“เซเลน่า” สาวน้อยผู้เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืด วันหนึ่งเธอได้ถูกสำนักแห่งหนึ่งลักพาตัวไป
ชาย-หญิง,รัก,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,โรแมนติกแฟนตาซี,พลังแห่งความมืด,ทูตสวรรค์,พลังพิเศษ,พระจันทร์สีเลือด,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด“เซเลน่า” สาวน้อยผู้เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืด วันหนึ่งเธอได้ถูกสำนักแห่งหนึ่งลักพาตัวไป
"เซเลน่า" เป็นเด็กสาวที่เกิดมาพร้อมกับพลังชั่วร้ายนั่นคือ "พลังแห่งความมืด" แต่พลังนั้นจะปรากฎต่อเมื่อพระจันทร์สีเลือดเต็มดวงหรือเมื่อถูกกระตุ้น เวลาต่อมาสำนักดาร์กฟิล่าได้ทราบข่าวขึ้นและบุกรุกจักรวรรดิเรนฟิล่าเพื่อเอาตัวเซเลน่าไปยังสำนัก กระตุ้นพลังแห่งความมืดของเธอโดยการใช้พลังแห่งความมืดครอบงำและการกลืนกินพลังของคนบริสุทธิ์ ทำให้เธอเข้าด้านมืดในที่สุด
“ไม่ต้องเป็นห่วงไปนะเซเลน่า เดี๋ยวท่านคามาเอลจากสำนักแสงสว่างบริสุทธิ์จะช่วยเอง” ลอร์ดเรนฟิล่ากล่าว
คามาเอลโค้งคำนับต่อเซเลน่าพร้อมกับเอ่ยว่า “ขอรับ ข้าคามาเอลจากสำนักแสงสว่างบริสุทธิ์ยินดีที่จะช่วยเหลือคุณหนูเซเลน่าขอรับ”
“ขอบคุณมาก ๆ นะคะท่านคามาเอล ฉันจะได้เป็นคนธรรมดา ๆ คนหนึ่งเท่านั้นซะที” เซเลน่ากล่าว
ณ ห้องบูชาทูตสวรรค์ของสำนักแสงสว่างบริสุทธิ์ คามาเอลเดินไปหยิบน้ำยาแสงสว่างแห่งทูตสวรรค์ที่ชั้นวาง
“นี่คือน้ำยาแสงสว่างแห่งทูตสวรรค์สามารถฟื้นฟูพลังแห่งความมืดกลายเป็นแสงสว่างได้ขอรับ” คามาเอลกล่าว
“สามารถฟื้นฟูพลังแห่งความมืดกลายเป็นแสงสว่างอย่างไงหรือเพคะ?” เซเลน่ากล่าวถาม
คามาเอลโค้งคำนับ “ขอรับ...ท่านดยุกแห่งเซฟิน่าก็เคยได้รับน้ำยาอันนี้ด้วยนะขอรับ” และกล่าว
“งั้นหรอเพคะ?” เซเลน่ากล่าวถาม
“ใช่แล้วล่ะลูก ตอนที่พ่อโดนโจมตีจากพลังแห่งความมืดก็ได้น้ำยาแสงสว่างแห่งทูตสวรรค์อันนี้แหละทำให้รอด” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าว
คามาเอลยื่นน้ำยาแสงสว่างให้เซเลน่าดื่ม “คุณหนูเซเลน่าดื่มน้ำยานี้นะขอรับ แล้วข้าจะทำพิธีฟื้นฟูให้ขอรับ”
เซเลน่าพยักหน้าตอบรับและรับน้ำยาแสงสว่างจากคามาเอลยกขึ้นมาดื่ม
คามาเอลสยายปีกบินขึ้นไปยังบนรูปปั้นทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับเอ่ยว่า “ด้วยพลังแห่งทูตสวรรค์ ขออัญเชิญแสงแห่งทูตสวรรค์เพื่อฟื้นฟูพลังด้วยเถิด”
แสงสว่างจากรูปปั้นทูตสวรรค์สาดส่องลงมาหาเซเลน่าและตัวของเธอลอยขึ้นไปตามแสงสว่าง จากนั้นพลังแห่งความมืดของเซเลน่าได้ค่อย ๆ ฟื้นฟูกลายเป็นพลังแสงสว่างอย่างสมบูรณ์ในที่สุด
ตัวของเซเลน่าลอยลงกลับมาสู่พื้นและแสงสว่างจากรูปปั้นทูตสวรรค์ดับลง
“ฉันขอบคุณท่านมากนะเพคะ ท่านคามาเอล” เซเลน่าก้มหัวขอบคุณคามาเอล
คามาเอลบินลงจากรูปปั้นทูตสวรรค์พร้อมกับเอ่ยว่า “ข้ายินดีที่จะช่วยเหลืออยู่แล้วขอรับคุณหนูเซเลน่า”
“พวกเราทำภารกิจช่วยเซเลน่าสำเร็จแล้ว งั้นพวกเราขอตัวกลับจักรวรรดิก่อนนะขอรับ” ลอร์ดเรนฟิล่ากล่าวและเดินออกไปพร้อมกับชาเบล
ส่วนดยุกแห่งเซฟิน่ากับเซเลน่าโค้งคำนับและเดินออกไปเช่นกัน
เช้าวันต่อมา ณ ห้องโถงของคฤหาสน์จักรวรรดิเรนฟิล่า ลอร์ดเรนฟิล่ากำลังจิบน้ำชาพร้อมกับอ่านหนังสืออยู่บนโซฟา เวลานั้นเองดยุกแห่งเซฟิน่าและเซเลน่าเดินเข้ามา
“ลอร์ดเรนฟิล่าสวัสดีขอรับ สบายดีไหมขอรับ” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าว
“สวัสดีขอรับท่านดยุกแห่งเซฟิน่าและคุณหนูเซเลน่า กระผมสบายดีขอรับ แล้วพวกท่านล่ะ?” ลอร์ดเรนฟิล่ากล่าว
“ฉันกับลูกสบายดีเช่นกัน แล้วชาเบลล่ะ?” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าวถาม
“นั้นสินะคะ ไม่เห็นเลย” เซเลน่าเห็นด้วย
“ชาเบลอยู่ในห้องทำงานนะ กำลังทำงานอยู่นะ” ลอร์ดเรนฟิล่ากล่าว
“ทำงานงั้นหรอเพคะ?” เซเลน่ากล่าวด้วยความรู้สึกสงสัย
“ชาเบลได้ขึ้นเป็นดยุกปกครองจักรวรรดิเรนฟิล่าแล้วล่ะ” ลอร์ดเรนฟิล่ากล่าว
เซเลน่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเอ่ยว่า “เหมือนจะจำได้ราง ๆ ว่าตอนที่เซเลน่าถล่มงานเฉลิมฉลองอันนั้นคืองานการขึ้นปกครองจักรวรรดิของคุณชาเบลใช่ไหมเพคะ”
ดยุกแห่งเซฟิน่าและลอร์ดเรนฟิล่าพยักหน้า
“แล้วได้รับบาดเจ็บอยู่นี่น่า ทำไมถึงยังทำงานอยู่อีกล่ะเพคะ” เซเลน่ากล่าวด้วยความรู้สึกเป็นห่วง
“เรื่องที่เซเลน่าพูดถึงคือตอนที่ชาเบลโดนดาบความมืดทมิฬเข้ากลางอกใช่หรือไหม” ลอร์ดเรนฟิล่ากล่าวถาม
เซเลน่าพยักหน้าตอบรับ
“ถึงตอนนั้นชาเบลจะถูกสังหารแต่โชคดีที่มีพลังทูตสวรรค์ปกป้องอยู่” ลอร์ดเรนฟิล่ากล่าว
“พลังทูตสวรรค์อย่างงั้นหรือเพคะ ชาเบลได้มายังไงหรอเพคะ” เซเลน่ากล่าวถามด้วยความรู้สึกสงสัย
“ทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์จากสำนักแสงสว่างบริสุทธิ์นะลูก ท่านมอบพลังและดาบทูตสวรรค์ซึ่งเป็นอาวุธคู่กายแก่ชาเบล” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าว
ลอร์ดเรนฟิล่าพยักหน้ายืนยันอีกเสียง
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง งั้นเซเลน่าขอตัวไปหาชาเบลก่อนนะเพคะ” เซเลน่ากล่าว
“ฝากเอาถาดน้ำชาไปให้ชาเบลด้วยนะ” ลอร์ดเรนฟิล่ากล่าว
เซเลน่าพยักหน้าตอบรับและเดินไปที่ห้องทำงานของชาเบล
ณ ห้องทำงานของชาเบล ชาเบลกำลังนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะทำงานของตน
“ก๊อก ๆ” เสียงเคาะประตู
“ใครครับ?” ชาเบลเอ่ยถาม
“เซเลน่าเองค่ะ เอาน้ำชามาให้ค่ะ” เซเลน่าเอ่ยตอบ
“เซเลน่าหรอครับ เข้ามาได้เลยครับ” ชาเบลกล่าว
เซเลน่าเปิดประตูเดินเข้ามาภายในห้องทำงานพร้อมกับถาดน้ำชาและวางถาดลงบนโต๊ะทำงาน แล้วริบน้ำชาและยกถ้วยชายื่นให้กับชาเบล
“น้ำชาค่ะ คุณชาเบล” เซเลน่ากล่าว
ชาเบลวางปากกาลงบนโต๊ะแล้วรับถ้วยน้ำชาจากเซเลน่าพร้อมกับยกดื่ม “ขอบคุณนะครับ”
“เอ่อ...คุณชาเบลได้รับบาดเจ็บมานี้ค่ะ ทำไมถึงต้องทำงานล่ะคะ ไม่พักผ่อนก่อนหรอคะ” เซเลน่ากล่าวด้วยความรู้สึกเป็นห่วง
“ผมอยากทำงานให้กับชาวเมืองของผมอ่ะครับ แล้วอีกอย่างผมไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากมายเพราะมีพลังทูตสวรรค์ฟื้นฟูอยู่ครับ” ชาเบลกล่าว
“ถึงว่าคุณชาเบลจะมีพลังทูตสวรรค์ก็ควรพักผ่อนนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะไม่สบายเอานะคะ” เซเลน่ากล่าว
ชาเบลเอามือเท้าคางมองใบหน้าอันสวยงามของเซเลน่าพร้อมกับเอ่ยถาม “เป็นห่วงผมหรอครับ”
เซเลน่าหลบหน้าชาเบลด้วยความรู้สึกเขินก่อนเอ่ยว่า “ใช่ค่ะ...เซเลน่าเป็นห่วงคุณชาเบล”
ดยุกแห่งเซฟิน่าเดินเข้ามาพร้อมกับลอร์ดเรนฟิล่า “หน้าแดงจังเลยนะลูกสาวของพ่อ”
เซเลน่าหันหน้ามามอง “หน้าแดงอะไรกันเพคะ ท่านพ่อ” และกล่าวปฏิเสธด้วยความรู้สึกเขิน
ชาเบลลุกขึ้นโค้งคำนับต่อดยุกแห่งเซฟิน่า “ท่านลุง สวัสดีขอรับ”
ดยุกแห่งเซฟิน่าพยักหน้า “ลุงก็เห็นด้วยกับเซเลน่านะ ว่าถึงมีพลังทูตสวรรค์ก็ควรจะพักผ่อนบ้าง แล้วอีกอย่างงานของดยุกก็หนักมากด้วย” และกล่าวเห็นด้วย
“พ่อก็เห็นด้วยนะ” ลอร์ดกล่าวเห็นด้วยเช่นกัน
“ครับท่านลุง ท่านพ่อ” ชาเบลกล่าวรับทราบ
“เอ๋...ว่าแต่ทำไมคุณพ่อถึงดูเป็นห่วงคุณชาเบลซะเหลือเกินเหมือนกับเป็นลูกชายอีกคนเลยนะเพคะ” เซเลน่ากล่าวด้วยความรู้สึกสงสัย
ดยุกแห่งเซฟิน่าและลอร์ดเรนฟิล่าหันหน้ามามองตากันพร้อมกับแอบหัวเราะเบา ๆ
“เอ่อ...เซเลน่าครับ ท่านลุงเป็นห่วงผมเพราะเป็นลูกชายของเพื่อนนะครับ” ชาเบลกล่าวแก้ตัวให้กับดยุกแห่งเซฟิน่า
“อ๋อ...อย่างนี้นี่เอง เซเลน่าเข้าใจแหละค่ะ” เซเลน่ากล่าว
“งั้น...ฉันขอตัวกลับจักรวรรดิก่อนนะ” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าวพร้อมกับเดินออกไป
เซเลน่าก้มหัวทำเคารพต่อชาเบลและลอร์ดเรนฟิล่า ก่อนที่จะเดินตามดยุกแห่งเซฟิน่าผู้เป็นบิดาออกไป
“ขอรับ...ท่านลุง คุณเซเลน่า เดินทางปลอดภัยนะขอรับ” ชาเบลกล่าว
วันต่อมา ณ ห้องทำงานของดยุกแห่งเซฟิน่า ดยุกแห่งเซฟิน่ากำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะทำงาน
เซเลน่าเคาะประตู “ก๊อก ๆ ท่านพ่อเพคะ เซเลน่าเอากาแฟมาให้เพคะ” และกล่าว
“เข้าได้เลยลูก” ดยุกแห่งเซฟิน่าตอบกลับ
เซเลน่าเปิดประตูเดินเข้ามาภายในห้องพร้อมกับวางถาดกาแฟลงบนโต๊ะ แล้วยกถ้วยกาแฟลงให้พ่อของตน “ท่านทำไรอยู่เพคะ”
ดยุกแห่งเซฟิน่าวางหนังสือลงและหยิบกาแฟมาจิบก่อนเอ่ยตอบ “พ่อกำลังอ่านหนังสืออยู่นะลูก”
เซเลน่านั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่หน้าโต๊ะทำงาน “ท่านพ่อคะ เซเลน่ามีเรื่องจะถามเพคะ” และกล่าวถาม
“เรื่องอะไรหรือ?” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าวถามด้วยความรู้สึกสงสัย
“เอ่อ...เซเลน่าก็โตมากพอสมควรแล้วนะเพคะ เมื่อไรท่านพ่อจะให้ลูกแต่งงานได้ซะทีล่ะเพคะ” เซเลน่ากล่าว
ดยุกแห่งเซฟิน่าก้มลงอ่านหนังสือพร้อมกับยิ้มมุมปาก “ทำไมถึงมาถามล่ะฮะ” และกล่าวถาม
“ท่านพ่อก็ทราบนี้เพคะ ว่าลูกโดนเจ้าสำนักดาร์กฟิล่าลักพาตัวไปนี้ แล้วอีกอย่างลูกก็อยากแต่งงานแล้วด้วยเพคะ” เซเลน่ากล่าวบอกเหตุผล
ดยุกแห่งเซฟิน่าแอบหัวเราะเบา ๆ พร้อมกับเอ่ยถามบุตรสาวของตนว่า “แล้วลูกชอบใครล่ะ”
เซเลน่าทำตัวไม่ถูกที่ได้ยินคำถามของดยุกแห่งเซฟิน่าผู้เป็นบิดาของตน “เอ่อ...ก็ลูกชอบ...คุณชาเบลเพคะ”
ดยุกแห่งเซฟิน่าหัวเราะที่ได้ยินคำตอบของลูกสาว
“ท่านพ่อมันไม่ตลกนะเพคะ” เซเลน่าต่อว่าดยุกแห่งเซฟิน่า
“ลูกชอบชาเบลงั้นหรือ...ทำไมถึงชอบเขาล่ะ” ดยุกแห่งเซฟิน่าเอ่ยถาม
เซเลน่าเกิดอาการเขินจนหน้าแดงทำให้ทำตัวไม่ถูก “ก็...” จากนั้นเซเลน่ารีบลุกจากเก้าอี้และเดินออกจากห้องไป
ดยุกแห่งเซฟิน่าสายหน้ากับการที่ลูกสาวของตนเขินจนหน้าแดง “หึ ๆ ลูกสาวคนนี้”
หลังจากเซเลน่าเดินออกไป ทหารประจำจักรวรรดิเคาะประตู “ขออนุญาตเข้านะขอรับท่านดยุก” และกล่าวขออนุญาต
“เข้ามา...” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าว
ทหารประจำจักรวรรดิเปิดประตูเดินเข้ามาและโค้งคำนับ
“มีอะไรหรือ?” ดยุกแห่งเซฟิน่าเอ่ยถาม
“ดยุกแห่งเรนฟิล่าและลอร์ดเรนฟิล่ามาขอเข้าพบขอรับ” ทหารประจำจักรวรรดิกล่าว
ดยุกแห่งเซฟิน่าพยักหน้าตอบรับ “อืม เดี๋ยวฉันตามไป”
ทหารประจำจักรวรรดิโค้งคำนับและหันหลังเดินออกไป ส่วนดยุกแห่งเซฟิน่าลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินอ้อมโต๊ะทำงานออกจากห้องทำงาน
ณ ห้องโถงของคฤหาสน์จักรวรรดิเซฟิน่า ดยุกแห่งเซฟิน่าเดินเข้ามายังห้องโถง
“สวัสดีครับลอร์ดเรนฟิล่าและดยุกชาเบล ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรหรอครับ ถึงได้เดินทางมาถึงที่นี่” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าวถาม
“เย็นนี้ จักรวรรดิเรนฟิล่าจัดงานเต้นรำบุพเพเลือกขอรับ กระผมเลยจะมาชวนคุณเซเลน่าไปร่วมงานขอรับท่านลุง” ชาเบลกล่าว
ดยุกแห่งเซฟิน่าพยักหน้าตอบรับ “ได้สิ...เซเลน่าไม่ได้ค่อยได้ไปงานแบบนี้มานานแล้ว”
“ครับ...คุณเซเลน่าล่ะครับ ไปไหนหรอครับ” ชาเบลเอ่ยถามด้วยความรู้สึกสงสัย
“นั้นนะสิ...หายไปเลย” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าวเห็นด้วย
ณ ห้องนอนของเซเลน่า เซเลน่านั่งอยู่บนเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้งของตน
“ท่านพ่อนะท่านพ่อ...จะถามเรื่องนี้กับเซเลน่าทำไม” เซเลน่าครุ่นคิดในใจ
เวลานั้นเองสาวใช้ประจำคฤหาสน์ได้มาเคาะประตู “คุณหนูเจ้าค่ะ อยู่ไหมเจ้าคะ คุณท่านเรียกให้ไปพบที่ห้องโถงเจ้าค่ะ”
เซเลน่าหันไปมองที่ประตูพร้อมกับครุ่นคิด “ท่านพ่อเรียกฉันงั้นหรือ” และตะโกนถามกลับไปว่า “ท่านพ่อเรียกฉันมีเรื่องออะไรหรือเปล่า”
“เอ่อ...ดยุกชาเบลแห่งเรนฟิล่ากับลอร์ดเรนฟิล่ามาเจ้าค่ะคุณหนู” สาวใช้ประจำจคฤหาสน์กล่าว
“คุณชาเบลมางั้นหรือ...” เซเลน่าครุ่นคิดในใจ
“งั้น...เดี๋ยวฉันลงไปนะ” เซเลน่ากล่าว
“เจ้าค่ะ...” สาวใช้ประจำคฤหาสน์กล่าวและเดินออกจากหน้าประตู
เซเลน่ารีบลุกขึ้นจากเก้าอี้และเปิดประตูเดินออกไปจากห้อง
ย้อนกลับมาที่ห้องโถง เซเลน่าเดินบันไดลงมาไปยังห้องโถงพร้อมกับก้มหัวเคารพและนั่งลงบนโซฟา
“เซเลน่าไปไหนมาหรอครับ” ชาเบลเอ่ยถาม
“อ๋อ...พอดีเซเลน่าไปห้องนอนมาค่ะ ว่าแต่คุณชาเบลกับท่านอามีเรื่องอะไรหรือคะ” เซเลน่าเอ่ยถามด้วยความรู้สึกสงสัย
“เอ่อ...กระผมจะชวนคุณเซเลน่าไปร่วมงานเต้นรำบุพเพเลือกคู่ที่จักรวรรดิเรนฟิล่าเย็นนี้นะครับ” ชาเบลกล่าวถามด้วยความรู้สึกเขิน
“งานเต้นรำบุพเพเลือกคู่งั้นหรอคะ” เซเลน่ากล่าว
“ครับ...แล้วคุณเซเลน่าไปหรือไหมครับ?” ชาเบลเอ่ยถาม
เซเลน่าพยักหน้าตอบรับ “ไปค่ะคุณชาเบล”
“เซเลน่ากับชาเบลไปก่อนเลยนะ ส่วนพ่อกับดยุกแห่งเซฟิน่าจะตามไปนะ” ลอร์ดเรนฟิล่ากล่าว
ชาเบลพยักหน้าพร้อมกับลุกขึ้นจากโซฟา “ขอรับท่านพ่อ...คุณเซเลน่าครับ พวกเราไปกันครับ”
เซเลน่าลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมกับก้มหัวรับทราบ “ค่ะ...คุณชาเบล” และเดินออกไปโดยมีชาเบลเดินตามออกไปเช่นกัน
ดยุกแห่งเซฟิน่าจ้องมองเซเลน่าและชาเบลเดินออกไป
“ฉันว่าทั้งสองคนดูเหมาะสมกันนะ ว่าไหมครับ” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าว
“มันแน่อยู่ล่ะครับเพราะทั้งสองโตมาด้วยกัน ฉันเองแอบหวังว่างานเต้นรำบุพเพเลือกคู่ ทั้งสองคนจะได้เป็นคู่กันจริง ๆ นะ” ลอร์ดเรนฟิล่ากล่าว
“ฉันเองก็แอบหวังเช่นกัน เพราะทั้งสองคนตอนนี้กำลังชอบกันอยู่” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าว
“หืม...เซเลน่าก็ชอบชาเบลเหมือนกันหรอ” ลอร์ดเรนฟิล่ากล่าวถามด้วยความรู้สึกสงสัย
ดยุกแห่งเซฟิน่าพยักหน้ายืนยัน “ใช่แล้ว...เพราะเซเลน่ามาถามว่าเมื่อไรตัวเองจะแต่งงาน แล้วฉันถามว่าชอบใครล่ะและเซเลน่าก็ตอบว่าชาเบล...” และกล่าว
ลอร์ดเรนฟิล่าลุกขึ้นจากโซฟา “พวกเราเดินทางไปงานเต้นรำบุพเพเลือกคู่ เดี๋ยวจะไปไม่ทัน” และเดินออกไป
ดยุกแห่งเซฟิน่าพยักหน้าพร้อมกับลุกขึ้นมาจากโซฟาและเดินตามออกไป
ณ งานเต้นรำบุพเพเลือกคู่บริเวณเมืองจักรวรรดิเรนฟิล่า รถม้าของจักรวรรดิเรนฟิล่าได้เดินทางมาถึงแล้ว
ประตูรถม้าเปิดออกมาชาเบลได้เดินลงมาก่อนตามด้วยเซเลน่าโดยมีชาเบลค่อยยืนรับอยู่
เซเลน่ามองบรรยากาศและเดินสำรวจรอบ ๆ ของงาน ส่วนชาเบลได้เดินตามเธอไป
“บรรยากาศที่นี่ดีนะคะคุณชาเบล ว่าแต่จัดงานนี้มานานแล้วหรอ” เซเลน่ากล่าว
“ไม่หรอกครับ...จักรวรรดิเรนฟิล่าพึ่งได้จัดงานนี้เปิดครั้งแรกครับ” ชาเบลกล่าว
“คุณชาเบลจัดงานนี้เพื่ออะไรหรือคะ?” เซเลน่ากล่าวถาม
“เอ่อ...สำหรับคนที่อยากหาคู่และเต้นรำกับคู่ที่ตัวเองเลือกครับ” ชาเบลกล่าว
“แล้วคุณชาเบลได้คู่หรือยังไงคะ” เซเลน่ากล่าวถาม
ชาเบลหลบหน้าเซเลน่าด้วยความรู้สึกเขินอาย “ผมยัง...ไม่มีครับ”
“งั้นหรือคะ?” เซเลน่ากล่าว
ชาเบลพยักหน้าแบบเขิน ๆ ส่วนเซเลน่าเงยหน้าขึ้นไปมองพระจันทร์
“คุณชาเบลคะ ดูพระจันทร์เต็มดวงบนฟ้าสิค่ะ มันสวยมากนะคะ” เซเลน่ากล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ดวงจันทร์
ชาเบลมองพระจันทร์พร้อมกับเอ่ยว่า “สวยมากเลยครับ คุณเซเลน่าชอบพระจันทร์หรอครับ”
เซเลน่าแอบหัวเราะเบา ๆ ให้กับชาเบล “แล้วคุณชาเบลทราบไหมคะ ว่าชื่อเซเลน่าของฉันมาจากไหน?” เซเลน่าเอ่ยถาม
“เซเลน่าแปลว่าดวงจันทร์ไงครับ” ชาเบลกล่าว
“ใช่แล้วล่ะค่ะ เซเลน่าแปลว่าดวงจันทร์ ที่มาของชื่อนี้คือเพราะฉันเกิดในค่ำคืนพระจันทร์สีเลือดปรากฏ ท่านพ่อก็เลยตั้งชื่อให้ฉันว่าเซเลน่าค่ะ” เซเลน่ากล่าว
“ถึงจะได้ชื่อนี้มาแต่ต้องแลกด้วยการสูญเสียท่านแม่ไปตั้งแต่เกิด” เซเลน่ากล่าวด้วยความรู้สึกเศร้า
“คุณเซเลน่ายังฝังใจกับเรื่องนี้อยู่อีกหรอครับ” ชาเบลกล่าวถาม
เซเลน่าพยักหน้าตอบรับ “ใช่ค่ะ ยังรู้สึกผิดกับท่านแม่อยู่ค่ะ”
“ท่านแม่ของผมก็เสียชีวิตตอนอายุได้ 7 ขวบเหมือนกันครับ” ชาเบลกล่าว
“เราทั้งสองคนนี้ช่างเหมือนจริง ๆ เลยนะคะ” เซเลน่ากล่าว
“คุณเซเลน่าครับ...ที่กระผมชวนคุณมางานเต้นรำบุพเพเลือกคู่นี้เพราะว่า...ผมชอบคุณนะครับ โปรดเลือกผมและเต้นรำกับผมนะครับ” ชาเบลเอ่ยสารภาพรัก
เซเลน่าเกิดความรู้สึกตะลึงที่ชาเบลสารภาพรักต่อเธอพร้อมกับเอ่ยสารภาพรักเช่นกัน “เอ่อ...คุณชาเบลคะ ฉัน...เลือกคุณค่ะ จริง ๆ ว่าฉันเองก็ชอบคุณเหมือนกันค่ะ
“จริงหรอครับ...” ชาเบลกล่าวถาม
เซเลน่าพยักหน้ายืนยัน
ชาเบลก้มหัวและเอ่ยขอเต้นรำกับเซเลน่า “งั้น...คุณเซเลน่าเต้นรำกับผมนะครับ” พร้อมกับยื่นมือให้กับเธอ
“ได้ค่ะ...” เซเลน่ากล่าวและวางมือลงที่มือของชาเบล
และทั้งสองคนเดินไปที่ลานเต้นรำและได้เต้นรำด้วยกัน
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังเต้นรำกันอยู่นั้น ชาเบลได้เอ่ยขึ้นมาว่า “แต่ผมยังมีคำถามอันหนึ่งที่อยากถามคุณเซเลน่าครับ” และได้หยุดเต้นรำกะทันหัน
“คุณชาเบลหยุดเต้นรำทำไมหรือคะ?” เซเลน่ากล่าวถาม
“เอ่อ...คุณเซเลน่าแต่งงานกับผมนะครับ” ชาเบลคุกเข่าขอแต่งงาน
เซเลน่าเกิดความรู้สึกเขินที่ได้คำถามจากชาเบลก่อนที่จะเอ่ยตอบว่า “เอ่อ...ตกลง”