ดอย แสงจันทร์ที่เงียบสงบมานานอีกไม่นานนี้ความรักและเสียงหัวเราะของคุณครูอาสาและเหล่าทหาร อารักษ์ป่า จะกำเนิดขึ้นในที่แห่งนี้ ที่ที่ไม่เหมือนใครบนผาแสงจันทร์……

ใต้เเสงจันทร์ - บทที่2 จันทร์หอบดาว โดย Mention disorder @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,ตลก,ชาย-ชาย,รั้วโรงเรียน,พี่กร,อินทร์,ใต้เเสงจันทร์,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ใต้เเสงจันทร์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,ตลก,ชาย-ชาย,รั้วโรงเรียน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พี่กร,อินทร์,ใต้เเสงจันทร์,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

ใต้เเสงจันทร์ โดย Mention disorder   @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดอย แสงจันทร์ที่เงียบสงบมานานอีกไม่นานนี้ความรักและเสียงหัวเราะของคุณครูอาสาและเหล่าทหาร อารักษ์ป่า จะกำเนิดขึ้นในที่แห่งนี้ ที่ที่ไม่เหมือนใครบนผาแสงจันทร์……

ผู้แต่ง

Mention disorder

เรื่องย่อ

บนดอยแสงจันทร์ ที่ซึ่งสายลมพัดโชยและแสงจันทร์สาดส่องผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ เรื่องราวความรักของชายหนุ่มสองคนได้เริ่มต้นขึ้น กร ทหารหนุ่มผู้มีหน้าที่ปกป้องผืนป่า และอินทร์ ครูอาสาผู้มุ่งมั่นที่เพิ่งย้ายมาปฏิบัติหน้าที่บนดอย พวกเขาต่างมีเป้าหมายและอุดมการณ์ของตัวเอง แต่เมื่อโชคชะตาพาให้ทั้งคู่ได้มาพบกัน สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น


ท่ามกลางความท้าทายของธรรมชาติและวิถีชีวิตบนดอย ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะเติบโตขึ้นได้อย่างไร ในขณะที่ภูผา เพื่อนรักของกร และต้นสน เพื่อนสนิทของอินทร์ ก็กำลังค้นพบความรู้สึกที่มีต่อกันและกัน


นิยายเรื่องนี้จะพาคุณผู้อ่านไปสัมผัสกับความรัก มิตรภาพ รอยยิ้ม และน้ำตา ท่ามกลางบรรยากาศอันสวยงามของดอยแสงจันทร์


สารบัญ

ใต้เเสงจันทร์-บทที่1 การพบกันครั้งแรก,ใต้เเสงจันทร์-บทที่2 จันทร์หอบดาว

เนื้อหา

บทที่2 จันทร์หอบดาว

ดอยแสงจันทร์เป็นดั่ง โลกใหม่ที่อินทร์กำลัง เรียนรู้ ขณะที่เขายืนมองรถทหารสีเขียวที่จอด อยู่หน้ารั้วโรงเรียน เห็นร่างสูงของทหารสอง นายกำลังขนของลงจากรถ




"นั่นทหารจากค่ายที่สมหมายเล่าให้ฟังใช่ ไหม?" อินทร์ถามต้นสน พลางเพ่งมองด้วย ความสนใจ




"ใช่ค่ะ" ต้นสนพยักหน้า "พวกเขามาส่ง อุปกรณ์การเรียนและเครื่องใช้ที่จำเป็นให้ โรงเรียนเป็นประจำส่วนใหญ่มาเดือนละครั้ง หรือสองครั้ง"




อินทร์สังเกตเห็นทหารร่างสูงคนหนึ่งที่ดู เคร่งขรึมกว่าอีกคน กำลังยกกล่องหนักลง จากรถ แววตาของเขาดูจริงจังและแข็งกร้าว




"คนนั้นชื่อกร" ต้นสนพูดเบาๆ เมื่อเห็นอินทร์ จ้องมอง "เขาเป็นหัวหน้าหน่วยลาดตระเวน ดู เหมือนจะไม่ค่อยเป็นมิตรแต่จริงๆ แล้วเขา ใจดีนะ แค่ไม่ค่อยพูดเท่านั้นเอง ส่วนอีกคน ชื่อภูผา เป็นคนร่าเริง คอยช่วยสอนกีฬาให้ เด็กๆ บางครั้ง"




อินทร์พยักหน้าเบาๆ ขณะที่ต้นสนโบกมือ ทักทาย ภูผาเห็นจึงโบกมือตอบกลับพร้อม รอยยิ้มกว้าง ส่วนกรเพียงแค่เหลือบมองมาที่ พวกเขา สายตาของเขาสบกับอินทร์เพียงชั่ว ครู่ก่อนจะกลับไปสนใจกับการขนของต่อ


"เราไปทักทายกันเถา ต้นสนชวน "ฉันจะ แนะนำให้รู้จัก "




อินทร์เดินตามต้นสนไปที่ประตูรั้วโรงเรียน ภูผาเห็นพวกเขาเดินมาจึงวางกล่องในมือลง และเดินเข้ามาทักทาย




"สวัสดีครับครูต้นสน" ภูผายกมือไหว้รอยยิ้ม เป็นมิตรปรากฏบนใบหน้าคมเข้ม "วันนี้ดู สดใสเป็นพิเศษนะครับ"




"สวัสดีค่ะคุณภูผา" ต้นสนรับไหว้ "นี่ครูอินทร์ ค่ะ ครูภาษาอังกฤษคนใหม่ของเรา เพิ่งมาถึง เช้านี้เอง"




"ยินดีที่ได้รู้จักครับ" อินทร์ยกมือไหว้ภูผา "ได้ยินเรื่องราวของทหารที่นี่มามากเลยครับ"




"ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับครูอินทร์" ภูผารับ ไหว้และยิ้มกว้าง "ผมหวังว่าครูจะชอบที่นี่นะ ครับ อากาศดีวิวสวรวบ้านก็ใจดี แค่ ความเป็นอยู่อาจจะไมเหมือนในเมืองเท่านั้น"




กรที่กำลังยกกล่องอยู่หันมามองการสนทนา ของเพื่อนกับครูใหม่ เขาเห็นอินทร์ชัดเจนขึ้น ชายหนุ่มผิวขาว รูปร่างโปร่ง ท่าทางอ่อนโยน ดูไม่น่าจะทนความลำบากบนดอยได้




ภูผาสังเกตเห็นสายตาของกรจึงโบกมือเรียก "เฮ้ย กร! มาทักทายครูใหม่หน่อย"




กรวางกล่องลงแล้วเดินมาช้าๆ ใบหน้าเรียบ เฉย ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เขายกมือไหว้ ต้นสนอย่างสุภาพแล้วหันไปทางอินทร์




"สวัสดีครับ ผมกร" เขาแนะนำตัวสั้นๆ




"สวัสดีครับ ผมอินทร์ ยินดีที่ได้รู้จักครับ" อินทร์ยิ้มอย่างเป็นมิตร ยกมือไหว้กรด้วย ท่าทางสุภาพ




กรพยักหน้ารับ ก่อนๆ จต่อด้วยน้ำเสียง เรียบๆ "ชีวิตบนดอยไม่เหมือนในเมือง ทั้ง




หนาว ทั้งหมอกลง บางครั้งถนนก็ลื่น อันตราย ครูระวังตัวด้วยนะครับ"




คำพูดของกรฟังดูเหมือนคำเตือน แต่น้ำเสียง แฝงความไม่เชื่อมั่นว่าคนเมืองอย่างอินทร์จะ อยู่รอดบนดอยได้




"ขอบคุณสำหรับคำเตือนครับ" อินทร์ตอบ ด้วยรอยยิ้ม ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวกับท่าทีเย็นชา ของกร "ผมเตรียมใจมาแล้วว่าต้องเจอ อุปสรรคบ้าง แต่ผมพร้อมที่จะเรียนรู้และปรับ ตัวครับ"




กรเหลือบมองอินทร์อีกครั้ง คราวนี้มีความ ประหลาดใจเล็กน้อยในแววตา เขาไม่คาด คิดว่าจะได้รับคำตอบที่มั่นใจเช่นนั้น




"พวกเราเอาอุปกรณ์การเรียนมาส่งครับ"




ภูผารีบเปลี่ยนเรื่อง เมื่อรู้สึกถึงบรรยากาศที่ อึดอัดเล็กน้อย




"มีหนังสือ สมุด ดินสอ และ อุปกรณ์กีฬาด้วย ทางกองทัพส่งมาให้ โรงเรียนบนดอยครับ"




"ขอบคุณมากนะคะ" ต้นสนกล่าว "เด็กๆ ต้อง ดีใจมากแน่ๆ โดยเฉพาะอุปกรณ์กีฬาใหม่ๆ"




"งั้นผมขอตัวไปขนของต่อนะครับ" กรพูด เรียบๆ ก่อนจะหันหลังกลับไปที่รถ




ภูผาส่ายหน้าเบาๆ กับพฤติกรรมของเพื่อน ก่อนจะหันมาขอโทษ "ขอโทษด้วยนะครับ กร เป็นคนแบบนี้แหละ เขาต้องการเวลาในการ ทำความรู้จักคนใหม่ๆ น่ะครับ"




"ไม่เป็นไรหรอกครับ" อินทร์ตอบพร้อมรอย ยิ้ม "ผมเข้าใจ"




"ครูอินทร์ดูใจเย็นดี" ต้นสนพูดเสียงเบา หลังจากที่ภูผาเดินกลับไปช่วยกรขนของ "กร เป็นคนดีนะคะแค่เขามีประสบการณ์ไม่ค่อยดี กับครูอาสารุ่นก่อนๆ ที่มาไม่นานก็ลาออกไป เขาเลยรู้สึกว่าคนเมืองทนลำบากไม่ได้"




"ไม่ต้องห่วงครับ" อินทร์ตอบ "ผมไม่ใช่คนที่ ท้อง่ายๆ หรอกครับ ผมมาที่นี่ด้วยความตั้งใจ จริง"




ต้นสนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม "ฉันเชื่อคุณค่ะ"




บริเวณด้านหลังโรงเรียน มีเสียงระฆังดัง บ่ง บอกว่าถึงเวลาพักเที่ยงแล้ว




"เราไปกินข้าวกันเถอะ" ต้นสนชวน "เด็กๆ กำลังจะพักเที่ยง คุณจะได้เจอพวกเขาด้วย"




อินทร์พยักหน้าและเดินตามต้นสนไปที่โรงอา หารเล็กๆ ของโรงเรียน เขาหันไปมองกรและ ภูผาอีกครั้งเห็นทั้งคู่กำลังขนกล่องเข้าไปใน โรงเรียน กรเหลือบมองมาทางเขาเช่นกัน สายตาของทั้งคู่สบกันชั่วครู่ก่อนที่ต่างฝ่าย ต่างจะหันไปทางอื่น




ที่โรงอาหาร เด็กนักเรียนกำลังทยอยเข้ามา นั่งตามโต๊ะยาว ต้นสนเดินนำอินทร์เข้าไปและ แนะนำให้เด็กๆ รู้จัก




"เด็กๆ คะ วันนี้เรามีครูคนใหม่มา นี่คือครู อินทร์ค่ะ จะมาสอนภาษาอังกฤษให้พวกหนู"




เสียงฮือฮาดังขึ้นจากนักเรียน หลายคนมอง อินทร์ด้วยความสนใจและตื่นเต้น บางคนยิ้ม อย่างเขินอาย




"สวัสดีครับทุกคน" อินทร์ทักทายพร้อมรอย ยิ้มอบอุ่น "ครูดีใจมากที่ได้มาอยู่ที่นี่ และได้ รู้จักพวกหนูทุกคน ครูหวังว่าเราจะได้เรียนรู้ ภาษาอังกฤษด้วยกันอย่างสนุกสนาน"




เด็กหญิงตัวเล็กคนหนึ่งยกมือขึ้น "ครูจะอยู่ กับพวกหนูนานแค่ไหนคะ? ครูพูดคนก่อน บอกว่าจะอยู่นานแต่อยู่แค่สองเดือนก็ไป แล้ว"




คำถามนั้นทำให้ห้องเงียบลงชั่วขณะ ต้นสน เริ่มจะพูดแทรก แต่อินทร์ยกมือห้ามและยิ้ม ให้เด็กหญิงคนนั้น




"ครูตั้งใจจะอยู่ที่นี่ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ครับ" อินทร์ตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ "ครูมาที่ นี่เพราะอยากสอนพวกหนู อยากเห็นพวกหนู เรียนรู้และเติบโต ครูไม่ได้มาแค่ผ่านทาง ครับ"




คำตอบของอินทร์ทำให้เด็กๆ ยิ้มกว้าง และบรรยากาศเริ่มผ่อนคลายขิน




ขณะที่อินทร์กำลังพูดคุยกับเด็กๆ กรและภูผา เดินเข้ามาในโรงอาหารเพื่อแจ้งครูอัญชลีว่า ขนของเสร็จแล้ว กรมองไปที่อินทร์ที่กำลัง ล้อมรอบด้วยเด็กนักเรียน เห็นรอยยิ้มและ ท่าทางอบอุ่นของเขา




"เห็นไหม" ภูผากระซิบกับกร "ครูคนใหม่ดู เป็นคนดีนะ เด็กๆ ก็ชอบเขาด้วย"




กรไม่ตอบอะไร แต่ยังคงมองอินทร์ด้วย สายตาประเมิน




"ผมว่าอย่าด่วนตัดสินเขาเลย" ภูผาพูดต่อ "ให้โอกาสเขาสักหน่อย อย่าเพิ่งคิดว่าเขาจะ เหมือนครูคนก่อนๆ ที่ทนไม่ได้แล้วลาออกไป"




"ก็แค่ไม่อยากให้เด็กๆ ต้องผิดหวังอีกรอบ"




กรตอบเรียบๆ "ทุกครั้งที่มีครูใหม่มา เด็กๆ ก็ ดีใจ แต่แล้วก็ต้องเศร้าเมื่อครูเหล่านั้นทนไม่ ไหวแล้วจากไป"




"แต่บางทีครูคนนี้อาจจะแตกต่าง" ภูผาเอ่ย "อย่างน้อยก็ลองเปิดใจสักหน่อยเถอะ"




กรเพียงถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินออกจาก โรงอาหาร แต่ก่อนออกไป เขาหันไปมอง อินทร์อีกครั้งเห็นอินทร์กำลังหัวเราะกับเรื่อง ตลกที่เด็กคนหนึ่งเล่า ดวงตาของเขาเปล่ง ประกายความสุขอย่างจริงใจ




กรรู้สึกบางอย่างผุดขึ้นในใจ ความรู้สึกที่เขา ไม่คุ้นเคย แต่เขาก็รีบกดมันลงและเดินออก ไป ปล่อยให้ภูผาอยู่พูดคุยกับครูอัญชลีต่อ




ภายนอก ท้องฟ้าเริ่มมีเมฆก้อนใหญ่ลอยมา




บ่งบอกว่าอาจจะมีฝนตกในช่วงบ่าย แต่ใน โรงอาหารกลับเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและ บทสนทนาสนุกสนาน อินทร์นั่งล้อมรอบด้วย เด็กนักเรียนที่ต่างช่วยกันเล่าเรื่องราวของ โรงเรียนและหมู่บ้านให้ฟัง




"ครูครับ ครูจะสอนพวกเราพูดภาษาอังกฤษ ได้ไหมครับ?" เด็กชายคนหนึ่งถาม "หนูอยาก พูดภาษาอังกฤษเป็น จะได้คุยกับนักท่องเที่ยว ที่มาเที่ยวดอยได้"




"ได้สิครับ" อินทร์ตอบด้วยรอยยิ้ม "ครูจะ พยายามทำให้การเรียนภาษาอังกฤษสนุก และเข้าใจง่าย พวกหนูจะได้เรียนทั้งการพูด การฟัง การอ่านและการเขียนครับ"




"ครูมีเกมให้เล่นไหมคะ?" เด็กหญิงอีกคนถาม "หนูชอบเรียนผ่านเกม"




"แน่นอนครับ" อินทร์ตอบอย่างกระตือรือร้น




"ครูเตรียมเกมสนุกๆ มาเยอะเลย พวกเราจะได้เรียนผ่านเกม เพลง และกิจกรรมมากมาย ครูเชื่อว่าการเรียนที่สนุกจะทำให้จำได้นาน และเข้าใจได้ดีครับ"




ต้นสนที่นั่งข้างๆ อินทร์ยิ้มอย่างพอใจ "ฉัน ดีใจที่คุณมาที่นี่ค่ะ เด็กๆ ต้องการครูแบบคุณ มาก"




อินทร์หันไปยิ้มให้ต้นสน "ผมเองก็ดีใจที่ได้ มาที่นี่ครับ"




ขณะนั้นเอง มีเสียงฟ้าร้องดังขึ้นจากด้านนอก ตามด้วยเสียงฝนตกกระทบหลังคา "ฝนมาแล้ว!" เด็กๆร้องขึ้นพร้อมกัน




"ดีเลย ฝนตกช่วงนี้จะทำให้อากาศเย็นลงอีก" ต้นสนบอกอินทร์ "คุณต้องเตรียมเสื้อกัน หนาวไว้ให้พร้อมนะคะ กลางคืนอากาศจะ หนาวมาก"




อินทร์พยักหน้ารับ สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่น เต้นกับสิ่งใหม่ๆ ที่กำลังจะได้เรียนรู้ "ผม พร้อมรับมือกับทุกอย่างครับ ทั้งอากาศหนาว ฝนตก หรือความท้าทายอื่นๆ"




ขณะที่ฝนเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ภายนอก ภายในโรงอาหารกลับอบอุ่นด้วยมิตรภาพ ใหม่ที่กำลังก่อตัวอินทร์มองรอบตัวด้วย ความรู้สึกปลื้มปีติ เขารู้สึกว่าได้มาถูกที่แล้ว




ดอยแสงจันทร์อาจจะเต็มไปด้วยความ ท้าทาย แต่ก็มีความอบอุ่นและความงดงามที่ ไม่อาจหาได้ในเมืองใหญ่




แต่ที่เขาไม่รู้ก็คือ ใครบางคนกำลังมองเขาอยู่ จากระยะไกล กรยืนอยู่ที่ชายคาด้านนอกโรง อาหาร มองผ่านหน้าต่างเข้าไปเห็นอินทร์ กำลังพูดคุยกับเด็กๆ อย่างสนุกสนาน เขา




สงสัยว่าครูคนใหม่คนนี้จะแตกต่างจากคน อื่นๆ ที่เคยมาและจากไปจริงหรือ หรือว่า




สุดท้ายแล้วเขาก็จะทนความยากลำบากของ ชีวิตบนดอยไม่ไหว และทิ้งเด็กๆ ไป เหมือนที่ คนอื่นๆ เคยทำ




ฝนที่ตกลงมาหนักขึ้นเรื่อยๆ บนดอย แสงจันทร์ ราวกับเป็นจุดเริ่มต้นของการ เปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น






ขณะที่ฝนเทลงมาอย่างหนักหน่วง กรยืนนิ่งใต้ชายคา สายตายังจับจ้องผ่านหน้าต่างโรงอาหารไปยังครูคนใหม่ที่ดูเหมือนจะกลมกลืนกับเด็กๆ ได้อย่างรวดเร็ว เขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธความรู้สึกบางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้นในใจ


"ยังยืนตากฝนอยู่อีก" เสียงของภูผาดังขึ้นจากด้านหลัง "มองอะไรอยู่เนี่ย?"


กรสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะสำรวมสีหน้าให้กลับมาเรียบเฉยเช่นเดิม "ไม่มีอะไร เตรียมตัวกลับกันเถอะ ฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ แล้ว"


"ยังไม่ต้องรีบหรอก" ภูผายิ้มกว้าง "ครูอัญชลีชวนเราอยู่กินข้าวเที่ยงด้วย วันนี้มีแกงเห็ดถั่วลิสงด้วยนะอร่อยแน่ๆ"


กรหันขวับมามองเพื่อน "แต่เราต้องกลับไปรายงานที่ฐาน..."


"ผมส่งข้อความบอกนายร้อยแล้ว ว่าฝนตกหนัก ให้เรารออยู่ที่โรงเรียนก่อน" ภูผาตบบ่ากร "นายนี่คิดมากไปได้ มากินข้าวกันเถอะ ไหนๆ ก็มาถึงแล้ว"


กรถอนหายใจอย่างจำยอม เขารู้ดีว่าไม่มีทางเถียงภูผาได้ หากเพื่อนของเขาตัดสินใจอะไรแล้ว


ทั้งสองเดินเข้าไปในโรงอาหารที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและเสียงพูดคุย ครูอัญชลีโบกมือเรียกพวกเขาให้ไปนั่งรวมกับครูคนอื่นๆ โต๊ะที่ว่างเหลืออยู่พอดีตรงข้ามกับอินทร์


"นั่งตรงนี้สิคะ" ครูอัญชลีเชิญ "อาหารกำลังจะเสิร์ฟแล้ว"


ภูผายิ้มกว้างและนั่งลงทันที ส่วนกรชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าต้องนั่งตรงข้ามกับอินทร์ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้


"สวัสดีอีกครั้งครับ" อินทร์ทักทายด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร "ดีใจที่พวกคุณจะร่วมรับประทานอาหารกับพวกเราด้วย"


ภูผารับไหว้พร้อมรอยยิ้ม "พวกเราก็ดีใจเช่นกันครับ อาหารที่นี่อร่อยมากเลยนะ ครูต้องลองแกงเห็ดถั่วลิสงเด็ดขาด"


"ผมจะลองแน่นอนครับ" อินทร์ตอบ ก่อนจะหันไปทางกร "คุณกรชอบอาหารอะไรที่นี่เป็นพิเศษหรือเปล่าครับ?"


กรเงยหน้ามองอินทร์ เขาไม่คาดคิดว่าจะถูกชวนคุย "แกงป่า" เขาตอบสั้นๆ


"แกงป่าเหรอครับ? น่าสนใจมาก ผมเคยกินแค่แกงป่าในร้านอาหารในเมือง น่าจะไม่เหมือนกับแกงป่าตำรับดั้งเดิมแบบที่นี่สินะครับ"


"ไม่เหมือนเลย" กรตอบ น้ำเสียงอ่อนลงเล็กน้อย "ที่นี่ใช้สมุนไพรที่หาได้ในป่า รสชาติจัดจ้านกว่ามาก"


อินทร์พยักหน้าด้วยความสนใจจริงๆ "ผมอยากลองชิมมากเลยครับ ถ้ามีโอกาส"


ขณะนั้น แม่ครัวก็เริ่มนำอาหารมาเสิร์ฟ มีทั้งแกงเห็ดถั่วลิสง ผัดผักรวม ปลาทอดน้ำปลา และข้าวสวยร้อนๆ กลิ่นหอมของอาหารพื้นเมืองทำให้บรรยากาศอบอุ่นขึ้นท่ามกลางเสียงฝนที่ตกกระหน่ำด้านนอก


"ทานได้เลยนะคะ" ครูอัญชลีเชิญชวน


ทุกคนเริ่มตักอาหารใส่จาน อินทร์มองดูอาหารทุกอย่างด้วยความสนใจ เขาตักแกงเห็ดถั่วลิสงมากเป็นพิเศษตามคำแนะนำ


"คุณอินทร์" ครูอัญชลีเอ่ยขึ้น "พรุ่งนี้คุณจะเริ่มสอนได้เลยนะคะ ฉันจัดตารางไว้ให้แล้ว เริ่มที่ชั้นประถม4-6 ในช่วงเช้า และชั้นมัธยม 1-3 ในช่วงบ่าย"


"ครับ ผมพร้อมแล้ว" อินทร์ตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ


"แล้วคุณเตรียมอุปกรณ์การสอนมาพร้อมหรือยัง?" เสียงของกรดังขึ้น ทำให้ทุกคนหันไปมอง "ที่นี่ไม่ได้มีอุปกรณ์ครบเหมือนในเมือง"


อินทร์ยิ้มก่อนตอบ "ผมเตรียมมาพร้อมครับ ทั้งเกมการสอน บัตรคำ แผนการสอน และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆผมทราบดีว่าที่นี่อาจมีข้อจำกัด จึงพยายามเตรียมทุกอย่างมาให้พร้อมที่สุด"


ต้นสนมองอินทร์ด้วยความชื่นชม "ฉันว่าครูอินทร์จะเข้ากับเด็กๆ ได้ดีแน่ๆ ค่ะ"


"ใช่ ผมเห็นเด็กๆ กระตือรือร้นมากเลย" ภูผาเสริม พลางตักแกงเพิ่ม "นานแล้วที่ไม่เห็นพวกเขาตื่นเต้นขนาดนี้"


กรเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างไม่คาดคิด "วันเสาร์นี้ทางค่ายจะมีการสอนยิงปืนให้ชาวบ้าน เพื่อป้องกันตัวจากสัตว์ป่า ถ้าคุณสนใจก็มาร่วมได้"


ทุกคนที่โต๊ะแสดงความประหลาดใจ ไม่คาดคิดว่ากรจะเป็นฝ่ายชวนอินทร์เอง


"ขอบคุณสำหรับคำเชิญครับ" อินทร์ตอบด้วยรอยยิ้ม "ผมสนใจมาก อยากเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นสำหรับการอยู่ที่นี่"


ภูผาสบตากับต้นสนอย่างมีความหมาย ทั้งคู่ยิ้มเล็กน้อย เหมือนจะเห็นพัฒนาการบางอย่าง


บทสนทนาดำเนินต่อไปอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น แม้กรจะพูดน้อย แต่เขาก็เริ่มฟังอินทร์มากขึ้น โดยเฉพาะเมื่ออินทร์เล่าถึงประสบการณ์สอนของเขาในพื้นที่ห่างไกลอื่นๆ ก่อนจะมาที่ดอยแสงจันทร์


เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ฝนเริ่มซาลง กรและภูผาต้องเตรียมตัวกลับค่าย


"ขอบคุณสำหรับอาหารเที่ยงนะครับ" ภูผากล่าวขอบคุณ "อร่อยมากเลยครับ"


"ยินดีค่ะ" ครูอัญชลีตอบ "ขอบคุณสำหรับอุปกรณ์การเรียนด้วยนะคะ เด็กๆ จะดีใจมากแน่ๆ"


เมื่อทุกคนเดินออกไปส่งทหารทั้งสอง อินทร์ก็เดินตามไปด้วย กรหันมาสบตากับอินทร์ระหว่างที่เตรียมขึ้นรถ


"วันเสาร์ เก้าโมงเช้า ที่ค่าย" กรพูดสั้นๆ "มาตรงเวลา"


"ผมจะไปแน่นอนครับ" อินทร์ตอบ "ขอบคุณอีกครั้งสำหรับคำเชิญ"


กรพยักหน้ารับก่อนจะขึ้นรถ ภูผาโบกมือลาทุกคนอย่างร่าเริง "แล้วเจอกันนะครับครูอินทร์!"


รถทหารสีเขียวแล่นออกไปบนถนนโคลนที่เปียกชื้นจากฝน ทิ้งให้อินทร์ยืนมองตามด้วยความรู้สึกอบอุ่นในใจ


"ดูเหมือนกรจะเริ่มเปิดใจกับคุณแล้วนะ" ต้นสนพูดขึ้นเบาๆ "ไม่บ่อยนักที่เขาจะชวนใครไปที่ค่าย"


อินทร์ยิ้มเล็กน้อย "ผมดีใจครับ ที่ได้รับโอกาสให้พิสูจน์ตัวเอง"


ท้องฟ้าเริ่มเปิดให้เห็นแสงอาทิตย์อีกครั้ง หลังจากฝนที่ตกหนัก ความสดชื่นหลังฝนและรุ้งที่พาดผ่านท้องฟ้าเหนือหมู่บ้านเหมือนเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นใหม่บนดอยแสงจันทร์


ขณะที่อินทร์เดินกลับเข้าโรงเรียนกับต้นสน เขารู้สึกถึงความตื่นเต้นและความท้าทายที่รออยู่เบื้องหน้าแต่เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการสอน การปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ หรือแม้แต่การทำความรู้จักกับทหารหนุ่มที่ดูเคร่งขรึมอย่างกร


บทเรียนแรกของเขาบนดอยแสงจันทร์กำลังจะเริ่มต้นขึ้น และอินทร์รู้ดีว่า นี่เป็นเพียงบทแรกของเรื่องราวที่ยาวนานที่เขาตั้งใจจะอยู่เคียงข้างเด็กๆ และชุมชนแห่งนี้