แค่ได้ย้อนเวลากลับมาเจอทุกคนแค่นี้วาฬก็ดีใจมากพอแล้ว แต่กับคนบางคนวาฬขอไม่เจอเลยจะดีกว่าครับ เพราะคน ๆ นั้นเนี่ยแหละที่ทำให้ชีวิตวาฬต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ (mpreg)
รัก,ดราม่า,ชาย-ชาย,แฟนตาซี,ข้ามเวลา,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[BL] ชีวิตใหม่ในร่างเดิมแค่ได้ย้อนเวลากลับมาเจอทุกคนแค่นี้วาฬก็ดีใจมากพอแล้ว แต่กับคนบางคนวาฬขอไม่เจอเลยจะดีกว่าครับ เพราะคน ๆ นั้นเนี่ยแหละที่ทำให้ชีวิตวาฬต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ (mpreg)
FOUR
ชื่อ นามสกุล สถานที่ในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นความจริงถูกแต่งเติมขึ้นมาตามจินตนาการและเพื่อความบันเทิงของผู้แต่งเพียงเท่านั้น
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
“ทำหน้าแบบนี้มีความสุขมากเลยสินะครับ” สองพี่น้องเดินขึ้นรถหรูเดินทางกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ที่บ้าน พร้อมมีของฝากมาจากร้านโปรดมาด้วยอีกแบบนี้ วันนี้ก็คงมีความสุขมากที่สุดอีกวันหนึ่ง
“ที่สุดเลยละครับ วาฬน่ะชอบรสชาติอาหารของนิรมลมาก ๆ เลยพี่ก็รู้นิครับ” อนาวิลไม่ปกปิดพี่ชายว่าตนนั่นชื่นชอบร้านอาหารร้านนี้มากขนาดไหน ตอนนี้เขาเริ่มจะอดใจไม่ไหวแล้วที่จะได้รวมงานกับทางร้านอาหารนิรมล
“พี่เห็นเรามีความสุข พี่เองก็มีความสุขไปด้วยเหมือนกันครับ” เห็นน้องชายยิ้มหน้าตาดูมีความสุขกว่าเคยเขาก็อุ่นใจ
“แล้วเรื่องของนับหนึ่ง เราจะทำอย่างไงกับเรื่องนี้ต่อ” เรื่องนี้มันกวนใจเขาไม่หยุดเลยตั้งแต่น้องชายเล่าให้เขาฟังว่ามันจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“ก็…ก็คงบอกหนึ่งเขาไปตรง ๆ ว่าตอนนี้ความรู้สึกของวาฬมันไม่เหมือนเดิมแล้ว”
“แล้วแบบนี้หนึ่งจะไม่งงเอาเหรอวาฬ ก่อนหน้านี้ยังรักกันดีอยู่เลย จู่ ๆ ก็มาเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือแบบนี้น่ะเป็นพี่พี่ก็คงสับสนเหมือนกัน” อนาวิลเข้าใจว่าพี่ชายจะสื่ออะไร แต่จะให้กลับไปรู้สึกรักกรภัคแบบเดิมก็คงทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว ความรู้สึกที่เคยเสียไปมันไม่อาจย้อนกลับคืนมา
“ช่วงนี้วาฬว่าจะห่างกับหนึ่งสักพักครับ วาฬจะคุยกับหนึ่งเรื่องนี้เองครับ”
“โอเค พี่เข้าใจแล้ว” อชิรวิชญ์ไม่เซ้าซี้วิธีการจัดการของน้องชาย
“คิดถึงลูกจัง” อนาวิลนั่งมองออกไปนอกรถ จู่ ๆ ความรู้สึกคิดถึงลูกชายกัดกินหัวใจเขาจนน้ำตาคลอ อชิรวิชญ์เห็นแล้วก็ตกใจที่จู่ ๆ น้องชายร้องไห้ขึ้นมา
“เป็นอะไรไปวาฬ” อชิรวิชญ์ร้องเรียกน้องชายทันที
“แค่คิดถึงลูกนะครับ” อนาวิลเช็ดน้ำตา
“ตอนนี้วาฬไม่รู้ว่าความจริงตอนนี้มันคือเรื่องไหนกันแน่ ก่อนหน้านี้ก่อนที่จะวาฬจะตื่นขึ้นมามันอาจจะคือโลกของความฝันให้วาฬตื่นขึ้นมาเผชิญกับโลกแห่งความจริง หรือว่าวาฬย้อนเวลากลับมาได้จริง ๆ กันแน่”
อนาวิลสับสนเรื่องนี้ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาแล้ว ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนกันแน่ เขาย้อนเวลากลับมาได้จริงหรือ หรือแค่เป็นเพียงแค่ความฝันที่เขาพึ่งตื่น
“เราแค่ทำปัจจุบันให้ได้ดีที่สุดไม่ดีกว่าเหรอวาฬ ไม่ว่าวาฬจะพึ่งตื่นมาจากโลกของความฝันหรือจะย้อนเวลากลับมาเราทำเรื่องในปัจจุบันให้ดีที่สุด เราจะได้ไม่กลับมาเสียใจทีหลังไงครับ”
“แต่วาฬอดนึกถึงลูกไม่ได้นะสิครับ”
“พี่ไม่รู้จะปลอบเรายังไงเลย” ตอนนี้อชิรวิชญ์ไม่เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ที่คิดถึงลูกมันเป็นยังไง
“วาฬก็ได้แต่คิดถึง แต่ไปให้หาไม่ได้นิครับ” อนาวิลทำหน้าเศร้า อชิรวิชญ์เองก็ไม่รู้จะปลอบน้องชายต่อยังไง เพราะเขาไม่เข้าใจกับสิ่งที่น้องชายเผชิญมาได้ ถ้าเขามาเจอเรื่องแบบนี้ เขาเองก็คงไปไม่เป็นเหมือนกัน
รถคันหรูของอชิรวิชญ์วิ่งเข้าสู่บริเวณบ้านไร่กว่า ตัวอาคารสร้างแบบโมเดลสีขาว ห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียวที่ถูกตัดแต่งเรียบร้อย ทำให้บรรยากาศรอบตัวบ้านดูอบอุ่น
มีน้ำตกอันเล็กวางเอาไว้ทางเข้าบ้าน ส่วนประตูเป็นประตูไม้บานใหญ่สูงเกือบสามเมตร ทำให้ทางเข้าดูโปร่งสบายเสียงเปิดประตูบ้านทำให้อนาวิลรู้สึกตื่นเต้น
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ” เสียงอันคุ้ยเคยเรียกให้อนาวิลหันไปมอง เมื่อเห็นว่าฐากูรและจรินทรเพื่อนสนิททั้งสองคนยืนต้อนรับเขาอยู่หน้าทางเข้าบ้าน
“ก็ว่าเสียงใคร เสียงหยกนี่เอง” อนาวิลเดินโผล่เข้ากอดเพื่อนหนุ่มสองคนพร้อมกัน
“แล้วนี่มานานหรือยัง” ฐากูรส่ายหน้า พวกเขาพึ่งมาได้ไม่กี่นาทีก่อนหน้าเพื่อนจะเข้ามาเสียอีก
“ไม่นานหรอก แวะซื้อของมาฝากป๊ากับแม่ด้วย แล้วนี่ถืออะไรมาด้วยละ” จรินทรเห็นมือของเขาไม่ว่างเลยเอ่ยทักถามว่าคืออะไร
“แวะนิรมลมาน่ะสิ เจ้าของร้านเขาฝากมาให้ป๊ากับแม่” อนาวิลตอบเพื่อน ก่อนจะพากันเดินเข้าบ้านไป
“แล้วนี่รู้ได้ยังไงว่ากูจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้” สายตาของเพื่อนทั้งสองคนจับจ้องไปยังด้านหลังของอนาวิล ทำให้เจ้าตัวหันไปมองตาม ก็เห็นพี่ชายกำลังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ ก็คงเดาได้ไม่ยากว่าใครเป็นคนโทรบอก
“ก็อยากให้หยกกับฝ้ายมาหาเราบ้างไง เราน่ะทำงานจนเพื่อนบ่นคิดถึงแล้ว” อชิรวิชญ์เฉลยว่าตัวเองนี่แหละเป็นคนทักไปหาเพื่อนสนิทของน้องเอง
“ใช่พี่ฉลามพูดถูก” ฐากูรตอบเสริมให้พี่ชายเพื่อน เพราะถ้าจะให้นับว่านัดเจอกันแบบครบ ๆ ก็แทบจะนับครั้งได้หลังจากแยกย้ายกันทำงาน
“เวอร์ละหยก เราก็นัดกันเจอบ่อยออก” อนาวิลเถียงตอบ เพราะเรื่องนี้มีบางอย่างที่ไม่ถูก
“ไม่เวอร์เลยวาฬ กว่ามึงจะหาเวลาว่างมาเจอกันแบบครบ ๆ เนี่ย” จรินทรเสริมอีกคน
“ครั้งหน้าสัญญาเลยว่าจะไป จะเคลียร์งานให้หมดเลย” เพื่อนสองคนพยักหน้าเข้าใจ แต่ก็แอบไม่เชื่อว่าเพื่อนจะรักษาสัญญาหรือเปล่า เพราะครั้งก่อนอนาวิลเองก็สัญญาเอาไว้แบบนี้ ผลสุดท้ายก็ทำไม่ได้อย่างที่สัญญา
“ไม่เชื่อกันหรอ ครั้งนี้จะหาเวลาว่างไปเที่ยวกับพวกมึงไง” อนาวิลเห็นสีหน้าของเพื่อนสนิทก็รู้ว่าไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด
“โอเค ๆ เอาไว้นัดกันทีหลังเถอะ เข้าในบ้านกันเถอะ ป๊ากับแม่รอนานแล้วมั้ง” จรินทรตัดบทก่อนจะเดินควงแขนอนาวิลให้เดินเข้าตัวบ้าน
“แล้วนี่จะบอกเรื่องนั้นให้วาฬรู้ตอนไหน” อชิรวิชญ์เดินขนาบข้างฐากูร
“ก็คงวันนี้แหละพี่ฉลาม” ฐากูรเองก็ไม่รู้ว่าวันไหนจะว่างมาบอกด้วยตัวเองแบบวันนี้อีกหรือเปล่า
“พี่ยินดีกับเราแล้วก็ฝ้ายล่วงหน้านะ” อชิรวิชญ์อวยพรให้
“ขอบคุณครับ แต่ผมก็รอวันของพี่เหมือนกันนะครับ” ฐากูรแซวกลับ จู่ ๆ หน้าของอชิรวิชญ์เห่อแดงขึ้นมาทันที
“มึงแซวอะไรพี่ชายกูเนี่ยหยก” อนาวิลหันมามองเพื่อนและพี่ชายที่กระซิบคุยกันสองคน แล้วจู่ ๆ พี่ชายก็หน้าเห่อแดงขึ้นมา เพื่อนสนิทต้องแซวอะไรพี่ชายเขาเป็นแน่
ถ้าเป็นช่วงนี้ละก็คงมีข่าวดีสำหรับเพื่อนสนิทของเขาทั้งสองคน เพราะทั้งคู่จะจัดงานหมั้น และถัดมาจะเป็นงานแต่งงานในเดือนถัดไป
สองคนนี้คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว ใช้คำว่าตีกันไปมาเกิดชอบกันเองขึ้นมา ด้วยนิสัยของฐากูรที่ชอบไปแกล้งจรินทรอยู่เสมอ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ไออาการอยากแกล้งมันหายไป และความรักเข้ามาแทนที่แทน
“ฝ้าย”
“ว่า”
“กูรอรับช่อดอกไม้ในงานแต่งมึงอยู่นะ” จรินทรตกตะลึง เพราะไม่นึกว่าเพื่อนจะรู้
“นะ…นี่มึงรู้แล้วหรอ”
“ก็เดาได้ไม่อยาก ถ้าพี่กูจะยินดีนิ กูยินดีด้วยกับมึงสองคนนะ กูขอให้ลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองเลย”
“เวอร์ละ ตอนนี้กูยังไม่พร้อมจะมีเลย” จรินทรบอก ขอแค่จัดการเรื่องงานแต่งให้เรียบร้อยก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน
แต่อนาวิลกลับไม่คิดแบบเพื่อน เพราะเขามาจากอนาคตละมั้งเลยรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง หลังจากแต่งงานไม่ถึงสองเดือน สองคนนี้ก็ได้รับข่าวดีคือการตั้งครรภ์ลูกชายฝาแฝด แถมลูกชายฝาแฝดยังหน้าเหมือนกับจรินทรแบบสุด ๆ
ทำให้ฐากูรคอยเฝ้าดูแลลูกแฝดเป็นพิเศษ หลังจากนั้นถัดไปประมาณสองปีเพื่อนสนิททั้งสองก็มีพยานรักอีกคน แต่คนนี้หน้าเหมือนฐากูร ทำให้เพื่อนช่วยดูแลลูกชายฝาแฝดแล้ว ซึ่งนั้นก็ได้ผล เพราะน้องใยไผ่ลูกชายคนเล็กของเพื่อนตามหวงพี่ชายตามที่ฐากูรหวังเอาไว้
“แล้วของมึงว่ายังไง พร้อมแต่งหรือยังครับ” จรินทรกำลังพูดถึงการแต่งงานของเขาและกรภัค แต่ครั้งนี้เขาหวังว่าจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกครั้ง ชะตาชีวิตในครั้งนี้เขาขอไม่วนกลับไปเป็นเช่นเดิม
“นี่พวกมึงทะเลาะอะไรกันอีก” จรินทรเห็นสีหน้าเพื่อนแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้
“เปล่าหรอก ไปกินข้าวเถอะ” เมื่อเดินมาสักพักก็ถึงห้องทานข้าว มีอชิและปิยวดีนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะวาฬ” ปิยวดีอ้าแขนออกเพื่อรับกอดจากลูกชายคนเล็ก
“แล้วป๊าละ ทำไมต้องไปกอดแม่ก่อนด้วย ป๊าน้อยใจนะเนี่ย” อชิทำหน้าน้อยใจที่เห็นว่าลูกชายคนเล็กเดินไปกอดคนแม่ก่อน ทั้ง ๆ ที่เขาก็อ้าแขนจะกอดเช่นเดียวกัน
“โอ๋ ๆ วาฬกอดแล้วครับ ป๊าหายงอนกันนะครับ วันนี้วาฬมีของโปรดป๊ามาให้ด้วยนะครับ” จรินทรวางถุงกระดาษจากร้านอาหารนิรมลไว้บนโต๊ะอาหาร
“ว้าว อย่างนี้ป๊าหายงอนแล้วครับ” เมื่อเห็นว่าอาหารจากร้านโปรด อชิก็ยิ้มกว้างใส่ลูกชาย อนาวิลเมื่อเห็นว่าพ่อหายงอนแล้วก็ยิ้มรับตอบกลับ
“เรื่องกินนี่ไวเลยนะป๊า” ปิยวดีอดเอ่ยปากแซวสามีไม่ได้ เมื่อเห็นว่ามีของโปรดของตนก็รีบหายงอนลูกชายทันที ไหนบอกว่าจะงอนนานกว่านี้ไง!
“มีของโปรดแม่ด้วยนะ” อชิรวิชญ์หยิบกล่องอาหารอีกกล่องออกมาจากถุงกระดาษ เมื่อเห็นว่าเป็นอาหารโปรดตาของปิยวดีก็เป็นประกายทันที
“ว่าแต่ป๊า แม่เองก็ตาเป็นประกายเชียวนะ” อชิเองเห็นสายตาของภรรยาก็อดแซวอีกฝ่ายคืนกลับไม่ได้
“ของโปรดแม่ทั้งทีก็ต้องชอบสิ จริงมั้ยคะฉลาม” ปิยวดีเริ่มหาพรรคพวก
“จริงครับ” อชิรวิชญ์เอ่ยตามน้ำไป ส่วนอนาวิลก็คงต้องอยู่ฝ่ายเดียวกับอชิผู้เป็นพ่อไป
“แล้วทำไมจู่ ๆ เจ้าของร้านเขาถึงให้มาละวาฬ” เมื่อนึกถึงก่อนหน้า ฐากูรก็ถามอนาวิลเพราะเท่าที่จำได้อนาวิลไม่เคยเจอตัวเจ้าของร้านมาก่อนเลย
“ก็ถามเรื่องงานเขาน่ะสิ แล้วน้องทัพเขาก็เหมือนคุยถูกคอเลยฝากเอามาให้ป๊ากับแม่ผม เป็นอชิรวิชญ์เป็นคนอธิบายแทน
“หมายถึงคุยกันถึงร้านอาหารมึงน่ะเหรอวาฬ” อนาวิลพยักหน้าให้จรินทร เป็นอย่างที่เพื่อนเข้าใจ
“แล้วนี่แอบกินกันมาก่อนป๊าแบบนี้ได้ไง” อชิตีหน้าเศร้าอีกครั้ง
“ก็ฉลามจะเลี้ยงฉลองน้องออกมาจากโรงพยาบาลไงครับป๊า เลยกินกันมาก่อนครับ เพราะฉลามรู้ว่าป๊ากับแม่น่ะกินข้าวสาย” อชิรวิชญ์บอกตามจริง อชิเองก็เถียงอะไรกลับไม่ได้เลยอยู่เฉย ๆ
“งั้นเดี๋ยวแม่ไปเตรียมมาให้ ฝ้ายกับหยกมาช่วยแม่หน่อย” จรินทรกับฐากูรลุกขึ้นตามหลังปิยวดี แต่ก็โดนอนาวิลเรียกไว้เสียก่อน
“อ้าว แล้ววาฬอะ”
“พึ่งออกมาจากโรงพยาบาลก็นั่งอยู่เฉย ๆ เถอะ แม่ให้ฝ้ายกับหยกมาช่วยแล้ว นั่งคุยกับป๊าไปเถอะ”
“แต่วาฬไม่อยากคุยกับป๊า”
“อ้าว นี่วาฬไม่อยากคุยกับป๊าหรอ ป๊าน้อยใจนะ” อชิตีหน้าเศร้าใส่ลูกชายอีกครั้ง
“โอ๊ยป๊า วาฬล้อเล่น วาฬมีเรื่องอยากจะคุยกับป๊าตั้งหลายเรื่อง”
“จริงหรอ” ตาของอชิเป็นประกายทันที
ปล.ยังไม่ได้ตรวจคำผิด
Tag : #ชีวิตใหม่ในร่างเดิม
X (Twitter) : @SkySiKhram