ประโยคปฏิเสธของชื่อเรื่องใครเชื่อก็บ้าล่ะ!
แฟนตาซี,ชาย-ชาย,โอเมกาเวิร์ส,เกิดใหม่,วัยว้าวุ่น,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ก็แค่เพื่อนอิค (Amegaverse)ประโยคปฏิเสธของชื่อเรื่องใครเชื่อก็บ้าล่ะ!
Amegaverse คืออะไร
โลกของอัลฟ่าที่มีกำลังมากกว่า หากแต่ว่าสติปัญญาเท่าเมล็ดถั่วไม่สามารถเหนือกว่าโอเมก้าที่ร่างกายอ่อนแอแต่ฉลาดแกมโกง เจ้าเล่ห์เพทุบาย ร้ายกาจดุจปีศาจและเจ้าเสน่ห์ราวกับของหวานที่ได้ลิ้มลองก็จะลืมไม่ลงแถมยังมีพลังคำสาปที่สามารถทำให้อัลฟ่าตกอยู่ในอาณัติและต้องรับผิดชอบกับภาระที่ตนเองได้กระทำลงไป
"เราเลิกกันเถอะ! ที่รักอ่ะดีเกินไปแล้ว~" จากที่ยิ้มดีใจเพราะไม่ได้เจอแฟนหลายวันก็ถึงกับหุบยิ้มแทบไม่ทันก่อนที่ภายในหัวคิดหาเหตุผลว่าตัวเองผิดกับเรื่องอะไรกันแน่
แต่กว่าจะหาคำตอบได้ก็บรรลุถึงความฉลาดของตัวเอง คำว่าดีเกินไปความหมายจริงๆ ก็คือเรานะโง่เกินไปจนดูไม่ออกว่าแฟนตัวเองมีความสุขกับคนอื่นไปแล้วแถมยังทำในสิ่งที่ไม่เคยทำกับเรามาก่อนด้วยอย่างเช่นจูบหรือกอดด้วยความรัก
หยดน้ำตาค่อยๆ ปริ่มออกมาแล้วไหลอาบแก้มจนทำให้การมองเห็นไม่ค่อยชัดเจนสักเท่าไรจนต้องหาอะไรมาเช็ดจนกว่าจะไม่แสบตาอีก
"นี่มันอะไรกันล่ะเนี่ย!" เจ้าของทีวีหงุดหงิดกับเรื่องจริงที่เหมือนนิยายในโลกที่ตัวเองปกครองก่อนที่จะเปลี่ยนช่องดูเรื่องที่มันน่ายินดีกว่านี้
ณ สะพานที่เบื้องล่างเป็นน้ำที่นิ่งแต่มันน่ากลัวตรงที่เมื่ออะไรตกลงมามันจะจมหายไปอย่างรวดเร็ว
เด็กสาวคนนึงที่ดูบอลว่าหาแต่ทว่ากลับบ้าบิ่นที่จะปีนขึ้นมาบนขอบสะพานที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่คนแวะมาบ่อยที่สุด
ไม่ใช่มาถ่ายรูปวิวนะแต่ไปเยี่ยมยมบาลในโลกหน้าต่างหาก
เด็กสาวคนนี้ก็เช่นกัน
"ชีวิตที่ข้ามอบให้มันดูไร้ค่าขนาดนั้นเลยหรอ?" ก่อนที่จะซบกับก้อนขนรูปร่างคล้ายแมว
...
"ปีนี้ประชากรในนรกเพิ่มขึ้นอีกแล้ว! เจ้าต้องทำอะไรสักอย่างแล้วนะอาคาน่า" พร้อมกับดูกระดาษที่ละแผ่นก่อนที่จะเงยหน้ามองเจ้าของชื่อเมื่อไม่มีเสียงตอบรับ
เดินมาดูก็เห็นเจ้าของห้องนอนขดตัวบนเก้าอี้ฟูกไปแล้วก่อนที่จะถอนหายใจพร้อมกับขยับแว่นไปด้วย
"เป็นถึงพระเจ้าผู้สร้างโลกแต่กลับทำตัวแบบนี้ถ้าบริวารเกิดมาเห็นชื่อเสียงได้ป่นปี้หมดแถมเผื่อๆ เจ้าจะดูไม่น่าเคารพไปด้วย" คนที่นอนขดได้ยินก็กลับมาลุกนั่งแล้วถอนหายใจก่อนที่จะจ้องคนบ่นจนเจ้าตัวกระตุกแว่นเล่นอีกรอบ
"ข้าก็ทำหน้าที่ตัวเองเป็นอย่างดีแล้ว! แต่พวกลูกแกะกลับทิ้งชีวิตของตัวเองไปแล้วจะให้ข้าทำยังไงหะอินคาทัส!" แล้วกอดอกไม่พอใจ
"ถ้างั้นเอาอย่างนี้ดีมั้ย~ ลองส่งบริวารของเจ้าลงไปยังโลกมนุษย์ดู เผื่อวิธีนี้จะสามารถแก้ปัญหาได้" ก่อนที่จะหยิบอมยิ้มรสสตรอเบอร์รี่จากกระเป๋าเสื้อส่งให้กับอาคาน่าและพอเจ้าตัวรับก็หายงอนแล้วแกะถุงเอาอมยิ้มมาอมเล่น
"ข้าคิดอะไรดีๆ ออกแล้ว!" ก่อนที่จะกระโดดยืนเต็มความสูงแล้วเรียกบริวารทั้งหมดที่ต้องรับใช้วันนี้โดยที่ส่วนมากจะเป็นเทวดาฝึกหัดที่ชอบทำผิดกฏในระดับเล็กน้อยจนไปถึงระดับที่ทำให้สวรรค์เกิดความวุ่นวาย
อิคาทัสถอนหายใจอีกรอบและรู้สึกโล่งอกที่ลูกอมยังใช้ได้ผลกับอาคาน่าเพราะถ้าเจ้าตัวไม่หายงอนไม่ใช่แค่โลกที่จะล่มสลายเพราะแม้แต่สวรรค์ก็ไม่เหลือในนรกก็เช่นเดียวกัน
...
"เรียกพวกเราหรือขอรับท่านอาคาน่า" พร้อมกับนั่งคำนับพร้อมกันยกเว้นตนนึงที่ยืนเท้าเอวอย่างมั่นใจจนทำให้ตนอื่นๆ หน้าซีดกลัวจะโดนหางเลขไปด้วย
"งั้นเช้าก็แล้วกัน!" อาคาน่าชี้ไปที่ตนที่แปลกที่สุดทำไม่เหมือนคนอื่น "เจ้าชื่ออะไรนะ!" ถามเพื่อความแน่ใจว่าใช่รึเปล่าเพราะจำไม่ได้
"ข้าคืออินคิวบัสเป็นเจ้าชายเพียงหนึ่งเดียวของอินคาทัส เป้าหมายสูงสุดคือการได้เป็นทายาทพระเจ้าตนต่อไปเพื่อความฝันสูงสุด"
...
"นี่พวกเจ้ามาจับตัวข้าทำไมปล่อยนะ!"
"ข้ากลัวเจ้าหนียังไงล่ะ! ต่อไปนี้ข้าจะให้เจ้าไปทำหน้าที่ที่สำคัญมาก"
"ข้าไม่ไป! แล้วทำไมข้าต้องฟังเจ้าด้วยเป็นแค่พระเจ้าที่ดูอ่อนแอแท้ๆ เจ้าเทียบกับท่านพ่อของข้าไม่ติดหรอก" ได้ยินคนหยิ่งผยองพูดแบบนั้นลูกแก้วค้นหาถึงกับร้าวจนบริวารตนอื่นจ้องรีบเข้ามาห้าม
"ท่านอาคาน่าใจเย็นๆ ก่อนนะเจ้าคะ!"
...
"มีแต่ลูกแกะที่น่าสมเพชไม่ได้เรื่องทั้งนั้นมันทำให้ข้าน่าหงุดหงิดจริงๆ"
"สงสัยหน้าที่ของข้าวันนี้คงจะล่มไปแล้ว!" ยักไหล่ "ถ้าหาได้แล้วค่อยติดต่อข้ามาอีกทีก็ยังไม่สายเพราะสำหรับข้าเป้าหมายหลักต้องมาก่อน"
"อินคาทัส! ข้าจะทนไม่ไหวกับบุตรของเจ้าแล้วนะทำอะไรสักอย่างสิ!" แล้วกัดอมยิ้มที่เริ่มหดเล็กลงแล้ว
"ถ้างั้นข้าจะอนุโลมให้ใช้ลูกแกะของข้าก็ได้เพิ่งจะได้มาสดๆ ร้อนๆ" อาคาน่าหยิบลูกแก้วจากมือของอินคาทัสแล้วมองดูในลูกแก้ว
มันเป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่นชอบกับการช่วยตัวเองมากจนไม่ออกไปเจอสังคมจนกระทั่งสถิติใหม่ในการช่วยตัวเองครั้งที่ห้าสิบเด็กหนุ่มก็ช็อคตายอย่างน่าอนาถา
"สมกับเป็นพ่อลูกกันเจ้านี่ช่างรู้ใจบุตรของเจ้าจริงๆ เลยนะอินคาทัส" เจ้าของชื่อไม่ได้พูดอะไรแต่หยิบถุงแพนเค้กออกมาจนอาคาน่าหยิบอย่างไวก่อนที่จะมองขนมอย่างเศร้าๆ "แม้แต่ในสวรรค์ก๋ไม่ยุติธรรม! ทำไมของอร่อยแบบนี้ไม่มีในที่ของข้าบ้าง!"
"บนสวรรค์มีอาหารทิพย์และรวมตนที่ละทางโลภมันต้องไม่มีของสิ่งนี้อยู่แล้ว" อินคาทัสกล่าว
"เอ่อคือ...พวกท่านกลับมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงก่อน! ทำไมข้าต้องไปทำหน้าที่นี้ด้วย" แล้วยกมือข้างที่ยกได้
"ก็ถ้าเจ้าทำสำเร็จเจ้าจะได้ในสิ่งที่ต้องการ"
"งั้นข้าทำเลยขอรับท่านพ่อ!" อาคาน่าได้ยินแบบนั้นก็ดีใจไม่เต็มที่สักเท่าไร
ลูกของปีศาจก็คือปีศาจล่ะนะทำไมอินคาทัสต้องมาให้ข้าสั่งสอนด้วยก็ไม่รู้