“คืนหนึ่ง...กับคำปลอบโยนที่เกินเลย” หลังจากความรักพังทลาย โชตะ...ชายหนุ่มผู้เก็บรอยยิ้มไว้ใต้แววตาเศร้าหมอง ต้องเผชิญคืนเหงาเพียงลำพัง ความสัมพันธ์ที่เคยมั่นคงกลับกลายเป็นเศษเสี้ยวของความผิดหวัง ท่ามกลางความเงียบเหงาและหัวใจที่เปราะบาง มาตะ—เพื่อนสนิทผู้เฝ้ามองอยู่เงียบๆ มาตลอด—ก้าวเข้ามาด้วยคำพูดปลอบโยน และอ้อมแขนที่อบอุ่นยิ่งกว่าคืนไหน ค่ำคืนนั้น…ไม่ใช่เพียงการพักพิงใจ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่ทั้งโชตะและมาตะไม่เคยคาดคิด บางสิ่งที่ทั้งร้อนแรง…และยากจะหักห้าม

ของผมแด่ผู้เดียว "ยันเดเระ18+" ตอนเดียว - 1 ใจเริ่มหวั่น โดย sen sen @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,เรื่องสั้น,วัยว้าวุ่น,นิยายวาย,yaoi ,yaoi,LGBTQ ,รักดราม่า,รักดุเดือด,รัก,ชายชาย,วาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ของผมแด่ผู้เดียว "ยันเดเระ18+" ตอนเดียว

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,เรื่องสั้น,วัยว้าวุ่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นิยายวาย,yaoi ,yaoi,LGBTQ ,รักดราม่า,รักดุเดือด,รัก,ชายชาย,วาย

รายละเอียด

ของผมแด่ผู้เดียว "ยันเดเระ18+" ตอนเดียว โดย sen sen @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

“คืนหนึ่ง...กับคำปลอบโยนที่เกินเลย” หลังจากความรักพังทลาย โชตะ...ชายหนุ่มผู้เก็บรอยยิ้มไว้ใต้แววตาเศร้าหมอง ต้องเผชิญคืนเหงาเพียงลำพัง ความสัมพันธ์ที่เคยมั่นคงกลับกลายเป็นเศษเสี้ยวของความผิดหวัง ท่ามกลางความเงียบเหงาและหัวใจที่เปราะบาง มาตะ—เพื่อนสนิทผู้เฝ้ามองอยู่เงียบๆ มาตลอด—ก้าวเข้ามาด้วยคำพูดปลอบโยน และอ้อมแขนที่อบอุ่นยิ่งกว่าคืนไหน ค่ำคืนนั้น…ไม่ใช่เพียงการพักพิงใจ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่ทั้งโชตะและมาตะไม่เคยคาดคิด บางสิ่งที่ทั้งร้อนแรง…และยากจะหักห้าม

ผู้แต่ง

sen sen

เรื่องย่อ

“ร่างกายของคุณ...หัวใจของคุณ...ทุกอย่างต้องเป็นของผม”


อึก อื้มซี๊ดดดดด อ้าาาา~

เสียงครางแผ่วดังขึ้นท่ามกลางเสียงฝน สัมผัสเร่าร้อนที่ไม่อาจห้ามได้อีกต่อไปค่อย ๆ ขับกล่อมหัวใจทั้งสองให้เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน

สารบัญ

ของผมแด่ผู้เดียว "ยันเดเระ18+" ตอนเดียว-1 ใจเริ่มหวั่น

เนื้อหา

1 ใจเริ่มหวั่น

    เสียงฝนโปรยปรายลงกระทบกระจกหน้าต่างบานใหญ่ เสียงฟ้าร้องครืนคล้ายสะท้อนบางสิ่งในจิตใจของใครบางคนที่ยืนพิงประตูอย่างเงียบงัน

"มาตะ..." เสียงหวานของโชตะเรียกชื่ออีกฝ่ายเบา ๆ คล้ายลมหายใจ เขานั่งอยู่บนเตียง ผมสีดำชื้นเล็กน้อยจากการอาบน้ำ เปลือกตาแดงเรื่อเพราะเพิ่งร้องไห้จากอกหัก

คนตรงหน้ามองโชตะด้วยดวงตาคมกริบ ดั่งใบมีดที่อาบด้วยน้ำผึ้ง มาตะเดินเข้ามาช้า ๆ แต่มั่นคง เสียงฝีเท้าท่ามกลางความเงียบงันยิ่งทำให้หัวใจของโชตะเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากอก

“อย่าหนีผมไปไหนอีก...” มาตะเอ่ยเสียงพร่า มือเย็นเฉียบแตะที่ข้างแก้ม ลูบเบา ๆ จนโชตะหลับตาลงตามแรงสัมผัสนั้น ผมจะไม่ยอมให้ใครแยกคุณไปจากผม...ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ตาม

มืออีกข้างโอบร่างบางเข้าหาแผ่นอกกว้าง อ้อมแขนนั้นแน่นจนแทบไม่มีช่องว่างใดแทรกผ่านได้ หัวใจของโชตะสั่นไหว เขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะความกลัว...หรือเพราะความอบอุ่นที่คุ้นเคยจนอยากร้องไห้

ริมฝีปากของมาตะประทับลงบนหน้าผาก ก่อนจะเลื่อนต่ำลงไปเรื่อย ๆ อย่างเชื่องช้า

“โชตะ...ให้ผมเป็นคนเดียวที่ได้สัมผัสคุณได้ไหม?” เสียงกระซิบแนบใบหูแผ่วเบาราวกับสายลมแต่กลับสะท้อนดังกึกก้องในใจ

และทันใดนั้น...เสื้อคลุมบางหลุดจากไหล่ของโชตะช้า ๆ ใบหน้าของเขาแดงจัดอย่างควบคุมไม่อยู่

แผ่นอกของมาตะแนบชิดจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนแรงที่กระเพื่อมถี่ ความอบอุ่นแทรกผ่านผิวเนื้อราวกับเปลวไฟกำลังลามเลีย

โชตะยกมือดันอกอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา แต่แรงนั้นกลับอ่อนยวบจนแทบไม่ได้ผล มาตะประสานมือไว้แน่น ราวกับต้องการยืนยันว่า...เขาจะไม่มีวันปล่อยโชตะไปอีก

“ร่างกายของคุณ...หัวใจของคุณ...ทุกอย่างต้องเป็นของผม”

อึก อื้มซี๊ดดดดด อ้าาาา~

เสียงครางแผ่วดังขึ้นท่ามกลางเสียงฝน สัมผัสเร่าร้อนที่ไม่อาจห้ามได้อีกต่อไปค่อย ๆ ขับกล่อมหัวใจทั้งสองให้เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน

ร่างบางเอนซบอกคนรักอย่างเหนื่อยอ่อนหลังจากคืนที่ร้อนรุ่มจบลง

มาตะโอบเขาไว้แน่น กลิ่นกายของโชตะอวลในอ้อมแขน ชวนให้อยากจูบซ้ำ ๆ ไม่สิ้นสุด...

“แม้โลกจะเกลียดคุณ...ผมจะปกป้องคุณด้วยตัวผมเอง โชตะ...เพราะคุณเป็นของผม—คนเดียวเท่านั้น”

มาตะเริ่มใช้ฝ่ามืออันหยาบสากคันแฝงไปด้วยความหนักแน่นและมั่นคงลูปไล้ผิวอ่อนนุ่มความรู้สึกอันขนลุกซู่แผดร้าวไปทั่วกลายของโชตะ

โชตะ นี่นาย...

มาตะเลื้อยมือเหมือนใบอ่อนค่อยๆแทรกเข้าไปในจุดอัปมุงนึงก่อนที่จับในตัวผ้าออกมาภายใต้เรือนร่างเล็กบางอันไร้เรี่ยวแรง ทั้งสองแลต่างสภาพเหมือนถอดเปลือกโดยสมบูรณ์

ลมหายใจอันเร่าร้อนที่ไม่ได้สัมผัสแค่ภายนอกแต่ยังดังก้องถึงภายใน มาตะเริ่มคืบคลานอย่างสัตว์เลือดเย็นก่อนจะจู่โจมเหยื่อด้วยความเงียบ กายเนื้อของแผ่นหน้าอกสัมผัสกันอย่างรัวรันและละเมียดละไม

โชตะ ...นายต้องมองผม แค่ผมคนเดียวเท่านั้น

ทั้งสองเริ่มมีอาการสั่นไหวหัวใจจนแทบจะกลืนเรือนร่างของโชตะแทบจะแนบเคียงหมอน เขาขยับไม่ได้แต่ไม่รู้ทำไมถึงยอมจำนน ลิ้นอันเปียกชุ่มค่อยเลื้อยชอนไชเข้าไปลิ้นของอีดฝ่ายในช่องระหว่างเม็ดฟัน

ความรู้สึกอัดแน่นไปด้วยความกระเสือกกระสนและความกระหายอันหลงไหลครอบงำไปด้วยการไร้สติ เลือดร้อนๆเริ่มแผดเผาพวกเขาท่ามกลางฟูกผ้าบนเตียง หยาดเหงื่อค่อยๆผุดออกจากพื้นผิวกายชโลมไปทั่วร่าง

ความเร่าร้อนเริ่มแผดเผารามไปทั่วเรือนกายจนถึงจุดๆหนึ่งได้หลอมรวมความคลั่งรักอย่างแยกไม่ห่าง ยากจะเป็นหนึ่งเดียว หนึ่งเดียวเท่านั้น!

ปลายท่อนล่างปรากเปลือยไร้ใยผ้าห่อหุ้ม ส่วนที่ลึกที่สุดของเขาเริ่มมีความต้องการมากขึ้นๆ หล่อหลอมให้แท่งไอติมของเขาอยากที่จะให้อีกฝ่ายได้ลิ้มลอง

โชตะ ฉันขอล่ะนะ ไม่เจ็บนะคะ..

มาตะนี่นาย ฮึกก~

แท่งไอติมที่มันไม่ได้เย็นระรื่นมากนัก แต่กลับส่งความแสบร้อนระทมลงเข้าช่องพสุทา ณ กลางใจของโชตะ แท่งไอร้อนระอุค่อยๆทะลวงมายังส่วนลึกของเขาลื่นระทม

เสียงใจที่โหยหาอยากที่จะบอกกล่าวให้หยุด แต่ใจลึกๆกลับดระอึกด้วยปวดระบเหมือนมีวัตถุบางอย่างเริ่มสอดเข้ามากลางพสุธา ทำให้เขาที่พยายามจะเอ่ยกล่าวออกมานั้นอยากเสียจนตัว

มาตะ.. ฮะ อ้ะ~ 

อะไรนะคะ?

มาตะ อึก อื้ออ~หยุดนะ

คำลมปากของอีกฝ่ายดันไม่เป็นที่ตอบสนองของสัตว์ร้ายแต่อย่างใด แต่เขากลับที่จะหยอกล้อและเล่นกับเหยื่อจนกว่าจะสาแก่ใจลมกายใจอบเอ้าค่อยทะยานออกมากจากภายในระหว่างที่ใช้เรี่ยวแรงกุมอีกฝ่ายไว้

แท่งไอติมเริ่มเข้ากระแทกอย่างสุดกายาก่อนจะค่อยสไลด์ตัวเข้าออกอย่างช้าๆ ผืนเตียงเริ่มค่อยๆสั่นคลอนไปทั่วร้าวยันกำแพงจนได้ยินเสียงดัง ตึก ตึก เป็นจังหวะ

เขาเริ่มดันตัวเข้าไปใกล้อีกฝ่ายจนแทบจะแนบกับกองผืนผ้าอันุ่มๆและแรงสะท้านอีกฝ่ายหยาดเหงื่อที่เริ่มเลอะไปกับผ้าปูขาวๆเริ่มเห็นได้จนเป็นคราบ

ใบหน้าของทั้งสองต่างแรงระลื่มไม่ต่างจากลูกพีชที่กำลังสุก ลิ้นชื้นเต็มไปด้วยหยาดน้ำใสค่อยหลั่งออกมาหลังจากที่แลกลิ้นกันไม่ยั้งมาตะเริ่มยัดแท่งไอติมมาสวนสลับอย่างเร็วรัน

ความหลงใหลของแรงอันชั่ววูบเริ่มทะยานขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆจนต่างฝ่ายเริ่มขยับกายตามแรงอารมณ์ความเร็วเริ่มทะยานสูงขึ้น ไส้เดือนที่มีอันขนาดอย่างกับกล้วยหอมพยายามหาที่มุดซ่อนเฉกเช่นรูดังกล่าว

เสียงครวญครางของอีกฝ่ายกล่าวเอ่ยดั่งฝืนแรงต้านอันมหาศาลของกล้วยหอมจอมซนจนไม่ไหวเริ่มขนลุกซู่ไปทั่วเรือนร่างที่ยังอัดอั้นได้อีกไม่นานนัก รอยแดงเยี่ยงอย่างเขี้ยวเริ่มฝังลึกตั้งแต่คอหอยลงยังแผ่กระดานของเขา

ใบหน้าแดงฉานด้วยความร้อนที่ก่อสะสมในตัวหัวใจที่เริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะของทั้งสองเริ่มแสดงถึงอาการออกมาได้ถึงความพึงพอใจ บนผืนเตียงกลับที่เลอะไปทั่วด้วยหยาดเหงื่อเริ่มค่อยๆมีของเหลวสีขาวออกมาจากมาตะเริ่มชะโลมความร้อนระอุ่มดั่วกายภายที่ตั้งแต่แรกดันทุเราลงอย่างเห็นได้ชัด

ของเหลวสีครีมเหนียวหนืดลื่นเยี่ยงสีโคนมกำลังหลั่งออกมาอย่างช้าๆปนหยาดเหงื่อเปียกเปื้อนไปทั่วทั้งผ้าสีขาวอย่างเห็นได้ชัด

ด้วยเรี่ยวแรงอันเหนื่อยล้า ยังทวีคูณความรุนแรงของไส้เดือนไซส์เท่าหวีกล้วยหอมอันมหึมา ใบหน้าและความรู้สึกยังโหยหาของทั้งสองยังคงตอบสนองต่อความหลงไหลและครั่งรักหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียว

มาจะมือเริ่มกดมือของโชตะส่วนอีกข้างยังคงลูปไล้ไปยังส่วนต่างๆของกายเล็ก ในขณะที่ขาของฝ่ายดันทุรังถ่างหว่างระหว่างหลุ่มพลางล่วงลึกเข้าไปยังส่วนในเริ่มมีคราบสีนมไหลเลอะเปื้อนไปทั่วเตียงของเขา

แรงทั้งสองฝ่ายเริ่มทุเลาลงหลังจากที่ต่างฝ่ายเริ่มไร้เรี่ยวแรงหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะจากความเหนื่อยล้า แรงสูบฉีดเลือดเริ่มทะยานร้อนไปยังทุกส่วนิย่างท่วมท้น

มาตะเริ่มค่อยๆคลายตัวออกจากวงขวดน้ำหลังจากค้างไว้ในนั้นสักพักเริ่มค่อยสไลด์ตัวออกมาอย่างเชื่องช้าพร้อมกับน้ำครีมขาวหนืดนั้นจนทำให้โชตะเริ่มเอ่ยเสียงเป็นท่วงทำนองหวานๆออกมา

เพื่อเป็นการไม่เสียหยาดเหงื่อทั้งหมดที่มีร่วมกันมาตะจึงได้ยัดไอติมรสนมหลานเย็นของเขาเข้าช่องระหว่างปลายลิ้นให้อีกฝ่ายได้ดูดดื่มอย่างเต็มกลืน

กาลเวลาล่วงเลย



เช้าวันถัดมา แสงแดดอ่อนสาดลอดม่านสีขาวเข้ามาในห้องนอน ร่างบางใต้ผ้าห่มสีครีมขยับตัวน้อย ๆ ดวงตากลมปรือขึ้นช้า ๆ พลางขมวดคิ้วน้อย ๆ เมื่อรู้สึกถึงแรงกอดแน่นจากข้างหลัง

“อืม...มาตะ?” เสียงงัวเงียดังขึ้นอย่างอ่อนแรง

มาตะยังคงไม่ปล่อยอ้อมแขนจากร่างโชตะ เขากอดอีกฝ่ายแน่นราวกับกลัวว่าหากปล่อยเพียงวินาทีเดียว ร่างนั้นจะหายไปจากชีวิต

“อย่าลุกเลยนะ...” เสียงทุ้มพร่าดังขึ้นพร้อมลมหายใจอุ่น ๆ แนบต้นคอ “อยู่กับฉันตรงนี้...อีกสักหน่อยก็ยังดี”

“แต่ว่า...”

“ไม่มีแต่...ฉันยังไม่พอ นายยังไม่พอสำหรับฉัน โชตะ”

ทันใดนั้น มือของมาตะเลื่อนจากเอวขึ้นมาประสานมือไว้แน่น ปลายนิ้วเรียวลูบผ่านหลังมือโชตะเบา ๆ ชวนให้หัวใจเต้นแรงอีกครั้ง ความอบอุ่น ความหวงแหน ความคลั่งไคล้ที่ซ่อนอยู่ในสัมผัสนั้นช่างอันตรายจนยากจะต้าน

“เมื่อคืน...มันไม่ใช่แค่เพราะความต้องการ มันคือคำสัญญา”

โชตะหันไปสบตาอีกฝ่าย ดวงตาของมาตะทอประกายบางอย่างที่ทำให้รู้สึกหน่วงในอก เป็นความรักที่แฝงด้วยเงามืด เป็นการครอบครองที่เต็มไปด้วยความกลัวการสูญเสีย

“ถ้านายจะจากฉันไป...ฉันจะล่ามนายไว้เอง โชตะ ฉันจะไม่ให้ใครแย่งนายไปอีกแม้แต่ลมหายใจ”

ร่างสูงพลิกตัวขึ้นคร่อมอีกฝ่ายไว้ สายตาคู่นั้นวาววับราวกับนักล่า

“มาตะ...”

“ฉันอยากได้ยินเสียงนายอีกครั้ง...เสียงที่ร้องเรียกชื่อฉันเมื่อคืนนั้น”

โชตะหน้าแดงซ่าน หายใจถี่ขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ มาตะค่อย ๆ ประทับริมฝีปากลงบนหน้าผาก ไล้ลงจมูก และริมฝีปาก เขาจูบอย่างนุ่มนวล ร้อนแรง แต่เต็มไปด้วยความลุ่มหลง

“แค่ฉัน...แค่ฉันคนเดียว โชตะ นายเข้าใจใช่ไหม?”

เสียงหวานสั่นไหว “เข้าใจ...แล้ว...”

แสงแดดของเช้าวันใหม่กลายเป็นพยานให้กับคำสัญญาอันคลั่งไคล้ ระหว่างชายสองคนที่ผูกพันกันด้วยเสน่หา ความเจ็บปวด และความรักที่ไม่มีวันหวนคืน