อะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!
แอคชั่น,ตลก,ผจญภัย,ไทย,จีน,กำลังภายใน,ดราม่า,แอ็คชั่น,แอ็คชั่น ,พระเอกเทพ,ฮาเร็ม,ระบบ,ระบบผู้ช่วย,ตลก,ผจญภัย,เจ้าสำนัก,หลายโลก,เกิดใหม่,เกิดใหม่ ,พระเอกเก่ง,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ระบบทรัพยากรไร้ขีดจำกัดอะไรน่ะ เจ้าเป็นบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นรึ แล้วมันทำไม สำนักข้ามีผู้ท้าทายโชคชะตามากมาย มันจะซักแค่ไหนกันเชียว โอ้ว สมบัติระดับเซียนปรากฎขึ้นอย่างนั้นรึ ช่างหัวมันสิ! ต่อหน้าระบบข้าพวกมันล้วนเป็นขยะ!
สนใจดูนิยายเสียง + Animation + Soundtrack + SFX ดูได้ 2 ช่องทาง:
YouTube: YAKSAHBANPHAKHAN STUDIO
Fanpage Facebook: ยักษาบรรพกาล สตูดิโอ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พล็อตเรื่อง การต่อสู้เพื่อให้ไปสู่จุดสุงสุด ไม่ นั่นมันแค่ทางผ่าน แล้วการแสวงหาความเข้าใจในมนุษย์ล่ะ นั่นก็เป็นสิ่งที่ระบบตัวติดหนึบมันวางไว้ให้เขาเช่นกัน ส่วนความจริงนั้นเป็นอะไรรึ ฮ่าฮ่า เรื่องพวกนั้นเจ้าคงต้องดูชีวประวัติของข้าจากปกรณัมเอากระมัง
นพเก้า หรืออีกชื่อที่ทำให้ผู้คนอกสั่นขวัญหาย 1 ใน 3 ตัวตนแห่งหายนะ “มหาบาป จูเรน” จอมทรราชผู้กบฏสวรรค์ สิ่งมีชีวิต 2 ใน 10 ส่วน หรือหลายพันล้านชีวิตจากสวรรค์ชั้นที่ 1 ล้วนตกตายด้วยน้ำมือของเขา ไม่เพียงเท่านั้น การฝ่าฝืนกฏเกณฑ์แห่งสวรรค์ สังหารลูกหลานเหล่าทวยเทพ นั่นจึงทำให้เขาถูกตามล่าโดยเต๋าสวรรค์ 1 ใน 4 ผู้พิทักษ์สวรรค์ชั้นที่ 1 “ท้าวเวสสุวรรณ” แต่นั่นไม่ได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเขาแต่อย่างใด ด้วยเคล็ดวิชาหัวใจทศกัณฐ์จากพันธะสัญญาแห่งความแค้น ทำให้เขาปลุก 4 ใน 7 บัญญัติจากบรรพกาล เหล่าร่างสถิตยักษาผู้สร้างกลียุคในยุคสมัยต่างๆ ถึง 4 ตน ด้วยบัญญัติ 4 ประการ ทำให้เขาพิชิตใต้หล้าไปถึง 1 ใน 18 ของทวีปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการโดนกลืนกินจิตใจเช่นกัน
แต่แล้วก็ถึงจุดเปลี่ยนของชีวิต ถูกคนที่ไว้ใจทรยศหักหลัง ไม่อาจปกป้องศิษย์ผู้เป็นที่รักได้ พระเจ้าจึงมอบโอกาศให้ย้อนเวลาไปแก้แค้น นพเก้าครุ่นคิด นั่นเป็นพล็อตเกิดใหม่ตามปกติใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นก็ดี
แต่แล้วทำไมกัน! ทำไมถึงมีแต่โลกมนุษย์ที่ย้อนเวลากลับมา บางคนที่ตายไปแล้วก็หวนคืนกลับมาพร้อมความทรงจำเดิม แม้แต่โชคชะตาบางคนก็เปลี่ยนไป บุตรแห่งสวรรค์ที่แต่ละยุคสมัยจะถือกำเนิดขึ้นในบางครั้งกลับผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด พระเจ้าช่างเล่นตลก แต่เดี๋ยวก่อน ข้าเองก็มีระบบเช่นกัน แล้วก็เป็นความผิดของมันด้วย
[ติ๊ง โฮสต์โปรดอย่าลืมภารกิจหลัก หากเจ้าทำไม่ได้ข้าก็มีสิทธิ์เลือกคนใหม่เช่นกัน]
ช้าก่อน! เฮ้อ นพเก้ารู้สึกว่าชีวิตเขารันทดเป็นอย่างมาก ต่อให้มีทรัพยากรสนับสนุนมากแค่ไหนก็ตามที เดิมทีการตามหาบุตรแห่งสวรรค์ในโลกมนาย์ก็ยากเต็มที แต่ด้วยความสามารถของหน้าจอ (ระบบ) เวรนี่ ทำให้เขาต้องข้ามเวลาไปแต่ละบรรพกาลด้วยซ้ำ เจ้าคิดว่ามันน่าตลกหรือไม่ที่ข้าต้องเดินทางไปทวีปแห่งดาบและเวทย์มนตร์เพื่อไปเชิญผู้ใช้มานามาฝึกพลังปราณฟ้าดิน นั่นยังไม่รวมไปถึงจิตวิญญาณ ออร่า ฟรอซ และผู้ใช้อนิกม่าที่กำเนิดมาก่อนหมดยุคสมัย จนทำให้ถูกทุกขุมกำลังตามล่าเพราะทำให้กลียุควันสิ้นโลกเกิดขึ้นมาก่อนกำหนด
[ติ๊ง ประตูกาลเวลาพร้อมแล้ว โปรดเตรียมตัวเข้าสู่บรรพกาลที่ 2]
อะไร! นพเก้านิ่งงัน ครั้งนี้เขาคงไม่ต้องไปแย่งชิงตัวเหล่าผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญเพื่อไปปราบจอมมารอีกครั้งใช่หรือไม่
หรือไปโผล่ที่อโยธยาด้วยร่างกายสามัญแล้วต้องกลายเป็นกระสอบทรายให้นักมวยทุบตี
หรือกระทั่งไปสิงห์ร่างนักโทษแหกคุกแล้วกลายเป็นโจรสลัดถึง 2 ทศวรรษ และจบลงด้วยการเป็นแกนนำปฏิวัติทำลายระบอบการปกครองกษัตริย์ของทวีปยุโรปยุคกลางได้สำเร็จ
เฮ้อ ชีวิตล้วนไม่อาจคาดเดา เขามีแต่ต้องพยายามต่อไปเพื่อไขความลับของจักรวาลก่อนที่พวกมันจะซ้อนทับกัน และแน่นอน เขาสาบานว่าจะต้องไปตบหัวล้านของเจ้า “นนทก” บัดซบนั่นให้ได้ นอกจากเคล็ดวิชาหัวใจทศกัณฐ์มันจะใช้งานสะดวกแล้ว ยังต้องมีการจ่ายค่าตอบแทนมหาศาล ย้อนเวลาไปแก้ปมในจิตใจของจิตวิญญาณยักษาผู้เป็นตัวแทนของบาป 7 ประการ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในอดีตพวกมันก่อกรรมอะไรไว้บ้าง
[ติ๊ง โฮสต์โปรดอย่าท้อแท้ ในฐานะจอมมารผู้ยิ่งใหญ่ มันคงไม่มีใครเลวร้ายไปกว่าเจ้า]
...
บัดซบ! นพเก้าเมินระบบแล้วก้าวเดินต่อไป
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ระดับพลัง
ดินแดนมนุษย์ (มี 7 ขอบเขตใหญ่)
1.หลอมศิลา ขั้นที่ 1-9
2.ขัดเกลาศิลา
3.จิตรู้แจ้ง
4.ก่อลักษณ์
5.ราชันยุทธ์
6.จักรพรรดิยุทธ์
7.จ้าวสวรรค์
ดินแดนเซียน สวรรค์ชั้นที่ 1 (ยังไม่เปิดเผย)
1.เทพศักดิ์สิทธิ์
2.???
ช่องนิยายเสียง + อนิเมชั่น + Soundtrack + SFX https://youtu.be/RKKfcgufVG0
“ท่านคือ?”
นพเก้ามองไปที่ชายชราตรงหน้า เขามีความรู้สึกคุ้นเคยเล็กน้อย
“ลูกเก้า อย่าเสียมารยาท”
อัครเดชรู้สึกกระวนกระวาย ชายชราผู้นี้ไม่ใช่ผู้ที่จะคุยด้วยอย่างทัดเทียมกันได้
“โอหัง! ตระกูลของพวกเจ้าสั่งสอนผู้เยาว์อย่างไรถึงกล้าพูดเช่นนี้ต่อผู้อาวุโส คุกเข่าลงไปเสีย”
ผู้ติดตามนามซู่ไป๋รู้สึกเดือดดาลเป็นแค่ตระกูลชั้นล่างกล้าพูดกับผู้อาวุโสโดยไร้ความเคารพ ดูเหมือนว่าสำนักจันทร์เสี้ยวจะอยู่ในขุนเขานานเกินไปจนผู้คนลืมเลือนความรุ่งโรจน์ในอดีตไปจนหมดสิ้น
ฟรึบ!!
ทันใดนั้นอำนาจที่มองไม่เห็นแผ่ออกจากคนผู้นี้พรร้อมกับจิตสังหารโดยเขามีเป็นจุดศูนย์กลาง ผู้คนในตระกูลยกเว้นบรรดาผู้อาวุโสไม่สามารถยืนหยัดได้
“ร~ ราชันยุทธ์!”
หวงไค่รู้สึกตกตะลึง เพียงผู้ติดตามก็มีอำนาจถึงขอบเขตราชันยุทธ์แล้วชายชราตรงหน้าจะไม่แข็งแกร่งกว่านั้นหรือ
หวงไท่ผู้ซึ่งเป็นเสาค้ำจุนในตระกูลไม่ได้พูดอะไร พวกเขาเพียงขมวดคิ้วแล้วโคจรพลังศักดิ์สิทธิ์ครึ่งก้าวเพื่อหักล้างผลกระทบนี้ เขารู้สึกมีไฟสุมอยู่ในอก พวกมันใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงกันมากเกินไป ไม่ไว้หน้าตระกูลใหญ่แม่แต่น้อย ต่อให้สำนักลึกลับก็ตามการเข้าบ้านคนอื่นโดยแสดงพฤติกรรมเช่นนี้ไม่สามารถยอมรับได้
“ผู้อาวุโส โปรดยกโทษให้กับบุตรผู้โง่เขลาของข้าด้วย ปกติเด็กคนนี้จะฝึกฝนอย่างสันโดษตลอดไม่ค่อยได้พบผู้คนจึงไม่รู้กิริยาที่สมควร ข้าจะลงโทษตามกฎของตระกูล”
อัครเดชรู้สึกลำบากใจเขานำโอสถมหานทีออกมาจากชายเสื้อ เมื่อเขาเปิดกล่องไม้ออกมันมีพลังศักดิ์สิทธิ์แผ่ออกมา กระจายกลิ่นหอมไปทั่วทำให้ผู้ที่สูดอากาศเข้าไปรู้สึกสั่นสะเทือนจุดติดขัดในร่างกาย ความจริงแล้วอัครเดชกะว่าจะใช้เมื่อเขาเข้าสู่ขอบเขตผู้พิทักษ์ขั้นสมบูรณ์ในอีกครึ่งปีเพื่อเลื่อนสู่ระดับราชัน ถึงเขาจะรู้สึกเสียดายแต่ไม่มีทางเลือกหากไม่เป็นโอสถระดับ 6 ขึ้นไปอีกฝ่ายคงไม่ใจกว้างพอปล่อยเรื่องนี้ไป
หวงไค่ที่เห็นรู้สึกมุมปากกระตุกและอิจฉาจนตาแดงก่ำ รู้สึกว่าการตัดสินใจของผู้นำตระกูลคนนี้ช่างโง่เขลา หากนำมาให้เขาเอง เขาสามารถทะลวงสู่ขอบเขตราชันย์ยุทธ์ที่ติดมานานเกือบสิบปีสิ่งนี้มันคุ้มหรือไม่เพื่อแลกกับชีวิตผู้เยาว์ในตระกูล
“ฮึม เห็นแก่ที่เป็นเด็กไม่รู้ความข้าจะปล่อยเรื่องนี้ไป”
ซู่ไป๋หัวเราะเย็นชา เขาใช้พลังจิตดึงกล่องไม้มาที่ฝ่ามือในพริบตา การติดตามผู้อาวุโสใหญ่มาในครั้งนี้ช่างไม่เสียเปล่า
“เอาล่ะ เจ้าหนู เจ้าจงอธิบายให้พวกเราฟังตอนนี้เสีย เมื่อกี้ข้าเห็นแก่เจ้าที่เป็นเด็กไม่รู้ความข้าจะไม่ถือสาเอาความกับเจ้า หากไม่ตอบเจ้าไม่สามารถคิดได้ว่าต่อไปอะไรจะเกิดขึ้น”
เมื่อเห็นเจ้าจันทร์เสี้ยวไม่ได้พูดอะไร ซู่ไป๋ยิ่งพูดยิ่งได้ใจเขารู้สึกว่าตระกูลโบราณไม่ได้นับเป็นอะไร
“ฮ่า ฮ่า อธิบายกับปู่เจ้าน่ะสิ”
สิ้นเสียงนพเก้ายกมือขวาขึ้นเป็นกรงเล็บจากนั้นเกิดพลังธาตุทองดูดกลืนด้วยความเร็วสูง เขารู้สึกว่าเขาให้เกียรติอีกฝ่ายมากพอแล้ว ดูเหมือนพวกมันจะไม่รู้ว่าอะไรดี หากเป็นชาติก่อนใครก็ตามที่สบตากับเขาเช่นนี้ เขาจะฆ่าทิ้งทันทีโดยไม่ลังเล เขาไม่พูดสิ่งอื่นใดเพียงลงมือทันที
ฟรึบ!!
ภาพตรงหน้าของซู่ไป๋พร่ามัว เขามาปรากฏตัวตรงหน้านพเก้าโดยมีมือข้างหนึ่งคว้าอยู่บนเหนือหัวของเขา เขาไม่สามารถโคจรพลังในร่างกายได้ราวกับกระแสปราณในร่างกายติดอยู่ในบึงโคลน
รูปแบบที่ 8 ของเคล็ดวิชาระดับสวรรค์ขั้นสูง “อสุรากลืนสวรรค์” เคล็ดวิชาสืบทอดขั้นสูงสุดที่มอบให้กับหัวหน้าตระกูลในแต่ละรุ่นเท่านั้น เมื่อศัตรูถูกเคล็ดวิชานี้กำราบ ขอบเขตเดียวกันจะโคจรพลังได้ครึ่งเดียวเท่านั้นในช่วงเวลาความเป็นความตายการที่อ่อนแอกว่าอีกฝ่ายเล็กน้อยก็สามารถตัดสินชัยชนะได้ในพริบตา ไม่ต้องพูดถึงขอบเขตที่ต่ำกว่าของซูไป๋ตอนนี้เขาไม่ต่างอะไรกับคนธรรมดา
“ไอเด็กเวรปล่อยข้าเดี๋ยวนี้”
ซู่ไป๋รู้สึกอับอายอย่างมากจนแทบจะกระอักเลือดออกมา ไม่รู้ว่าเจ้าเด็กตรงหน้าใช้กลอุบายอะไรแล้วโจมตีทีเผลอจนเขามาในอยู่สภาพนี้
เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเจ้าจันทร์เสี้ยวพุ่งไปข้างหลังนพเก้าทันที ความเร็วนี้เกินกว่าหวงไท่และอัครเดชจะตระหนักถึงด้วยซ้ำ
เจ้าจันทร์เสี้ยวรู้สึกประหลาดใจ ดูเหมือนอีกฝ่ายจะอยู่ในขอบเขตราชันย์ยุทธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย ภายในเมืองของผู้อยู่อาศัยระดับกลางเป็นที่เสือหมอบมังกรซ่อนได้อย่างไร เขายับยั้งพลังใช้แรงเพียงหนึ่งในสิบของขอบเขตจักรพรรดิ เขาไม่ได้ตั้งใจจะโจมตีเพียงแค่ยุติการต่อสู้เท่านั้นและต้องการเห็นสหายลึกลับที่เป็นอาจารย์ของเด็กปีศาจนี้
“เจ้าพอมีฝีมืออยู่บ้างแต่ก็เท่านั้น”
ขณะที่เจ้าจันทร์เสี้ยวใช้มือซ้ายกดบนไหล่ของนพเก้า เขาก็ถูกผลักออกไปอย่างรุนแรงจนมือไม้สั่นเทา
“เป็นไปได้อย่างไร!”
เขาตะลึงงัน การปัดป้องเมื่อครู่มาจากมือซ้ายของชายหนุ่มโดยแค่ปัดแบบส่งเดช ราชันย์ยุทธ์จะแข็งแกร่งไปกว่าเขาได้อย่างไร ขณะที่เขากำลังสับสนชั่วครู่ เขาสัมผัสได้ถึงจิตสังหารอันเย็นเยียบส่งออกมาจากภายในตำหนัก
โฮกก!!
เสียงของสัตว์ร้ายดังระงมไปทั่วสารทิศ จากนั้นปรากฏเงาอสูรสีแดงเลือดขึ้นกลางอากาศ เจ้าจันทร์เสี้ยวไม่สามารถขยับตัวได้ เขาไม่เคยรู้สึกถึงจิตสังหารเข้มข้นขนาดนี้มาก่อน ราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นพยามารจุติลงมายังโลกมนุษย์
“เป็นแค่มดปลวกจักรพรรดิยุทธ์ริอาจรบกวนข้าหรือ”
เมื่อปราณสังหารอ่อนตัวลงเผยให้เห็นยักษ์สองเมตรยืนอยู่กลางอากาศอย่างโอหัง ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นจิตวิญญาณของยักษ์แดงเดือด ในช่วงที่เจ้าจันทร์เสี้ยวมาเยือน นพเก้าสัมผัสได้ถึงอำนาจขอบเขตจักรพรรดิ เขาจึงส่งบริวารออกไปเพื่อจัดฉากการแสดงในเวลาวิกฤต ถึงยักษ์แดงเดือดที่กลับมาจะมีพลังไม่ถึงหนึ่งส่วนสิบแต่ในบรรดาบริวารทั้งหมดมันเป็นตัวตนที่โหดเหี้ยมที่สุด จิตสังหารและกรรมจากการเข่นฆ่าของมันเทียบได้กับจอมยุทธ์แนวหน้า
ทุกคนที่อยู่บริเวณโดยรอบรู้สึกแขนขาสั่นเทาอย่างช่วยไม่ได้ ซู่ไป๋ที่อยู่ใกล้ที่สุดในมือขวาของนพเก้าสลบเหมือดไปแล้ว สภาพตาเหลือกน้ำลายฟูมปากดูน่าอนาถเป็นอย่างยิ่ง
“ผู้อาวุโสโปรดละเว้นข้าด้วย ข้าเพียงผ่านมาเพราะเห็นเหตุการณ์ผิดปกติเท่านั้น”
เจ้าจันทร์เสี้ยวรู้สึกถึงการคุกคามในสายตาของอีกฝ่าย รอบนี้แกว่งเท้าหาเสี้ยนเสียได้
“ถ้าไม่มีอะไรก็ไสหัวไปเสีย”
ยักษ์แดงเดือดก็ไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไปตอนนี้มันเผาผลาญจิตวิญญาณของมันจนเกือบเหือดแห้ง มันต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะฟื้นฟูได้สมบูรณ์หากไม่ได้ดูดกลืนจิตวิญญาณสิ่งมีชีวิต ถ้าเสียเวลามากไปกว่านี้อีกฝ่ายอาจสังเกตเห็นได้ สุดท้ายนายท่านของมันต้องลงมือเอง มันไม่ต้องการให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นเพราะมันจะกลายเป็นรอยด่างพร้อยในชีวิตของเจ้านายของมันเพียงเพื่อกำจัดมดปลวกเช่นนี้
“ข้าน้อยขอลา”
เจ้าจันทร์เสี้ยวไม่กล้าสบสายตา เขากำลังจะกลับไป แต่แอบลอบมองซู่ไป๋ในมือของนพเก้า
“หึ เจ้าอยากได้ตัวไอสวะนี้หรือ โอใช่ ลูกศิษย์ของข้าพึ่งมาถึงขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์ได้ไม่นานในฐานะผู้อาวุโสเจ้าไม่มีของขวัญให้หน่อยหรือ?”
ตอนนี้ยักษ์แดงเดือดยังไม่สามารถลงมือได้ มันจะรอให้สถานะของมันสมบูรณ์ก่อนแล้วค่อยไปตามสังหารมันทีหลัง ในบรรดาจิตวิญญาณทั้งหมดมันเป็นตนที่อาฆาตพยาบาทที่สุด มันสามารถแก้แค้นได้แม้แต่เรื่องเล็กน้อย นี่จึงเป็นสาเหตุที่นพเก้าจึงไม่ค่อยอยากใช้งานมันมากนัก เพราะมันสร้างศัตรูไว้มากเกินไปจนเขาเองก็รับมือไม่ไหว แต่ติดตรงที่มันเป็นอสูรลำดับแรกของเคล็ดวิชาหัวใจทศกัณฐ์ ช่วงเวลานี้เขาไม่สามารถเลือกได้
เจ้าจันทร์เสี้ยวลอบสาปแช่งในใจ เขาทำได้เพียงหยิบแหวนมิติของเขาออกมาจากชายเสื้อ เขาแทบรู้สึกกระอักเลือดออกมา เขาใช้เวลาเก็บหอมรอมริดมาเกือบร้อยปีแล้วต้องส่งให้เด็กเหลือขอนี้ ขณะที่เขาคิดว่าจะนำสิ่งใดออกมาแลกเปลี่ยนดี
ขวับ!!
[49] นพเก้าโยนซู่ไป๋ไปทางเจ้าจันทร์เสี้ยว แล้วคว้าแหวนจากมืออีกฝ่ายทันทีโดยที่เขาไม่เกิดโอกาศให้เจ้าจันทร์เสี้ยวพูด เขาพูดประโยคหนึ่งออกมา จนทำให้เจ้าจันทร์เสี้ยวกระอักเลือดออกมาเต็มปาก
“ขอบคุณผู้อาวุโส ข้าจะใช้ทรัพยากรนี้อย่างคุ้มค่าแน่นอน”
นพเก้าประสานมือขอบคุณอากัปกิริยาเต็มไปด้วยความนอบน้อม
อักก
เจ้าจันทร์เสี้ยวไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขากระอักเลือดออกมาคำนึง ขณะที่ทั้งสองมือรับซู่ไป๋เมื่อครู่นี้เอาไว้
ไร้ยางอาย ช่างไร้ยางอายอย่างแท้จริง เมื่อเห็นภาพนี้หวงไท่ถึงกับยกนิ้วโป้งให้
“นี่!”
เจ้าจันทร์เสี้ยวไม่สามารถยอมรับได้ เขากำลังจะบอกว่านั่นมันสมบัติของข้าไม่ใช่ให้เจ้าเอาไปทั้งหมด
“ในเมื่อหมดธุระแล้วก็กลับไปเสีย”
เงาพร่าเลือนของยักษ์แดงเดือดจางหายไป มันต้องการกลับไปพักผ่อนสักพัก
เมื่อได้ยินเช่นนี้ชายชรามิอาจพูดอะไรได้อีกต่อไป เขาลอยขึ้นฟ้าแล้วบินกลับไปสำนักโดยตรง
“โอ้ พวกท่านมีธุระอะไรหรือไม่?”
นพเก้าหันไปสบตากับป๋อชิงไหลผู้อำนวยการสถาบันอ้วนพี
“ฮ่า ฮ่า คือว่า”
เมื่อเห็นสายตาของนพเก้า ป๋อชิงไหลรู้สึกเสียวสันหลังวาบ เขาจะถูกปล้นชิงด้วยหรือไม่
“เราเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันใกล้กับสถาบันของเรา เมื่อไม่มีอะไรแล้ว ท่านผู้นำตระกูลและผู้อาวุโสทุกท่าน เราจะขอมอบของขวัญชดเชยให้ในภายหลัง”
หลังทักทายตามมารยาทเจี่ยไป๋เจินเดินกลับไปทันที นางต้องรีบส่งข่าวกลับไปยังเมืองหลวง หากเป็นไปได้นางอยากจะให้องค์กรสานสัมพันธ์กับรุ่นเยาว์อัจฉริยะคนนี้
ตอนนี้คนตระกูลหวงไม่สนใจสิ่งใดทั้งสิ้นทุกสายตาจ้องไปที่นพเก้า ในสายตาแต่ละคนมีทั้งความประหลาดใจ ความอิจฉา และสงสัยว่ากำลังฝันอยู่หรือไม่เพราะเหตุการณ์ตรงหน้ามันสมจริงเกินไป
“ท่านแม่ หวงชิงจู้”
เมื่อสถานการณ์ตึงเครียดจบลง ตอนนี้ครอบครัวของเขาก็เริ่มทยอยมาซักถามทีละคนว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
“ท่านพ่อ นี่ของท่าน”
นพเก้าส่งแหวนวงหนึ่งให้อัครเดช เมื่ออัครเดชตรวจสอบดูเขาสูดหายใจลึกเฮือกใหญ่ มันมีโอสถระดับ 6 สิบกว่าเม็ด นับว่าเป็นกำไรมหาศาลสามารถบ่มเพาะขอบเขตราชันย์ยุทธ์เพิ่มได้อีกหนึ่งรุ่น ที่สำคัญมีโอสถระดับ 7 หนึ่งเม็ด โอสถพลังศักดิ์สิทธิ์สิ่งนี้เป็นประโยชน์ต่อขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์ในการฝ่าด่านเป็นอย่างมาก
“ท่านเก็บไว้ใช้เองเถอะ ข้ามีอีกเยอะ”
เมื่อเห็นสีหน้าลำบากใจของผู้เป็นพ่อ เขารู้สึกอยากจะหัวเราะในใจ ด้วยสมบัติจากแหวนมิติของเจ้าจันทร์เสี้ยวมีแม้กระทั่งโอสถระดับ 8 ด้วยระบบปั๊มทรัพยากรเขาย่อมไม่ขาดแคลนสิ่งใดในระยะนี้
เมื่อผู้อาวุโสที่ยังไม่จากไปเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกอิจฉาเป็นอย่างยิ่ง ทำไมพวกเขาถึงไม่มีลูกหลานแบบนี้บ้าง บางคนต้องการกลับไปตรวจดูการฝึกฝนของบุตรชาย หากทำได้ไม่ดีอาจจะโดนทุบตีจนตาย
“กลับไปคุยข้างในเถอะ”
หวงไท่สั่งให้ทุกคนเก็บเรื่องในวันนี้เป็นความลับและระงับข่าวในเมืองทั้งหมด จากนั้นเขานำทั้งสี่คนเข้าไปในตำหนักหลักของผู้อาวุโส
ช่วงเวลาผ่านไปอีกหนึ่งวันกว่าจะประชุมกันเสร็จ นพเก้าทำได้เพียงแต่งเรื่องขึ้นอย่างกะทันหันเท่านั้น เขาอธิบายเพียงว่าหนึ่งปีก่อนพบผู้อาวุโสลึกลับขณะล่าสัตว์วิญญาณในป่ามรณะทางตอนใต้ อีกฝ่ายเห็นพรสวรรค์ของเขาและรู้สึกถูกชะตาจากนั้นรับเขาเป็นผู้สืบทอด สาเหตุที่อาจารย์ลึกลับของเขาบุกเข้ามาในตระกูลเพราะเขาฉกชิงสมบัติฟ้าดินที่เพิ่งกำเนิดจากสถาบันเวสสุวรรณ อาจารย์ปลอมผู้นี้มาช่วยคุ้มกันเขาในขณะที่ซึมซับผลไม้วิเศษ ด้วยความอัจฉริยะของเขาทำให้ทะลวงฝ่าด่านเป็นจักรพรรดิทันที
โดยไม่คาดคิด ไม่มีคนสงสัยเรื่องนี้เนื่องจากทุกคนในตระกูลหลักได้เห็นเหตุการณ์เมื่อวานแล้วสัมผัสได้ถึงพลังของอาจารย์ปลอมของเขา หลังจากจบการประชุมทุกคนสนับสนุนให้เขาเป็นผู้สืบทอดทันที โดยไม่ต้องถามสาเหตุ
ในตระกูลหวงไม่มีจักรพรรดิยุทธ์ปรากฏตัวมามากกว่าห้าร้อยปีหลังบรรพชนตกตายในสมรภูมิรบโลหิต ยิ่งไปกว่านั้นอาจารย์ลึกลับที่พลังไม่อาจหยั่งถึงได้ยังอยู่ในตระกูล พวกเขาจะไม่มีปัญหาอีกต่อไปที่จะแข่งขันกับตระกูลอันดับหนึ่งในเมืองเวสสุวรรณ ขณะที่ทุกคนมีความสุขและคิดถึงวิธีการแกล้งเป็นหมูกินเสือแล้วจัดการกับตระกูลอันดับสองและสามอย่างไรดี มีเพียงตระกูลสาขาของหวงไค่ที่มีความรู้สึกตรงกันข้าม
“บัดซบ! ทำไมสวรรค์ถึงไม่มีความยุติธรรม ข้าวางแผนมานานนับสิบปี อีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้นทุกอย่างก็จะเป็นของข้า”
หวงไค่สบถออกมาในตำหนักของเขา สมาชิกครอบครัวที่อยู่ด้วยกันต่างเป็นทุกข์
“ท่านพ่อเราจะทำอย่างไรต่อไป ในเมื่อผู้อาวุโสพวกนั้นเปลี่ยนข้างกันหมดแล้ว เราควรยอมจำนนด้วยหรือไม่?”
เพียะ!!
เสียงตบที่ดังฟังชัดส่งฟันหน้าหลุดออกไปสองซีก บุตรชายของหวงไค่ไม่กล้าพูดอะไรเพียงก้มหน้ารับโทษ
“แฮก แฮก ไม่ว่าหน้าไหนก็ไม่ได้เรื่อง ออกไปซะ!!”
ตลอดมาเพื่อให้มีผู้สนับสนุนเขาให้สมบัติและประจบประแจงผู้อาวุโสเหล่านั้นไปมาก แต่กลับโดนหักหลังในตอนท้าย เดิมทีเขาวางแผนยึดสมาชิกทั้งหมดในกลุ่มของอัครเดชแล้วค่อยๆ กลืนกินอำนาจอย่างช้าๆ
“ท่านปู่ ข้ามีแผน”
หวงอี้เฟยเดินเข้ามาและกระซิบข้างหูท่านปู่ของเขา
“ดี เจ้าลงมือได้เลย”
เมื่อเห็นหลานชายมากพรสวรรค์ของเขา เขาก็รู้สึกเบาใจลง สิ่งนี้สามารถทดแทนบุตรชายไร้ประโยชน์ของเขาได้ หากไม่ตระกูลสาขาของเขาคงถูกกลืนกินภายในไม่เกินสิบปี
เป็นเวลาช่วงเย็นหลังจากกลับถึงห้อง นพเก้านอนหลับถึงเช้า เขานึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังเกิดใหม่ครั้งที่สอง เหตุการณ์แต่ละอย่างกระชั้นชิดเกินไปจนเขาไม่สามารถรับมือได้ เขาจะคิดแผนการฝึกปรือใหม่ในตอนเช้า
วันอาทิตย์อีกหนึ่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ของผู้ใหญ่วัยทำงานแบบวัฒนธรรม 896 เป็นวันที่ไม่อยากจะทำอะไรนอกจากนอนอยู่บ้านพักผ่อน ไม่ก็พาครอบครัวไปเที่ยวสวนสนุก หรือชายโสดที่เข้าผับบาร์ถึงโต้รุ่งก่อนเริ่มงานนรกในวันจันทร์สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นปกติในสังคมศตวรรษที่ 21 แต่วันนี้ต่างออกไปเนื่องจากมีข่าวแพร่สะพัดไปทั่วเมืองเวสสุวรรณ
ในร้านคาเฟ่ชายวัยกลางคนอ่านหนังสือพิมพ์พร้อมจิบกาแฟตอนเช้าก่อนไปทำงาน
“เจ้าได้ฟังเรื่องนี้หรือยัง ข้าได้ข่าวว่าบุตรชายอายุ 18 ปีของตระกูลใหญ่ในเมืองของเรามีคนฝ่าทะลวงไปถึงขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์ในตำนาน”
“แน่นอน และไม่ใช่แค่นั้น ข้าเห็นปรากฏการณ์ด้วยตัวเองตอนกลับบ้าน เมื่อพลังปะทุขึ้นเหมือนกับสวรรค์ถล่มที่ตระกูลอสุราทองคำ มีผู้คนพบเห็นมากมายต่อให้ส่งคนมาปิดข่าวก็ไม่สามารถทำได้”
ชายอีกคนพูดขึ้น
“พวกเจ้าคิดว่าอย่างไร จะมีการปะทะกันหรือไม่ระหว่างตระกูลยักษาสวรรค์กับตระกูลอสุราทองคำหรือไม่?”
“ไม่มีทางเป็นไปได้ บุตรชายตระกูลนั้นจะไปต่อกรด้วยได้อย่างไร เขาจะบอกความลับให้ฟังตระกูลยักษาสวรรค์ว่ากันว่ามีขอบเขตจักรพรรดิยุทธ์ที่เปิดเผยตัวอยู่แปดคน และมีความเป็นไปได้ที่จะมีบรรพบุรุษในสงครามห้าร้อยปีหลับใหลอยู่ด้วย”
ซี~
บางคนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวสั่น ลำพังแค่จักรพรรดิคนเดียวก็สามารถลบเมืองนี้ให้หายไปได้ด้วยหนึ่งฝ่ามือ ตระกูลยักษาสวรรค์ไม่ใช่อื่นใด แต่เป็นตระกูลอันดับหนึ่งที่ครอบครองเศรฐกิจถึง 70% ในเมืองเวสสุวรรณและอยู่มายาวนานกว่าสามสิบทศวรรษ
“พี่ชาย ข้าขอฟังด้วยได้หรือไม่?”
ทันใดนั้นมีเสียงอันไพเราะออกมาขณะที่กำลังเสิร์ฟชีสเค้กลงบนโต๊ะ
ทุกคนหันไปมองตรงไปที่ทิศทางนั้นทันที หัวใจของทุกคนเต้นแรง ดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ผมยาวสีดำที่มัดไว้พาดบ่าและรูปร่างที่สมส่วนของผู้ใหญ่ โดยเฉพาะหน้าอกและบั้นท้ายดินระเบิดที่สามารถทำให้ผู้ชายเป็นบ้าได้ บวกกับชุดพนักงานและผ้ากันเปื้อนสีเขียวดูน่าดึงดูดอย่างมาก
เอือก
ผู้ชายทุกคนกลืนน้ำลาย แม้แต่ผู้หญิงก็ไม่สามารถละสายตาจากนางได้ นางคือสาวเสิร์ฟคนใหม่ของร้านนี้ ทำงานได้เพียงสามวันก็เรียกลูกค้าจนต้องต่อคิวยาวเหยียด
สำหรับวัยรุ่นอาจไม่ถูกใจนัก แต่สำหรับผู้ใหญ่นี่คือผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ เพียงแค่มองจากด้านหลังก็สามารถทำให้จินตนาการโลดแล่นได้
ผู้ชายที่กำลังคุยด้วยรู้สึกกระวนกระวายปนกับความสุขและความเขินอาย เขารีบเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในตระกูลอสุราทองคำโดยไม่ตกหล่นแม้แต่น้อย
“รุ่นเยาว์อายุ 18? ของเขตจักรพรรดิงั้นหรือ?”
เมื่อนางได้ฟังเรื่องทั้งหมดดวงตาก็ส่องประกายเย็นเยียบ ดูเหมือนนางจะไม่ได้มาเมืองนี้อย่างสูญเปล่า
เป๊าะ!
นางดีดนิ้วขึ้น ชั่วขณะหนึ่งทุกคนในร้านเลิกส่งเสียง และหยุดทุกอิริยาบถ แววตาไร้ความรู้สึกราวกับหุ่นไม้ หลังจากที่ผู้หญิงคนนี้เดินออกไปจากร้านทุกคนก็พลันได้สติ
“เกิดอะไรขึ้น ข้าอยู่ที่ไหน ข้าเป็นใคร?”
“เมื่อครู่ข้าจำได้ว่าได้พบกับสาวงามกำลังเสิร์ฟขนมให้ข้า”
“เจ้าฝันไปกระมังในร้านนี้มีแต่พนักงานผู้ชาย”
ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนที่อยู่ในร้านพลันลืมตัวตนของหญิงสาวปริศนาไปทั้งหมด
มีเพียงตำรวจชายวัยกลางคนนอกเครื่องแบบคนหนึ่งเท่านั้นที่รู้สึกหวาดกลัวในจิตใจก่อนที่จะเรียกกำลังเสริมและติดตามออกจากร้านไป
“ยักษ์แดงเดือด เจ้านำนักรบโลหิตสิบตัวไปทางป่ามรณะตอนใต้แล้วปล่อยให้มันเพิ่มจำนวน”
ในห้องฝึกซ้อมหลักของผู้อาวุโสสูงสุดของหวงไท่ นพเก้ากำลังนั่งกรีดข้อมือซ้ายปล่อยให้เลือดไหลลงพื้น หลังจากนั้นเลือดรวมตัวกันกลายเป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ขนาด 20 เซนติเมตร 10 ตัว
“นายท่านเมื่อวานข้ารู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน”
เนื่องจากเมื่อวานยักษ์แดงเดือดได้เผาผลาญแก่นโลหิตไปจนเกือบหมดตัว พลังอำนาจของมันเหลือเพียงขอบเขตขัดเกลาศิลาขั้นสูงสุดเท่านั้น ตัวของมันหดลงจนมีขนาดนิ้วโป้ง มันรู้สึกว่าเจ้านายของมันทำตัวยังกับพ่อค้าทาสที่จะใช้ประโยชน์จากมันจนกว่าชีวิตจะหาไม่
“ข้าอนุญาตให้เจ้ากินอะไรก็ได้ในป่ามรณะ ยกเว้นมนุษย์”
นพเก้าโยนขวดยาปะทุโลหิตไปให้มันหนึ่งขวด โดยบรรจุ 12 เม็ด
“นายท่านโปรดวางใจ ต่อให้ข้าต้องแรกชีวิตก็ตามข้าจะทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วง”
เมื่อมันได้โอสถนี้มันกลืนเข้าไปทั้งขวดหยก มันรู้สึกกว่าพลังฟื้นฟูขึ้นมา 10% สามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ได้บางส่วน ทันใดนั้นทัศนคติที่มีต่อเจ้านายของมันก็ดีขึ้นเล็กน้อย มันรู้สึกว่าเจ้านายของมันเปลี่ยนจากพ่อค้าทาสกลายเป็นผู้ประกอบการใจดำที่ต้องการเพิ่มค่าจ้างรายวันให้ทำงานในวันหยุดสุดสัปดาห์
ความจริงแล้วร่างจำแลงพวกนี้มันไม่รู้อะไร เขามีความลับส่วนหนึ่งที่ไม่มีทางบอกพวกมันก็คือเขาสามารถอ่านใจพวกมันได้รวมถึงประสบการณ์ทั้งหมด เนื่องจากเคล็ดวิชาหัวใจทศกัณฐ์จัดอยู่ในทักษะของมารชั่วร้ายโดยมีโอกาสที่ผู้ฝึกปรือจะถูกครอบงำหรือทรยศได้ ผู้สร้างจึงสร้างช่องโหว่ให้ร่างจำแลงไม่สามารถรับรู้ถึงการอ่านใจพวกมัน
เมื่อยักษ์แดงเดือดกลายเป็นกระแสปราณแล้วจากไป นพเก้าก็เข้าสู่โลกของตัวเองวางแผนเส้นทางการฝึกปรือจากเคล็ดวิชาหัวใจทศกัณฐ์
[ติ๊ง~ ยินดีด้วย ท่านสร้างผลกระทบเป็นวงกว้างในภูมิภาคกลาง ข่าวลือเรื่องจักรพรรดิยุทธ์ที่อายุน้อยที่สุดแพร่สะพัดในเมืองเวสสุวรรณอย่างรวดเร็ว อิทธิพลของโฮสต์เพิ่มขึ้นเล็กน้อย รางวัล + 10 ช่องทรัพยากร]
“ระบบ เจ้าช่วยอย่าขัดเวลาสำคัญจะได้ไหม?”
นพเก้าแทบสำลัก เหตุใดรางวัลถึงมาขัดในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้
[ติ๊ง~ ระบบได้ตรวจสอบดูแล้วการกระทำทุกอย่างสมเหตุสมผล ไม่ได้รบกวนในช่วงเวลาสำคัญถึงขั้นเกิดผลกระทบต่อโฮสต์ และระบบจะคำนวณรางวัลให้ก็ต่อเมื่อมีความคืบหน้าถึงระดับนึง โฮสต์ไม่สามารถตั้งความหวังให้ได้รับทันทีได้]
“นี่จะให้ข้าเป็นฝ่ายผิดใช่หรือไม่?”
นพเก้ารู้สึกหงุดหงิดในใจ เขากลัวว่าในอนาคตจะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีก
“ข้าสามารถปิดการแจ้งเตือนได้หรือไม่?”
[ไม่]
ระบบตอบแบบขอไปที
.......
นพเก้าเลิกสนใจมัน เมื่อเขามองนาฬิกาข้อมือเป็นช่วงเวลาหนึ่งทุ่มแล้ว จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างชั่วร้าย ก่อนที่เจ้าจันทร์เสี้ยวจะจากไปเขาได้มอบของขวัญเซอร์ไพรส์ชิ้นใหญ่ติดไปด้วย
ณ เขตสุดตะวันออกของภูมิภาคกลาง ดินแดนเซียนกินพื้นที่ไปถึงสองในสิบของภูมิภาค บุคคลทั่วไปผู้ที่ต้องการผ่านทางจะต้องผ่านประตูขนส่งเท่านั้น เนื่องจากมีสนามพลังล่องหนปิดกั้นไม่ให้บุคคลทั่วไปเข้ามาได้ ในอดีตขุมกำลังต่างๆ มีการค้นพบเส้นชีพจรวิญญาณขนาดใหญ่ในดินแดนนี้ จึงเกิดการต่อสู้แย่งชิงพื้นที่จนปัจจุบันมีเพียงขุมกำลังที่ยิ่งใหญ่เท่านั้นจึงสามารถต่อต้านและไม่ถูกบังคับให้ออกไปได้
นอกจากนี้ยังมีการปิดกั้นฟ้าดินด้วยค่ายกลสนามพลังในดินแดนจึงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยปราณวิญญาณกว่าภายนอกถึงสิบเท่าถึงร้อยเท่ากลายเป็นสรวงสวรรค์แห่งการบ่มเพาะ
ขณะที่ผู้คนต่อคิวกันยาวเหยียดใต้ทางเดิน บนฟากฟ้าปรากฏมนุษย์บินผ่านไปอย่างกับดาวหางทะลวงค่ายกลไปทันทีโดยไม่มีการต่อต้าน ผู้ที่ผ่านมาคือเจ้าจันทร์เสี้ยวเขาต้องรีบนำข่าวสำคัญนี้กลับไปรายงานเทพสงครามของดินแดนเซียน เรื่องที่เกิดขึ้นสามารถสั่นคลอนทั้งภูมิภาคได้ ขณะที่เจ้าจันทร์เสี้ยวผ่านค่ายกลไป 3 ชั้น เขามาหยุดตรงค่ายกลชั้นที่ 4 แล้วแสดงป้ายผู้อาวุโสสูงสุดที่ทำจากทองคำขาว เขาโคจรพลังไปยังป้ายทองคำขาวจากนั้นปรากฏแสงห่อหุ้มรอบตัวเขา จากนั้นเขาจึงเข้าไปในอนาเขตหลักของดินแดนเซียน