“เทา หนุ่มเจ้าชู้ที่เคยไม่แคร์ใคร กลับต้องเผชิญหน้ากับพี่กล้ารุ่นพี่ที่เขาเคยชอบ เมื่อความรู้สึกเก่ากลับมาพร้อมกับความเจ็บปวด เขาจะเลือกรักหรือปล่อยให้มันจบลง?”

พี่รักหนูไปแล้วจะให้ทำไง - 3 หนูทดลอง โดย BluelemonSky @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,ไทย,ข้ามเวลา,พล็อตสร้างกระแส,นายเอกท้องได้,รุ่นน้องรักรุ่นพี่,นักเรียนแพทย์,หมอ ,มหาวิทยาลัย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พี่รักหนูไปแล้วจะให้ทำไง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,ไทย,ข้ามเวลา

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,นายเอกท้องได้,รุ่นน้องรักรุ่นพี่,นักเรียนแพทย์,หมอ ,มหาวิทยาลัย

รายละเอียด

พี่รักหนูไปแล้วจะให้ทำไง โดย BluelemonSky  @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“เทา หนุ่มเจ้าชู้ที่เคยไม่แคร์ใคร กลับต้องเผชิญหน้ากับพี่กล้ารุ่นพี่ที่เขาเคยชอบ เมื่อความรู้สึกเก่ากลับมาพร้อมกับความเจ็บปวด เขาจะเลือกรักหรือปล่อยให้มันจบลง?”

ผู้แต่ง

BluelemonSky

เรื่องย่อ

เรื่องนี้เป็นนิยายชุดต่อจากเรื่อง ไดอารี่สีชาด โดยแนะนำให้อ่านก่อนเนื่องจากเล่มนี้เป็นรุ่นลูกของหนึ่งในเรื่องไดอารี่สีชาด โดยจะมีทั้งหมด5เรื่อง เริ่มด้วย 1. ไดอารี่สีชาด 2.พี่รักหนูไปแล้วจะให้ทำไง 3.พนัยกรรมผูกรัก(กำลังเขียนอยู่) 4.พระเม่สื่อรัก(ยังไม่มีกำหนดเขียน) และสุดท้าย 5.รักครั้งสุดท้ายคือเธอ (ยังไม่มีกำหนดเขียน) โดยใครที่อ่านเล่มแรกจบแล้วสามารถแยกอ่านได้คะ

ตัวละครนำ

เทา 18  

รุ่นน้องคณะ แพทย์ ปี1 นิสัย ขี้เล่น เป็นมิตร เข้าสังคมเก่ง เจ้าชู้

กล้า 19

รุ่นพี่คณะ แพทย์ ปี2 นิสัย อัธยาศัยดี รักครอบครัว


ทิวลิป 17

นักเรียนแลกเปลี่ยนที่มาอยู่บ้านกล้า นิสัย รักสงบ ชอบอยู่เงียบๆ(ในวันที่เรียนเหนื่อย) เข้าสังคมเก่ง หัวหน้าแก๊งตอนอยู่บ้าน

ข้าวหอม 17

น้องสาวสุดรักของกล้า นิสัย อัธยาศัยดี รักสงบ แต่ถ้าโกรธคือโหดมาก รักครอบครัว




สารบัญ

พี่รักหนูไปแล้วจะให้ทำไง-0 บทนำ,พี่รักหนูไปแล้วจะให้ทำไง-1 ผมเป็นนักศึกษา,พี่รักหนูไปแล้วจะให้ทำไง-2 รับผมเป็นน้องรหัสนะครับ,พี่รักหนูไปแล้วจะให้ทำไง-3 หนูทดลอง

เนื้อหา

3 หนูทดลอง

ตอนที่ 3

หนูทดลอง

ไดอารี่กล้า

ณ.โกดังลับ

“ดีมากกล้าสมกับเป็นผู้ช่วยของฉัน”   หัวหน้าของผมพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาที่มองร่างลูกชายที่นอนด้วยฤทธิ์เหล้าขาว

 “แต่นี่มันลูกชายนะครับ”   ผมถามหัวหน้าที่ตอนนี้กำถอดชุดของน้องมา ร่างกายน้องถือว่าสวยงามมากทั้งผิวขาว ไม่มีเรียวรอยอะไรเลย และรอยสักคำว่า勇敢的 นั้นคือชื่อของผม

“ฉันดูแลมันก็เพื่อรอให้มันโตนี้แหละเพื่อจะใช้เป็นหนูทดลอง”   หัวหน้าพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชากว่าเดิมและสีหน้าที่นิ่งทำเหมือนกับว่าเทาเกิดมาเพื่อเป็นหนูทดลอง

“บอกได้ไหมครับ ว่านี้คือการทดลองอะไร”   ผมถามอีกครั้งด้วยความสงสัยเพราะถ้าเป็นงานทดลองที่ต้องการผลลัพธ์อย่าง ทำให้หายจากโรค หรือ โรคร้าย ไม่เห็นต้องลงทุนเลี้ยงเองตั้ง18ปีหรือแค่ลักพาตัวเด็กไร่บ้านมาก็ได้

“ ยาที่ทำให้ผู้ชายท้องได้แล้วลูกที่เกิดมาถ้าเป็นผู้ชายก็สามารถท้องได้ 30%เลย ”  หัวหน้าพูดขึ้นพร้อมสั่งตัวยามาให้ผม โดยตัวยานั้นเป็นสีแดงและมีกลิ่นหอมเหมือนกุหลาบ ไม่รอช้าผมรับตัวยาที่อยู่ในสลิ้งฉีดยาในถาดที่หัวหน้ายื่นมาให้ ผมจึงฉีดยาเข้าไปในตัวเทาโดยอีกฝ่ายยังหลับอยู่

จบไดอารี่กล้า

06.30 นาฬิกา

“ที่นี่ที่ไหนเนี่ย”    ผมมองไปรอบๆ ห้องแต่ที่นี้มันไม่ใช่ห้องนอนผม หันดูอีกฝั่งพบว่ามีผู้ชายร่างสูงนอนข้างๆผล พอสังเกตดีๆ ก็คือพี่กล้า

“ตื่นแล้วเหรอคะน้องรหัสของพี่”

“เมื่อกี้พี่ว่าอย่างไงนะครับ”  ผมหันไปถามคนพูดเพราะผมเองก็ยังไม่ตื่นเติม100 

“ก็พี่ยอมรับเทาแล้วว่าเป็นน้องรหัสของพี่แล้วไง”   ผมได้แต่สงสัยว่าผมทำอะไรให้พี่เขายอมรับ ไม่นานผมก็นึกออกแล้วพี่กล้าก็หันหน้ามาคุยกับผม

“ตอนแรกพี่กะจะไปส่งที่บ้านแต่พี่ไม่รู้ว่าบ้านเทาอยู่ไหนนาสิ”   พี่กล้าตอบผมด้วยสีหน้าร่าเริงแล้วก็ลุกไปดื่มกาแฟส่วนกาแฟที่ชงคือกาแฟดำ เพราะกลิ่นลอยมาจากครัว

 

“จะไปเลยไหมครับพี่ พอดีผมมีเรียนเช้า”   ผมบอกพี่กล้าที่ยืนดื่มกาแฟอยู่ตรงเคาน์เตอร์ครัวที่นี่ถึงจะไม่ใช่คอนโดใหญ่เหมือนของอินแต่ก็มีทุกอย่างครบ แล้วก็มีรูปครอบครัวของพี่กล้ากับรูปผู้หญิงคนหนึ่งที่อายุน่าจะ40กว่าแต่หน้ายังดูสาวอยู่เลย

“ลงไปรอพี่ที่ลานจอดรถก่อนนะ พี่ขอล้างแก้วก่อน”   พี่กล้าบอกผมก่อนที่ผมจะล่ะสายตาจากภาพ ไม่นานผมก็เดินลงไปรอที่ลานจอดรถ พอผมถึงลานจอดรถก็มีเสียงข้อความดังขึ้น

( มาร์คเด็กแว่น : เป็นไงบ้างเมื่อวานแดกหนักเลยนิมาเรียนไว้ไหม )

( เทาเจ้าสำราญ : กูสบายดีเจอกันที่มหาลัย )

“ไปกันเลยไหม”   พี่กล้าเดินมาด้วยท่าทางสุขุม ผมก็มองหัวจรดเท้าเขาที่ใส่ชุดนักศึกษาแพทย์ถือกล่องอะไรสักอย่างมาด้วย

“ขึ้นรถสิเดียวก็สาย”   พี่กล้าบอกผมที่ยืนดูรถพี่เขาที่ดูเก่าพอสมควร ผมขึ้นไปนั่งบนรถพี่กล้าเขาก็ชวนผมคุย

 “นายมีแฟนยังเพราะดูจากหน้าตานายแล้วก็ไม่ได้ไปทางหล่อแต่ออกไปทางหน้าหวานเสียมากกว่า”

“แล้วมันเหรอครับ หรือผมตรงสเปกพี่ล่ะ”

“เปล่าไม่มีอะไรถ้าแค่อยากถาม”   พี่กล้าตอบผมด้วยสีหน้าที่นิ่งแล้วพี่กล้าก็ลดความเร็วก่อนที่ผมจะบอกทาง แต่เหมือนพี่แกจะรู้ทางมาบ้านผมอยู่ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งมีแต่ปริศนา

“พี่กล้าเลี้ยวตรงนี่ครับ”   ผมบอกกับพี่กล้าแล้วนั่งเงียบๆ ไปเพราะอยากรู้ว่าพี่เขารู้อยู่แล้วหรือมีคนบอกแต่เมื่อคืนก็เมากันแล้วใครมันจะบอกล่ะ

“บ้านหลังนี่เหรอ”    พี่กล้าถามแล้วดันมาถูกหลังด้วยที่ผมสงสัยคือบ้านผมอยู่ในโครงการใหญ่ ถ้าใครไม่เคยมาคือต้องหลงแต่พี่แกมาได้ถูกแถมรู้ด้วยว่าต้องจอดตรงไหนสำหรับแขก

“ไงกล้าไม่กลับบ้านก็ไม่บอกพ่อเลยรู้ไหมว่าเป็นห่วงเข้าใจไหม”   พ่อผมพูดด้วยท่าทางที่เป็นห่วยแล้วสิ่งที่ผมให้ข้อสงสัยผมหายไปนั้นก็คือพี่แกมาบ้านผมถูกเพราะ

“สวัสดีครับอาจารย์”   พี่กล้าทักทายพ่อด้วยการไหว้ ผมจากที่สงสัยเลยเข้าใจว่าพี่กล้ากับพ่อผมเป็นครูกับลูกศิษย์กันนิเอง

“พ่อผมเป็นอาจารย์พี่กล้าเหรอครับ”   ผมถามพี่กล้าเพื่อความแน่ใจเพราะขนาดผมเองที่เป็นลูก พ่อไม่เคยสอนอะไรเลยนอกจากให้เงิน

“เขาเป็นอาจารย์สอนพิเศษพี่ตอนม.ปลายแล้วก็เป็นคนให้ทุนพี่ด้วย”   พี่กล้าบอกผมก่อนที่พ่อจะเชิญพี่กล้าเข้าบ้าน

 

“ไม่ดีกว่าครับผมต้องไปแล้ว”   พี่กล้าก็ไหว้ลาพ่อแล้วขับรถออกไปเพราะตอนนี้ 08.00แล้ว

“พี่เทาไปนอนไหนมาไม่เห็นกลับบ้านมานิ”  สายฟ้าบ่นผมในขณะที่ผมจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องนอนตัวเอง ผมสังเกตรอยสักที่มีมาตั้งแต่เกิดมันเขียนว่า 心的苹果 (แก้วตาดวงใจ) ด้วยสีดำ

“พี่เทาไปพร้อมกันไหมครับ”    อินเคาะประตูถามผมเพราะวันนี้อินต้องเรียบไปหาค็อกเทลแน่เลยเพราะทั้งคู่ได้ตำแหน่ง

“พี่ไปด้วย”    ผมตอนอินก่อนที่จะเรียบอาบน้ำแต่งตัว แล้วอินก็ตะโกนบอก

“ผมรออยู่ในรถนะพี่เทา”   อินบอกผมแล้วเดินลงไปรอที่รถ ผมเรียบแต่งตัวอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ส่วนน้ำหอมก็มีสำรองเดียวถึงมหาลัยค่อยฉีด

“พี่เทาผมไม่รู้ว่าพี่ยังไม่กลับบ้าน พ่อโทรมาบอกผมว่าเขาจะรับพี่กลับเองแต่ทำไมพี่ถึงไปนอนกับคนอื่นได้ล่ะ”   สายฟ้าบอกกับผมด้วยความรู้ผิดที่ทิ้งผมไว้ที่ร้านเหล้า ผมเลยปลอบสายฟ้าเพื่อไม่ให้น้องต้องรู้สึกผิดไปมากกว่านี้

“ไม่ต้องเสียใจนะพี่กลับมาแล้ว”   ผมปลอบสายฟ้าก่อนที่จะเรียบขึ้นรถที่อินรออยู่ ส่วนสายฟ้านั้นคงไปนอนต่อเพราะวันนี้คณะวิทยาศาสตร์เคมีไม่มีเรียน แล้วผมเรียบวิ่งไปที่จอดรถ แล้วสิ่งสำคัญที่จะลืมไม่หยิบไอแพดไปเรียนแน่

“กว่าจะมานะพี่ ผมนัดคนไว้”   อินบอกกับผมด้วยท่าทางหงุดหงิด ส่วนคนที่มันนัดคนไว้ก็ไม่พ้นค็อกเทลแน่นอน

มหาวิทยาลัย xx

คณะแพทยศาสตร์

“ขอบใจนะอินพี่ที่มาส่ง ไปก่อนนะ”    ผมลงมาจากรถแล้ววิ่งไปที่ทางบันไดฉุกเฉินเพราะตอนนี้เวลา 08.10 ลิฟต์คือสิ่งที่ไม่ควรขึ้นตอนนี้เพราะมันทำให้สายได้

“ห้อง486เป็นห้องที่เธอต้องเรียนไปเรียนใช่ไหม”   ผมวิ่งไปสักพักก็วิ่งไปชนกับใครคนหนึ่งแต่คนที่ล้มดันเป็นผมเอง

"เป็นอะไรไหมคะ"   ผมมองคนที่ช่วยพยุงผมขึ้นมา เธอเป็นผู้หญิงที่แต่งตัวเรียบร้อยและส่วนน้ำเสียงที่คุ้นเคย

 

"เธอคงเป็นน้องเทาสินะ พี่ชื่อใบเตยจำพี่ได้เปล่า"    หญิงสาวตรงหน้าแนะนำตัวก่อนจะถามผมกลับก็ยืนคิดสักครู่ก่อนที่จะหันมาบอกทาง

"ห้อง468วิ่งเลื้ยวขวาแล้วตรงไปนะ เรียบไปเถอะเดี๋ยวไม่ทัน” หลังจากที่คุยกันเสร็จพวกเราก็แยกย้ายกันไป ผมเองก็เรียบวิ่งไปเพราะเหลืออีก 5นาทีแล้ว

ห้อง468

"ทางนี่ไอเทา"   ไอมาร์คโบกมือเรียกผมก่อนที่จะเดินไปนั่งตรงที่ไอมาร์ค ก่อนที่อาจาย์จะเข้ามาพร้อมกับเริ่มแนะนำตัว แล้วอยู่ๆก็มีหญิงสาวเดินมานั่งตรงพวกผม

“ไงเทาเรียนวิชานี่ด้วยเหรอ”

“เธอเป็นใครครับ”

“จำเราไม่ได้เหรอเทา เราผึ้งไงที่เคยเรียนด้วยกันตอนม.ต้นอะ”   หญิงสาวตรงหน้าบอกผมก็นั่งคิดสักครู่แล้วผมก็อุทานออกมาแต่ไม่ได้ดังในขนาดที่อาจารย์เห็น

“หลอกกันเปล่าเนี่ยตอนนั้นเธอผิวครำใส่แว่นหนาสิวเติมหน้าแล้วก็เป็นคนที่แทบจะไม่มีตัวตน”  ผมพูดในสิ่งที่จำได้ในสมัยเรียนม.ต้น เพราะนั้นเป็นเรื่องจริงที่ผ่านมาตั้ง 6ปี

“บูลลี่อะ ไม่คิดว่าเราเปลื่ยนนาสิ ตอนนั้นเรายังเด็ก”   ผึ้งพูดด้วยสีหน้าบึ้งตึงเพราะน้อยใจในสิ่งที่ผมพูดจนทำให้อาจารย์เห็นแล้วเรียกพวกเรา

“ตรงนั้นนะห้องเรียนนะคะ ถ้าไม่ใช่เรื่องเรียนกรุณางดใช้เสียงค่ะ”  อาจารย์ได้ติพวกผมก่อนที่พวกเราจะตั้งใจเรียนจนเลิกเรียนเพราะไม่งั้นคงโดนเทศอีกแน่

15.00 น.

“ไปไหนต่อไหมผึ้ง”    ผมถามผึ้งที่กำลังเก็บไอแพดด้วยท่าทางเรียบร้อน แล้วผึ้งก็บอกว่าไปตามหาพี่รหัสของ มาร์คเองก็แชร์ของตัวเองให้ผึ้งฟัง

“คำใบ้ของผมคือ เด็กแว่นที่กินเหล้าเก่งแล้วของผึ้งล่ะ”   มาร์คบอกคำใบ้ของตัวเองให้ผึ้งฟังแล้ว ผึ้งก็บอกว่าพี่รหัสของมาร์ค เธอรู้จัดดีเลย มาร์คที่สีหน้าดูมีความหวังเพราะวันที่ผมไปตามหาพี่รหัสเห็นว่าพี่อัดกับพี่กล้าพนันไว้ว่าถ้ามาร์คตามหาพี่รหัสไม่เจอพี่คาราเมลต้องจ่ายเงินให้ 50,000บาท แต่ถ้ามาร์คหาเจอต้องได้เงิน100,000บาท พร้อมไปเล่นละครกับแม่มาร์ค

“ขอร้องล่ะผึ้งบอกได้เปล่าว่าใคร ผมยอมทำตามที่เธอขอเลย”   มาร์คขอร้องเพราะไม่อยากให้แฟนต้องเสียเงินเพราะเรื่องของตนเอง

 

“ไม่บอกแต่ให้คำใบ้เพิ่มแล้วกันนะ”   ผึ้งบอกมาร์คก่อนที่มาร์คจะตั้งใจฟังมากส่วนผมก็กดน้ำรอทั้งคู่โดยกดโกโก้ปั่น ส่วนของผผมมาร์คมัทฉะลาเต้ให้

“พี่สาวเราเองแล้วตอนนี้นางก็ทำเลสิกแล้วด้วย ไม่แปลกที่มาร์คจะหาไม่เจอ แล้วเทาก็เจอที่ร้านเหล้าประจำด้วยบอกแค่นี้แหละ”   ผึ้งบอกมาร์คก่อนจะมีเสียงเสียงมือถือดังขึ้น

“พี่รอผมอยู่ที่ตึกคณะพี่นะครับ ผมกำลังไปหาพี่” สิ้นสุดบทสนทนามาร์คก็วางสายก่อนที่จะบอกลาผมและผึ้งแล้วมาร์คก็เรียบวิ่งไปตึกคณะวิทยาศาสตร์

“แล้วเทาเจอพี่รหัสแล้วเหรอ”   ผึ้งถามผม

“หาเจอแล้วรับน้องโหดมากๆด้วย”

“บอกหน่อยได้ไหมอยากรู้อะ”   ผึ้งทำสีหน้าออดอ้อน จนผมใจอ่อนแล้วบอกไปว่าพี่กล้าที่เป็นเดือนมหาลัยเป็นพี่รหัสผม

“ก็ได้พี่เขาให้เรา………”    อยู่ดีๆ พี่กล้าก็เอามือมาปิดปากผมไว้แล้วดูเหมือนว่าทั้งคู่จะรู้จักกันด้วย แต่ไม่แปลกหรอกที่จะรู้จักกันเพราะแฟนเก่าของพี่กล้าคือพี่ใบเตย ส่วนสาเหตุที่เลิกเพราะทั้งคู่ออกาบอกว่าพวกตนเคยคิดอะไรเกินกว่ารุ่นพี่รุ่นน้อง

“ไม่มีอะไรหรอกผึ้ง แล้วเห็นพี่ใบเตยไหมพอดีพี่จะเอาเอกสารฝึกงานไปให้พอดีเลย”   พี่กล้าถามผึ่งที่อยากรู้เรื่องที่ผมจะเล่ามากกว่าเอกสารที่จะฝากไปให้พี่ใบเตย แต่คนที่เล่าให้ฟังคือพี่กล้าแถมเล่าหมดด้วยโดยเฉพาะเรื่องในร้านตะวันฉายที่ให้ผมกินเหล้าขาวไป 5ขวด

“ได้พี่กล้าเป็นพี่รหัสแบบนี้น่าอิจฉาอะ”    ผึ้งพูดออกมาด้วยความอิจฉา  ผมเองก็ไม่แปลกใจที่สาวน้อยสาวใหญ่จะอิจฉาเพราะพี่เขาเป็นคนดี น่ารัก หล่อ ใครๆก็อยากได้มาเป็นพ่อของลูก

“ขนาดนั้นเลยเหรอผึ้งพี่ว่าพี่ก็คนธรรมดานะ แล้ววันนี้กลับไงให้พี่ไปส่งไหม”   พี่กล้าถามผึ้งด้วยความสงสัยเพราะถึงจะไม่ได้เป็นเดือนมหาลัยแต่ความหล่อและความฉลาดนั้นมันแสดงออกมาแล้ว

“ไม่ดีกว่าคะหนูนัดไอข้าวหอมไว้แลัว”    ผึ้งบอกกับพี่กล้าด้วยสีหน้าร่าเริง ถ้าเป็นผมส่งที่บ้านไม่พอส่งบนเตียงด้วยก็ดี

“ดูแลน้องสาวพี่ด้วยละกันนะ เดี๋ยวปีหน้าก็ได้ออกมาอยู่คอนโดด้วยกันแล้ว”  พี่กล้าบอกผึ้งก่อนที่อีกฝ่ายจะย้อนคำของพี่กล้า ด้วยสีหน้าอ้อนวอน

“คำนี่พี่ต้องบอกผึ้งมากกว่าข้าวหอมนะ เพราะมันชอบลากหนูไปจัดเช้าตลอดเลย บางทีก็มอมเหล้าหนูด้วยเป็นไปได้นานๆทีก็จะดีมาก”  ผึ้งพูดความจริงออกมาพี่กล้าที่ฟังอยู่ก็ทำสีหน้าเอื้อมระอากับน้องสาวตัวเองที่ไปได้ความต้องการจากใครมา จนทำให้ผมเริ่มรู้แล้วว่าพี่กล้ากับผึ้งเป็นน้องสะใภ้

“เรื่องนี่พี่ไม่ยุ้ยนะ เพราะพวกหนูเป็นแฟนกันนิพี่เป็นแค่พี่ชายคงพูดอะไรมากไม่ได้ สิ่งที่พี่พอจะบอกกับผึ้งได้คือทำใจและทำใจ”  สิ้นคำพูดพี่กล้าก็พาผมไปที่จอดรถส่วนผึ่งก็ไปตามหาพี่รหัสต่อไป

ไดอารี่มาร์ค

คณะวิทยาศาสตร์

“รอผมนานไหมครับพี่เมล”    ผมวิ่งมาเพราะรถรางมันเต็มเนื่องจากมพี่ปี.3ที่มาเอาใบฝึกงานและรุ่นพี่ปี.4เอาปริญญานิพนธ์ (ย้อยหลัง) มาส่งเลยทำให้รถรางเต็ม แล้ววันนี้ผมเองก็ไม่อยากให้พี่คาราเมลรอนานเพราะวันนี้พี่เขาก็ดูไม่ร่าเริงเลย

“ไม่นานเลยจ้า พี่รอได้แล้วตามหาพี่รหัสเจอยังเอ๋ย”  พี่คาราเมลถามผมด้วยสีหน้าร่าเริง ก่อนที่ผมจะบอกเรื่องพี่รหัส

“ผมได้คำใบ้เพิ่มครับ”    ผมบอกพี่คาราเลมที่นั่งลุ้นว่าเป็นใคร แล้วจะคิดกับแฟนของตนมากกว่าพี่น้องรหัสเปล่า เห็นแบบนี้พี่คาราเมลเป็นคนหึงไม่แสดงท่าทางในที่สาธารณะด้วย

“เพิ่มคืออะไรเหรอ บอกเขาหน่อยสิคะ”  พี่คาราเมลก็ทำเสียงออดอ้อนเพราะอยากให้ผมบอกซึ่งคำตอบก็คือเป็นรุ่นพี่ผมเขาชื่อใบเตยอยู่ปี 3 แล้วผมก็เอารูปพี่ใบเตยที่ขอให้ไอเทาถ่ายรูปให้ แล้วมันก็ยิ่งทำให้พี่คาราเมลทำหน้าเศร้าอีกครั้งเพราะพี่ใบเตยคือแฟนเก่าของพี่คาราเมลส่วนสาเหตุที่เลิกกันเพราะทั้งคู่เป็นญาติกันแล้วมันไม่สมควรสำหรับผู้สืบทอดธุรกิจของตระกูล

“พี่รหัสของมาร์คคือแฟนเก่าพี่เองและก็เป็นญาติพี่ด้วย” พี่คาราเมลได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังผมกอดพี่คาราเมลเอาไว้แต่ดูเหมือนว่าจะยิ่งร้องไห้หนักขึ้น

“พี่เคยคบกับผู้หญิงมาก่อนเหรอครับเนี้ย แต่เอาจริงๆ ผมก็รู้มาก่อนแล้วล่ะครับ"  ผมเองก็บอกที่รู้ของพี่คาราเมลไปแล้วพวกเราก็กอดกันเพื่อให้แต่ล่ะคนสบายใจขึ้น

 “ไม่ต้องเล่าต่อแล้วนะครับ ถ้ามันเจ็บมากก็ปล่อยให้มันเป็นแค่อดีตไปเถอะครับ พูดไปก็เจ็บเปล่าๆ” ผมปลอบพี่คาราเมลโดยไม่ทันสังเกตุว่าพี่อัดยืนอยู่ตรงนั้นแถมบ่นพี่คาราเมลด้วยความรู้สึกแซ่งกับเพื่อนสนิทของตนเอง

"กูบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้ลืมมันไป มึงก็ลืมไม่ได้แล้วจะทำให้แฟนคนปัจุจบันต้องมารับรู้อีก กูล่ะปวดหัวกับมึงจริงเมลๆ"  พี่อัดบ่นพี่คาราเมลด้วยความเป็นห่วง ผมยอมรับว่ามันคือเรื่องจริงเพราะถ้าเป็นคนอื่นเขาคงเลิกกันไปนานแล้วแถมจะซ้ำเติมอีกด้วย

"กูลืมได้แล้วอย่ามาบ่นที่มึงล่ะ"   พี่คาราเมลพูดตอบกลับพี่อัดก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดประชดป่นเป็นห่วง

"ครับคุณเพื่อนกูจะเชื่อก็ได้"   พี่อัดก็ตอบกลับพี่คาราเมลจนทำให้ตอนนี้พวกเรารู้สึกดีขึ้น แล้วผมก็เป็นคนขับรถพาพี่คาราเมลกลับ

ณ.บ้านพี่คาราเมล

ผมมาบ้านพี่คาราเมลถูกเพราะแม่ของพวกเราเป็นเพื่อนสนิทกันแถมคนที่ติวพิเศษให้ผมก็คือแม่ไพริน ผู้เป็นแม่พี่คาราเมล ส่วนคุณพ่อของพี่เขามักจะชวนผมเล่นบาสเพราะแกบอกว่าคิดถึงสมัยหนุ่มๆ ที่เคยเล่นกับพ่อและแม่ของผม

"สวัสดีครับน้าริน"   ผมทักทายแม่พี่พี่คาราเมลที่ความสวยของท่านยังสวยอยู่เลย แม่ผมเองก็ไม่ต่างกันเพราะแม่ผมเป็นดาราเลยต้องสวยตลอดเวลา

"บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกแม่ไงจ๊ะมาร์ค" น้าไพรินบอกก่อนที่จะมาช่วยพยุงตัวพี่คาราเมลไปที่ห้องนอนของตัวเอง หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อย พ่อผมก็โทรมาบอกน้าเต้ผู้เป็นพ่อพี่คาราเมลว่าให้นอนค้างที่นี้  เพราะพ่อกับแม่และโทวะจะนอนค้าง

"มาร์คนอนกับเมลนะจ๊ะ พอดีห้องนอนแขกตอนนี้มีแต่ของที่แม่ยังไม่ได้เอาไปคืนพ่อหนูเลย"  น้าไพรินบอกก่อนที่ น้าเต้จะเอาชุดนอนมาให้ผมเคยถามทั้งคู่ว่าไม่กลัวผมทำมิดีมิร้ายกับพี่คาราเมลเหรอแต่คำตอบที่ได้ก็คือ

"พวกเราสอนการป้องกันให้แต่ล่ะคนแล้วจ้า แล้วอีกอย่างนะพวกเราก็ไม่อยากทำให้ลูกๆ ต้องหนักใจอยากให้ใช้ชีวิตวัยรุ่นให้สนุก"   น้าเต้บอกก่อนที่ทั้งคู่จะหวานกัน ผมที่เริ่มง่วงเลยเข้าห้องไปอาบน้ำ แล้วก็หลับสู่ห้วงนิทราที่กอดพี่คาราเมล

จบไดอารี่มาร์ค

 

จบ