หิมะกลายเป็นหนึ่งเดี่ยวกับฉัน เพียงเพราะฉันกลายเป็นผู้หญิงที่มีพลังเหนือธรรมชาติ

ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ - ตอนที่ 12 รีบช่วยเหลือ โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,ไซไฟ,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ยุคปัจจุบัน,ไอซ์สโนว์,สาวพลังหิมะ,แอคชั่น,ยอดมนุษย์,ฮิวแมน,เหนือธรรมชาติ​,แฟนตาซี,การต่อสู้,YukiCoCo,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,ไซไฟ,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ยุคปัจจุบัน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ไอซ์สโนว์,สาวพลังหิมะ,แอคชั่น,ยอดมนุษย์,ฮิวแมน,เหนือธรรมชาติ​,แฟนตาซี,การต่อสู้,YukiCoCo

รายละเอียด

ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ โดย YukiCoCo @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

หิมะกลายเป็นหนึ่งเดี่ยวกับฉัน เพียงเพราะฉันกลายเป็นผู้หญิงที่มีพลังเหนือธรรมชาติ

ผู้แต่ง

YukiCoCo

เรื่องย่อ

คำแนะนำจากคนเขียน

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแต่งขึ้นตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนแต่ไม่จบ

เลยขอนำเสนอไว้สักตอนหนึ่งให้อ่านเล่นๆ ก่อนที่จะมาเขียนต่อ

เรื่องนี้เป็นเรื่องแต่งขึ้นไม่ได้อ้างอิงจากอะไรทั้งสิ้น

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ ขอบคุณสำหรับผู้มาอ่าน

และให้ความสนใจในนิยายเรื่องนี้นะคะ


บทนำของเรื่อง

เมื่อเด็กสาวลูกเสี้ยวไทยนามว่า มิรารี ต้องออกเดินทางไปยังงานเทศกาลวิทยาศาสตร์ที่นิวยอร์กตามความต้องการของเธอ แต่แล้วก็เกิดเรื่องขึ้นเมื่อด็อกเตอร์คนหนึ่งทำเรื่องขึ้นก่อให้เกิดระเบิดครั้งใหญ่ขึ้น ทำให้คนตายนับพันร่วมถึงตัวมิรารีที่ไม่น่าจะรอดจากเหตุการณ์นั้น แต่แล้วเวลาผ่านไป 10 ปีตัวเธอที่น่าจะโดนแช่แข็งตายกับฟื้นขึ้นมาในสถานที่แปลกตาเข้าพร้อมกับร่างกายที่เปลี่ยนไป แล้วเธอจะหาใครมาช่วยเธอได้ล่ะ?


กำหนดการลงนิยาย

ยังไม่แน่ชัดนะคะ

สารบัญ

ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ-ตอนทีี่ 1 ออกเดินทางสู่นิวยอร์ก,ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ-ตอนที่ 2 หายนะครั้งใหญ่,ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ-ตอนที่ 3 เมื่อตื่นขึ้น,ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ-ตอนที่ 4 ฉันติดอยู่บนเกาะร้าง,ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ-ตอนที่ 5 ถึงเวลาสำรวจ,ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ-ตอนที่ 6 สิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น,ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ-ตอนที่ 7 จงหลับให้สบาย,ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ-ตอนที่ 8 ไฟฟ้ากลับมา,ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ-ตอนที่ 9 ข้อความ,ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ-ตอนที่ 10 ออกปฏิบัติการช่วยเหลือ,ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ-ตอนที่ 11 การช่วยเหลือที่หลอกลวง,ไอซ์สโนว์ สาวพลังหิมะ-ตอนที่ 12 รีบช่วยเหลือ

เนื้อหา

ตอนที่ 12 รีบช่วยเหลือ

ตอนที่ 12 รีบช่วยเหลือ

ห่างออกมาจากเกาะ เครื่องบินลำใหญ่ที่พวกโจเซฟกำลังนั่งมากำลังพุ่งตรงมาด้วยความเร็วสูงและไม่ช้าพวกเขาจะมาถึงเกาะเซอร์ไว โจเซฟกำลังกังวลว่าจะพูดอะไรกับมิรารีดี เขาสับสนว่าจะพูดยังไงให้เธอจำได้ว่าเขาคือใครยิ่งคิดเขายิ่งประมาท ระหว่างที่กำลังขับไปนั้นบรรยากาศรอบข้างเริ่มเปลี่ยนไปจนทั้งสองคนจ้องมองกันก่อนที่จะมีสัญญาณเตือนที่หน้าจอคอมของเครื่องบิน เอวาตรวจสอบก่อนจะเห็นสิ่งผิดปกติก่อนจะมีการสั่นของเครื่องบิน

 

“เกิดอะไรขึ้น!?”

“พายุหรือเปล่า!!”

“ไม่แน่ใจ!”

ระหว่างที่ทั้งสองคุยกันนั้นก็มีฟ้าผ่าตกต่อหน้าพวกเขา มันตกลงไปที่เกาะนั้นทำให้เอวารู้สึกแย่ที่เห็นฟ้าผ่า

“เมื่อกี้มันฟ้าผ่าเหรอ!?”

“ไม่ใช่ฟ้าผ่าธรรมดาแน่ ๆ”

เอวาใช้เครื่องตรวจสอบด้านล่างก่อนจะเห็นว่ามีเฮลิคอปเตอร์อยู่ข้างล่างลำหนึ่ง “ข้างล่างมีเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งจอดอยู่!!”

“ว่าไงนะ!!” โจเซฟได้ยินแบบนั้นถึงกับเบิกตากว้างทันที “พี่...พี่เขา...หรือว่าฟ้าผ่าเมื่อกี้”

เอวาได้ยินคำถามอีกฝ่ายก็วิตกเลยว่าถ้าฟ้าผ่าเมื่อกี้เป็นฝีมือของเมต้าฮิวแมนจริง ๆ มิรารีอาจจะแย่ก็ได้ถ้าถูกการโจมตีเมื่อกี้ไป เอวากำลังคิดบางอย่างก่อนจะกดไปที่ปุ่มออโต้ให้เครื่องบินขับเอง

“เธอทำอะไรนะ!!”

“ทำให้เครื่องบินลอยตัวของมันเองไงล่ะ!!” เอวาปลดเข็มขัดของตนเองก่อนจะหันไปมองอีกฝ่าย “นายต้องลงไปช่วยมิรารี!!”

“ห๊า!? ฉันเหรอ?”

“นายคิดว่าเด็กอย่างฉันทำได้เหรอ?”

“เธอเด็กตายล่ะ!”

ใบหน้าของเอวากระตุกขึ้นมา มือของเธอกดไปที่สวิตช์ตัวหนึ่งทำให้ประตูท้ายเครื่องบินเปิดออก โจเซฟเห็นก็ตะลึงว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรก่อนที่เขาจะโดนปลดเข็มขัดที่รัดอยู่ แล้วเธอก็กระชากคอเสื้ออีกฝ่ายเหวี่ยงออกไปทันที

“ไปตายซะ!! เจ้าบ้า!!”

“เห้ย?” ตัวของโจเซฟลอยออกจากเครื่องบินอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ร่างกายของเขาจะตกลงสู่เบื้องล่าง “อ๊ากกกกกกกกกกกก!! ยัยเอวา!! ยัยบ้า!!”

ร่างกายกำลังลอยตกลงมาอย่างรวดเร็ว โจเซฟตั้งสติของตัวเองก่อนจะพลิกตัวให้หันมองไปที่พื้น เขาพยายามยกขาตัวเองร่างกายเขากำลังหมุนไปมา มือที่กำลังเอื้อมไปที่รองเท้าเพื่อกดสวิตช์รองเท้าบูตสีดำก็เริ่มมีแสงสีแดงแล่นไปตามรองเท้า ไม่ช้าแสงวิบวับสีแดงกลายเป็นสีเขียวอย่างรวดเร็ว แว่นตาที่เขาใส่กำลังประมวลข้างหน้าของเขาก่อนที่เขาจะก้าวขาวิ่งกลางอากาศตรงไปยังจุดที่มีฟ้าผ่าลงมาอย่างรวดเร็ว โจเซฟครุ่นคิดอย่างเดียวว่าขอให้พี่สาวอย่าพึ่งเป็นอะไรเด็ดขาด

 

ตัดมาจุดที่เกิดการฟ้าผ่าอันรุนแรงเหล่ากลุ่มคนที่ตามล่ามิรารีกระจัดกระจายไปคนละทิศด้วยความเจ็บปวด มิรารีสลบอยู่ตรงนั้นไม่กี่นาทีดวงตาค่อย ๆ เปิดกว้างขึ้นมาร่างกายเจ็บไปหมด หูของเธอรู้สึกอื้อไปหมดกับการฟ้าผ่าเมื่อกี้ ดวงตาของเธอจ้องมองภาพตรงหน้า เธอเห็นกู้ดนี่นอนอยู่อีกมุมหนึ่ง เธอค่อย ๆ พยุงตัวเองขึ้นแล้วลากร่างกายตัวเองไปหากู้ดนี่ เธอเห็นเจ้าตัวน้อยสลบไปก็ดีใจที่ไม่เป็นอะไรมาก เธอพยายามอุ้มมันไว้ในมือแล้วพยายามจะลุกขึ้นเพื่อหนีอีกครั้ง แต่ทว่าก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นอีกครั้ง

 

ปัง!

 

“กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!”

 

มิรารีล้มลงกับพื้นอีกครั้งตอนนี้ขาทั้งสองข้างของเธอได้รับบาดเจ็บ มันเจ็บจนเธองุนงงว่าทำไมร่างกายของเธอไม่รักษาตัว เลือดสีแดงชาดกำลังไหลออกมา เธอเจ็บปวดจนค่อย ๆ หันไปมองคนที่ยิงเธอเป็นหญิงสาวคนเดิมที่เธอเจอเมื่อกี้ เธอกำลังถือปืนที่มีควันออกมา เธอจ้องมองว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรอีกแต่ก็มีชายอีกคนเดินตามอีกฝ่ายมา แล้วสาวตาของเขาจ้องมองมาที่เธอด้วยความรู้สึกไม่พอใจที่เห็นเป้าหมายของพวกเขาได้รับบาดเจ็บ

 

“เธอโง่หรือไงที่ทำแบบนี้!?”

“แกว่าไงนะ!!”

“ฉันถามว่าเธอโง่หรือไงที่ทำแบบนี้! ถ้าบอสรู้ขึ้นมาทำไง!!” แฟลชใช้สายตาจ้องเขม็งใส่ฝ่ายหญิงอย่างไม่ชอบใจ

“แล้วทำไมล่ะ!?”

“แล้วทำไม!! ถ้าผู้หญิงคนนี้บาดเจ็บจนตายขึ้นมาทำไง บอสได้เล่นงานเธอจริง ๆ แน่!!”

“เหอะ!! นึกเหรอว่าฉันจะยิงโดนจุดสำคัญ แค่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นก็จบแล้ว เราก็พากลับไปฐานของเราพร้อมกับให้การรักษาเดียวก็หายเองนั้นล่ะ!!”

แฟลชถึงกับต้องถอนหายใจอย่างเอือมระอากับนิสัยของหญิงสาวที่ไม่คิดหน้าคิดหลังว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้น กำลังพาความซวยมาให้ตนเองจริง ๆ ชายหนุ่มหันไปหาหญิงสาวที่กำลังจ้องมองพวกเขา

“อย่ามองแบบนั้นสาวน้อย...เธอต้องโทษตัวเองที่กลายเป็นเป้าของพวกเรา”

“หึ...คิดเหรอว่า...ฉันจะยอมเป็นเป้าของพวกนายกัน!!”

“เธอจะทำอะไร..จะเล่นงานเราด้วยพลังของเธอเหรอ? ตอนนี้มันคงแล่นไปตามร่างกายของเธอแล้วล่ะ”

“หมายความว่าไง...แฮ่ก!! แฮ่ก!!” มิรารีกระอักเลือดออกมา เธอจ้องมองอย่างตกใจจนงุนงง “พวกแกทำอะไรฉัน?”

“ก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากทำให้เธอไม่มีพลังต่อกรกับเราเท่านั้น...แล้วก็อีกอันที่ฉันยิงมันจะทำให้เธอหลับอย่างสบายเลยนะ!!”

“พวกแกมัน!!” มิรารีกำลังฝืนตัวเอง เธอจ้องมองกู้ดนี่ที่อยู่ในมือ กู้ดนี่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมามองเธอที่กำลังจะหลับ

“กู้ด!!”

“โทษนะ...ฉัน...ทำให้เธอ...ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้...” มิรารีกำลังจะล้มลง

กู้ดนี่จ้องมองเธอที่กำลังจะล้มก่อนที่มันจะร้องลั่นออกมา “กู้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”

เสียงกรีดร้องของกู้ดนี่มาพร้อมกับสิ่งบางอย่างพุ่งออกมาจากหลังพุ่มไม้ใส่ทั้งพวกเธอร์ร่า ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการโจมตีนั้น ทั้งสองคนจ้องมองสิ่งที่พุ่งมามันคือเถาวัลย์ที่เป็นปลายแหลม

“มันอะไรนะ!!”

“ฉันไม่รู้!!”

เถาวัลย์ย้อนกลับหายไปอย่างรวดเร็ว แต่แล้วร่างสีขาวของหญิงสาวหายไปจากตรงนั้น ทำให้ทั้งสองคนมองกันอย่างงุนงง

“เฮ้ย!! เธอหายไปไหนแล้ว!!” หญิงสาวหนามแหลมมองหาอย่างงุนงง

ลูกน้องคนหนึ่งลุกขึ้นก็เห็นสิ่งบางอย่างวิ่งผ่านเข้าไป “หัวหน้า เธออยู่นั้น!!”

เธอร์ร่ากับแฟลชกันไปมองก็เห็นกลุ่มบางอย่างกำลังอุ้มเป้าหมายของพวกเขาไป แฟลชเห็นก็จะได้ว่ามันคืออะไร

“พวกมันคือมนุษย์ต้นไม้นี่!!”

“มนุษย์ต้นไม้!?”

“สิ่งที่ยัยซาร่าจากกลุ่มวันเดอร์เวิร์ดสร้างขึ้นมานะสิ!! ตามไป!! ฆ่าพวกมันให้หมดอย่าให้รอดสักตัว!! เหลือแค่หญิงสาวคนเดียว!!”

“ครับ!!!/ค่ะ!!!”

เหล่าลูกน้องแต่ละคนต่างพากันรีบวิ่งตามไป พวกนั้นเริ่มใช้อาวุธยิ่งอย่างไม่เกรงใจ เธอร์ร่าเห็นก็รู้สึกโกรธเคืองที่แผนการของเธอมีแต่ความวุ่นวายยิ่งทำให้เธอมีน้ำโหและตะโกนร้อนลั่นออกมา

 

เส้นทางที่มีแต่ต้นไม้เหล่าสิ่งมีชีวิตขนาดกลางกำลังอุ้มมิรารีไปตามเส้นทางที่พวกมันรู้ ร่างกายของพวกมันขนาดเท่าคนสูงสองฟุต ร่างกายเป็นเปลือกไม้คล้ายกู้ดนี่แต่มีขนาดใหญ่กว่ามาก ๆ พวกมันทั้งเจ็ดกำลังวิ่งไปเรื่อย ๆ บางตัวเริ่มเหมือนวางแผนเป็นเหยื่อล่อต่อกรกับพวกที่กำลังไล่ตาม มิรารีรู้สึกถึงร่างกายกำลังลอยตัวไป ดวงตาของเธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมามันพร่ามัวไปหมด เธอเห็นบางอย่างกำลังอุ้มตัวเธออยู่

 

“กู้ด...นี่...และ...”

มิรารีหันไปมองแต่ละคนที่เธอเห็นแต่มันมืดจนมองไม่เห็นอะไรเลยก่อนที่เธอจะสลบไปอีก กู้ดนี่หยุดชะงัก

“กู้ด!! ม๊า!!” กู้ดนี่พยายามเขย่าตัวอีกฝ่ายด้วยความกลัว

“กู้ด”

“กู้ด!!”

 

เหล่ามนุษย์ต้นไม้อีกสองสามตนจ้องมองอย่างตกใจพวกนั้นกำลังจะช่วยตรวจสอบและเหมือนกำลังบอกให้รีบวิ่ง แต่ก็มีบางอย่างลอยมาทางพวกเขา ทำให้พวกนั้นรีบรับพรรคพวกของเขาที่ได้รับบาดเจ็บ กู้ดนี่เห็นแบบนั้นพวกเขากำลังจะหนีแต่ก็มีกลุ่มหนึ่งดักทาง จะไปอีกทางก็โดนดักอีกนั้นทำให้พวกเขาไม่มีทางไปจนกระทั่งเธอร์ร่าเดินออกมาจากมุมหนึ่ง

 

“พวกแกไม่รอดแล้วเจ้าต้นไม้! ส่งตัวผู้หญิงมา!!”

“กู้ด!!” กู้ดนี่เดินออกมาจากกลุ่มพรรคพวกของตนเอง เขาทำเสียงข่มขู่ใส่อีกฝ่าย

เธอร์ร่าเห็นแบบนั้นก็ไม่ชอบใจทันทีก่อนจะยกปีนชี้หน้าใส่มนุษย์ต้นไม้ “จัดการพวกมัน!! ให้มันตายแล้วเอาตัวผู้หญิงมา!!”

“โอ๊สสสส!!”

พวกกลุ่มคนตรงหน้าเตรียมจะพุ่งเข้ามาหาพวกกู้ดนี่ บางตัวกำลังจะเตรียมโจมตี แต่แล้วก็มีบางอย่างวิ่งผ่านทำให้พวกที่วิ่งมาหาพวกเขาลอยอยู่กลางอากาศแล้วตกลงอย่างแรง

“อ๊ากกกก!”

“ว๊ากกกกก!!”

“อ๊ากกกกกก!!”

พวกกู้ดนี่ที่อยู่ตรงหน้าได้เห็นสิ่งที่คาดคิดมีใครบางคนกำลังต่อกรกับคนตรงหน้า ก่อนจะมีชายร่างสูงยืนตรงหน้าพวกเขา ชายคนนั้นจับไปที่อาวุธของหญิงสาวร่างหนามแหลมก่อนจะสกัดเธอให้ล้มลงและพังอาวุธของเธอจนไม่เป็นชิ้นส่วนแต่อย่างใด ก่อนที่เธอร์ร่าจะเงยหน้าขึ้นมามองชายที่อยู่ตรงหน้าเธอ

“แก!! พวกวันเดอร์เวิร์ด!!”

“ไง เธอร์ร่า!! ยังอยู่กับหน่วยช่างต่ำของหมอนั้นอยู่อีกเหรอ?”

“หุบปาก!!” เธอร์ร่าเคืองกับคำพูดอีกฝ่าย “แกไม่เข้าใจว่าท่านผู้นั้นทำให้เรารู้จักโลกที่เราควรทำให้มันเป็น! การกดขี่มันต้องหมดไป การดูถูก!! เหยียดหยาม มันต้องหมดไป!!”

“เธอก็พูดแบบนี้ทุกครั้งที่เราเจอกัน!!”

“แล้วพวกแกมาทำอะไรที่นี่กัน!!”

“ฉันมาทำอะไรก็เรื่องของฉัน เพราะที่นี่คือเกาะของเรา แต่พวกแกต่างหากที่มาตามล่าคนของเรา!!”

โจเซฟหันไปมองในพวกมนุษย์ต้นไม้ที่ยืนมองอย่างวิเคราะห์ว่าเขาคืออะไรมิตรหรือศัตรู โจเซฟเห็นในอ้อมกอดของเลอร์วิงวู้ดตนหนึ่ง คนที่เขารอมานานรอเวลาที่เธอจะฟื้นกลับมา เธออยู่ในสภาพที่ซีดขาวมาก ๆ ริมฝีปากกำลังจะซีดคล้ำเรื่อย ๆ เธอร์ร่าจ้องมองอีกฝ่ายที่กำลังมองไปที่เป้าหมายของเธอ

“แกมานี่เพื่อพาเธอไปเหมือนกันสินะ!!”

โจเซฟหันไปมองอีกฝ่ายทันที “พวกแกทำร้ายเธอ!!”

“หึ!!”

เธอร์ร่าจ้องมองชายตรงหน้า เธอไม่อยากให้อีกฝ่ายชนะเหมือนทุกทีแน่ ๆ นั้นทำให้เธอมีความคิดที่แปลกประหลาดเกิดขึ้น ก่อนจะหยิบอุปกรณ์ที่มีขนาดพอดีมือขึ้นมา มันเป็นอุปกรณ์วงกลมที่มีปุ่มกดสีแดงอยู่ด้านบน แฟลชที่โดนโจมตีก่อนหน้ากำลังจะลุกขึ้น เขาเห็นอีกฝ่ายหยิบบางอย่างออกมา เขาก็ตาลุกวาวอย่างหวาดกลัวทันที

“ยัยบ้า!! อย่าทำแบบนั้นนะ!!”

“ถ้าฉันไม่ได้ยัยนั้น พวกแกก็จะไม่ได้เช่นกัน!!” เธอร์ร่ากดปุ่มอุปกรณ์นั้นก็เกิดแสงหนึ่งเกิดขึ้น

โจเซฟที่เห็นแบบนั้นก็ตกตะลึงกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ก่อนที่เขาจะหยิบอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งขึ้นมาพร้อมกับกดปุ่มบางอย่าง เวลา ณ จุดนั้นก็หยุดลง เขาเห็นแบบนั้นก็วิ่งตรงไปหาพวกเลอร์วิงวู้ดทันที

“รีบเร็ว!! มันจะระเบิดที่นี่ทำให้เกาะหายไปแล้ว!!”

“กู้ด!?”

พวกเลอร์วิงวู้ดไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายกล่าวจนโจเซฟต้องส่งเสียงดังออกมา

“ตู้มมมมมมมมมนะ!!”

 

เหล่าเลอร์วิงวู้ดได้ยินแบบนั้นต่างตาโตกันยกใหญ่ ก่อนจะยอมปล่อยจากมิรารีแล้วกลับร่างเดิมหนีกันเข้าไปในกระเป๋าที่เธอสะพาย ส่วนกู้ดนี่ก็มุดเข้าข้างในกระเป๋าเสื้อข้างของมิรารี โจเซฟโล่งใจแต่ตอนนี้เขามัวโอ้เอ้ไม่ได้แล้วเขารีบอุ้มหญิงสาวตรงหน้าของเขาอย่างไม่รู้เลยว่าเขาคือมิรารีจริง ๆ ใช่ไหม เขาต้องมองไปทางข้างหลังที่เขาหยุดเวลาเอาไว้ก่อนจะก้าวขาวิ่งไปสุดชีวิต ไม่กี่นาทีเครื่องหยุดเวลาก็หยุดทำงานแล้วระเบิดก็กลับมาทำงานอีกครั้ง แสงสว่างทำให้ร่างเธอร์ร่าและคนรอบข้างสลายไปพร้อมกับแรงระเบิดขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับคลื่นลูกใหญ่ที่กวาดรอบข้างไปหมด โจเซฟเห็นคลื่นการระเบิดนั้นก็รีบวิ่งสุดชีวิตตรงกลับไปยังเครื่องบินของพวกเขา

 

สัญญาณแจ้งเตือนดังก้องไปทั่วทั้งเกาะแห่งความหวัง ทำให้ผู้คนต่างแตกตื่นกับเสียงที่ดังขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เหล่าเจ้าหน้าที่ที่รับรู้ว่าเสียงนี้คืออะไรก็ตรงดิ่งไปยังฐานบัญชาการกันอย่างรวดเร็วจนกระทั่งมาถึงห้องปฏิบัติการพวกเขาก็เห็นว่าเหล่าเจ้าหน้าที่และหัวหน้าใหญ่อยู่ภายในห้องเหมือนรับรู้ว่ามีเรื่องเกิดขึ้น จนกระทั่งหนึ่งในนั้นเอ่ยถามคาร์เตอร์ที่อยู่ตรงนั้น

 

“หัวหน้า นี่มันเกิดอะไรขึ้น!!”

“จริงด้วย”

“สัญญาณดังไปทั้งเมืองเลยนะ!!”

คาร์เตอร์ได้ยินแบบนั้นก็หันไปหาเจ้าหน้าที่คนอื่นพวกเขาก็รีบปิดระบบเตือนทันที ก่อนจะให้ทำการประกาศการแจ้งเตือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะหันไปหาทุกคนที่กำลังงุนงงกับสถานการณ์นี้ขึ้น

“ขอโทษทีทุกคนตอนนี้ไม่สามารถอธิบายอะไรได้!!” คาร์เตอร์กล่าวก่อนจะหันกลับไปมองเจ้าหน้าที่ที่กำลังปั่นป่วนอยู่ “ตอนนี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมมีการแจ้งเตือนขึ้น!!”

"ระบบการแจ้งเตือนจากเกาะบอกว่าตอนนี้มีการใช้อุปกรณ์MGค่ะ!!"

“อุปกรณ์GM!!”

“เกาะไหน!? เกาะนี้เหรอ!?”

“ทำไมไม่อพยพคน!! คาร์เตอร์!!”

“ขอประโทษครับ การแจ้งเตือนนี้มาจากเกาะเซอร์ไวครับ!!”

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวออกมาทำทุกคนต่างงุนงง เพราะเกาะนั้นร้างมาหลายเดือนแล้ว

“ว่าไงนะ!!”

“เดียวนะ เกาะนั้นไม่มีคนและไม่มีไฟฟ้าแล้วนี่น่า มันมีการแจ้งเตือนได้ไง!?”

“เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วมีการเปิดไฟฟ้าทำงานขึ้นครับ”

“แล้วก็มีเจ้าหน้าที่ของเราตรงไปที่นั่นด้วยครับ!!!”

“ว่าไงนะ!!”

“เรื่องบ้าอะไรกันขนาดนั้น แต่ว่าอุปกรณ์ MG เลยนะ!! คนของเราใช้เหรอ!?”

“ไม่ใช่ครับ!! พวกดาร์คเนสเป็นคนเปิดอุปกรณ์นั้นครับ!!”

“ห๊า!!”

ทุกคนฟังที่เจ้าหน้าที่แต่ละคนตอบก็งุนงงไปเลยว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนี้ระหว่างที่ทุกคนกำลังวุ่นวายนั้นซาร่าที่ตามมาทีหลัง หลังจากทำให้ประชาชนใจเย็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอก็ตรงดิ่งมาที่นี่ก็ได้ฟังที่ทุกคนพูดกันเธอเดินไปหาสามีของตนเองทันที

“มิเกล!!”

มิเกลได้ยินเสียงของภรรยาก็หันไปมอง “ซาร่า!! มาทำไมนะ!?”

“ฉันไม่มาได้ไง เสียงเตือนดังทั้งเกาะ ทุกคนต่างหวาดกลัว ฉันพาลูกไปฝากพี่เลี้ยงแล้ว”

“ซวยล่ะ!!”

มิเกลได้ยินว่ามีการแจ้งเตือนทั่วเกาะคงได้เกิดความโกลาหลแน่ ๆ เขาหันไปมองคาร์เตอร์แต่เจ้าตัวกำลังคิดบางอย่างอยู่ เขาก็หันไปทางอื่นทันทีก่อนจะคิดบางอย่างเขาก็หันไปหาคนที่กำลังจะเดินผ่านเขาไป

“เธอ!! สาวผมเขียว!!”

หญิงสาวผมเขียวได้ยินเสียงคุ้นเคยเรียกเธอก่อนที่จะหันไปมองอย่างสงสัย “เรียกฉันเหรอคะ?”

“ใช่ เธอช่วยไปห้องกระจายข่าวให้พวกเจ้าแจ้งเตือนชาวบ้านว่า เราเกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิคของให้ทุกคนกลับไปนอน ยกเว้นเจ้าหน้าที่ของฐานบัญชาการให้อยู่ภายในตึกไว้!!”

“รับทราบค่ะ!!” เจ้าหน้าที่หญิงรับคำสั่งก่อนจะรีบเดินออกไปจากห้องทันที

ซาร่ามองสามีออกคำสั่งก่อนจะมีคำพูดของเจ้าหน้าที่บอกว่าการแจ้งเตือนมาจากเกาะเซอร์ไว ซาร่าได้ยินก็ตาลุกวาวทันที

“เกาะนั้น...แล้วคนที่ฉันเห็นล่ะ? เขาอยู่ที่นั่นหรือเปล่า!?”

“มันมีคนอยู่ แต่เราไม่แน่ใจเลยตอนนี้...”

“ว่าไงนะ...”

ซาร่าได้ยินก็กังวลเลยว่าคนที่เธอเห็นผ่านต้นไม้จะเป็นไงมั้ง แต่พวกหัวหน้าฝ่ายต่าง ๆ ฟังทุกอย่างก็สงสัยว่าคนของทางนี้เดินไปเช่นกันแต่ใครไปกันที่ไปที่นั่น

“เมื่อกี้บอกว่ามีคนของเราด้วยใครกันที่ไป!?” อเล็กซ์เอ่ยถามขึ้นมา

“จากความเร็วในการวิ่งเมื่อกี้...ตอนนี้...มีคนเดียว...”

คาร์เตอร์กำลังกล่าว เขาเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองหน้าจอผ่านระบบดาวเทียม ทุกคนต่างมองก็รับรู้เลยว่าใครกัน

“โจเซฟเหรอ!?”

ทุกคนต่างงุนงงกับบุคคลที่พวกเขาเอ่ยขึ้น เนื่องจากโจเซฟไม่ได้ทำงานกับฐานบัญชาการมานานแล้ว เพราะเขาหันตัวไปเป็นครูที่โรงเรียนเมต้าฮิวแมนบนเกาะ

“ทำไมเขาอยู่ที่นั่น!?”

“หมอนั้นควรอยู่บนเกาะสิ!!”

“ทุกคนใจเย็น ตอนนี้ฉันไม่รู้สถานการณ์ภายในเกาะนั้น แต่ต้องติดต่อหมอนั้น ใครก็ได้ช่วยติดต่อผ่านแว่นตาของหมอนั้นในทันที!!” คาร์เตอร์ออกปากสั่งในทันที

“รับทราบค่ะ!!” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งทำตามที่สั่ง

เจ้าหน้าที่แต่ละคนกำลังทำการเจาะสัญญาณของแว่นของโจเซฟที่กำลังทำงานอยู่ แว่นของโจเซฟเป็นทั้งตัวบอกทางและเครื่องมือสื่อสาร ระหว่างที่โจเซฟกำลังวิ่งนี้สุดชีวิตอยู่นั้นเพื่อหนีคลื่นระเบิดเขากำลังวิ่งไปตามทางเรื่อย ๆ จนจะออกนอกเกาะ เขาเห็นเครื่องบินกำลังถอยห่างนั้นทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังหนีจากจุดที่พวกเขาอยู่นั้นทำให้เขาไม่พอใจขึ้นมา

 

“เห้ย ๆ เอวา! ยัยบ้า! อย่าเคลื่อนตัวไปไหนสิ!!”

โจเซฟมองเครื่องบินสลับกับคลื่นระเบิดกำลังตรงดิ่งมาทางนี้ เขากระชับอุ้มมิรารีเอาไว้ก่อนจะมีบางอย่างแจ้งเตือนขึ้นมาที่หน้าจอแว่นของเขา

“ฉิบล่ะ!! ใครติดต่อมาตอนนี้ว่ะ!!” โจเซฟมองอย่างสับสนก่อนจะยอมรับ "รับสาย! นั้นใคร!"

“โจเซฟ...” เสียงของคาร์เตอร์เข้าไปในไมค์หูฟัง

โจเซฟที่ได้ยินถึงกับหน้าซีดทันที “พี่คาร์เตอร์!!”

“นายไปทำบ้าอะไรที่เกาะนั้น!!”

“อย่าพึ่งถามผมได้ไหม!? ผมกำลังวิ่งหนีระเบิดอยู่นะ!!”

“พวกเรารู้แล้ว!! นายต้องรีบหนีจากที่นั่นโดยเร็วที่สุด!!”

“ฉันรู้อยู่แล้วน่า!!”

“หัวหน้าค่ะ ยานบินอีกลำกำลังจะออกจากเกาะนั้นไปแล้วค่ะ!!”

“ว่าไงนะ!!”

โจเซฟที่ได้ยินที่พวกเขาพูดก็หันไปมองเฮลิคอปเตอร์ลำนั้นกำลังลอยขึ้นไป แต่ก็โดนคลื่นระเบิดโจมตีจนระเบิดกลางอากาศ เสียงระเบิดดังเข้าไปในแว่นจนทำให้อีกฝั่งก็ได้ยินและรับรู้พร้อมกับสัญญาณบนหน้าจอดับไปแล้ว

“โจเซฟเครื่องบินระเบิดเหรอ!”

“ใช่ พวกนั้นคงไม่ได้ออกจากที่นี่แล้วล่ะ!!”

“อย่าเล่น!!”

"ผมไม่ได้เล่น!! เอาล่ะ ผมขอไม่คุยกับพี่สักพัก เพราะคลื่นระเบิดเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แล้วล่ะ!!"

 

โจเซฟหยุดพูดเขากำลังวิ่งจนมาถึงชายหาด เขามองเครื่องบินที่เอวากำลังขับ เธอกำลังขับให้ต่ำลงและกำลังเปิดประตูด้านหลัง เขาเห็นก็เข้าใจว่าเธอต้องการอะไร แต่ทว่าคลื่นระเบิดถึงจุดอิ่มตัวมันก็ย้อนกลับแล้วกระจายแรงระเบิดรอบใหม่พร้อมกับหลุมดำขนาดใหญ่ดูดทุกอย่างไปหมดทั้งเกาะทำให้เกิดคลื่นแซงทำให้การติดต่อและภาพทุกอย่างที่นั่นขาดหายไป ทุกคนที่มองต่างมองกันอย่างตกตะลึงว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พวกเขาเคยเจอเหตุการณ์คล้าย ๆ กัน ที่ประเทศอินเดียเมื่อห้าปีก่อนตอนนั้นคาดชีวิตผู้คนไปนับหมื่น นั้นทำให้พวกเขาโดนผู้คนมากมายต่อว่าที่ทำให้ผู้คนหายไป แต่ตอนนี้พวกเขาเป็นกังวลว่าโจเซฟรอดไหม คาร์เตอร์ที่มองจออยู่สักพักเขาจะเริ่มพูดเรียกอีกฝ่าย

 

“โจเซฟ!”

เสียงซ่ายังดังเหมือนเดิมไม่มีอะไรตอบรับ คาร์เตอร์เป็นกังวลเขาไม่อยากเสียคนของตนเองที่เหมือนน้องชายไป

“โจเซฟ ตอบฉันด้วย ถ้านายปลอดภัย!!”

เสียงซ่านั้นดังไปทั้งห้องปฏิบัติการ ทุกคนทำหน้าเศร้ากัน ก่อนที่เสียงซ่าหายไปเป็นเสียงเงียบพร้อมกับเสียงตอบรับของโจเซฟ

“นี่โจเซฟ พวกเราปลอดภัยดี!!”

“เย้!!!”

เสียงยินดีดังไปทั้งห้องผ่านแว่นตาของคาร์เตอร์เขานั้นกำลังนั่งอยู่ภายในเครื่องบิน โดยที่กำลังบินหนีจากเกาะที่ตอนนี้กลายเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ น้ำทะเลกำลังเติมเต็มจุดที่หายไป คาร์เตอร์ส่ายหัวอย่างปวดหัวว่าเจ้าเด็กนี้ทำเอาเขาปวดหัวได้ตลอดจริง ๆ

“นายนี่ตายยากจริง ๆ โจเซฟ”

“เหอะ ๆ พี่ก็พูดได้...”

 

โจเซฟทำสีหน้าเบื่อหน่ายกับพี่ ๆ ที่คิดว่าเขาไม่รอดตลอด เขานึกถึงตอนที่หนีคลื่นระเบิดนั้นเลย เขาเห็นการกระทำของเอวาก็รู้ว่าเธอต้องการให้เขาวิ่งบนน้ำตรงมาที่เครื่องบินที่กำลังบินต่ำ เขาจึงวิ่งสุดกำลังไปตามผิวน้ำอย่างรวดเร็วและกระโดดขึ้นเครื่องไปอย่างรวดเร็ว เอวาเห็นแบบนั้นก็รีบเร่งเครื่องบินสุดกำลังตอนนั้นก็เกิดการระเบิดดูดทุกอย่างหายไปหมด มันเป็นเหตุน่าหวาดเสียวที่เขาจะไม่ขอไปวุ่นวายอีก ก่อนจะติดต่อกับคาร์เตอร์ต่อ

 

“เดียวเรากำลังจะรีบกลับไป...”

“พวกนายรีบกลับมาเจอบทลงโทษที่ออกไปโดยไม่บอกฉันเลย!!”

“ทำไงได้ผมมาช่วยคนที่เราคิดว่าโดนแช่แข็งอยู่ในน้ำแข็งนานสิบปีนะ!!” โจเซฟกล่าวออกมา เขาหันไปมองคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ

เอวาตั้งระบบเครื่องบินให้บินเองก่อนจะมาดูคนที่อีกฝ่ายช่วย คาร์เตอร์กับคนอื่น ๆ ที่กำลังฟังที่โจเซฟกล่าวว่าหมายความว่าไง

“นายหมายความว่าไง?”

โจเซฟรู้ว่าทุกคนไม่เชื่อเขาแน่ ๆ ก่อนจะระบบเปิดกล้องผ่านแว่นให้มองออกข้างนอก ทุกคนก็เห็นภาพฉายที่เอวากำลังตรวจร่างกายของคนที่มีร่างกายผิวขาวอยู่ พวกเขาต่างมองว่าใคร แต่คาร์เตอร์เห็นก็ตะลึงว่าเขาไม่คิดว่าจะเจออีกฝ่ายอีก

“เห็นคนที่ผมช่วยยัง...งั้นก็เลิกบ่นผม”

“โจเซฟ!!” เอวาตะโกนขึ้นมา

โจเซฟมองอีกฝ่ายที่ตะโกนขึ้นมา “ตะโกนทำไมนะ? เอวา”

เอวามองเขาด้วยสายตาตื่นกลัวก่อนจะพลิกตัวของคนที่พวกเขาช่วยเอาไว้ก่อนจะเห็นว่าร่างกายอีกฝ่ายมีเลือดออกและจุดที่เลือดออกนั้นมีการเลือนแรง โจเซฟและคนอื่น ๆ ที่เห็นภาพต่างตกใจทันที ก่อนที่เอวาจะพูดขึ้น

“เธอโดนยิง!! และโดนกระสุนระงับพลังด้วย!! รีบวาร์ปกลับเกาะ!! เดี๋ยวนี้เลย!!!”

 

จบตอนที่ 12 โปรดติดตามต่อตอนที่ 13 ต่อไป