วันที่ท้องฟ้าสดใส แสงแดดอบอุ่น สายลมเย็นพัดเอื่อยๆ 'ยู' รู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่าตอนกลางแจ้ง เมื่อเจ้าตัวดันล่วงรู้ความลับของ 'คีธ' เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่อยู่ด้วยกันมาทั้งชีวิตว่า เขาไม่ใช่เบต้าธรรมดา
รัก,แฟนตาซี,โอเมกาเวิร์ส,ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,นายเอกท้องได้,พระเอกธงเขียว,พระเอกคลั่งรัก,พระเอกซึนเดเระ,รักวัยรุ่น,romantic,slice of life,ชายรักชาย,Feel good,แมว,เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ,เพื่อนสนิท,BL,Boy Love,โอเมก้าเวิร์ส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Keith's Love ความลับของทาสแมว | Omegaverseวันที่ท้องฟ้าสดใส แสงแดดอบอุ่น สายลมเย็นพัดเอื่อยๆ 'ยู' รู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่าตอนกลางแจ้ง เมื่อเจ้าตัวดันล่วงรู้ความลับของ 'คีธ' เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่อยู่ด้วยกันมาทั้งชีวิตว่า เขาไม่ใช่เบต้าธรรมดา
'ยู' เป็นนักวิจัยที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่ในเขตชนบท หลังจากเรียนจบชีวิตของเขาราบรื่นเป็นพิเศษ
เขาโชคดีถึงขั้นได้ทุนไปเรียนต่อปริญญาเอกตามที่ใฝ่ฝันไว้อีกด้วย และแล้วจังหวะชีวิตของเขาก็สะดุด
เพราะ 'คีธ' เพื่อนสนิทที่อยู่ด้วยกันมาเกือบ 10 ปี เปิดเผยความลับที่ว่าแท้จริงแล้ว 'คีธเป็นแมว' ออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย
ถึงยูจะไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อน แต่เขามั่นใจว่าตัวเองเป็นทาสแมวตัวยง
แสดงว่าหลังจากนี้... เขาก็จะได้เลี้ยงแมวสมใจแล้วน่ะสิ (?)
นิยายเรื่องนี้อยู่ในจักรวาลของเซต #ความลับตระกูลครอสโซ่ โดยแบ่งเป็นเรื่องราวของพี่น้องตระกูลครอสโซ่
เริ่มต้นด้วยเรื่อง #ความลับของทาสแมว ที่มีพระเอกอย่าง 'คีธ' น้องชายคนเล็กของบรรดาพี่น้องในตระกูล ที่หนีวังมาใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์กับเพื่อนสนิทถึงชนบทอันห่างไกล
แน่นอนว่า สามารถอ่านแยกกันได้โดยไร้ปัญหาค่ะ (ღ´◡`ღ)
อนึ่งนิยายที่ลงในเว็บยังไม่ผ่านการจัดหน้าและพิสูจน์อักษรนะคะ ถ้าเปิดขาย E-Book แล้วจะดำเนินการทำรูปเล่มให้เรียบร้อยแน่นอนค่ะ
.
.
.
แฮชแท็กทวิตเตอร์ #ความลับของทาสแมว
Writer : Ambersweet_XIX
Artist : buttér
(นักเขียนมือใหม่+นักวาดมือใหม่ จับมือกันเดบิวต์ผลงานชิ้นแรก ขอบคุณคุณบัตเตอร์มาก ๆ ที่วาดภาพปกสุดแสนน่ารักออกมานะคะ)
Typography : ณะเอย
(ขอบคุณเพื่อนที่ทำไทโปให้ตามบรีฟเลย ซาบซึ้งใจมากๆ)
.
.
.
E N J O Y R E A D I N G
;)
A m b e r s w e e t _ X I X
ตอนที่ 1
E N J O Y R E A D I N G
;)
-----------------------------------------------------
หลังจากที่ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ยูรอคอยคำพูดต่อไปของเพื่อนสนิทจนอึดอัดไปหมด เขารวบรวมความกล้าเงยหน้าขึ้นกวาดสายตามองคีธให้เต็มตาเพื่อยืนยันสิ่งที่ตัวเองเห็นเมื่อครู่นี้ แต่เขากลับพบว่า คีธก็ยังคงเป็นคีธเหมือนทุก ๆ ในวัน
ไม่มีอะไรแปลกไป ไม่มีหูแมวงอกออกมา
ยูตะลึงงัน สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่าตัวเองตาฝาด จึงพูดอย่างเก้อ ๆ ว่า "ขอโทษที่ทำให้ตื่นนะคีธ เหมือนว่าช่วงนี้ฉันจะทำงานหนักไปเลยฝันเห็นนายมีหูเหมือนแมว แถมยังคิดเป็นจริงเป็นจังด้วยให้ตายสิ" ยูลูบหน้าตัวเองอย่างแรงเพื่อเรียกสติ ผมสีน้ำตาลอ่อนถูกเสยขึ้นอย่างแรงจนชี้โด่ชี้เด่ไม่เป็นทรง
ดวงตากลมโตของยูจ้องมองเพื่อนสนิทอย่างมุ่งมั่น สายตาร้อนแรงที่สื่อถึงความรู้สึกผิดสบเข้ากับดวงตาพราวระยับของคีธเข้าพอดี ร่างทั้งร่างราวกับถูกสายตาอันล้ำลึกนั้นตรึงเอาไว้ ชายหนุ่มเผลอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว
ยูรู้มาตลอดว่าดวงตาของคีธสวยมาก ดวงตาเป็นสีน้ำตาลอ่อนจางวาววับเหมือนลูกแก้ว บางครั้งก็คล้ายกับสามารถส่องสะท้อนประกายสีทองออกมาได้เมื่อมีแสงตกกระทบ ประกายบางอย่างในดวงตาของคีธมีพลังดึงดูดที่ทำให้ผู้คนที่จ้องมองรู้สึกลุ่มหลงจนแทบลืมหายใจ
ทุกครั้งที่ยูจมดิ่งเข้าไปในแรงดึงดูดนั้น ใจดวงน้อยมักจะเต้นระรัวอย่างห้ามไม่อยู่ แต่มาวันนี้ในใจพลันสงบลงอย่างน่าประหลาด จู่ ๆ สรรพสิ่งรอบตัวล้วนเงียบงัน โลกทั้งใบขาดสีสันจนซีดจาง เขามองเห็นเพียงรอยยิ้มน้อย ๆ ที่คีธส่งมาให้ รอยยิ้มนั้นแต่งแต้มให้ใบหน้าของยูเป็นสีชมพูอ่อนจาง โดยที่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ตัว
“อืม ไม่เป็นไร” เมื่อได้ยินคำตอบ ยูก็หลุบตาต่ำหลีกเลี่ยงไม่มองคนตรงหน้า เขาก้มหน้าลงมองฝ่ามือของตัวเอง ในหัวคิดถึงสัมผัสนุ่มนิ่มที่ยังติดอยู่ตรงปลายนิ้ว ถึงจะคิดว่าตัวเองแค่ฝันกลางวัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลางอกรู้สึกวูบโหวง คล้ายไม่อยากให้เป็นเพียงแค่ความฝัน ความคิดมากมายในหัวหมุนวนซ้ำไปซ้ำมา ยูยังไม่แน่ใจเลยว่า ที่ตนเห็นเมื่อครู่นั่นแค่ใจลอยจนตาฝาดหรือเป็นเรื่องจริง
คีธมองสภาพของคนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วได้แต่พ่นลมหายใจออกมา จากระยะเวลาเกือบทั้งชีวิตที่อยู่ร่วมกันมา คีธค้นพบว่า ความจริงแล้วยูเป็นคนที่ฉลาดหัวไวคนหนึ่งเลยทีเดียว ทั้งมีความรับผิดชอบ ใจกว้าง และตรงไปตรงมา เป็นคนที่รับมือกับปัญหาต่าง ๆ ได้ดี แต่ไม่รู้ว่าวันนี้เพื่อนรักของเขาสมองทึบไปหมดแล้วหรืออย่างไร ถึงได้แยกความจริงกับความฝันไม่ออก
ท่าทางโง่เง่าแบบนี้ ก็ดูน่ารักไปอีกแบบ
คีธถอนหายใจอย่างปลงตกแล้วสังเกตปฏิกิริยาคนตรงหน้า ร่างกายบอบบางกำลังสั่นน้อย ๆ ชวนให้คนมองรู้สึกตระหนก เมื่อคีธรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป ฟีโรโมนรอบตัวที่เผลอปล่อยออกมาก็ถูกเก็บเข้าไปอย่างรวดเร็ว เพราะต่อให้เป็นโอเมก้าที่มีจิตใจแข็งแกร่งก็ยังต้องสั่นกลัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่ออยู่ภายใต้แรงกดดันจากฟีโรโมนของอัลฟ่าที่มีสายเลือดที่แข็งแกร่งอย่างเขา
คีธเดินเข้าไปใกล้ แต่ยูกลับถอยหนีอย่างลนลาน ชายหนุ่มเห็นอีกฝ่ายหวาดกลัวก็พลันเจ็บจี๊ดในใจ จึงเอ่ยปลอบเสียงอ่อนโยน “อย่ากลัวไปเลย”
ยูพยักหน้ารับ กำมือแน่น พยายามห้ามขาของตัวเองไม่ให้สั่น และฝืนตัวไม่ให้ถอยกรูดไปข้างหลัง
“แล้วก็ไม่อนุญาตให้หนีด้วย” สิ้นเสียงก็ฉวยโอกาสกอบกุมมือของยูไว้แน่น ยกขึ้นมานวดคลึงเบา ๆ ถ่ายเทความอบอุ่นให้กับมือที่เย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง
"นายมองไม่ผิดหรอก ขอโทษด้วยที่ไม่ได้บอกนายตั้งแต่แรก" เมื่อตัดสินใจได้ คีธก็บอกความจริงออกไปราวกับกำลังคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ
เขาขยับเข้าไปประจันหน้ากับเพื่อนสนิทของตัวเอง ใช้สองมือใหญ่จับเข้าที่พวงแก้มขาวเนียน ค่อย ๆ ออกแรงประคองให้ยูเงยหน้าขึ้นมาสบตากัน ดวงตาคมกริบแปรเปลี่ยนไปเป็นดวงตาสีอำพันส่องประกายสีทองคล้ายอัญมณี เขาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่เบิกกว้างของมนุษย์ตรงหน้าเอ่ยด้วยความจริงใจ
เมื่อหูแมวที่ติดอยู่ในใจของเขาปรากฏขึ้นมาให้เห็นอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ประกายแสงสีทองจากดวงตาที่เปลี่ยนไปของเพื่อนสนิทยังคงติดตาไม่หาย เหงื่อตามกรอบหน้าที่แอบเช็ดออกไปเมื่อครู่เริ่มผุดซึมออกมาอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่ไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเองแท้ ๆ ดูเหมือนว่าตอนนี้ จะไม่เชื่อก็ไม่ได้แล้ว
เมื่อไม่นานมานี้เขาจะต้องหัวกระแทกพื้นมาแน่ ๆ ทั้งหูทั้งตาทั้งสมองถึงได้เพี้ยนไปหมด แต่ถึงหัวจะเพี้ยนยังไง ปฏิกิริยาของร่างกายที่ตื่นกลัวก็เป็นสิ่งยืนยันว่า ทั้งหมดนี่คือเรื่องจริง
คีธมองใบหน้าเหลอหลาของเพื่อนสนิทแล้วหลุดขำออกมา ชายหนุ่มลูบศีรษะของยูเบา ๆ ฝ่ามือใหญ่ลูบไล่มาที่ท้ายทอย ต้นคอ ใบหู และแตะลงบนต่างหูทับทิมเม็ดเล็กที่ตนเป็นคนซื้อให้ เมื่อมองอย่างพอใจแล้วความอ่อนโยนในดวงตาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น แม้แต่ฟีโรโมนกลิ่นคาราเมลที่แสนหอมหวานก็ยังปล่อยออกมาโดยไม่รู้ตัว บรรยากาศที่ชวนอึดอัดเมื่อครู่ผ่อนคลายขึ้นทันตาเห็น
"ก็ตามที่พูดนั่นแหละ นายก็จับไปแล้วนี่ ยังจะสงสัยอะไรอีก" คีธเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ เขาบีบใบหน้าของยูจนใบหน้าน่ารักบู้บี้ไปหมด เพียงชั่วพริบตาชายหนุ่มที่มีร่างกายสูงใหญ่สง่างามตามแบบฉบับของเด็กหนุ่มที่เติบโตจนเต็มที่แล้ว ก็ค่อย ๆ ย่อขนาดลงไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นแมวน้อยขนสีเทาตัวหนึ่ง
เจ้าก้อนสีเทากระโดดขึ้นไปบนเตียงนอนอย่างคล่องแคล่ว แล้วสั่งการด้วยท่าทางหยิ่งยโสทั้ง ๆ ที่ยังอยู่ในร่างแมวว่า ให้ยูเก็บผ้าปูที่นอนให้เรียบร้อย
“อา...เป็นอย่างนี้นี่เอง” ความจริงแล้วยูไม่รู้ว่าคีธพูดอะไรไปบ้าง หรือเจ้าแมวน้อยสีเทานี่มาจากไหน เพราะกำลังตกตะลึงจนตาค้างอยู่ สติที่เพิ่งกลับเข้าร่างแตกกระเจิงไปอีกครั้งอย่างที่ห้ามเอาไว้ไม่อยู่ จะรวบรวมกลับมาก็ไม่ได้อีกเช่นกัน
คีธเห็นว่ายูตอบรับก็วางใจ จากนั้นเจ้าแมวที่แสดงท่าทางอวดดีตัวนั้นก็ทิ้งตัวลงมาบนพื้นพรมอย่างสง่างาม พร้อมทั้งเชิดหน้าขึ้นก่อนจะย่างเท้าเดินออกไปจากห้องด้วยท่าทางของอัลฟ่าผู้เหนือกว่าทุกสิ่งมีชีวิตในห่วงโซ่เดียวกัน แต่มองอีกทีก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่า แม้คีธจะเชิดหน้าขึ้นแล้ว ตัวก็ยังสูงไม่ถึงหัวเข่าของยูเลยด้วยซ้ำไป
เงาร่างของเพื่อนตัวน้อยหายลับไปจากกรอบประตู ทิ้งให้ยูยืนนิ่งค้างอยู่ตรงนั้นโดยไม่มีคำอธิบายอะไรเพิ่มเติมเลยแม้แต่ครึ่งคำ
ยูรีบตามออกไปทันที วันนี้ถ้าเขายังถูกปล่อยให้มึนงงอยู่แบบนี้ อย่าได้หวังว่าจะได้ไปทำอย่างอื่นเลย! หลังจากยูตามตอแยเพื่อนสนิทอยู่ครึ่งค่อนวัน อีกฝ่ายก็ยอมรับออกมาตามตรงว่า ตัวเองเป็นแมว
แมวที่บอกว่าเกลียดนักเกลียดหนา แมวที่ไม่ยอมเข้าใกล้แมวตัวอื่นอยู่ตั้งนาน ที่แท้ตัวเขาเองนั่นแหละที่เป็นแมว!
ใช่แล้ว คีธคือแมว
แต่ไม่ใช้ปีศาจที่แปลงกายจำแลงมาแต่อย่างใด
บนโลกอันแสนมหัศจรรย์ใบนี้ มีการแบ่งประเภทของมนุษย์เป็นชนชั้นอย่างอัลฟ่า โอเมก้า เบต้า ตามเพศรองที่สามารถตรวจได้เมื่ออายุถึงเกณฑ์ที่กำหนด นั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนรับรู้กันมานานแล้ว
แต่สิ่งที่เป็นความลับสุดยอดที่คนธรรมดา ๆ ไม่มีทางรู้ก็คือ ในบรรดาชนชั้นสูงไม่ว่าจะเป็นเชื้อพระวงศ์ ตระกูลเก่าแก่ที่มีรากฐานเป็นร้อยเป็นพันปี สามารถรักษาความรุ่งโรจน์ของวงศ์ตระกูลให้คงอยู่ได้ นอกจากจากปัจจัยอื่น ๆ ที่ควรมีแล้ว การมีทายาทผู้สืบทอดพลังความสามารถพิเศษบางอย่างของบรรพบุรุษแต่ละตระกูลมานั้นเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลย
ไม่ว่าจะเป็นอัลฟ่า เบต้า หรือโอเมก้า ก็มีสามารถเป็นผู้สืบทอดของบรรพบุรุษได้ทั้งนั้น ทำให้ทายาทเหล่านี้จัดอยู่ในจำพวกชนชั้นพิเศษ
ยกตัวอย่างเช่น ตระกูลที่สืบทอดความสามารถของค้างคาว ก็มักจะมีประสาทสัมผัสยามค่ำคืนที่ดีเป็นพิเศษ มีเลือดที่อุดมไปด้วยสารอาหาร เป็นประโยชน์อย่างมากในทางการแพทย์ ส่วนตระกูลที่สืบทอดความสามารถของเสือดาว ก็อาจจะมีร่างกายที่ปราดเปรียวแข็งแรงว่องไว มีนิสัยดุร้าย หรือมีสัญชาตญาณความเป็นนักล่าเต็มเปี่ยม เวลาที่ปล่อยฟีโรโมนกดข่มออกมาก็จะแข็งแกร่งน่าเกรงขามกว่าคนทั่วไป
และคีธก็เป็นหนึ่งในทายาทของตระกูลเก่าแก่ตระกูลหนึ่งเช่นกัน
ตระกูลครอสโซ่ของคีธ เป็นตระกูลที่เก่าแก่ที่มีรากฐานมายาวนานหลายพันปี เป็นถึงหนึ่งในห้าตระกูลใหญ่ของเมืองหลวง เป็นผู้นำในแวดวงธุรกิจ มีหน้ามีตาทางสังคมเป็นอย่างมาก แม้จะถูกเล่นงานทั้งในที่ลับและที่แจ้งก็ยังอยู่ยงคงกระพัน คนในแวดวงจึงนึกยำเกรงความแข็งแกร่งของตระกูลครอสโซ่อยู่ในใจ คาดเดากันไปเองว่า บรรพบุรุษของตระกูลนี้อาจจะเป็นสัตว์ที่พิเศษและน่ากลัวมาก ๆ
แมวมีความสามารถอะไรนั้นไม่ต้องพูดถึง แต่ถ้าพูดออกไปว่าแท้จริงแล้วไม่ว่าจะผู้นำตระกูลผู้น่าเกรงขาม นายน้อยที่เก่งกาจ ทายาทที่เพียบพร้อม ทั้งหมดล้วนเป็นเพียงแมวน้อยตัวหนึ่ง ไม่ว่าใครก็นึกอาย ดังนั้น เรื่องนี้จึงเป็นความลับสุดยอดที่คนนอกไม่มีทางได้รับรู้เป็นอันขาด!
คีธไม่ได้รังเกียจสายเลือดของตัวเองแม้แต่น้อย ส่วนฟีโรโมนแสนหวานที่ไม่เข้ากับภาพลักษณ์ของเขาก็ชวนให้รู้สึกเขินอายอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่ว่ายอมรับไม่ได้ ทว่าที่ต้องเก็บไว้เป็นความลับ เนื่องจากเป็นข้อห้ามของตระกูล สำหรับผู้ที่ออกเดินทางไปหาประสบการณ์ข้างนอก
ข้อห้ามนี้มีเพียงเงื่อนไขเดียวในการเปิดเผยคือ ผู้ที่รู้ความลับจะต้องเป็นคู่พันธะของทายาทตระกูลครอสโซ่เท่านั้น
เรื่องข้อห้ามอะไรนั่น คีธไม่ได้ใส่ใจสักเท่าไร ทายาทรุ่นหลังล้วนแต่เป็นพวกหัวขบทกันทั้งนั้น กฎตระกูลบางข้อล้วนแต่ไร้ผลเมื่อเอามาใช้กับพวกเขา ดังนั้นผู้อาวุโสในตระกูลก็ต้องยอมลงให้กันอย่างช่วยไม่ได้
นี่คือการปรับตัวเข้าหากันของคนในครอบครัว ที่ทำให้ตระกูลครอสโซ่สามารถพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด ทิ้งห่างตระกูลเก่าแก่หลายตระกูลที่ผู้ใหญ่ครองอำนาจแล้วยึดถึงแต่ธรรมเนียมโบราณคร่ำครึ
แม้รู้ดีว่าต้องมีสักวันที่ตัวเขาเผลอลดความระแวดระวังลง จนเปิดเผยความลับเรื่องตัวตนที่แท้จริงออกมา แต่ไม่นึกเลยว่าจะเป็นวันนี้ วันที่ได้อยู่ในห้องที่คุ้นเคย อากาศรอบตัวเย็นสบาย แสงแดดที่ส่องมาจากทางหน้าต่างทำให้อบอุ่น และการได้อยู่กับคนที่ไว้ใจทำให้จิตใจสงบสุข จนเผลอเผย 'นิสัยแมวๆ' ออกมาด้วยการนอนโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
ไม่แยแสต่อสิ่งใดจนถึงขั้นที่ไม่แม้แต่จะเก็บหูให้เรียบร้อย นี่เป็นสิ่งที่คีธไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยสักนิด
บางทีเขาอาจจะประเมินความเชื่อใจของตัวเองที่มีต่อเพื่อนรักคนนี้ต่ำเกินไปแล้วจริง ๆ
ข้อความจากนักเขียน
หัวใจของโอเมก้าตัวน้อยแตกสลาย โถ่เพื่อนรัก ตัวเองเป็นแมวแท้ ๆ ทำไมเพิ่งมาบอกกันเล่า
ถ้ารู้แบบนี้ยูก็คงจะรักเพื่อนคนนี้สุดหัวใจ (?)