“คืนหนึ่ง...กับคำปลอบโยนที่เกินเลย”
หลังจากความรักพังทลาย โชตะ...ชายหนุ่มผู้เก็บรอยยิ้มไว้ใต้แววตาเศร้าหมอง ต้องเผชิญคืนเหงาเพียงลำพัง ความสัมพันธ์ที่เคยมั่นคงกลับกลายเป็นเศษเสี้ยวของความผิดหวัง ท่ามกลางความเงียบเหงาและหัวใจที่เปราะบาง มาตะ—เพื่อนสนิทผู้เฝ้ามองอยู่เงียบๆ มาตลอด—ก้าวเข้ามาด้วยคำพูดปลอบโยน และอ้อมแขนที่อบอุ่นยิ่งกว่าคืนไหน
ค่ำคืนนั้น…ไม่ใช่เพียงการพักพิงใจ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่ทั้งโชตะและมาตะไม่เคยคาดคิด
บางสิ่งที่ทั้งร้อนแรง…และยากจะหักห้าม
รัก,ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,เรื่องสั้น,วัยว้าวุ่น,นิยายวาย,yaoi ,yaoi,LGBTQ ,รักดราม่า,รักดุเดือด,รัก,ชายชาย,วาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เสียงฝนโปรยปรายลงกระทบกระจกหน้าต่างบานใหญ่ เสียงฟ้าร้องครืนคล้ายสะท้อนบางสิ่งในจิตใจของใครบางคนที่ยืนพิงประตูอย่างเงียบงัน
"มาตะ..." เสียงหวานของโชตะเรียกชื่ออีกฝ่ายเบา ๆ คล้ายลมหายใจ เขานั่งอยู่บนเตียง ผมสีดำชื้นเล็กน้อยจากการอาบน้ำ เปลือกตาแดงเรื่อเพราะเพิ่งร้องไห้จากอกหัก
คนตรงหน้ามองโชตะด้วยดวงตาคมกริบ ดั่งใบมีดที่อาบด้วยน้ำผึ้ง มาตะเดินเข้ามาช้า ๆ แต่มั่นคง เสียงฝีเท้าท่ามกลางความเงียบงันยิ่งทำให้หัวใจของโชตะเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากอก
“อย่าหนีผมไปไหนอีก...” มาตะเอ่ยเสียงพร่า มือเย็นเฉียบแตะที่ข้างแก้ม ลูบเบา ๆ จนโชตะหลับตาลงตามแรงสัมผัสนั้น ผมจะไม่ยอมให้ใครแยกคุณไปจากผม...ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ตาม
มืออีกข้างโอบร่างบางเข้าหาแผ่นอกกว้าง อ้อมแขนนั้นแน่นจนแทบไม่มีช่องว่างใดแทรกผ่านได้ หัวใจของโชตะสั่นไหว เขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะความกลัว...หรือเพราะความอบอุ่นที่คุ้นเคยจนอยากร้องไห้
ริมฝีปากของมาตะประทับลงบนหน้าผาก ก่อนจะเลื่อนต่ำลงไปเรื่อย ๆ อย่างเชื่องช้า
“โชตะ...ให้ผมเป็นคนเดียวที่ได้สัมผัสคุณได้ไหม?” เสียงกระซิบแนบใบหูแผ่วเบาราวกับสายลมแต่กลับสะท้อนดังกึกก้องในใจ
และทันใดนั้น...เสื้อคลุมบางหลุดจากไหล่ของโชตะช้า ๆ ใบหน้าของเขาแดงจัดอย่างควบคุมไม่อยู่
แผ่นอกของมาตะแนบชิดจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนแรงที่กระเพื่อมถี่ ความอบอุ่นแทรกผ่านผิวเนื้อราวกับเปลวไฟกำลังลามเลีย
โชตะยกมือดันอกอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา แต่แรงนั้นกลับอ่อนยวบจนแทบไม่ได้ผล มาตะประสานมือไว้แน่น ราวกับต้องการยืนยันว่า...เขาจะไม่มีวันปล่อยโชตะไปอีก
“ร่างกายของคุณ...หัวใจของคุณ...ทุกอย่างต้องเป็นของผม”
อึก อื้มซี๊ดดดดด อ้าาาา~
เสียงครางแผ่วดังขึ้นท่ามกลางเสียงฝน สัมผัสเร่าร้อนที่ไม่อาจห้ามได้อีกต่อไปค่อย ๆ ขับกล่อมหัวใจทั้งสองให้เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน
ร่างบางเอนซบอกคนรักอย่างเหนื่อยอ่อนหลังจากคืนที่ร้อนรุ่มจบลง
มาตะโอบเขาไว้แน่น กลิ่นกายของโชตะอวลในอ้อมแขน ชวนให้อยากจูบซ้ำ ๆ ไม่สิ้นสุด...
“แม้โลกจะเกลียดคุณ...ผมจะปกป้องคุณด้วยตัวผมเอง โชตะ...เพราะคุณเป็นของผม—คนเดียวเท่านั้น”
มาตะเริ่มใช้ฝ่ามืออันหยาบสากคันแฝงไปด้วยความหนักแน่นและมั่นคงลูปไล้ผิวอ่อนนุ่มความรู้สึกอันขนลุกซู่แผดร้าวไปทั่วกลายของโชตะ
โชตะ นี่นาย...
มาตะเลื้อยมือเหมือนใบอ่อนค่อยๆแทรกเข้าไปในจุดอัปมุงนึงก่อนที่จับในตัวผ้าออกมาภายใต้เรือนร่างเล็กบางอันไร้เรี่ยวแรง ทั้งสองแลต่างสภาพเหมือนถอดเปลือกโดยสมบูรณ์
ลมหายใจอันเร่าร้อนที่ไม่ได้สัมผัสแค่ภายนอกแต่ยังดังก้องถึงภายใน มาตะเริ่มคืบคลานอย่างสัตว์เลือดเย็นก่อนจะจู่โจมเหยื่อด้วยความเงียบ กายเนื้อของแผ่นหน้าอกสัมผัสกันอย่างรัวรันและละเมียดละไม
โชตะ ...นายต้องมองผม แค่ผมคนเดียวเท่านั้น
ทั้งสองเริ่มมีอาการสั่นไหวหัวใจจนแทบจะกลืนเรือนร่างของโชตะแทบจะแนบเคียงหมอน เขาขยับไม่ได้แต่ไม่รู้ทำไมถึงยอมจำนน ลิ้นอันเปียกชุ่มค่อยเลื้อยชอนไชเข้าไปลิ้นของอีดฝ่ายในช่องระหว่างเม็ดฟัน
ความรู้สึกอัดแน่นไปด้วยความกระเสือกกระสนและความกระหายอันหลงไหลครอบงำไปด้วยการไร้สติ เลือดร้อนๆเริ่มแผดเผาพวกเขาท่ามกลางฟูกผ้าบนเตียง หยาดเหงื่อค่อยๆผุดออกจากพื้นผิวกายชโลมไปทั่วร่าง
ความเร่าร้อนเริ่มแผดเผารามไปทั่วเรือนกายจนถึงจุดๆหนึ่งได้หลอมรวมความคลั่งรักอย่างแยกไม่ห่าง ยากจะเป็นหนึ่งเดียว หนึ่งเดียวเท่านั้น!
ปลายท่อนล่างปรากเปลือยไร้ใยผ้าห่อหุ้ม ส่วนที่ลึกที่สุดของเขาเริ่มมีความต้องการมากขึ้นๆ หล่อหลอมให้แท่งไอติมของเขาอยากที่จะให้อีกฝ่ายได้ลิ้มลอง
โชตะ ฉันขอล่ะนะ ไม่เจ็บนะคะ..
มาตะนี่นาย ฮึกก~
แท่งไอติมที่มันไม่ได้เย็นระรื่นมากนัก แต่กลับส่งความแสบร้อนระทมลงเข้าช่องพสุทา ณ กลางใจของโชตะ แท่งไอร้อนระอุค่อยๆทะลวงมายังส่วนลึกของเขาลื่นระทม
เสียงใจที่โหยหาอยากที่จะบอกกล่าวให้หยุด แต่ใจลึกๆกลับดระอึกด้วยปวดระบเหมือนมีวัตถุบางอย่างเริ่มสอดเข้ามากลางพสุธา ทำให้เขาที่พยายามจะเอ่ยกล่าวออกมานั้นอยากเสียจนตัว
มาตะ.. ฮะ อ้ะ~
อะไรนะคะ?
มาตะ อึก อื้ออ~หยุดนะ
คำลมปากของอีกฝ่ายดันไม่เป็นที่ตอบสนองของสัตว์ร้ายแต่อย่างใด แต่เขากลับที่จะหยอกล้อและเล่นกับเหยื่อจนกว่าจะสาแก่ใจลมกายใจอบเอ้าค่อยทะยานออกมากจากภายในระหว่างที่ใช้เรี่ยวแรงกุมอีกฝ่ายไว้
แท่งไอติมเริ่มเข้ากระแทกอย่างสุดกายาก่อนจะค่อยสไลด์ตัวเข้าออกอย่างช้าๆ ผืนเตียงเริ่มค่อยๆสั่นคลอนไปทั่วร้าวยันกำแพงจนได้ยินเสียงดัง ตึก ตึก เป็นจังหวะ
เขาเริ่มดันตัวเข้าไปใกล้อีกฝ่ายจนแทบจะแนบกับกองผืนผ้าอันุ่มๆและแรงสะท้านอีกฝ่ายหยาดเหงื่อที่เริ่มเลอะไปกับผ้าปูขาวๆเริ่มเห็นได้จนเป็นคราบ
ใบหน้าของทั้งสองต่างแรงระลื่มไม่ต่างจากลูกพีชที่กำลังสุก ลิ้นชื้นเต็มไปด้วยหยาดน้ำใสค่อยหลั่งออกมาหลังจากที่แลกลิ้นกันไม่ยั้งมาตะเริ่มยัดแท่งไอติมมาสวนสลับอย่างเร็วรัน
ความหลงใหลของแรงอันชั่ววูบเริ่มทะยานขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆจนต่างฝ่ายเริ่มขยับกายตามแรงอารมณ์ความเร็วเริ่มทะยานสูงขึ้น ไส้เดือนที่มีอันขนาดอย่างกับกล้วยหอมพยายามหาที่มุดซ่อนเฉกเช่นรูดังกล่าว
เสียงครวญครางของอีกฝ่ายกล่าวเอ่ยดั่งฝืนแรงต้านอันมหาศาลของกล้วยหอมจอมซนจนไม่ไหวเริ่มขนลุกซู่ไปทั่วเรือนร่างที่ยังอัดอั้นได้อีกไม่นานนัก รอยแดงเยี่ยงอย่างเขี้ยวเริ่มฝังลึกตั้งแต่คอหอยลงยังแผ่กระดานของเขา
ใบหน้าแดงฉานด้วยความร้อนที่ก่อสะสมในตัวหัวใจที่เริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะของทั้งสองเริ่มแสดงถึงอาการออกมาได้ถึงความพึงพอใจ บนผืนเตียงกลับที่เลอะไปทั่วด้วยหยาดเหงื่อเริ่มค่อยๆมีของเหลวสีขาวออกมาจากมาตะเริ่มชะโลมความร้อนระอุ่มดั่วกายภายที่ตั้งแต่แรกดันทุเราลงอย่างเห็นได้ชัด
ของเหลวสีครีมเหนียวหนืดลื่นเยี่ยงสีโคนมกำลังหลั่งออกมาอย่างช้าๆปนหยาดเหงื่อเปียกเปื้อนไปทั่วทั้งผ้าสีขาวอย่างเห็นได้ชัด
ด้วยเรี่ยวแรงอันเหนื่อยล้า ยังทวีคูณความรุนแรงของไส้เดือนไซส์เท่าหวีกล้วยหอมอันมหึมา ใบหน้าและความรู้สึกยังโหยหาของทั้งสองยังคงตอบสนองต่อความหลงไหลและครั่งรักหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียว
มาจะมือเริ่มกดมือของโชตะส่วนอีกข้างยังคงลูปไล้ไปยังส่วนต่างๆของกายเล็ก ในขณะที่ขาของฝ่ายดันทุรังถ่างหว่างระหว่างหลุ่มพลางล่วงลึกเข้าไปยังส่วนในเริ่มมีคราบสีนมไหลเลอะเปื้อนไปทั่วเตียงของเขา
แรงทั้งสองฝ่ายเริ่มทุเลาลงหลังจากที่ต่างฝ่ายเริ่มไร้เรี่ยวแรงหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะจากความเหนื่อยล้า แรงสูบฉีดเลือดเริ่มทะยานร้อนไปยังทุกส่วนิย่างท่วมท้น
มาตะเริ่มค่อยๆคลายตัวออกจากวงขวดน้ำหลังจากค้างไว้ในนั้นสักพักเริ่มค่อยสไลด์ตัวออกมาอย่างเชื่องช้าพร้อมกับน้ำครีมขาวหนืดนั้นจนทำให้โชตะเริ่มเอ่ยเสียงเป็นท่วงทำนองหวานๆออกมา
เพื่อเป็นการไม่เสียหยาดเหงื่อทั้งหมดที่มีร่วมกันมาตะจึงได้ยัดไอติมรสนมหลานเย็นของเขาเข้าช่องระหว่างปลายลิ้นให้อีกฝ่ายได้ดูดดื่มอย่างเต็มกลืน
กาลเวลาล่วงเลย
เช้าวันถัดมา แสงแดดอ่อนสาดลอดม่านสีขาวเข้ามาในห้องนอน ร่างบางใต้ผ้าห่มสีครีมขยับตัวน้อย ๆ ดวงตากลมปรือขึ้นช้า ๆ พลางขมวดคิ้วน้อย ๆ เมื่อรู้สึกถึงแรงกอดแน่นจากข้างหลัง
“อืม...มาตะ?” เสียงงัวเงียดังขึ้นอย่างอ่อนแรง
มาตะยังคงไม่ปล่อยอ้อมแขนจากร่างโชตะ เขากอดอีกฝ่ายแน่นราวกับกลัวว่าหากปล่อยเพียงวินาทีเดียว ร่างนั้นจะหายไปจากชีวิต
“อย่าลุกเลยนะ...” เสียงทุ้มพร่าดังขึ้นพร้อมลมหายใจอุ่น ๆ แนบต้นคอ “อยู่กับฉันตรงนี้...อีกสักหน่อยก็ยังดี”
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่...ฉันยังไม่พอ นายยังไม่พอสำหรับฉัน โชตะ”
ทันใดนั้น มือของมาตะเลื่อนจากเอวขึ้นมาประสานมือไว้แน่น ปลายนิ้วเรียวลูบผ่านหลังมือโชตะเบา ๆ ชวนให้หัวใจเต้นแรงอีกครั้ง ความอบอุ่น ความหวงแหน ความคลั่งไคล้ที่ซ่อนอยู่ในสัมผัสนั้นช่างอันตรายจนยากจะต้าน
“เมื่อคืน...มันไม่ใช่แค่เพราะความต้องการ มันคือคำสัญญา”
โชตะหันไปสบตาอีกฝ่าย ดวงตาของมาตะทอประกายบางอย่างที่ทำให้รู้สึกหน่วงในอก เป็นความรักที่แฝงด้วยเงามืด เป็นการครอบครองที่เต็มไปด้วยความกลัวการสูญเสีย
“ถ้านายจะจากฉันไป...ฉันจะล่ามนายไว้เอง โชตะ ฉันจะไม่ให้ใครแย่งนายไปอีกแม้แต่ลมหายใจ”
ร่างสูงพลิกตัวขึ้นคร่อมอีกฝ่ายไว้ สายตาคู่นั้นวาววับราวกับนักล่า
“มาตะ...”
“ฉันอยากได้ยินเสียงนายอีกครั้ง...เสียงที่ร้องเรียกชื่อฉันเมื่อคืนนั้น”
โชตะหน้าแดงซ่าน หายใจถี่ขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ มาตะค่อย ๆ ประทับริมฝีปากลงบนหน้าผาก ไล้ลงจมูก และริมฝีปาก เขาจูบอย่างนุ่มนวล ร้อนแรง แต่เต็มไปด้วยความลุ่มหลง
“แค่ฉัน...แค่ฉันคนเดียว โชตะ นายเข้าใจใช่ไหม?”
เสียงหวานสั่นไหว “เข้าใจ...แล้ว...”
แสงแดดของเช้าวันใหม่กลายเป็นพยานให้กับคำสัญญาอันคลั่งไคล้ ระหว่างชายสองคนที่ผูกพันกันด้วยเสน่หา ความเจ็บปวด และความรักที่ไม่มีวันหวนคืน