อาคมพิศวงหาได้ใช่อาคมทั่วไปไม่ อาคมนี้ไม่ใช่-

อาคมพิศวง - ตอนที่ 6 ทรมาน(เนื้อหา 18+) โดย มนตราแห่งไออุ่น @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

พารานอมอล,ระทึกขวัญ,รั้วโรงเรียน,ไทย,เลือดสาด,สืบสวนสอบสวน,สยองขวัญ,ผี,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

อาคมพิศวง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

พารานอมอล,ระทึกขวัญ,รั้วโรงเรียน,ไทย,เลือดสาด

แท็คที่เกี่ยวข้อง

สืบสวนสอบสวน,สยองขวัญ,ผี,ดราม่า

รายละเอียด

อาคมพิศวง โดย มนตราแห่งไออุ่น @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อาคมพิศวงหาได้ใช่อาคมทั่วไปไม่ อาคมนี้ไม่ใช่-

ผู้แต่ง

มนตราแห่งไออุ่น

เรื่องย่อ

ในราตรีนี้มีเพียงแค่เธอกับเขาที่ชะตาขาด


ในวันที่ฝนตกของวันนั้นเอง

เธอ://แววตาลุกลี้ลุกลนขณะที่กำลังนั่งอยู่ตรงริมถนน//เห้ยภานพ!?

เขา://หันหน้ามาทางเธอขณะที่กำลังยืนอยู่บนตรงริมถนน//ทรีชาเธอหนีไปเดี๋ยวนี้เลย!!!!

หญิงปริศนา://กำลังเดินมาหาพวกเขาด้วยสายตาที่อาฆาตแค้น//พวกมึงจะหนีไปไหน!?

เขา/เธอ://ได้หันหน้าไปหาหญิงปริศนา//!?

ชายปริศนา://รีบวิ่งตรงมาหาเขาและเธอ//หยุดเดี๋ยวนี้นะนิดา!?

หญิงปริศนา://หันตัวไปหาชายปริศนาด้วยด้วยสายตาที่เกลียดชังชายปริศนาคนนั้น//แล้วมึงมาเสือกทำเหี้ยอะไรไอ้ศักดิ์!!!!!















เนื้อเรื่องจะดำเนินเนื้อเรื่องโดยกลุ่มตัวเอกทั้งหมด 4 คน ได้แก่ ทรีชา ภานพ ศักดิ์ และมีนา พวกเขาทั้งสี่คนได้รวมตัวกันเพื่อที่จะต้องเอาตัวรอดจากเหล่าศัตรูหรือกลุ่มคนที่จ้องที่จะฆ่าหรือใช้พวกเขาด้วยไสยศาสตร์ได้ทุกเมื่อ โดยแม้จะเป็นสถานที่ที่เรียกว่า "โรงเรียน" ก็อาจจะไม่ปลอดภัยสำหรับพวกเขาอีกต่อไป...เหตุผลที่เป็นแบบนั้นเพราะว่าพวกเขาทั้งหมดต่างมีพลังที่เกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์บางอย่างทำให้เหล่าผู้ใช้อาคมมากมายรวมถึงเหล่าผีสางนางไม้ก็อยากที่จะได้ตัวหรือพลังของพวกเขาเอามาไว้ครอบครองมาเป็นของตัวเองเพื่อเพิ่มพลังอำนาจต่างๆ ให้เหนือกว่าทุกสรรพสิ่งอื่นใด พวกเขาทั้งสี่คนจะสามารถผ่านเรื่องราวพวกนี้ไปได้หรือไม่ โปรดติดตามได้ในนิยายเรื่อง "อาคมพิศวง" .....





















*****ภายในตัวเนื้อเรื่องเป็นเพียงแค่การจินตนาการขึ้นของผู้เขียนแต่เพียงเท่านั้น ไม่ได้แต่งขึ้นมาแล้วมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงแต่อย่างใดหรือไม่ได้อ้างอิงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงแต่เพียงอย่างใด

และทางผู้เขียนขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ไม่อนุญาตให้มีการคัดลอก ดัดแปลง หรือทำซ้ำ นอกจากจะได้รับอนุญาตจากทางผู้เขียนแล้ว 

สุดท้ายนี้หากมีการใช้ถ้อยคำที่ผิดพลาดประการใดก็ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ขอบคุณครับ/ค่ะ*****



ผู้เขียน: มนตราแห่งไออุ่น

นามปากกา: มนตราสากสี

ผู้วาด: Mirai Saka'ink

(ติดต่องานวาดได้ที่ FB: Mirai Saka'ink)

สามารถอ่านได้อีกหลากหลายแอปพลิเคชัน เช่น

- ReadAWrite

- plotteller

- นิยาย Dek-D

- Fictionlog

- ธัญวลัย

และยังมีแอปพลิเคชันอีกมากมายที่อาจจะไม่ได้กล่าวถึงใน ณ ที่นี้อีกด้วย

สารบัญ

อาคมพิศวง-ตอนที่ 1 ตื่นสายนะเธอ,อาคมพิศวง-ตอนที่ 2 ปริศนาลับ,อาคมพิศวง-ตอนที่ 3 คราถึงฆาต,อาคมพิศวง-ตอนที่ 4 การปลุกชีพ,อาคมพิศวง-ตอนที่ 5 ลองวิชา,อาคมพิศวง-ตอนที่ 6 ทรมาน(เนื้อหา 18+),อาคมพิศวง-ตอนที่ 7 สัมผัสบางอย่าง

เนื้อหา

ตอนที่ 6 ทรมาน(เนื้อหา 18+)

คำเตือนเนื้อหาภายในตอนต่อไปนี้ได้เต็มไปด้วยเนื้อหาจำพวก 18+ เช่น ความรุนแรง, การฆ่าตัวตาย, การล่วงละเมิด, การใช้ยาเสพติด และเนื้อหาสยองขวัญแบบชวนอ้วกพอสมควร ฯลฯ ซึ่งอาจส่งกระทบต่อความรู้สึกหรือทำให้เกิดความไม่สบายใจแก่ผู้อ่าน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ขอบคุณครับ/ค่ะ













ณ ที่วัดร้างกลางป่าแห่งหนึ่ง(ในกุฏิร้างที่สร้างมาให้สำหรับพระสงฆ์)



ตายไปแล้ว 2 คน คือ ต้อม และก้อง

เหลืออีก 8 คน ก็คือ ชัย ตัง บาว สาค ดัณ กร ชร และนาพ



กลิ่นอับชื้นและกลิ่นคาวเลือดตลบอบอวลไปทั่วห้องมืด เสียงลมหายใจสั่นเครือดังสลับกับเสียงฝีเท้าของนิคที่ดังไปมา



นิคได้เริ่มเดินตรงไปที่เก้าอี้ของชัยด้วยที่สภาพเนื้อตัวของเธอตอนนี้ที่เต็มไปด้วยเลือดทั่วร่างกาย ชัยหวาดกลัวเป็นอย่างมากจนถึงกับเผลอฉี่ราดและขี้แตกออกมาภายในเวลาเดียวกัน 

ชัย: (อย่าทำ...ผม...ผมไม่ได้ตั้งใจ...ผมขอโทษ...)

นิค: เด็กเหี้ยอย่างพวกมึงมีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อด้วยเหรอ อยู่ไปก็รกโลกว่ะ!



เขาได้แต่ขอภาวนาหวังว่าเรื่องราวพวกนี้จะเป็นเพียงแค่ฝันร้ายของเขาแค่นั้น แต่มันน่าเสียดายนะที่เรื่องราวทั้งหมดที่กำลังขึ้นอยู่ในตอนนี้เป็นเรื่องจริงทั้งหมด 



พอนิคเดินไปถึงที่เก้าอี้ของชัย เธอก็ยืนหยุดอยู่ตรงหน้าของเขา ซึ่งเธอก็ได้เริ่มงอกกรงเล็บมือข้างขวาออกมา ใช้นิ้วโป้งแทงเข้าไปที่ดวงตาข้างขวาของชัยจนสุดนิ้ว ก่อนที่นิคจะได้กระชากดึงออกมาอย่างรวดเร็วจนหัวของชัยได้ขาดออกมาเหมือนถอนผลไม้จากต้นไม้ โดยนิคไม่รอช้าเธอก็เริ่มค่อยๆ กัดกินหัวของชัยที่ขาดออกมาอย่างช้าๆ อย่างใจเย็นเหมือนกับว่าเธอกำลังกินลูกแอปเปิ้ลขนาดใหญ่ยังไงอย่างงั้น จนเธอกินมันจนหมดไปในที่สุด

ตัง: (พะ-พี่...ได้โปรด...-)



จากนั้นนิคก็เดินไปหาเก้าอี้ของตังต่อ เธอใช้มือทั้งสองข้างค่อยๆ บีบหัวกะโหลกศีรษะของตังอย่างช้าๆ จนมันเละแหลกเหลวคามือของเธอแบบไม่มีชิ้นดีในที่สุด แล้วนิคก็เริ่มค่อยๆ ดึงอวัยวะภายในต่างๆ ของตังออกมาเคี้ยวกิน พร้อมเสียงเลียริมฝีปากเบาๆ อย่างกับว่าเธอกำลังกินซอยจุ๊อย่างเอร็ดอร่อยที่สุดในชีวิตของเธอเลย



พอกินเสร็จจนหมดแล้ว นิคก็ได้เดินไปที่เก้าอี้ของบาว เธอได้ใช้กรงเล็บนิ้วชี้ข้างขวาของเธอกรีดด้ายที่เย็บปากของเขาอย่างเชื่องช้ามาก เลือดไหลซิบตามรอยแผล พอกรีดเสร็จเรียบร้อยนิคก็ได้ใช้มือทั้งสองข้างของเธอง้างปากของบาวเอาไว้ แล้วเธอก็อ้วกออกมาเป็นเลือดที่ผสมพวกเปลือกไข่ เศษหิน เศษไม้ เศษดิน เศษทรายและเส้นผมเป็นจำนวนมากใส่ปากของบาวจนเขาสำลักอ้วกของนิคและยอมสิ้นใจตายไปในที่สุด



นิคเอามือข้างซ้ายขึ้นมาเช็ดปากของเธอ ที่ตอนนี้มันเลอะไปด้วยเลือดของเธออยู่ เช็ดจนมันสะอาดพอสำหรับเธอ ซึ่งถึงแม้ว่าจะยังเปื้อนเยอะอยู่ก็เถอะ นิคเริ่มเดินไปที่เก้าอี้ของสาคต่อด้วยความเบื่อหน่าย เธอจ้องมองไปที่หน้าของสาค สักพักจู่ๆ ความทรงจำที่แสนจะแย่และโหดร้ายของสาคก็เริ่มผุดขึ้นมาในหัวสมองของเขาเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดหย่อน



ไม่ว่าจะทั้งเรื่องที่เขาโดนพ่อทำร้ายร่างกาย โดนแม่ทำร้ายจิตใจ โดนเพื่อนรุมแกล้งและทำร้ายสมัยเด็ก แอบขโมยตังค์ผู้สูงอายุ แอบขโมยของในร้านค้า ยกแก๊งไล่ท้าต่อยตีกับผู้คนไปเรื่อย แข่งขี่มรถอเตอร์ไซค์แต่งเสียงตอนกลางคืเสียงดัง มีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า ทำร้ายร่างกายผู้ชายที่อ่อนแอกว่าป้องกันตัวเองไม่ได้ เรื่องพวกนี้มันได้ผุดขึ้นมาในความคิดของสาคไม่หยุด จนสาคทนไม่ไหวสิ้นใจตายไปในที่สุด แล้วเลือดมันก็เริ่มไหลออกมาจากดวงตา รูหูและรูจมูกของเขา มันไหลออกมาอย่างกับสายน้ำขนาดย่อมเลยล่ะ



ส่วนดัณ กร ชร และนาพ เนื่องจากว่านิคเธอเริ่มที่จะเบื่อกับการทรมานหรือว่าเล่นกับพวกแก๊งเด็กแว้นที่เหลือพวกนี้แล้ว เธอเลยกำมือข้างขวาของเธอจนแน่นแบบแน่นมาก และแล้วจู่ๆ ทั้งดัณ กร ชร และนาพก็เริ่มนึกถึงความทรงจำที่แสนจะโหดร้ายและแย่มากสำหรับในชีวิตของพวกเขาแบบมากที่สุด



ก่อนที่ร่างกายทุกส่วนของพวกเขาจะเริ่มบวมพอง...แล้วในพริบตาเดียวเท่านั้นเอง ร่างของพวกเขาทั้ง 4 คน ก็ได้ตัวระเบิดตูมแตกออกเป็นชิ้นๆ แบบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณนั้น อย่างโหดเหี้ยมสุดสยดสยอง และในที่สุดพวกแก๊งเด็กแว้นของก้องก็ได้ตายไปจนหมดในที่สุด...











































ณ เวลา 2.51 น.

ที่บ้านของโมด้า(ในห้องนอนของโมด้า)

โมด้าที่ตอนนี้เธอได้ใส่ชุดนอนและเตรียมตัวที่จะเข้านอนแล้ว แต่ก็มัวนอนคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่จนข้ามวันข้ามคืน ลืมเวลาลืมวันลืมคืนกันเลยทีเดียว

โมด้า://กำลังโทรคุยโทรศัพท์กับใครบางคน//เอ่ออีแก่กูรู้แล้ว ถ้าแผนสำเร็จเดี๋ยวกูจ่ายน้ามึงให้เลยแบบไม่อั้น

เสียงปลายสาย: โอ๊ย! ไม่เป็นไรค่ะเนาะ! คนกันเองค่ะสาว ไม่ต้องจงต้องจ่ายให้น้ากูหรอกจ้าเพื่อนเอ๋ย

โมด้า: กูอยากจะรู้จริงๆ เลยว่าใครวะที่ช่วยออกมาจากความตายของน้ามึง

เสียงปลายสาย: หมอผีชั้นต่ำอะกูว่า...

//เสียงคนเคาะประตูห้องนอนของโมด้า//

โมด้า://ชะงักเมื่อได้ยินเสียงคนเคาะประตูห้องนอน//เอ่อแป๊บนะมึง แม่น่าจะเรียกว่ะ...สงสัยจะเช็คกูมั้งว่าหลับรึยัง...?

โมด้า://ลุกขึ้นเปิดประตูห้องนอน//เอ้า!? ก็ไม่เห็นจะมีใครเคาะหนิ!?

//คนที่โมด้าคุยได้วางสายโทรศัพท์ไปละ//

โมด้า://ดูที่โทรศัพท์//อ่าว...วางสายละ?

โมด้า://เห็นเงาสะท้อนในหน้าโทรศัพท์เป็นหน้าของฟินธ์//ฟินธ์เหรอ? ห๊ะ!?



ทันใดนั้นเอง ก็มีมือปริศนาได้โผล่ออกมาจากหน้าจอ คว้าตัวโมด้าลากเข้าไปในโทรศัพท์ เครื่องโทรศัพท์ตกกระแทกพื้นจนหน้าจอแตก พร้อมกับเสียงหน้าจอแตกดังลั่น แต่แล้วก็กลับได้มีเสียงในโทรศัพท์ดังขึ้นว่า

"ฮัลโหลมึง...มึงยังอยู่ปะเนี่ยอีโมด้า!?"













มิติกระจก

โมด้าเธอได้ตื่นขึ้นแล้วเช็คสภาพของตัวเองพร้อมกับมองไปรอบบริเวณที่เธออยู่ เธอเริ่มงงสับสนไปหมด ในตอนนี้เธอคิดว่าเธอกำลังนอนฝันร้ายอยู่รึเปล่า เพราะดูจากสถานที่แล้วไม่น่าจะฝันดีได้นะ แล้วเธอก็เห็นว่าเธอมีแผลที่ดูเหมือนว่าจะโดนกระจกไม่ก็แก้วบาดอยู่เต็มไปหมดทั่วร่างกาย ซึ่งเธอก็เจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูกเป็นอย่างมาก

โมด้า://หลับตาพนมมือแล้วเริ่มร่ายคาถา//โอม มันขา มันจู เมจา อับดรู มูปราอุ มาหาปุโรหิตรา ราคุมาดานาพายัพเถคาระ(โอม บาดแผลบนตัวของข้าจงหายดีเป็นปกติเถิด)

โมด้า://จากนั้นพอร่ายคาถาเสร็จ บาดแผลที่มันมีอยู่บนตามร่างกายของเธอก็ได้หายดีจนเป็นปกติ//

โมด้า: เป็นไปได้ยังไงนะ? อุตส่าห์สักยันต์หนังเหนียวมามีบาดแผลได้ยังไงกัน?//ทำหน้าสงสัยและมึนงงกับสถานการณ์ในตอนนี้//



ส่วนบริเวณโดยรอบมันมืดมากพื้นเหมือนเป็นกระจกสะท้อนเงาของตัวเธอเองและเงาของสถานที่ รอบตัวของเธอตัวของเธอมีแต่เศษกระจกกับเศษแก้ว มองไปทางไหนก็มีแต่ความมืดที่มองอะไรไม่เห็น จนมันทำให้โมด้าเริ่มที่จะกลัวเป็นอย่างมาก 



โมด้าเริ่มจะพยายามตั้งสติค่อยๆ ลุกขึ้นยืน พอลุกขึ้นยืนได้แล้วเธอก็สังเกตุเห็นว่ารอบตัวของเธอเต็มไปด้วยพวกแก้วและพวกกระจกแบบชนิดต่างๆ มากมายจนนับไม่ถ้วนอย่างน่าประหลาด ไม่ว่าจะวางที่บนพื้น หรือกำลังลอยอยู่กลางอากาศ เธอคิดไปคิดมาว่า "(กูมาอยู่ที่ไหนวะเนี่ย!?)"



โมด้าเธอไม่กล้าเดินไปทางไหนเลย เพราะว่าเธอกลัวพวกเศษแก้วเศษกระจกพวกนั้นมันจะบาดเธอเอา แต่พอลองหยิบเศษแก้วชิ้นหนึ่งเอามากรีดข้อมือข้างซ้ายของเธอ โมด้าก็เห็นว่ามันบาดไม่เข้า ก็เลยคิดว่าหนังของเธอยังเหนียวฟันแทงไม่เข้าอยู่ จึงตัดสินใจที่จะเดินเหยียบเศษแก้วเศษกระจกพวกนั้น ซึ่งมันก็ไม่ได้เจ็บปวดและมีบาดแผลเลยแม้แต่น้อย เธอเดินไปเดินมาจนเจอกับใครบางคน



ซึ่งคนนั้นก็คือ "ฟินธ์" แต่คนที่สิงร่างของฟินธ์กลับยังเป็นนิคอยู่เหมือนเดิม เธอโผล่มาโดยที่ยังสวมใส่ชุดนักเรียนอยู่ แต่ก็น่าแปลกเอามากๆ ที่ชุดนักเรียนที่นิคสวมใส่อยู่นั้นกลับสะอาดเอี่ยมอ่องอรทัยเกินไป ไม่มีสิ่งสกปรกหรือคราบปนเปื้อนใดๆ ที่ติดอยู่ที่เสื้อนักเรียนของนิคเลยแม้แต่น้อย ราวอย่างกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตะกี้นี้นั้นมันไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลยยังไงอย่างงั้นแหละ



ส่วนโมด้าที่เห็นฟินธ์ก็ประหลาดใจเป็นอย่างมาก เธอเริ่มสงสัย มึนงง สับสน วุ่นวายและเริ่มวิตกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ตอนนี้เธอยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าแก๊งเด็กแว้นพวกนั้นได้ตายลงด้วยฝีมือของนิคไปกันจนหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และซึ่งแน่นอนว่าเธอจะต้องมีชะตากรรมเดียวกับพวกแก๊งเด็กแว้นพวกนั้นเป็นอย่างแน่นอน

โมด้า://พนมมือแล้วเริ่มร่ายคาถา//โอม มาโดเสวัง มังคาเถนัง มาถุเสนัง มันราคาเวนัง(โอม จงทำให้ได้เห็นแสงสว่างในที่มืดมนด้วยเถิด)

โมด้า://จากนั้นพอร่ายคาถาเสร็จ เธอก็เริ่มมองเห็นในที่มืดชัดเจนยิ่งขึ้นและก็ได้เห็นตัวของนิคชัดเจนขึ้นมากด้วยเช่นกัน//

โมด้า: มึงมาที่นี่ได้ไงอีฟินธ์ และมึงรู้มั้ยที่นี่ที่ไหน(ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ที่นี่ที่ไหน อีฟินธ์มันตายรึยัง หรือกูกำลังฝันอยู่กันแน่!?)

นิค: ก็ไม่รู้เหมือนกันนะโมด้า//แสยะยิ้มออกมาพร้อมกับมองด้วยแววตาสุดโรคจิต//

โมด้า: เล่นเหี้ยอะไรของมึงเนี่ย?

โมด้า: เอ้!? หรือว่ามึงจะโดนไอ้พวกแก๊งเด็กเปรตพวกนั้นระยำจนตายละมาเข้าฝันกูนะ...?

โมด้า: ต้องใช่แน่เลย...!?//ยิ้มดูถูกนิคกลับและมองนิคด้วยแววตาที่เยาะเย้ยหยัน//



ทันใดนั้นเองจู่ๆ ก็มีผีมากมายล่องลอยโผล่ออกมาจากบริเวณไหนก็ไม่รู้โจมตีใส่โมด้านับสิบยี่สิบตัว พวกมันทุกตัวมีลักษณะที่ไม่ค่อยเหมือนกันสักเท่าไหร่ บางตัวก็บิดเบี้ยว บางตัวก็ไม่สมประกอบ บางตัวก็แทบจะไม่เหมือนมนุษย์เข้าไปใหญ่ บางตัวเหมือนสัตว์ป่ามากกว่าคนอีกเสียด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่เหมือนกันแน่นอนเลยคือ ผิวหนังที่มีลักษณะคล้ายๆ พวกแก้วหรือกระจกผสมปนเปกันไปจนดูไม่ออกไปเรื่อยๆ โดยมันเป็นผิวที่เป็นกระจกที่สะท้อนแสงวูบวาบแสบตาแบบสุดๆ



โมด้าตกใจและหวาดผวากับลักษณะรูปร่างของพวกมันเป็นอย่างมากจนเกือบช็อกหมดสติคาที่ แต่ดีที่เจ้าตัวก็ยังพอที่จะประคองตัวพยุงสติของตัวเองได้ดีอยู่ เมื่อโมด้าเห็นว่าพวกมันกำลังจะลอยพุ่งเข้ามาโจมตีเธอ เธอเลยเตรียมตั้งรับป้องกันตัวเอง 



พวกมันรุมโจมตีใส่โมด้าด้วยการใช้เล็บยาวๆ ของพวกมันข่วนไปที่ผิวหนังของโมด้า แต่กลับไม่เป็นผลเลยแม้แต่น้อยเพราะโมด้าได้สักยันต์หนังเหนียวเอาไว้ ทำให้แทบจะไม่มีสิ่งไหนสร้างบาดแผลให้เธอได้เลย แต่มันก็ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่ตาย นิคเลยจ้องมองไปที่พวกผีแก้วผีกระจกพวกนั้นด้วยแววตาที่เริ่มจะโกรธเกรี้ยวมากขึ้นเรื่อยๆ

โมด้า://พนมมือแล้วเริ่มร่ายคาถา//โอม ยามาจะเจอ ยูบามาเร กัลดามาคาภาเล บันอาโยมาจารู มิตรามาคนตาเว(โอม ผีสางนางไม้ทั้งหลายจงถอยให้ห่างจากตัวของข้าไปซะ!)



ทันใดนั้นเหล่าผีแก้วผีกระจกพวกมันก็เริ่มรู้สึกปวดแสบปวดร้อนขึ้นมา เหมือนกับว่าพวกมันกำลังโดนไฟเผาร่างกายของพวกมัน พวกมันเลยรีบลอยถอยออกห่างจากตัวของโมด้าภายในทันที แต่ทว่าแล้วจู่ๆ พวกผีแก้วผีกระจกพวกนั้นที่กำลังจะถอยหนี พวกมันก็ได้เปลี่ยนท่าทีจากที่กำลังจะถอยหนี รีบลอยพุ่งเข้ามารวบดึงตัวโมด้าแล้วกดเธอให้ลงไปนอนคว่ำกับพื้นแทนภายในทันที



ถึงแม้ว่าพวกมันจะปวดแสบปวดร้อนร่างกายจนทุกข์ทรมานมากแค่ไหน แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตามคำสั่งของนายเหนือหัวของมันก็คือสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะว่ามันคือสิ่งที่ชี้ชะตาของพวกมันยังไงล่ะ โมด้าที่ไม่ทันจะได้พักตั้งตัวต่อก็โดนพวกมันกดลงจนนอนคว่ำติดแนบชิดไปกับพื้น แม้ว่าโมด้าพยายามที่จะต้านแรงของพวกมันแต่ก็ต้านไม่ไหว แต่เธอก็ไม่ยอมที่จะนอนคว่ำราบติดไปกับพื้นแบบง่ายๆ นิคที่เห็นดังนั้นเลยเริ่มที่จะค่อยๆ เดินย่างก้าวเข้าไปหาโมด้าอย่างช้าๆ



โมด้าที่เห็นดังนั้นจึงเตรียมตัวที่จะร่ายคาถาต่อสู้กับทั้งพวกผีแก้วผีกระจกและนิค แต่กลับเป็นว่าไม่รู้ทำไมตัวของโมด้าเอง กลับได้ลืมคาถาทั้งหมดที่เธอได้เรียนรู้มาอย่างอดทนกัดฟันมายากลำบากยังไงอย่างงั้น เธองงตัวเองมากว่าทำไมจู่ๆ กลับได้ลืมคาถาพวกนั้นไปเลยแบบดื้อๆ เสียอย่างงั้น นึกเท่าไหร่มันก็นึกไม่ออกเลยแม้แต่น้อยนิด

นิค: นึกคาถาไม่ออกใช่มั้ยละ? ก็แหงล่ะสิฉันใช้พลังของฉันทำให้คาถาของแกเสื่อมไป จนแกลืมคาถาพวกนั้นไปจนหมดแบบง่ายดายเลยยังไงล่ะ//ยิ้มออกมาอย่างสะใจใส่โมด้า//

โมด้า://หันหน้าไปหาฟินธ์//ห๊ะ!? พูดบ้าอะไรของมึงเนี่ย!? ปล่อยกูออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ อีฟินธ์อีคนโรคจิต!? อีคนจิตใจหมาใจเหี้ย!

นิค: แล้วสิ่งที่มึงกับเพื่อนของมึงทำกับกู มันไม่เหี้ยกว่าสิ่งที่กูกำลังทำอยู่หรือยังไงวะ?

นิค: แต่นี่ๆ รู้มั้ยว่าฉันก็อยากที่จะปล่อยเธอจังเลยนะ แบบเวลาเห็นหมามันจนตรอกแล้วมันสนุกดีว่ามั้ยละ? แต่มันก็กลับน่าเสียดายนะที่แกไม่ได้ดิ้นรนสู้ขนาดนั้นน่ะ น่าเบื่อว่ะ!

โมด้า://เริ่มร้องไห้ออกมาราวกับเด็กขี้แย//ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะฟินธ์ ฉันขอโทษฉันจะไม่ยุ่งกับเธออีกต่อไปแล้วต่อจากนี้...

นิค: ช่วยไม่ได้มึงเสร่อมาฆ่ากูก่อน ตอนนี้ถึงตาที่กูฆ่ามึงบ้างดูสิมึงจะฟื้นขึ้นมาเหมือนกับกูได้มั้ย ซึ่งแน่นอนว่าได้...แต่ในฐานะของทาสนะ!



นิคเดินเข้าไปหาโมด้า ที่ตอนนี้กำลังร้องไห้จนขี้มูกโป่งหยดติ๋งลงพื้นอย่างไม่หยุดหย่อน นิคได้ก้มลงไปเพื่อที่เธอจะได้ใกล้กับตัวของโมด้ามากยิ่งขึ้น เธอเอื้อมมือซ้ายไปคว้าจับที่หัวของโมด้า ก่อนจะดึงกระชากขึ้นจนขาดออกมาภายในพริบตา เธอดึงหัวของโมด้าขาดออกมาอย่างง่ายดายราวกับว่าเธอกำลังฉีกกระดาษเล่นแผ่นหนึ่งที่บางเอามากๆ เสียงกระดูกสันหลังหลุดออกมาพร้อมเสียงเนื้อฉีกขาดดังสนั่น หัวของโมด้าหลุดออกมาทั้งหัว พร้อมอวัยวะภายในบางส่วนที่ยังห้อยติดอยู่

นิค: หนังเหนียวมันไม่ใช่ว่ามันจะไม่ขาด!

นิค://เดินจากร่างของโมด้า//กินศพมันได้!



พอได้ยินคำสั่งของเจ้านาย พวกมันก็ได้รุมแทะกินศพของโมด้าอย่างเอร็ดอร่อยราวกับอดอยากหิวโหยมาเป็นเวลานานพอสมควร นิคเธอเดินอย่างไร้จุดหมายไปเรื่อยๆ ในมิติของเธอ พร้อมพลางพูดไปเรื่อย

นิค: สวัสดีทาสตัวใหม่และยินดีต้อนรับเข้าสู่มิติกระจกของฉัน ที่นี่ฉันเป็นคนสร้างมันมาด้วยพลังของฉันเอง ดีนะมันไม่หายไปตอนพลังของฉันหายไปด้วย ไม่อย่างนั้นฉันก็คงจะเศร้าใจสุดหม่นหมองไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน...

นิค: ภารกิจยังไม่จบสินะ ยังเหลืออีกตั้งสามภารกิจใหญ่ที่เราจะต้องจัดการให้มันเสร็จเสีย พอทำสำเร็จฉันจะได้กลับมาทรงพลังอำนาจและผงาดกลับขึ้นมาอีกครั้งสักที



ภารกิจที่ 1 - ไล่ตามหาเบาะแสของศิลาแดงแห่งอาถรรพ์ เพื่อเอามันมาไว้ใช้ทำประโยชน์ต่างๆ



ภารกิจที่ 2 - ครอบครองหนังสือพระเวทอาคมเพื่อฝึกฝนทักษะความสามารถทางด้านเวทมนตรา



ภารกิจที่ 3 - ดูดขโมยพลังของศัตรูที่สูงส่งและทรงพลังอำนาจเท่ากับหรือมากกว่าเรา(ข้า)



นิค: ไอ้กลวัชรา แกมันก็แค่เศษสวะ พวกที่อยู่ที่ต่ำสุดของสวรรค์ ฉันจะตามล่าหาแก และพอเจอก็จะฆ่าแกทิ้งเสีย ฉันจะฆ่าแกทิ้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกว่าแกจะตายไปจริงๆ เสียที แลไม่ว่าแกจะอยู่ที่ไหนฉันจะตามหาแกอย่างไม่หยุดจนกว่าตัวของข้านี้จะสูญสลายไป ยังไงแค้นนี้ฉันต้องได้ชำระ.....