ม่านการแสดงได้เปิดฉาก ท่ามกลางร่องรอยอาชญากรรม จดหมายสีขาวประทับรอยเท้าจิ้งจอกที่ถูกส่งมาพร้อมปริศนาที่รอให้ไข ใครกันแน่ที่ซ้อนตัวอยู่ภายใต้หน้ากากใบนั้น?
สืบสวนสอบสวน,ชาย-ชาย,แฟนตาซี,อาชญากรรม,ปฏิบัติการล่ารักนักปล้น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ปฏิบัติการล่ารักนักปล้น (ไฮบริด)ม่านการแสดงได้เปิดฉาก ท่ามกลางร่องรอยอาชญากรรม จดหมายสีขาวประทับรอยเท้าจิ้งจอกที่ถูกส่งมาพร้อมปริศนาที่รอให้ไข ใครกันแน่ที่ซ้อนตัวอยู่ภายใต้หน้ากากใบนั้น?
“บ้าชะมัด! ตรงนี้มันเลี้ยวซ้ายหรือขวากันแน่เนี่ย!”
ท่ามกลางตึกสูงระฟ้า ร่างของกระต่ายตัวจิ๋วยืนเก้ ๆ กัง ๆ กลางเมืองที่ไม่คุ้นเคย จราจรติดขัดยามเหล่าสัตว์หลากหลายสายพันธุ์ต่างเร่งรีบในการกลับบ้าน ต่างจากเขาที่เอาแต่ก้มมองแผนที่ในมือ
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ตัวเองยืนอยู่ส่วนไหนบนแผนที่ นัยน์ตาสีอ่อนละจากกระดาษในมือหันมองท้องฟ้าที่ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีส้ม เสียงถอนหายใจแผ่วเบาเล็ดลอดออกมาจากคนตัวเล็ก ก่อนที่เจ้าตัวจะพาร่างตัวเองทิ้งลงบนเก้าอี้ป้ายรถเมย์อย่างอ่อนแรง
1 ชั่วโมงก่อน
มึ๊งงงงงง กูติดภารกิจด่วนว่ะ
ไปรับมึงไม่ได้แล้ว เดี๋ยวกูแชร์โลให้ มึงมาเองได้ปะ
ขอโทษจริง ๆ นะเว้ย
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นบนหน้าจอมือถือ ข้อความจาก ‘เจอร์รี่’ ไฮบริดแฮมสเตอร์ตัวจิ๋วเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขา เจ้าตัวตบปากรับคำเสียดิบดีว่าเย็นนี้หลังเลิกงานจะอาสามารับถึงที่พร้อมกับพาทัวย์เมือง แต่เหมือนว่าทุกอย่างจะผิดแผนไปหมด
เพราะโดนเรียกตัวมากระทันหัน ทำให้เขายังหาที่พักไม่ได้ จึงจำเป็นต้องฝากตัวอยู่กับเพื่อนสนิทชั่วคราว ถึงแม้จะเกรงใจแต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
ราวกับวันนี้โชคจะไม่เข้าข้าง เมื่อก้อนแบตเตอรี่ขึ้นสีแดงแจ๋แจ้งเตือนพลังงานต่ำ 1% สุดท้าย นัยน์ตาคู่สวยพยายามจดจำสถานที่ที่ถูกปัดหมุดไว้บนหน้าจอสมาร์ทโฟนก่อนจะพลันดับสนิทไป
“ซวยชะมัด”
คนตัวเล็กพึมพำขณะก้มมองสมาร์ทโฟนในมือที่กลายเป็นก้อนถ่านไร้ประโยชน์ไปเรียบร้อย โชคยังดีที่ยังพอจำชื่อคอนโดของเพื่อนได้ แต่ในเมืองใหญ่ที่ไม่คุ้นเคยแบบนี้ การจะเดินสุ่มถามทางคนแปลกหน้าก็ใช่ว่าจะง่าย
“ถือซะว่าสำรวจเมืองไปในตัวแล้วกัน”
แต่ความจริงมันมักจะไม่เป็นอย่างที่คิด
“เฮ้อ~หลงทางจนได้ไอ้ซื่อบื้อเอ้ย!”
ร่างเล็กขยี้ผมตัวเองด้วยความหัวเสีย นัยน์ตาสีอ่อนหลับพริ้มพร้อมเปลือกตาสีไข่ที่ปิดลง ท่ามกลางเสียงจอแจของเครื่องยนต์
รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งแล่นผ่านฝูงชนบนถนนที่แออัด หลังจากผู้เป็นเจ้าของร้านคาเฟ่ฟอกซ์พึ่งจะส่งน้ำหวานถึงมือลูกค้าครบถ้วนทุกคน ระหว่างทางกำลังจะตรงกลับร้านนั้น สายตากลับสะดุดเข้ากับร่างเล็กของกระต่ายตัวขาวที่นั่งก้มหน้าหางลู่หูตกอยู่ตรงป้ายรถเมล์ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ปรากฏบนใบหน้าภายใต้หมวกกันน็อคทันที
อีกฝ่ายพลันมุ่งตรงเข้ามาใกล้ ก่อนจะจอดชะลอลงข้าง ๆ คนตัวเล็ก เจ้าของรถสวมเสื้อยืดสีขาวทับด้วยผ้ากันเปื้อนสีอัลมอนด์ มือหนายกหมวกกันน็อคขึ้น เผยรอยยิ้มของเจ้าของเรือนผมสีผลส้มสว่าง
“คุณตำรวจ เย็นขนาดนี้หมดรอบรถเมย์แล้วนะครับ”
น้ำเสียงคุ้นหูดังเข้ามาในโสตประสาท ใบหน้าจิ้มลิ้มเงยหน้ามองตามเสียง ก่อนจะพบเข้ากับเจ้าของใบหน้าหล่อ แววตาที่ดูกังวล ผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเจอคนรู้จัก
“เปล่าครับ คือว่า…”
“หลงทาง?”
“ไม่ใช่นะ! แค่เลี้ยวผิดซอยนิดหน่อยแล้วหาทางกลับไม่เจอเฉย ๆ”
“อ่า…ฮ่า ๆ ๆ ๆ ว่าแต่จะไปไหนหรอครับ”
“ผมกำลังจะไปคอนโดเพื่อน”
“ขอผมดูแผนที่หน่อยได้ไหม”
กระต่ายตัวขาวรีบลุกขึ้นตรงดิ่งเข้าไปหาคนตัวโตทันที ก่อนจะยื่นแผนที่ในมือให้ ขณะชี้นิ้วตรงที่หมายให้อีกฝ่ายดู
ทว่าด้วยความที่ตัวเล็กกว่ามาก เขาจึงเผลอขยับเข้าไปใกล้จนอกแทบจะชนแขนของอีกฝ่าย กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของแชมพูจากเส้นผมสีอ่อนลอยแตะจมูกทันที
หอม…
ร่างสูงเผลอเอนหน้าเข้ามาใกล้อีกนิดโดยไม่รู้ตัว ปลายจมูกสัมผัสกับเส้นผมฟูเบา ๆ ราวกับถูกดึงดูด สัมผัสนั้นทำเอากระต่ายตัวน้อยสะดุ้งโหยง หูยาวกระดิกตั้ง
“อ๊ะ…! คุณทำอะไรน่ะ!”
กระต่ายขี้ตกใจถอยหนีด้วยความตระหนก ใบหน้าขึ้นริ้วสีแดงอย่างเห็นได้ชัด ขณะจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ยกมือเกาหลังคอแก้เก้อ เมื่อเผลอทำคนตัวเล็กตกใจ
“แฮะ ขอโทษครับ ผมมองไม่ค่อยเห็นที่คุณตำรวจชี้น่ะ”
“งะ…งั้นหรอครับ ตรงนี้น่ะ”
“อืมที่นี่เอง ไม่ไกลจากร้านผมเลย เดี๋ยวผมไปส่ง”
คนตัวเล็กลังเลอยู่สักพัก ไม่กล้าที่จะตอบตกลง เพราะความเซ่อซ่าของตัวเองทำให้คนอื่นต้องลำบากไปด้วย ตั้งแต่ตอนที่เดินชนกับผู้ชายคนนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว
“ขึ้นมาเถอะครับคุณตำรวจ ถ้าหลงทางกลางเมืองตอนดึกอันตรายแย่”
“…”
“ยิ่งช่วงนี้ได้ยินข่าวสัตว์นักล่าบุกทำร้ายสัตว์กินพืชด้วย ผมว่ามันค่อนข้างจะเสี่ยงไปหน่อยที่จะปล่อยให้กระต่ายตัวเล็ก ๆ แบบนี้อยู่คนเดียว”
คำพูดมากมายสาธยายออกมาหลอกล่อคนตัวเล็กให้ยอมขึ้นรถไปกับตัวเอง ขณะขยับหมวกกันน็อกสำรองยื่นมาให้พร้อมรอยยิ้มลูกหมา
กระต่ายตัวขาวทำตาโต พยายามยืดอกทำท่าขึงขัง พยายามเถียงกลับเพื่อแก้ต่างให้กับตัวเองแต่เสียงที่หลุดออกมากลับติดงอนนิด ๆ มากกว่าน่าเกรงขาม
“ถึงผมจะตัวเล็กแต่ก็แข็งแกร่งนะครับ! แถมอีกอย่างผมเป็นตำรวจด้วย เรื่องแบบนี้น่ะ…ถ้ากลัวคงจะถูกปลดตำแหน่งแน่ ๆ”
“อ่า ๆ นั่นสินะครับ ผมลืมไปเลย”
พลันใบหน้ามู่ทู่ค่อย ๆ คลายกลายเป็นรอยยิ้มออกมาให้กับความใจดีของคนแปลกหน้า ที่เป็นห่วงเขามากขนาดนี้ทั้งที่พึ่งรู้จักกันแท้ ๆ
สุดท้ายพออีกฝ่ายยื่นหมวกให้ มือเล็กก็รับหมวกกันน็อคจากคนตรงหน้าไปพลางเม้มปากเขิน ๆ พร้อมกับขึ้นคร่อมบนรถคันใหญ่
“งั้นถ้าไม่รบกวน ผมขอติดรถไปด้วยนะครับ”
“ขอค่าตอบแทนเป็นการแวะมาที่ร้านผมบ่อย ๆ นะครับ”
“ขายตรงเลยหรอครับ”
“ครับ ฮ่า ๆ ๆ ๆ”
ไม่นานนัก รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ก็แล่นเข้าจอดเทียบหน้าตึกคอนโด คนตัวเล็กก้าวลงจากรถ โดยมีเจอร์รี่ยืนรออย่างเป็นห่วง
“นี่เบอร์โทรผมนะครับ เพื่อว่าคุณตำรวจต้องการความช่วยเหลือ”
“ประโยคนั่นควรจะเป็นผมที่พูดแท้ ๆ น่าอายจัง”
โพสอิทแผ่นเล็กถูกยื่นให้คุณตำรวจจิ๋ว พร้อมกับประโยคที่แฝงแววหยอกล้อ เมื่อคนที่ต้องขอความช่วยเหลือดันเป็นคุณตำรวจเสียเอง
“ทำไมพวกมึงมาด้วยกันได้วะ รู้จักกันหรอ”
เจอร์รี่เลิกคิ้วถามอย่างแปลกใจ เมื่อยัยเพื่อนตัวดีซ้อนรถมากับสัตว์นักล่าหน้าตาเจ้าเล่ห์อย่างชิน่อน
“เรื่องมันยาวอะมึง ไว้เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง”
“งั้นผมกลับก่อนนะครับคุณตำรวจ”
“ขอบคุณอีกครั้งนะครับชิน่อน วันนี้ทำคุณลำบากหลายเรื่องเลย”
“ยินดีมากครับคุณตำรวจ”
“กลับไปเลยมึง อย่ามาล่อเพื่อนกู”
“เออไปแล้ว ๆ”
.
.
.
“เป็นไงมึง ทำงานวันแรกโอเคปะวะ”
“โอเคแหละ แต่งานแรกก็หินเลยอ่า”
กระต่ายตัวขาวบ่นอุบอิบ พลางถอนหายใจด้วยใบหน้ามู่ทู่ ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มอย่างหมดแรง ขณะที่เจอร์รี่เท้าคางถามด้วยความใคร่รู้
“ทำไมวะ ยังไงไหนเล่า”
“มึงรู้จักไวท์ฟอกซ์ไหม”
“นักปล้นดัง ๆ คนนั้นอะนะ”
“อื้อ”
“อย่าบอกนะว่ามึงได้ทำคดีของพ่อหนุ่มคนนี้”
กระต่ายตัวเล็กพยักหน้าเบา ๆ เป็นการตอบกลับ เพราะเหนื่อยเกินกว่าจะอธิบายยาว ๆ ทันใดนั้นแฮมสเตอร์ก็เบิกตากว้างแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
“เชี่ยยย! เพิ่งวันแรกก็เจองานบิ๊กบอสเลยเหรอวะ กูว่าเดี๋ยวมึงโดนไล่ออกแน่”
“ไอ้บ้า! ทำไมพูดไม่ให้กำลังใจเลยวะ”
“ก็กูพูดจริง มึงตัวเล็กขนาดนี้ จะไปจับโจรตัวเบ้อเร้อได้ยังไง”
กระต่ายตัวขาวเด้งตัวขึ้นจากที่นอน พลางพองลมในแก้ม หูยาวกระดิกแรงขึ้นอย่างขัดใจ ก่อนจะมองค้อนเพื่อนด้วยสายตาเคือง ๆ พลันเอ่ยขึ้นด้วยเสียงหนักแน่น
“ก็เลยต้องจับให้ได้ไง! กูจะพิสูจน์ให้พวกนั้นเห็น ว่าคนตัวเล็กก็ทำอะไรได้เหมือนกัน”
น้ำเสียงจริงจังที่เปล่งออกมา ทำให้ทั้งห้องเงียบลงชั่วขณะ แฮมสเตอร์ตัวจิ๋วมองเพื่อนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ดวงตากลมเล็กเปลี่ยนจากล้อเลียนเป็นแววอบอุ่น เขายกมือขึ้นตบไหล่เพื่อนเบา ๆ
“โอเคกูเชื่อมึง แต่ถ้ามีอะไรบอกกูได้เสมอนะเว้ย กูยินดีช่วย”
รอยยิ้มอบอุ่นปรากฏขึ้นบนหน้าเล็ก ๆ ของกระต่ายทันที ความเหนื่อยล้าจากทั้งวันคลายลงเล็กน้อย ก่อนจะผลอยหลับไป