"ถ้าเขาเป็นแฟนเพื่อนสนิทฉัน แล้วจะทำไม? ถ้าฉันอยากได้ก็ต้องได้สิ"
ดราม่า,ผู้ใหญ่,ชาย-หญิง,ยุคปัจจุบัน,ไทย,อีโรติก,nc,18+,แย่งแฟนเพื่อน,ทรยศ,แย่งชิง,นางเอกเลว,พระเอกชั่ว,20+,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เมาดอกไม้สีทอง The Golden Bouquet"ถ้าเขาเป็นแฟนเพื่อนสนิทฉัน แล้วจะทำไม? ถ้าฉันอยากได้ก็ต้องได้สิ"
Amber. Author เขียน | White Diamond วาด
“ความรัก… มิตรภาพ… หรือความทะเยอทะยาน สิ่งใดที่เธอจะเลือก”
มีอา ธาราเวช หญิงสาวลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ ที่มีรูปเป็นทรัพย์ เติบโตมากับแม่เพียงลำพังในร้านข้าวแกงเล็กๆ ความจนหล่อหลอมให้เธอทะเยอทะยาน ไม่ใช่แค่ความฝันอยากมีชีวิตที่สุขสบาย แต่เธอเชื่อว่า ถ้าความรักไม่อาจให้ทุกอย่างได้ เงินต่างหากที่ทำให้ชีวิตสมบูรณ์
เธอมีเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว ลูกแก้ว ลลิตา หญิงสาวแสนดีที่เกิดมาบนกองเงินกองทองและมอบมิตรภาพที่บริสุทธิ์ให้กับเธอเสมอมา มีอาคิดว่าไม่มีอะไรจะมาสั่นคลอนความสัมพันธ์นี้ได้… จนกระทั่งเธอได้พบกับ สกาย กฤติน – แฟนหนุ่มของลูกแก้ว
เขา คือชายหนุ่มที่เพียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตา อนาคต และฐานะ
เธอ คือนางแมวป่าที่ไม่เคยยอมเป็นแค่ตัวประกอบในเรื่องราวของใคร
เมื่อแรงดึงดูดต้องห้ามเริ่มก่อตัวขึ้น สกายที่พยายามซ่อนความรู้สึกต้องห้ามกลับพบว่ามีอาคือเสน่ห์ที่เขาหักห้ามใจไม่ได้ ส่วนมีอาเองก็ไม่ใช่คนที่ปฏิเสธโอกาสดีๆ … แม้ว่ามันจะเป็นการทรยศเพื่อนสนิทก็ตาม
เมื่อมิตรภาพ ความรัก และความทะเยอทะยานมาบรรจบกัน สิ่งใดจะอยู่ สิ่งใดจะพัง
"เธอเชื่อหรือเปล่าว่า… ดอกไม้ที่งดงามที่สุด มักเป็นพิษร้ายที่แสนหอมหวาน"
มีการกระทำที่ผิดศีลธรรมอันดี ที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
มีเนื้อหาที่อาจกระทบกับจิตใจในเชิงลบได้
มีการบรรยายฉากร่วมเพศแบบละเอียด
มีฉากตบตี
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
นิยายเรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นจากจินตนาการของนักเขียนโดยทั้งสิ้น
อาจมีเนื้อหาที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง ตัวละครและสถานที่บางส่วนเป็นสิ่งที่สมมุติขึ้น
© 2025 Amber. Author สงวนลิขสิทธิ์
นิยายเรื่อง "เมาดอกไม้สีทอง The Golden Bouquet" เป็นงานเขียนที่อยู่ภายใต้กฎหมายลิขสิทธิ์ ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือเผยแพร่เนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
วันเสาร์ หนึ่งสัปดาห์ต่อมา เวลา 11:30 น.
วันนี้มีอานึกอยากจะลองเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวด้วยชุดที่ผิดจากทุกครั้งดู เธอในชุดผ้าขนหนูรัดอก ตัวเปียกชุ่มจากการอาบน้ำในข่วงบ่าย กำลังนั่งคิดอะไรพิเรนทร์ ๆ อยู่ตรงปลายเตียง โดยปกติแล้วสาวน้อยแสนสวยคนนี้จะใส่แต่เสื้อโชว์เนื้อโชว์หนังแบบที่ว่า จำนวนผ้าที่ได้รับไม่เหมาะสมกับราคาที่ซื้อมา
เธอค้นตู้เสื้อผ้าในห้องนอนที่วางอยู่ไม่ไกลจากเตียงนอนมากนัก เสื้อผ้าเรียงรายอยู่เต็มราวแขวน ส่วนใหญ่เป็นเดรสรัดรูปสีเข้ม ผ่าข้างลึก โชว์แผ่นหลัง เว้าอก และทุกดีเทลที่บอกว่า เธอมั่นใจในรูปร่างของตัวเองมากแค่ไหน แต่ในครั้งนี้กลับเลือกหยิบเอาชุดที่อยู่ข้างในสุดออกมาเพื่อตรวจดูสภาพของเนื้อผ้าว่า มันยังคงดีอยู่หรือไม่
เสื้อเดรสตัวนี้เป็นเสื้อที่ลูกแก้วซื้อให้เธอเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อสองปีที่แล้ว ก่อนจะเกิดเหตุการณ์โรคระบาดที่ทำเอาทั้งประเทศ และทั่วโลกต้องล็อกดาวน์
ชุดเดรสแขนตุ๊กตาสีครีมอ่อน ยาวเหนือเข่าเล็กน้อย ติดโบว์ตรงอก และมีระบายชายกระโปรงน่ารักเหมือนชุดลูกคุณหนูที่หลุดออกมาจากสวนดอกไม้ก็ไม่ปาน เธอหรี่ตามองตั้งแต่หัวจรดปลาย เม้มปากล่างด้วยความไม่แน่ใจว่า ควรจะลองใส่มันสักครั้งดีไม่ดี
เธอไม่เคยมองว่า มันสวยในสายตาของเธอเลย มีอาไม่เคยใส่ชุดตัวนี้ออกไปไหนตั้งแต่ได้รับมา จนเพื่อนของเธอถามจนเลิกถามไปหลายหน
สุดท้ายก็จนใจหยิบมันมาใส่อย่างที่ตั้งใจไว้ อีกครึ่งชั่วโมงคุณวิชัยก็จะมารับที่บ้านแล้ว วันนี้เธอกำลังจะได้เห็นห้องคอนโดสุดหรูที่เธอใฝ่ฝันไว้ตั้งแต่เด็ก ที่จะเป็นของเธอเองสักที หญิงสาวตรวจดูภาพรวมของตัวเองในชุดที่แปลกตานี้ผ่านกระจกบานใหญ่ที่ปลายเตียงเหมือนเช่นทุกครั้ง ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะเครื่องแป้งเล็ก ๆ หน้าประตูทางเข้า และแต่งหน้าด้วยโทนสีที่เข้ากับชุด
เวลาผ่านไปสี่สิบห้านาที
ติ้ง! ติ้ง! ติ้ง!
เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น รถแคมรี่สีดำที่กำลังรออยู่มาถึงแล้ว
มีอาคว้ากระเป๋าชาแนลตัวโปรดใบเดิมขึ้นไหล่และเดินลงไปที่รถอย่างไม่รอช้า ทุกครั้งที่คุณวิชัยมารับเธอ เขาจะส่งเพียงข้อความาบอก ไม่บีบแตรดังเพื่อรบกวนบ้านหลังอื่น
พอลงมาถึงข้างล่างกำลังจะเปิดประตูออกไป ก็มีเสียงของหญิงสูงวัยตะโกนถามตามหลังมา
“วันนี้คิดยังใส่เสื้อตัวนี้กันล่ะเนี่ย" แม่เจี๊ยบถามเธอพลางกวนทุเรียนในโถใบใหญ่ หลัง ๆ มานี้แม่แกเปลี่ยนเวลาปิดร้านจากวันอาทิตย์ เป็นทั้งเสาร์ทั้งอาทิตย์แทน ได้มีเวลาทำขนมไทยขายออนไลน์กับเขาดูบ้าง ไม่ต้องเหนื่อยแบกเหนื่อยจ่ายตลาดมากมายเหมือนเมื่อก่อน ลูกสาวแสนกตัญญูของเธอเองก็ส่งเงินให้เธอเพิ่มขึ้นจากเดือนละสามหมื่นเป็นห้าหมื่น แต่แม่แกก็ยังอยากจะทำงานเพิ่มไม่แบมือรอเงินจากลูกสาวเพียงอย่างเดียว ด้วยความเคยชินกับการทำงานหนักมาทั้งชีวิต
หลัง ๆ เธอเห็นคนชอบขายของผ่านติ๊กต๊อกจึงอยากลองไลฟ์ขายขนมดู เผื่อจะเลิกทำร้านข้าวแกงมาขายของจากบ้านเต็มตัวแทน
"ก็… อยากลองเปลี่ยนมู้ดดูบ้างอ่ะค่ะ แม่ไม่ชอบหรือไงเรียบร้อย ๆ แบบนี้"
แม่เจี๊ยบวางไม้พายลง และเดินตรงมาหาลูกสาวที่มือยังจับคาอยู่ที่ประตู ชเง้อหน้ามองลอดออกทางกระจกเพื่อดูหน้าคนขับรถที่มารับลูกสาว
"ทำไมแกไม่เคยพาผู้จัดการแกมาให้ฉันรู้จักบ้างเลยล่ะ มารับทีไรก็เห็นอยู่แต่ในรถ นั่นผู้ชายใช่ไหม" แม่เจี๊ยบเห็นเพียงเงาลาง ๆ ของคุณวิชัย
"ค่ะ แม่! หนูไปแล้วนะ เขารอนานแล้วค่ะ สวัสดีค่ะ" เธอหันมาไหว้แม่ก่อนจะรีบวิ่งออกไปขึ้นรถ คุณวิชัยรอเธอมาได้สิบนาทีแล้ว แม้เขาจะไม่เคยบ่นอะไรเธอ แต่หากเกิดมีปัญหาขึ้นมาเพียงนิดอาจจะลามเป็นเรื่องใหญ่โต โดยเฉพาะกับเสี่ยกร ห้ามเด็ดขาดเลยที่จะทำให้เขาไม่พอใจ
แม่เจี๊ยบได้แต่ยืนมองลูกสาวขึ้นรถคันนั้นออกไปพร้อมถอนหายใจ เบา ๆ 'ทำงานหนักจริง ๆ ลูกฉัน ขนาดใกล้จะสอบแล้วก็ยังจะมีคิวถ่ายแบบอีก' เธอคิด
ณ คอนโด ดิแมย์เฟร์ เวลา 13:54 น.
คุณวิชัยใช้เวลาเดินทางบนถนนของกรุงเทพฯ นานเกือบ ๆ สองชั่วโมงกว่าจะมาถึงที่บ้านหลังใหม่ของมีอาในท้ายที่สุด หนุ่มใหญ่อีกคนที่กำลังรอเธออยู่ไม่ได้ตำหนิอะไรด้วยว่า เขามีเหตุผลมากพอจะเข้าใจ เธอทำอะไรไม่ได้กับสถานการณ์แบบนี้
"ขอโทษนะคะ สายไปตั้งสองชั่วโมงเลย รถติดมากเลยค่ะวันนี้ ไม่รู้ว่า เกิดอะไรขึ้น" เธอเอ่ยพลันมือบางสวยก็สวมกอดไปที่แขนของเขาเชิงว่า กำลังง้อ
ทั้งสองคนนั่งอยู่ที่โซนรับรองแขกตรงโถงด้านหน้าข้าง ๆ ล็อบบี้
"ไม่เป็นไร ๆ ไม่ต้องเครียด พี่เข้าใจ วันนี้น่าจะมีขบวนแหละ" เขาโอบไปที่เอวของหญิงสาวที่สีหน้าเคร่งเครียดกลัวว่า เขาจะไม่พอใจที่เธอมาสายไปตั้งสองชั่วโมง ฉีกยิ้งบางเพราะรู้ว่า ต้นเหตุของรถติดมาจากอะไร
"ป่ะ เราขึ้นไปข้างบนกัน คุณวิชัยผมฝากเอาเอกสารนี้ไปส่งให้กับเลขาผมทีนะ" เขาฉุดเธอลุกขึ้น และหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลยื่นให้กับคุณวิชัยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หลังจากที่เขาเอาติดตัวมาด้วยเพื่อเซ็นอนุมัติงบของโครงการหมู่บ้านจัดสรรโครงการใหม่ของบริษัท กินพื้นที่กว่าห้าสิบไร่ ที่อำเภอมาบตาพุด จังหวัดระยอง ที่เขาเพิ่งประชุมแผนเสร็จไปเมื่อวันก่อนหน้า
วันจันทร์ที่จะมาถึงนี้เขาต้องเข้าสภาทั้งวัน ไม่สะดวกที่จะทำงานส่วนตัว จึงฝากส่งไปตั้งแต่วันนี้เลย
ทั้งสองคนลุกเดินมาขึ้นลิฟท์ตรงโถงทางปีกซ้ายของล็อบบี้ และพูดคุยหยอกล้อกันนิดหน่อยระหว่างที่ลิฟท์กำลังเคลื่อนตัวขึ้น
"วันนี้หนูมีอาแต่งตัวน่ารักเชียว ผิดไปจากทุกที นึกยังไงล่ะเนี่ย" เขาเพิ่งสังเกตชุดของเธอที่ใส่มาในวันนี้
"ได้เป็นของขวัญมาค่ะ เลยอยากใส่ พี่กรชอบไหมคะ" เธอยิ้มกรุ้มกริ่มแบบแสแสร้งให้ดูน่ารัก หยิบชายกระโปงขึ้นหมุนตัวให้ชายตรงหน้าได้ชื่นชม
"น่ารักดีจ้ะ แปลกตาดี" เขาตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
มีอาไม่ได้ใส่มาเพราะมันเป็นของขวัญจากลูกแก้ว ถ้ามันเป็นเพราะเหตุผลนี้ เธอคงใส่ตั้งแต่วันที่ลูกแก้วซื้อให้แล้ว เธอใส่มาเพราะเธอไม่อยากดูเป็นเด็กเสี่ยเมื่อเดินขึ้นคอนโดหรูนี้กับเสี่ยกรสองคน เดี๋ยวลูกบ้านคนอื่นจะเอาไปนินทาได้ในเมื่อเธอกำลังจะย้ายเข้ามาอยู่ในอีกไม่นานนี้ และเพราะกลัวว่า จะได้เจอกับสกายโดยบังเอิญ แต่งตัวให้ผิดไปจากทุกทีจะได้ไม่ถูกสังเกตได้ง่าย ๆ
วันนี้เธออ้างกับเขาว่า เธอจะอ่านหนังสือคนเดียวที่ห้องนอน จะได้มีสมาธิไม่ว่อกแว่ก
โชคดีอีกอย่างที่ห้องของเธออยู่ชั้นยี่สิบสามของตึก คอนโดดิแมย์แฟร์แบ่งโซนสูงกับโซนต่ำทำให้โถงขึ้นลิฟท์อยู่คนละฝั่งกันตั้งแต่ชั้นสองถึงชั้นยี่สิบห้าจะอยู่ปีกซ้าย และชั้นยี่สิบหกถึงเจ็ดสิบห้าจะอยู่ปีกขวา
เมื่อขึ้นมาถึงห้อง ทั้งผ้าใบสีฟ้า ทั้งเศษปูนเอย เลอะเทอะเต็มพื้นห้องไปหมด กลิ่นสีตีเข้าจมูกอย่างแรงเพราะเพิ่งลงสีไปได้แค่วันเดียว
มองเข้าไปในห้องนั้นก็พอจะเห็นช่างอยู่ประมาณสามคน กับผู้รับเหมาอีกหนึ่งคนคอยคุมการทำงานในวันหยุดนี้อยู่ เขาถูกสั่งมาว่า ห้องต้องเสร็จภายในเดือนเดียวเท่านั้นจากหัวหน้าใหญ่สุดอย่างเสี่ยกร ทำให้ช่างต้องทำงานหนักแม้จะวันหยุดสุดสัปดาห์
มีอากับเสี่ยกรเดินไปที่โซนห้องรับแขก เธอกวาดตามองไปทั่วด้วยความปลื้มใจที่อินทีเรียออกแบบออกมามาตามที่เธอต้องการพอดีเป๊ะ ไม่มีผิดเพี๊ยนแม้นิดเดียว งานฝีมือของช่างก็เนี๊ยบไม่มีที่ติ
ไม่นานนัก ผู้รับเหมางานนี้ก็เดินออกมาจากโซนห้องนอนแยกเพื่อมาต้อนรับเสี่ยกร
"เอ้าคุณกรมาแล้วเหรอ" หนุ่มสูงวัยทักขึ้นพร้อมไหว้สวัสดีอย่างเป็นกันเองไม่เหมือนลูกน้องกับหัวหน้า มีอามองเขาด้วยความสงสัย ปกติลูกน้องของเสี่ยกรทุกคนจะค่อนข้างมีท่าทีเกรงใจเขามาก ๆ แต่กับคุณลุงคนนี้ดูทักทายกันเหมือนกับพี่น้องที่รู้จักกันมาอย่างดี
เมื่อปล่อยให้ทั้งสองคนได้พูดคุยอยู่สักพัก สายตาของมีอาก็แอบไปสะดุดกับช่างงานคนหนึ่ง ที่ในตอนนี้กำลังแอบชโงกหน้ามามองเธอจากในห้องน้ำ เขามองเธอด้วยสายตาเหมือนจะต้องการเขมือบเธอทั้งเป็นด้วยความหื่น เป็นสายตาแบบที่เธอพบเจอมาตลอดทั้งชีวิต ขนาดวันนี้เธอใส่ชุดเรียบร้อยมายังไม่วายโดนเหมือนเดิม
"นี่น้องมีอา" เสี่ยกรโอบเอวเธอมาเพื่อเป็นการแนะนำกับผู้ชายตรงหน้า
เธออึ้งไปเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่า เสี่ยกรจะแนะนำเธอดื้อ ๆ แบบนี้กับคนอื่น เขาแนะนำเธอด้วยสถานะอะไรกัน คุณลุงตรงหน้าไม่ได้มีสีหน้าตกใจอะไร เขาคงเคยชินกับการเห็นหญิงหน้าใหม่ ๆ ของเสี่ยกรเป็นแน่ ถ้าเป็นลูกน้องของเสี่ยกรก็ต้องชินอยู่แล้วสิ แต่หน้าแปลกที่เขาไม่เคยเห็นจะแนะนำเธอแบบจริงจังกับลูกน้องคนไหนมาก่อนเลย มีลุงคนนี้เป็นคนแรก
"สวัสดีค่ะ" เธอไหว้
"สวัสดีจ้ะ" เขารับไหว้
"นี่คุณเช็ง น้องเขยพี่เอง" เสี่ยกรแนะนำชายตรงหน้าให้กับมีอา
'งี้นี่เอง ถึงว่า ดูเป็นกันเองมาก ๆ ไม่เหมือนลูกน้องคนอื่น ๆ เลย' เธอคิด
"อาทิตย์หน้าห้องก็เสร็จแล้วครับ อีกสักอาทิตย์หลังจากนั้นค่อยขนเฟอร์เข้ามา"
"ดี ๆ หนูมีอาจะได้เข้ามาอยู่ตามเวลาที่วางไว้" เสี่ยกรยิ้มกรุ้มกริ่มหันมองสาวน้อยข้างกายด้วยความเอ็นดู มีอาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจ แต่ก็ยังคงแปลกใจที่เขาเอาเธอมาแนะนำให้ครอบครัวรู้จักแบบนี้ เขาแนะนำสาวคนอื่นแบบนี้ด้วยไหมนะ
ตึง! ตึง! โครม!!
เสียงดังเหมือนกับว่า มีของชิ้นใหญ่หล่นดังออกมาจากทางห้องนอน ทำเอาทั้งสามคนรีบวิ่งเข้าไปดูเกือบไม่ทันว่า เกิดอะไรขึ้น
"ขอโทษครับพ่อ พอดีผมทำบันไดพับร่วง" เขารีบขอโทษขอโพยผู้เป็นพ่อจากความซุ่มซ่ามของตัวเอง
บันไดพับขาใหญ่ที่ทำจากเหล็กร่วงกระแทกพื้นห้องเสียงดังอึกทึก โชคดีที่คนงานบุแผ่นกระดาษฮาร์ดบอร์ดไว้ตรงพื้นโดยรอบอย่างรอบคอบ ป้องกันรอยขีดข่วนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ทำให้พื้นห้องไม่เป็นรอยอะไร"
ชายหนุ่มถึงกับนิ่งไปด้วยความช็อกเมื่อได้เห็นสาวมีอายืนอยู่ตรงหน้า แต่เขาก็ต้องรวบรวมสติเพื่อทำความเคารพผู้ใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างเธอ
"สวัสดีครับกู๋" เมทไหว้อย่างสุภาพให้กับหนุ่มวัยกลางคนที่เดินเข้ามาพร้อมพ่อของเขาและเพื่อนสาวที่คณะ
“เอ้าเจ้าเมท มากับเขาด้วยเหรอ" เสี่ยกรทัก
"ครับ พอดีผมอยากเรียนรู้งานก่อสร้างเลยขอตามพ่อมาครับ"
"ดี ๆ ไว้ช่วยงานลุงในอนาคต เอ่อนี่ หนูมีอา น่าจะเรียนที่เดียวกันกับเธอนะ" เสี่ยกรแบมือไปทางมีอาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เป็นการแนะนำตัวเธอให้เขาได้รู้จักแบบไม่เป็นทางการ
"หวัดดี" เขาแกล้งทักทายเธอเหมือนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
สาวมีอาที่ตอนนี้อึ้งเป็นไก่ตาแตกไม่ต่างกัน สติหลุดไปเรียบร้อยเมื่อได้เห็นหนุ่มเมทในห้องของเธอ คำถามมากมายทะลักเข้าหัว ความระแวง และความกลัวเองก็ปะปนเข้ามาในอกแบบห้ามไม่อยู่ 'เขารู้แน่ ๆ ว่า เธอมาทำอะไรที่นี่ และเธอเป็นอะไรกับเสี่ยกร เอ๊ะ… เดี๋ยวนะ... เขาเรียกเสี่ยกรว่า กู๋ใช่ไหม! ถ้าหูไม่ฝาดไป'
"ดะ—ดีดี" เธอตอบกลับด้วยเสียงตะกุกตะกักในลำคอ
"ระวังหน่อยสิ เดี๋ยวได้ซ่อมกันยกใหญ่" ลุงเช็งติลูกชายด้วยความหงุดหงิด
"นี่เมท หลานพี่เอง" เสี่ยกรหันมายืนยันสิ่งที่เธอกำลังสงสัย
'ชิบหายแล้ว เมทเป็นหลานเสี่ยกรเหรอเนี่ย !!' เธอคิด
ทั้งสองคนยืนมองตากันด้วยสีหน้าที่ไม่แตกต่างกัน แก้ ๆ กัง ๆ ไม่กล้าพูดอะไรระหว่างที่สองหนุ่มใหญ่กำลังพูดคุยกันด้วยเรื่องงาน
เมทมองเธอด้วยความเงียบ เธอเองก็มองเขากลับด้วยความเงียบเหมือนมีคำถามอะไรมากมายในใจที่สามารถสื่อออกมาทางสายตา
'เธอต้องรีบคุยกับเขาก่อนเรื่องจะลามไปถึงหูลูกแก้วและอีฟ ไหนไอ้เสี่ยกรบอกว่า มีแค่ช่างกับลูกน้องของเขาไง ไม่เห็นบอกเลยว่า มีครอบครัวเขามาด้วย'