เมื่อยันต์ต้องห้ามตื่นขึ้น เลือดเท่านั้นที่จะหยุดมันได้ หรือจะถูกกลืนหายไปตลอดกาล
ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,แฟนตาซี,ระทึกขวัญ,ดราม่า,ไสยศาสตร์,แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,ลึกลับ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ยันต์เลือดเมื่อยันต์ต้องห้ามตื่นขึ้น เลือดเท่านั้นที่จะหยุดมันได้ หรือจะถูกกลืนหายไปตลอดกาล
“ยันต์เลือด” ตำนานต้องห้ามที่เขียนด้วยเลือดมนุษย์ กำลังตื่นขึ้นจากการหลับใหลยาวนาน พร้อมปลุกฝันร้ายสู่โลกมนุษย์อีกครั้ง
ธาม นักสืบผู้มีอดีตฝังใจเกี่ยวกับไสยศาสตร์มืด ถูกดึงตัวกลับเข้าสู่คดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ซึ่งทิ้งสัญลักษณ์ยันต์ลึกลับไว้บนร่างเหยื่อทุกศพ
เมื่อร่องรอยทั้งหมดพาเขาไปพบกับ “ลิน” หญิงสาวเจ้าของร้านขายของเก่า ที่ไม่รู้ตัวว่าตนเองมีสายเลือดต้องคำสาป ธามและลินจึงต้องร่วมมือกันไขปริศนา หาทางหยุดพิธีกรรมสังเวยครั้งใหม่
แต่ยิ่งเข้าใกล้ความจริง พวกเขากลับยิ่งถูกกลืนเข้าไปในเงามืดของคำสาปเลือด ที่ต้องแลกด้วยชีวิต… หรือบางทีอาจต้องแลกด้วย “วิญญาณ”
“ธาม! ตื่นขึ้นมา!”
เสียงของลินดังก้องเหนือสนามรบที่เต็มไปด้วยเศษหินและคราบเลือด ร่างของธามนอนนิ่งอยู่กลางวงเวทย์สีเลือดที่กำลังแตกร้าว บาดแผลจากคมมีดยันต์ของครูสานยังคงลึกและไหลไม่หยุดแต่ทันใดนั้นเอง แสงสีแดงเข้มก็กระพริบวูบหนึ่งในอากาศ
พรึ่บ!
ตาผินเบิกตากว้างทันที “เขา…กำลังมา!”
เศษเสี้ยววินาทีต่อมา
สายเลือดที่ไหลออกจากแผลของธาม กลับหยุดลงเองราวกับถูกพันธนาการ
บาดแผลที่ควรจะฉีกลึก…กลับค่อยๆ ปิดสนิทด้วยเส้นสายยันต์จิ๋วๆ สีแดงที่สานทอกันเหมือนเนื้อเยื่อใหม่
มือของธามกระตุกเล็กน้อย…ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ยันกายลุกขึ้นอย่างช้าๆ
ครูสานที่ยืนห่างออกไปจ้องมองด้วยสายตาแข็งกร้าว
“หึ…ยังรอดอีกงั้นเหรอ?”
ธามเงยหน้าขึ้น
แววตาของเขาเปลี่ยนไป เยือกเย็น หนักแน่น แต่แฝงไปด้วยแสงสว่างของคนที่ได้ผ่านขุมนรกมาแล้ว
“ข้าไม่ใช่คนที่เจ้าทำร้ายได้ง่ายๆ อีกต่อไปแล้ว…ครูสาน”
ทันใดนั้น…
ผัวะ!
พื้นใต้ฝ่าเท้าของธามระเบิดแตกกระจาย เขาพุ่งทะยานเข้าหาครูสานด้วยความเร็วเหนือมนุษย์
มือขวาชักยันต์เลือดออกกลางอากาศ ร่างยันต์โบราณเบ่งบานเป็นรูปมังกรเลือดที่ทะลุพื้นหิน พุ่งเข้าหาศัตรูอย่างดุดัน
“มังกรโลหิต!”
ลินร้องออกมา ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น
ครูสานสบถลั่น พลิกตัวหลบไปทางขวาอย่างเฉียดฉิว
แต่ปลายหางของมังกรโลหิตสะบัดกวาดกลางลานแท่นพิธี
พวกผู้ปลุกคนอื่นๆ ที่ล้อมอยู่โดยรอบกระเด็นกระจัดกระจาย เลือดสาดกระจายไปทั่ว
ธามลงสู่พื้นอย่างนิ่งสงบ
ยันต์บนแขนของเขายังคงเปล่งแสงเรืองรอง นัยน์ตาจับจ้องไปที่ศัตรูเพียงผู้เดียว
“เจ้าคิดว่าแค่มีพลังหน่อยๆ จะชนะข้าได้หรือ?” ครูสานคำราม ก่อนจะกรีดนิ้วกลางอากาศอีกครั้ง รอยแยกโลหิต ผุดขึ้นจากพื้น รูปอสูรหลายตนไหลทะลักออกมากลิ่นคาวเลือดแรงกล้าจนแทบหายใจไม่ออก
“ถ้างั้น…” ธามกระซิบ
“ฉันจะทำให้พวกแก…ไม่เหลือโอกาสแม้แต่จะเรียกปีศาจ!”
พรึ่บ!
ธามประสานมือ
วงยันต์สีแดงสองวงซ้อนทับกันกลางอากาศ
เขาร่ายเวทย์โบราณด้วยเสียงเบาๆ แต่หนักแน่น
พันธสัญญาโลหิต : กรงขังมาร!
เส้นเลือดพลังงานพุ่งพรวดขึ้นจากพื้น ก่อเป็นกรงเหล็กสีเลือดขังพวกอสูรเอาไว้ทั้งกลุ่ม เสียงคำรามดังระงมแต่ไม่อาจหลุดรอดจากพันธนาการได้
ตาผินที่ยืนดูเหตุการณ์จากแนวหลังถึงกับมือสั่น
“เด็กคนนี้…ทำได้แล้ว…ควบคุมยันต์เลือดสมบูรณ์!”
ลินก้าวมาข้างๆ ธาม
แม้เธอจะไม่พูด แต่สายตาของเธอบอกทุกอย่าง เธอเชื่อในตัวเขา
“ลิน” ธามหันมาเอ่ยเบาๆ
“ช่วยถ่วงเวลา…ขอเวลาแค่สามนาที ฉันจะปิดฉากทุกอย่าง”
ลินพยักหน้าทันที
เธอกระชากดาบยันต์ออกจากฝัก ตวัดฟันขวางหน้าเหล่าผู้ปลุกที่เหลืออยู่
“จัดการเลยธาม!” เธอตะโกน
ธามหลับตาอีกครั้งหนึ่ง รวบรวมสมาธิ
เขาค่อยๆ ลากเลือดออกจากฝ่ามือ เขียนอักขระโบราณกลางอากาศอย่างช้าๆ
ยันต์เลือดขั้นสูงสุด : บทสาปกักวิญญาณ!
อักขระสีแดงเรืองรอง ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า
เสียงฟ้าร้องกึกก้องราวโลกจะถล่ม
ครูสานเริ่มรู้ตัวว่าถ้าเขาไม่หยุดธามตอนนี้ ทุกอย่างจะจบสิ้น
เขาพุ่งเข้าหาธามด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ มีดยันต์ในมือกรีดเป็นทางยาวในอากาศ แต่ก่อนที่ใบมีดจะถึงตัว…
พรึ่บ!
โล่เลือดโปร่งใสพุ่งขึ้นจากพื้น ดันร่างของครูสานกระเด็นไปไกลหลายเมตร
“เจ้ามันสายเกินไปแล้ว!” ธามลืมตาขึ้น
เสียงของเขาเหมือนเสียงของคนอีกคนหนึ่ง ทรงพลัง หนักแน่นกว่าที่เคย
พริบตานั้น
ยันต์กักวิญญาณผนึกลงกลางลานพิธี
พื้นแผ่นหินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
เงาดำของครูสานและเหล่าอสูรถูกดูดลงสู่ใต้พิภพพร้อมเสียงกรีดร้องสุดท้าย
บรรยากาศรอบตัวสงบนิ่ง
ลานพิธีที่เคยคลุ้มไปด้วยคำสาปโลหิต…ตอนนี้สะอาดราวกับไม่เคยเกิดศึก
ธามทรุดเข่าลง หอบหายใจหนักๆ
เหงื่อไหลซึมจากขมับ แต่แววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
“จบแล้ว…” เขาพึมพำ
แต่ในห้วงลึกของจิตใจ เขารู้ดี
…นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของสงครามที่ใหญ่กว่าที่เขาคิด