เรื่องราวสั้นๆ ที่ดิฉันได้กลับบ้านเรียนออนไลน์ในช่วงที่โรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ระบาด

หนีจากดาดฟ้า มาปะ สะไบเขียว - เรื่องสั้น หนีจากดาดฟ้า มาปะ สะไบเขียว โดย ปลาดาวเรืองแสง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เรื่องสั้น,วิญญาณ,เรื่องสั้น,ขนหัวลุก,ผี,สยองขวัญ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

หนีจากดาดฟ้า มาปะ สะไบเขียว

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

เรื่องสั้น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

วิญญาณ,เรื่องสั้น,ขนหัวลุก,ผี,สยองขวัญ

รายละเอียด

หนีจากดาดฟ้า มาปะ สะไบเขียว โดย ปลาดาวเรืองแสง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เรื่องราวสั้นๆ ที่ดิฉันได้กลับบ้านเรียนออนไลน์ในช่วงที่โรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ระบาด

ผู้แต่ง

ปลาดาวเรืองแสง

เรื่องย่อ

สารบัญ

หนีจากดาดฟ้า มาปะ สะไบเขียว-เรื่องสั้น หนีจากดาดฟ้า มาปะ สะไบเขียว

เนื้อหา

เรื่องสั้น หนีจากดาดฟ้า มาปะ สะไบเขียว

ช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่กำลังระบาดอย่างหนัก โรงเรียนจึงได้ประกาศให้นักเรียนทุกคนเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้านหลายวันโดยที่ไม่มีกำหนดว่าจะได้มาโรงเรียนเมื่อไหร่ แม่เราก็ได้พาย้ายไปเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้านยายแทน

(เราคิดว่าจะได้สาดน้ำเล่นในวันสงกราณ์นะ แต่ข่าวประกาศว่าไม่ให้สาดน้ำเราอยากเลยอ่าา)

พอเรานั่งรถมาถึงหน้าบ้านยายแล้วแม่เราก็โทรบอกให้น้ามาช่วยยกของ เรายกคนเดียวคงจะไม่ไหวแน่มีทั้งกระเป๋าเสื้อผ้า หนังสือเรียน สมุดจดและอุปกรณ์การเขียนต่างๆ ก่อนที่เรากับน้าจะเข้าบ้านก็ได้โบกมือลาแม่

เราสะพายกระเป๋าเสื้อผ้าตัวเองและเดินกับน้า น้าก็ได้บอกเราว่า

"วันพรุ่งนึ้จะมีการจุดพลุไปถ่ายรูปกันมั้ย"
เราก็ตอบว่า"ไป"

(ก็ดีที่มีพลุให้ดูในวันสงกรานต์ละนะ)



วันต่อมา (ตอนกลางคืน)

ระหว่างที่เรากำลังดูทีวีกันอยู่ก็ได้มีพลุดังขึ้นเรารีบหยิบมือถือและได้หันไปหาน้า ปรากฏว่าน้าเรานอนหลับไปแล้วเราก็ไม่อยากกวนก็เลยปล่อยให้นอนไป

เราเดินขึ้นบันไดไปที่ประตูไม้ชั้นสองที่มันค่อนข้างเปิดยากลูกปิดประตูจะหมุนติดๆขัดๆกัน เราต้องออกแรงดันหน่อย

พอประตูเปิดออกเราก็ค่อยขึ้นบันไดไปชั้นสามซึ่งเป็นดาดฟ้าขั้นบันไดมันสูงกว่าบันไดไม้ที่เราขึ้นมา เดินมาถึงขั้นสุดท้ายเรารีบหามุมถ่ายรูปก็ที่พลุจะหมด

ระหว่างที่เราถ่ายรูปอยู่มีความรู้สึกว่าในกล้องมือถือของเรามีใครก็ไม่มีเป็นผู้หญิงผิวขาวซีดสวมสื้อสีขาวกางเกงสีดำยืนคอหักเห็นกระดูกที่ทะลุออกมาพร้อมกับเลือดไหลทำให้เสื้อมีสองสีเธอได้ยืนหันหลังให้เรา

เราก็มองไปที่รั้วดาดฟ้าก็ไม่มีใครยืนอยู่มีแต่ความว่างเปล่าพอเราลองมองไปในกล้องมือถือยังเห็นผู้หญิงอยู่คนนั้นค่อยๆหมุนตัวมาอย่างช้า เรารีบวิ่งหนีลงบันไดไปหาน้าเราที่ดูทีวีกันอยู่

เราพุ่งตัวไปหาน้าที่นอนอยู่จนเขาสะดุ่งตื่น น้ากำลังจะด่าเราแล้วแต่เห็นหน้าเราตัวสั่นและหน้าซีดมากเลยถามว่าเป็นอะไร เราบอกไปว่าเจอผีที่ดาดฟ้า น้าก็ได้นอนที่ห้องเราเป็นเพื่อน ก่อนที่เราจะกับน้าจะเข้านอนเราก็ขอให้น้าพาไปทำบุญตักบาตรตอนเช้ากัน

เรากำลังจะเคลิ้มหลับก็รู้สึกหนักที่อกมากเหมือนมีคนมาเหยียบเราหลับตาอย่างเดียวไม่กล้าดู จะตะโกนเรียกน้าแต่เสียงมันตะโกนไม่ออกเลยจากนั้นเราก็ถูกกระทืบที่หน้าอกอย่างแรงหลายๆรอบทำให้เราสะดุ่งเผลอลืมตา

เห็นผู้หญิงผิวซีดหน้าตาเหมือนผีที่เจอบนดาดฟ้าแต่คอไม่ได้หักเธอใส่ชุดไทยสะไบสีเขียวยืนอยู่ เท้าข้างนึงกระทืบที่อก พอเธอรู้ว่าเราลืมตาแล้วเธอพูดอะไรซักอย่างแต่ไม่มีเสียงออกมาจากปากเลย

สักคำ เสียงไก่ขันดังผู้หญิงคนนั้นก็หายตัวไป เราลืมตาขึ้นอย่างงัวเงียแต่ก็ยังรู้สึกทั้งเจ็บทั้งกลัวเรากับน้าได้ทำบุญตักบาตรไปให้ผีสองตัวที่เราเจอเมื่อคืน