ภณถูกส่งมาฝึกงานใต้การดูแลของธนัชในแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ เขาตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับ “เทพบุตรแห่งห้องผ่าตัด” แต่ธนัชกลับเย็นชาและเข้มงวดกับภณมากเป็นพิเศษ
ชาย-ชาย,รัก,ผู้ใหญ่,ไทย,ดราม่า,แฟนตาซี,วาย,nc,18+,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เส้นเเบ่งระหว่างหัวใจเเละหน้าที่ภณถูกส่งมาฝึกงานใต้การดูแลของธนัชในแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ เขาตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับ “เทพบุตรแห่งห้องผ่าตัด” แต่ธนัชกลับเย็นชาและเข้มงวดกับภณมากเป็นพิเศษ
ภณถูกส่งมาฝึกงานใต้การดูแลของธนัชในแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ เขาตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับ “เทพบุตรแห่งห้องผ่าตัด” แต่ธนัชกลับเย็นชาและเข้มงวดกับภณมากเป็นพิเศษ วันแรกที่เจอกัน ภณทำถาดเครื่องมือผ่าตัดตกพื้นเพราะตื่นเต้น ธนัชต่อว่าเขาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกว่า “ถ้าคุมสติตัวเองไม่ได้ ก็ออกไปจากห้องนี้ซะ” ภณอายมาก แต่แอบตั้งปณิธานว่าจะทำให้ธนัชยอมรับเขาให้ได้
วันต่อมา ธนัชเริ่มหลีกเลี่ยงภณอย่างจริงจัง เขามอบหมายให้ นายแพทย์กรณ์ เพื่อนสนิทและศัลยแพทย์รุ่นพี่วัย 36 ปี มาดูแลภณแทนในบางเคส กรณ์เป็นคนอบอุ่นและใจดี เขาสังเกตเห็นความตึงเครียดระหว่างธนัชและภณ แต่เลือกที่จะไม่ถามอะไร
“หมอธันบอกว่าช่วงนี้งานเขาเยอะ เลยให้ฉันมาช่วยดูนาย” กรณ์พูดพร้อมยิ้มให้ภณ “นายเก่งนะ ฝีมือดีเลย อย่าคิดมากเรื่องที่เขาเข้มงวด”
ภณยิ้มฝืด ๆ “ขอบคุณครับหมอกรณ์ แต่ผมอยากให้หมอธันสอนผมเองมากกว่า”
กรณ์ยกคิ้ว “หมอธันน่ะเหรอ เขาเป็นแบบนี้กับทุกคนแหละ อย่าไปใส่ใจมาก”
แต่ภณรู้ดีว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องงาน เขารู้สึกเหมือนถูกทิ้ง และความรู้สึกนั้นยิ่งชัดเจนเมื่อเขาเห็นธนัชคุยกับทีมอื่นโดยไม่แม้แต่จะมองมาทางเขา
ในขณะเดียวกัน น้องฟาง แพทย์หญิงฝึกหัดเพื่อนสนิทของภณ ก็เริ่มเข้ามาใกล้ชิดมากขึ้น ฟางเป็นคนร่าเริงและมักแซวภณบ่อย ๆ “นายดูซึม ๆ นะช่วงนี้ อกหักหรือไง” ฟางถามขณะทั้งคู่กินข้าวด้วยกันในโรงอาหาร
“เปล่า” ภณตอบสั้น ๆ แต่สายตาของเขากลับมองไปที่ธนัชที่นั่งอยู่โต๊ะไกล ๆ กับกรณ์
ฟางตามสายตาภณไป “หมอธันอีกแล้วเหรอ นายนี่คลั่งเขาจริง ๆ เลยนะ” เขาแซว แต่ภณไม่หัวเราะ เขาลุกขึ้นจากโต๊ะและเดินออกไป ปล่อยให้ฟางมองตามด้วยความสงสัย
คืนหนึ่ง มีเคสฉุกเฉินเข้ามาอีกครั้ง หญิงสาววัย 25 ปี ขาหักและกระดูกเชิงกรานร้าวจากการถูกรถชน ธนัชต้องลงผ่าตัดด่วน และด้วยความที่ทีมขาดคน ภณถูกเรียกตัวกลับมาช่วย แม้ว่าธนัชจะพยายามหลีกเลี่ยงก็ตาม
ในห้องผ่าตัด บรรยากาศตึงเครียดยิ่งกว่าเดิม ธนัชสั่งการด้วยน้ำเสียงเย็นชา ขณะที่ภณพยายามทำงานให้ดีที่สุด มีจังหวะหนึ่งที่ธนัชต้องใช้เครื่องมือตรึงกระดูก แต่เครื่องมือเกิดขัดข้อง ภณรีบวิ่งไปหยิบชุดใหม่มาให้ทันเวลา
ธนัชรับเครื่องมือจากมือภณโดยไม่พูดอะไร แต่สัมผัสสั้น ๆ นั้นทำให้ทั้งคู่รู้สึกถึงไฟฟ้าที่วิ่งผ่าน
หลังผ่าตัดสำเร็จ ทุกคนในทีมโล่งใจ แต่ธนัชเดินออกจากห้องไปทันทีโดยไม่พูดอะไร ภณตัดสินใจตามไป เขาเจอธนัชยืนสูบบุหรี่อยู่ที่มุมตึกด้านหลังโรงพยาบาล ควันลอยคละคลุ้งในอากาศเย็น
“หมอสูบบุหรี่ด้วยเหรอครับ” ภณถามเบา ๆ เดินเข้าไปยืนข้าง ๆ
“บางครั้ง” ธนัชตอบสั้น ๆ เขาดับบุหรี่และหันมามองภณ “นายตามฉันมาทำไม”
“ผมทนไม่ไหวแล้วครับ” ภณพูดด้วยน้ำเสียงสั่น “หมอจะผลักผมออกไปอีกนานแค่ไหน ผมทำอะไรผิด หมอบอกผมมาเลย”
ธนัชถอนหายใจ “นายไม่ได้ทำอะไรผิด” เขาพูด “แต่ฉัน…ฉันไม่รู้จะจัดการกับตัวเองยังไง”
“จัดการกับอะไรครับ” ภณก้าวเข้าไปใกล้ “กับความรู้สึกของหมอที่มีต่อผมเหรอ”
ธนัชเงียบ เขามองตาภณนาน ก่อนพูดเบา ๆ “นายทำให้ฉันกลัว”
“กลัวอะไรครับ” ภณถามต่อ ดวงตาคู่สวยฉายแววจริงจัง
“กลัวว่านายจะกลายเป็นทุกอย่างของฉัน” ธนัชตอบในที่สุด น้ำเสียงของเขาแหบพร่า เขาหันหน้าหนี แต่ภณไม่ยอม เขายื่นมือไปจับแขนธนัชอีกครั้ง
“ถ้าผมเป็นทุกอย่างของหมอได้ ผมจะไม่ขออะไรอีกเลย” ภณพูด น้ำตาไหลลงมาเงียบ ๆ “หมอไม่ต้องกลัวผม เพราะผมจะไม่ทิ้งหมอไปไหน”
ธนัชหันกลับมามอง น้ำตาของภณเหมือนเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่หักกำแพงในใจเขา เขายกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้ภณเบา ๆ “นายมันดื้อ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
“ผมดื้อเพื่อหมอครับ” ภณยิ้มทั้งน้ำตา
ทั้งคู่ยืนอยู่อย่างนั้นท่ามกลางความมืดและกลิ่นบุหรี่ที่ยังลอยอยู่ในอากาศ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มขยับเข้าใกล้จุดที่ไม่อาจหวนกลับ
มุมตึกด้านหลังโรงพยาบาลเงียบสงัด กลิ่นบุหรี่ที่ธนัชสูบเมื่อครู่ยังลอยคละคลุ้งในอากาศเย็น แสงจากโคมไฟริมทางส่องสลัว ๆ ลงมาบนใบหน้าของทั้งคู่ ภณยืนอยู่ตรงหน้าธนัช น้ำตายังเปื้อนที่แก้ม แต่รอยยิ้มของเขากลับเต็มไปด้วยความหวัง ธนัชยกมือเช็ดน้ำตาให้ภณเบา ๆ นิ้วของเขาสัมผัสผิวแก้มที่เปียกชื้นนั้นนานกว่าที่ตั้งใจ
“นายมันดื้อ” ธนัชพูดซ้ำอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาอ่อนลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ดวงตาคู่คมจ้องมองภณด้วยความรู้สึกที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไป
“ผมดื้อเพื่อหมอครับ” ภณตอบ เขาค่อย ๆ เอียงหน้าเข้าหามือของธนัช ราวกับต้องการให้สัมผัสนั้นอยู่นานกว่านี้
ธนัชชะงัก เขารู้สึกถึงความอบอุ่นจากใบหน้าของภณที่แนบกับฝ่ามือเขา หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น ความขัดแย้งในใจยังคงอยู่ แต่ร่างกายของเขากลับไม่ฟังเหตุผล เขาค่อย ๆ เลื่อนนิ้วลงมาที่คางของภณ บังคับให้ภณเงยหน้าขึ้นมองเขา
“นายรู้ไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่” ธนัชถาม เสียงของเขาแหบพร่าเล็กน้อย
“รู้ครับ” ภณตอบ ดวงตาคู่สวยฉายแววแน่วแน่ “ผมอยากให้หมอรู้ว่าผมจริงจังแค่ไหน”
ระยะห่างระหว่างทั้งคู่เริ่มหดแคบลง ธนัชสูดหายใจลึก เขาก้มหน้าลงช้า ๆ จนลมหายใจของเขาปะทะกับใบหน้าของภณ ภณหลับตาลงโดยสัญชาตญาณ รอคอยสิ่งที่เขารู้ว่าจะเกิดขึ้น
ธนัชประทับริมฝีปากลงบนปากของภณเบา ๆ ในตอนแรก การจูบนั้นอ่อนโยนราวกับเขากำลังทดสอบขอบเขตของตัวเอง ภณตัวสั่นเล็กน้อย แต่เขาไม่ถอย เขายกมือขึ้นโอบรอบคอธนัช ตอบรับการจูบนั้นด้วยความรู้สึกที่เก็บกดมานาน
ธนัชถอนจูบออกครู่หนึ่ง มองตาภณเพื่อหาคำตอบบางอย่าง แต่สิ่งที่เขาเห็นคือความยินยอมและความปรารถนา เขาก้มลงจูบอีกครั้ง คราวนี้แรงขึ้น ลึกขึ้น ลิ้นของเขาสอดเข้าไปสัมผัสลิ้นของภณอย่างช้า ๆ ภณครางเบา ๆ ในลำคอ เสียงนั้นทำให้ธนัชรู้สึกถึงความร้อนที่พุ่งขึ้นในตัว
มือของธนัชเลื่อนลงมาที่เอวของภณ บีบเบา ๆ เพื่อดึงร่างของภณให้แนบชิดกับตัวเองมากขึ้น ภณรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของร่างกายธนัชที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อกาวน์ เขายอมให้ธนัชนำทุกอย่าง มือของเขาจิกที่ไหล่ธนัชแน่นขึ้นเมื่อการจูบเริ่มร้อนแรง
“หมอ…” ภณกระซิบเมื่อธนัชถอนจูบออก ใบหน้าแดงก่ำ ลมหายใจหอบถี่
ธนัชไม่ตอบ เขาก้มลงซุกหน้าที่ซอกคอของภณ สูดกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากผิวของอีกฝ่าย ริมฝีปากของเขาแตะที่ผิวคอนั้นเบา ๆ ก่อนเปลี่ยนเป็นการดูดเบา ๆ จนเกิดรอยแดงจาง ๆ ภณสะดุ้ง แต่เขาไม่ผลักไส เขาก้มหน้าลงกอดธนัชแน่นขึ้น ปล่อยให้ความรู้สึกนั้นพาไป
ทั้งคู่หยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจากระยะไกล ธนัชผละออกทันที เขาหันไปมองรอบ ๆ เพื่อเช็กว่าไม่มีใครเห็น ภณหายใจหอบ มือยังจับแขนธนัชไว้ “หมอ…เราไปที่อื่นกันไหมครับ” เขาถามด้วยน้ำเสียงสั่น
ธนัชเงียบครู่หนึ่ง “ไม่” เขาตอบสั้น ๆ “คืนนี้แค่นี้ก่อน”
ภณดูผิดหวัง แต่เขาพยักหน้า “ครับ” เขายิ้มเล็ก ๆ “แต่ผมจะรอหมอเสมอ”
ธนัชถอนหายใจ เขายกมือขึ้นลูบหัวภณเบา ๆ “ไปพักเถอะ” เขาพูด ก่อนหันหลังเดินกลับเข้าไปในตึก ปล่อยให้ภณยืนมองตามด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำ