-เสือ (สมิง) - เขาว่ารูปโฉมงาม บ้างก็ว่ามันจะเปลี่ยนรูปกายจากพยัคฆาลายพลาดกลอนที่แสนดุร้าย เป็นคนมีรูปโฉมงามเพราะเอาไว้ล่อลวงเหยื่อให้หลงใหลในรูปกาย กลิ่น แม้กระทั่งรสสัมผัส หากผู้ใดได้สัมผัสมันจนหลงใหล กระนั้นมันจะขย้ำคอและร่างกายให้แหลกเป็นชิ้น กลืนลงในกระเพาะทั้งเลือดและเนื้อหนัง -เหยื่อ- เขาว่าหากผู้ใดตกเป็นเหยื่อของเสือสมิงแล้วนั้น จะทำอย่างไรก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากกรงเล็บและคมเขี้ยวที่น่ากลัวของมันได้ แม้กระทั่งวิญญาณก็ไม่อาจไปผุดไปเกิดที่ภพหน้าได้ เพราะมักจะกักขังหรือทำให้กลายเป็นทาสของมัน
ลึกลับ,แฟนตาซี,ชาย-ชาย,ไทย,ยุคปัจจุบัน,ชาย-ชาย,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
แดน (เสือ) สนธยา-เสือ (สมิง) - เขาว่ารูปโฉมงาม บ้างก็ว่ามันจะเปลี่ยนรูปกายจากพยัคฆาลายพลาดกลอนที่แสนดุร้าย เป็นคนมีรูปโฉมงามเพราะเอาไว้ล่อลวงเหยื่อให้หลงใหลในรูปกาย กลิ่น แม้กระทั่งรสสัมผัส หากผู้ใดได้สัมผัสมันจนหลงใหล กระนั้นมันจะขย้ำคอและร่างกายให้แหลกเป็นชิ้น กลืนลงในกระเพาะทั้งเลือดและเนื้อหนัง -เหยื่อ- เขาว่าหากผู้ใดตกเป็นเหยื่อของเสือสมิงแล้วนั้น จะทำอย่างไรก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากกรงเล็บและคมเขี้ยวที่น่ากลัวของมันได้ แม้กระทั่งวิญญาณก็ไม่อาจไปผุดไปเกิดที่ภพหน้าได้ เพราะมักจะกักขังหรือทำให้กลายเป็นทาสของมัน
ผมชื่อจิณห์ ปีนี้ก็เป็นอีกปีที่ผมใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่นั้นประสบอุบัติเหตุกะทันหัน และไม่มีญาติที่ไหน ทำงานส่งตัวเองเรียนมาจนถึง ม.ปลาย แต่ก็ได้เพียงเท่านั้น มีเพื่อนสนิทสมัยเด็กๆ แต่ไม่ได้เจอกันมาหลายสิบปีแล้ว ผมยังคิดถึงเพื่อนสนิทเสมอ ส่วนตอนนี้ผมทำงานเท่าไรก็ไม่พอใช้จ่ายใช้กิน และหาที่รับเข้าทำงานยากมาก เพราะใบหน้าของผมดูโทรมและมีรอยแผลเป็นทางยาวตรงแก้มซ้ายลงไปถึงคอ ผมจำได้ว่าตอนเจ็ดขวบมีเหตุการณ์ที่ทำให้เกือบไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ รอยแผลที่คอบ่งบอกชนิดของสัตว์ได้ดีทีเดียว ซึ่งมันคือกรงเล็บของเสือ ทำให้ทุกวันนี้ผมกลัวสัตว์ตัวใหญ่ทุกชนิดและสัตว์จำพวกสี่ขาไม่ว่าจะตัวเล็กหรือตัวใหญ่ ขนาดแมวผมก็กลัวเพราะมันมีเล็บที่คมและแหลม ถึงแม้ว่าจะขนาดเล็กก็ตาม
จิณห์สำรวจหางานตามท้องที่ต่างๆ รวมทั้งในเว็บไซต์ ก็พบว่ามีงานหนึ่งน่าสนใจ ก็คืองานพ่อบ้านดูแลความสะอาดให้กับบ้าน ไม่สิ เป็นคฤหาสน์หลังหนึ่ง ซึ่งเขาก็ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน และค่อนข้างอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งคุณสมบัติคือทำงานตามหน้าที่ ไม่วุ่นวายเรื่องของเจ้านาย ค่าตอบแทนสูงและสวัสดิการดี แต่ต้องรับผิดชอบงานดูแลทำความสะอาด งานครัวและอื่นๆ ตามที่หัวหน้าแม่บ้านมอบหมาย
น่าสนใจมาก ลองสมัครดูก็ไม่น่าจะเสียหายนะ แต่ถ้าเขาเห็นใบหน้าเรา จะรับเราเข้าทำงานหรือเปล่านะ
เขาคิดในใจว่าทางผู้ว่าจ้างจะรับตนเองหรือไม่เนื่องจากรอยแผลบนใบหน้าที่แสนน่ากลัวนั้น แต่อย่างไรเขาก็เลือกส่งใบสมัครในเย็นวันนั้น และมีอีเมลตอบกลับให้เตรียมตัวเพื่อเดินทางไปสัมภาษณ์ในอีกสามวันถัดไป
จิณห์เดินทางมาถึงคฤหาสน์ที่เขาสมัครงานแล้ว พบว่าไม่มีใครเลย บรรยากาศระหว่างทางที่มาก็ดูวังเวงมากเหลือเกิน ครั้นพอมาถึงด้านหน้าคฤหาสน์ ก็มีคุณลุงหน้าตาใจดีพาเข้ามาส่งที่ห้องโถงเพื่อรอการเรียกสัมภาษณ์งาน
หืม..มีเราคนเดียวที่มาสมัครงานเหรอ?
“สวัสดีค่ะ คุณจิณห์วรา ดิฉันรัตนา ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าแม่บ้านที่คฤหาสน์หลังนี้”
ผะ..โผล่มาจากทางไหนเนี่ย ตกใจหมดเลย
“เอ่อ..สวัสดีครับ”
“เชิญทางนี้ค่ะ นายท่านกำลังรอคุณอยู่”
เขาเดินตามหัวหน้าแม่บ้านที่ชื่อรัตนาไปตามทางเดิน รู้สึกว่าบรรยากาศในบ้านมืดแปลกๆ แต่ไม่ได้ดูน่ากลัวขนาดนั้น โคมไฟที่ติดบนเพดานและผนังด้านข้างล้วนมีความสวยงามและคลาสสิกเป็นอย่างมากรวมทั้งตัวด้านนอกของคฤหาสน์
ก๊อก ก๊อก
“นายท่าน คุณจิณห์วรามาถึงแล้วค่ะ”
“อืม เธอพาไปดูงานที่ต้องรับผิดชอบทั้งหมด และกำชับกฎของที่นี่ให้ดี ส่วนเรื่องเงินเดือนสามารถจัดการตามความเหมาะสมได้เลย” เสียงทุ้มหนักแลดูมีอายุดังลอดผ่านประตูออกมา น่าแปลกที่คนที่นี่ไม่มีท่าทีตกใจหรือมีท่าทางรังเกียจในใบหน้าของจิณห์ เรื่องน่าแปลกอีกอย่างคือจิณห์แทบจะยังไม่ได้พูดคุยเกี่ยวกับอะไรที่เป็นการโดนสัมภาษณ์งานเลย แต่กลับได้เข้าทำงานที่นี่อย่างง่ายดาย คิดไปคิดมาก็ปวดหัวเปล่าๆ สู้เก็บแรงไว้ทำงานรับเงินเดือนดีๆ จะดีกว่า จิณห์อมยิ้มเล็กน้อยเพราะเขาได้งานทำแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอะไรเขาก็ทำได้ขอแค่หัวหน้าแม่บ้านสั่ง เขายินดีทำทุกอย่างตามนั้นจริงๆ โดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองเขาอยู่ตั้งแต่ที่เขาก้าวเท้าเข้ามาในคฤหาสน์แห่งนี้...
หัวหน้าแม่บ้านราตรีเล่าว่าในคฤหาสน์ตระกูลพยัคฆินทร์มีนายท่านทั้งหมด 6 ท่าน โดยสองท่านแรกคือ ท่านศรันย์และท่านอัญมณี และท่านที่ส่งเสียงผ่านประตูเมื่อสักครู่คือท่านศรันย์ ทั้งสองเป็นสามีภรรยาซึ่งมีบุตรชายทั้งหมดสี่ท่าน พี่ชายคนโตนั้นชื่อท่านสนธยา รับผิดชอบงานที่บริษัทซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ ทำงานหนักแค่ไหนแต่ก็จะกลับมาพักที่คฤหาสน์ทุกคืน และรุ่งเช้าจะออกไปทำงานตามปกติ ส่วนอีกสามท่านคือ ท่านมนตรา ท่านมายัญ และท่านจันทรกานต์ โดยทั้งสามท่านนั้นนานครั้งจะกลับมาที่คฤหาสน์เพราะได้รับหน้าที่ไปบริหารสำนักงานสาขา
หน้าที่ที่จิณห์ต้องรับผิดชอบก็คือต้องทำความสะอาดห้องนายท่านทั้งหมดในคฤหาสน์ ด้านล่างจะมีชั้นใต้ดิน ห้ามลงไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนด้านหลังจะติดกับเขตชายป่า ห้ามเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาตเช่นกัน เนื่องจากมีคนเคยฝ่าฝืนแล้วถูกสัตว์ทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต ในเวลากลางคืนห้ามออกมาจากห้องพักโดยเด็ดขาด ยกเว้นจะได้รับการอนุญาตจากหัวหน้าแม่บ้านราตรีหรือนายท่าน เพราะท่านสนธยาไม่ชอบให้ใครมาเดินในตัวคฤหาสน์เวลากลางคืน การที่เขากลับจากที่ทำงานก็ค่อนข้างหงุดหงิดพอสมควร และเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เพราะเคยมีประวัติว่าคนรับใช้ที่เคยเข้ามาทำงาน ชอบไปเสนอตัวกับท่านสนธยาอยู่บ่อยครั้ง เพื่อตัดเรื่องรำคาญและความไม่เหมาะสม ท่านสนธยาจึงสั่งว่าอย่าให้ใครมาเดินเพ่นพ่านในยามวิกาล
เขาเริ่มทำความสะอาดห้องของท่านสนธยาก่อนเป็นลำดับแรก เนื่องจากไม่ให้พบปัญหาการพบเจอกันในยามกลางคืนและกลางวัน แม่บ้านราตรีบอกเขาว่าวันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อนของท่านสนธยา แต่ท่านอยู่ในห้องทำงานอีกชั้นของตัวห้องนอน จิณห์ก็หวั่นใจอยู่เหมือนกันว่าถ้าแบบนี้จะรบกวนการทำงานของท่านสนธยาหรือไม่ แต่ไม่เป็นการรบกวน เพราะหากเขาแค่ทำความสะอาดห้องนอนและห้องอาบน้ำและโซนโซฟานั่งเล่น ไม่ไปรุกล้ำในพื้นที่ห้องทำงานด้านใน ท่านสนธยาก็จะไม่ว่ากล่าวอะไร
เอานะจิณห์วรา แกทำได้...ก็แค่เข้าไปทำความสะอาดห้องนอน ห้องน้ำ โซนที่นั่งเล่น เท่านั้นก็ออกมาทำความสะอาดส่วนอื่นได้ตามปกติ
ก้าวแรกที่เขาเดินเข้าไปในห้องโดยขออนุญาตผ่านประตูที่ปิดกั้นไว้แล้ว ไม่มีเสียงตอบรับกลับ เพียงแต่มีเสียงปลดล็อกลูกบิดประตูเป็นการต้อนรับ พอเข้ามาในตัวห้องแล้วรู้สึกเหมือนอึดอัดแปลกๆ กลิ่นเย็นชื้นของห้องทำให้เขาจับจมูกตัวเองเบาๆ มันไม่ใช่กลิ่นเหม็น แต่เป็นกลิ่นที่รู้สึกว่าผ่อนคลายความอึดอัดใจในตอนแรก ราวกับกลิ่นมันกำลังเปลี่ยนจากเย็นชื้นแบบยะเยือก กลายเป็นเย็นแบบอากาศเย็นนอนหลับสบาย
ทำไมน่าแปลกจัง...ฮึบ เอานะเมื่อกี้ก็ท่องมาแล้ว สู้สิจิณห์
ภายในห้องมีรูปบานใหญ่ติดตรงหัวนอน เขาคิดว่าน่าจะเป็นรูปของท่านสนธยา ใบหน้าหล่อขรึม ดวงตาคมดุ นัยน์ตาเป็นสีเหลืองอำพัน ผมดำสนิท ผิวสีน้ำผึ้ง ร่างกายดูกำยำเป็นชายชาตรีต่างจากเขาที่ตัวผอมสูง เขาจ้องมองเพียงครู่เดียวก็ละสายตาเพื่อทำความสะอาดตามหน้าที่ เริ่มจากทำความสะอาดพื้นห้อง จากนั้นเช็ดกระจกและสิ่งของตามโต๊ะต่างๆ เขาเห็นปากกาแท่งหนึ่งเป็นสีดำม่วงมีฝุ่นเกาะอยู่จึงหยิบขึ้นมา แต่ทว่าเขามองดูอีกครั้งมันกลายเป็นภาพสัตว์ดุร้าย ไม่ใช่ปากกาเหมือนที่หยิบในตอนแรก
เฮือก! งะ..งู!
เพล้ง! ตุ๊บ!
“อย่าจับอะไรที่ไม่ควร” เสียงโผล่มาจากด้านหลังของจิณห์ เขาหลับตาคิดว่าตนเองโดนงูชกแน่ แต่พอลืมตามาอีกครั้งก็พบว่างูตัวนั้นตายแล้ว เขาเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับเจ้าของห้อง และรีบถอยห่างออกมาพร้อมก้มหน้ายืนกุมมือ เนื่องจากเขาจำได้อย่างแม่นยำว่าแม่บ้านราตรีย้ำกับเขานักหนาว่าในระหว่างทำความสะอาดห้องของท่านสนธยา ห้ามโผล่หน้าหรือร่างกายให้ท่านเห็นเด็ดขาด บางทีท่านอาจไม่ชอบใจและโมโหจนโดนดุเอาได้
“คะ..ครับ”
“…”
“เอ่อ..ผมขอตัวทำงานต่อก่อนนะครับ วะ..ไว้ผมจะเข้ามาทำความสะอาดให้ใหม่นะครับ”
“ทำต่อสิ”
“เอ่อ..ในห้องตอนนี้เลยเหรอครับ”
“ทำไม?”
“เปล่าครับ ผมจะรีบทำครับ”
จบประโยคนั้น เขารีบทำความสะอาดในห้องอย่างรวดเร็ว โดยมีสายตาจับจ้องตลอดเวลาที่เขาทำทุกอย่างในห้อง ทำให้เขายิ่งเกร็งและเร่งรีบมากกว่าปกติ ไม่กล้าแม้จะแอบหรือเหลือบมองเจ้าของห้องแต่อย่างใด รู้สึกแปลกมากจะว่ากลัวก็ไม่เชิง แต่ตอนที่ท่านสนธยาเข้ามายืนใกล้ตัวเขาเมื่อครู่นี้ รู้สึกประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูก เหมือนเดจาวู สุดท้ายเจ้าตัวก็สะบัดหัวเล็กน้อยเพื่อไล่ความคิดอันฟุ้งซ่านออกไป และตั้งใจทำงาน
การทำงานวันแรกของจิณห์วราในคฤหาสน์ตระกูลพยัคฆินทร์แห่งนี้ ทำให้เขายอมรับว่ามีความสุขมาก ถึงแม้จะรู้สึกกดดันและเกร็งมาก แต่วันนี้ก็สามารถทำงานให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีโดยไม่ถูกนายท่านทั้งหลายดูถูก หรือแม้กระทั่งคุณแม่บ้านด้วยกันก็ไม่มีใครว่าร้ายในรูปร่างและใบหน้าอันน่าเกลียดน่ากลัวจากรอยแผลเป็นของเขา
คุณพ่อคุณแม่ครับ ในที่สุดจิณห์ก็ได้พบกับงานที่มีความสุขและผู้คนรอบข้างก็มีแต่คนที่ดีกับจิณห์ จิณห์จะมีชีวิตอยู่ต่อให้มีความสุขที่สุดเลย และใช้มันให้คุ้มค่าแทนคุณพ่อกับคุณแม่เองนะครับ เป็นกำลังใจให้จิณห์ด้วยนะ รักและคิดถึงเสมอครับ
จิณห์วรา ธาดาสิริกุล
#PART 1
ส่งท้าย
(คฤหาสน์ตระกูลพยัคฆินทร์)
"รู้ใช่ไหม ว่าความผิดคุณคืออะไร?" เสียงทุ้มต่ำว่ากล่าวอย่างหงุดหงิด
"ดิฉันขออภัยเป็นอย่างสูงค่ะนายท่าน ต่อไปจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้อีกค่ะ"
"..."
"ดิฉันตรวจสอบแล้วค่ะ มันแฝงตัวและปะปนมากับสิ่งของของคุณจิณห์วราค่ะนายท่าน"
"มันต้อนรับการมากับคนของกูแบบนี้ถึงในที่ของกู และถึงในห้องของกู มันจะไม่ได้ตายดี"
"..."
"รู้ใช่ไหมว่าควรส่งอะไรกลับคืนมัน"
"รับทราบค่ะนายท่าน"
TBC.