ในชาติก่อน ข้าคือชายาที่เขาไม่เคยเห็นค่า คือภรรยาที่เขาผลักไส คือสตรีที่ตายใต้คมดาบของคนที่ข้ารักหมดใจ ในชาตินี้ ข้าจะไม่เป็นเพียงหุ่นเชิดของโชคชะตาอีก ข้าจะลุกขึ้น…เปลี่ยนบทของตนเอง และให้เขาได้รู้ว่า “สิ่งใดที่เคยทอดทิ้ง…ย่อมไม่มีวันได้คืน”

เกิดใหม่อีกครา…ข้าจะเป็นคนลิขิตชะตาเอง - การแต่งงานที่ไร้รัก การแต่งงานที่ไร้รัก โดย แสงจันทร์ในคืนมืด @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,โรแมนติก,โรแมนติกแฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เกิดใหม่อีกครา…ข้าจะเป็นคนลิขิตชะตาเอง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,เกิดใหม่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

โรแมนติก,โรแมนติกแฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,ผจญภัย,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

เกิดใหม่อีกครา…ข้าจะเป็นคนลิขิตชะตาเอง โดย แสงจันทร์ในคืนมืด @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ในชาติก่อน ข้าคือชายาที่เขาไม่เคยเห็นค่า คือภรรยาที่เขาผลักไส คือสตรีที่ตายใต้คมดาบของคนที่ข้ารักหมดใจ ในชาตินี้ ข้าจะไม่เป็นเพียงหุ่นเชิดของโชคชะตาอีก ข้าจะลุกขึ้น…เปลี่ยนบทของตนเอง และให้เขาได้รู้ว่า “สิ่งใดที่เคยทอดทิ้ง…ย่อมไม่มีวันได้คืน”

ผู้แต่ง

แสงจันทร์ในคืนมืด

เรื่องย่อ

ในชาติก่อน

“ซูเหยียน” คือนางในตระกูลสูงศักดิ์ที่ถูกจับแต่งให้กับแม่ทัพหลี่เจิ้น  ชายผู้รักหญิงอื่นและไม่เคยให้เกียรตินางแม้สักครึ่งใจ
นางถูกใส่ร้าย ถูกทรยศ และสุดท้าย... ถูกเขาลงดาบด้วยความเข้าใจผิด

นางตาย...ทั้งที่ในครรภ์ยังมีลูกของเขาอยู่
ใจนางสิ้นสลายไปพร้อมร่างกายที่ถูกฝังไร้เกียรติ




ทว่า...สวรรค์กลับเปิดโอกาสให้นาง
"เกิดใหม่อีกครา" ในร่างเดิม ย้อนกลับมาก่อนหายนะจะเกิด
คราวนี้ ซูเหยียนเลือกเดินเส้นทางใหม่
นางจะไม่เป็นสตรีที่เฝ้ารอความรักจากผู้ใดอีก
นางจะเปลี่ยนชะตาตนเอง...และไม่มีวันรักเขาอีก




ในขณะที่นางพยายามหลีกหนีจากโชคชะตาเดิม
กลับมีชายคนหนึ่ง...ก้าวเข้ามาในชีวิตโดยไม่คาดคิด
“ไป๋จิ่นเหิง”  ขุนนางหนุ่มผู้สุขุม เยือกเย็น มีอดีตลึกลับ และสายตาที่มองทะลุหัวใจนาง
เขาไม่เคยรู้เรื่องราวในชาติก่อน
แต่กลับยื่นมือให้นาง...ในวันที่นางไม่ไว้ใจผู้ใดอีกแล้ว

> “ข้ารู้ เจ้าเจ็บปวดจากอดีต...แต่หากเจ้ายอมให้ข้าอยู่เคียงข้าง”
“แม้เจ้าจะไม่รักข้า...แต่ข้าจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายเจ้าอีก”




---

ในชาติก่อน นางถูกรักทำลาย
ในชาตินี้...นางพยายามหนีจากรัก
แต่ชายผู้หนึ่งกลับพร้อมเฝ้ารอ แม้รู้ว่านางอาจไม่เคยมองเขาเลย

> เมื่อรักครั้งเก่าเคยเป็นดั่งคำสาป
รักครั้งใหม่นี้...จะเป็นพร หรือบททดสอบอีกบท?

สารบัญ

เกิดใหม่อีกครา…ข้าจะเป็นคนลิขิตชะตาเอง-การแต่งงานที่ไร้รัก การแต่งงานที่ไร้รัก

เนื้อหา

การแต่งงานที่ไร้รัก การแต่งงานที่ไร้รัก

แคว้นฉีในยามปลายฤดูใบไม้ผลิ ดอกเหมยผลิบานสะพรั่งไปทั่วอารามหลวง กลิ่นหอมบาง ๆ ของดอกไม้ลอยล่องมาตามลมอบอวลทั่วลานหินสีขาว แสงแดดทอดผ่านม่านโปร่งสีแดงสดของเรือนหอ ดุจหยาดแสงจากสวรรค์ลงมาแต่งแต้มโลกมนุษย์ให้สวยงาม


ซูเหยียน ยืนเงียบอยู่หน้ากระจกสัมฤทธิ์ ใบหน้าของนางในกระจกช่างงดงามประหนึ่งนางฟ้าจากสรวงสวรรค์ ผิวขาวราวหิมะ ปากแดงราวกลีบกุหลาบ ตากลมโตวาวระยับราวดาวในยามราตรี


วันนี้...คือวันอภิเษกสมรสของนาง


วันนี้...คือวันที่นางเฝ้ารอมาทั้งชีวิต


มือบางกำผ้าคลุมหน้าเบา ๆ ใจเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ แม้ใบหน้าจะแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางชั้นดี แต่ดวงตาของนางกลับสั่นไหวแผ่วเบา


ในหัวของซูเหยียน มีเพียงภาพในอดีตที่วนเวียนไม่จางหาย


 “อย่าร้องนะ...ข้าจะปกป้องเจ้าเอง”

เสียงเด็กชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเบา ๆ

“ข้า...ชื่อหลี่เจิ้น โตขึ้น...ข้าจะแต่งกับเจ้า!”




วันนั้น...ซูเหยียนที่ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อยถูกกลุ่มเด็กชายแกล้งจนร้องไห้ แต่เด็กชายในชุดนักเรียนทหารกลับก้าวเข้ามา เป็นโล่ให้กับนาง ปัดเป่าความหวาดกลัวทั้งหมดไปในชั่วพริบตาเดียว


เพียงคำสัญญานั้น คำสัญญาเดียว...นางเก็บมันไว้ในใจนับแต่นั้น


“เจ้าบ่าวมาแล้ว! เจ้าบ่าวมาแล้ว!”


เสียงขันหมากโหมโรงหน้าประตูดังขึ้น แต่น่าแปลก...เสียงนั้นเงียบหายไปอย่างรวดเร็ว ราวกับสายลมแผ่วที่ผ่านเข้ามาเพียงชั่วครู่


ทุกสายตาหันไปยังชายผู้หนึ่งในชุดสีดำสนิท ต่างตกตะลึงเมื่อเห็นว่า แม่ทัพหลี่เจิ้น มิได้สวมชุดเจ้าบ่าวเช่นธรรมเนียม


เขาเดินเข้าสู่ลานพิธีอย่างสงบเยือกเย็น เย็นเสียยิ่งกว่าสายน้ำแข็งจากเขาเทียนซาน


“เหตุใดแม่ทัพจึงมิแต่งกายให้เหมาะสมกับงานพิธี!”

เสียงของเสนาบดีซูหลงอวี่ผู้เป็นบิดาของเจ้าสาวเริ่มขุ่นเคือง

“เช่นนี้ย่อมไม่ให้เกียรติบุตรีข้า!”


บิดาของแม่ทัพหลี่เจิ้นเองก้าวเข้ามา หวังจะกล่าวเตือนบุตรชายให้ทำตามธรรมเนียม แต่ชายหนุ่มกลับกล่าวเพียงถ้อยคำหนึ่ง...


 “หากแม่นางซูเหยียนไม่พอใจเพียงเพราะข้ามิได้ใส่ชุดเจ้าบ่าว...ก็มิต้องแต่ง ข้าไม่บังคับ”


คำพูดเรียบเย็นนั้นดุจคมดาบกรีดกลางหัวใจซูเหยียน แต่นางกลับยิ้มบาง ๆ พลางพยักหน้า “ข้าเต็มใจ...

"เพียงเท่านั้น นางก็ยอมก้าวเข้าสู่พิธีอภิเษกสมรส ทั้งที่รู้ดีว่าหัวใจของเขา...ไม่เคยมีตนเลยแม้แต่น้อย


ค่ำวันนั้น...


ห้องหอถูกประดับด้วยโคมแดงชาดงดงาม ฝั่งหนึ่งคือเจ้าสาวผู้มีดวงหน้าหวานแต่เปื้อนความหม่นเศร้า อีกฝั่งหนึ่งคือชายหนุ่มผู้ดื่มสุราจนเมาไม่ได้สติ


“หลี่เจิ้น...ท่าน...” นางเอื้อนเอ่ยเบา ๆ


ไม่มีคำตอบ มีเพียงเสียงวางจอกเหล้า แล้วเงียบงัน


คืนนั้น...สำหรับซูเหยียน ไม่ใช่ค่ำคืนแห่งรัก หากคือ ฝันร้าย ที่เปลี่ยนชีวิตนางไปชั่วนิรันดร์


รุ่งเช้า แสงแดดอ่อน ๆ ลอดผ่านหน้าต่างกระดาษ เจ้าสาวนั่งนิ่งเงียบอยู่ริมเตียง ขณะที่สามีของนางเอ่ยถ้อยคำที่น่าฟังที่สุดในโลก...หากแต่มิใช่ให้แก่ตน


 “...หลัวหรง...เจ้างดงามดุจจันทรา ข้าคิดถึงเจ้ายิ่งนัก...”




น้ำตา ที่พยายามกลั้นไว้ตั้งแต่เมื่อวาน...สุดท้ายก็ไหลรินอาบแก้มซูเหยียน


 “ที่แท้...ท่านมิได้รักข้าเลย หากเช่นนั้น เหตุใดจึงยอมแต่งกับข้า”




แม่ทัพหลี่เจิ้นปรายตามามองนางอย่างเย็นชา


“เจ้ารักข้านิ อย่างน้อยข้าก็ทำตามสัญญาแล้ว เจ้าเป็นชายาของข้า มันก็ดีแล้วมิใช่หรือ...สมใจเจ้าแล้วมิใช่หรือ...”


 เสียงในใจของซูเหยียนเงียบงัน

คำสัญญาในวัยเยาว์...กลายเป็นเพียงเถ้าถ่าน

และงานแต่งงานที่นางเฝ้ารอ...กลายเป็นประตูสู่ห้องขังของหัวใจ