เควินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกคน เขาค่อนข้างสดใสและมองโลกในแง่ดีจนมักถูกเปรียบเทียบกับแฝดพี่ว่าเป็นฤดูใบไม้ผลิ ขณะที่พี่ชายนั้นเปรียบเหมือนฤดูหนาว ชายหนุ่มชอบพูดจาทะเล้นทะลึ่งทว่ากลับทำให้มนตรายิ้มได้อยู่
รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ยุคปัจจุบัน,ไทย,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ระฆังรักเควินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกคน เขาค่อนข้างสดใสและมองโลกในแง่ดีจนมักถูกเปรียบเทียบกับแฝดพี่ว่าเป็นฤดูใบไม้ผลิ ขณะที่พี่ชายนั้นเปรียบเหมือนฤดูหนาว ชายหนุ่มชอบพูดจาทะเล้นทะลึ่งทว่ากลับทำให้มนตรายิ้มได้อยู่
เควินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกคน เขาค่อนข้างสดใสและมองโลกในแง่ดีจนมักถูกเปรียบเทียบกับแฝดพี่ว่าเป็นฤดูใบไม้ผลิ
ขณะที่พี่ชายนั้นเปรียบเหมือนฤดูหนาว ชายหนุ่มชอบพูดจาทะเล้นทะลึ่งทว่ากลับทำให้มนตรายิ้มได้อยู่
ตอนที่ 2
มนตรามาจ่ายตลาดเพื่อเตรียมไว้ทำมื้อเย็นรอทั้งสองคนกลับมาจากทำงาน พวกเขามีธุรกิจส่งออกหลายๆ
อย่าง รวมถึงมีคอนโดฯ หรูใจกลางเมืองมากมายไว้ปล่อยขาย หญิงสาวไม่ต้องการเป็นจุดด่างพร้อยในชีวิตของพวกเขาจึงขอเป็นเพียงเมียเก็บเงียบๆ อยู่ในคฤหาสน์ คอยดูแลรับใช้เอริคและเควินไปเรื่อยๆ แบบนี้ก็พอ
“ดูซิว่าฉันเจอใคร” เสียงแหบห้าวน่ารังเกียจดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงเดินตรงมาดักหน้าหล่อน ขนาบข้างเขาคือลูกน้องหน้าโฉดสองคนที่ต้องคอยเดินตามประดับบารมีให้
‘ดีเอโก้’ ลูกครึ่งไทย-อเมริกา เป็นลูกชายเจ้าของตลาดนี้ที่ตามจีบเธอมาสามปีแล้วแต่มนตราไม่เล่นด้วย
เธอไม่ชอบผู้ชายบ้าอำนาจแล้วชอบยกตนข่มท่านแบบเขาถึงพยายามหาหางเลี่ยงมาตลอด
ดีเอโก้เป็นผู้ชายนิสัยน่ารังเกียจ เหตุที่ยังตามจีบไม่หยุดเพียงเพราะอยากเอาชนะเท่านั้น คนแบบนั้นไม่รู้จักคำว่ารักหรอก รู้แค่ว่าไม่ชอบแพ้เพราะมนตราไม่เคยสนใจ ดีเอโก้จึงยังตามตื้อเพื่่ออยากเอาชนะ
“ถอยไป” มนตราสั่งด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
พอเธอจะเดินไปทางซ้าย เขาก็เขยิบมาขวางทางซ้าย พอจะไปขวา เขาก็เขยิบมาขวางทางขวา
เป็นผู้ชายน่ารำคาญและน่ารังเกียจที่สุดเท่าที่หล่อนเคยเจอมา ชอบเอาบารมีของพ่อแม่มาระรานชาวบ้านร้านตลาดแถวนี้
“ชักอยากให้เธอทำให้ฉันถอยแล้วสิ”
“ไม่ถอยใช่ไหม”
“ไม่” ดีเอโก้ยืนยันคำตอบเดิม ทำสีหน้ายียวนกวนเบื้องล่างใครต่อใครเก่งเหลือเกิน
“งั้นฉันถอยเอง” พูดจบมนตราก็หันหลังกลับแล้วเดินไปอีกทางแทน เธอไม่เคยเล่าเรื่องของดีเอโก้ให้พวกเขาฟังเพราะมองว่ามันไร้สาระ
เมื่อถูกหล่อนแสดงทีท่าไม่สนใจเป็นรอบที่ร้อยเขาก็เริ่มไม่พอใจ รีบเดินตามมาแล้วคว้าข้อมือเล็กไว้พร้อมกระชากเข้าหาตัว
“รังเกียจอะไรฉันนักหนา!”
ดีเอโก้ไม่เข้าใจว่าผู้หญิงธรรมดาๆ แบบมนตราทำไมถึงไม่ยอมศิโรราบต่อเขาเสียดี เป็นแค่คนจนๆ ควรดีใจด้วยซ้ำที่มีคนระดับเขามาตามจีบ
“ปล่อยฉันนะ อย่ามาแตะต้องตัวฉัน” มนตราดิ้นสุดแรงพยายามดึงแขนออกจากการเกาะกุมของเขา แต่ยิ่งดิ้น แรงบีบยิ่งมากขึ้น ดวงตาของดีเอโก้วาวโรจน์ขึ้นด้วยความโมโห
“ทำไม ตัวของเธอทำจากทองหรือไงถึงแตะต้องไม่ได้ อย่าเล่นตัวให้มากนักเลย”
จากความชอบกำลังจะทำให้ดีเอโก้อยากเอาชนะหล่อนแทนเสียแล้ว ขอแค่ทำให้ผู้หญิงทะนงตนคนนี้ยอมศิโรราบแทบเท้าได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนเขาก็ไม่เกี่ยง
มนตราต่างจากผู้หญิงคนอื่นที่เร่เสนอตัวให้ มันเลยทำให้เขากระหายอยากจะได้เชยชม
“ฉันไม่ได้เล่นตัว แต่คุณมันน่ารังเกียจเกินต่างหาก!” ไม่อยากให้เขาแตะต้องตัวมันขยะแขยงมาก ไม่ได้รู้สึกดีเหมือนที่ถูกสองแฝดสัมผัสตัว และมนตราไม่เคยคิดอะไรกับดีเอโก้เลย
“ว่าไงนะ!” คนถูกด่าโกรธจนตัวสั่น เงื้อมมือขึ้นหมายจะตบหน้าคนปากดีให้หายแค้นแต่กลับถูกใครบางคนรั้งแขนเขาเอาไว้
เควินเหยียดยิ้มด้วยใบหน้าของเทพบุตร หากแต่แรงบีบแขนของดีเอโก้นั้นมากมายมหาศาลจนอีกฝ่ายหน้าเหยเกด้วยความเจ็บ
“คิดจะทำร้ายผู้หญิง ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลยนะ”
เสียงบุรุษดังขึ้นจากทางด้านหลัง เป็นเสียงที่มนตรารู้สึกคุ้นเคย เมื่อหันไปก็เห็นชายคนคุ้นเคยยืนทำหน้ายักษ์ใส่ดีเอโก้อยู่
“คุณเควิน” มนตรายิ้มกว้างด้วยความดีใจเมื่อเห็นหน้าเขา รีบเดินเข้าไปหลบอยู่ด้านหลังคนตัวสูงแล้วปล่อยให้เขาจัดการไป
ด้วยความที่ดีเอโก้เพิ่งอายุเพียงยี่สิบปลายๆ ถือว่ากระดูกยังคนละเบอร์กับเควินมากนัก
“มัวยืนทำซากอะไรวะ จัดการมันสิ!” ดีเอโก้ออกปากสั่งลูกน้องของตนเอง ทว่าพวกมันไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวด้วยคนของอีกฝ่ายยืนทำหน้าถมึงทึงมากกว่าหลายเท่า
เควินไม่ได้มาคนเดียวแต่มีลูกน้องมาด้วยหลายคน ถ้าจะวัดกันล่ะก็พวกของดีเอโก้คงสู้ไม่ได้แน่ คนของเขาฝีมือระดับพระกาฬ ต่างจากคนของฝั่งตรงข้าม
“นี่เจ้าไก่อ่อน”
“ว่าไงใครไก่อ่อน! รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร” ดีเอโก้เดือดดาลเมื่อถูกสบประมาท ไม่รู้หรอกว่าฝ่ายตรงข้ามไปใครแต่มาหยามกันแบบนี้ยอมไม่ได้
“ปัญญาอ่อนเหรอเรา ตัวเองเป็นใครยังไม่รู้เที่ยวถามชาวบ้านเขาไปทั่ว” หญิงสาวยกมือขึ้นปิดปากกลั้นขำเมื่อเห็นเควินตอกกลับได้อย่างสะใจ ร่างสูงผลักตัวดีเอโก้ส่งคืนให้ลูกน้องก่อนตวัดโอบร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน
“แล้วอย่าคิดแตะต้องคนของฉันอีก ไม่อย่างนั้นนายเจอของจริงแน่” น้ำเสียงสุดท้ายเย็นเยียบจนคนฟังพากันขนลุกพรึ่บ
เขาคว้าแขนหล่อนพาเดินออกไปยังรถที่จอดอยู่หน้าตลาด พาขึ้นรถออกไปพร้อมกัน
“คุณมาได้อย่างไรคะ ฉันนึกว่าไปทำงานแล้วเสียอีก”
“ผมลืมเอกสารการประชุมเลยรีบกลับมาเอาน่ะ ไม่อย่างนั้นพี่บ่นหูชาแน่” ตอบเสร็จก็ทิ้งตัวนอนลงบนตักนุ่มของหญิงสาวที่เบาะหลัง เอามือเธอมาระดมจูบอย่างออดอ้อน
“ดีนะที่ผมหันมาเห็นคุณพอดีเลยลงไปช่วยได้ทันว่าแต่เด็กนั่นเป็นใครเหรอ ทำไมถึงพยายามทำรุ่มร่ามกับคุณนัก”
“ลูกชายเจ้าของตลาดค่ะ เขาชอบทำตัวกร่างไปเรื่อยแบบนั้นเป็นประจำ คนแถวนี้ชินกันหมดแล้ว” มนตราอธิบายให้ฟัง มือเล็กอีกข้างลูบเส้นผมลุ่มของคนตัวโตกว่า ไม่กล้าบอกว่าดีเอโก้มาจีบกลัวจะเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต
“ถ้าเขามาทำอะไรคุณอีก ต้องบอกผมหรือบอกเอริค อย่ายอมให้ใครแตะตัว เข้าใจไหม?” สายตาหวานละมุนมีให้หล่อนแค่คนเดียว เขากดจูบลงตรงข้อมือของหญิงสาวที่ถูกดีเอโก้บีบแน่นจนเกิดรอยแดง
“เข้าใจแล้วค่า”
“จริงสิ พี่ให้ผมบอกคุณอีกเรื่อง ช่วยเตรียมห้องรับรองแขกไว้หนึ่งห้องหน่อยนะครับ คุณแม่โทรมาบอกว่าลูกสาวของเพื่อนสนิทจะมาขอพักที่นี่ชั่วคราว เป็นผู้หญิงอายุไล่เลี่ยกับคุณเลยนะ น่าจะเป็นเพื่อนคุยกันได้ คุณจะได้ไม่เหงาเวลาผมกับพี่ไปทำงาน”
หญิงสาวพยักหน้ารับ เธอไม่เคยเจอตัวจริงคุณพ่อกับคุณแม่ของพวกเขาเลยนอกจากรูปถ่ายติดฝาบ้านรูปเบ้อเริ่ม ได้ยินมาว่าทั้งคู่ต้องไปดูแลงานสาขาที่ต่างประเทศ ก็เลยแยกกันอยู่กับลูกชายของตนเอง
“รับทราบค่า ฉันจะจัดการให้ค่ะ”
มนตราพร้อมรับคำสั่งอยู่แล้ว อยู่เฉยๆ แล้วเบื่อได้หยิบจับอะไรบ้างก็ดีใจ เริ่มคิดแล้วว่าจะจัดห้องอย่างไรดีเพื่อให้ลูกสาวของเพื่อนสนิทมารดาสองแฝดพึงพอใจ รู้สึกตื่นเต้นอยู่เหมือนกันที่จะมีแขกมาที่คฤหาสน์