กิตติ ช่างซ่อมรถสุดหล่อ ถูกสาวข้างห้องสุดเรียบร้อยพุ่งเข้าหา เมาพร้อมยั่ว จนเขาต้อง ‘เช็กช่วงล่าง’ ให้ทั้งคืน แต่พอรุ่งเช้า เธอกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แบบนี้มันต้องตรวจเช็กกันยาว ๆ แล้วล่ะ
ผู้ใหญ่,NC25++,โรมานซ์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ช่วงล่างแสนสวาท (อ่านฟรีจนจบ)กิตติ ช่างซ่อมรถสุดหล่อ ถูกสาวข้างห้องสุดเรียบร้อยพุ่งเข้าหา เมาพร้อมยั่ว จนเขาต้อง ‘เช็กช่วงล่าง’ ให้ทั้งคืน แต่พอรุ่งเช้า เธอกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แบบนี้มันต้องตรวจเช็กกันยาว ๆ แล้วล่ะ
กิตติ ช่างซ่อมรถสุดหล่อที่มักหลงใหลในอู่ซ่อมรถ จนลืมโลกภายนอก แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อสาวข้างห้องที่ดูเรียบร้อยและขี้อายวิ่งตากฝนมา เขาตัดสินใจจอดรถให้เธอติดไปมหาวิทยาลัย พร้อมถอดเสื้อช็อปให้เธอสวมคลายหนาว โดยไม่รู้เลยว่าเขากำลังตกหลุมรักเธอโดยไม่ทันตั้งตัว
จนคืนหนึ่ง เธอมาเคาะประตูห้องในสภาพเมา สายตาเต็มไปด้วยความต้องการ เธอเข้ามาในห้องและยั่วเย้าจนความอดทนของเขาหลุดลอยไป ความสัมพันธ์เร่าร้อนในคืนนั้นทำให้เขาแทบลืมหายใจ
เช้าวันรุ่งขึ้น เธอกลับหายไป ทิ้งไว้เพียงความรู้สึกที่ยากจะบอกเป็นคำพูด เขาไม่อาจลืมเธอได้ และสงสัยว่าสาวข้างห้องที่เขาเคยเห็น คือคนเดียวกับคนเมื่อคืนหรือเปล่า?
ทำให้การพบกันครั้งถัดไปกลายเป็นการ ตรวจช่วงล่างแสนสวาท ทุกครั้งที่เขาเผชิญหน้ากับเธอ ความเร่าร้อนจากคืนนั้นก็จะกลับมาท้าทาย จนห้ามใจตัวเองไว้ไม่ได้
เสียงลากของหนักดัง ‘ครืด... ครืด...’ ตามมาหลังจากเสียงของตกเมื่อครู่ และยังมีเสียงกระแทกเป็นระยะราวกับมีใครกำลังเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์หรือของหนักบางอย่าง ดึกขนาดนี้ใครมันจะมาจัดห้องกันวะ?
เขาพยายามเพิกเฉย แต่เสียงยังดังเป็นระยะตลอดทั้งคืน ทำให้รู้สึกหงุดหงิดจนทนไม่ไหว นี่มันไม่ปกติแล้ว ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดแอปไลน์ แล้วพิมพ์แจ้งไปที่กลุ่มนิติบุคคลของคอนโด
‘ห้อง 909 มีเสียงดังลากของหนักตลอดคืน รบกวนช่วยตรวจสอบให้หน่อยครับ’
ส่งข้อความไปได้ไม่นาน ก็มีการอ่าน แต่ไม่มีใครตอบกลับ เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ หวังว่านิติจะไม่เมินนะ จากนั้นเขาพยายามปิดเสียงรบกวนและข่มตานอนต่อ
กิตตินอนพลิกไปมาทั้งคืน แต่ก็ไม่อาจข่มตาหลับลงได้ เสียงแปลก ๆ ที่ดังต่อเนื่องทำให้จิตใจไม่สงบ แม้ว่าจะใช้หมอนปิดหูหรือพยายามไม่สนใจ มันก็ยังคงก้องอยู่ในหัว
เมื่อเช้าเริ่มมาเยือน ก็จัดการอาบน้ำแต่งตัวเตรียมออกไปทำงาน เพราะวันนี้มีคิวต้องดูแลลูกค้าแต่เช้า จึงต้องรีบออกจากห้อง แต่ทันทีที่เปิดประตูออกมา ประตูห้องข้าง ๆ ก็เปิดออกมาในจังหวะเดียวกันพอดี
เขาชะงักเล็กน้อย ดวงตาคมกริบเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่อยู่หลังบานประตู เธอคือนักศึกษาสาวที่เดินชนเขาเมื่อคืน นัยน์ตาเข้มมองอย่างพิจารณา คราวนี้เขาเห็นชัดกว่าเมื่อคืน เธอเป็นผู้หญิงหน้าตาดี ผิวขาว ผมยาวดำขลับ มีท่าทางเรียบร้อย แต่แววตาดูเหมือนคนอดนอน
“เมื่อคืนห้องคุณเสียงดังมาก”
น้ำเสียงเคร่งขรึมเอ่ยขึ้นไม่ดังมากนัก แต่ก็ทำให้อีกฝ่ายหน้าถอดสีทันที เพราะไม่ใช่แค่เสียงของตก แต่เสียงลากของหนัก และเสียงกระแทกที่ดังแทบทั้งคืน เขาจำเป็นต้องถามให้แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น
นักศึกษาสาวเงยหน้ามองเขาชั่วขณะ ก่อนที่ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อจะเม้มเข้าหากัน คล้ายกับไม่อยากตอบอะไร แต่สุดท้ายเธอก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ขอโทษค่ะ...เมื่อคืนฉันอาจจะเสียงดังไปหน่อย” เธอหลบตา และรีบเดินไปทันที
สองเท้าก้าวตามเธอไปเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไร จนกระทั่งถึงหน้าลิฟต์ โดยที่นักศึกษาสาวกดปุ่มเรียกลิฟต์ และไม่นานนัก ประตูก็เลื่อนเปิดออก
ทั้งสองก้าวเข้าไปพร้อมกัน เมื่อประตูปิดลง พร้อมกับความเงียบที่ปกคลุม ต่างฝ่ายต่างก็รับรู้ถึงความอึดอัดที่แผ่ซ่านอยู่รอบตัว กิตติเหลือบมองเธออีกครั้ง เขาสังเกตเห็นรอยคล้ำใต้ดวงตาของเธอชัดขึ้น ดูเหมือนเธอจะไม่ได้นอนเต็มอิ่มเหมือนกัน
“พึ่งย้ายเข้ามาเหรอ?” เสียงทุ้มถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะว่าห้องข้าง ๆ ว่างมานานแล้ว
นักศึกษาสาวเงยหน้าขึ้นมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไรเพิ่มเติม ประตูลิฟต์ก็เปิดออก เธอรีบก้าวออกไปทันที ราวกับต้องการหลบหนีจากบทสนทนา
เขามองตามแผ่นหลังของเธออย่างไม่สบอารมณ์ เพราะนอกจากจะนอนไม่เต็มอิ่มแล้ว ยังต้องมาเจอคนต้นเหตุที่ทำให้ใต้ตาคล้ำ แต่กลับไม่มีท่าทีที่ทำให้รู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด
จากนั้นก็สาวเท้าเดินไปยังลานจอดรถ ซึ่งอยู่บริเวณด้านข้างของคอนโด เมื่อเดินไปถึงรถก็รีบเปิดประตูแล้วก้าวขึ้นไปนั่ง เอนศีรษะพิงไปกับพนักพิง ถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้งอย่างเหนื่อยหน่ายกับเช้าวันนี้
จู่ ๆ เม็ดฝนก็โปรยลงมาจากท้องฟ้า เขาเหลือบมองขึ้นไปผ่านกระจกหน้า ก่อนจะพ่นลมหายใจออกเบา ๆ แล้วเอื้อมมือไปเปิดที่ปัดน้ำฝน จากนั้นก็สตาร์ทรถและค่อย ๆ ขับออกจากลานจอดรถ ท้องฟ้ามืดครึ้มขึ้นเรื่อย ๆ และเสียงฝนก็เริ่มดังขึ้นตามแรงลมที่พัดผ่าน
เมื่อขับมาใกล้ทางเข้าออกของคอนโด สายตาเขาก็สะดุดเข้ากับร่างของนักศึกษาสาวที่กำลังรีบวิ่งฝ่าสายฝน เม็ดฝนที่ลงหนักขึ้นทำให้เสื้อเชิ้ตสีขาวของเธอเปียกแนบลำตัว จนเผยให้เห็นเสื้อชั้นในด้านในราง ๆ ทำให้เผลอขมวดคิ้ว ก่อนจะชะลอรถ แล้วลดกระจกลง
“จะขึ้นมาด้วยกันไหม?”
เขาตะโกนถามแข่งกับเสียงฝนที่ตกกระทบพื้น เพราะรู้ดีว่าจากคอนโดไปถึงป้ายรถเมล์ยังต้องเดินอีกเกือบห้าสิบเมตร แถมบริเวณนั้นไม่มีแม้แต่กันสาดหรือที่กำบังฝนเลย ถ้าเธอยังวิ่งฝ่าฝนไปแบบนี้ คงเปียกโชกทั้งตัวแน่นอน
ร่างบางยืนลังเลอยู่กับที่ ดวงตากลมโตเหลือบมองเขาผ่านสายฝนที่โปรยลงมาไม่ขาดสาย แต่ยิ่งเธอยืนนิ่ง ชุดนักศึกษาก็ยิ่งเปียกแนบลำตัว เผยให้เห็นเรือนร่างบอบบางชัดขึ้นตามแรงฝน