แผนยั่วให้เขายอมแต่งงานกลายเป็นเกมรักร้อนแรง แต่เธอไม่รู้ว่าเดิมพันครั้งนี้คือหัวใจ...และศึกชิงบริษัทกับแม่เลี้ยงที่พร้อมเหยียบเธอให้จมดิน
ชาย-หญิง,ไทย,รัก,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ฝืนใจมาพบรัก (อ่านฟรีจนจบ)แผนยั่วให้เขายอมแต่งงานกลายเป็นเกมรักร้อนแรง แต่เธอไม่รู้ว่าเดิมพันครั้งนี้คือหัวใจ...และศึกชิงบริษัทกับแม่เลี้ยงที่พร้อมเหยียบเธอให้จมดิน
เมื่อพินัยกรรมของพ่อบังคับให้มินนี่ต้องแต่งงานกับปฐพี ชายหนุ่มผู้ใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่กลางสวนผลไม้ แต่เขากลับเมินเฉย ไม่แม้แต่จะชายตามอง ทำให้จำเป็นต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้เขายอมแต่งงานด้วย ไม่ว่าจะยั่วเย้า แกล้งอ่อย หรือแม้แต่ใช้ความเมาบุกเข้าไปในห้องนอน จนได้เขาสมใจ
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังถูกปฏิเสธการแต่งงาน
เธอได้ครอบครองทุกอย่าง ยกเว้นหัวใจ แถมยังต้องเผชิญกับผู้หญิงอีกมากมายที่หมายปองเขา แต่ก่อนจะมีโอกาสเอาชนะใจ แม่เลี้ยงกลับเดินเกมร้าย คิดฮุบบริษัทของพ่อไปครอง ทำให้ต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ ทว่าทุกทางกลับถูกปิดตาย
จนกระทั่งเขาเข้ามายื่นมือช่วยเหลือ พาทวงคืนทุกอย่างที่เคยเป็นของเธอ และมอบ ‘อิสระ’ ให้พร้อมกัน
เธอควรจะดีใจที่ได้รับอิสรภาพ แต่ทำไมกลับรู้สึกเหมือนสูญเสียบางสิ่งที่สำคัญที่สุดไปตลอดกาล
“ใช่ค่ะ คุณคือ?...”
“ผมชื่อเจตครับ เป็นลูกน้องของคุณดิน” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนน้อม
“เอ่อ...แล้วนายมารับฉันอย่างนั้นเหรอ?” เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างไม่มั่นใจ พลางลอบมองไปยังรถกระบะคันเก่า ๆ ที่จอดอยู่
“ใช่ครับ พอดีผมพาแม่มาหาหมอในเมือง นายก็เลยให้ผมแวะรับคุณมินนี่กลับไปด้วยครับ”
หญิงสาวยืนนิ่งราวกับหิน ทั้งตัวชาวาบเพราะไม่รู้ว่าจะต้องรู้สึกอย่างไรดี นั่งรถจากกรุงเทพมาถึงที่นี่ด้วยรถโดยสาร และยังต้องนั่งรถกระบะเข้าไปอีก
“หมายความว่าไง? ผู้หญิงคนนี้จะนั่งรถเรากลับไปที่สวนด้วยเหรอ?” หญิงอวบที่เอ่ยถามขึ้นอย่างงุนงง
“ใช่...เอ่อ...เชิญคุณมินนี่ขึ้นรถเถอะครับ”
“แล้วจะให้นั่งตรงไหนคะ?” หญิงสาวรู้สึกสังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูก เมื่อเห็นหญิงชราเดินมายังท้ายรถ
“นั่งหน้าไปกับผมก็ได้ครับ” จากนั้นก็หันไปประคองผู้เป็นแม่เพื่อขึ้นไปนั่งกระบะหลัง
“เอ่อ...ให้คุณยายนั่งข้างหน้าก็ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันนั่งกระบะหลังเอง”
ทั้งหมดมองหน้ากันอย่างงุนงง เพราะดูจากท่าทางและการแต่งตัวของเธอแล้ว น่าจะไม่เคยนั่งรถกระบะอย่างแน่นอน หญิงสาวรีบยกกระเป๋าเดินทางขึ้นท้ายรถ แต่ด้วยน้ำหนักที่มากเกินไปทำให้เธอยกไม่ขึ้น
นายเจตจึงจัดการยกขึ้นให้ จากนั้นไฮโซสาวก็พาตัวเองปีนขึ้นอย่างทุลักทุเล โดยมีหญิงอวบคอยประคองอยู่ตลอดเวลา พื้นกระบะที่แข็งกว่าเบาะรถโดยสารทำให้รู้สึกเจ็บก้น อีกทั้งยังต้องนั่งพับเพียบ เพราะกระโปรงที่สวมใส่มาสั้นเกินไป
ตลอดทางหญิงอวบพยายามพูดคุยแข่งกับเสียงลม ถึงแม้ว่ารถจะเคลื่อนตัวไม่เร็วมากนัก แต่เธอก็ไม่อาจได้ยินเสียงพูดนั้นเลย ผมยาวสลวยฟูฟ่องจนไม่เหลือความสวยงามอีก
ประมาณชั่วโมงครึ่งรถกระบะคันเก่าก็เลี้ยวเข้าทางเล็ก ๆ ที่มีแต่ดินลูกรังตลอดเส้นทาง ร่างบางสั่นสะเทือนตามแรงกระแทกของรถ กว่าจะถึงจุดหมายก็เกือบจะขย้อนอาหารที่ทานเข้าไปออกมา
เสียงของสุนัขหลายตัว ส่งเสียงเห่าด้วยความดีใจ ต่างก็พากันวิ่งออกมาต้อนรับ บางตัวก็กระโดดตะเกียกตะกายเกาะขอบกระบะรถ จนทำให้หญิงสาวรู้สึกตกใจมาก
“ถึงแล้วครับ”
คนขับรถเดินมาเปิดท้ายกระบะ พร้อมกับหญิงอวบเข้าไปประคองเธอลงจากรถ ท่ามกลางสุนัขฝูงใหญ่ที่ยืนรายล้อมอยู่ แขนขาของเธอแทบจะไร้เรี่ยวแรงทันที เมื่อสองเท้าเหยียบลงบนพื้นดิน
“พวกมันจะกัดไหม?”
“ไม่กัดแน่นอนครับ” จากนั้นนายเจตก็ไล่พวกมันไป
สายตาคู่สวยกะพริบไล่ความพร่ามัว ภาพตรงหน้าปรากฏเป็นสวนผลไม้กว้างใหญ่ ที่มีแต่ความเขียวชอุ่ม สายลมเย็น ๆ พัดแรงจนเส้นผมปลิวสลวย อากาศบริสุทธิ์ไหลเข้าปอด ขับไล่อาการมึนงงจากการเดินทางจนหายเป็นปลิดทิ้ง
แม้จะรู้สึกสดชื่นมากแค่ไหน แต่ก็นึกประหลาดใจมากกว่า เพราะเธอไม่คาดคิดว่าตัวเองจะต้องมาอยู่ที่นี่ อาทนายบอกแค่ว่า ชายหนุ่มเป็นทำสวนผลไม้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นธรรมชาติมากขนาดนี้ หากรู้ก่อนก็คงไม่ใส่รองเท้าส้นสูงและนุ่งกระโปรงสั้นมาแน่นอน
“คุณมินนี่เชิญเข้าไปพักในบ้านก่อนครับ”
“เจ้านายของเธออยู่ที่ไหน?”
“อยู่ในสวนครับ นายบอกว่าให้...”
“ฉันจะไปพบเขาก่อน”
หญิงสาวรู้สึกว่าต้องไปพบเจ้าของบ้านก่อน ถึงจะเข้าไปในบ้านได้ ถึงแม้ว่าจะไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ เพราะอาทนายได้บอกเขาไว้แล้วว่าเธอจะมาหา แม้ว่าอีกฝ่ายจะรับรู้แล้ว แต่เธอก็ยังรู้สึกว่าเป็นมารยาทอย่างหนึ่งที่จะต้องทำ
“เอ่อ...ถ้าอย่างนั้น ผมจะพาไปครับ แต่ว่าต้องเดินไปนะครับ เพราะรถซาเล้งไม่อยู่เลยสักคัน”
“ได้ค่ะ” แม้จะรู้สึกหวาดหวั่นเล็กน้อย แต่ก็ไม่รู้สึกกลัว อีกทั้งยังได้เที่ยวชมสวนไปด้วย
“นิด นำกระเป๋าคุณมินนี่ไปเก็บไว้ที่ห้องก่อน”
หญิงอวบรีบเดินมารับกระเป๋าจากสามีไปทันที จากนั้นทั้งสองก็พากันเดินเข้าไปในสวนผลไม้ ตลอดทางเดินเป็นทางดินเล็ก ๆ สองข้างทางเป็นต้นเงาะที่มีลูกสีแดงสดอยู่เต็มต้น
คนงานหลายคนกำลังเก็บลูกเงาะกันอย่างขะมักเขม้น สายตาของทุกคนทำให้เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย พยายามข่มใจไม่ให้ตื่นเต้น และระมัดระวังในการเดิน เพราะทางเดินมีก้อนหินก้อนเล็ก ๆ ที่พานจะทำให้หกล้มได้ทุกเมื่อ
ระยะทางประมาณเกือบหนึ่งกิโลนั้น ทำให้ใบหน้าเนียนเริ่มมีเหงื่อผุดซึมออกมาตามไรผม สองขาเริ่มหมดแรง เพราะร่างกายไม่เคยออกกำลังกายเลย
เมื่อเดินมาเรื่อย ๆ ก็เริ่มไม่มีคนงานแล้ว บรรยากาศเริ่มเงียบสงบ มีแต่ต้นเงาะเรียงรายไปจนสุดลูกหูลูกตา นึกประหลาดใจไม่น้อยที่เจ้าบ่าวของเธอมีที่ดินมากมายถึงเพียงนี้เลยเหรอ
“นายอยู่ต้นนั้นครับ” คนขับรถหนุ่มชี้ไปทางต้นเงาะต้นหนึ่งที่มีลูกสีแดงดกหนา
มินนี่เบิกตามองกว้าง เพราะทั้งสีเขียวสีแดงหนาแน่นจนแทบจะมองไม่เห็นคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง อีกทั้งยังมีต้นเงาะอีกหลายต้นที่อยู่ก่อนหน้า พลางนึกสงสัยว่าคนขับรถนี่รู้ได้อย่างไร ว่าคนที่ยืนอยู่นั้นเป็นใคร
“ขอบคุณค่ะ”
จากนั้นหญิงสาวก็ค่อย ๆ ก้าวเดินไป ดินตรงส่วนนี้ค่อนข้างนิ่มเล็กน้อย ทำให้ส้นสูงจมลงไปจนก้าวต่อไปอย่างทุลักทุเล เมื่อหันหลังกลับไปมองก็พบว่าคนขับรถเดินกลับไปเสียแล้ว
‘เฮ้อ...ช่างยากเย็นเหลือเกิน กว่าจะได้เจอ’ ดวงตาคู่งามกลอกตาไปมาอย่างเหนื่อยหน่าย พลางถอนหายใจเบา ๆ
“คุณดินคะ” เสียงหวานร้องตะโกนออกมาเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ตัว ว่ากำลังจะมีคนเดินไปหา
จากนั้นก็พยายามเดินไปยังหลังต้นเงาะ เพื่อพบกับเจ้าของสวน ในขณะที่เดินเข้าไปใกล้กับต้นเงาะต้นนั้น สายตาของเธอก็พลันเห็นบางอย่างที่อยู่ใต้ต้นเงาะต้นอื่น ซึ่งไม่ไกลจากจุดที่เธอยืนอยู่มากนัก
ลำตัวของมันยาวและดำสนิทกำลังเลื้อยเข้ามา ร่างบางสั่นระริก ไม่กล้าขยับเดินต่อ สัตว์ที่เธอเกลียดและกลัวมากที่สุด ก็คือ งู
กรี๊ด!!!!!!