จากชายหนุ่ม-สู่มังกรผู้พิชิตโลก! นี่คือจักรวาลอันกว้างใหญ่ที่ซึ่งโลกทั้ง 9 หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว.! ที่ซึ่งเผ่าพันธุ์ต่างๆต่อสู้กันเพื่อความเป็นใหญ่ ผู้ที่แข็งแกร่งจะกลืนกินผู้ที่อ่อนแอ ปีศาจจากนรก จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ เหล่าทวยเทพที่ถูกสรรเสริญ ตัวตนเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนประกอบของโลกใบใหม่ที่ถูกหลอมรวมขึ้น อาเธอร์เกิดใหม่เป็นมังกรท่ามกลางไฟสงครามของโลกทั้งเก้า โชคชะตานำพาเขาไปสู่ลูกบาศก์ปริศนา ที่มอบพลังไร้ขีดจำกัด เปิดเส้นทางสู่ราชาผู้ชิตบัลลังก์เหนือทุกสรรพสิ่ง...

อาเธอร์คือมังกร - ตอนที่ 2 สิ้นสุดความฝัน โดย shepherd @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,แอคชั่น,เกิดใหม่,สงคราม,อัศวิน,ออร์ค,เอลฟ์,เวทมนตร์,มังกร,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

อาเธอร์คือมังกร

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย,แอคชั่น,เกิดใหม่,สงคราม

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อัศวิน,ออร์ค,เอลฟ์,เวทมนตร์,มังกร

รายละเอียด

อาเธอร์คือมังกร โดย shepherd @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จากชายหนุ่ม-สู่มังกรผู้พิชิตโลก! นี่คือจักรวาลอันกว้างใหญ่ที่ซึ่งโลกทั้ง 9 หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว.! ที่ซึ่งเผ่าพันธุ์ต่างๆต่อสู้กันเพื่อความเป็นใหญ่ ผู้ที่แข็งแกร่งจะกลืนกินผู้ที่อ่อนแอ ปีศาจจากนรก จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ เหล่าทวยเทพที่ถูกสรรเสริญ ตัวตนเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนประกอบของโลกใบใหม่ที่ถูกหลอมรวมขึ้น อาเธอร์เกิดใหม่เป็นมังกรท่ามกลางไฟสงครามของโลกทั้งเก้า โชคชะตานำพาเขาไปสู่ลูกบาศก์ปริศนา ที่มอบพลังไร้ขีดจำกัด เปิดเส้นทางสู่ราชาผู้ชิตบัลลังก์เหนือทุกสรรพสิ่ง...

ผู้แต่ง

shepherd

เรื่องย่อ

สารบัญ

อาเธอร์คือมังกร-ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นของเรื่องราว,อาเธอร์คือมังกร-ตอนที่ 2 สิ้นสุดความฝัน

เนื้อหา

ตอนที่ 2 สิ้นสุดความฝัน

ตอนที่ 2: สิ้นสุดความฝัน



 ภายใต้ความเหนื่อยล้าและอาการปวดหัวอย่างรุนแรง อาเธอร์ได้สติขึ้นอีกครั้ง

ขณะที่เขาพยายามลืมตาขึ้น อาเธอร์พบว่าทุกอย่างรอบตัวเขาดูพร่ามัวไปหมด แสงจ้าทำให้ดวงตาของเขาไม่สามารถปรับตัวได้ในทันที

ตอนแรกอาเธอร์รู้สึกตกใจมาก แต่ในไม่ช้าเขาก็ตั้งสติได้อีกครั้ง เขาคาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาสักพักในการปรับตัวให้คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างกระทันหัน

“ฉันรู้สึกได้เลยว่าที่นี่เต็มไปด้วยอากาศบริสุทธิ์ จะเป็นไปได้หรือเปล่าที่ว่าฉันจะกลับมาที่โรงพยาบาลแล้ว.?” อาเธอร์คิดโดยเก็บความตื่นเต้นไว้ในใจ สิ่งนี้คือการยืนยันว่าเขายังคงมีชีวิตอยู่

ชั่วขณะหนึ่งเขาเองก็ยังไม่เชื่อเลยว่าเรื่องทั้งหมดที่ผ่านมาคือเรื่องจริง ประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้เขารู้ว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่มนุษย์ไม่อาจสามารถเข้าใจได้

ขณะที่อาเธอร์จมอยู่ในห้วงความคิดโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ตอนนั้นเองเขาก็เพิ่งจะเอะใจได้ว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยของเหลวบางอย่างที่ให้ความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะ และมันก็ทำให้เขารู้สึกว่าขยับตัวได้ยากลำบาก

“สิ่งนี้คืออะไรมันเป็นการรักษารูปแบบใหม่ของทางโรงพยาบาลหรือเปล่า…?” อาเธอร์ไม่แน่ใจมากนัก แต่ของเหลวพวกนี้ทำให้เขานึกถึงเมือกของสัตว์บางชนิด

“มีใครอยู่ที่นี่หรือเปล่า ได้โปรดช่วยฉันหน่อยได้ไหม”

อาเธอร์ต้องการความช่วยเหลือ เขาพยายามร้องเรียกนางพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆ แต่แล้วตอนนั้นเองเขากลับพบว่าเสียงที่ออกมาจากปากของเขานั้นไม่ใช่เสียงของมนุษปกติ แต่กลับกลายเป็นว่าเสียงที่ออกมาคือเสียงร้องแหลมก้องกังวาล ฟังดูแปลกประหลาดจนน่าตกใจ มันไม่ใช่เสียงมนุษย์ที่เขาคุ้นเคยอีกต่อไป

เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับร่างกายของเขา

“เกิดอะไรขึ้นกับเสียงของฉัน ทำไมมันถึงเปลี่ยนไป… นี้มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย…?” อาเธอร์รู้สึกตื่นตระหนกอย่างถึงที่สุด

และในจังหวะนั้นเองก็เป็นเวลาประจวบเหมาะกับที่ดวงตาของเขากลับมาสว่างขึ้น

เมื่ออาเธอร์กลับมามองเห็นได้อีกครั้งเขาก็พบว่าตัวเองกำลังจดจ่ออยู่กับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย แสงสลัวๆจากคริสตัลตกกระทบลงบนผนังหินที่ขรุขระ ทำให้บรรยากาศโดยรอบดูคลุมเครือ อย่างไรก็ตามนั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้อาเธอร์รับรู้ความจริงว่าเขาไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาลอย่างที่คิด อากาศชื้นและดินที่ชุ่มไปด้วยน้ำส่งกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เข้าสู่จมูกของอาเธอร์ และในขณะเดียวกันหูของเขาก็ได้ยินเสียงหยดน้ำที่ตกกระทบพื้นอยู่ตลอดเวลา องค์ประกอบเหล่านี้ได้ทำให้อาเธอร์นึกถึงสถานที่แห่งหนึ่ง

“ถ้ำ…!”

อาเธอร์สามารถอธิบายสั้นๆได้ด้วยการมองดู เขาไม่แน่ใจว่าเคยเห็นสถานที่แห่งนี้มาก่อนหรือเปล่า แต่เขาสามารถบอกได้ว่าตอนนี้เขากำลังอยู่ภายในถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งแท้จริงแล้วเขาก็ไม่รู้เลยว่าเหตุใดเขาถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้

“มีบางอย่างผิดพลาดในขั้นตอนการส่งตัวฉันกลับมาหรือเปล่า ทำไมสถานที่ที่ฉันกลับมาถึงไม่ใช่โรงพยาบาล…!” อาเธอร์คิดด้วยความสับสน

ขณะเคลื่อนสายตาขึ้นและลงอาเธอร์สังเกตเห็นว่า พื้นที่รอบข้างเต็มไปด้วยผลึกคริสตัลที่มีลักษณะหกเหลี่ยมสีฟ้า มีพวกมันเป็นจำนวนมากในบริเวณรอบๆ โดยจะเห็นได้ชัดว่าบางส่วนก็ยังกระจายตัวอยู่บนผนังและเพดานของถ้ำ ซึ่งนอกเหนือจากความสวยงามที่ปรากฏเด่นชัด อาเธอร์ยังค้นพบว่าผนึกคริสตัลพวกนี้ก็ยังเป็นต้นกำเนิดของแสงสว่างของสถานที่ แม้จะเห็นว่าแสงที่ปล่อยออกมาจะไม่ได้สว่างมากนัก แต่เมื่อมีการรวมตัวกันของผลึกคริสตัลจำนวนมากภายในสถานที่นี้ นั่นจึงทำให้บรรยากาศโดยรอบสว่างไสวอย่างหน้าหลงไหล

ขณะนั้นอาเธอร์ใช้แรงทั้งหมดพยุงตัวเองขึ้นจากพื้น อย่างไรก็ตามเขาค้นพบว่าเขาไม่สามารถทรงตัวได้ตามปกติ เมื่ออาเธอร์พยายามจะลุกขึ้นเขากลับล้มลงอย่างไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเมื่อเขาพยายามลองอีกครั้งโดยการใช้มือเป็นตัวช่วย เขาก็ได้เห็นบางอย่างที่น่าตกใจ “อะไร.!”

วินาทีนั้นหัวใจของอาเธอร์เต้นรัวอย่างควบคุมไม่ได้ เขาพบว่าท่อนแขนที่ในครั้งหนึ่งเคยถูกห่อหุ้มด้วยผิวหนังที่เรียบเนียนได้หายไป กลายเป็นว่า ณ เวลานี้มันได้รับการแทนที่ด้วยชั้นเกล็ดสีขาวที่เรียงตัวกันอย่างปราณีต นอกจากนี้ แม้แต่ปลายนิ้วที่ยาวเรียวของเขาก็ได้เปลี่ยนแปลงเป็นกรงเล็บแหลมคมที่ออกแบบมาเพื่อทำลายล้างทุกสิ่ง

“ฉันกลายเป็นตัวอะไรไปแล้วเนี่ย…!”

ความสับสนของอาเธอร์ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเมื่อเขาให้ความสนใจไปที่ส่วนอื่นๆของร่างกาย เขาพบว่าส่วนใหญ่จะถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีขาวที่เรียงตัวซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ แม้แต่ขาทั้งสองของเขาก็ด้วยเช่นกัน ความจริงแล้วตอนนี้เขาแทบจะไม่มีเค้าโครงความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่เลย

“เหี้ย ฉันมีหางด้วย แล้วนี่อะไรกำลังขยับอยู่ด้านหลังของฉันเนี่ย…!”

จิตวิญญาณของอาเธอร์สั่นสะท้านด้วยความสิ้นหวังและความหวาดกลัว ไม่มีความกลัวใดที่จะน่ากลัวเท่ากับ ความกลัวในสิ่งที่ไม่รู้จัก

เมื่อเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงทางด้านกายภาพ อาเธอร์ตระหนักได้ว่าตอนนี้เขาได้กลายเป็นสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวไปเสียแล้ว

วินาทีผ่านไปช่างดูยาวนานและเงียบงัน แต่แล้วตอนนั้นเองเสียง “แกร๊กๆ” ก็ดังขึ้นในหูของอาเธอร์ซึ่งมันก็ได้เรียกสติของเขาให้กลับสู่ความเป็นจริง ขณะนั้นเขามองไปรอบๆเพื่อหาที่มาของเสียง แต่แล้วเขากลับพบว่าเสียงนั้นมาจากด้านล่างของเขา เมื่ออาเธอร์ก้มลงเขาก็พบกับวัตถุปริศนาบางอย่างที่มีลักษณะเป็นแผ่นบางๆ ซึ่งเมื่ออาเธอร์ลองสังเกตอยากได้ชิดเขาก็พบว่าพื้นผิวด้านนอกของวัตถุชิ้นนี้มีลักษณะคล้ายกับเกล็ดของเขายังไงอย่างนั้น การค้นพบนี้สามารถยืนยันได้ว่านี่คือไข่ที่เขาเพิ่งฟักตัวออกมา

เมื่อถึงจุดนี้อาเธอร์ก็พอที่จะทำความเข้าใจกับสถานการณ์ต่างๆได้บ้างแล้วทั้งเรื่องที่เขาติดอยู่ภายในโลกมืดและรอยแตกปริศนาที่ปรากฏขึ้น เหตุการณ์ต่างๆเชื่อมโยงไปยังจุดเดียวกัน

“ดังนั้นฉันจึงเกิดใหม่เป็นสัตว์ประหลาด” การตระหนักรู้ปรากฏขึ้นในจิตใจของเขา

เมื่อลองคิดทบทวนอย่างถี่ถ้วนแล้วเรื่องนี้มันช่างหลุดโลกไปไกลเกินกว่าที่เขาคิดไว้มาก เขาเคยอ่านนิยายต่างโลกมากมาย แต่ไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องทั้งหมดจะเกิดขึ้นกับเขา

ผู้คนมากมายต่างก็ถูกเถียงกันว่าแนวคิดเรื่องการเกิดใหม่มีจริงหรือไม่ ซึ่งคำตอบที่ดีที่สุดที่พวกเขาให้ได้คือไม่รู้ได้เลยเพราะไม่มีใครพิสูจน์เรื่องนี้ได้ แต่ตอนนี้อาเธอร์รู้แล้วว่ามันมีอยู่จริง

ขณะครุ่นคิดว่าควรจะเอายังไงต่อไป ทันใดนั้นจู่ๆอาเธอร์ก็ถูกโจมตีอย่างรุนแรงโดยความหิวเลเวลแม็ก ลำไส้ของเขาบิดเบี้ยวด้วยลักษณะที่ไม่เป็นธรรมชาติและเสียงร้องก็ดังก้องออกมาจากกระเพาะส่วนลึกของเขาราวกับว่ามีมือที่มองไม่เห็นกำลังบีบรัดกระเพาะของเขาอย่างโหดเหี้ยม

“อา ความรู้สึกนี้กำลังฆ่าฉันแล้ว” อาเธอร์ล้มลงกัดฟันอย่างทรมาน

ทุกอย่างเกิดขึ้นกระทันหันเกินไปจนอาเธอร์ไม่มีเวลาแม้แต่มองหาอาหารเสียด้วยซ้ำ เมื่อความหิวรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเขาไม่มีทางเลือกมากนัก ขณะนั้นอาเธอร์คว้าเปลือกไข่ที่อยู่ไกล้ๆขึ้นมาอย่างสิ้นหวังพลางจ้องมองมันอย่างหลงใหลราวกับว่าเปลือกไข่ชิ้นนี้คืออาหารชิ้นสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่บนโลก

ความหิวกระตุ้นให้เขาหลั่งน้ำลายใสออกมาอย่างไม่อาจหยุดยั้ง เมื่อสถานการณ์เกินการควบคุมของเขา อาเธอร์ก็รู้สึกว่าเหตุผลและกระบวนการคิดของเขาผิดแปลกไป เมื่อไร้ซึ่งเหตุผลและการยั้งคิดสัญชาตญาณโดยกำเนิดก็ได้เข้าครอบงำจิตใจของเขา

ในตอนนี้อาเธอร์ไม่สนใจอะไรอีกต่อไป โดยไม่ลังเลเขายกเปลือกไข่ขึ้นด้วยความหิวกระหายก่อนจะยัดมันลงไปในปากของเขาด้วยท่าทางที่ดุร้ายราวกับสัตว์ป่า

ผิวสัมผัสที่หยาบและรสชาติเค็มปรากฏขึ้นในปากของอาเธอร์ ความจริงแล้วรสชาติของมันไม่ได้แย่อย่างที่คิด อาเธอร์สามารถอธิบายสั้นๆได้ว่ามันคือข้าวเกรียบที่โรยด้วยเกลือดีๆนี่เอง

ความหิวค่อยๆถูกเติมเต็ม

หลายนาทีต่อมา….

หลังจากอาเธอร์จัดการกับความหิวโหยที่คอยกวนใจเขาออกไปตอนนี้เขาก็รู้สึกดีขึ้นมาก

ขณะนี้เขามีแผนที่จะเตรียมตัวสำรวจรอบๆและมองหาทางออกจากสถานที่แห่งนี้ แต่ทว่าไม่ทันที่เขาจะได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น เมื่อจู่ๆอาเธอร์รู้สึกเหมือนโดนไฟช็อต ความเจ็บปวดวิ่งจากกระดูกสันหลังผ่านขึ้นไปสู่สมองของเขาโดยตรง กล้ามเนื้อของเขาเกร็งก่อนจะตามมาด้วยอาการชักกระตุกอย่างรุนแรง.!

อาเธอร์ล้มลงเขากัดฟันกรอด สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือพยายามอดทนต่อความเจ็บปวดที่หลั่งไหลเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งมันก็เป็นโชคดีสำหรับเขาที่ความเจ็บปวดนั้นหายไปเพียงเวลาไม่นาน และแล้วทันใดนั้นเองความทรงจำชุดหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้นในจิตใจของเขา

‘อา ฉันเข้าใจผิดมาตลอด” อาเธอร์นอนราบลงกับพื้นก่อนสูดหายใจเข้าลึกๆจิตใจของเขาล่องลอยราวกับคนไร้สติ การแทรกแซงที่เกิดขึ้นไม่ได้เปลี่ยนความทรงจำหรือดัดแปลงความคิดของเขาแต่อย่างใด กลับกันมันเหมือนกับการป้อนข้อมูลบางอย่างลงในสมองของเขามากกว่า ซึ่งข้อมูลนั้นก็ทำให้อาเธอร์ได้รับรู้กับความจริงบางอย่างที่น่าเหลือเชื่อ

“ดังนั้นฉันคือมังกร…!”

แสงแห่งการตระหนักรู้ฉายวาบผ่านดวงตาของอาเธอร์

ปรากฏว่าสิ่งที่แทรกแซงเข้าสู่จิตสำนึกของอาเธอร์คือความทรงจำที่เกี่ยวกับตัวตนของเขา ซึ่งอาจจะฟังดูแปลกแต่เหมือนว่าตอนนี้เขาจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตในจินตนาการอย่างมังกรไปเสียแล้ว

เดิมทีอาเธอร์ไม่เคยคิดถึงหัวข้อนี้มาก่อน ในตอนแรกเขาเดาว่าเขาอาจจะแค่เกิดใหม่เป็นกิ้งก่าหรือสัตว์เลื้อยคลานบางประเภทที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป ซึ่งมังกรไม่ได้เป็นตัวเลือกแรกๆที่เขาจินตนาการไว้ด้วยซ้ำ เป็นที่รู้กันดีว่ามังกรเป็นสิ่งมีชีวิตในตำนานที่ถูกสร้างขึ้นโดยจินตนาการ ซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของของนิยายหรือวรรณกรรมพวกมันไม่มีตัวตนอยู่ในโลกด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามการที่เขาเกิดใหม่เป็นมังกรนั่นก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าโลกนี้ไม่ใช่โลกที่เขาเคยอยู่อีกต่อไปบางทีโลกแห่งนี้อาจจะเป็นโลกที่แตกต่างออกไป อาเธอร์รู้ดีว่ามันน่าเหลือเชื่อแต่กระนั้นเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้

เมื่อทุกอย่างมาถึงจุดนี้อาเธอร์ก็ไม่อาจปฏิเสธความจริงได้ แม้จะตกใจอยู่บ้างแต่เขารู้ดีว่าเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เหนือการควบคุมของเขา และเขาก็ไม่มีอำนาจที่จะทำเช่นนั้น

ด้วยข้อเท็จจริงนี้อาเธอร์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเดินหน้าต่อไปและหนทางเดียวที่เขาจะยืนหยัดมีชีวิตรอดในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ได้ นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าเขาสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่ไม่รู้จักและทำความคุ้นเคยกับโลกนี้ได้เร็วแค่ไหน

บางทีการที่เขากลับมามีชีวิตอีกครั้ง อาจจะเป็นพรวิเศษที่ฟ้าประทานมาให้ แม้ว่าจะอยู่ในคราบของสัตว์ร้ายอาเธอร์ก็อยากจะรักษาชีวิตของเขาไว้เพราะเขาไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากเขาเกิดตายไปอีกรอบ เมื่อถึงเวลานั้นทุกอย่างก็คงจะไม่โชคดีเหมือนตอนนี้ท้ายที่สุดแล้วชีวิตก็มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

“ในเมื่อฉันมีโอกาสได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง แล้วทำไมฉันจะไม่ใช้มันให้คุ้มค่าล่ะบางทีการเกิดใหม่ครั้งนี้อาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด…”

อาเธอร์รู้แล้วว่าเขาควรจะทำอะไรในตอนนี้ สิ่งที่เขาควรให้ความสำคัญเป็นอย่างแรกเลยคือความแข็งแกร่ง หากเขาไม่แข็งแกร่งพอที่จะยืนหยัดด้วยตัวเองอาเธอร์ก็กลัวว่าเมื่อเขาออกไปจากที่หลบซ่อนชีวิตของเขาอาจจะไม่ปลอดภัย ในเมื่อโลกนี้เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายที่อันตราย เขาก็ต้องอันตรายและแข็งแกร่งกว่าพวกมัน ด้วยความได้เปรียบทางด้านเผ่าพันธุ์ที่เหนือกว่าอาเธอร์เชื่อว่าตราบใดที่ให้เวลาเขาเติบโตอีกสักระยะการแข็งแกร่งขึ้นก็คงจะไม่เป็นปัญหาสำหรับเขา

“ก่อนอื่นฉันจะต้องสัมผัสกับมานาให้ได้ก่อนเป็นอย่างแรกเพราะดูเหมือนว่ามานาจะมีความสำคัญต่อโลกนี้เป็นอย่างมาก”

นอกเหนือจากความรู้บางส่วนที่บ่งบอกถึงตัวตนของเขาแล้ว ก็มีอีกสิ่งหนึ่งที่อาเธอร์ได้รับมาพร้อมกันนั้นคือทักษะรูปแบบการหายใจที่เป็นเอกลักษณ์ของมังกร ซึ่งเป็นทักษะที่ส่งต่อผ่านทางสายเลือดของเผ่ามังกรเท่านั้น ทักษะนี้จะช่วยเขาเพิ่มความแข็งแกร็งให้ร่างกายโดยวิธีการดูดซับมานาผ่านทางการหายใจซึ่งมันมีประสิทธิภาพสูงมาก

เมื่ออ้างอิงตามความทรงจำที่อาเธอร์ได้รับมา หากเขาฝึกฝนทักษะนี้จนชำนาญถึงระดับหนึ่งร่างกายของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก จนถึงขั้นที่แม้แต่ดาบที่ทำมาจากเหล็กกล้าก็ไม่สามารถทิ้งรอยขีดข่วนไว้บนผิวหนังของเขาได้ หากเมื่อเทียบกับเทคนิคการหายใจของเหล่าอัศวินแล้วทักษะการหายใจรูปแบบมังกรถือได้ว่าเป็นทักษะในระดับตำนานอย่างไม่ต้องสงสัย แน่นอนว่าถ้าหากมีใครรู้เรื่องนี้ขึ้นมาชีวิตของอาเธอร์คงจะต้องตกอยู่ในอันตรายเป็นแน่

อาเธอร์ไม่ต้องการให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย ถ้าเป็นไปได้เขาก็จะเก็บมันไว้เป็นความลับตลอดไป

นอกเหนือจากทักษะที่กล่าวมาก็ยังมีอีกวิธีในการเพิ่มความแข็งแกร่งให้เขาอย่างรวดเร็ว นั่นก็คือการฆ่าสัตว์อสูรและกลืนกินแกนกลางของพวกมัน วิธีนี้อาจจะเป็นวิธีที่ฟังดูง่ายแต่ก็แฝงไปด้วยอันตรายจำเป็นต้องรู้ว่าแกนกลางของสัตว์อสูรนั้นเปรียบเสมือนหัวใจของพวกมัน หากเมื่อแกนกลางถูกทำลายหรือนำออกไปจากร่างกายของสัตว์อสูรตัวนั้นมันก็จะต้องตายลง ซึ่งคงจะไม่มีสัตว์อสูรตัวไหนที่ต้องการมอบแกนกลางให้เขาอย่างแน่นอน วิธีการเดียวที่จะได้มานั่นก็คือการฆ่าเท่านั้น อย่างไรก็ตามด้วยสถานะปัจจุบันอาเธอร์รู้ดีว่าเขาอ่อนแอแค่ไหนหากมีการต่อสู้เกิดขึ้นเขาก็คงเป็นได้เพียงแค่อาหารว่างของเหล่าสัตว์อสูรเท่านั้น

“ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งมีชีวิตของโลกนี้แข็งแกร่งแค่ไหน บางทีการทำความเข้าใจกับสิ่งต่างๆให้มากขึ้นคงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า”

อาเธอร์มีความเข้าใจเกี่ยวกับโลกนี้น้อยมาก พูดอีกนัยหนึ่งว่าเขาแทบจะไม่รู้อะไรเลย มันคงจะเป็นการฆ่าตัวตายถ้าเขาทำอะไรโดยที่ไม่คิดหน้าคิดหลัง ดังนั้นเขาจึงเก็บความคิดส่วนนี้ไว้ก่อนโดยจะมุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนทักษะและการทำความเข้าใจเกี่ยวกับโลกใบนี้เป็นหลัก

“แล้วฉันควรเริ่มจากตรงไหนก่อนดี…?” อาเธอร์แทบจะระงับความตื่นเต้นไปไม่ได้เมื่อคิดว่าในอนาคตตัวเองจะแข็งแกร่งขึ้นแค่ไหน “เอาล่ะมาเริ่มกันที่การสัมผัสมานากันก่อนเลย”