"เมื่อเจ้านายผู้เป็นดั่งโลกทั้งใบจากไป... เหลือเพียงแมวตัวหนึ่งและต้นฉบับที่ยังไม่จบ!" ไรเตอร์ แมวข้างถนนที่ได้รับการช่วยเหลือจากโจคิน นักเขียนชื่อดัง แต่วันหนึ่งชะตากลับเล่นตลก... เมื่อเจ้านายของมันจากไป ทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่าและภารกิจสุดท้าย—สานต่อนิยายมหากาพย์ที่ยังไม่จบ! ท่ามกลางสายตาของผู้คนทั้งโลก อุ้งเท้าคู่นี้จะสามารถจรดปลายปากกาแทนมนุษย์ได้หรือไม่?
และที่สำคัญ... พินัยกรรมของเจ้านายได้พลิกชีวิตของมันไปตลอดกาล

อุ้งเท้าและหยดหมึก - CHAPTER 4 ผู้สืบทอดเจตนารมย์ โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ไทย,ดราม่า,พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,แฟนตาซี,แมว,ความรัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

อุ้งเท้าและหยดหมึก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ไทย,ดราม่า

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,ดราม่า,แฟนตาซี,แมว,ความรัก

รายละเอียด

อุ้งเท้าและหยดหมึก โดย นิวไม่จิ๋ว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"เมื่อเจ้านายผู้เป็นดั่งโลกทั้งใบจากไป... เหลือเพียงแมวตัวหนึ่งและต้นฉบับที่ยังไม่จบ!" ไรเตอร์ แมวข้างถนนที่ได้รับการช่วยเหลือจากโจคิน นักเขียนชื่อดัง แต่วันหนึ่งชะตากลับเล่นตลก... เมื่อเจ้านายของมันจากไป ทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่าและภารกิจสุดท้าย—สานต่อนิยายมหากาพย์ที่ยังไม่จบ! ท่ามกลางสายตาของผู้คนทั้งโลก อุ้งเท้าคู่นี้จะสามารถจรดปลายปากกาแทนมนุษย์ได้หรือไม่?
และที่สำคัญ... พินัยกรรมของเจ้านายได้พลิกชีวิตของมันไปตลอดกาล

ผู้แต่ง

นิวไม่จิ๋ว

เรื่องย่อ

เมื่อแมวตัวหนึ่ง ต้องสานต่อนิยายระดับโลกที่ยังไม่จบ!

ไรเตอร์ แมวข้างถนนผู้เคยถูกทอดทิ้ง โชคชะตานำพามันมาพบกับ โจคิน นักเขียนชื่อดังที่รับมันมาเลี้ยง วันเวลาผ่านไป แมวส้มตัวจิ๋วกลายเป็นเพื่อนแท้เพียงหนึ่งเดียวของนักเขียนผู้โดดเดี่ยว พวกเขาใช้ชีวิตร่วมกันในห้องทำงานอันเงียบเหงา โดยที่ไรเตอร์เองก็คอยเฝ้าดูเจ้านายของมันสร้างสรรค์เรื่องราวในนิยายแฟนตาซีระดับตำนาน "ตำนานเพลิงอมตะ"

แต่แล้ว... โจคินกลับล้มลงอย่างกะทันหัน เขาจากไปโดยทิ้งนิยายเล่มสุดท้ายไว้เพียงครึ่งเรื่อง

ในขณะที่โลกของนักอ่านกำลังรอคอยบทสรุปของมหากาพย์ที่ไม่มีใครรู้ว่าจบอย่างไร พินัยกรรมของโจคินกลับสร้างความตกตะลึงให้กับทุกคน—ทายาทเพียงผู้เดียวที่จะได้รับมรดกทั้งหมด คือ ไรเตอร์... แมวของเขา!

และเงื่อนไขของพินัยกรรมคือ... นิยายต้องถูกเขียนให้จบ!

แต่ใครกันล่ะ ที่จะสามารถสานต่อผลงานของนักเขียนอัจฉริยะผู้นี้?
หรือว่า...อุ้งเท้าสองข้างของไรเตอร์ จะเป็นผู้หยิบปากกาแล้วเขียนมันขึ้นมาเอง!?

ท่ามกลางแรงกดดันจากทายาทสายเลือดแท้ผู้โลภโมโทสัน และเหล่าแฟนคลับที่เฝ้ารอการปิดฉากตำนานแห่งวรรณกรรม ไรเตอร์จะสามารถเติมเต็มบทสุดท้ายของเรื่องราวนี้ได้หรือไม่?

📖🐾 "อุ้งเท้าและหยดหมึก" เรื่องราวของมิตรภาพ ความฝัน และพันธะสัญญาที่ถูกส่งต่อ...แม้ในวันที่เจ้าของมันจากไป

สารบัญ

อุ้งเท้าและหยดหมึก-CHAPTER 1 สู่ห้วงมรณะแห่งอนันต์อนธกาล,อุ้งเท้าและหยดหมึก-CHAPTER 2 ทายาทแห่ง เจ.โจคิน,อุ้งเท้าและหยดหมึก-CHAPTER 3 เปลวไฟที่ถูกส่งต่อ,อุ้งเท้าและหยดหมึก-CHAPTER 4 ผู้สืบทอดเจตนารมย์

เนื้อหา

CHAPTER 4 ผู้สืบทอดเจตนารมย์

หากไม่ได้พรแห่งสติปัญญาจากเทพแห่งความฝันจอมอวดดีนั้น ผมคงไม่สามารถอ่านนิยาย ‘ตำนานเพลิงอมตะ’ ตั้งแต่เล่มหนึ่งถึงเล่มหกได้จนครบในหนึ่งคืนหรอก ขอบคุณเนื้อหาเล่มเจ็ดที่โจคินแอบเขียนไว้อย่างลับ ๆ และความทรงจำตอนจบของนิยายซึ่งฝังอยู่ในหน่วยความจำในสมองจึงปลดล็อกพลั่งพลูออกมาราวน้ำพุ

แม้จะรู้ถึงตอนจบของนิยายแล้ว หากไม่รู้ถึงที่มาที่ไปของเนื้อเรื่อง ปมปัญหา ความขัดแย้งหรือซินาริโอก่อนหน้าคงไม่สามารถสานต่อได้ ภูมิปัญญาแห่งพรไหลเต็มสมองจนรู้สึกราวกับว่ามันจะระเบิดในช่วงแรก ในเวลาต่อมามันเริ่มบรรเทาลงกระทั่งหายดีเป็นปกติ นับว่าเป็นความทรมานเกินกว่าแมวตัวหนึ่งรับได้ ผมวางแผนสิ่งจำเป็นหน้าหลังก่อนเริ่มด้วยการเขียนเนื้อเรื่องที่เจ้าทาสโจคินเล่าให้ฟังลงในกระดาษเปล่าภาพวันที่เหน็บหนาวภายใต้หลังคาซีเมนต์ โจคินนั่งบนเก้าอี้โซฟาโยกเยกพร้อมกับผมซึ่งนอนหมอบกับต้นขาชายชรา ความอบอุ่นแผ่ซ่านจนเผลอหลับตาเข้าสู่ห้วงอนันต์

ขณะนั้นเจ้าทาสได้เริ่มเล่าตอนจบของตำนานเพลิงอมตะตั้งแต่ต้นจนจบในครั้งแรก จากนั้นจึงเล่ารายละเอียดของเหล่าตัวละคร เรื่องราว เหตุและผลต่าง ๆ ให้ฟัง แน่นอนว่าตอนนั้นระดับสติปัญญาของผมไม่เท่าตอนนี้ จึงไม่เข้าใจในสิ่งที่เจ้าทาสเล่า

ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว และจำได้ทุกคำพูด แม้นายจะตาย คืนร่างกายแก่ธรรมชาติ มรดกเรื่องราวนิยายของนายได้ถูกส่งต่อมาหาผมเหมือนเปลวไฟที่ไม่มีวันดับ

 

แผนการคัดลอกตั้งแต่บทที่หนึ่งล้มเหลว จึงตัดสินใจเริ่มอ่านเพื่อทำความเข้าใจตัวละครทั้งหมดแล้วเริ่มสานต่อจากที่เจ้าทาสเขียนทิ้งไว้

 

ผมจับปากกาจุ่มหมึกและเริ่มเขียนสิ่งที่อยู่ในความคิดด้วยอุ้งเท้าหน้า ในตอนแรกการควบคุมอุ้งเท้าหน้าและนิ้วในการขยับปากกาให้เขียนแต่ละตัวนั้นช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน ไหนจะยังรู้สึกเจ็บบริเวณกรงเล็บอีก แต่ด้วยพรแห่งปัญญาจึงทำให้ผมเรียนรู้ที่จะเขียนออกมาได้อย่างรวดเร็วโดยกัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวด

‘ใช่… ผมจำได้ ผมจำได้แล้ว’ ผมเบิกตาโตจนนัยน์สีดำบีบแคบลง ความทรงจำและองค์ความรู้อัดแน่นอยู่ภายในพลั่งพลูราวกับน้ำพุ

ช่วงที่ผมชอบกระโดดขึ้นไปขัดขวางการทำงานเพื่อให้อีกฝ่ายสนใจ เขากลับอุ้มผมลงมานั่งบนต้นขาแล้วถ่ายทอดความรู้การเล่าเรื่องไปในตัวเหมือนอาจารย์สอนลูกศิษย์ หากเทียบเป็นภาพยนตร์จอมยุทธ 
ผมคงเป็นศิษย์เอกดอกบัวตูมใต้โคลนตมกระทั่งเบ่งบานรับแสงตะวันเหนือผิวน้ำอย่างสง่า

เจ้าทาสโจคินไม่เคยมีลูกศิษย์ เขามักเขียนงานด้วยตัวคนเดียวใบหน้าเคร่งขรึมเสมอ ผมทำได้เพียงเอาศีรษะไปถูคลอเคลียเพื่อช่วยบรรเทาความเครียด ผมไม่เคยรู้หรอกว่างานของเจ้าทาสกำลังทำเพื่อซื้ออาหารเปียกนั้นมันสำคัญหรือหนักหนาสาหัสขนาดไหน แต่เชื่อเถอะ เจ้าทาส…แค่ผมจรดหัวปากกาจุ่มหมึกสีดำบนกระดาษขาวว่างเปล่าแผ่นนี้ัสัมผัสได้

บทสุดท้ายของนิยายควรจะยาวและยิ่งใหญ่ ลึกซึ้งกินใจสมกับที่ให้คนทั้งโลกรอมาเป็นเวลายาวนาน หากมาเขียนต่อโดยไม่มีการวางแผนในกระดาษคงล้มเหลวไม่เป็นท่า เหมือนเวลาล่าเหยื่อ ต่อให้เชื่อในสัญชาตญาณทั้งหมดแต่ไร้แผน มื้อนั้นคงไม่ได้เป็นอันอิ่มท้องแน่

กระดาษอีกแผ่นถูกหยิบออกมาเพื่อร่างโครงของบทสุดท้ายตามที่เขียนในกระดาษแผ่นก่อนหน้า ช่างน่าแปลกที่สติปัญญาในตอนนี้สามารถคิดอะไรได้เร็วและซับซ้อนกว่าที่เคยเป็น ผสมกับจินตนาการของตัวเองลงไปอีกหน่อยเนื่องจากบางอย่างไม่ค่อยสมประกอบเหมือนสิ่งที่เจ้าทาสเล่าให้ฟังยังไม่ตกตะกอนดี

จากนั้นผมตัดสินใจหยิบหนังสือมาอ่านทบทวนอีกครั้งก่อนเริ่มร่างบทละครหยาบหรือเรียกว่า ‘ทรีตเมนต์แบบหยาบ’ ตามที่เจ้าทาสนั่นสอนไว้ เมื่ออ่านไปได้ท่อนหนึ่งคิดว่าไม่ดีพอจึงตัดสินใจขยำกระดาษเป็นก้อนกลมโยนไปมุมหนึ่งของห้อง

ให้ตายสิโจคิน… นายเค้นไอเดียพวกนี้มาจากไหนกันนะ 
ต้องยอมรับเลยว่าสมองของนายไม่ธรรมดาจริง ๆ ที่เขียนออกมาได้ตั้งหกเล่มในขณะที่ผมเขียนตอนเดียวก็แทบแย่

หลังจากเขียนไปขยำทิ้งไปเริ่มรู้สึกว่าสมอง ปากกาและอุ้งเท้าหน้าเริ่มประสานกันได้ดีขึ้น สำนวนภาษาเริ่มเข้าที่ กว่าทรีตเมนต์ถูกเขียนจบแบบสมบูรณ์นั้นใช้เวลาจนเกือบเช้า ท้องไส้ส่งเสียงครวญครางร้องเรียกหาพลังงาน ผมมองอุ้มเท้าสีขาวตอนนี้เปรอะหมึกเป็นดวงพร้อมถอนหายใจก่อนวางปากกาลงแล้วเดินไปยังกล่องกระดาษใบหนึ่ง

ผมยืนสองขาแล้วใช้อุ้งเท้าคู่หน้าเปิดฝากล่องเผยให้เห็นซองอาหารเปียกรสโปรดซึ่งเจ้าทาสสั่งซื้อทางแพลตฟอร์มออนไลน์ในราคาถูกด้วยโค้ดส่งฟรีแทนที่จะขับรถออกไปซื้อด้วยราคาไม่ต่างกันเท่าไหร่ เขาเคยกระโดดโล้ดเต้นไปมาอย่างดีใจเพราะร้านค้านั้นดันจัดโปรโมชั่นลดราคาทั้งร้าน ส่งผลให้ประหยัดค่าใช้จ่ายอาหารผมได้อีกเยอะ ทันใดนั้นน้ำตาดันเอ่อขึ้นกระทันหัน ผมกลืนน้ำลายลงคอก่อนเช็ดดวงตาด้วยแขน

เสียงที่แผ่วเบาแต่ก้องกังวานในห้วงลึกเปล่งจากหัวใจเริ่มกรีดร้อง ผมหยิบซองอาหารเปียกขึ้นมาหนึ่งซอง ฉีกส่วนบนออกกลิ่นปลาทูผสมไก่เคลือบด้วยเยลลี่หวานพวยพุ่งเตะจมูก จากนั้นผมจึงหยิบช้อนกาแฟจากลิ้นชักใกล้ตัวตักอาหารเข้าปาก ทันใดนั้นน้ำตากลับไหลพรากอย่างช่วยไม่ได้…

โจคิน เจ้าทาสที่รัก…ผมเหงาเหลือเกิน ผมคิดถึง ผมคิดถึงคุณมาก ๆ

เมื่อไหร่? เมื่อไหร่ผมจะได้ไปเจอคุณกันนะ?

“เมี๊ยว!” ผมสะอึ้นพร้อมเคี้ยวอาหารทั้งน้ำตา ร่างกายสั่นระริก หางตกลงพื้นนิ่งไม่ไหวติง “เมี๊ยว!! ม๊าวว!!”

 

เมื่อกินหมดแล้วจึงทิ้งถังขยะซึ่งเริ่มส่งกลิ่นเหม็นจากที่ไม่ได้เก็บถุงขยะเก่าไปทิ้งและโยนช้อนกาแฟลงในอ้างล่างจานแล้วกลับไปเขียนต่อ ยิ่งมีพลังงานลงท้องจึงส่งผลให้สมองทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น อุ้งเท้าหน้าเริ่มทำงานไม่ต่างจากมือมนุษย์ด้วยความเคยชิน แต่เริ่มปวดจนต้องหยุดพักเป็นระยะ ให้ตายสิ… โจคินมันเขียนได้ยังไงเป็นเล่มหนาเตอะขนาดนั้นกันนะ มือของนายต้องแข็งแรงมากแน่ ๆ

ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ กองก้อนกระดาษขยำเริ่มสูงขึ้น ตอนนี้ผมสามารถขยับไปเขียนบทสรุปจริงหลังจากพอใจในแบบร่างเป็นที่เรียบร้อย ผมงีบเพียงสิบนาทีก่อนลุกขึ้นมาเขียนต่อด้วยความวิริยอุตสาหะ กัดฟันแน่นเค้นคลังคำที่เคยอ่าน พยายามคัดลอกสำนวนของต้นฉบับให้ได้มากที่สุด แม้ว่าผมยังเป็นมือใหม่ แต่ด้วยองค์ความรู้ของนักเขียนนิยายมือฉมังระดับโลกถ่ายทอดให้พร้อมเจตนารมย์ ผมจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง

คอยดูผมอยู่บนสวรรค์นะ ผมจะทำให้ทั้งโลกต้องตะลึง!!

เสียงหัวปากกาขูดขีดบนหน้ากระดาษครั้งแล้วครั้งเล่าท่ามกลางความเงียบสงัด สู้กับความปวดหัว ความตึงเครียดและภาระอันค่อนหนักอึ้งทุกวินาที โจคิน…นายแบกรับอะไรแบบนี้ไว้บนบ่าเสมอเลยเหรอ? นั่นสินะ นายเคยถึงขั้นวางปากกา ลุกจากเก้าอี้ตัวนั้นเพื่ออุ้มผมไปกอดบนเตียงโดยไร้คำพูดใด ๆ ผมไม่รู้ควรปลอบเขาอย่างไรดี แต่กลิ่นความเศร้าหมอง อารมณ์ด้านลบแผ่ฟุ้งกระจายเหมือนเกสรดอกไม้

ความรู้สึกที่ผมไม่เคยเข้าใจ บัดนี้กระจ่างแล้ว

ผมกัดฟันเดินหน้าเขียนต่อ ตัวอักษรแต่ละตัวผ่านไปยาวนานแรมปี ลายมือไม่สามารถเทียบเท่าเจ้าทาส นั่นไม่สำคัญเท่าเนื้อหาอันล้ำค่า ปึกเล่มเจ็ดถูกแยกกองเอาไว้แล้ว เหลือเพียงต้นฉบับตอนสุดท้ายดั่งส่วนจิ๊กซอว์ทำให้ภาพทั้งผืนสมบูรณ์บรรทัดต่อบรรทัดผ่านไป กล้ามเนื้ออุ้งเท้าสามารถปรับตัวได้จนสามารถเขียนได้เร็วขึ้นรวมถึงเจ็บน้อยลง

ในที่สุดต้นฉบับบทปิดฉากของตำนานเพลิงอมตะเสร็จสมบูรณ์

ผมยืนมองต้นฉบับที่เสร็จแล้วอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง อยู่ดี ๆ รู้สึกอ่อนเพลีย อุ้งเท้าอ่อนเปลี้ย กายหยาบโอนเอนไปมา เปลือกตาหนักอึ้งไม่สามารถต้านทานราวกับถูกสูบวิญญาณหมดร่าง

.

.

.

เมื่อครั่นได้ยินเสียงเคาะประตูของบ.ก.ต้นกล้า ฉุดรั้งดึงสติจากภวังค์และอิรุงตุงนังก่อนที่เขาจะเห็นต้นฉบับนิยายตำนานเพลิงอมตะบทสุดท้าย เขาหยิบมันขึ้นมาด้วยสองมือ ประคับประคองมันอย่างระมัดระวังราวกับมันสามารถแหลกสลายได้ทุกเมื่อ ปากอ้าค้าง ดวงตาเบิกโตกลอกไล่อ่านตามตัวอักษรไปมาแต่ละบรรทัดด้วยความตกใจ

แน่นอนว่าผมไม่เคยเตรียมพร้อมสำหรับการถูกให้บรรณาธิการอ่านงานแรกมาก่อน แต่ด้วยด้วยสถานการณ์อันหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้คงไม่มีทางเลือก

“หนะ… นี่มัน” เขาหันมาทางผมด้วยสีหน้าคาดเดาได้ยาก ผมทำได้เพียงถอนหายใจยาวหนึ่งครั้ง แต่กลับแปลกใจเมื่อคำพูดต่อไปของชายวัยกลางคนปนเสียงสะอึ้น “แก…แกเขียนเองเหรอ? ไรเตอร์ พระเจ้า! แกเป็นคนเขียนออกมาจริง ๆ สินะ ลายมือนี้ฉันจำได้ นี่ไม่ใช่ลายมือของอาจารย์โจคินแน่ แล้วที่อยู่ตรงมุมห้องนั่นคืออะไร? หนะ… นี่มันต้นฉบับของเล่มเจ็ดนี่หว่า! แถมยังเป็นลายมือของอาจารย์โจคินไม่ผิดแน่! แต่ทำไมเขาถึงแอบเขียนโดยไม่บอกอะไรฉันเลยล่ะ อุตส่าห์ปลงไว้แล้วแท้ ๆ ว่าตำนานเพลิงอมตะเล่มเจ็ดคงไม่มีวันออกสู่สายตาชาวโลก แน่นอนว่าบทสุดท้ายในมือของฉันคงไม่ใช่ฝีมือไอ้เด็กโลภมากนั่นด้วย ให้ตายเถอะ ไรเตอร์! แกทำให้เจ้านายของแกกลับมามีชีวิตโลดแล่นบนหน้ากระดาษอีกครั้ง!!”

บ.ก.ต้นกล้าพุ่งเข้ากอดพร้อมซุกหน้าเข้าบริเวณส่วนอ่อนไหวจนขนเปียกแฉะ

“ขอบคุณ!! ขอบคุณ!! ขอบคุณ!! ขอบคุณ!! ขอบคุณ!! ขอบคุณ!! ขอบคุณ!! ขอบคุณจริง ๆ ขอบคุณมาก ๆ ไรเตอร์” ชายวัยกลางคนสะอึ้นเสียงดัง “แกคือทายาทแห่งเจ.โจคินจริง ๆ!!”

 

ตุ๊บ!!

 

เสียงของบางอย่างกระทบพื้นดังทำเอาสะดุ้งใจหล่นฮวบไปอยู่ตรงตาตุ่ม ประสาทการได้ยินรู้สึกถึงเสียงฝีเท้าหนัก ๆ กำลังสาวเท้าถี่ไกลออกไป สงสัยว่าเป็นขโมยหรือเปล่า

ผมกับบ.ก.ต้นกล้าพุ่งออกไปดูพร้อมกันปรากฎว่าพบแต่ความว่างเปล่า แต่ด้วยความสูงของมนุษย์และแมวแตกต่างกันจึงเห็นบางอย่างที่ต่างฝ่ายมองไม่เห็นได้

โดยเฉพาะปึกกระดาษหนาหลายร้อยหน้าวางอยู่ใกล้ธรณีประตูโดยแผ่นหน้าเขียนไว้ว่า

ตำนานเพลิงอมตะเล่มที่เจ็ด เขียนโดย มาร์คัส ไวเปอร์ ทายาทแห่งเจ. โจคิน

____________________________________

To Be Continue CHAPTER 5