ผมนากิ แมวขาวสุดเจ๋งแจ๋วที่ถูกแม่เลี้ยงใจร้ายถีบออกจากบ้านเด็กกำพร้า อะไรนะ?! ให้ฉันไปหาเงินในสภาพแบบนี้เนี่ยนะ?!! จริง ๆ มันก็ไม่ยากหรอก~ แต่ทำไม...ฉันต้องลงดันเจี้ยนกับไอ้จิ้งจอกขี้เก๊กนี่ด้วย!!!
        ดราม่า,แอคชั่น,ตลก,แฟนตาซี,ชาย-ชาย,โลกครึ่งสัตว์,เวทมนตร์,หวาน,อาณาจักร,นักผจญภัย,ดันเจี้ยน,โรงเรียนเวทมนตร์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี,  นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
        
        
      
          
            
        
          
              ผมนากิ แมวขาวสุดเจ๋งแจ๋วที่ถูกแม่เลี้ยงใจร้ายถีบออกจากบ้านเด็กกำพร้า อะไรนะ?! ให้ฉันไปหาเงินในสภาพแบบนี้เนี่ยนะ?!! จริง ๆ มันก็ไม่ยากหรอก~ แต่ทำไม...ฉันต้องลงดันเจี้ยนกับไอ้จิ้งจอกขี้เก๊กนี่ด้วย!!!
          
          ผู้แต่ง
          YANI
          เรื่องย่อ
          
              
“หลบไปซะไอ้จิ้งจอกสมองกล้าม ฉันจะจัดการมันเอง” ผมพูดอย่างเย้ยหยันกับชายร่างสูงข้าง ๆ และเดินไปหาเจ้าแมงมุมยักษ์เบื้องหน้าอย่างขึงขังมั่นใจ
กะอีแค่แมงมุมยักษ์ฉันไม่ต้องพึ่งหมานั่นหรอก~
ผมกำมือเดินไปหาเจ้าแมงมุมร้ายอย่างท้าทาย ดวงตาของมันแดงก่ำ มีฟันใหญ่แหลมคม และตัวใหญ่มาก ๆ ... ใหญ่เกือบเท่าบ้านหลังย่อมเลยนะนั่น แต่กลัวซะที่ไหน!
“แกตัวเท่ามดจะไปทำอะไรมันได้?” ผมชะงัก ไอ้หมาจิ้งจอกข้างหลังมันพูดจาถากถางพลางกอดอกด้วยท่าทีดูถูก แถมยังชายตามองผมอย่างกับเห็นแมลง วิ่งกลับไปต่อยสักทีดีไหมเนี่ย!
“เงียบไปเลย! เก็บปากไว้กินหญ้าเถอะ! ฉันไม่ต้องการให้หมาจิ้งจอกอย่างแกช่วย!!” ผมชี้หน้าด่าชายร่างสูงอย่างฉุนเฉียว หูและหางพลันก็ตั้งขึ้นตามอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
“ก็ถ้าโดนมันเล่นงานขึ้นมาก็อย่าขอให้ฉันช่วยก็แล้วกันไอ้แมวเด็ก!!”
เจ้าจิ้งจอกนั่นมันตะคอกกลับมาด้วยความโกรธเกรี้ยวยิ่งกว่าเก่า แต่แมวแกร่งอย่างผมสนใจพวกสมองกล้ามซะที่ไหน!
“คอยดูเถอะ!!”
หลังจากดูเชิงได้พักนึง ผมโก่งตัวกระโจนใส่เจ้าแมงมุมยักษ์ตรงหน้าหวังจะใช้กรงเล็บเฉือนตามัน
แต่มันกลับพ่นใยมาพันตัวผมจนเหลือแต่หัวโผล่ออกมา อะไรเนี่ย! ใยเหนียวชะมัด! ผมตกลงพื้นแข็ง ๆ และพยายามดิ้นสุดแรง
แต่เจ้าแมงมุมน่าเกลียดนั่นมันใช้ขาหน้าดึงร่างของผมที่ถูกห่อใยขึ้นไปห้อยต่องแต่งอยู่เหนือหัวมัน ก่อนที่ปากอันใหญ่โตของมันจะอ้าออกเผยให้เห็นฟันคมกริบนับไม่ถ้วน กลิ่นโคตรเหม็นคาวเลย!
แต่อะไรเนี่ย นี่ฉันต้องตายตั้งแต่เริ่มเลยเหรอ! ไม่ได้นะ ยังไม่ทันได้เงินสักแดงแถมฉันยังมีน้องที่ต้องกลับไปหาอีกนะ! ถึงจะไม่อยากพูดก็เถอะแต่...
“ช่วยด้วยไอ้หมาสมองกล้าม!!!” ผมตะโกนสุดเสียงจนแสบคอไปหมด แต่ก็เหลือบไปมองเจ้าหมานั่นหวังได้รับคำตอบที่ดี
“เฮ้อ... ฉันบอกแกแล้วใช่ไหมไอ้แมวเด็ก” เจ้าจิ้งจอกถอนหายใจหน้าตายและมองดูผมห้อยต่องแต่งอย่างไร้ทางหนี
อยู่ ๆ จากที่กำลังโดนหย่อน ตัวผมกลับโดนเหวี่ยงเป็นวงกลมเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ไอ้แมงมุมเวรนี่ทำอย่างกับฉันเป็นของเล่นเลย!
มันเหวี่ยงตัวผมไปมาจนเริ่มเวียนหัวแต่เจ้าหมานั่นก็ยังยืนกอดอกดูอยู่แบบนั้น
“ช่วยทีเถอะ! ฉันยังมีน้องที่ต้องกลับไปหานะ! เวียนหัวจะแย่อยู่แล้ว~!!”
เพราะโดนเหวี่ยงจนมึนทำให้เห็นแต่โลกที่หมุนไปมาผมเลยไม่รู้ว่าเจ้าหมานั่นรับคำขอหรือเปล่า
แต่ในตอนนั้นจู่ ๆ จากที่โดนเหวี่ยงไปมาผมก็รู้สึกเหมือนกำลังร่วงอีกครั้ง
“ว้าก!!” ถึงจะมึนจนไม่รู้เรื่องแต่ผมก็ร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก ตกลงข้างล่างทั้งที่มีปากแมงมุมรออยู่ฉันก็ตายน่ะสิ!!
แต่ตอนที่ร่างของผมกำลังร่วงหล่นอย่างไม่มีอะไรฉุดรั้ง ทันใดนั้นผมก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาประคองร่างที่ห่อใยของผมเอาไว้ สิ่งนั้นวางผมลงกับพื้นหินขรุขระ
“เฮ้! ไหวหรือเปล่าไอ้แมวเด็ก!!” ผมได้ยินเสียงเจ้าหมานั่นอยู่ใกล้ ๆ อาการมึนของผมเริ่มหายไป
ในที่สุดสายตาเจ้ากรรมก็กลับมามองเห็นอีกครั้ง สิ่งที่ผมเห็นคือโยชิโระที่ดูผมเหมือนเอ่อ...กังวลเหรอ ไม่สิ น่าจะแค่สงสัยมากกว่า
“โอย...อยากอ้วกแต่ไม่มีอะไรอยู่ในท้องด้วยซ้ำ...” ผมโอดครวญและพึมพำด้วยสีหน้าที่ซีดเซียว ไม่เอาแบบนั้นอีกแล้วนะขอร้อง...
          
       
      
          ตอนนี้เรากำลังตกลงไปข้างล่างจากหลุมที่ยุบกระทันหัน ผมแกว่งแขนไปมาพยายามหาอะไรจับ แต่ผมอยู่กลางหลุม ผนังหินมันอยู่ไกลเกินไป หางและเสื้อผ้าปลิวไสวขึ้นไปตามแรงลม 
 คิดสิคิด! เราทำอะไรได้บ้าง ถ้าเกิดฉันมีมานามากพอฉันคงใช้ลมชะลอการร่วงได้ แต่ตอนนี้ทำแบบนั้นได้ซะที่ไหน?! หรือจะลองเสี่ยงเชื่อใจความเป็นแมวแล้วลงพื้นอย่างนุ่มนวลดี...ตายแหงสิแบบนั้น!
 
 ในตอนที่กำลังรวบรวมสติผมก็หันไปมองเจ้าหมาที่ตกมาด้วยกันอย่างวิตก หวังว่าหมอนั่นจะทำอะไรได้นะ เขากำลังกวาดตามองรอบ ๆ อย่างตึงเครียด ไอ้หลุมนี่ลึกเอาเรื่องเลย!
 
 ผมมองลงไปข้างล่างตามสัญชาตญาณและก็ต้องตกใจ พื้นหินมันอยู่ไม่ไกลแถมผมกำลังดิ่งไปหามันโดยไม่มีอะไรรั้ง คงต้องพึ่งเท้าแมวจ๋าแล้วล่ะ!
 
 ผมหลับตาสนิทและเตรียมรับแรงกระแทกอย่างหมดหนทาง แต่ในตอนนั้นผมก็ได้ยินเสียงเจ้าหมาพูด “เกาะฉันไว้เร็วเข้า!!”
 
 เขายื่นมือมาพร้อมที่จะช่วยอย่างจริงจัง ผมลืมความเกลียดชังก่อนหน้าและจับมือเขาอย่างไม่ลังเล วินาทีนั้นผมขี่หลังและกอดคอเขาไว้แน่น ไม่รู้หรอกว่าคิดจะทำอะไรแต่น่ากลัวเป็นบ้าเลย!
 
 เราสองคนดิ่งลงด้วยความเร็ว ในตอนนั้นโยชิโระใช้มือข้างหนึ่งเสริมด้วยเวทมนตร์เหมือนที่ผมทำ จากนั้นเขาก็เหวี่ยงกรงเล็บเจาะเข้ากำแพงหินเป็นเหมือนตะขอชะลอการตกของพวกเรา
 
 และเหมือนมันจะได้ผล เราร่วงลงมาช้าลงและค่อย ๆ ไถลตามแนวกำแพงจนสุดท้ายเราก็มาถึงข้างล่างได้อย่างปลอดภัย
 
 ทันทีที่เขาเหยียบพื้นผมก็ลงจากหลังและโซซัดโซเซ
 
 “อุแหวะ!!!” ผมเข่าทรุดและอ้วกออกมาด้วยอาการเวียนหัว ขนาดท้องไส้แทบไม่มีอะไรก็ยังจะอ้วกได้อีกนะ... รู้สึกแย่ชะมัด แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือผมดันมาเป็นต่อหน้าเจ้าหมาข้างหลัง
 
 “นี่แกกลัวความสูงเหรอ?”
 
 หูแมวของผมตั้งขึ้นฉับพลัน ผมหันไปหาเจ้าหมาที่มองกลับมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแต่ชวนให้รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก แล้วเผ่าแมวอย่างฉันจะกลัวความสูงได้ยังไงล่ะ!
 
 “มะ ไม่ใช่สักหน่อยไม่ต้องพูดเลย! ว่าแต่แกเถอะไอ้หมาสมองกล้าม! ถ้าทำแบบนั้นได้ทำไมไม่ทำตั้งแต่แรกแล้วพาเรากลับขึ้นไปล่ะ?!” ผมลุกขึ้นโวยวายใส่เจ้าหมากลบเกลื่อนเรื่องน่าอับอาย
 
 “ก็ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นทางลัดน่ะสิ” เขาตอบกลับอย่างเรียบนิ่ง
 
 “หมายความว่ายังไง?”
 
 ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด เจ้าหมาหยิบแผนที่ออกมาดูอย่างขมักเขม้นก่อนจะอธิบาย
 
 “ก็เราจะมาทำเควสใช่ไหมล่ะ? ตอนนี้เราอยู่ในชั้นที่ลึกมาก ซึ่งถ้าใช้ทางปกติคงกินเวลากว่านี้เยอะ ฉันเลยตัดสินใจลงมาข้างล่างแทน”
 
 ผมนิ่งเงียบไป ไอ้หมอนี่ตัดสินใจทำแบบนั้นทั้งที่ดูแผนแค่ไม่กี่ครั้งเนี่ยนะ? ทำเอาผมอึ้งไปเลย
 
 ไม่ได้สิเรื่องแค่นี้เราจะแพ้พวกจิ้งจอกไม่ได้!
 
 “ถะ ถ้างั้นนายก็นำทางเลยละกัน ฉันจะช่วยจัดการมอนสเตอร์ให้!” ผมเท้าเอวและชี้ตัวเองอย่างมั่นใจหวังให้เจ้าหมาพึ่งพา ยังไงผมก็เป็นแมวแกร่งอยู่แล้ว!
 
 “สภาพแบบนั้นเนี่ยนะจะช่วยจัดการมอนสเตอร์?”
 
 ผมชะงักไปหนึ่งครั้ง เจ้าหมาจิ้งจอกพูดอย่างเย็นชาแถมยังมองผมอย่างเอือมระอาอีก อยากวิ่งเข้าไปซัดหน้าสักทีจริง ๆ !
 
 “แล้วคนเขาอุส่าช่วยไม่คิดจะขอบคุณเลยหรือไง?” เจ้าหมาขมวดคิ้วเอ่ยถามอีกครั้ง ผนวกกับน้ำเสียงเคร่งขรึมทำให้ผมรู้ว่าเขากำลังหงุดหงิด
 
 “เออ ๆ ขอบคุณมาก!! เอาที่สบายใจเถอะ!!”
 
 ผมตวาดกลับไปด้วยความหงุดหงิดไม่ต่างกัน แต่หมอนั่นก็ไม่ใสใจและดูแผนที่พร้อมเดินนำผมไปตามทาง
 
 ระหว่างทางในถ้ำมืด ๆ ผมเดินย่ำเท้าเปล่าไปบนพื้นหินขรุขระ ในขณะที่เจ้าหมาเหมือนจะใส่กางเกงสแล็คสีดำ เสื้อเชิ้ตสีขาว แล้วก็เดินด้วยรองเท้าหนัง พึ่งสังเกตชุดของหมอนี่แฮะ...
 
 ผมตามหลังเจ้าหมาไปเรื่อย ๆ พลางมองรอบ ๆ เผื่อจะเจออะไรน่าสนใจ แต่พอนึกถึงเรื่องก่อนหน้าผมก็มีสิ่งที่อยากถาม
 
 “นี่... ฉันรู้นะเราไม่ได้เกลียดกันเพราะเรื่องส่วนตัวแต่เราก็ไม่ชอบขี้หน้ากัน ทำไมนายถึงช่วยฉันล่ะ?”
 
 ผมรู้ว่าเขากำลังฟังอยู่ ดูได้จากหูจิ้งจอกบนศรีษะที่กระดิกเบา ๆ ไม่นานเกินรอเขาก็ตอบกลับมา
 
 “อย่าเข้าใจผิด ฉันช่วยเพราะคิดว่าแกอาจะมีประโยชน์ อีกอย่างฉันคิดไว้แล้วว่าแมวอ่อนแออย่างแกต้องให้ฉันช่วย”
 
 เป็นคำตอบที่เห็นแก่ตัวและน่าหงุดหงิดโคตรเลย! จะโมโหก็ไม่ได้เพราะตอนแรกเราก็ไปทำเขาหลงทางจนเสียเวลาไปตั้งเยอะ... แต่ยังไงฉันก็เกลียดพวกจิ้งจอกอยู่ดี!
 
 “ฉันเองก็มีเหตุผลที่ต้องลงดันเจี้ยนเหมือนกันนั่นแหละ! ไม่ได้ดีใจที่ร่วมทางกับนายหรอก!!” ผมพูดออกไปและกอดอกอย่างมั่นหน้า
 
 ถ้ำดันเจี้ยนนี่ใหญ่เอาเรื่องเลย แต่นอกจากความมืดกับพวกหินงอกหินย้อยแล้ว ที่นี่ก็ไม่เห็นมีอะไรเลยแฮะ... นี่เรามาถูกที่หรือเปล่านี่ย?
 
 แต่ไม่ทันขาดคำพวกเราก็เดินมาเจออะไรแปลก ๆ เข้า... ใยแมงมุมเหรอ? พวกเราเดินลึกเข้าไปจนเจอใยแมงมุมขนาดใหญ่จำนวนมากที่ติดอยู่ตามผนังและเพดานถ้ำ
 
 เราสองคนหันมองไปมาด้วยความเคลือบแคลงสงสัยพลางเดินไปเรื่อย
 
 อยู่ ๆ เจ้าหมาก็หยุดเดินพลันหันไปมองใยทางด้านข้าง ผมก็หยุดเดินและมองตามไปอย่างสงสัย เขาหยิบก้อนหินขึ้นมาและขว้างใส่ใยตรงกำแพงซึ่งมันก็ติดหนึบ เหนียวอะไรขนาดนั้น... เราสองคนแอบตกใจหน่อย ๆ
 
 เจ้าหมาแสดงสีหน้าตึงเครียดขึ้นมาก่อนจะพูด “ต้องระวังหน่อยแล้วล่ะ”
 
 เขาเดินนำต่อไปอย่างไร้ความกลัว
 
 ถึงจะแอบน่ากลัวก็เถอะ แต่อีแค่แมงมุมที่ตัวใหญ่ขึ้นมาหน่อยมันจะยากขนาดไหนกันเชียว~
 
 “โอ๊ย! ทำอะไรของนายน่ะ!”
 
 เพราะมัวแต่คิดอะไรเพลิน ๆ ผมเลยเดินชนโยชิโระที่ยืนนิ่งเหมือนเจออะไรบางอย่าง เขาอึ้งจนไม่สนใจที่ผมชนเมื่อกี้ด้วยซ้ำ
 
 ด้วยความสงสัยผมเลยมายืนข้าง ๆ และมองไปข้างหน้า แต่สิ่งที่เห็นมันทำให้ผมตกใจเช่นกัน
 
 เราเดินตามทางจนมาโผล่ที่โถงถ้ำกว้างขวาง เบื้องหน้าของเราคือแมงมุมขนาดใหญ่ขนสีดำตัวหนึ่ง มันกำลังจ้องเราด้วยดวงตาสีแดงทั้งแปด
 
 พวกเราตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก นี่เราทะลุลงมาถึงห้องบอสเร็วขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย! กลิ่นเหม็นจาง ๆ จากอะไรบางอย่างคละคลุ้งไปทั่ว
 
 “แมงมุมนั่นกำลังระแวงเรา... มันก็ไม่กล้าโจมตีเราเหมือนกัน ฉันน่าจะจัดการมันได้ไม่ยากหรอก” โยชิโระพูดอย่างเรียบนิ่ง
 
 เขาแสดงแววตาอันแข็งกร้าวและเตรียมกรงเล็บพร้อมจะต่อสู้
 
 แต่จะยอมได้ยังไง? ผมต้องทำอะไรบ้างสิ! พึ่งไอ้หมอนี่มาเยอะแล้วนะ! ต้องทำให้เขาเห็นว่าผมเองก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน!
 
 “หลบไปซะไอ้จิ้งจอกสมองกล้าม ฉันจะจัดการมันเอง” ผมพูดอย่างเย้ยหยันกับชายร่างสูงข้าง ๆ และเดินไปหาเจ้าแมงมุมยักษ์เบื้องหน้าอย่างขึงขังมั่นใจ
 
 กะอีแค่แมงมุมยักษ์ฉันไม่ต้องพึ่งหมานั่นหรอก~
 
 ผมกำมือเดินไปหาเจ้าแมงมุมร้ายอย่างท้าทาย ดวงตาของมันแดงก่ำ มีฟันใหญ่แหลมคม และตัวใหญ่มาก ๆ ... ใหญ่เกือบเท่าบ้านหลังย่อมเลยนะนั่น แต่กลัวซะที่ไหน!
 
 “แกตัวเท่ามดจะไปทำอะไรมันได้?” ผมชะงัก ไอ้หมาจิ้งจอกข้างหลังมันพูดจาถากถางพลางกอดอกด้วยท่าทีดูถูก แถมยังชายตามองผมอย่างกับเห็นแมลง วิ่งกลับไปต่อยสักทีดีไหมเนี่ย!
 
 “เงียบไปเลย! เก็บปากไว้กินหญ้าเถอะ! ฉันไม่ต้องการให้หมาจิ้งจอกอย่างแกช่วย!!” ผมชี้หน้าด่าชายร่างสูงอย่างฉุนเฉียว หูและหางพลันก็ตั้งขึ้นตามอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
 
 “ก็ถ้าโดนมันเล่นงานขึ้นมาก็อย่าขอให้ฉันช่วยก็แล้วกันไอ้แมวเด็ก!!”
 
 เจ้าจิ้งจอกนั่นมันตะคอกกลับมาด้วยความโกรธเกรี้ยวยิ่งกว่าเก่า แต่แมวแกร่งอย่างผมสนใจพวกสมองกล้ามซะที่ไหน!
 
 “คอยดูเถอะ!!”
 
 หลังจากดูเชิงได้พักนึง ผมโก่งตัวกระโจนใส่เจ้าแมงมุมยักษ์ตรงหน้าหวังจะใช้กรงเล็บเฉือนตามัน
 
 แต่มันกลับพ่นใยมาพันตัวผมจนเหลือแต่หัวโผล่ออกมา อะไรเนี่ย! ใยเหนียวชะมัด! ผมตกลงพื้นแข็ง ๆ และพยายามดิ้นสุดแรง
 
 แต่เจ้าแมงมุมน่าเกลียดนั่นมันใช้ขาหน้าดึงร่างของผมที่ถูกห่อใยขึ้นไปห้อยต่องแต่งอยู่เหนือหัวมัน ก่อนที่ปากอันใหญ่โตของมันจะอ้าออกเผยให้เห็นฟันคมกริบนับไม่ถ้วน กลิ่นโคตรเหม็นคาวเลย!
 
 แต่อะไรเนี่ย นี่ฉันต้องตายตั้งแต่เริ่มเลยเหรอ! ไม่ได้นะ ยังไม่ทันได้เงินสักแดงแถมฉันยังมีน้องที่ต้องกลับไปหาอีกนะ! ถึงจะไม่อยากพูดก็เถอะแต่...
 
 “ช่วยด้วยไอ้หมาสมองกล้าม!!!” ผมตะโกนสุดเสียงจนแสบคอไปหมด แต่ก็เหลือบไปมองเจ้าหมานั่นหวังได้รับคำตอบที่ดี
 
 “เฮ้อ... ฉันบอกแกแล้วใช่ไหมไอ้แมวเด็ก” เจ้าจิ้งจอกถอนหายใจหน้าตายและมองดูผมห้อยต่องแต่งอย่างไร้ทางหนี
 
 อยู่ ๆ จากที่กำลังโดนหย่อน ตัวผมกลับโดนเหวี่ยงเป็นวงกลมเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ไอ้แมงมุมเวรนี่ทำอย่างกับฉันเป็นของเล่นเลย!
 
 มันเหวี่ยงตัวผมไปมาจนเริ่มเวียนหัวแต่เจ้าหมานั่นก็ยังยืนกอดอกดูอยู่แบบนั้น
 
 “ช่วยทีเถอะ! ฉันยังมีน้องที่ต้องกลับไปหานะ! เวียนหัวจะแย่อยู่แล้ว~!!”
 
 เพราะโดนเหวี่ยงจนมึนทำให้เห็นแต่โลกที่หมุนไปมาผมเลยไม่รู้ว่าเจ้าหมานั่นรับคำขอหรือเปล่า
 
 แต่ในตอนนั้นจู่ ๆ จากที่โดนเหวี่ยงไปมาผมก็รู้สึกเหมือนกำลังร่วงอีกครั้ง
 
 “ว้าก!!” ถึงจะมึนจนไม่รู้เรื่องแต่ผมก็ร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก ตกลงข้างล่างทั้งที่มีปากแมงมุมรออยู่ฉันก็ตายน่ะสิ!!
 
 แต่ตอนที่ร่างของผมกำลังร่วงหล่นอย่างไม่มีอะไรฉุดรั้ง ทันใดนั้นผมก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาประคองร่างที่ห่อใยของผมเอาไว้ สิ่งนั้นวางผมลงกับพื้นหินขรุขระ
 
 “เฮ้! ไหวหรือเปล่าไอ้แมวเด็ก!!” ผมได้ยินเสียงเจ้าหมานั่นอยู่ใกล้ ๆ อาการมึนของผมเริ่มหายไป
 
 ในที่สุดสายตาเจ้ากรรมก็กลับมามองเห็นอีกครั้ง สิ่งที่ผมเห็นคือโยชิโระที่ดูผมเหมือนเอ่อ...กังวลเหรอ ไม่สิ น่าจะแค่สงสัยมากกว่า
 
 “โอย...อยากอ้วกแต่ไม่มีอะไรอยู่ในท้องด้วยซ้ำ...” ผมโอดครวญและพึมพำด้วยสีหน้าที่ซีดเซียว ไม่เอาแบบนั้นอีกแล้วนะขอร้อง...
 
 “อยู่นิ่ง ๆ” เจ้าหมาพูดก่อนจะใช้กรงเล็บอันแหลมคมเฉือนใยเหนียวจนขาดเป็นชิ้น ๆ
 
 ผมลุกขึ้นนั่งพลางกุมศรีษะอย่างมึนงง สายตาของผมเหลือบกลับไปมองเจ้าแมงมุมยักษ์อีกครั้งแต่มัน...กลายเป็นซาก
 
 หัวที่มีดวงตาทั้งแปดของมันขาดกระจุย ขาหน้าของมันก็โดนหั่นเป็นท่อนเหมือนกิ่งไม้ เลือดสีเขียวไหลออกมาเป็นแอ่งตื้น ๆ กลิ่นเหม็นคาวโชยออกมาอย่างน่าสะอิดสะเอียน
 
 ผมลุกขึ้นยืนและมองดูซากนั่นด้วยความตะลึง
 
 “นายเป็นคนทำเหรอ..?” ผมถามเจ้าหมาร่างสูงด้วยความฉงน พอเห็นเลือดสีเขียวที่มือของเขาผมก็ยิ่งมั่นใจ
 
 “ใช่ฉันทำเอง...แต่ว่ามันแปลก ๆ แฮะ มันเป็นบอสดันเจี้ยนที่อ่อนแอมาก ฉันแทบไม่ต้องใช้เวทมนตร์ด้วยซ้ำ”
 
 ผมเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ คือ...จะสื่อว่าบอสมันอ่อนแอหรือตัวเองเก่งเกิน? คิดแล้วก็หมั่นไส้แปลก ๆ
 
 เจ้าหมาสะบัดเลือดที่มือออกและหยิบใบเควสออกมาดูอย่างไม่แน่ใจ
 
 “เอามานี่!!” ผมแย่งใบเควสจากมือของเขาด้วยความหงุดหงิด ถ้าไม่ใช่บอสขึ้นมาเจ้าหมอนั่นคงเป็นหมาที่ตาถั่วมากเพราะแยกบอสไม่ออก
 
 ด้วยตาแมวมหัศจรรย์ ผมมองเห็นรายละเอียดในใบเควสอย่างชัดเจน
 
 มันก็...เป็นแมงมุมตัวใหญ่นี่นา ไอ้ใบเควสเวรนี่ก็ไม่มีรายละเอียดอะไรนอกจากรูป... แต่ทำไมมันแปลก ๆ หว่า..? แมงมุมตัวเมื่อกี้กับที่อยู่ในเควสมันตัวเดียวกันแน่เหรอ?
 
 ในระหว่างที่กำลังครุ่นคิดจู่ ๆ ผมก็ได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังระงมทั่วโถงถ้ำ หูสัตว์ของเราทั้งคู่กระดิกเบา ๆ เป็นการบอกว่าไม่ได้หูฝาด
 
 ผมและเจ้าหมามองหน้ากันด้วยความงุนงง เราสองคนกระพริบตาปริบ ๆ ราวกับจะถามอีกฝ่ายว่ามันคืออะไร...
 
 สุดท้ายเราทั้งคู่ก็แหงนหน้าไปมองที่ด้านบนซึ่งเป็นที่มาของเสียง
 
 “เวรละ!!” ผมสบถออกมาด้วยความตื่นตกใจ
 
 บนเพดานถ้ำนั่น ดวงตาสีแดงฉานของเหล่าแมงมุมยักษ์ขนดำจำนวนไม่น้อยกำลังจ้องมองเราราวกับโกรธแค้นในสิ่งที่เราทำลงไป พวกมันคืบคลานเข้ามาพร้อมส่งเสียงน่าขนลุก
 
 ห้า แปด ไม่สิ มีถึงสิบตัวเลยเหรอ?!