“เซเลน่า” สาวน้อยผู้เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืด วันหนึ่งเธอได้ถูกสำนักแห่งหนึ่งลักพาตัวไป

Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด - Chapter 5 ความรักที่มีต่อเซเลน่า โดย Dark Tales @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,รัก,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,โรแมนติกแฟนตาซี,พลังแห่งความมืด,ทูตสวรรค์,พลังพิเศษ,พระจันทร์สีเลือด,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,รัก,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,โรแมนติกแฟนตาซี,พลังแห่งความมืด,ทูตสวรรค์,พลังพิเศษ,พระจันทร์สีเลือด

รายละเอียด

Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด โดย Dark Tales  @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“เซเลน่า” สาวน้อยผู้เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งความมืด วันหนึ่งเธอได้ถูกสำนักแห่งหนึ่งลักพาตัวไป

ผู้แต่ง

Dark Tales

เรื่องย่อ

"เซเลน่า" เป็นเด็กสาวที่เกิดมาพร้อมกับพลังชั่วร้ายนั่นคือ "พลังแห่งความมืด" แต่พลังนั้นจะปรากฎต่อเมื่อพระจันทร์สีเลือดเต็มดวงหรือเมื่อถูกกระตุ้น เวลาต่อมาสำนักดาร์กฟิล่าได้ทราบข่าวขึ้นและบุกรุกจักรวรรดิเรนฟิล่าเพื่อเอาตัวเซเลน่าไปยังสำนัก กระตุ้นพลังแห่งความมืดของเธอโดยการใช้พลังแห่งความมืดครอบงำและการกลืนกินพลังของคนบริสุทธิ์ ทำให้เธอเข้าด้านมืดในที่สุด

สารบัญ

Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 1 การเกิดมาพร้อมกับความมืด,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 2 พลังแห่งแสงสว่าง,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 3 สำนักดาร์กฟิล่า,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 4 การบุกรุกของสำนักดาร์กฟิล่า,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 5 ความรักที่มีต่อเซเลน่า,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 6 พลังจากทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 7 งานเฉลิมฉลองการขึ้นปกครองจักรวรรดิ,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 8 ความผิดหวังของดยุกแห่งดาร์กฟิล่า,Girl of Darkness สาวน้อยผู้จมอยู่ในความมืด-Chapter 9 ศึกครั้งสุดท้ายในแท่นบูชาความมืด

เนื้อหา

Chapter 5 ความรักที่มีต่อเซเลน่า

“ท่านลุงขอรับ!! กระผมมีเรื่องจะบอกขอรับ” ชาเบลตะโกนเรียก

ดยุกแห่งเซฟิน่าหยุดเดินพร้อมกับหันหน้ามาหาชาเบลและเอ่ยถามว่า “มีเรื่องอะไรอยากจะพูดกับลุงหรอชาเบล...”

“เอ่อ…คือว่า” ชาเบลกล่าวอำ ๆ อึ้ง ๆ

“พูดมาเถอะชาเบล มีอะไรก็ว่ามาเลยนะ อย่ามัวแต่อำอึ้ง” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าว

“เอ่อ...เรื่องนี้ท่านลุงไม่โกรธใช่ไหมขอรับ” ชาเบลกล่าวถาม

ดยุกแห่งเซฟิน่าส่ายหน้า

“เอ่อ...เรื่องนี้คือกระผมชอบเซเลน่าขอรับท่านลุง....” ชาเบลกล่าวสารภาพพร้อมกับหลบหน้าหลบตา

แต่เวลานั้นเองดยุกแห่งเรนฟิล่าเผลอเดินเข้ามาได้ยินพอดีพร้อมกับเอ่ยถามลูกชายเพื่อความแน่ใจ “จริงหรือชาเบล”

“ท่านพ่อ!!!” ชาเบลตะโกนด้วยความตกใจ

“เมื่อกี้...ท่านพ่อไม่ได้ยินใช่ไหมขอรับ” ชาเบลกล่าวถามด้วยความรู้สึกเขินอาย

“ใครไม่ได้ยินก็บ้าแล้ว ฉันได้ยินเต็มสองหูเลยแหละ” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าว

“ว่าไง...จริงหรือเปล่า” ดยุกแห่งเรนฟิล่าเอ่ยถาม

ชาเบลพยายามหลบสายตาของดยุกแห่งเรนฟิล่าผู้เป็นบิดาของตนก่อนที่จะเอ่ยตอบว่า “จริงขอรับท่านพ่อ...”

“ทำไมถึงชอบเซเลน่าล่ะฮะ...” ดยุกแห่งเซฟิน่าเอ่ยถาม

“เอ่อ...คือว่า” ชาเบลอ่ำอึ้งอีกครั้ง

“ตอบมาเถอะ ชาเบล” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าว

“กระผม...ชอบเซเลน่า...เพราะเธอเป็นผู้หญิงยิ้มเก่ง ร่าเริงสดใสตลอดเวลา เป็นคนที่กล้าหาญไม่กลัวอันตรายใด ๆ และชอบชมกระผมตลอดด้วยขอรับท่านพ่อ ท่านลุง” ชาเบลกล่าวบอกเหตุผลด้วยความรู้สึกเขิน

“ใช่แล้วล่ะ เซเลน่าเป็นคนที่ร่าเริงสดใสมากและกล้าหาญไม่กลัวสิ่งใดเลย ถึงแม้ว่าเธอจะรังเกียจพลังของตนเองกับรู้สึกผิดที่ภรรยาของฉันต้องสิ้นใจไปนะ เฮ้อ...ฉันอยากเห็นความสดใสของลูกอีกครั้งหนึ่ง” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าวด้วยความรู้สึกเศร้า

“กระผมเอง...ก็ได้รับรู้ในส่วนนั้นเช่นกันขอรับ ว่าเซเลน่ารังเกียจพลังแห่งความมืดของตนเองมากและรู้สึกผิดที่เป็นคนที่ทำให้แม่       ต้องสิ้นใจไป” ชาเบลเข้าใจความรู้สึกของดยุกแห่งเซฟิน่า

“พอลูกสารภาพออกมาว่าชอบเซเลน่า พ่ออยากบอกความลับอย่างหนึ่งที่ไม่เคยบอกกับลูกเลย” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าว

“ความลับ? ความลับอะไรหรือขอรับ ท่านพ่อมีเรื่องที่ปิดบังผมด้วยหรอขอรับ” ชาเบลเอ่ยถามด้วยความรู้สึกสงสัย

ดยุกแห่งเรนฟิล่ากลั้นหัวเราะและหันหน้าไปสบตากับดยุกแห่งเซฟิน่า

“ท่านเองก็รู้ความลับนี้เช่นกันนะครับ ดยุกแห่งเซฟิน่า” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าว

แต่ดยุกแห่งเซฟิน่าทำสีหน้าสงสัยพร้อมกับเอ่ยถามว่า “ฉันหรอ...เคยรู้ด้วยหรอ”

“นี่...ท่านลืมไปแล้วหรอ ตอนที่ทั้งสองเป็นเด็กไงล่ะ” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าว

“อ๋อ ๆ จำได้แหละ” ดยุกแห่งเซฟิน่ายิ้ม

“เดี๋ยวนะ ท่านพ่อ ท่านลุง ตอนเด็กอะไรหรอขอรับ แล้วความลับอะไรกันหรอขอรับ” ชาเบลเริ่มสับสน

ดยุกแห่งเรนฟิล่ากระแอม “เอาล่ะ ความลับคือตอนลูกยังเด็ก ๆ พ่อกับท่านดยุกแห่งเซฟิน่าตกลงกันไว้ว่าให้ลูกกับเซเลน่าแต่งงานกันนะ” และเอ่ยบอกความลับ

“ท่านพ่อหมายความว่าให้กระผมและเซเลน่าหมั้นหมายกันใช่ไหมขอรับ” ชาเบลกล่าว

ดยุกแห่งเรนฟิล่าพยักหน้ายืนยัน “ใช่แล้วล่ะ แต่ลูกอาจจะคิดว่ามันเป็นการคลุมถุงชนไปหน่อยก็ได้เพราะพ่อกับท่านดยุกแห่งเซฟิน่าเองก็คิดเหมือนกัน เลยรอให้ชาเบลกับเซเลน่าทำความรู้จักกันซะก่อน”

“อย่างนี้นี่เอง...” ชาเบลกล่าว

“เอาล่ะ ฉันขอตัวกลับจักรวรรดิ” ดยุกแห่งเซฟิน่ากล่าวและ   เดินออกไป

“ขอรับ...” ชาเบลกล่าวพร้อมกับเอามือทาบอกทำความเคารพ

“พ่อสงสัยว่าทำไมเซเลน่าถึงโดนครอบงำได้ง่ายจัง...” ดยุกแห่งเรนฟิล่าเอ่ยถาม

“ตามที่กระผมกล่าวไปเบื้องต้นว่าพลังภายใต้จิตใจของเซเลน่าสามารถถูกกระตุ้นออกมาได้ แล้วอีกอย่างพลังของอัชเชอร์แข็งแกร่ง    ไม่น้อย สามารถแปรผันพลังได้” ชาเบลกล่าว

“แปรผันพลังงั้นหรอ?” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าวด้วยความรู้สึกสงสัย

ชาเบลพยักหน้าพร้อมกับเอ่ยยืนยัน “ใช่ขอรับ....”

ดยุกแห่งเรนฟิล่ายื่นถาดยาบำรุงให้ชาเบล “ดื่มยาบำรุงและพักผ่อนต่อซะเถอะ”

“ขอรับท่านพ่อ...” ชาเบลกล่าวและหยิบถ้วยยาบำรุงจากในถาด

 

ณ ห้องโถงของสำนักดาร์กฟิล่า

“พวกจักรวรรดิเรนฟิล่าอ่อนหัดสิ้นดีจริง ๆ ขอรับท่านพ่อ” อัชเชอร์กล่าวพร้อมกับยิ้มเจ้าเลห์

“ข้าบอกแล้วว่าพลังแห่งความมืดของเจ้าแข็งแกร่งกว่าพลังของเจ้าพวกนั้นอีก แล้วใช้วิธีไหนกันล่ะ” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าว

“ข้าสังหารพวกทหารเฝ้าจักรวรรดิและบุกรุกเข้าไปยังห้องที่ เซเลน่านอนอยู่ จากนั้นข้าก็ใช้พลังแห่งความมืดครอบงำนาง” อัชเชอร์กล่าว

“เจ้านี่ ฉลาดจริง ๆ เลยนะ สมแล้วที่ข้าฝึกฝนเจ้ามานาน” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าวชื่นชม

“แล้วแผนการเป็นยังไงต่อล่ะอัชเชอร์” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าว

“ข้าว่าจะพาเซเลน่าโจมตีบริเวณเมืองของจักรวรรดิเรนฟิล่า” อัชเชอร์กล่าว

“กลืนกินพลังจากคนบริสุทธิ์อย่างนั้นหรือ?” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าวด้วยความรู้สึกสงสัย

“ขอรับ...” อัชเชอร์ยืนยัน

“เรื่องนี้ข้าไม่เห็นด้วยที่จะสังหารผู้คนบริสุทธิ์ไป” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าวไม่เห็นด้วย

“ท่านพ่อ...ถ้าข้าไม่ทำแบบนี้ จักรวรรดิของเราก็ไม่ขึ้นเป็นจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!!!” อัชเชอร์กล่าว

“ถึงข้าอยากให้จักรวรรดิเป็นที่หนึ่ง แต่ข้าไม่เห็นด้วยกับวิธีของเจ้า!!!” ดยุกแห่งดาร์กฟิล่ากล่าว

“หึ ถ้าท่านพ่อไม่เห็นด้วย แต่ข้าก็จะทำ...” อัชเชอร์กล่าวและเดินหนี

 

ณ คฤหาสน์จักรวรรดิเรนฟิล่า ชาเบลเดินลงจากบันไดและไปที่ห้องโถงซึ่งดยุกแห่งเรนฟิล่ากำลังนั่งจิบชาอยู่บนโซฟา

“ท่านพ่อ...กระผมไปพบท่านคามาเอลที่สำนักแสงสว่างบริสุทธิ์นะขอรับ” ชาเบลกล่าว

“อืม...อ๋อ อย่าลืมฝากบอกท่านเจ้าสำนักว่าอีกไม่กี่เดือน ลูกจะได้ขึ้นเป็นดยุกปกครองจักรวรรดิเรนฟิล่าแทนพ่อแล้วน่ะ” ดยุกแห่งเรนฟิล่ากล่าว

“หา...กระผมจะขึ้นเป็นดยุกปกครองจักรวรรดิแทนท่านพ่องั้นหรือขอรับ หมายความว่าท่านพ่อจะสละบัลลังก์อย่างนั้นหรือขอรับ” ชาเบลเอ่ยถามด้วยความรู้สึกตกใจ

ดยุกแห่งพยักหน้ายืนยัน “อืม...ใช่แล้วล่ะ ชาเบลก็โตพอสมควรแล้วล่ะ ที่จะได้รับตำแหน่งดยุกแห่งเรนฟิล่าคนต่อไป” 

“แต่...กระผมยังไม่พร้อมสำหรับการปกครองจักรวรรดินะขอรับ” ชาเบลกล่าว

ดยุกแห่งเรนฟิล่าลุกขึ้นจากโซฟาและเดินไปหาชาเบลที่ยืนอยู่พร้อมกับเอามือจับไหล่ “พ่อเชื่อว่าชาเบลต้องปกครองจักรวรรดิ       และเป็นดยุกได้ดีแน่นอน”

ชาเบลโค้งคำนับ “ขอรับ...งั้นกระผมขอตัวก่อนนะขอรับ”      และเดินออกไป

 

สำนักแสงสว่างบริสุทธิ์ เป็นสำนักที่ตั้งอยู่บริเวณจักรวรรดิเรนฟิล่าและมีพลังแสงสว่างซึ่งแข็งแกร่งมากเช่นกัน จักรวรรดิเรนฟิล่าอย่างชาเบลกับดยุกแห่งเรนฟิล่าก็เข้าร่วมสำนักนี้ด้วย สำนักแห่งนี้ปกครองด้วยเจ้าสำนักมีนามว่า คามาเอล

รถม้าของจักรวรรดิเรนฟิล่าเดินทางมาถึงหน้าสำนักแสงสว่างบริสุทธิ์แล้ว 

ประตูรถม้าเปิดออก จากนั้นชาเบลเดินลงจากรถม้าพร้อมกับเคาะประตูสำนัก

หลังจากสิ้นเสียงเคาะประตูได้มีองครักษ์ประจำสำนักเปิดประตูออกมา

“กระผม ชาเบล องค์รัชทายาทแห่งเรนฟิล่าขอเข้าพบเจ้าสำนักคามาเอล” ชาเบลกล่าว

องครักษ์ประจำสำนักพยักหน้าพร้อมกับทำท่าเชิญชาเบลเข้ามา ส่วนชาเบลก้าวเดินเข้าไปยังสำนัก

ภายในสำนักแสงสว่างบริสุทธิ์ได้มีชายเรือนผมสีทองใส่ชุดคลุม   สีทองขาวมีปีกแห่งแสงสว่าง 6 ปีกนั่งอยู่บนบัลลังก์ทูตสวรรค์

ชาเบลเดินเข้ามาภายในสำนักพร้อมกับองครักษ์ประจำสำนัก

“ท่านคามาเอลขอรับ องค์รัชทายาทแห่งเรนฟิล่ามาขอเข้าพบขอรับ” องครักษ์ประจำสำนักโค้งคำนับและกล่าว

“อืม เจ้าออกไปก่อน...” คามาเอลพยักหน้าและออกคำสั่ง

“ขอรับ...” องครักษ์โค้งคำนับรับคำสั่งและถอยหลังเดินออกไป

ชาเบลโค้งคำนับต่อคามาเอล “สวัสดีขอรับท่านคามาเอล” และกล่าวทักทาย

คามาเอลเดินลงจากบัลลังก์ทูตสวรรค์และตรงมาหาชาเบล “สวัสดีเช่นกันขอรับท่านองค์รัชทายาทแห่งเรนฟิล่า ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างขอรับ” และกล่าวทักทายเช่นกัน

“เอิ่ม...เกิดเรื่องใหญ่กับจักรวรรดิเรนฟิล่านิดหน่อยขอรับ” ชาเบลกล่าว

“ได้ข่าวว่าจักรวรรดิเรนฟิล่าถูกสำนักดาร์กฟิล่าบุกรุกใช่ไหมขอรับ” คามาเอลเอ่ยถาม

“ขอรับ...ว่าแต่ท่านคามาเอลทราบเรื่องนี้ได้ไงขอรับ” ชาเบลเอ่ยถามด้วยความรู้สึกสงสัย

“ก็...บริเวณจักรวรรดิมีร่องรอยของพลังแห่งความมืด ข้าเลยทราบเลยว่าต้องเป็นสำนักดาร์กฟิล่าแน่นนอน เกิดอะไรขึ้นหรอขอรับ” คามาเอลเอ่ยอีกครั้ง

ชาเบลโค้งคำนับพร้อมกับเล่าเหตุการณ์ช่วงที่ผ่านมา “อัชเชอร์ เจ้าสำนักดาร์กฟิล่าได้ทำการบุกรุกจักรวรรดิเพื่อลักพาตัวเซเลน่า แต่กระผมไม่สามารถช่วยเหลือเธอไว้ได้ มันสายเกินไปแล้ว         เพราะอัชเชอร์บุกรุกเข้ามายังห้องนอนและได้ใช้พลังแห่งความมืดครอบงำและกระตุ้นพลังภายใต้จิตใจของเธอไปแล้ว”

“เจ้าสำนักดาร์กฟิล่ามีพลังแห่งความมืดแข็งแกร่งจริง ๆ แม้  พลังแสงสว่างที่แข็งแกร่งมากกว่ายังพ่ายแพ้เลยล่ะ...”     คามาเอลกล่าว

“จริงขอรับ แม้แต่กระผมที่ช่วยเหลือเซเลน่าด้วยการเปลี่ยนแปลงพลังแห่งความมืดแล้ว เจ้าอัชเชอร์ยังสามารถแปรผันพลังได้อีกนะขอรับ” ชาเบลกล่าว

ระหว่างชาเบลกับคามาเอลกำลังสนทนากันอยู่นั้น องครักษ์ประจำสำนักรีบเดินเข้ามาเหมือนกับมีเรื่องอะไรสักอย่าง

“ขออนุญาตขัดจังหวะขอรับท่านคามาเอล มีเหตุใหญ่เกิดขึ้นบริเวณเมืองของจักรวรรดิเรนฟิล่าขอรับ” องครักษ์ประจำสำนักกล่าว

“เกิดอะไรขึ้นกับบริเวณเมืองของข้า...” ชาเบลเอ่ยถามด้วยความรู้สึกตกใจ

“บริเวณเมืองถูกโจมตีด้วยพลังแห่งความมืดและชาวเมือง  ถูกสังหารเป็นจำนวนมากโดยหญิงสาวคนหนึ่งขอรับ”