กิตติ ช่างซ่อมรถสุดหล่อ ถูกสาวข้างห้องสุดเรียบร้อยพุ่งเข้าหา เมาพร้อมยั่ว จนเขาต้อง ‘เช็กช่วงล่าง’ ให้ทั้งคืน แต่พอรุ่งเช้า เธอกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แบบนี้มันต้องตรวจเช็กกันยาว ๆ แล้วล่ะ

ช่วงล่างแสนสวาท (อ่านฟรีจนจบ) - ตอนที่ 7 ทั้งเหนื่อย ทั้งหงุดหงิด โดย คลื่นความเสียว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ผู้ใหญ่,NC25++,โรมานซ์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ช่วงล่างแสนสวาท (อ่านฟรีจนจบ)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ผู้ใหญ่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

NC25++,โรมานซ์

รายละเอียด

ช่วงล่างแสนสวาท (อ่านฟรีจนจบ) โดย คลื่นความเสียว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

กิตติ ช่างซ่อมรถสุดหล่อ ถูกสาวข้างห้องสุดเรียบร้อยพุ่งเข้าหา เมาพร้อมยั่ว จนเขาต้อง ‘เช็กช่วงล่าง’ ให้ทั้งคืน แต่พอรุ่งเช้า เธอกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แบบนี้มันต้องตรวจเช็กกันยาว ๆ แล้วล่ะ

ผู้แต่ง

คลื่นความเสียว

เรื่องย่อ

กิตติ ช่างซ่อมรถสุดหล่อที่มักหลงใหลในอู่ซ่อมรถ จนลืมโลกภายนอก แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อสาวข้างห้องที่ดูเรียบร้อยและขี้อายวิ่งตากฝนมา เขาตัดสินใจจอดรถให้เธอติดไปมหาวิทยาลัย พร้อมถอดเสื้อช็อปให้เธอสวมคลายหนาว โดยไม่รู้เลยว่าเขากำลังตกหลุมรักเธอโดยไม่ทันตั้งตัว

จนคืนหนึ่ง เธอมาเคาะประตูห้องในสภาพเมา สายตาเต็มไปด้วยความต้องการ เธอเข้ามาในห้องและยั่วเย้าจนความอดทนของเขาหลุดลอยไป ความสัมพันธ์เร่าร้อนในคืนนั้นทำให้เขาแทบลืมหายใจ

เช้าวันรุ่งขึ้น เธอกลับหายไป ทิ้งไว้เพียงความรู้สึกที่ยากจะบอกเป็นคำพูด เขาไม่อาจลืมเธอได้ และสงสัยว่าสาวข้างห้องที่เขาเคยเห็น คือคนเดียวกับคนเมื่อคืนหรือเปล่า?

ทำให้การพบกันครั้งถัดไปกลายเป็นการ ตรวจช่วงล่างแสนสวาท ทุกครั้งที่เขาเผชิญหน้ากับเธอ ความเร่าร้อนจากคืนนั้นก็จะกลับมาท้าทาย จนห้ามใจตัวเองไว้ไม่ได้

สารบัญ

ช่วงล่างแสนสวาท (อ่านฟรีจนจบ)-ตอนที่ 1 แรกเจอ,ช่วงล่างแสนสวาท (อ่านฟรีจนจบ)- ตอนที่ 2 ห้องข้าง ๆ,ช่วงล่างแสนสวาท (อ่านฟรีจนจบ)-ตอนที่ 3 ให้ความช่วยเหลือ,ช่วงล่างแสนสวาท (อ่านฟรีจนจบ)-ตอนที่ 4 บุกถึงห้อง,ช่วงล่างแสนสวาท (อ่านฟรีจนจบ)-ตอนที่ 5 ปล่อยเลยตามเลย,ช่วงล่างแสนสวาท (อ่านฟรีจนจบ)-ตอนที่ 6 จัดให้จบ,ช่วงล่างแสนสวาท (อ่านฟรีจนจบ)-ตอนที่ 7 ทั้งเหนื่อย ทั้งหงุดหงิด,ช่วงล่างแสนสวาท (อ่านฟรีจนจบ)-ตอนที่ 8 จ่ายค่ายืม,ช่วงล่างแสนสวาท (อ่านฟรีจนจบ)-ตอนที่ 9 เช็กช่วงล่าง,ช่วงล่างแสนสวาท (อ่านฟรีจนจบ)-ตอนที่ 10 เหตุบังเอิญ,ช่วงล่างแสนสวาท (อ่านฟรีจนจบ)-ตอนที่ 11 รับการช่วยเหลืออีกครั้ง,ช่วงล่างแสนสวาท (อ่านฟรีจนจบ)-ตอนที่ 12 มีสิทธิ์ไหม?,ช่วงล่างแสนสวาท (อ่านฟรีจนจบ)-ตอนที่ 13 ใครอีกคน,ช่วงล่างแสนสวาท (อ่านฟรีจนจบ)-ตอนที่ 14 ตรวจช่วงล่างพร้อมกัน,ช่วงล่างแสนสวาท (อ่านฟรีจนจบ)-ตอนที่ 15 สามคน

เนื้อหา

ตอนที่ 7 ทั้งเหนื่อย ทั้งหงุดหงิด

จากนั้นก็พลิกตัวเปลี่ยนมาอยู่ข้างบน โดยที่ท่อนเอ็นยังคงเสียบคาไว้ในร่องรักฉ่ำน้ำ ราวกับจะเป็นฝ่ายรุกแทน และก่อนที่เธอจะได้ตั้งตัว ก็ก้มลงมาประทับริมฝีปากหนัก ๆ

“อื้อ...” เสียงหวานครางแผ่ว เมื่อปลายลิ้นร้อนซอกซอนเข้ามา ฝ่ามือหนาลูบไล้ไปตามส่วนเว้าโค้ง ของเรือนร่างอย่างแนบเนียน

“อ้า ๆ...คืนนี้ ดามีความสุขมากเลยค่ะ”

ท่อนเอ็นกระแทกอย่างรุนแรงจนกลีบเนื้อนุ่มปลิ้นยุบยวบตามแรง เขากระแทกอย่างบ้าคลั่ง กระหน่ำไม่ยั้ง น้ำเงี่ยนไหลเยิ้มเปรอะทางเข้าร่องรักจนเปียกชุ่ม เกิดเสียงดังเฉอะแฉะระคนกับเสียงพวงเนื้อฟาดร่องแก้มก้นดัง ตับ ๆ ตับ ๆ ตับ ๆ

ราตรีกาลดำเนินไปอย่างเชื่องช้า ภายในห้องมีเพียงเสียงลมหายใจที่สั่นสะท้านสลับกับเสียงครางหวานที่ดังขึ้นเป็นระยะ ๆ เรือนร่างสองร่างเกี่ยวกระหวัดกันราวกับไม่มีใครยอมปล่อยให้คืนนี้จบลงง่าย ๆ กว่าทุกอย่างจะเงียบลงก็เป็นเวลาเกือบสว่าง

 

แสงแดดยามเช้าสาดส่องลอดผ่านผ้าม่านบางเบา ทาบลงบนแผ่นหลังเปลือยเปล่า เขาพลิกกายอย่างเกียจคร้าน คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อยก่อนจะลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า ดวงตาสีนิลยังคงฉายแววง่วงงุน

มือใหญ่เอื้อมไปข้างกาย หวังจะควานหาร่างนุ่มนิ่มที่เมื่อคืนแนบชิดกันไม่ห่าง ทว่ากลับพบเพียงความว่างเปล่า... เตียงเย็นเฉียบ ไร้ไออุ่นของคนที่มอบความสุขให้เขาตลอดทั้งคืน

ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วยันกายขึ้นนั่ง เส้นผมยุ่งเหยิง ดวงตายังคงฉายแววสับสนปนขุ่นเคืองเล็ก ๆ

“หนีไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน...” เขาพึมพำเสียงพร่า พลางปรายตามองรอบห้องที่ยังคงหลงเหลือกลิ่นหอมจาง ๆ

“ไหนว่าจะคลานกลับไม่ไหวไง?”

กิตติถอนหายใจแรง ก่อนสะบัดผ้าห่มออกจากร่างกายเปลือยเปล่า เขายืดเส้นยืดสายเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง แม้จะยังรู้สึกเมื่อยล้าเพราะค่ำคืนอันเร่าร้อน

สองเท้าก้าวเข้าไปในห้องน้ำ เปิดฝักบัวให้น้ำเย็นไหลรินลงมากระทบผิวกาย ละอองน้ำไหลผ่านกรอบหน้าเข้ม ปลุกสติให้ตื่นเต็มที่ ฝ่ามือลูบหยดน้ำออกจากเส้นผม หัวคิ้วขมวดน้อย ๆ เพราะคิดไม่ถึงว่าเธอจะหายไป

 

ไม่นานนัก เขาก็ออกมาพร้อมกับเรือนร่างที่ห่อหุ้มด้วยผ้าขนหนูสีเข้ม ก่อนจะเดินไปยังตู้เสื้อผ้า คว้าเสื้อยืดสีเทามาสวมทับกล้ามอกแน่น ปกปิดร่องรอยจาง ๆ ที่ใครบางคนฝากไว้เมื่อคืน

จากนั้นก็หยิบเสื้อช็อปมาสวมทับ ก่อนจะคว้าโทรศัพท์และกุญแจรถ แล้วเปิดประตูออกไปทำงานต่อ แต่ทว่าในหัวกลับยังมีแต่ภาพของผู้หญิงข้างห้อง

สองเท้าก้าวเดินออกไป ก็ชะงักเล็กน้อย พลางหันไปมองทางห้องข้าง ๆ ที่อยู่ติดกันเพียงไม่กี่ก้าว ราวกับหวังจะเห็นบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ถอนหายใจสั้น ๆ พลางสะบัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัว เดินไปกดลิฟต์เพื่อลงไปชั้นล่าง ระหว่างรอ นิ้วเรียวเสยผมยุ่งเหยิงลวก ๆ ความเหนื่อยล้ายังเกาะติดร่างจากค่ำคืนที่แทบไม่ได้นอน ทำให้เช้านี้เขาตื่นสายกว่าปกติ

ติ๊ง! ประตูลิฟต์เปิดออก ก็รีบก้าวเข้าไป ทอดสายตามองเงาตัวเองที่สะท้อนในผนังของลิฟต์ เสื้อยืดตัวเก่ากับกางเกงยีนสีซีดบ่งบอกถึงชีวิตเรียบง่าย

เมื่อมาถึงด้านล่าง ก็เดินตรงไปยังรถกระบะสี่ประตูคู่ใจ กดปลด ล็อกแล้วเปิดประตูขึ้นไปนั่ง รีบสตาร์ตรถ มือแกร่งกำพวงมาลัยแน่น ก่อนจะเหยียบคันเร่ง ขับออกจากลานจอดรถของคอนโด

รถเมล์คันหนึ่งกำลังขับมาจอดอยู่ตรงป้ายฝั่งหน้าอาคารพอดี รถคันอื่น ๆ ก็แน่นขนัดจนเขาไม่สามารถเบี่ยงออกไปได้ ทำได้เพียงรออย่างหงุดหงิด ระหว่างที่กำลังถอนหายใจ ก็เหลือบไปเห็นร่างบางในชุดนักศึกษา กำลังก้าวขึ้นรถเมล์โดยไม่แม้แต่จะมองรอบข้าง เส้นผมยาวของเธอปลิวไหวตามแรงลมก่อนที่ร่างจะหายเข้าไปในตัวรถ

ภาพเมื่อคืนก็ยิ่งแจ่มชัดราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ สัมผัสร้อนแรง ลมหายใจหอบกระเส่า และเสียงครางแผ่วที่ยังคงก้องอยู่ในหัว ราวกับจะตอกย้ำว่าอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา

กิตติเม้มริมฝีปากแน่น พยายามข่มอารมณ์ที่กำลังแล่นพล่านอยู่ในกาย มือที่กำพวงมาลัยเกร็งขึ้นโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะถอนหายใจออกมาแรง ๆ แล้วกระชากเกียร์ ขับรถมุ่งหน้าไปยังโชว์รูมรถ

มือของเขาแทบไม่ได้หยุดนิ่ง ตลอดทั้งวันเต็มไปด้วยเสียงเครื่องมือกระทบกัน เสียงเครื่องยนต์ และเสียงพูดคุยของลูกค้า รถที่เข้ามาตรวจสภาพและซ่อมแซมมีมากกว่าปกติ ทำให้แทบไม่มีเวลาหายใจ

เขาก้มหน้าก้มตาทำงาน จนกระทั่งฟ้าก็มืดสนิท เมื่อเงยหน้าขึ้นจากงานก็เห็นว่าเข็มนาฬิกาขยับเข้าใกล้เที่ยงคืน ร่างกายเมื่อยล้าจากการทำงานหนักมาทั้งวัน จากนั้นก็ล้างมือครู่หนึ่งก่อนจะหยิบกุญแจรถ ขับกลับคอนโดไปด้วยสภาพอิดโรย

ขณะที่เขาจอดรถติดไฟแดง ดวงตาคมเข้มก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวที่คุ้นเคยก้าวเข้าไปในผับหรูท่ามกลางฝูงชน เรือนร่างอรชรในชุดเดรสเข้ารูปขับเน้นทรวดทรงชวนมอง เส้นผมสลวยทิ้งตัวอยู่บนลาดไหล่ ความงามของเธอโดดเด่นจนเป็นที่สะดุดตา ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน เขาจำได้ทันที ว่าเป็นสาวข้างห้องของเขาเอง

“ถึงว่าครั้งก่อนเมาหนัก ที่แท้ก็แอบมาเที่ยวแบบนี้ประจำสินะ”

เสี้ยววินาทีที่เห็น เธอก็หายลับเข้าไปด้านใน ทิ้งให้เขาจ้องตามด้วยสายตาเคร่งขรึม ใบหน้าตึงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ไฟแดงเปลี่ยนเป็นเขียว แต่เขากลับไม่ได้ออกรถทันที

เสียงแตรรถจากคันหลังดังลั่น ปลุกให้เขาหลุดจากภวังค์ ดวงตาคมกริบละจากทางเข้าผับก่อนจะกัดฟันขับรถออกไปอย่างหงุดหงิด มือแกร่งกระชับพวงมาลัยแน่นขึ้น ขณะที่เท้าเหยียบคันเร่งมุ่งตรงกลับคอนโด

วันต่อมา เหตุการณ์ก็ไม่ต่างจากเดิมมากนัก โชว์รูมยังคงแน่นไปด้วยรถที่เข้ามาตรวจเช็กและซ่อมแซม ลูกค้าต่อคิวรอไม่ขาดสาย ความเหนื่อยล้าสะสมขึ้นเรื่อย ๆ

เขาพยายามเคลียร์งานให้เสร็จภายในวันนี้ เพราะหลังจากเช็กตารางงานอีกครั้ง ก็พบว่าคิวงานพรุ่งนี้ไม่แน่นนัก รถที่ต้องเข้าซ่อมส่วนใหญ่เป็นงานเล็ก ๆ ที่ลูกน้องของเขาสามารถจัดการได้ จึงยื่นเรื่องขอลาพักร้อนสองวัน

ตลอดทั้งวันของการลาพักร้อน เขาใช้เวลานอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ ปล่อยให้ร่างกายได้ซึมซับความสบายที่หาได้ยาก หลังจากโหมงานหนักมาตลอดหลายวัน

จนกระทั่งช่วงบ่าย ๆ แสงแดดนอกหน้าต่างเริ่มอ่อนลง ชายหนุ่มเอนตัวอยู่บนโซฟา ในมือถือกระป๋องเบียร์เย็นเฉียบ พลางยกมันขึ้นจิบอย่างช้า ๆ ดวงตายังคงปรือเพราะความง่วงที่สะสม

นัยน์ตาคมเข้มกวาดตามองไปรอบ ๆ ห้อง พลันสายตาสะดุดเข้ากับสมุดเล่มหนึ่งอยู่บนชั้นวางของที่ติดอยู่กับผนังโดยไม่รู้ตัว พลางขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนที่ความคิดหนึ่งจะแล่นขึ้นมา ภาพของสาวข้างห้องที่ขยับโยกเรือนร่างบนตัวของเขาในคืนก่อน ยังแจ่มชัดในความทรงจำ

มือหนาวางกระป๋องเบียร์ลงบนโต๊ะ ก่อนจะลุกขึ้นหยิบสมุด สองเท้าก้าวเดินไปที่ประตูด้วยท่าทางเอื่อย ๆ ก่อนจะเปิดประตูออกไป แล้วเดินหยุดหน้าประตูห้องของเธอ ก่อนจะเคาะเบา ๆ ไม่กี่วินาทีถัดมา ประตูก็เปิดออก เผยให้เห็นเจ้าของห้องที่ยืนอยู่ด้านใน

ร่างบางในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นเรียบง่าย แต่กลับทำให้เขาต้องกะพริบตาเพื่อเรียกสติ ก่อนจะยื่นสมุดออกไปข้างหน้า

“วันก่อนลืมสมุดไว้ที่รถน่ะ”