พารานอมอล,ระทึกขวัญ,รั้วโรงเรียน,ไทย,เลือดสาด,สืบสวนสอบสวน,สยองขวัญ,ผี,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
อาคมพิศวงหาได้ใช่อาคมทั่วไปไม่ อาคมนี้ไม่ใช่-
ผู้แต่ง
มนตราแห่งไออุ่น
เรื่องย่อ
ในราตรีนี้มีเพียงแค่เธอกับเขาที่ชะตาขาด
ในวันที่ฝนตกของวันนั้นเอง
เธอ://แววตาลุกลี้ลุกลนขณะที่กำลังนั่งอยู่ตรงริมถนน//เห้ยภานพ!?
เขา://หันหน้ามาทางเธอขณะที่กำลังยืนอยู่บนตรงริมถนน//ทรีชาเธอหนีไปเดี๋ยวนี้เลย!!!!
หญิงปริศนา://กำลังเดินมาหาพวกเขาด้วยสายตาที่อาฆาตแค้น//พวกมึงจะหนีไปไหน!?
เขา/เธอ://ได้หันหน้าไปหาหญิงปริศนา//!?
ชายปริศนา://รีบวิ่งตรงมาหาเขาและเธอ//หยุดเดี๋ยวนี้นะนิดา!?
หญิงปริศนา://หันตัวไปหาชายปริศนาด้วยด้วยสายตาที่เกลียดชังชายปริศนาคนนั้น//แล้วมึงมาเสือกทำเหี้ยอะไรไอ้ศักดิ์!!!!!
เนื้อเรื่องจะดำเนินเนื้อเรื่องโดยกลุ่มตัวเอกทั้งหมด 4 คน ได้แก่ ทรีชา ภานพ ศักดิ์ และมีนา พวกเขาทั้งสี่คนได้รวมตัวกันเพื่อที่จะต้องเอาตัวรอดจากเหล่าศัตรูหรือกลุ่มคนที่จ้องที่จะฆ่าหรือใช้พวกเขาด้วยไสยศาสตร์ได้ทุกเมื่อ โดยแม้จะเป็นสถานที่ที่เรียกว่า "โรงเรียน" ก็อาจจะไม่ปลอดภัยสำหรับพวกเขาอีกต่อไป...เหตุผลที่เป็นแบบนั้นเพราะว่าพวกเขาทั้งหมดต่างมีพลังที่เกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์บางอย่างทำให้เหล่าผู้ใช้อาคมมากมายรวมถึงเหล่าผีสางนางไม้ก็อยากที่จะได้ตัวหรือพลังของพวกเขาเอามาไว้ครอบครองมาเป็นของตัวเองเพื่อเพิ่มพลังอำนาจต่างๆ ให้เหนือกว่าทุกสรรพสิ่งอื่นใด พวกเขาทั้งสี่คนจะสามารถผ่านเรื่องราวพวกนี้ไปได้หรือไม่ โปรดติดตามได้ในนิยายเรื่อง "อาคมพิศวง" .....
*****ภายในตัวเนื้อเรื่องเป็นเพียงแค่การจินตนาการขึ้นของผู้เขียนแต่เพียงเท่านั้น ไม่ได้แต่งขึ้นมาแล้วมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงแต่อย่างใดหรือไม่ได้อ้างอิงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงแต่เพียงอย่างใด
และทางผู้เขียนขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ไม่อนุญาตให้มีการคัดลอก ดัดแปลง หรือทำซ้ำ นอกจากจะได้รับอนุญาตจากทางผู้เขียนแล้ว
สุดท้ายนี้หากมีการใช้ถ้อยคำที่ผิดพลาดประการใดก็ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ขอบคุณครับ/ค่ะ*****
ผู้เขียน: มนตราแห่งไออุ่น
นามปากกา: มนตราสากสี
ผู้วาด: Mirai Saka'ink
(ติดต่องานวาดได้ที่ FB: Mirai Saka'ink)
สามารถอ่านได้อีกหลากหลายแอปพลิเคชัน เช่น
- ReadAWrite
- plotteller
- นิยาย Dek-D
- Fictionlog
- ธัญวลัย
และยังมีแอปพลิเคชันอีกมากมายที่อาจจะไม่ได้กล่าวถึงใน ณ ที่นี้อีกด้วย
คำเตือนเนื้อหาภายในตอนต่อไปนี้ได้เต็มไปด้วยเนื้อหาจำพวก 18+ เช่น ความรุนแรง, การฆ่าตัวตาย, การล่วงละเมิด, การใช้ยาเสพติด และเนื้อหาสยองขวัญแบบชวนอ้วกพอสมควร ฯลฯ ซึ่งอาจส่งกระทบต่อความรู้สึกหรือทำให้เกิดความไม่สบายใจแก่ผู้อ่าน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ขอบคุณครับ/ค่ะ
ความหมายสัญลักษณ์ต่อไปนี้ ()=คิดในใจ, //=การกระทำ, +=ทำตาม, []=พูดไม่ออก, {}=กระซิบ
ณ บ้านร้างใจกลางป่าหลังหนึ่ง
ในเวลายามค่ำคืนเสียงลมหวีดหวิว กลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง และความมืดที่ดูเหมือนจะกลืนกินทุกสิ่ง ได้มีคนที่กำลังทำพิธีกรรมประหลาดอยู่ข้างในบ้านร้างหลังนั้น ข้างในนั้นเต็มไปด้วยของทำพิธีกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งสายสิญจน์ ผ้ายันต์ ตุ๊กตาอาคม ธูปเทียนบูชา มีดหมอศาสตราวุธ หม้อดิน ยันไปถึงศพของเหล่าหมอผีที่ได้ตายไปอย่างลึกลับปริศนา
บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยโครงกระดูกซากศพของสัตว์และคน ตับ ไต ไส้ เครื่องใน เศษซากอวัยวะทั้งภายนอกภายในมี แบบที่แห้งกรอบ แบบดำดิบ และแบบสดใหม่แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ล้วนเหม็นเน่าทุกแบบ ซึ่งได้มีจำนวนนับไม่ถ้วนได้เกลื่อนกลาดกระจัดกระจายอยู่ตามเต็มทั่วพื้น บรรยากาศเต็มไปด้วยความมืดสุดสยดสยองและกลิ่นคาวเหม็นที่พร้อมจะชวนขย้อนอาหารที่พึ่งกินเข้าไปหรือกินนานแล้วคละคลุ้งไปทั่วทั้งข้างในบ้านจนไปถึงข้างนอกบริเวณรอบบ้าน
ณ ตรงใจกลางของบ้านร้างได้มีลานพิธีกรรมลึกลับบางอย่างที่ประกอบไปด้วย แท่นโต๊ะบูชา สายสิญจน์ที่พันล้อมรอบโต๊ะ รอบวงเวทอาคมที่ถูกเขียนด้วยเลือด หรือพันรอบตัวของผู้ทำพิธีเอง
ซึ่งผู้ทำพิธีเป็นผู้หญิงปริศนาคนหนึ่งที่กำลังมีความคลุ้มคลั่งและความอาฆาตแค้นที่ไม่มีความหยุดหย่อน เธอสวมใส่ชุดนักเรียน อายุประมาณวัยรุ่นมัธยมปลาย ส่วนสูงอยู่ที่ประมาณ 166 ซม. รูปร่างผอมเพรียว ดูบอบบาง ผิวขาวซีดเล็กน้อย บริเวณบนบางส่วนของร่างกายมีบาดแผลรอยขีดข่วนตามทั่วตัวอยู่เล็กน้อย ใบหน้ารูปไข่ มีดวงตาที่กลมโต นัยน์ตาสีดำสนิทที่ดูเยือกเย็นและแฝงไปด้วยความอาฆาตสุดแค้น ผมยาวตรงสีดำสนิท ปลายผมมักดูยุ่งเหยิงเล็กน้อย ริมฝีปากแดงฉานราวกับพึ่งดูดเลือดคนมา
ตัวของเธอกำลังนั่งคุกเข่าราบอยู่ตรงกลางของลานพิธีในมือข้างซ้ายถือรูปนักเรียนหญิงมัธยมปลายคนหนึ่งขนาดเท่ากับขวดน้ำ 5 บาทในร้านค้าทั่วไป ส่วนมือข้างขวาถือตะปูอาคมปลุกเสกขนาดใหญ่เท่ากับมือของเธอหรือใหญ่กว่าเสียด้วยซ้ำ
เธอกำลังค่อยๆ ร่ายรำไปมาแบบพิลึกขณะที่กำลังนั่งร่ายคาถาอาคมอยู่ เสียงของเธอไม่แตกต่างจากเสียงกระซิบของความตาย เสียงที่แตกพร่าแต่กลับดังก้องอยู่ในหัวของผู้ที่ได้ยิน
หญิงปริศนา://นั่งร่ายคาถาดวงตาทั้งสองข้างมองขึ้นไปที่แท่นโต๊ะบูชา//
អូម សូមចុះជីវិត (โอม โซม จอฮ์ ชีวต — โอม จงดับชีวา)//พูดด้วยความเร็วที่ผิดปกติกว่ามนุษย์ทั่วไป น้ำเสียงที่อ่อนหล้ามากและพูดซ้ำถึง 10 รอบ//
អូម សូមបាត់បង់នឹងស្លាប់ (โอม โซม บัต บอง เนิง สลับ — โอม จงม้วยมรณา)//พูดด้วยความเร็วที่ผิดปกติกว่ามนุษย์ทั่วไป น้ำเสียงอ่อนหล้ามากและพูดซ้ำถึง 10 รอบเช่นกัน//
អូម សូមបាត់បង់អាយុ (โอม โซม บัต บอง อายุ — โอม จงสูญสิ้นอายุขัย)//พูดด้วยความเร็วที่ผิดปกติกว่ามนุษย์ทั่วไป น้ำเสียงที่อ่อนหล้ามากและพูดซ้ำถึง 10 รอบอีกครั้ง//
អូម សូមស្លាប់ទៅវិញ (โอม โซม สลับ เติว วิญ — โอม จงตายไปซะ!!!)//ครั้งนี้พูดแบบปกติตามมนุษย์ทั่วไปแต่เน้นน้ำเสียงให้เสียงดังชัดถ้อยชัดคำขึ้นกว่าเดิมและพูดแค่รอบเดียว//
จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เอามือข้างที่ถือตะปูแทงเข้าไปที่กลางรูปที่เธอถืออีกข้างเข้าอย่างแรงจนรูปขาดเป็นรู แล้วรูปนั้นมันก็ได้สลายกลายเป็นเถ้าถ่านไปในที่สุด พวกผงเถ้าถ่านค่อยๆ ร่วงหล่นจากมือของเธอ ราวกับจิตวิญญาณที่ถูกฉีกทิ้งอย่างไร้ความปรานี และผู้หญิงคนนั้นก็ได้เอาตะปูอาคมปลุกเสกที่เธอถืออยู่เอายัดเข้าไปในปากแล้วกลืนลงไปในแบบที่มนุษย์ทั่วไปไม่น่าจะทำได้
ทันใดนั้นเอง ไม่นานหลังจากนั้นอากาศโดยรอบก็เย็นลงอย่างฉับพลัน ราวกับความตายกำลังเข้ามาใกล้ และแล้วก็ได้มีการปรากฏของกลุ่มเมฆสสารสีดำปริศนาที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาวประมาณ 2 เมตรกว่าโผล่ขึ้นมาที่บริเวณด้านหลังของผู้หญิงปริศนาคนนั้น
เธอหันหน้าไปหาและทำท่าทางร่ายรำขอบคุณและสรรเสริญแบบวิปริตผิดมนุษย์มนา ต่อมาก็ได้ก้มหน้าลงจนเส้นผมยาวยุ่งเหยิงปิดบังใบหน้า เสียงหัวเราะของเธอดังก้องสะท้อนราวกับเสียงของผู้ถูกทรมานอย่างโหดร้ายทารุณ
ผู้หญิงปริศนา://ทำหน้าสงสัยไร้ชีวิตชีวา//สำเร็จแล้วใช่มั้ยคะท่าน???
ผู้หญิงปริศนา://ผงกหัวอย่างรวดเร็ว//ขอบพระคุณในน้ำใจของท่านมากค่ะ...
ก่อนที่เธอจะหัวเราะแบบบ้าคลั่ง เสียงหัวเราะของเธอดังสะท้อนราวกับเสียงแห่งความวิปลาสที่ไม่มีวันสงบ ดวงตาที่เย็นชานั้นบัดนี้ทอประกายอันบ้าคลั่ง เลือดสีแดงสดค่อยๆ ไหลซึมออกจากริมฝีปากที่แสยะยิ้มอย่างบิดเบี้ยว ราวกับว่าสิ่งที่เธอเพิ่งทำไปนั้นคือความสำเร็จอันหอมหวานที่สุดในชีวิต จนเลือดก็ค่อยไหลและพุ่งออกจากปากอย่างเลอะเทอะเปรอะเปื้อนเต็มไปทั่วเลือนร่าง เสื้อผ้าของเธอ และบริเวณโดยรอบที่เธอยืนอยู่
แล้วจากนั้นไอ้เจ้ากลุ่มเมฆสสารสีดำปริศนานั่นมันก็ได้ลอยสลายหายไปในอากาศ...เหลือไว้แต่เพียงกลิ่นเหม็นคาวเน่าและบรรยากาศอันหนาวเหน็บสุดเยือกเย็น.....
ในเช้าวันต่อมา
ณ บ้านของใครบางคน
เสียงนาฬิกาปลุกดังลั่นจนแทบจะทำให้โต๊ะหัวเตียงสั่นไปด้วย "ทรีชา" เด็กสาวมัธยมปลาย เธอได้เอื้อมมือไปกดปิดเสียงทั้งที่ตายังปิดสนิท ขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มหนานุ่มอย่างดื้อดึงไม่ยอมตื่นง่ายๆ
แต่เมื่อเสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือได้ดังขึ้นแทนที่ พร้อมข้อความจาก "นิมา" 1 ในเพื่อนร่วมห้องที่ส่งมาว่า
//เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์//"ตื่นยัง? วันนี้มีสอบคาบแรกนะยะ!"
ทรีชา: เฮ้ย! ลืมไปเลย!//รีบกระเด้งตัวขึ้นนั่งทันทีพร้อมกับความงุนงงเล็กน้อย ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้ายับยู่ยี่เพราะนอนตะแคงมาตลอดทั้งคืน//
ทรีชา: กี่โมงแล้ววะเนี่ย...//หันไปมองนาฬิกาแล้วต้องอ้าปากค้าง//
ทรีชา: อีดอกเจ็ดโมงสี่สิบ... เหลืออีกแค่ยี่สิบนาที!
ไม่รอช้า ทรีชาคว้าเสื้อนักเรียนที่แขวนอยู่หลังประตูมาสวมอย่างลวกๆ ผูกโบว์แบบเร็วๆ โดยไม่ได้สนใจว่ามันจะเอียงหรือเบี้ยวขนาดไหน หยิบกระเป๋าแล้ววิ่งออกจากห้องพักทันที
เสียงฝีเท้าตึงตังของเธอดังไปทั่วบันไดหอพัก ขณะที่เธอพยายามวิ่งลงมาชั้นล่างอย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงถนนหน้าโรงเรียนที่อยู่ไม่ไกลนัก ทรีชาต้องเบียดเสียดกับกลุ่มนักเรียนคนอื่นๆ ที่กำลังทยอยเดินเข้าโรงเรียนอย่างเรื่อยๆ
ทรีชา: ขอโทษค่ะ! ขอทางหน่อย!//พยายามแทรกตัวผ่านคนอื่นไปอย่างทุลักทุเล//
ในที่สุดเธอก็มาถึงประตูโรงเรียนจนได้ เหลือเวลาอีกแค่ห้านาทีเพียงเท่านั้น เธอพุ่งตรงไปที่อาคารเรียนก่อนจะมาถึงหน้าห้องสอบในสภาพหอบจนแทบจะเป็นลม
ทรีชา: ทันไหมนะ?...//พึมพำเบา ๆ พลางก้มมองโทรศัพท์ที่บอกเวลา "เจ็ดโมงห้าสิบห้า"//
เสียงนิมาดังขึ้นจากด้านหลังของทรีชา
นิมา: ทรีชา! โอ๊ย! นึกว่าหล่อนจะไม่รอดแล้ว ดูสิผมหล่อนยุ่งเป็นรังนกเลย!
ทรีชา://หัวเราะแห้งๆ พลางจัดเสื้อผ้าและผมของตัวเองอย่างลวกๆ//ยังดีที่ทันใช่มั้ยล่ะ...
นิมา://ส่ายหัวพร้อมยิ้มออกมา//ก็จริง แต่รอบหน้าช่วยตั้งนาฬิกาปลุกให้ดังสักสิบรอบเถอะน่า! จะได้ตื่นตามคนอื่นเขาซะบ้าง นอนกินบ้านกินเรือนไปอยู่ได้เนาะ
ทรีชา://พยักหน้าอย่างเสียไม่ได้ แต่ในใจรู้ดีว่ายังไงพรุ่งนี้ก็คงจะเป็นแบบนี้อีก//
เสียงออดดังขึ้นพอดีเมื่อทรีชาและนิมาเดินเข้าไปในห้องเรียน หัวใจของทรีชาค่อยๆ กลับมาเต้นเป็นจังหวะปกติ แม้จะรู้สึกโล่งใจที่มาทัน แต่ความเหนื่อยจากการวิ่งก็ทำให้เธอต้องทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง
นิมา: ฮึบๆ หายใจเข้าลึกๆ สิ เดี๋ยวก็เป็นลมกันพอดี//พูดพร้อมกับยื่นขวดน้ำให้ทรีชารับไปพร้อมรอยยิ้มแห้งๆ//
ทรีชา: ไปซื้อตอนไหนวะ แต่ก็ขอบใจมากนิมา ฉันนี่แย่จริงๆ เลยเนอะ... ตื่นสายตลอด
นิมา: จร้าไม่ใช่แค่ตลอด แต่เป็นทุกวัน!//กลอกตา//แล้วก็ทำหน้าแบบนี้ตลอดด้วย
ทรีชา://หัวเราะเบาๆ เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ก่อนจะหันไปตั้งสติเมื่อต้องเริ่มการสอบ//
ครูพิมพ์: ทรีชา นิมาได้ที่นั่งกันแล้วใช่ไหม?
เจ้าของเสียงคือ คุณครูสาวชื่อ "ครูพิมพ์" เธออยู่ในชุดกระโปรงสีเทาอ่อน ผู้ซึ่งมีใบหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา เอ่ยถามพร้อมมองสำรวจนักเรียนทุกคนในห้อง
นิมา://ตอบอย่างสุภาพ//เรียบร้อยค่ะ ครูพิมพ์
ทรีชา://พยักหน้าเล็กน้อย แม้จะยังหายใจไม่เต็มอิ่มก็ตาม//
ครูพิมพ์://พยักหน้ารับแล้วจึงเริ่มแจกกระดาษข้อสอบให้กับทุกคน//
ครูพิมพ์: ตั้งใจทำให้เต็มที่นะคะ ใช้เวลาทั้งหมดสองชั่วโมงให้คุ้มค่า ทุกข้อสอบมีต้นทุนของมันนะคะ เมื่อได้ข้อสอบแล้วให้เริ่มได้เลย
เสียงพลิกกระดาษดังกรอบแกรบเมื่อทุกคนเริ่มตั้งหน้าตั้งตาทำข้อสอบ ทรีชาก้มหน้าก้มตาจับปากกา เขียนคำตอบลงไปอย่างเร่งรีบ พยายามรวบรวมสมาธิให้ได้มากที่สุด
ระหว่างที่เขียนไปเรื่อยๆ จู่ๆ ก็มีดินสอหล่นมาจากด้านหลังมาชนกับเท้าของเธอเบาๆ ทรีชาหยิบมันขึ้นมาอย่างลังเลก่อนจะหันไปมอง
สายตาของเธอประสานกับ คิณ หนุ่มหน้าตาดีที่นั่งอยู่แถวหลัง คิณยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะกระซิบเบาๆ
คิณ: {ขอบใจนะ เร็วจริงเลยนะเธอ วิ่งมานั่นน่ะ}
ทรีชา://หน้าแดงเล็กน้อย//{อ๋อ... ขอบใจนะ}//พยายามตอบกลับเบาๆ ก่อนจะหันกลับไปตั้งสมาธิกับข้อสอบอีกครั้ง//
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ทรีชากำลังเขียนคำตอบข้อสุดท้าย เสียงออดบอกเวลาสอบหมดก็ดังขึ้น
ครูพิมพ์: ส่งข้อสอบหน้าห้องได้เลยค่ะ ครูจะดูนะคะว่าใครทำข้อสอบได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุดนะคะ//ประกาศพร้อมเดินไปเปิดประตูเพื่อรอรับกระดาษข้อสอบจากนักเรียน//
ทรีชาเดินไปส่งข้อสอบอย่างระมัดระวัง รู้สึกโล่งใจที่สามารถทำมันได้เกือบทั้งหมด แม้จะเร่งรีบตั้งแต่เช้า แต่ก็ยังถือว่าโชคดีที่สมองเธอพอจะทำงานได้อย่างรวดเร็ว
ทรีชา: เฮ้อ! รอดมาได้อีกวัน//บ่นกับตัวเองขณะเดินออกจากห้อง//
นิมา: รอดได้ไงยะ! ดูสภาพเธอสิ ผมยุ่งเป็นรังนกยังไม่พอ ผูกโบว์ก็เบี้ยวไม่เป็นทรงเลย//พูดขึ้นพลางจัดการผูกโบว์ของทรีชาให้เข้าที่//
ทรีชา: ก็นะ...รีบจนไม่มีเวลาดูตัวเองเลย//หัวเราะเสียงแผ่วๆ แต่ความรู้สึกผ่อนคลายก็เริ่มกลับมาเรื่อยๆ//
นิมา: เออ ใช่! เกือบลืมเลย...//ควักโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า//
นิมา: เธอจำงานเทศกาลโรงเรียนที่จะมีพวกชุมนุมต่างๆ มาเปิดบูธได้ใช่ไหม?
ทรีชา: อ๋อ จำได้ แล้วทำไมเหรอ?
นิมา: วันนี้จะมีพวกชุมนุมไสยเวทมาเปิดรับสมาชิกด้วยล่ะ เห็นว่าเป็นชุมนุมใหม่ด้วย น่าสนใจไม่ใช่เหรอ?//ยิ้มตาเป็นประกายดูตื่นเต้นสุดๆ//
ทรีชา: ไสยเวท? ฟังดูแปลกดีนะ โรงเรียนเรามีชุมนุมแบบนี้ด้วยเหรอ? ครูคนไหนมันเป็นคนคุมกันนะ?//ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย//
นิมา: ใช่สิ เขาบอกว่าครูที่คุมคือ "ครูรัศมี" ครูแกอะเป็นคนที่ชอบเรื่องไสยศาสตร์แบบมาก บางคนว่าแกเล่นของด้วยแหละ
นิมา: ฉันว่า เราควรไปสมัครกันหน่อยนะเธอ เผื่อจะเจออะไรสนุกๆ ตอนนี้ยังสมัครทันเหลือพื้นที่ให้เราอีกเยอะเลย//ยิ้มแหยๆ ราวกับพยายามลากทรีชาไปด้วยให้ได้//
ทรีชา: ก็...เอาเป็นว่าลองไปดูก็แล้วกัน//พูดตอบเสียงเบา แต่ในใจก็เริ่มรู้สึกสนใจสิ่งที่นิมาพูดขึ้นมานิดๆ//
เธอไม่รู้เลยว่าการตัดสินใจเล็กๆ นี้อาจจะเปลี่ยนชีวิตธรรมดาๆ ของเธอไปตลอดกาล...