เรธัสเคยเป็น “เพลเยอร์” ในเกมเอาชีวิตรอดสุดโหดมาก่อน เมื่อลืมตาขึ้นมาจากฝันร้าย บัดนี้ เขาคือ “ผู้คุมเกม” หรือในฐานะบทบาทเจ้าของคฤหาสน์แห่งหนึ่ง

ผมเป็นผู้คุมเกมสยองขวัญ - Chapter 1 โดย X.X.Qouxotic @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,ระทึกขวัญ,ชาย-ชาย,ลึกลับ,ผู้คุมเกม,เกมเอาชีวิตรอด,ปีศาจ,จิตวิทยา,หักมุม,ลึกลับ,สยองขวัญ,สืบสวน ,ฆาตรกรรม,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ผมเป็นผู้คุมเกมสยองขวัญ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,ระทึกขวัญ,ชาย-ชาย,ลึกลับ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ผู้คุมเกม,เกมเอาชีวิตรอด,ปีศาจ,จิตวิทยา,หักมุม,ลึกลับ,สยองขวัญ,สืบสวน ,ฆาตรกรรม

รายละเอียด

ผมเป็นผู้คุมเกมสยองขวัญ โดย X.X.Qouxotic @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เรธัสเคยเป็น “เพลเยอร์” ในเกมเอาชีวิตรอดสุดโหดมาก่อน เมื่อลืมตาขึ้นมาจากฝันร้าย บัดนี้ เขาคือ “ผู้คุมเกม” หรือในฐานะบทบาทเจ้าของคฤหาสน์แห่งหนึ่ง

ผู้แต่ง

X.X.Qouxotic

เรื่องย่อ

นวนิยายออริจินอล BoyLove/DarkFantasy


ผมเป็นผู้คุมเกมสยองขวัญ


Writer : X.X.Qouxotic | Artist : mamowhonghong | Typography : TokungEBook




คำโปรย


เรธัสเคยเป็น “เพลเยอร์” ในเกมเอาชีวิตรอดสุดโหดตามประจำด่านเกมต่าง ๆ และเป็นเพียงไม่กี่คนรอดที่รอดออกมาได้ แต่แทนที่เขาจะได้รับอิสรภาพ กลับถูกบังคับให้เป็น “ผู้คุมเกม” รุ่นต่อไป โดยมีหน้าที่ควบคุมกลไกลของเกมสยองขวัญเลือดเย็นนี่ และเฝ้าดูเหล่าเพลเยอร์คนอื่นที่ถูกบังคับให้เข้ามาร่วมเล่นเกมเอาชีวิตรอดให้ได้


แต่สิ่งที่ทำให้เกมนี้น่าสะพรึงยิ่งกว่า คือ “คิลเลอร์” ไม่ใช่ฆาตรกรธรรมดา แต่มันเป็น “ปีศาจ” ที่แฝงกายในหมู่ผู้เล่น


ปีศาจมันมีพลังเหนือจินตนาการของมนุษย์ เพื่อให้เกมนี้สนุกยิ่งขึ้น มันจะปลอมตัวเป็นหนึ่งในผู้เล่น คอยล่อลวงและกำจัดผู้เล่นคนอื่นอย่างเลือดเย็น โดยที่ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นใคร ไม่มีใครแน่ใจว่าคนข้างกายจะเป็นมนุษย์หรือปีศาจกันแน่




⚠ คำเตือนก่อนอ่านนิยายเรื่องนี้ ⚠


นิยายเรื่อง “ผมเป็นผู้คุมเกมสยองขวัญ” เป็นนิยายแนว สยองขวัญ | ระทึกขวัญ | จิตวิทยา | เอาชีวิตรอด ที่เต็มไปด้วยปริศนา เกมแห่งความตาย และการทดสอบจิตใจของมนุษย์ด้วยกันเอง


สิ่งที่ควรทราบก่อนอ่าน:


• นิยายเรื่องนี้มี ฉากความรุนแรง การเอาชีวิตรอด และการตัดสินใจที่ส่งผลต่อชีวิตตัวละคร


• อาจมีเนื้อหาที่สะเทือนอารมณ์ เช่น ความกดดัน การทรยศ การเอาตัวรอดด้วยวิธีที่โหดร้าย


• มีเนื้อหาเกี่ยวกับ เกมจิตวิทยา การควบคุม การบิดเบือนความจริง และการเผชิญหน้ากับความกลัวในจิตใจ


• ตัวละครในเรื่องล้วนมี อดีตและแรงจูงใจที่ซับซ้อน ไม่มีใครที่เป็น “คนดี” หรือ “คนเลว” อย่างแท้จริง


เพิ่มเติม


• นิยายเรื่องนี้อาจทำให้คุณ ตั้งคำถามกับศีลธรรมและความถูกต้องของมนุษย์


• ไม่มีที่สำหรับ “ผู้บริสุทธิ์” ในเกมนี้ ทุกการตัดสินใจมีผลลัพธ์ และทุกคนล้วนเป็นหมากในเกม


• หากคุณพร้อมจะก้าวเข้าสู่โลกของ “ผู้คุมเกม” จงจำไว้ว่า กฎมีไว้เพื่อรักษาระเบียบ… แต่ใครกันแน่ที่เป็นคนตั้งกฎ?




❝ ยินดีต้อนรับสู่เกมแห่งความตาย… ขอให้คุณรอดออกไปได้ ❞

สารบัญ

ผมเป็นผู้คุมเกมสยองขวัญ-Prologue บทนำ,ผมเป็นผู้คุมเกมสยองขวัญ-Chapter 1,ผมเป็นผู้คุมเกมสยองขวัญ-Chapter 2,ผมเป็นผู้คุมเกมสยองขวัญ-Chapter 3

เนื้อหา

Chapter 1

เสียงติ๊กต่อกของนาฬิกาตั้งพื้นวินเทจโบราณก้องกังวานทั่วทั้งห้องโถงใหญ่ และเสียงพลิกหน้ากระดาษที่เรธัสกำลังอ่านอยู่

จนกระทั่งดวงตาสีฟ้าครามละสายตาพลางเงยหน้าออกจากแฟ้มเอกสารสีดำในมือ ก่อนจะเหลียวมองนาฬิกาลูกตุ้มอีกเรือนภายในห้องพักส่วนตัวที่ตั้งอยู่มุมห้อง

เขาเฝ้ารอ… เฝ้ารอช่วงเวลาหนึ่งที่มันกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้า

และแล้ว เสียงประตูไม้โอ๊คขนาดใหญ่ดังแอ๊ดถูกผลักเปิดออก เป็นเหมือนดั่งสัญญาณเตือนใจว่ากลุ่มผู้เล่นใหม่ได้มาเยือนถึงที่นี่แล้ว พร้อมสายลมประหลาด สัมผัสหนาวไปทั่วทั้งกายได้พัดพาเงาเจ้าของร่างทั้งหกชีวิต ได้ก้าวขาเข้ามาถึงปากของปีศาจที่หมายจะคร่าชีวิตของพวกเขาได้อยู่ทุกเมื่อ

เสียงฝีเท้าและการเดินเข้ามาที่นี่แตกต่างกัน ตามบุคลิกและคนละนิสัย ดวงตาของแต่ละคนกลับเต็มไปด้วยความสับสนและหวาดระแวง พร้อมกับตั้งคำถามภายในใจทั้งสิ้น ว่าที่นี่คือที่ใดกันแน่?

เมื่อทุกสิ่งตรงหน้าดูหรูหรา ไม่ต่างกับพระราชวังในยุควิคตอเรีย แชนเดอเรียใหญ่ส่องสว่างจากเพดานสูง ทำให้ห้องโถงใหญ่ดูปลอดภัย ตามผนังไม่เคยว่างเปล่า ผนังมีผลงานวาดศิลปะเรเนซองส์ ความงดงามเกินการประเมินราคาเหล่านี้ ไม่เท่าความรู้สึกความตึงเครียดที่พวกเขาต้องเผชิญเลยด้วยซ้ำ

เจ้าของดวงตาคมกริบสีน้ำตาลเข้ม หญิงสาวผมยาวมัดรวบหางม้าสีน้ำตาลเข้ม ฉายแววสงสัยอย่างใคร่รู้ กวาดมองไปทั่วทั้งคฤหาสน์ราวกับกำลังวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันอย่างรอบคอบ

ขณะเรธัสเหลือบมองชื่อของเธอผ่านเอกสารภายในแฟ้มสีดำ

เอเลน่า โครฟอร์ด - นักข่าวสาวไฟแรง วัย 25 ปี

เธอเป็นคนช่างสังเกต รอบคอบและใส่ใจรายละเอียดตั้งแต่ก้าวขาเข้ามาภายในคฤหาสน์แห่งนี้

“นี่มันบ้าอะไร?”

น้ำเสียงทุ้มเข้มหนักหน่วงดังกึกก้องจนทั้งคฤหาสน์ได้ยินเสียงสะท้อนอันทรงพลังของเขา ชายร่างใหญ่ชาตรี แข็งแรง มีพละกำลังไม่น้อย เป็นบุรุษผมสั้นเกรียน นัยน์ตาสีเทาควันบุหรี่ ใบหน้าเห็นกรามเด่นชัดนิ่งขรึมขมวดคิ้วเข้มด้วยความสงสัยไม่ต่าง

“นี่ไม่ใช่พวกเราหลุดพ้นจากเกมบ้า ๆ นั่นแล้วเหรอ?”

ชายผู้นี้คือ วิคเตอร์ วอร์ก - อดีตตำรวจ วัย 32 ปี

“อย่าบอกนะคะ ว่าพวกเราต้องเล่นเกมอีกแล้ว”

เสียงหวานใสแฝงความสุภาพเรียบร้อยพึมพำเบา ๆ เธอมีท่าทางอ่อนโยนกว่าคนอื่น มือเรียวข้างหนึ่งของเธอมักวางทาบลงบนอกไว้แน่นอยู่เสมอ ทุกครั้งที่ประหม่าและกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้น

เธอคือ โรแรนด้า เซสเตอร์ - นักศึกษาแพทย์ วัย 22 ปี

“พระเจ้า… นี่มันฝันร้ายอะไรกันวะเนี่ย ฉันสุดจะทนแล้วนะ”

เจ้าของเสียงแหบพร่าของชายวัยกลางคนดังขึ้น ทั้งสับสนและไม่พอใจกับสถานการณ์ เหมือนตั้งคำถามที่ไม่มีวันได้คำตอบ จากทุกเกมที่ผ่านมา ว่าพวกเขามาที่นี่เพื่ออะไร

ชายวัยกลางคน เดริก มอนต์โกรี่ - นักธุรกิจ วัย 40 ปี

ขณะทุกคนที่ยืนตรงกลางห้องโถงใหญ่โออ่า เด่นตระตาตรงหน้ามีนาฬิกาตั้งพื้นโบราณส่งเสียงสม่ำเสมอราวกับย้ำเตือนการเริ่มต้นใหม่ที่คาดไม่ถึง

ในกลุ่มของพวกเขาทั้งหกยังมีชายหนุ่มผู้อายุน้อยสุด เขาดูสงบนิ่งกว่าคนอื่น ดวงตาสีดำสนิทมองไปรอบ ๆ คฤหาสน์อย่างพิจารณา

เรธัสที่กำลังพลิกแฟ้ม สายตาอ่านรายละเอียดข้อมูลของเขา

ไคล์ เดเวอร์โรส - นักศึกษาปี 1 คณะเศรษฐศาสตร์ วัย 19 ปี

ซึ่งหนุ่มคนนี้ เรธัสมองลึก ๆ แล้ว กลับรู้สึกหนักใจเล็กน้อย ด้วยอายุเพียงเท่านี้นั้น ยังสามารถมีชีวิตต่อยอดได้อีกยาวไกล แต่กลับต้องมาผัวพันเล่มเกมที่มีแต่ความตายรอคอยเขาอยู่

และบุรุษคนสุดท้าย แต่งกายทันสมัย เสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดสีแดงสลับลวดลายทองคำ เหมือนชายเจ้าสำราญในยามราตรี นิ้วทั้งสิบมีเต็มไปด้วยแหวนทองและเด่นอัญมณีสีเขียวเม็ดใหญ่

เขาคือ เซส โรลาแฮน - นักพนัน วัย 37 ปี

“เดี๋ยวก่อน…”

เสียงของไคล์ดังขึ้น สีหน้าดูครุ่นคิด เมื่อด้านข้างประตูทางเข้ามีกระจกบานใหญ่ติดอยู่กับกำแพงอย่างหมองหม่นและมืดมัว ชายหนุ่มอายุน้อยสุดได้ชี้นิ้วไปยังมัน ให้ทุกคนได้เห็นอะไรบางอย่างที่เกินความคาดหมาย

เมื่อพวกเขาได้มองมันไปพร้อมกัน เงาสะท้อนกระจกบานนั้น กลับพบว่า

ภาพที่เห็น… คือคนแปลกหน้าทั้งสิ้น

ทุกคนในตอนนั้นยกมือขึ้นแตะใบหน้าและทำท่าทีแตกต่างไปจากเดิม ทุกเงาสะท้อนเผยการกระทำทุกอย่าง มันได้แสดงท่าทางเหมือนกันอย่างกับแกะ

ความไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็นด้วยตา ตั้งแต่ย่างกรายเข้ามายังคฤหาสน์แห่งนี้ ผู้ใดมาเยือนพร้อมมองกระจกบานนั้นไปแล้ว จะกลายเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ตนเองอีกต่อไป เหมือนระบบได้ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของพวกเขาให้กลายเป็นหนึ่งตัวละครในเกมไปโดยปริยาย

ทันใดนั้น เสียงดังขึ้นจากชั้นสอง

“ในที่สุดพวกท่านก็มาถึงแล้ว… สู่สถานที่ที่ความงามและความลี้ลับดำรงอยู่ร่วมกัน เชิญเข้ามาเถิด อย่าให้ความลังเลกักขังท่านไว้”

เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นขัดจังหวะความโกลาหล ทุกคนเงยหน้าขึ้นและหันไปมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่บนบันได

ทุกสายตาในตอนนี้ เรธัส ไม่ต่างจากชายหนุ่มปริศนา อีกทั้งแต่งกายประหลาดตา เสื้อผ้าหน้าผมตัดกับความทันสมัยใหม่ ชุดสมัยวิคตอเรียโบราณท่าทีสุขุม รวมถึงใบหน้าสะอาดสะอ้านสมเป็นผู้ดี มันสะดุดทุกสายตาต้องจับจ้องไปยังที่เขาผู้เดียว

เรธัสก้าวลงมาช้า ๆ แววตาเรียบเฉยไร้อารมณ์ ตั้งตนเสมือนตัวละครหรือหนึ่งในบทบาทเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ กำลังต้อนรับผู้เล่นเพิ่งเดินทางมาถึงได้ไม่นาน

“กระจกเบื้องหน้าย่อมสะท้อนตัวตนของท่าน แต่หากยังมิพอใจ โปรดใช้โอกาสนี้ปรับเปลี่ยนให้สมพระเกียรติ” ระบบป้อนข้อมูลให้ชายหนุ่มผู้คุมเกมพูดตามบทบาททั่วไป

ขณะทุกคนยังคงนิ่งงัน ไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดเลยสักนิด

“พูดบ้าอะไรของมัน หมายความว่าไง?”

เซสถามเสียงแข็ง แต่เรธัสไม่อาจตอบได้ในทันที เพราะระบบมันกำลังบังคับให้เขาห้ามแสดงอาการใด ๆ หรือตอบโต้ผู้เล่นอุกอาจเด็ดขาด เขาเพียงปรายตามองเยือกเย็นไปอย่างไม่รู้สึกตัว ก่อนจะกล่าวต่อ

“ที่นี่คือคฤหาสน์ สนามประลองปัญญาและชะตากรรม หากท่านประสงค์จะมีชีวิตต่อไป… ท่านต้องเดิมพันมันด้วยชีวิตของตัวเอง”

“เกม?” เอเลน่าทวนคิด สีหน้าของเธอดูไม่วางใจมันตั้งแต่แรก “เกมบ้าอะไรของคุณอีกล่ะ?”

เรธัสหยุดยืนที่ชั้นบันไดสุดท้าย สายตามองนิ่งราวกับทะลุลงไปยังจิตใจของผู้เล่นได้เป็นอย่างดี จนประสาททุกส่วนตื่นตระหนกและเต็มไปด้วยความระวัง ก่อนจะเอ่ย

“ในเกมเอาชีวิตรอดนี้ ศัตรูของท่านอาจมิใช่เพียงความกลัว… แต่คือบางสิ่งที่ไม่ควรมีในหมู่ของพวกท่าน”

“พูดอะไรเข้าใจยากชะมัด”

เซสขมวดคิ้วเข้ม มือขยุมเส้นผมด้วยความรำคาญ เรธัสจึงเอ่ยต่อ ให้พวกเขาเข้าใจง่ายขึ้น

ไม่ว่าพวกเขาจะอารมณ์เสียมากถึงเพียงใด แต่มันก็ทำให้เรธัสพอสามารถเดาลักษณะเด่น ๆ ของผู้เล่นแต่ละคนว่าเป็นใครได้อย่างเฉียบขาด ด้วยใบหน้าและเสื้อผ้าที่เปลี่ยนไปก็ไม่อาจปิดบังตัวตนหรืออาจซ่อนความนัยแฝงให้พวกเขาเกิดสงสัยกันเองในอนาคต

ผู้คุมเกมมือใหม่ ไม่รู้ชะตากรรมหรือตอนจบของเกมนี้จะเป็นเช่นไร แต่อย่างน้อยก็ภาวนาให้ทุกอุปสรรคผ่านพ้นไปได้ด้วยดี