รัก,ชาย-ชาย,ไทย,ลึกลับ,พล็อตสร้างกระแส,feel good,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี,  นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
        
        
      
          "วันนี้กลับเร็วจังนะเด็กๆ" 
 เป็นโชคดีของน้ำมนต์ ทันทีที่พวกเขาลงจากรถรับจ้าง คุณใสก็ตรงดิ่งมาทางบ้านของน้ำมนต์อย่างไม่ลังเล
 
 ทว่าความจริงช่างโหดร้ายยิ่งกว่าในละคร เมื่อคุณใสพบว่าคุณแม่ของน้ำมนต์ยังคงอยู่ที่บ้าน
 
 โดยปกติแล้วคุณแม่ของน้ำมนต์ต้องออกไปทำงานต่างที่ต่างถิ่น เดินทางไกลบ่อยครั้ง ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะแจ็คพอต
 
 คุณใสพยายามไม่แสดงอารมณ์ออกทางสีหน้า เขากล่าวทักทายคุณแม่ของน้ำมนต์อย่างสุภาพ
 
 คนตัวเล็กวิ่งโผเข้าไปกอดแม่ของตน รู้สึกดีใจที่เธอกลับมาพอดิบพอดี หากไม่มีผู้ใหญ่อยู่บ้าน มีหวังน้ำมนต์คงโดนคุณใสเอารัดเอาเปรียบอีกเป็นแน่ แค่มองสายตาหื่นกระหายคู่นั้นของคุณใสก็ทำเอาน้ำมนต์ขนลุกขนพองไปทั้งตัว
 
 ภายใต้รอยยิ้มการค้าของคุณใส น้ำมนต์สัมผัสได้ถึงความหงุดหงิดที่อัดแน่นอยู่ภายใน หาทางระเบิดออกมา
 
 "แม่จะนอนที่บ้านใช่ไหมครับ" น้ำมนต์ผละออกจากอ้อมกอดของแม่
 
 "ขอโทษด้วยนะลูก วันนี้แม่แค่แวะมาเอาเอกสารที่ลืมเอาไว้ เดี๋ยวแม่ก็ต้องไปขึ้นรถที่บริษัทแล้วล่ะ" แม่หันไปหยิบกระเป๋าเอกสารมาสะพาย
 
 ราวกับฟ้าผ่า ใบหน้าเปื้อนยิ้มของน้ำมนต์พลันหายวับ กลับกันรอยยิ้มหงุดหงิดของคุณใส แปรเปลี่ยนเป็นยิ้มแห่งความปีติยินดี
 
 "เดินทางปลอดภัยนะครับคุณน้า" คุณใสรีบเอ่ยและเดินไปส่งแม่ของน้ำมนต์ที่หน้าบ้าน "เดี๋ยวผมดูแลน้ำมนต์ให้เอง ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ"
 
 ไม่นานรถรับจ้างก็ขับมารับแม่ผู้เป็นที่พึ่งสุดท้ายของน้ำมนต์จากไป
 
 คุณใสหันกลับมาราวกับภาพสโลว์โมชั่นในหนังสยองขวัญพร้อมรอยยิ้มผู้ล่าที่เตรียมจะกระโจนใส่เหยื่ออันแสนโอชะ
 
 เวรกรรม...
 
 น้ำมนต์ไม่รอช้าหันหลังแล้วสับขาวิ่งไม่คิดชีวิต
 
 ชายร่างเล็กอยากจะวิ่งเข้าห้อง ปิดล็อกประตูหน้าต่างทุกบานเพื่อหนีสัตว์ร้ายกระหายเลือดที่พร้อมจะเอาเปรียบร่างกายของเขา แม้มันจะทำให้น้ำมนต์ต้องกลายเป็นคนไม่รักษาสัจจะ แต่มันก็ดีกว่าโดน (อะไรที่เหนือคำบรรยาย) จากคุณใสแล้วกัน
 
 ถึงคิดหาทางหนีไว้เสียดิบดี สุดท้ายน้ำมนต์ก็ดันมาตกม้าตายด้วยสภาพร่างกายไม่เอาไหนของตนเอง คนที่วิ่งด้วยความเร็วเท่าหอยทากอย่างเขา มีหรือจะรอดพ้นอินทรีบ้าเลือดอย่างคุณใส สุดท้ายหอยทากตัวน้อยก็ถูกโฉบไปกินจนได้
 
 วงแขนกำยำของคุณใสคว้าคนตัวเล็กลอยจากพื้น
 
 "พยายามจะหนีหรือครับน้องน้ำมนต์" คุณใสกระซิบที่ข้างหูคนในอ้อมกอด
 
 ...โปรดหยุดอ่าน 3 วินาที เพื่อไว้อาลัยแด่หอยทากน้อยผู้น่าสงสาร...
 
 บทลงโทษแรกที่คุณใสมอบให้คือการจั๊กจี้เอวของน้ำมนต์อย่างต่อเนื่อง ทำเอาร่างเล็กหมดแรงดิ้นหนีและยอมจำนนในที่สุด
 
 ผู้ชนะฉีกยิ้มอย่างพอใจ เขาปิดประตู หิ้วร่างผอมบางราวกับตุ๊กตายัดนุ่นขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน
 
 ด้วยความที่ทั้งสองเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก คุณใสจึงมักถือวิสาสะเข้าห้องนอนของน้ำมนต์โดยไม่ได้รับอนุญาตอยู่บ่อยครั้ง
 
 ปึง!!
 
 คุณใสใช้เท้าเตะประตูห้องนอนของน้ำมนต์ให้เปิดออก เขาวางร่างของน้ำมนต์ลงบนขอบเตียงอย่างทะนุถนอม แล้วจึงย่อตัวนั่งคุกเข่าตรงหน้าอีกฝ่าย
 
 "ได้เวลาจ่ายค่าแรงฉันหรือยัง?"
 
 ใบหูของน้ำมนต์เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ร่างเล็กเบือนหน้าหนีเมื่ออีกฝ่ายรุดเข้ามาใกล้จนปลายจมูกของทั้งสองเสียดสีกัน
 
 น้ำมนต์หลับตาปี๋ สัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนระอุที่รดแก้มของตน
 
 ในที่สุดริมฝีปากของทั้งสองก็ประกบกัน แม้เวลาปกติคุณใสจะชอบทำตัวโผงผาง แต่ทุกครั้งที่เขาสัมผัสน้ำมนต์ เขาจะอ่อนโยนเป็นพิเศษ
 
 คุณใสรู้ดีว่าน้ำมนต์เป็นคนคิดมาก ขี้กังวล และรู้สึกผิดง่าย เพราะงั้นเขาจึงใช้ประโยชน์จากนิสัยส่วนนั้นของน้ำมนต์ เป็นข้ออ้างเพื่อให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกันนานยิ่งขึ้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน คุณใสมั่นใจมากว่าน้ำมนต์ไม่มีทางปฏิเสธอย่างแน่นอน
 
 เมื่อเห็นว่าคนในอ้อมกอดเริ่มให้ความร่วมมือ อินทรีนักล่าตัณหากลับอย่างคุณใสก็ยิ่งได้ใจเข้าไปใหญ่
 
 ร่างสูงโถมตัวเข้าหาน้ำมนต์มากขึ้น แรงกดที่หน้าอกทำให้คนตัวเล็กล้มตัวลงกับเตียงนอนอย่างช่วยไม่ได้
 
 ทว่าก่อนที่อะไรจะเลยเถิดไปมากกว่านั้นเสียงโทรศัพท์ของคุณใสก็ดังขึ้น
 
 "มะ มือถือของนาย..." น้ำมนต์เอ่ยทักเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่แม้แต่จะสนใจเสียงเรียกเข้า
 
 คุณใสโยนโทรศัพท์ของตนออกไปห่างๆ
 
 "ช่างมัน" คุณใสลูบคลำร่างกายผอมบางของน้ำมนต์อย่างสะเปะสะปะ
 
 "ดะ เดี๋ยวสิ" น้ำมนต์ออกแรงดันอกคุณใสออกไป แต่คนตัวใหญ่ไม่แม้แต่จะขยับ
 
 "มีสมาธิหน่อย"
 
 ฝ่ามือหนาของคุณใสจับกรามของน้ำมนต์ล็อกเอาไว้เพื่อไม่ให้สามารถหันหน้าหนีได้
 
 ลมหายใจของทั้งสองผสมปนเปกันยุ่งเหยิง สติสัมปชัญญะกลับถูกแทนที่ด้วยสัญชาตญาณดิบที่ยากจะควบคุม
 
 คุณใสปีนขึ้นมาบนเตียง พร้อมทั้งใช้แขนข้างหนึ่งช้อนใต้เอวของคนตัวเล็กให้ขยับขึ้นมาอยู่กลางเตียง
 
 ใบหน้าของคุณใสซุกลงกับต้นคอขาวนวล ก่อนจะสูดดมกลิ่นกายเย้ายวนของอีกฝ่าย
 
 "หอมดีจัง" คุณใสพึมพำ
 
 คนถูกชมรู้สึกจั๊กจี้ ได้แต่นอนตัวแข็งทื่อ ไม่รู้ว่าควรแสดงออกเช่นไร
 
 กลิ่นหอมจากตัวของน้ำมนต์ราวกับยาเสน่ห์ที่ทำให้คุณใสเคลิบเคลิ้มและเสียการควบคุม
 
 ท่ามกลางเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ที่ถูกเขวี้ยงทิ้ง และลมหายใจสั่นระรัวของชายทั้งสอง เสียงตึงตัง โครมครามดังกระหึ่มมาจากผนังห้องซึ่งติดกับบ้านของคุณใส
 
 "ไอ้ลูกเวร! รู้นะโว้ยว่าอยู่บ้านนั้น แกกล้าไม่รับโทรศัพท์ของพ่อแกเรอะ!"
 
 เสียงเอะอะโวยวายของชายวัยกลางคนในชุดเสื้อขาวประหนึ่งคนปฏิบัติธรรมดังมาจากระเบียงบ้านที่ติดกัน
 
 คิ้วของคุณใสกระตุกด้วยความหงุดหงิด ชายหนุ่มพยายามทำเป็นไม่ได้ยินเสียงของผู้เป็นพ่อ หันกลับมาสนใจต้นคอขาวที่น่าฝากรอยแดงทิ้งไว้อีกครั้ง
 
 "แกจะแกล้งมนต์อีกแล้วใช่ไหมไอ้เด็กนิสัยไม่ดี ฉันรู้นะเว้ย!"
 
 ช่วยด้วยครับคุณลุง!
 
 น้ำมนต์อยากร้องขอความช่วยเหลือใจจะขาด แต่หากเขาเผลออ้าปากตอนนี้ เสียงที่เปล่งออกมา คงเป็นเสียงครวญครางที่ชวนให้เข้าใจผิดเป็นแน่
 
 ถ้าต้องให้คุณลุงมาเห็นสิ่งที่ลูกชายของท่านกำลังทำ น้ำมนต์ยอมถูกกลั่นแกล้งโดยไม่ปริปากร้องเสียยังดีกว่า
 
 “ออกมานะไอ้ลูกหมา!”
 
 คุณใสเริ่มหมดความอดทน เขาปิดหูน้ำมนต์เอาไว้เพื่อไม่ให้ได้ยินคำหยาบคายที่เขากำลังจะพูด
 
 "เงียบไปเลยตาแก่ จะแหกปากเสียงดังทำไม หนวกหูเฟ้ย!" คุณใสตะโกนโต้ตอบ
 
 "กล้าสวนฉันเหรอไอ้ลูกไม่รักดี! แกไปบ้านนั้นเพราะจะไปแกล้งอะไรมนต์อีกใช่ไหม ไสก้นกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ!...ได้ยินไหมไอ้ใส"
 
 "บ้านที่มีแต่ตาแก่ชุดขาวเดินเพ่นพ่านใครมันจะไปอยากกลับ!"
 
 สองพ่อลูกยังคงตะโกนโต้เถียงกันโดยไม่มีฝ่ายใดยอมถอย
 
 "นี่แกด่าพ่อตัวเองงั้นเหรอ ไอ้ ไอ้...!"
 
 "ทำไม! ที่ป๊ายังหาเรื่องทะเลาะทุกวัน แถมฝีมือทำอาหารก็ห่วยแตก บ้านแบบนั้นฉันไม่อยากอยู่หรอก!"
 
 "ดี! งั้นคืนนี้แกไม่ต้องเข้าบ้านเลยนะไอ้ลูกเป็ด!"
 
 สิ้นคำพูดของคนเป็นพ่อ ห่อผ้าเน่าๆ ที่อัดแน่นไปด้วยเสื้อ ชุด ชั้นใน และของใช้ส่วนตัวก็ถูกโยนมายังระเบียงห้องของน้ำมนต์
 
 "จะไปไหนก็ไปไอ้เด็กแก่แดด!"
 
 คนเป็นพ่อตะโกนทิ้งท้าย ซึ่งคุณใสหาได้สะทกสะท้านที่ถูกไล่ออกจากบ้าน กลับกัน เขาก้มลงมองน้ำมนต์ด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
 
 "ถูกไล่ออกจากบ้านซะแล้วแฮะ ทำไงดีน้า~"
 
 แววตาระยิบระยับที่แฝงไปด้วยความกดดันมหาศาลถูกเพ่งเล็งมาที่น้ำมนต์ราวกับปืนเลเซอร์ บีบบังคับให้ร่างเล็กยอมเอ่ยคำอนุญาตออกมา
 
 "กะ ก็ได้ นายอยู่ที่นี่..."
 
 "โอ้! อะไรนะ นายให้ฉันค้างด้วยเหรอ ใจดีจุงเบย ไม่เหมือนตาแก่บางคนไล่ลูกชายตัวเองออกจากบ้าน!"
 
 คุณใสพูดกึ่งตะโกน จงใจให้พ่อของตนได้ยิน
 
 ทันใดนั้นเสียงสับขาวิ่งขึ้นบันไดจากบ้านข้างๆ ก็ดังขึ้นอีกครั้ง ตามด้วยเสียงทุบกำแพงอย่างหัวเสียของชายชุดขาว
 
 "ฉันถอนคำพูด! แกกลับมาเดี๋ยวนี้!"
 
 เหมือนตอนนี้คนเป็นพ่อจะรู้ตัวแล้วว่าตนถูกลูกชายตัวดีหลอกใช้ เพื่อที่คุณใสจะได้มีโอกาสอยู่กับน้ำมนต์มากยิ่งขึ้น
 
 "ได้ไงกัน...อันที่จริงฉันก็เป็นลูกเลวอย่างที่ป๊าว่า เมื่อครู่ยังพูดจาหยาบคายใส่ป๊าอีก ใช้ไม่ได้ๆ ป๊าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวลูกป๊าจะสำนึกผิดอยู่บ้านข้างๆ นี่อย่างดีเลย"
 
 "แกวางแผนไว้แล้วสินะ!!!"
 
 หลังจากนั้นคุณใสก็แทบไม่สนใจผู้เป็นพ่อที่ตะกุยกำแพงบ้านอย่างเอาเป็นเอาตายอีกเลย คุณใสล้มตัวลงนอนทับร่างเล็กพลางยกมือขึ้นเท้าคางอย่างใจเย็น
 
 "คืนนี้ เค้าขอนอนด้วยคนนะครับ"
 
 น้ำมนต์อยากจะบ้าตาย..