เควินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกคน เขาค่อนข้างสดใสและมองโลกในแง่ดีจนมักถูกเปรียบเทียบกับแฝดพี่ว่าเป็นฤดูใบไม้ผลิ ขณะที่พี่ชายนั้นเปรียบเหมือนฤดูหนาว ชายหนุ่มชอบพูดจาทะเล้นทะลึ่งทว่ากลับทำให้มนตรายิ้มได้อยู่

ระฆังรัก - ระฆังรัก ตอนที 3 โดย แสงฉาย จอมเกล้า @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ยุคปัจจุบัน,ไทย,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ระฆังรัก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ยุคปัจจุบัน,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

ระฆังรัก โดย แสงฉาย จอมเกล้า @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เควินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกคน เขาค่อนข้างสดใสและมองโลกในแง่ดีจนมักถูกเปรียบเทียบกับแฝดพี่ว่าเป็นฤดูใบไม้ผลิ ขณะที่พี่ชายนั้นเปรียบเหมือนฤดูหนาว ชายหนุ่มชอบพูดจาทะเล้นทะลึ่งทว่ากลับทำให้มนตรายิ้มได้อยู่

ผู้แต่ง

แสงฉาย จอมเกล้า

เรื่องย่อ

เควินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกคน เขาค่อนข้างสดใสและมองโลกในแง่ดีจนมักถูกเปรียบเทียบกับแฝดพี่ว่าเป็นฤดูใบไม้ผลิ

ขณะที่พี่ชายนั้นเปรียบเหมือนฤดูหนาว ชายหนุ่มชอบพูดจาทะเล้นทะลึ่งทว่ากลับทำให้มนตรายิ้มได้อยู่

สารบัญ

ระฆังรัก-ระฆังรัก ตอนที 1 ,ระฆังรัก-ระฆังรัก ตอนที 2 ,ระฆังรัก-ระฆังรัก ตอนที 3 ,ระฆังรัก-ระฆังรัก ตอนที 4 ,ระฆังรัก-ระฆังรัก ตอนที 5 ,ระฆังรัก-ระฆังรัก ตอนที 6

เนื้อหา

ระฆังรัก ตอนที 3

ตอนที่ 3

 

หลังถูกเควินพามาส่งถึงบ้าน มนตราก็รีบจัดเตรียมห้องรับรองไว้รอต้อนรับแขกของพวกเขา

 

พร้อมด้วยอาหารมากมายราวกับจะจัดงานเลี้ยงตอนกลางคืน หล่อนไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะมาตอนไหนก็เลยรีบเตรียมทุกอย่างให้เสร็จแต่เนิ่นๆ เอริคและเควินจะได้ไม่ถูกมารดาของตนตำหนิ

 

มนตราทำงานอย่างมีความสุข เพื่อเอริคและเควินแล้วหล่อนเต็มใจเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้แขกประทับใจ มนตราไม่เคยเห็นหน้าแขกของพวกเขา ได้ยินเพียงแค่ว่าเป็นผู้หญิงเพราะเป็นลูกสาวของมารดาทั้งสองแฝด

 

มีเสียงรถเข้ามาจอดในบ้าน เธอจำได้ว่ามันคือเสียงรถของเอริคเลยรีบวิ่งออกไปต้อนรับ เขาเดินลงมาจากรถพร้อมกับหญิงสาวคนหนึ่ง เธอมีผมสีดำแบบคนเชียทว่าดวงตากลับเป็นสีฟ้าน้ำทะเล เดินกอดแขนเขาเข้ามาท่าทางสนิทสนม

 

“สวัสดีค่ะ” มนตรายกมือไหว้เอริคตามแบบที่ทำเป็นประจำ แล้วเบนสายตามามองสาวสวยข้างตัวเขา ใจเธอกระตุกแปลกๆ เมื่อเห็นผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่เธออยู่เคียงข้างเขา

 

‘อาบิเกล คามิร่า’ ลูกครึ่งสาวสวยวัยยี่สิบห้าปีหันมายิ้มหวานให้หล่อน หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะมองเธอบดเบียดร่างกายเข้าหาเอริค ภายในใจมันร้อนรุ่มอย่างประหลาด

 

ท่าทางของอาบิเกลมันมากกว่าญาติปกติ ผู้หญิงด้วยกันมองกันออกว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ และก็รู้ตัวด้วยว่า…

 

หล่อนกำลังหึงหวงเขา

 

“พี่เอริคคะ ไหนห้องของเกลเหรอ”

 

“อยู่ด้านใน จัดเตรียมเรียบร้อยใช่ไหม”

 

มนตราพยักหน้ารับคำถามลั้นแล้วเดินนำทั้งสองคนไปยังห้องรับรองแขกที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้โดยยืนรออยู่ด้านนอกประตูอย่างนอบน้อม

 

ร่างสูงเดินผ่านเข้าไปพร้อมอาบิเกล เธอยังกอดแขนเขาไม่ยอมปล่อยราวกับต้องการแสดงความเป็นเจ้าของ

 

หญิงสาวเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนแปลกหน้าอย่างสมบูรณ์แบบ เอริคเป็นคนพูดน้อยอยู่แล้วแต่ร้อนแรงมากเรื่องบนเตียง

 

สีหน้าของเขาไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ทำให้มนตราคาดเดาไม่ออกเลยว่า เขาพอใจเอบิเกลในระดับไหน

 

“แล้วห้องพี่เอริคล่ะคะอยู่ไหน พาเกลไปดูได้ไหม” ร่างสูงหันขวับมองมนตราทันทีเมื่อถูกอาบิเกลถามแบบนั้น การกระทำของเขาอยู่ในสายตาหล่อนตลอด ยิ่งทำให้สงสัยว่าทำไมจะต้องหันไปมองผู้หญิงที่เป็นแค่แม่บ้านแบบนั้นด้วย

 

 

 

“ห้องของนายท่านเอริคอยู่ทางนี้ค่ะ” มนตราผายมือไปทางชั้นสอง ซึ่งเป็นชั้นพักของพ่อแม่ของพวกเขา

 

รวมถึงตัวฝาแฝดเอง อาบิเกลแอบแสยะยิ้มไม่ให้ใครเห็นแล้วเดินกอดแขนลากเอริคให้ไปด้วยกัน

 

หากไม่ติดว่ามารดาสั่งให้ดูแลหล่อนให้ดีรวมถึงเขาเห็นเธอมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย คงไม่ยอมให้ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของแบบนี้แน่นอน ร่างเล็กพามาจนถึงห้องส่วนตัวของเอริค

 

เขาเปิดประตูห้องออก อาบิเกลทำท่าจะเดินเข้าไปดูแต่กลับถูกร่างสูงคว้าคอเสื้อจากด้านหลังไว้

 

“ฉันไม่ชอบให้ใครเข้าไปยุ่งในพื้นที่ส่วนตัว”

 

“แต่เกลก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนี่คะ พี่เอริคก็รู้ว่าคุณแม่ของเราสองคนหมายมั่นจะให้พวกเราแต่งงานกัน อย่างไรสักวันเกลก็ต้องได้เข้ามาอยู่ห้องนี้อยู่ดี” เธอจีบปากจีบคอพูดไม่สนใจเลยว่าอีกฝ่ายจะทำสีหน้าแบบไหนอยู่ เขาไม่ได้มองเธอด้วยซ้ำ สายตามองเพียงหญิงสาวคนเดียว

 

มนตราก้มหน้าหลบตาเขา เธอไม่ต้องการให้เอริคเห็นหยาดน้ำที่เอ่อล้นอยู่ ในใจหล่อนเต็มไปด้วยคำถามว่าเรื่องที่อาบิเกลพูดเป็นความจริงหรือไม่ เขากำลังจะแต่งงานจริงๆ หรือเปล่า

 

ว่าแล้วว่ามันไม่ธรรมดา ท่าทางสนิทสนมขนาดนั้นคงไม่ใช่แค่ญาติกันหรอก เหตุที่มารดาของสองแฝดส่งผู้หญิงคนนี้มา ก็คงเพื่อสร้าง

 

 

 

ความคุ้นเคยเพราะเมื่อแต่งงานกันแล้วอาบิเกลน่าจะมาอยู่ที่นี่ในฐานะนายหญิง

 

“นี่เธอ เธอชื่ออะไรหรือ”

 

“มนตราค่ะ เรียกมลก็ได้” หญิงสาวตอบคนตรงหน้าอย่างอ่อนน้อม ทั้งที่ในใจรู้สึกแปลกๆ การมาของอาบิเกลมันไม่เหมือนกับที่คิดไว้เลย เพราะท่าทีที่หญิงสาวแสดงออกมันชัดเจนมากกว่าอยากแสดงความเป็นเจ้าของ

 

“โอเคจ้ะ มลจ๊ะ เดี๋ยวช่วยเอากระเป๋าของเกลในรถไปเก็บไว้ในห้องทีนะ อยากประเภทเสื้อผ้าให้เรียบร้อยล่ะ นี่ทิปจ้ะ” อาบิเกลส่งแบงก์ห้าร้อยให้มนตรา เอรคิรีบตรงเข้ามาดึงแบงก์นั้นออกไปจากมือ

 

“ทำอะไร มลไม่ใช่คนรับใช้นะอาบิเกล” เขาเอ่ยเสียงแข็ง มองหน้าหล่อนด้วยสายตาดุดัน ไม่ชอบวิธีที่อาบิเกลปฏิบัติกับมนตราแบบนั้น

 

“เกลก็ไม่ได้คิดว่ามลเป็นคนใช้สักหน่อย ดูจากที่พี่เอริคแคร์เธอขนาดนี้ คงเป็นส่วนหนึ่งของบ้านเลยใช่ไหมล่ะคะ เพราะแบบนี้เกลถึงมีสินน้ำใจให้ไง” เธอแสร้งทำยิ้มหวานหยดย้อยเมื่อหันหน้าไปหาเขา แต่พอหันสายตากลับมาทางมนตรา ท่าทางก็เปลี่ยนไป

 

หล่อนรู้สึกได้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา

 

“ไม่เป็นไรค่ะ มลทำให้เอง คุณเกลเก็บเงินไว้เถอะค่ะ มลเต็มใจ” หญิงสาวตอบก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาเพื่อลงไปขนกระเป๋าเสื้อผ้าตามที่

 

 

หล่อนสั่ง เอริครีบเดินตามมาติด โดยไม่สนใจเสียงเรียกของผู้หญิงอีกคนเลยแม้แต่น้อย

 

“พี่เอริคคะ พี่เอริค!” อาบิเกลมองตามหลังไปด้วยความไม่พอใจ หญิงสาวเริ่มระแคะระคายในความสัมพันธ์ของสองคนนั้น ด้วยชายหนุ่มแสดงออกว่าแคร์หล่อนมากเกินกว่าเจ้านายกับลูกน้อง เห็นเอริคใส่ใจยัยแม่บ้านคนนั้นก็ยิ่งทำให้เกิดความไม่พอใจ

 

“มนตรา เดี๋ยวก่อน” เขาเอ่ยเรียก แต่คนถูกเรียกไม่ยอมหยุดเดินตามคำสั่ง หล่อนยังคงจ้ำอ้าวลงบันไดไปจนถึงรถยนต์ที่จอดอยู่ในลานจอดรถ ทำหูทวนลมเหมือนไม่ได้ยินเขาเรียก

 

ร่างสูงตามมาจนถึงตัวทัน เขากระชากแขนเธออย่างแรงแล้วดันจนติดกับประตูรถก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปจูบอย่างดูดดื่ม สองมือออกแรงกดแขนหล่อนให้แนบติดไปกับตัวรถ

 

ทว่าครั้งนี้มนตราไม่ได้เอนอ่อนหรือยอมให้เขาอย่างทุกที หล่อนอาศัยจังหวะอีกฝ่ายดุนดันลิ้นเข้ามา กัดเข้าไปหนึ่งที มนตรากำลังหงุดหงิดเพราะความหึง

 

ทั้งที่เตรียมใจไว้แล้วจะอยู่อย่างเงียบๆ เป็นเมียลับของพวกเขา แต่ลืมคิดไปว่าวันหนึ่งฝาแฝดทั้งสองคงต้องแต่งงานมีครอบครัว

 

“โอ๊ย!” เอริครีบถอนจูบออกมาก่อนจะมองหน้าหญิงสาวด้วยความคาดไม่ถึง

 

 

คนที่ปกติจะทำตัวหวานและอ่อนน้อมอยู่ตลอดตอนนี้กลับกล้าทำให้เขาเจ็บแล้วเหรอเนี่ย

 

แม้ใจอยากจะทำโทษเธอคืนแต่ก็ทำไม่ลง แววตาตัดพ้อของมนตราตอนนี้ทำให้เขาใจอ่อน มนตราไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน

 

เอริคเลยไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไร แค่เรื่องของอาบิเกลก็ทำเขารำคาญใจจะแย่แล้ว นี่มนตรายังมีอาการแปลกๆ อีก เอริคไม่เก่งเรื่องง้อเสียด้วย

 

“เป็นอะไร” ร่างสูงตัดสินใจถามออกไป