เพราะทุกคนมีความฝัน จินเองก็เช่นกัน ไม่เสียดายเลยที่เลือกทิ้งการเป็นหัวหน้ากองกำลังพิเศษหน่วยฟินิกซ์ แหมก็ความฝันสุดเด็ดของเธอคือการเป็นไอดอลนั่นเอง รอก่อนเถอะ ฉันจะทำมันให้ได้

ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล - 9 การเป็นไอดอล9 โดย analogus @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,รัก,จีน,ไทย,อื่นๆ,สโลว์ไลฟ์,นางเอกฉลาด,รายการค้นหาไอดอล,วงการบันเทิง,นางเอกเก่ง,นักร้อง,ไอดอล,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,รัก,จีน,ไทย,อื่นๆ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

สโลว์ไลฟ์,นางเอกฉลาด,รายการค้นหาไอดอล,วงการบันเทิง,นางเอกเก่ง,นักร้อง,ไอดอล

รายละเอียด

ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล โดย analogus @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เพราะทุกคนมีความฝัน จินเองก็เช่นกัน ไม่เสียดายเลยที่เลือกทิ้งการเป็นหัวหน้ากองกำลังพิเศษหน่วยฟินิกซ์ แหมก็ความฝันสุดเด็ดของเธอคือการเป็นไอดอลนั่นเอง รอก่อนเถอะ ฉันจะทำมันให้ได้

ผู้แต่ง

analogus

เรื่องย่อ

เจเนซิส อัจฉริยะสาวผู้อยากทำตามความฝันในการอยากเป็นไอดอล


แม้ว่าจะมีตำแหน่งไม่ธรรมดาอย่างพันตรีหญิงหรืออีกตำแหน่งนั้นคือแพทย์หญิงแต่เมื่อรู้แล้วว่าตัวเองอยากทำอะไรเมื่อถึงเวลาเธอจึงมาทำตามความฝันแม้จะต้องผ่านมรสุมดร่าม่าใด ๆ ก็ตามเธอก็จะฝ่าฝันไปให้ได้ งานนี้ต่อให้กระอักตายก็ยอม

สารบัญ

ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-บทนำ เจเนซิส เวสเปอร์,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-1 การเป็นไอดอล1,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-2 การเป็นไอดอล2,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-3 การเป็นไอดอล3,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-4 การเป็นไอดอล4,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-5 การเป็นไอดอล5,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-6 การเป็นไอดอล6,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-7 การเป็นไอดอล7,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-8 การเป็นไอดอล8,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-9 การเป็นไอดอล9,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-10 การเป็นไอดอล10,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-11 การเป็นไอดอล11

เนื้อหา

9 การเป็นไอดอล9

ตอนที่9


การเป็นไอดอล9




ท่ามกลางอุณหภูมิสูงทะลุ40องศา กลางทะเลทรายยาวสุดลูกหูลูกตา ทั่วบริเวณมีอาคารที่สร้างจากหิน ดิน เป็นที่อยู่ที่ใช้ชั่วคราวสำหรับบางคนเพราะสภาพอากาศที่นี่ไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้นาน ๆ กลางวันร้อนจนอยู่ไม่ได้กลางคืนก็หนาวสุดขั้วหัวใจ ภูมิประเทศที่แสนทรหดมักมีผู้อยู่อาศัยน้อย


แต่เนื่องจากผู้อาศัยน้อยนี่แหละถึงได้รวบรวมคนกันจนกลายเป็นกองกำลังผิดกฎหมาย คอยอาศัยสถานที่ที่มักผ่านหูผ่านตารัฐบาล สร้างฐานอำนาจขึ้นมา


อีกทั้งยังเหิมเกริ่มคอยส่งกองกำลังก่อความวุ่นวายไปทั่วโลกคอยจับผู้บริสุทธิ์มาเป็นตัวประกันเพื่อสร้างอำนาจในการต่อรองให้ฝั่งของตัวเอง


ค่ายกักกันที่อยู่ด้านหน้ามีชายฉกรรจ์ถืออาวุธครบมือยืนระวังภัยตามจุดต่าง ๆ คอยสอดส่องตรวจตราความปลอดภัยให้ค่ายของตัวเองไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนมักจะมีเวรยามคอยสับเปลี่ยนทุก ๆ 4ชั่วโมงเรียกได้ว่าเป็นการสอดส่องระวังภัยที่แน่นหนามาก


ไกลออกไปมีกองกำลังทางทหารหน่วยรบพิเศษที่ได้รับภารกิจช่วยเหลือตัวประกันซึ่งเป็นพลเมืองและเป็นถึงรองประธานาธิบดีแห่งประเทศซาอุดิอาระเบียซึ่งโดนจับมาเพื่อเสนอข้อตกลงเรื่องเส้นทางการขนส่งสินค้าผิดกฎหมายของตัวเอง


“ค่ายกักกันมีทางเข้าออกสองทาง คืนนี้ฉันและไทเกอร์จะลอบเข้าไป ใช้ความเงียบสกัดให้ได้นานที่สุด อีเกิลและฮอร์คเป็นพลซุ่มยิงหาตำแหน่งและแจ้งพิกัดเตรียมรายงานสถานการณ์ด้านใน


เมื่อได้รับสัญญาณจะบุกเข้าไปโดย ไลออนนำทหาร4นายบุกประตูทางซ้าย และฟ็อกนำทหารที่เหลือบุกด้านหน้า วูล์ฟหากไม่เป็นไปตามแผนหน้าที่ของนายคือสร้างความวุ่นวายเอาให้โกลาหลที่สุดเมื่อช่วยตัวประกันออกมาได้ ก็เป็นหน้าที่ของที่เหลือจงทำลายที่นี่ให้เรียบ” เสียงหวานที่หนักแน่นสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเจ้าตัวกล่าววางแผนกับลูกทีมของตัวเอง


เธอมีโค้ดเนมว่าชีต้าร์เพราะทุกครั้งที่ลงมือเธอจะเงียบและไวโดยศัตรูตั้งตัวไม่ทัน ซึ่งทีมฟีนิกซ์หน่วยที่1 ที่มีสมาชิกทั้งหมด11คนมีหน้าที่การเฝ้าระวังกลุ่มผู้ก่อการร้ายทั่วโลก


ภารกิจในครั้งนี้คือช่วยเหลือตัวประกันที่เป็นถึงรองประธานาธิบดีและพลเรือนของประเทศนี้อีก2คน ซึ่งต้องให้ความสำคัญยิ่งกว่าอะไร


หากมีใครตาย


นั่นคือความล้มเหลว


ภารกิจไม่สำเร็จ


คืนนั่นเองที่ต้องเริ่มภารกิจสมาชิกในหน่วยทุกคนสวมชุดปฏิบัติหน้าที่เต็มยศหมวกนิรภัยป้องกันกระสุน (Advanced Combat Helmet) แว่นกันสะเก็ด (Goggle) ชุดเกราะกันกระสุน ถุงมือปฏิบัติการ สนับเข่าและศอก อาวุธได้แก่มีดสั้น ปืนพกและปืนไรเฟิล กระสุนขนาน5.56มม.


กลับกันปืนสำหรับพลซุ่มยิงหรือสไนเปอร์ทั้งสองคนคือ ซิก ซาวเออร์ เอสเอสจี 3000 ซึ่งเป็นปืนสำหรับพลซุ่มยิงโดยเฉพาะทั้งสองคนไม่จำเป็นต้องใช้คู่หูหรือพลชี้เป้าเพราะทั้งสองสามารถคำนวณระยะลมเองได้อย่างแม่นยำ


แม้จริง ๆ ควรทำงานเป็นคู่ก็เถอะ


การปฏิบัติการเป็นไปอย่างเงียบ ๆ จินหรือชีตาร์และไทเกอร์คู่หูสายลอบสังหารลอบเข้าไปด้านในอย่างเงียบเชียบเมื่อเจอกับคนร้ายก็จัดการล็อคตัวทำให้สลบแบบเงียบที่สุด


ด้านในเป็นทางที่ไม่กว้างนักด้านในทำจากหินและทรายจึงมีฝุ่นละอองอยู่ในอากาศทั่วไปหมดดีที่หน้ากากผ้ากันฝุ่นที่ใส่มาช่วยกรองอากาศไปได้เยอะ


เมื่อถึงห้องเป้าหมายจินเปิดประตูเสียงเบาโดยมีไทเกอร์หรือมาคัสคอยระวังยกปืนสอดส่องระวังหลังให้เมื่อเปิดประตูได้จินยื่นหน้าลำปืนใช้ปืนส่องด้านในอย่างรวดเร็วและรีบผลักตัวออกมาทำสัญญาณมือให้มาคัสรู้ว่าด้านในมีตัวประกันอยู่ครบรวมถึงมีคนเฝ้าอยู่สองคน


จินแนบปืนไรเฟิลไว้กับตัวแล้วลอบเข้าไปด้านในอย่างเงียบ ๆ จัดการชายคนแรกและจัดการลากเข้ามุมอย่างรวดเร็วและมีมาคัสมาจัดการคนที่สอง ทั้งคู่รีบยืนยันตัวตนของตัวประกันเพื่อความแม่นยำหากเกิดการซ้อนแผน


ทั้งสามคนจะมีตำหนิและรหัสประจำตัวที่รู้กันแต่คนส่วนน้อยจริง ๆ เท่านั้นหลังจากยืนยันเรียบร้อยก็รีบพาออกไป


“เฮ้ยย!!!!!” เสียงชายคนหนึ่งที่เห็นทั้งคู่กำลังพาตัวประกันหนีเรียกสายตาคนอื่นให้มองตามมาด้วย


“ชีต้าร์เรียกฟินิกซ์ ๆ บุกได้!!”


จินรีบพาตัวประกันออกไปหาหน่วยของตัวเองที่รอรับตัวประกันอยู่ ระหว่างทางก็เกิดการปะทะกับฝ่ายตรงข้ามก็จัดการวิสามัญไป


จินส่งตัวตัวประกันให้ลูกน้องพาไปอย่างรวดเร็วตัวเองและมาคัสก็หันกลับมาถ่วงเวลาสกัดฝ่ายตรงข้ามไว้ทั้งยิง สู้ด้วยวิธีต่าง ๆ ทั้งคู่ทำงานกันอย่างเข้าขา


จนเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นว่ามีปืนส่องมาจากหอสูงฝั่งหนึ่งคะเนจากทิศทางก็คือมาร์ตินนั่นเอง เธอไม่รอช้ารับดึงแขนชายหนุ่มออกมาและแจ้งพิกัดแก่พลซุ่มยิง


“ชีตาร์ระวัง!!!!”








“เฮือกกก!!!”


จินสะดุ้งตื่นสุดตัวดวงตาฉ่ำปรือปริ่มไปด้วยหยาดน้ำคลอเบ้า แต่เจ้าตัวก็ฮึบไว้รีบถอนหายใจเข้าออกช้า ๆ จนเรียกคืนหยาดน้ำทั้งหมดกลับไปในอก เก็บเอาไว้ไม่ให้มันแสดงอาการใด ๆ ออกมา


จินเหลือบมองนาฬิกาเป็นเวลาตี4 ก่อนเวลาตื่นเธอหนึ่งชั่วโมงซึ่งถ้าให้นอนต่อก็ไม่ไหวเพราะเรียกได้ว่าตอนนี้เธอตื่นเต็มตาเสียแล้ว


ได้แต่ลุกขึ้นมาพับที่หลับที่นอนด้วยความรวดเร็วและเบาที่สุดเพราะซูจินกำลังหลับอยู่จากนั้นจึงไปล้างหน้าล้างตาสวมชุดออกกำลังกายมุ่งหน้าสู่ห้องออกกำลังกาย


ปกติจินจะไปวิ่งที่สนามแต่วันนี้เนื่องจากอารมณ์ที่ไม่ปกติจึงไปออกกำลังกายในฟิตเนสแทนซึ่งฟิตเนสของที่นี่จะแบ่งเป็นหลายโซนทั้งโซนออกกำลังกายธรรมดาที่มีเครื่องออกกำลังกายตามพื้นฐาน


โซนการต่อสู้ที่มีทั้งเวทีมวย ลานฝึกเทควันโด เคราเต้ ซึ่งเป็นโซนที่จินพอใจที่สุด เวลาตี4ครึ่งแบบนี้ ยังไม่มีใครตื่นแม้กระทั้งทีมงานทำให้จินพอใจที่จะใช้เวลาสวนตัวนี้โดยไม่ต้องผ่านหน้ากล้อง


เมื่อสวมใส่นวมเสร็จจึงเดินไปหากระสอบทรายทันที เวลานี้จินใช้กระสอบทรายระบายอารมณ์ที่ขุ่นมัวอย่างรุ่นแรงจนกลัวว่ากระสอบทรายจะทะลุ อารมณ์นี้ของจินต้องรับระบายออกเพราะถ้าเก็บไว้มันจะอยู่ไปด้วยตลอดทั้งวันกลัวจะพาลทำคนอื่นกลัวไปหมด


หมัดซ้าย หมัดขวา การเตะและแทงเข่าแต่ละครั้งเต็มไปด้วยความรุนแรงจนผ่านไป2ชั่วโมงเหงื่อที่ไหลรินอาบตามตัวราวกับอาบน้ำ ลำตัวเปียกโชกไปหมดก็ได้ช่วยให้อารมณ์ของเธอกลับมาคงที่อีกครั้ง


จินถอดนวมออกนำไปเหน็บไว้ในเครื่องตากที่จะทำความสะอาดกำจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ดูท่าไม่สปอนเซอร์ก็เจ้าของค่ายที่ทุนหนาจัดชนิดที่เครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ค่ายนี้มีเยอะมากจนเหมือนมาพักผ่อนนอกสถานที่มากกว่ามาแข่งขันกับรายการ


จินใช้ผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ที่คอซับหน้าเผื่อเช็ดคราบเหงื่อไคลออกทั้งหมดแล้วจึงเดินกลับห้องเพื่ออาบน้ำ




วันนี้เป็นวันพฤหัสแล้ว พรุ่งนี้จะเป็นวันที่พวกเธอต้องโชว์สเตจที่1 ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมาพวกเธอซ้อมกันจนเต้นได้อย่างคล่องแคล่ว


มีครูฝึกสอนกังฟูมาช่วยเป็นที่ปรึกษาเพราะมีท่าเต้นที่เป็นกังฟูเฉพาะจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดูและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด


จินที่นับได้ว่าคล่องที่สุดรับบทเหล่าซือสอนอีกครั้งค่อยดูท่วงท่าที่ผิดพลาดและสอนเพื่อนจนทุกคนในทีมสามารถออกสเต็ปได้อย่างแข็งแรง


เพื่อนคลาส F ที่เต้นไม่เก่งก็สามารถเต้นได้อย่างดีจนทุกคนยังตกใจ เพราะจินมองเห็นความสามารถของคนแล้วดึงมันออกมาใช้ได้


วันนี้วันที่เมนเทอร์ในด้านต่าง ๆ จะมาดูภาพรวมของแต่ละกลุ่ม เพื่อที่จะได้ปรับอะไรให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น




เสียงย้ำเท้าดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงในห้องซ้อมของทีมหนึ่งดังขึ้น ทำให้ขาที่กำลังเดินเข้าไปหยุดชะงักหันมองกล้องพร้อมกับนำนิ้วชี้แตะริมฝีปากแล้วค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไปเสียงเบา


หวังคุนเดินนำกล้องเข้าไปเห็นสมาชิกทีมนี้เต้นอย่างพร้อมเพรียงมีจังหวะที่มีกังฟูประกอบด้วยอย่างลื่นไหล รวมถึงจังหวะโผตัวลงจากโต๊ะที่สูงประมาณ2เมตรที่เล่นเอาเขาใจหายแต่กลับกัน


คนที่ลงมากลับยืนขึ้นได้อย่างสง่ากลับมาเต้นต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนเมื่อจบเพลงทุกคนที่เต้นอยู่ก็ล้มตัวลงไปนอนหงายแผ่หลาอย่างเหนื่อยอ่อนยกเว้นจินที่กำลังยืนหัวเราะเพื่อน ๆ อยู่


พลางหันหลังกะจะไปหยิบน้ำให้คนอื่น ๆ ดื่มให้หายเหนื่อยก็ต้องชะงักค้างเพราะดันปะหน้ากับเมนเทอร์หวังคุนคนหล่อที่ยืนอยู่เยื่องประตูทางเข้า


“เอ่อ สวัสดีค่ะเมนเทอร์” จินโค้งตัวทักทายเสียงดัง ทำให้ที่เหลือที่นอนทำตัวประหนึ่งปลาตากแห้งสะดุ้งสุดตัวลุกขึ้นทักทายทันที


“เมนเทอร์สวัสดีค่ะ” เสียงทักทายที่พร้อมเพรียงทำให้หวังคุนพยักหน้าตอบกลับไปแล้วไปนั่งด้านหน้าของห้องซ้อม


“จากที่เห็นเมื่อกี้ ทุกคนทำได้ดีมากเลยนะ ท่าเต้นต่าง ๆ ก็ไม่มีใครทำไม่ได้ ผมแทบไม่ต้องแนะนำอะไรเลย จินจินตัวโผตัวลงมาเซฟตัวเองดี ๆ นะครับเดียวจะเกิดอุบัติเหตุ” หลายวันมานี้เมนเทอร์ทุกคนจะได้ดูวิดีโอที่ทางรายการส่งให้เพื่อดูความคืบหน้าของแต่ละทีมทำให้ได้ยินคนในทีมเรียกจินว่าจินจิน ไม่ใช่ไป่จินตามที่พวกเขาเคยเรียกตนจึงเรียกแบบนี้บ้างโดยที่ไม่ต้องการรับความเห็นต่างของใครทั้งสิ้น (ยักไหล่)


จินตอบรับอย่างเชื่อฟังแม้จะเลิกลั่กที่หวังคุนเรียกเธออย่างสนิทสนมแบบที่ไม่เคยมาก่อนก็เถอะ


“ใครเป็นเซนเตอร์ครับ” เสียงทุ้มกล่าวอย่างสบาย ๆ หวานเหมยรีบยกมือแสดงตัว ไอ้ท่ายกมือไปด้วยเขย่งไปด้วยเรียกเสียงหัวเราะของทุกคนได้เป็นอย่างดี


“เมื่อกี้ผมเข้ามากลางเพลงยังไม่เห็นทั้งหมด ผมให้พักเหนื่อยแป๊บนึงแล้วเดี๋ยวเต้นให้ผมดูอีกรอบนะครับ” ระหว่างนั้นเขาก็สอบถามเรื่องการแสดงโชว์ว่าใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง เพื่อดูความเหมาะสม ซึ่งทุกคนก็ยินดีตอบเพราะพวกเธอวางแผนและคุยกับผู้กำกับเวทีแล้วเรียบร้อย


จนเมื่อทุกคนเต้นให้หวังคุนดูอีกครั้ง ครั้งนี้หวังคุนจดข้อเสนอแนะต่าง ๆ ไว้สำหรับให้คำแนะนำซึ่งมีไม่เยอะเท่าของห้องอื่น ๆ ดูท่าว่าจินจินคงจะดูแลก่อนหน้านี้อย่างเต็มที่แล้วจริง ๆ ถึงได้มีจุดแก้ไขน้อยขนาดนี้ ฝีมือระดับนี้ทำไมไม่ให้ไอ้ลูคัสมันช่วยดันรับรองว่าดังสนั่นไม่ต้องเสียเวลาแข่งเลยเนี่ย


หรือถ้ามาให้เขาให้เป็นคนในค่ายก็ยินดีด้วยซ้ำ แต่จากที่เคยได้ยินว่าเจ้าตัวต้องการเดินด้วยความสามารถตัวเองจริง ๆ เขาก็พร้อมที่จะให้ความยุติธรรม ตัดสินด้วยความสัตย์จริง


“หวานเหมยผมขอเอเนอร์จี้อีกนิดนึงนะเพราะว่าตอนนี้เราเป็นเซนเตอร์ผมยังไม่เห็นว่าเราเด่นขึ้นมาเลยถ้าไม่รำกังฟูด้านหน้าช่วงต้น คือไม่ใช่ไม่ดีนะ แต่เพราะตอนนี้ทุกคนส่งเอเนอร์จี้เท่ากันหมด ยกเว้นจินที่โดดมาคนเดียวเลย ลองดึงอารมณ์ออกมาอีก ลองเต้นกันอีกรอบครับ”


เท่ากับวันนี้ทีมของจินเต้นกันไป5รอบเพื่อดึงเอเนอร์จี้ อินเนอร์ออกมา หวานเหมยที่โดนจี้ก็ทำออกมาได้ดีจนหวังคุนยิ้มออกมาด้วยความพอใจ


ส่วนคนอื่น ๆ นับว่าทำได้ดีมากทุกคนเมื่อไม่มีอะไรให้แนะนำเขาก็อวยพรส่งท้ายก่อนเดินออกมา


“พ่อไม่อ่อนโยนเลยแง้” หวานเหมยครางออกมาเสียงหงอยน่าเอ็นดูจนจินเดินไปตบบ่าให้กำลังใจ


ช่วงบ่ายจะเป็นช่วงที่แต่ละทีมจะต้องทำการซ้อมบนเวทีเพื่อวางบล็อคกิ้งในเรื่องของคิวการแสดงกับกล้องแต่ละกล้องเพื่อเลือกโฟกัสในแต่ละช่วงถูก


จินพูดคุยกับผู้กำกับสเตจและฝ่ายศิลป์เรื่องฉากและพร๊อพที่ต้องใช้ว่าทุกอย่างเป็นไปตามสิ่งที่ทางทีมของเธอเรียกร้องไปจึงไปได้กลับไปพักผ่อนเตรียมตัวสำหรับขึ้นสเตจพรุ่งนี้ตั้งแต่บ่ายเป็นต้นไป






การแสดงโชว์สเตจแรกของรายการIs Idol My Idol SS4 เริ่มขึ้นเวลาบ่ายโมงตรงแต่เนื่องจากการแสดงในทุกรอบจะมีการให้ผู้ชมเข้าร่วมการอัดรายการด้วย


ครั้งนี้ครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมชม300คน


ตอนนี้จึงมีคนทะยอยมากันตั้งแต่10โมงเช้าเพื่อจองที่ในการรับชมรวมถึงเซ็นสัญญาห้ามแพร่งพรายเนื้อหาและภาพในการแข่งขันก่อนวันออกอากาศ


สำหรับผู้เข้าแช่งขันนั้นในวันนี้วิ่งวุ่นกันแต่งตัวแต่งหน้ากันอย่างชุลมุนวุ่นวาย เมื่อแต่งตัวเสร็จก็เดินทางตามทีมงานไปนั่งในห้องที่อยู่ติดกับเวทีที่จัดไว้ให้นั่งกันเป็นทีม


วันนี้ทุกทีมถูกจับแต่งตัวแต่งหน้ากันจัดเต็มสลัดลุคเก่าเดิม ๆเรียกว่าจำกันแทบไม่ได้ ที่นั่งมี10แถวแยกไว้สองฝั่งโดยมีชื่อทีมวางไว้ตรงหัวแถวเพื่อน ๆ ทยอยมานั่งกันจนเต็มทำให้ตอนนี้เป็นช่วงที่จินสามารถสำรวจเพื่อนกลุ่มอื่นได้


ทีมพลังของฉันอยู่ในแถวแรกจากด้านบนทางซ้ายสาว ๆ ทั้งสิบคนสวมชุดสไตล์โกธิคสีดำ ปากแดงแต่งหน้าเติมกากเพชรเป็นประกายวิบวับหน้าจับตาเลยทีเดียว


ทีมสะพานสายรุ้งทุกคนแต่งตัวด้วยยชุดเดรสสีขาวราวกับเจ้าหญิงทุกคนเปล่งประกายออกมาจนจินต้องหรี่ตามองเพราะเพื่อนกลุ่มนี้เขาสวยกันมาก ๆ


ทีมเพลงPostit โดยคิมจีอึนนั่งอยู่ตรงหัวแถว ทีมนี้สวมชุดสูทตามสีของสายรุ้งเรียงกันเป็นเรนโบว์ดูสดใส


ทีมเสียงกระซิบแห่งรักทีมนี้ไม่มีคนจากคลาสAและดูเหมือนหยางมู่หลินจะเป็นเซนเตอร์ดูได้จากการแต่งตัวที่มีลักษณะเด่นออกมาพวกเธอแต่วตัวกันด้วยชุดสีส้มสดใสมีถุงมือระย้าดูสวยงาม


ถัดลงมาเป็นแถวล่างสุดของทางขวาคือทีม Blinding light ที่มารุโกะนำทีมสวมชุดแนวสตรีทโทนสีม่วง ดำ แดง ดูเท่มาก จบงานต้องไปหาสไตล์ลิสของรายการเสียหน่อยแล้วชุดแต่ละทีมสวย ๆ ทั้งนั้นเลย


ต่อมาเป็นแถวที่จินนั่งด้านบนสุดทางซ้ายเพลงกังฟูซึ่งการแต่งตัววันนี้เป็นชุดสไตล์จีนยุคที่กังฟูเฝื่องฟูเป็นเสื้อกี่เพ้าสีแดงสลับขาวซึ่งกางเกงจะสลับกันแต่ละคนที่เป็นทั้งขายาวและขาสั้น


ของหวานเหมยจะเป็นแดงทั้งชุดอยู่คนเดียว ผมของจินถูกรวมตึงมีหางผมที่ใส่เจลไว้จนกลายเป็นแฉกดูแหวกแนว การแต่งหน้าของทุกคนจะเป็นไปทางสายเฉี่ยวกรีดตายาวโดนเด่น


รู้เวลาทีมนี้เป็นทีมของเฮน่าทุกคนแต่ตัวในทีมชุดราตรีสั้นสีขาวครึ่งดำครึ่งดูแปลกตา All killสีเขียวกระแทกตามาเลยของทีมนี้ที่แต่ละคนสวมเสื้อเอวลอยสีขาวส่วนท่อนล่างเป็นกางเกงทรงฮิปฮอปขาจั้มสีเขียว แตกต่างกันตรงเครื่องประดับกับเซนเตอร์ที่เติมสายคาดที่เป็นกระโปรงดูแตกต่าง


not me ทีมนี่ถ้าหนุ่ม ๆ ได้เห็นคงตาวาวเพราะสาวน้อยทุกคนสวมชุดเข้าคู่เป็นทูพีทที่ท่อนล่างมีกระโปรงผ้าโปร่งโชว์ความเซ็กซี่เอาไว้ ทีมนี้เน้นสีแดงแรงฤทธิ์ ลั่นทิวาก้องราตรีทีมนี้มาด้วยชุดฮั่นฟู่โบราณดูสวยงามสีฟ้าครามผสมสีขาว สวยจน

อยากลองใส่ชุดนี้ดูบ้าง


ภาพจากหน้าสเตจถูกส่งมาให้เห็นโดยจอด้านหน้าที่มีมากถึง4จอเพื่อให้เห็นได้ชัด ๆ






ด้านหน้าเวที




ผู้คนกว่า300คนได้จับจองพื้นที่ทุกตารางเมตรเอาไว้เป็นแฟนคลับใครก็ยกชูป้ายไฟหรือพยายามส่งสัญญาญให้เมนตัวเองได้เห็นชื่อตัวเองจากบนเวที ด้านหน้าเวทีมีที่นั่งของ

เมนเทอร์ทั้ง4เอาไว้เพื่อให้เห็นการแสดงได้ชัดๆ


บนเวทีมีขนาดกว้างกว่า30เมตรไม่ต้องกลัวยืนไม่พอ เมื่อถึงเวลาในการถ่ายทำไฟบนเวทีเริ่มสองเป็นระบบพร้อมกับเสียงดนตรีสปอนเซอร์ประจำรายการดังขึ้นพร้อม ๆ กับ PDฮุ่ยเจียงที่เดินมากลางเวทีวันนี้เขามาด้วยชุดสูทสีน้ำเงินกำมะหยีดูหล่อเหลาและหรูหรา


“สวัสดีครับทุกคน! ยินดีต้องรับทุกคนเข้าสู่การแสดง

สเตจแรกของสาว ๆของเราครับ ทุกคนคงตั้งหน้าตั้งตารอคนที่ตัวเองชื่นชอบออกมาแสดงไม่ไหวแล้วละสิ


แต่เดี๋ยวก่อน ก่อนที่เราจะเริ่มการแสดงเรามาต้อนรับเมนเทอร์ทั้ง3ของเรากันก่อน ขอเชิญหลิวต้าเฟิง เดล่าเฉิน และหวังคุน” สิ้นเสียงประกาศของฮุ่ยเจียงเสียงกรีดร้องลั่นจากบรรดาคนในฮอลก็ดังสนั่นเป็นการต้อนรับทั้งสามคน


ซึ่งทั้งสามก็เดินออกมากล่าวทักทายทุกคน หลิวต้าเฟิงไม่ทิ้งลายตัวเองสวมกางเกงยีนส์สีดำเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำตามสไตล์


เดล่าเฉินสวมชุดเดรสสีน้ำเงินเข้าคู่กับฮุ่ยเจียงให้พอได้แซวกันส่วนหวังคุนสวมสูทตัวใหญ่สีแดง สายแฟชั่นเพราะกางเกงก็ตัวโคร่งเหมือนกันแต่ดูนำเทรนด์และเข้ากับเจ้าตัวมากเลยทีเดียว เมื่อกล่าวทักทายกันเสร็จเมนเทอร์จึงได้เริ่มไปนั่งประจำที่


“เอาละครับผมขออธิบายเรื่องการโหวตของทุกคนกันก่อนนะครับในวันนี้ในรอบการแสดงเมื่อแสดงจบทุกคนที่มีเครื่องมือโหวตในมือจะสามารถโหวตได้คนละ1ครั้งต่อหนึ่งการแสดง


ซึ่งมีหมายเลข1-10 ทีมไหนได้คะแนนโหวตสูงสุดในขณะนั้นจะได้นั่งในที่นั่งพิเศษที่จัดวางไว้บริเวณที่เมนเทอร์นั่งอยู่นะครับ และผู้ที่ได้ท็อปโหวตของแต่ละทีมจะมาดูเพื่อวัดผลกันว่าใครได้เป็นMVPในครั้งนี้”


“ทุกคนพร้อมไหมครับ!”


“พร้อมมม!!!!”


“ถ้าพร้อมแล้วเชิญเสี่ยวเปาเรนด้อมสองทีมแรกเลยครับ” ระบบเสี่ยวเปาทำการสุ่มลำดับของการแสดงในทีมแรกจนได้เพลงลั่นทิวาก้องราตรีเป็นเพลงทีมแรกและทีมสะพานสายรุ้งเป็นทีมต่อไป


“ถ้าอย่างนั้นขอเชิญทั้งสองทีมขึ้นมาบนเวทีเลยครับ” ทั้งสองทีมเดินขึ้นมาบนเวทีและฮุ่ยเจียงได้ให้ทีมที่สองเดินไปนั่งรอบริเวณข้างเวทีที่มีที่นั่งอยู่เหมือนกันจะได้เห็นคู่แข่งตัวเองชัด ๆ จนทีมแรกได้เริ่มพูดชื่อทีม


“สวัสดีค่ะทุกคนพวกเราทีมพูดดัง ๆ ค่ะ” หลังการแนะนำทีมก็เป็นการนำตัวเองซึ่งมาความเข้าทีมชื่อทีมเพราะทุกคนแนะนำตัวเสียงดังมากจนทำให้หลายคนหัวเราะออกมา


เมื่อเพลงเริ่มดนตรีที่ฮึกเหิมดังขึ้น ทุกคนเริ่มเต้นอย่าง

พริ้วไหวเหมือนกำลังระบำโบราณสร้างความขนลุกให้กับทุกคนเมื่อถึงพาร์ทไฮไลท์เซนเตอร์ของทีมหรือก็คือเยซินได้ตีกลองขนาดใหญ่ให้เพื่อน ๆ ในทีมได้เต้นตามจังหวะ พาร์ทนี้ทุกคนได้รับเสียงปรบมือดังกึกก้องจนเมื่อถึงท่อนสุดท้ายสร้างความกดดันให้ทีมต่อไปไม่น้อย


ทีมต่อไปเดินออกมาแนะนำทีมตัวเอง “สวัสดีค่ะพวกเราทีมสะพานสายรุ้งค่ะ” นำทีมมาด้วยเหวยซูจินซึ่งทีมนี้มีขิงอยู่ด้วยดูเสียงตอบรับแฟน ๆ ของขิงที่มีพอสมควรทำให้แววตาเธอแผ่ความสุขออกมาแม้จะสู้เหวยซูจินไม่ได้เพราะฐานแฟนคลับเดิมเธอค่อนข้างสูงเมื่อแนะนำตัวเองเสร็จจึงเริ่มการแสดงของตัวเอง


พลังเสียงของลาน่ามาจากคลาสCที่เริ่มขึ้นได้อย่างดี เสียงหวาน ๆ ของทุกคนที่ดังสร้างความละมุนอบอวลไปด้วยรักให้กับผู้ชมในฮอลเรียกเสียงปรบมือได้อย่างล้นหลาม


ขิงร้องออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้จินที่นั่งอยู่ด้านหลังภูมิใจมากเพราะได้ก้าวข้ามความสามารถตัวเองออกมาได้อีกขั้น


เมื่อเพลงจบลงทั้งสองทีมก็ขึ้นมายืนบนเวทีเพื่อรับฟังข้อติชม คอมเมนต์จากเมนเทอร์จนได้เสียงชมจากทั้งสามคนและรอรับการโหวตเมื่อเริ่มโหวตทีมที่ได้เสียงโหวตมากที่สุดเป็นทีมแรกนั้นคือลั่นทิวาและราตรี


เนื่องจากคงสร้างความขนลุกและความตราตรึงด้วยความเป็นประเทศจีนเอาไว้น่าจะถูกจริตของหลาย ๆ คนซึ่งเมื่อโชว์ผลคะแนนก็แตกต่างกันแค่10คะแนนถือว่าไม่เยอะ ซึ่งพอประกาศผู้ที่ได้ผลโหวตสูงสุดเป็นใครไปไม่ได้ คือเยซินนั่นเอง


เสี่ยวเปาเริ่มทำงานอีกครั้งครั้งนี้เป็นทีมเพลงPostitและเพลง รู้เวลาทั้งสองทีมออกมาและทีมแรกเริ่มการแสดง


จังหวะเริ่มของเพลงPostitเป็นจังหวะสนุกสนานคึมจีอึนสร้างความประทับใจให้กับคนดูโดยการตีลังกา3ตลบ การเต้นที่จำลองการแข่งขันบีบอยสร้างความสนุกสนานให้ผู้ชมเมื่อจบเพลงลงก็ได้รับเสียงปรบมือดังลั่นฮอลล์


เพลงต่อมาเพลงรู้เวลาเมื่อเพลงเริ่มหน่ายเซิงจากคลาสBขึ้นเสียงสูงไฮท์โน้ตให้ทุกคนได้อึ้งจากนั้นเมื่อถึงท่อนบริจน์เป็น

เฮน่าที่ใช้เสียงแบบขึ้นสูงลงต่ำแบบต่อเนื่องให้เมนเทอร์เดล่าเฉินได้ตกใจเล่น ๆ


เมื่อเพลงจบลงเฮน่าและลาน่าได้รับคำชมไปเต็ม ๆ จากเมนเทอร์เดล่าส่วนทางคิมจีอึนก็ได้รับเสียงชมจากเมนเทอร์หวังคุนเช่นกัน


ในครั้งนี้ทีมที่ชนะเป็นทีมจากการร้องผู้ที่ได้รับโหวตมากที่สุดเป็นเฮน่า แต่ยังไม่สามารถโค่นแชมป์เก่าอย่างเยซินได้ซึ่งทีมเก่าทำคะแนนไว้ได้ถึง169คะแนนของเฮน่ามีคะแนน155คะแนนยังไม่สามารถล้มแชมป์ได้ในครั้งนี้


ครั้งต่อมาเสี่ยวเปาสุ่มได้ทีมร้องเริ่มก่อนนั้นก็คือNot me และทีมเต้นได้แก่ทีมเพลงกังฟู จินสูดปากทุกคนในทีมต่างส่งเสียงหูย รวมถึงเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ที่ร้องเสียงดังเพราะบุคคลที่น่าจับตาที่สุดสองคนมาเจอกันจินเดินตามลูกทีมขึ้นเวทีเป็นคนสุดท้ายแล้วได้แยกมานั่งรอทีมแรกแสดงก่อน


“สวัสดีค่ะ พวกเราทีมNot me not your” เจนนี่แนะนำทีมและแนะนำตัว เรียกเสียวกรี๊ดและเสียงโหยหวนจากแฟนบอยหนุ่ม ๆ ได้เป็นอย่างดี ดูท่าว่าเจนนี่ได้รับความนิยมอยู่พอสมควร


เพลงเริ่มขึ้นด้วยเครื่องดนตรีไวโอลินที่สีออกมาในจังหวะช้าลากเสียงเป็นจังหวะขึ้นต้นด้วยเจนนี่ที่เต้นแบบลีลาสออกมา

สร้างความตื่นเต้นให้กับทุกคน


หลังจากเต้นท่อนแรกคนอื่นก็เดินออกมารวมตัวกันและร้องเพลง เสียงของทุกคนถูกดัดให้แหบแฝงความเซ็กซี่ขยี้ใจเป็นอย่างมาก


การร้องในท่อนกลางเป็นเจนนี่ที่เดินมาด้านหน้าร้องไปเต้นไปให้รู้สึกสยิวกิ้วอย่างที่หลายคนไม่คิดว่าจะเป็น จินนั่งมองไปยิ้มไป


เจนนี่เซ็กซี่ชะมัดให้ตายเถอะ


ในระหว่างที่คิดจินไม่ได้สังเกตตัวเองหรอกว่าใช้สายตาเจ้าชู้มองไปยังเจนนี่


เป็นข้อเดียวที่จินซื่อบื้อในเรื่องของความรู้สึกพวกนี้ไอ้สายตาเจ้าชู้นี่ก็ออกมาเพราะเป็นแค่รู้สึกถูกใจการแสดง แต่สายตานี้มันไปเองแบบช่วยไม่ได้เท่านั้น เมื่อการแสดงจบลง ทั้งทีมได้รับคำชื่นชมจากเมนเทอร์ทุกคนจากนั้นจึงได้เวลาสลับที่กับทีมจิน


จินยืนหัวแถวตามด้วยเพื่อน ๆ ในทีม


“สวัสดีค่ะพวกเราทีม กังฟูเกิร์ล จินจิน กวางไป่จิน เบอร์1สวัสดีค่ะ”


“นิ่ง นิ่ง นิ่งซินเหอ เบอร์2ค่า”


“ถังโหร่ว เบอร์3 รายงานตัวค่า”


“เหออันหวี๋ เบอร์4 สวัสดีค่ะ”


“ชิงโถว โอว้าว เบอร์5ครับผม”


“เจียน่า hello everyone นัมเบอร์6น้าทุกคน”


“เหมยกู่ เบอร์7สวัสดีค่ะทุกคน”


“สวัสดีหวานเหมย เบอร์8 นะคะ”


“เหอหลินเบอร์9ค่า”


“หลิงหลิงอัน เบอร์10 ฝากโหวตให้พวกเราด้วยน้า

ทุกคนนน”


หลังจากแนะนำตัวกันเสร็จทุกคนก็เดินไปที่บล็อกกิ้งของตัวเอง พวกพร๊อพตอนแนะนำตัวทีมงานยกมาตั้งไว้ครบถ้วนเรียบร้อย


เป็นฉากของวัดดังวัดหนึ่งของประเทศจีนที่มีกำแพงวัดสูงยาวเฟื้อยเพลงดังขึ้นหวานเหมยเดินนำทุกคนออกไปซึ่งตอนเริ่มมีหวานเหมยก้าวไปก่อนตามจังหวะเสียงกลอง


จังหวะที่สองเป็นอีกสี่คนที่เดินออกมาถัด ๆ ไปพอจังหวะที่สามก็เป็นคนที่เดินออกมาและจังหวะสุดท้ายเป็นจินที่เดินออกมาอยู่ตรงกลางด้านหลัง


เมื่อดนตรีเริ่มขึ้นทุกคนออกไลน์ท่าเต้นตามที่ฝึกซ้อมการออกจังหวะแขนการก้าวขาที่ออกพร้อมกันเสียงกระทืบเท้าที่ดังพร้อมกันสร้างความฮึกเหิมให้กับผู้รับชมทุกคนหวานเหมยออกสเต็ปช่วงกลางที่เน้นเป็นท่ากังฟูโดยเฉพาะโดยเป็นการต่อสู้กับทุกคนจนได้รับชัยชนะ


ต่อมาเป็นจินที่เหลือคนสุดท้ายของฝั่งตรงข้ามที่เปิดตัวมาด้วยการกระโดดลงจากกำแพงเมื่อลงมาทุกคนก็ออกสเต็ปแดนซ์พร้อมกันหวานเหมยสู้กับจินจนได้รับชัยชนะ เพลงจบเป็นทุกคนที่สู้กับหวายเหมยลงไปนอนแผ่แบบแพ้หมดรูป


เสียงปรบมือดังอย่างล้นหลามพอ ๆ กับเสียงกรีดร้อง


“เชิญเมนเทอร์คอมเมนต์ได้เลยครับ”


“โอ้โห มันดีมากเลยค่ะ ขนลุกตลอดเพลงเลยหวานเหมยคุณทำได้ดีมากแบบรู้เลยว่าคุณเป็นเซนเตอร์ ไป่จินคุณเก่งมากเลยที่โชว์ออกมาได้เต็มที่แต่ไม่แย่งซีนของเพื่อนในทีม ทุกคนซัพพอร์ตกันได้ดีมาก เยี่ยมเลยค่ะ” เดล่าเฉินกล่าวชมทุกคนอย่างตื่นเต้น


“ผมไม่ประหลาดใจกับทีมนี้เท่าไหร่เพราะตอนซ้อมให้ผมดูทุกคนทำดีมาก ๆ แล้ว แต่พอมีฉากมีแสง สี หรือแม้กระทั่งชุดมันส่งเสริมกันหมดและสร้างความเป็นทีมของพวกคุณได้ดีขึ้น พวกคุณเป็นทีมที่ส่งเสริมกันได้ดีมาก ๆ เก่งมากครับ” เมนเทอร์หวังคุนกล่าวชมยาวเหยียดอย่างหาได้ยากเพราะโชว์นี้ถือว่าดีสำหรับเขาจริงๆ


“ผมเห็นด้วยกับหวังคุนที่บอกว่าทีมคุณส่งเสริมกันและกันได้ดีมาก ในขณะที่มีคนมีฝีมือมาก ๆ อยู่ในทีมแต่เขาไม่แย่งซีนให้ตัวเองโดดออกมากลับกัน ช่วยกันจนทำให้พวกเราจดจำหวานเหมยในฐานะเซ็นเตอร์ได้เป็นอย่างดี ชื่นชมครับ” สิ้นเสียงหลิวต้าเฝิงก็ถึงเวลาแห่งการโหวต ทั้งสองทีมถูกเรียกมายืน

ข้างPDฮุ่ยเจียงทั้งสองข้างมองดูจอด้านหลังว่าใครจะเป็นทีมที่ชนะ


“และผลออกแล้วครับยินดีกับทีมกังฟูเกิร์ลที่ชนะในครั้งนี้ เรามาดูกันเยอะว่าใครได้คะแนนโหวตสูงสุด” คะแนนที่ชนะในครั้งนี้สูงถึง220คะแนนสร้างความตกตะลึงแก่ทุกคนเป็นอย่างมากเท่ากับว่าคน220คนจาก300คนที่ชื่นชอบการแสดงในครั้งนี้นั่นเอง


“ขอแสดงกับจินจินกวางไป่จิน! ที่ได้รับการโหวตสูงสุดในรอบนี้ครับและยินดีกับทีมกังฟูเกิร์ลที่ได้นั่งที่นั่งบนเวทีต่อไปครับ” จินอ้าปากค้างอย่างตกใจที่ตนได้คะแนนโหวตสูงสุดในรอบนี้


จริง ๆ เธอคิดว่าจะเป็นหวานเหมยเพราะเธอทำได้ดีจริง ๆ ในครั้งนี้ เพื่อนในทีมต่างดีใจและเข้ามากอดจินกันยกใหญ่


“สงสัยโดนท่ากระโดดลงมาของจินเหลาซือตกแน่ ๆ เลยแบบนี้” ทุกคนหันไปขอบคุณทุกคนแล้วเดินไปนั่งที่เตรียมไว้ด้านข้างเวทีก่อนไปก็จับมือกับทีมก่อนหน้าเพื่อให้เกียรติทุกคนอีกด้วย


เสี่ยวเปาเริ่มทำงานอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นเพลงAll kill และเพลงพลังของฉัน


เพลงAll kill ได้เริ่มก่อน


“พวกเราทีมเก็บให้หมดกวาดให้เรียบสวัสดีค่า” เหออี้ฝานพาทุกคนเล่นมุกกวาดขยะบนเวทีสร้างเสียงขำขันได้ดีนักบนเวที


เมื่อทีมเธอเริ่มเต้นเป็นจังหวะที่คุ้นเคยของหลาย ๆ คนท่าเต้นแต่ละคนต่างก็มีเสน่ห์กระจายออกมาเพลงนี้เป็นเพลงของหวังคุนซึ่งเขาได้ช่วยขัดเกราท่าทางของทุกคนให้แล้วเมื่อวานพอมาวันนี้ทุกคนก็ทำได้ดีมาก


ทุกคนเต้นออกมาแบบผู้ชายเจ้าชู้ที่เตรียมตัวไปท่องราตรี จึงมีหลายช็อตที่หลายคนคิดว่าคนในทีมนี้หล่อกันจริง ๆ เมื่อจบเพลงจึงได้รับเสียงปรบมือกันอีกครั้ง หลังจบทุกคนก็ได้รับคำชมอีกเหมือนกัน มีแค่สองคนที่โดนหวังคุนดุนิดหน่อยเรื่องเสียสมาธิตอนที่กำลังแสดงอยู่ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ


ทีมพลังของฉันพกความขลังออกมาซึ่งทุกคนรู้สึกได้จากบรรยากาศเลยล่ะแต่ละคนถือไม้กายสิทธิ์มาคนละอันด้วยเมื่อเพลงขึ้นทุกคนยกไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาวาดกลางอากาศและมีตุ๊กตามากมายหล่นลงมาเป็นตุ๊กตาวูดูของหมอผี


เสียงร้องที่เปล่งออกมาของจูชิงสร้างความพลัดพรึงแก่ความรู้สึกของคนดูอย่างไม่น่าเชื่อ มีเสียงคอรัสจากคนในทีมที่ทำเป็นเสียงสูงบ้างต่ำบ้างคล้ายการขับร้องอคาเบล่า


ทีมนี้แบ่งท่อนร้องได้ดีทุกคนได้แสดงศักยภาพออกมาทั้งหมด ซึ่งตอนได้รับคอมเมนต์จากเมนเทอร์เดล่าเฉินก็คือได้รับคำชมเป็นกระบุงโกยเพราะพอใจกับโชว์ร้องของทีมนี้มาก


แน่นอนว่าทีมที่ชนะไปก็คือทีมพลังของฉันนั่นเอง แต่น่าเสียดายที่คะแนนได้ไป213คะแนนซึ่งยังไม่สามารถเอาชนะทีมกังฟูเกิร์ลได้


สองทีมสุดท้ายที่ต้องแข่งขันก็คือทีม Blinding Lightและทีมเสียงกระซิบแห่งรัก ทีมที่เริ่มก่อนคือทีมเสียงกระซิบแห่งรักซึ่งผู้เป็นเซนเตอร์คือหยางมู่หลินจากคลาสBเพราะเพลงนี้เป็นเพลงที่ไม่มีใครในคลาสAเลือก


เริ่มเพลงมาเป็นสไตล์หวานและมีความเศร้าอยู่ในอารมณ์แบบจาง ๆ เพราะเป็นเพลงที่มีความหมายเกี่ยวกับการแอบชอบ ทั้งสิบคนร้องเพลงได้ดี หยางมู่หลินได้ร้องในช่องเสียงที่ตัวเองถนัดทำให้เพลงฟังดูเพราะและเข้าถึงอารมณ์ได้เป็นอย่างดี


เพลงนี้นับว่าเป็นหนึ่งโชว์ที่ดีมากก็ว่าได้เพราะได้รับการขัดเกราจากเดล่าเฉินที่เล็งเห็นถึงศักยภาพ พอเพลงจบจึงได้รับเสียงปรบมืออย่างพร้อมเพรียง


เพลงสุดท้ายเพลงเริ่มขึ้นในจังหวะสนุกสนาน ทั้งสิบคนต่างก็แจกรอยยิ้มสดใสชวนผู้ชมให้เล่นด้วยอย่างอิสระจังหวะเพลงเต้นด้วยได้ไม่ยากทำให้ผู้ชมต่างขยับตัวเต้นตาม รวมถึงกลุ่มจินที่นั่งอยู่ด้านข้างที่ลุกขึ้นเต้นไปพร้อม ๆ กัน


สร้างความบันเทิงปิดท้ายรายการได้อย่างสนุกสนาน เมื่อจบเพลงก็ได้รับคอมเมนต์จากเมนเทอร์ มารุโกะได้รับคำชมที่สามารถนำเพลงนี้มาทำให้สนุกเพิ่มขึ้นโดยการเพิ่มการละเล่น


แต่ทีมที่ชนะในครั้งนี้เป็นทีมของหยางมู่หลินนั่นเอง เท่ากับการแข่งสเตจที่1 ทีมร้องชนะทีมเต้นไป3/2 แต่ก็ยังไม่สามารถล้มแชมป์ได้


“ยินดีกับทีมกังฟูเกิร์ลที่ได้รับคะแนนโหวตสูงที่สุดในสเตจแรก และขอบคุณทุกคนเจอกันครั้งหน้าครับ!”


คัท!!!


PDฮุ่ยเจียงกล่าวขอบคุณผู้ชมทั้งในฮอลล์และทางบ้านอย่างเป็นทางการผู้กำกับจึงสังคัทในส่วนของเวทีนั่นเอง