโปรดเจ้าเอาไว้"


"ท่านดีกับข้าจังเลย "ซานซานพูด  "ข้าเห็นเจ้าตั้งแต่เล็กๆ วิ่งไปมาที่นี่ก็หลายครั้ง ข้าก็คิดว่าเจ้าเป็นน้องสาวคนเล็กของเราไปแล้ว " ด้วยความหมั่นใส่จื่อเหยียนบิดไปที่แก้มเบาๆจนเจ้าตัวร้องโอ๊ยออกมา


"โอ๊ยยยย ข้าเจ็บนะ"


"เลิกคิด แล้วก็กินขนมให้สบายใจเถอะ งั้นข้าไปดูแลลูกค้าก่อน"


"อื้ม พี่ไปเถอะ" มันคงจะไม่มีอะไรอย่างที่คิดไว้หรอก เลิกคิดได้แล้วซานซาน 




บรรยากาศในโรงเตี๊ยมหมินฉางกลับมาคึกคักอีกครั้ง เสียงพูดคุยของลูกค้าดังก้องไปทั่ว แต่ในมุมเล็กๆ ของโต๊ะที่ซานซานนั่งอยู่ เธอกลับรู้สึกเหมือนตัวเองหลุดออกมาจากความวุ่นวายรอบตัว ขนมกุ้ยฮวาหอมกรุ่นตรงหน้าช่วยปลอบประโลมจิตใจได้บ้าง ซานซานตักขนมเข้าปากอย่างช้าๆ แต่ในใจยังคงมีความกังวลเล็กๆ ซ่อนอยู่




"เฮ้อ... อยากให้ทุกอย่างจบลงง่ายๆ" เธอพึมพำเบาๆ กับตัวเอง




ขณะที่กำลังจะหยิบชิ้นขนมชิ้นสุดท้าย เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังเข้ามาใกล้โรงเตี๊ยม และประตูถูกผลักเปิดออกอย่างแรง ทุกคนในโรงเตี๊ยมหยุดนิ่ง หันไปมองต้นเสียงนั้นพร้อมกัน ชายในชุดเกราะสีดำพร้อมตราสัญลักษณ์ของวังหลวงก้าวเข้ามาอย่างองอาจ ใบหน้าเย็นชาแต่ทรงพลังทำให้บรรยากาศในโรงเตี๊ยมเงียบสงัด




"ใครคือซูซานซาน?" ชายคนนั้นถามเสียงดัง




ซานซานที่กำลังเคี้ยวขนมแทบสำลัก เธอรีบกลืนลงคอพลางก้มหน้าหลบสายตาของทุกคน "ใครคือซูซานซาน?!" ชายคนนั้นถามซ้ำอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงทรงพลังยิ่งกว่าเดิม




จื่อเหยียนที่อยู่ไม่ไกลรีบเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าชายในชุดเกราะ "เกิดเรื่องอันใดขึ้นกับน้องข้า?"


คำพูดนั้นทำให้ซานซานที่นั่งก้มหน้าอยู่สะดุ้งเฮือก เธอไม่เข้าใจว่าเหตุใดมีชายสวมชุดเกราะเหล่านี้ถึงได้สนใจในตัวเธอ หรือว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับเขา… ลี่หยางอ๋อง!




จื่อเหยียนหันไปมองซานซานด้วยความสงสัย "ซานซาน... เจ้าเกี่ยวข้องอันใดกับคนพวกนี้"




ซานซานส่ายหน้ารัวๆ "ข้า... ข้าไม่รู้เลย!"




ชายในชุดเกราะก้าวเข้ามาใกล้ "รับสิ่งนี้ไปขอรับ"




ซานซานกัดปากแน่น ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นยืน แม้ในใจจะหวั่นวิตก แต่ก็รู้ดีว่าปฏิเสธไม่ได้ "สิ่งนี้คือ...."




จื่อเหยียนมองเธอด้วยสายตาเป็นห่วง "เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"




"ข้าจะไม่เป็นไร... พี่อย่ากังวล" ซานซานพยายามส่งยิ้มที่ดูมั่นใจให้ แม้จะยากเย็นเพียงใดก็ตาม




เธอก็รับถุงจากมือชายในชุดเกราะ จากนั้นพวกเขาก็เดินจากไปโดย ทิ้งความสงสัยและความกังวลไว้ในโรงเตี๊ยมหมินฉาง…



'