แฟนเก่าที่พยายามหลีกหนี วันนี้โคจรกลับมาเจอกันอีกครั้ง ถามว่าดีใจไหม... ฮือออ หนีไป!!! หนีป๊ายยยยยยยยย
รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ดราม่า,ไทย,มหาสมุทร,มหาลัย,ฟีลกู๊ด,ดราม่า,รัก,โรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
[ ทายาท Class S ]
คนส่วนใหญ่เขาก็มีรถใช้กันทั้งนั้นตามประสาลูกหลานคนมีอันจะกิน ส่วนเด็กทุนอย่างฉันไม่มีอะไรเลย ชนชั้นกลางธรรมดา มีพ่อเป็นคุณครูสอนชั้นมัธยมปลายและมีแม่เป็นเจ้าของร้านเบเกอรี่เล็ก ๆ ในชุมชน
จริง ๆ ที่บ้านมีรถแต่พวกพี่ชายเอาไปใช้กันหมด ไม่เหลือมาถึงน้องสักคัน ทุกวันเวลาไปไหนก็เดินเท้าบ้าง รถไฟฟ้าบ้าง แท็กซี่บ้าง หลัก ๆ รถเมล์ค่ะ เพราะลงหน้าชุมชนพอดิบพอดี
"แง่ว! เหมียว~"
หืม?
ด้วยความที่เส้นทางไม่มีคนเดินผ่านไปมา เย็นย่ำท้องฟ้าสาดแสงสีแสด พระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า หากหูไม่ฝาดเหมือนได้ยินเสียงแมวร้องจากที่ไหนสักแห่ง
ตรงกลางเป็นถนน สองข้างทางก็คือฟุตบาทเรียงรายด้วยต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ร่มเงา ฉันพยายามกวาดตามองหา
"เหมียว เหมียว"
นั่น! ชัดเลย พอจะเดินผ่านก็ได้ยินเสียงร้องอีกแล้ว มองหาตามโคนต้นไม้ก็ไม่เจอ ตามพงหญ้าก็ไม่เห็น
"ผีหลอกหรือเปล่าวะ ช่วงเวลาโพล้เพล้แบบนี้..."
บรื๋อ! ขนลุก รีบเดินดีกว่า บัสหมดตอนหกโมงครึ่ง นี่ก็ใกล้ได้เวลาแล้วด้วย
"เหมียว เหมียว ...เหมียว~"
"โอ๊ย อะไรเนี่ย! สรุปผีหรืออะไร"
ตัดสินใจมองหาอีกรอบ ผีหรือเปล่าไม่รู้ รู้แค่มันกวนใจต้องหาให้เจอ ที่พื้นแถวพงหญ้าก็ไม่เจอ เหลือแต่บนต้นไม้แล้วล่ะ เงี่ยหูฟังเสียงร้องอีกหน เอาตามที่ได้ยินฟังดูอยู่บนที่สูงจริงด้วยแฮะ พอเงยหน้าดูเท่านั้นแหละ
มีแมวส้มเกาะอยู่บนนั้น! มันกำลังตั้งท้องอยู่ด้วย!
"แกปีนขึ้นไปอยู่บนนั้นได้ยังไงเนี่ย"
ตาย ๆ ๆ จากจะได้กลับบ้านเร็ว ๆ ต้องมาปีนต้นไม้ช่วยแมวท้องแก่ แพ้ภัยความเป็นคนดีมีน้ำใจของตัวเอง ฮ่า ๆ ว่าไปนั่น
แล้ววันนี้ดันใส่ชุดนักศึกษา กระโปรงทรงเอยาวครึ่งหน้าแข้งไม่เป็นใจ เวลาถกขึ้นต้องระวังเป็นพิเศษ
"เหมียววว แงว~"
"เออน่า ใจเย็น กำลังขึ้นไปช่วยแล้ว"
ดีที่ต้นไม้ไม่สูงมาก กิ่งที่แมวส้มมันเกาะอยู่ก็เป็นกิ่งแรก พอปีนขึ้นไปได้ประมาณหนึ่งจึงพยายามยื่นมือขึ้นไปหมายจะจับมันลงมา แต่เจ้าเหมียวดันกลัวเลยขยับหนี
"โธ่เอ๊ย! มานี่สิส้ม ไม่ต้องกลัว สิบมาช่วยเนี่ยเห็นไหม มาเร็วเข้า"
ต้องขอบคุณที่ปีนต้นไม้เป็น ด้วยความมีพี่ชายสองคน ตอนเด็กฉันเลยเล่นไม่ค่อยเหมือนเด็กผู้หญิงเท่าไร ปีนต้นไม้แค่นี้สบายมาก
"มานี่สิเดี๋ยวสิบพาลงไป มา ๆ"
ร้องเรียกทั้งขาทั้งแขนอีกข้างเกร็งล็อกไว้กับลำต้น เป็นสภาพที่ดูตลกพอสมควร ขออย่ามีใครผ่านมาเห็นเลย อายคน...
แมวส้มนั่งมองเฉย ออกแนวกวนอารมณ์นิด ๆ มีหูแต่ทวดลมทำเป็นไม่ได้ยิน สรุปแกอยากลงหรือไม่อยากลง ร้องเรียกซ้ำ ๆ ก่อนที่สายตาจะเหลือบเห็นบางสิ่งบ้างอย่างที่อยู่เหนือหัวขึ้นไปอีก
"ว้ากกกกก งู!!!"
ตัวไม่ใช่เล็ก ๆ เหลือมหรือหลามไม่รู้ รู้แค่ว่ามันกำลังเลื้อยลงมาหมายจะกินแมว นาทีระทึกเริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้ บอกเลยนะฉันกลัวงูมากแค่เห็นก็สั่นไปหมดทั้งตัว มีสองทางเลือกคือหนีเอาตัวรอดหรือจะปีนขึ้นไปเอาตัวแมวลงมาด้วยกัน
"ฮือออออ ฉันต้องได้โล่เกียรติคุณแน่งานนี้" ครวญครางพลางกลั้นใจปีนขึ้นไปคว้าตัวแมวมากอดไว้ในอ้อมแขน
ลนลานแทบกระโดดลงอย่างคนสติแตก ก่อนถึงจุดนั้นดันเสียจังหวะพลัดหงายหลัง มือไขว้คว้ากลางอากาศเปลี่ยนมาโอบกอดเจ้าแมวไว้สองข้าง อย่างไรก็ตกลงไปกระแทกพื้นแน่เลยหลับตาปี๋รอรับความเจ็บ
พรึ่บ!
"อึก..."
เอ๊ะ! หืม? อันนี้ถึงพื้นแล้วใช่ไหม แปลก ๆ ไม่รู้สึกเจ็บสักนิด หรือว่าฉันตกลงมาแล้วตายคาที่ทันที บ้าน่ะสิ...สูงแค่นี้เองอย่างมากก็เอวเคล็ด ขาอาจหักด้วยถ้าลงผิดท่า แต่ไม่รู้สึกเจ็บจริง ๆ นะ
ยังไงกันแน่...
"หาที่ตายใหม่หรือไง"
เฮือก!
"เหวอออ ม หา... สมุทร"
พอได้ยินเสียงพูดฉันลืมตาขึ้นมองทันที สรุปมีคนมารับตัวฉันทัน ฉันตกลงมาอยู่ในอ้อมแขนของเขา
แล้วเขาที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
ไปไงมาไงถึงได้มาโผล่อยู่ตรงนี้!!
มหาสมุทร
"ใช่ ผมเอง"
มหาสมุทรคนอันตราย แฟนเก่าที่เลิกกันเมื่อตอนปีหนึ่ง ละ หล่อ... หล่อมาก ยังคงหล่อเหมือนเดิม เอ้ย! ไม่ใช่สิ บอกกี่ทีแล้วว่าอย่าหลงใบหน้าเทพสร้าง
ณ ขณะนี้คนตัวสูงใหญ่ร่างกายแข็งแรงกำลังอุ้มฉัน
"เอ่อ ชะ ช่วยปล่อย..."
พรึ่บ!
"โอ๊ย!"
ไม่เจ็บเพราะตกต้นไม้ก็เจ็บจากการถูกอีกฝ่ายทิ้งลงพื้นอย่างไม่ใยดี บอกให้ปล่อยก็ปล่อยจริง ก้นกระแทกพื้นอย่างจัง เจ็บจ้าแม่จ๋า
"สำออยเหมือนเดิม"
แกก็ปากร้ายเหมือนเดิม!
เลิกสนใจพลางก้มมองเจ้าแมวในอ้อมแขน ปลอดภัยดีสินะ ในท้องจะมีลูก ๆ อยู่กี่ตัวกัน อยากให้คลอดออกมาอย่างปลอดภัยทุกตัวเลย ด้วยความเป็นแมวจรอาหารที่กินก็คงไม่ได้ครบถ้วนอะไร
"แล้วจะนั่งอยู่อย่างนั้นหรือไง ลุกขึ้นมา"
อีกฝ่ายเห็นเรานั่งนาน พอไม่ได้ดั่งใจก็กระชากแขนแล้วดึงขึ้นทันใด
"โอ๊ย! มันเจ็บนะสมุทร"
"ลีลาน่ารำคาญ"
แล้วจะมาเสียเวลาทำไมล่ะ! อยากแว้ดใส่มากแต่ไม่กล้า กลัวถูกตี หนึ่งปีเขาที่ไม่ได้เจอกันเขายังจำฉันได้เหรอเนี่ย ไฟแค้นช่างน่ากลัวจริง ๆ ทั้งที่หลบเลี่ยงมาโดยตลอดแท้ ๆ
"ขอบคุณที่ช่วยนะ บนนั้นมีงูตัวใหญ่มาก"
ท่าทางเรียบนิ่งแฝงไปด้วยความไม่สบอารมณ์ โกรธง่ายหายยาก มองแมวส้มในอ้อมแขนสลับกับหน้าฉัน
"ไร้สาระ"
กำลังด่าว่าสิ่งที่ฉันทำได้ไม่คุ้มเสีย ดวงตาคมกริบจิกมองไม่พอใจ คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด นิยามให้ตัวเองแบบนี้ละกัน
"ขอบคุณอีกครั้ง งั้นสิบขอตัวไปก่อนนะ"
รีบหนีดีกว่า ยิ่งอยู่ยิ่งเหมือนจะโกรธขึ้นเรื่อย ๆ ฟ้าเริ่มหมดแสงและหมดรอบรถรับส่งเรียบร้อย จากนี้ต้องเดินออกไปหน้ามหาวิทยาลัยด้วยเท้าตัวเอง วันนี้ฤกษ์ไม่งามยามไม่ดีเอาไว้ลงการ์ตูนเรื่องใหม่วันอื่น เดี๋ยวพาเจ้าแมวแวะคลีนิกตรงคณะสัตวแพทย์ หลังจากนี้ก็ต้องหาบ้าน ๆ ดีให้อยู่
ปี๊บ!
เดิน ๆ อยู่ตกใจเสียงแตรเกือบสะดุดเท้าตัวเองล้ม หันกลับไปมองปรากฎว่ามหาสมุทรขับรถตามหลังมา จอดเทียบข้างพลางเลื่อนกระจกลง
"ขึ้นรถ"
อะไรของเขาอีก
"เลิกทำหน้าโง่แล้วขึ้นมา"
ใบหน้าหล่อเหลาหงุดหงิดเต็มทน คิ้วเข้มได้รูปขมวดมุ่นแทบชนกัน จำฉันได้จริง ๆ สินะ คือเขาน่ะควงผู้หญิงเยอะมาก ไม่เคยซ้ำหน้า นานสุดสามหรือสี่เดือน สั้นสุดไม่น่าเกินสามวันละมั้ง
บังเอิญผ่านมาทางนี้พอดีแหละ คิดในแง่ดี
"เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวเอื่อยเฉื่อยสักที!"
เพราะมัวแต่ยืนเหม่อ คนขี้โมโหเลยลงจากรถมาดึงฉันอ้อมไปอีกฝั่ง เปิดประตูแล้วผลักเข้ารถอย่างแรง
"โอ๊ยยย เป็นบ้าหรือไง" หัวกระแทกขอบประตู ตัวกระแทกเบาะอีกที หน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บถึงอย่างนั้นก็ระวังเจ้าแมวสุดความสามารถ
เขากลับมาขึ้นรถพลางพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด ไม่รู้ไปกินรังต่อรังแตนที่ไหนมาถึงเอาอารมณ์ทั้งหมดมาลงฉันซะงั้น โคตรซวย... ขยับนั่งเบาะดี ๆ ลูบหัวตัวเองเช็คดูว่าแตกไหม มันเจ็บแล้วก็ปวดตุบ ๆ เพราะเขาเป็นแบบนี้บ่อยมากฉันเลยทนไม่ไหวขอเลิกเสียเอง
>>>>>โปรดติดตามบทต่อไป