นัทผู้พูดมากกับไอ่แว่นที่อยากเดินหนี นัท : แว่นมานี่มา ธีร์ : ไปไกลๆตีนกูไป
ตะวันทึ่สาดส่องทุ่งนา - ตอนที่ 3 สวนยามเย็นของนัท โดย คุณ เซน เซน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์
ชาย-ชาย,รัก,รั้วโรงเรียน,วัยว้าวุ่น,ไทย,ชายรักชาย ,ชายชาย,ชาย-ชาย,วาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ตะวันทึ่สาดส่องทุ่งนา
หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง
แท็คที่เกี่ยวข้อง
รายละเอียด
นัทผู้พูดมากกับไอ่แว่นที่อยากเดินหนี นัท : แว่นมานี่มา ธีร์ : ไปไกลๆตีนกูไป
ผู้แต่ง
คุณ เซน เซน
เรื่องย่อ
เรื่อง ตะวันที่สาดส่องทุ่งนา
เรื่องราวของเด็กกนุ่มคนนึงต้องออกมาจากเมืองกรุงเพราะปัญหาทางการเงินของพ่อ แม่ของเค้านั้นประสบอุบัติเหตุตั้งแต่ยังเล็กทำให้พ่อของเขาต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพัง แต่ด้วยการแพ่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมานั้นยากลำบากมากขึ้น ค่าครองชีพสูงไหนจะค่าเทอมของลูกชายของเขา
อยู่มาวันหนึ่งปู่ของเขาประสบอุบัติเหตุตกจากต้นไม้เหตุผลนึงที่เลี่ยงไม่ได้คือค่าครองชีพสูงเกินไปจึงส่งลูกชายของเขาซึ่งมีนามว่าธีร์เด็กเมืองกรุงที่จากบ้านมาแต่ยังเล็กได้กลับบ้านเกิดเมืองนอนอีกครั้ง
ครั่งนึงในวัยเด็กแต่ธีร์จำไม่ได้ได้มีเด็กหนุ่มคนนึงรุ่นราวคราวเดียวกันชอบมาเล่นกับปู่และช่วยเหลือปู่ของเขาทุกครั้ง บ้างก็มาแวะเวียนเล่นกับน้องโบ้บ้าง เพื่อนในสมัยเด็กของเขาดูชั่งเป็นคนเข้าสังคมง่ายมากพูดจา ผู้ใหญ่ดูรักและเอ็นดูต่างกับเขานั้นที่ไม่ค่อยพูดเพราะเขาไม่ค่อยสุงสิงกับใคร
ธีร์ : กูคตเบื่อเลยอ่ะ อยากออกไปข้างนอกบ้าง
นัทที่ทำได้แค่มึนงงกับธีร์อยู่เล็กน้อยจึงทำได้แค่เพียงไถ่ถามเพียงครั้งครา
นัท : เอ้า มึงไม่ชอบออกไปไหนมาไหนแค่นี้ก็จะอินโทรเวิร์ตจะตายห่าแล้ว
ธีร์ : ไม่เอาน่ามัะนไม่มีอะไรให้ทำเลยอีกอย่างเราไม่มีเงินด้วยอ่า
นัท : อย่างแรกที่มึงต้องทำกูขอแค่สองข้อ
ธีร์ตอบรับด้วยความสงสัยและรีรอไขแสงคำตอบของนัท
ธีร์ : ว่ายังไง
นัท : มึงเลิกเรียกกูว่าไอ้คนบ้าน้ำลาย สองก่อนที่มึงจะทำนู่นทำนี่มึงหาโรงเรียนเข้าให้ได้ก่อน
เด็กหนุ่มทำได้เพียงครุ่นคิดแต่ก็ดันเสียงไม่ขึ้นจึงทำได้เพียงแต่นั่งอ้ำอึ้งของคำพูดเพื่อนตนเอง จึงทำได้เพี่ยงตอบกับออกไป
ธีร : อืมม ไม่รู้ดิงั้นกูเรียนกังมึงก็ได้
นัทงั้นก็รีบไปแต่งตัวเตรียมเอกสารให้เรียบร้อยเดี๋ยวกูขึ้นตามไป..
เด็กหนุ่มได้ตอบกลับเพื่อนชายของตนก่อนจะสับขาสองข้างวิ่อ่งไปหน้าบ้านของตน
ธีมเนื้อเรื่องเกี่ยวกับ : การช่วยงานในบ้าน ชีวิตของสองหนุ่ม ความสัมพันธ์ของทั้งสอง บรรยากาศภายใน ปล อาจมีการเอาสถานที่จริงมาเกี่ยวข้องด้วยส่วนหนึ่ง
ฝากติดตามผลงานนักเขียนฝึกหัดด้วยนะครับ🥰🥰
ช่องผลงาน
FB : https://www.facebook.com/share/1BKyhUwuG6/
TT : https://www.tiktok.com/@sensenkung?_t=ZS-8zVQv8ItC9C&_r=1
เนื้อเรื่องเป็นอย่างไรประการยังไงติเตียนนักเขียนได้ครับผม🥰🙏
ปล่อยตอนเรื่อยๆจนถึงตอนที่ 5 นะครับตอนต่อไป
จะอัพเวลาตีสองทุกวันอังคารและเปิดอ่านฟรี 17:00 น.
สารบัญ
เนื้อหา
ตอนที่ 3 สวนยามเย็นของนัท
ณ คันแทนาที่หนึ่ง แดดอ่อนปลอยๆยามบ่ายฟ้าคลามกำลังพอ ทุ่งนาข้าวเขียวนวลเติมเต็มผืนแผ่นดินทั่วแดนสายลมพัดพาโชยเมล็ดข้าวรูดริบหรี่ตามแรงลมกลิ่นข้าวหอมนวลนมเตะจมูกแทบไม่ขาดสาย
สองเด็กหนุ่มเดินคุยกันอย่างนับไม่้ถ้วนแต่ส่วนใหญ่นัทจะเป็นคนอารมณ์ดี และน่าเข้าหาต่างจากเขาสิ้นดีที่เป็นคนเก็บตัวคุยกับใครไม่ค่อยรู้เรื่องสักเท่าไหร่นี่ธีร์ นัทเอ่ยถามอย่างน่าสงสัยก่อนจะงวกหน้าหันมา
นัท : นี่มึงทำไมถึงมาเรียนนี่หรอ ไหนว่าจะอยู่เมืองกรุงตั้งแต่ไปกลับพ่อ ทำไม่อยากกลับมาเรียนบ้านนอกน่ะ
ธีร์ยืนนิ่งสักพัก สายลมพัดพาความสงบ เสียงใบไม้เอียงเอนตามลมหยุด..
ธีร์ : ก็ปู่กูดิ เป็นคนชอบทำงานบ้างานจัดๆ ได้ข่าวจากพ่อกูว่าเพิ่ลปีนเก็บลูกเงาะแล้วดันพลัดตกซะงั้น แต่ก็ยังดื้อจะทำงานเลยให้กูมาดูแล
แถมเลี้ยงวัวไม่รู้เท่าไหร่น่าจะเยอะ ขนาดเอ็งมาช่วยยังเหนื่อยใช่ไหมล่ะ
: นัทตอบกลับ พร้อมรอยยิ้มอยากจะแหย่
นัท : ก็ดีละนี่ อย่างเด็กเมืองกรุงอย่างเองจะทำได้สักเท่าไหร่กันเชียว
สีหน้าของธีร์ดูเคี้ยวมิดคิ้วขมวดพร้อมจะบวก ดูท่าจะไม่โอเคสักเท่าไหร่เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายจะเริ่มก่อกวนทางคำพูดออกมา
ธีร์ นี่มึงจะเอาหรอ เห็นกูกลับมาก็ได้ใจใหญ่เลยอ่ะดิท่านคุณ คืนนี้กูจะไม่ติวการบ้านกับมึงไปไหนก็ไป๊...
นัท : ไม่เอาาวว อย่าดิมึงก็รู้ว่าครูกูเกลือบให้มผ มานับไม่ถ้วนยังจะเหลือแต่ไม่ผ่านอีกล่ะดิ ขอร้องล่ะอย่าเลยกูไม่เอาแล้วจะไงก็ช่างขอลอกงานหน่อยก็ดี ถือว่ากูขอล่ะ “ดึงคอเสื้ออีกฝ่ายแบบวิงวอนน่าเห็นใจอย่างประหลาด”
ธีร์แทบทำหน้าเอือมระอาแทบจะมิดดิน สายตาแทบไม่รู้จัก ทว่าว่าเพื่อนของเขาที่ขี้โม้ยันดาวพลูโตได้ แต่กลับเรื่องใกล้ตัวกะไอ่แค่งานค้างยังไปไม่รอดจะเหลือแลเหตุอะไร
ธีร์ : เอออ่ะ ถือว่ากูขอบคุณที่มึงมาช่วยงานปู่กู“เรื่อยไปอย่าง งานปู่แกจะได้ไม่ลำบากเกินจากใหญ่ไปเบาแคานี้แรงแกก็รีบหรี่ลงตามวัยแล้วแต่ไอ่นี่เห็นหน้ามันทีไรทำไมมันขัดใจกูยังไงไม่รู้ เปิดเทอมนี้มันกวนกูไม่เลิกแน่”
นัท : โอวเครค้าบบบบบ ธีร์ : ยี๊~~ขนลุกไอ่สัส“ทำหน้าเหวอแทบไม่ออกว่ามันจะเป็นคนส้นตรีนขนาดนี้” นัท : เอ๊า ทำไมอ่าา อืมมงั้นเอางี้ กูจะพามึงไปดูสวนกูกับปู่ก็แล้วกันกลัวว่ามึงจะลืม เวลาเก็บผักทำกับข้าวจะได้มาถูก ธีร์ : ก็ดี นัท : ป่าวกลัวมึงเดิรตกสระปลานิลพ่อกู
ธีร์ : และถ้ากูเดินไปเจอกูจะถีบมึงลงสระคนแรก นัท : ว้าาาา น่ากลัวจังเลยฮะ ธีร์ : อยากได้กูก็จัดให้ได้ นัท : เดี่ยวนี้เสี่ยวขึ้นว่ะ กูนึกว่าจะติ๋มๆ เนิร์ดๆสะอีก
ธีร์เริ่มเบื่อคำกริยาที่สรรหามาของเพื่อนตน จึงเดินลัดเลอะไปหลังคอกไก่ของพ่อนัทปล่อยให้เพื่อนของตนยืนโม้ให้เหนื่อยโดยคิดว่าเดี๋ยวก็เงียบซะเอง หลังเดินผ่านจากนาไปถนนทางดินแดงซึ่งไกลเหลือเกิน เจอกับกอกล้วยใหญ่เป็นแปลงปลูกผลัดกับต้นฝรั่ง ถัดจากนั้นก็เจอกลับสวนยางของพ่อนัทจึงเดินกรานเข้าไปดู
กล้วยเขียวเนียนยาวกำลังจะสุกเรียงรายต่อกัน ผลฝรั่งที่ห่อเข้าด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์พร้อมทับด้วยถุงพลาสติกธรรมดาอีกหนึ่งรอบเพื่อป้องกันเหล่าแมงและสร้างคุณภาพให้ผลไม้ ใบไม้ปลิวว่อนลงทั่วทิศแห่งหนรอยกรีดของต้นไม้ค่อยปล่อยน้ำยางขาวข้นออกมาไว้ในถ้วยภาชนะสีดำ
เสียงฉ็อบแฉ๊บเสียดสีของใบไม้เริ่มคลืบคลานออกมา น้ำเสียงเรียกร้องของเด็กหนุ่มวิงวอนออกมาก่อนคุยโซ่โมใหญ่ส่ายท้าวค้ำเอวเชิดหน้าดึงดันกล่าว
นัท : ทำไม่ไม่รอกูเลยอ่ะ นิสัยนะมึงวันๆทำตัวเงี้ยจะคบเพื่อนใหม่ยังไงวะ เมื่อเด็กหนุ่มกล่าวเสร็จสับกลับกันที่เส้นแบ่งแยกความคิดที่ต่างกันสิ้นดีกลับทำให้อีกฝ่ายกลับรู้สึกดีด้วยซ้ำพร้อมคิ้มเคิ้มตายิ้มริมฝีปากค่อยแยกแก้มออกจากกัน
ธีร์ : ก็ดีแล้วนี่หน้าคนอย่างกูเหมือนอยากมีคนคบมั้งคนอย่างกู“คงไม่มีคนอยากคบหรอก” นัท : (น้ำเสียงดูเป็นคนอย่างงั้นจริงๆมีปมอะไรรึป่าวหรือว่า..แต่ทำไมเค้าถึงคิดแบบนั้นกันนะ?)
(เวลา 16:34) เด็กหนุ่มได้เดินทางไปยังสวนพร้อมทั้งเพื่อนทว่าว่าด้วยพบเย็นช่วงหน้าร้อนพบค่ำแสงนีออนอ่อนๆดระทบลงเบื้องล่าง ยามค่ำพบเย็นนี้อากาศกำลังเริกงามยามดี อากาศบริสุทธิ์ผุดผ่องต่างจากช่วงสายแทบสาดแผดเผาทุกสิ่งไม่สนหนใด เดินย่างมาเรื่อยไปเสียงแผ่นนันยางรองเท้ากระทบดับหญ้าดังฉ็อบแฉ๊บไปมา ณ กลางทุ่งนามีบ่อร่องน้ำนิ่งอยู่ภายในนั้นเสียงปลานิลนับเป็นสิบ
สายตามองชะเอียงไปทั่วทุกสะท้านผืนน้ำเหลือบไปพบใบผักบุ้งในสระเลี้ยงปลาเลื้อยยาวจากดินเบื้อฝบนลงำปยังบ่น้ำ เด็กหนุ่มผู้เอ่ยถามสหายเคียงกายตนเมื่อนั้น ธีร์ : นี่ไอ่นัทกูขอเก็บผักบุ้งได้มะ อยากเอาไปผัดกับน้ำมันหอยน่าจะอร่อยว่ะมึงว่าโอเคไหมวะ นัท : นี่มึงจะลงสระจริงดิ ไม่กลับคลีปมันอ่อ ธีร์ด้มลงไปเก็บข้างสระก่อนแหงนหน้าขึ้นมามองคิ้วขมวดแทบจะล้าปากง่วบกับเพื่อนของตน ธีร์ : กูว่ามึงก็มีตาน้าาา อยู่บนบกบนโคกก็เยอะแยะกูจะหาเรื่องลงไปเก็บในบ่ทำไมเปื้อนก็เปื้อน นัท : คร้าบบพ่อขุณท่านเรือนใหญ่เท่าฝาบ้าน
ธีร์ : พูดพร่ามไปเรื่อยมึงมาช่วยกู้เก็บเดี่ยวนี้ไอ่เชี่ยนี่ นัท : เออๆ ทั้งสองต่างช่วยกันเก็บต้นผักบุ้งอ่อนเรื้อยไปทั่ว ยอดอ่อนเขียวขจีบางๆพร้อมเด็ดทีเสียงกรอบได้ยินดันเรียกเข้าหา หลังจากเก็บเสร็จก็พบค่ำแทบจะมืด มีเพียงแสงไฟจากสมาร์ทโฟนส่องแสงทางเดินระหว่างทางบรรยากาศแต่ละช่วงแตกต่างกันอย่างน่าพิลึกอากาศเริ่มเย็นแทบกระอักกระอ่วงผี้เสื้อวิ่วประดั่งทั่วท้องอยู่แทบไม่สุข
เมื่อกัดฟันเดินถึงบ้านปู่ของธีร์ทั้งสองในที่สุด เมนูอาหารเย็นวันนี้มีผัดผักบุ้งใส่น้ำมันหอย ไข่เจียว และปลานิลย่างจากพ่อของนัท ธีร์ : มึงจะกลับยังอยู่กินข้าวด้วยกันก่อนดิ นัทเริ่มลังเลทำได้เพียงแค่ตอบกลับอย่างเกรงใจ นัท : กูช่วยมึงทำแป๊ปเดียวเดียวเดี๋ยวกูก็กลับละ มันทั้งสองกับกันเคลียร์อยู่นั้นผู้เป็นปู่จึงเริ่มเอ่ยพูดออกมา ปู่ : กินข้าวด้วยกันก่อนจะเป็นไรไป เดี๋ยวปู่จะไปส่งเองก็ได้
หลังจากทั้งสามคนช่วยกันทำอาหารเสร็จ เสียงผัดซ่าของน้ำมันคลุกกับผักผัดพอสลบ กลิ่นเผาหอมๆลอยแตะจมูกไม่ปล่อยไข่ไก่แผ่นสีเหลืองหอมนวลไม่ไม่ไหม้แต่พอดีจัดจานใส่ถาดดิบดี เย็นนี้มีคนมากินด้วยเพิ่มอีกหนึ่งคน เป็นสี่คน พ่อ ปู่ ธีร์ และนัท
ไม่นานนักพ่อของทางฝั่งธีร์ได้กล่าว พ่อ : พ่อผมขอฝากธีร์ไว้กับพ่อได้ไหมครับ ถ้าเรียนจบก็ให้ต่อแถวๆนี้ได้เลยแถมยังอยู่ไม่ไกลบ้านอีก ปู่ : งั้นก็อยู่แค่ปี้เดียวสิ เดี๋ยวก็ขึ้นไปกรุงเทพเหมือนเดิมแล้ว กลับมาเล่นบ้านปู่แค่นั้นก็พอแล้ว พ่อ :ไม่ครับพ่อผมให้เค้าเรียนอยู่นี่เลย เดี๋ยววิลัยนี่้ไปต่ออุบลเอาก็ได้ครับ ปู่ : ก็ขึ้นอยู่กับเองแล้วกันแต่ปู่อยู่ด้วยตัวเองได้ พ่อ : งั้นผมขอฝากธีร์ด้วยนะครับพ่อพรุ่งนี้ผมก็กลับแล้ว
ขณะพูดคุยกันไปจึงได้ทานอาหารเย็นมื้อนี้ไปด้วยค่อยช่วยกันจัดแจงเตรียมภาชนะไปทำความสะอาด
ณ เวลา (20 : 41)
ไปส่งนัทกลับบ้าน ปู่ : เดี๋ยวปู่ไปส่งนัทก่อนนะเด็กหนุ่มขานรับ ธีร์ : ครับ
ธีร์ : (นอกเหนือจากนี้ก็ไม่มีอะไรอีกแล้วแต่เหลือแต่ขึ้นไปนอน ถ้าไอ่นั่น“นัท”ไม่ทักมาดึกๆดื่นๆอีก)ธีร์จึงเดินขึ้นชั้นบนบ้านและข่มตาหลับ ความรู้สึกต่างกันลิบลับเนื่องในแต่แรกถึงเขาจะเป็นเด็กบ้านนอกคอกนาแต่ก็โตอยู่เมืองใหญ่อยู่ดี ก่อนจะหลับไปได้สักพัก..