ลองถามใจตัวเองแล้วกัน สารพัดอย่างที่คุณบอกว่าผมไม่ใช่สเปคคุณแต่ก็ยังได้อยู่บนเตียงกับคุณเป็นเพราะอะไร บอกหน่อยสิพ่อคนฉลาด เก่งขนาดเป็นหมอได้—เรื่องแค่นี้ไม่รู้หรือไงวะ?
รัก,ชาย-ชาย,บาร์เทนเดอร์,หมอ ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
take two to tango #ความไม่ชอบส่วนตัวลองถามใจตัวเองแล้วกัน สารพัดอย่างที่คุณบอกว่าผมไม่ใช่สเปคคุณแต่ก็ยังได้อยู่บนเตียงกับคุณเป็นเพราะอะไร บอกหน่อยสิพ่อคนฉลาด เก่งขนาดเป็นหมอได้—เรื่องแค่นี้ไม่รู้หรือไงวะ?
"ไม่ชอบคนเด็กกว่า"
"เออ ผมก็ไม่ชอบคนโตกว่าเหมือนกัน"
"คุณยังไม่ชอบคนเด็กกว่าอยู่ปะ"
"อืม ไม่ชอบ"
"เออ ไม่ชอบก็ไม่ต้องชอบ"
วาด - เลปกร (37) x ธาร - เกื้อพนัส (27)
CW : explicit sex scene, dirty talk, rude word (ที่ไม่ใช่แค่มึง-กู), slut-shaming
เป็นนิยายที่แต่งจากจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาทำให้ผู้ใดเสื่อมเสีย ตัวละครมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม มีการพูดจาหยาบคายเหยียดหยามเพื่ออรรถรสภายใต้ความยินยอมของแต่ละตังละคร เพราะฉะนั้นห้ามนำไปใช้ในชีวิตจริง
Your discretion is needed
ถ้ามีเนื้อหาแยกย่อยกว่านี้จะแจ้งเป็นรายตอนไปค่ะ
Talk talk
ตอนแรกอยากแต่งเอาสนุก porn without plot แต่ด้วยความที่ตัวเอกเป็นสองคนนี้เลยคิดว่ามันออกจะแปลกหน่อย ๆ ที่ให้เจอหน้าปุบ ซัดกันเลย เพราะงั้นเรื่องนี้จะเป็น porn with plot แบบ slice of life อาจจะไม่ได้หวานมาก ทั้งสองคนก็มีข้อดีข้อเสียทั้งคู่ เพราะงั้นอย่าด่าตัวเอกเราเลยนะคะ (เกริ่นไว้ก่อน)
ขอบคุณทุกคนที่บังเอิญหรือตั้งใจกดเข้ามาอ่านนะคะ ด้วยความที่เราตั้งใจให้เป็น pwp พล็อตหรือไดอะล็อกในเรื่องเลยไม่ได้ดีพเท่าเรื่องก่อน ๆ แค่ตั้งใจให้มีฉากนั้นอย่างมีที่มาที่ไปเฉย ๆ
จากประสบการณ์เรียนหมอมา 5 ปี
เกื้อพนัสสามารถสรุปได้เลยว่าระหว่างทางนั้น เขามีความสุขอยู่สองครั้ง
ครั้งแรกคือตอนสอบติด ดีใจที่มีที่เรียนสักทีโดยไม่รู้อยู่ดีว่าอยากเรียนจริง ๆ หรือเปล่า
ส่วนครั้งที่สองคือตอนยื่นใบลาออก พี่ ๆ กิจกรรมนักศึกษากรูเข้ามาพูดคุยกับเขา รวมถึงคณบดีด้วย แต่สุดท้ายธารก็ขอยืนยันคำเดิมคือลาออก
"ถ้าไม่ลาออกก็คงเรียนจบไปแล้ว"
"ถ้าพี่อยากให้ตระกูลมีคนเรียนหมอ แล้วทำไมพี่ไม่เรียนตั้งแต่ทีแรกล่ะ มากดดันเด็กมันทำไม"
ญาติคนนั้นโดนแม่ของเขาตอกกลับหน้าสั่น ธารแอบชูนิ้วโป้งให้แม่คนเก่งของเขา
หลังจากได้วุฒิวิทยาศาสตรบัณฑิต เขาก็ตัดสินใจเรียนต่อในด้าน Mixology แทน ตลอดเวลาเขามีความสุขดี ตื่นตอนไหนก็ได้ขอแค่ทันช่วงเวลาห้าโมงเย็น—เวลาเปิดบาร์
แต่ถ้าสมมติเขาตื่นไม่ทันก็ไม่เป็นไร
ยังไงเขาก็เป็นเจ้าของร้านอยู่แล้ว
ขอบคุณพ่อแม่ที่ประทานพริวิลเลจให้เขา ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ และที่สำคัญที่สุดก็คือฐานะ
เขาจะรับงานหรือไม่รับงานก็ไม่ได้เป็นเดือดเป็นร้อนอะไร แต่ด้วยความที่เป็นพวกชอบเข้าสังคม ชอบเจอคนใหม่ ๆ ชอบการได้พูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติกับคนแปลกหน้า เขาเลยเอนจอยกับการทำงานกลางคืนของตัวเองมาก
จนกระทั่งวันนี้
"คุณนับดาว คุณ…อ่า" ร่างสูงเหยียบร้อยแปดสิบคว้าแขนลูกค้าคนสนิทขึ้นมาคล้องคอตัวเองไว้ พยายามเลี่ยงการแตะเนื้อต้องตัวคนเมาเท่าที่จะทำได้
ทว่าถ้าไม่พยุงเดินเลย เธอคงล้มแผละไปกับพื้นแล้ว แถมนี่ยังเป็นโฮสเทลริมชายหาดอีก ตรงพื้นไม้มีแต่เม็ดทรายจากรองเท้าแขกที่มาร่วมงานคืนนี้
เกื้อพนัสและนับดาวมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันในฐานะเพื่อนร่วมธุรกิจ—จะว่างั้นได้ไหมวะ
นับดาว หรือคุณดาว สาวสวยวัย 33 ปี ตัวเล็ก ยิ้มหวาน พูดจาฉะฉาน เดินไปไหนก็มีออร่าน่าเข้าหา เห็นแบบนี้เธอไม่ใช่ดาราที่ไหน แต่เป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ศิลปินแนวหน้าหลายคนของไทย
เขารู้จักกันผ่านเพื่อนสนิทของธารที่เป็นดาราวัยรุ่นอีกที ดาวเป็นสายปาร์ตี้หรืออาจจะเพราะด้วยหน้าที่การงาน ทำให้เธอต้องคอยเป็นแม่งานในการหาคนมาช่วยจัดงานปาร์ตี้เสมอ
"ขอคนไม่กระโตกกระตากเวลาเจอดาราเป็นอันพอ"
แรกเริ่มนับดาวบรีฟงานไว้แค่นั้น ไม่รู้ว่าติดใจอะไร ทุกครั้งที่มีงานเลี้ยงสังสรรค์ เธอก็มักจะเชิญเขาและเพื่อนร่วมงานคนอื่นมาเป็นบาร์เทนเดอร์ให้ตลอด
วันนี้ก็เช่นกัน
ปาร์ตี้สละชีวิตคู่?
สาบานเลยว่าธารไม่ใช่พวกอยากยุ่งเรื่องของคนอื่น แม้หัวข้อที่เธอเกริ่นมาโคตรน่าสนใจ
"ดาวโดนแฟนที่คบมาจะสามปีนอกใจ"
เขาสนิทกับนับดาวในฐานะเพื่อนร่วมงาน สารภาพตามตรงว่าธารก็ไม่รู้ว่าเธอมีแฟนเหมือนกัน แถมยังคบมาตั้งห้าปี—เหมือนไม่เยอะ แต่นั่นน่ะถ้าเทียบกับอายุของเกื้อพนัสคือเกือบ 1 ใน 5 ส่วนของชีวิตเขาเลยนะ
ลูกค้าสาวคนสวยว่าพลางกระดกค็อกเทลสีสวยขึ้นดื่ม
แก้วแล้วแก้วเล่า
"ขอวอดก้าเพียว ๆ สักแก้วสิ"
"จะไหวเหรอคุณ"
"โหย นี่คุณธารดูถูกฉันเหรอค้า"
"ไม่บังอาจครับ งั้นแก้วนึงเนอะ"
ทำไมตอนแทงหวยไม่ถูกแบบนี้บ้างวะ
ปาร์ตี้ริมชายหาดที่คุณนับดาวเป็นเจ้าภาพเต็มไปด้วยผู้คนที่ธารไม่รู้จัก—ก็แหงสิ เขาไม่ได้คิดจะข้องเกี่ยวกับวงโคจรของเธออยู่แล้วเว้นแต่เรื่องงานเท่านั้น อาจจะมีบางคนเคยเห็นหน้าตามโฆษณาหรือสื่อสิ่งพิมพ์
ก็คนพวกนั้นเป็นดาราอะเนอะ
ดีเจชื่อดังที่เธอเลือกมาวันนี้ทำหน้าที่ได้ดี ทุกคนเมามายไปกับเครื่องดื่มสีอำพันและบีตเพลงแสนสนุกจนลืมสังเกตว่าเจ้าของงานกำลังเมาคอพับที่เคาน์เตอร์บาร์ด้านในโฮสเทล
นัยน์ตาคมกวาดไปรอบ ๆ พยายามหาคนคุ้นหน้าคุ้นตาของนับดาวแต่ก็ไม่มีภาพสักคนแวบขึ้นมาในหัว นอกจากเพื่อนสนิทสมัยมหา’ ลัยของเขาที่กลายเป็นดาราดังไปแล้ว
คนค่าตัวแพงแบบนั้นคงไม่มาอยู่แล้วล่ะ
"เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำแป๊บบบ"
"คุณเดินไหวมั้ย" ธารทำตัวเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี เขาเตรียมละทิ้งหน้าที่บาร์เทนเดอร์ตรงบาร์เพื่อที่จะเดินอ้อมมาพยุงสาวเจ้าไว้
นับดาวโบกมือปฏิเสธพัลวัน ฟังจากน้ำเสียงคือลากยาวจนผิดวิสัยคนพูดจาฉะฉานช่างเจรจาอย่างเธอ
เป็นห่วงนะเนี่ย
ร่างบอบบางในชุดเดรสวาบหวิวเดินเซไปเซมาเหมือนปูนา ชายหนุ่มมองภาพนั้นพร้อมรอยยิ้มเอ็นดูระคนเป็นห่วงว่าเธอจะสะดุดหน้าคะมำก่อนไปถึงห้องน้ำ
โฮสเทลที่เธอเลือกเป็นบ้านไม้สองชั้นริมทะเล ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ถูกรีโนเวตให้มีความโมเดิร์นมากขึ้นโดยมีสระว่ายน้ำอยู่ติดกับระเบียงบ้าน มองตรงไปก็เป็นภาพทะเลตอนกลางคืนที่ดำสนิท
"เตรียมเก็บของเลยนะพี่ธาร" รุ่นน้องจากร้านของเขาเดินมากระซิบหลังจากมองรอบ ๆ แล้วพบว่าแขกเริ่มทยอยกลับ—ไม่ก็เมาสลบอยู่ริมสระน้ำ
ดีเจซึ่งก่อนหน้านี้ไม่กี่นาทียังคงเปิดเพลงสร้างบรรยากาศคึกคักเตรียมเก็บข้าวของกลับไปนอนกอดเมียที่บ้าน
เหลือแค่บริเวณบาร์ซึ่งเป็นโซนรับผิดชอบด้วยพวกเขาเนี่ยแหละ
"เออ ๆ เดี๋ยวพี่มานะ" เจ้าของเรือนผมสีบลอนด์สว่างดูเวลาจากนาฬิกาข้อมือเรือนหรูของตัวเอง ดวงตาคมมองไปยังห้องน้ำด้วยความเป็นห่วง
นับดาวไปไหนของเขาวะ
เกื้อพนัสถอดเสื้อนอกสีเข้มซึ่งเป็นยูนิฟอร์มของร้านออกมาฝากไว้ที่รุ่นน้องก่อนจะก้าวขายาว ๆ ของตัวเองไปทางห้องน้ำในโฮสเทล
"เฮ้ย พี่จะอู้เหรอวะ"
"อู้อะไรล่ะ กูเป็นเจ้านายมึงด้วยซ้ำครับน้อง"
"แหม หยอกเล่น แล้วพี่จะไปไหน"
"หาคุณดาวอะดิ นานแล้วยังไม่กลับมาเลย"
"อ้วกอยู่หรือเปล่า"
"ไม่รู้ว่ะ ไปดูหน่อยแล้วกัน" ธารตบบ่ารุ่นน้องทำนองว่าขอฝากจัดการที่เหลือด้วย คนเด็กกว่าเขาเบ้หน้าแต่ก็ขัดคำสั่งของเจ้านายไม่ได้
ร่างสูงหุ่นนายแบบที่นับดาวถามแล้วถามอีกว่าสนใจเข้าวงการไหม แต่ธารก็ยืนยันคำเดิมว่าไม่ตลอด
เขาเมินเสียงตะโกนไล่หลังของรุ่นน้องแล้วเดินมายังห้องน้ำของโฮสเทลที่ไม่ได้แบ่งแยกชายหญิง
เป็นอีกครั้งที่ธารสงสัยตัวเองว่าทำไมเดาหวยไม่ถูกแบบนี้บ้าง
หญิงสาววัย 33 ปีทรุดตัวข้างซิงก์ล้างมือหมดสภาพ Working woman คนสวย ผมเผ้าไม่เป็นทรง กลิ่นน้ำหอมราคาแพงปะปนกับกลิ่นแอลกอฮอล์ชวนทำให้มึนหัว ดวงตากลมสวยฉาบด้วยน้ำตา กลีบปากอิ่มพร่ำเพ้อถึงอดีตคนรักที่ทิ้งกันไปอย่างไม่ไยดี
พอเห็นว่าความรักทำให้คนเก่งอย่างนับดาวอยู่ในสภาพเสียศูนย์แบบนี้ก็อดสงสารไม่ได้
มือใหญ่ทว่าเรียวยาวยื่นไปตรงหน้าเธอ
"คุณธาร…" เธอเริ่มแบะปากเตรียมร้องไห้สะอื้นตัวโยน เขาใช้ความตัวสูงใหญ่ของตัวเองให้เป็นประโยชน์ จับมือเธอไว้แล้วให้คนตัวเล็กกว่าทิ้งน้ำหนักพิงเขา นิ้วหัวแม่มือไล้หลังมือเธอเบา ๆ เชิงปลอบประโลม
"เลิกรักกันทำไมไม่บอกดี ๆ"
"…"
"นอกใจเราทำไมอะ" เสียงหวานเริ่มเงียบหายไป พอหลุบตามองต่ำก็เห็นว่าหญิงสาวคอพับไปแล้ว เปลือกตาที่ถูกแต่งแต้มด้วยอายชาโดวสีสวยปิดลง
"โอ๋เน้อคุณ" ธารพาเธอออกจากห้องน้ำได้สำเร็จ พยายามมองขอความช่วยเหลือว่าจะพาเธอไปไว้ไหนต่อดี
มองไปทางไหนก็มีแต่คนเมาแอ๋ กินซะคุ้มไม่รู้ลิมิตตัวเองเลยดิ ส่วนพวกยังพอมีสติก็เผ่นกลับไปอ้วกที่โรงแรมกันหมดแล้ว
ทางที่สะดวกที่สุดสำหรับเกื้อพนัสก็คงเป็นการปล่อยเบลอให้สาวเจ้านอนสลบอยู่ที่นี่จนกว่าจะสร่าง—แต่ให้พูดตามตรงก็คือเป็นห่วงนับดาว
คนสมัยนี้ไว้ใจได้ที่ไหน ทว่าธารก็ไม่สะดวกใจจะพาเธอกลับโรงแรมไปด้วยกันอยู่ดี
"เมาปลิ้นเสร็จก็นอนแม่งที่นั่นเลย"
"…"
"เป็นไง ความคิดดีปะ น่าสนุกเนอะคุณธาร"
พลันเขาก็นึกถึงบทสนทนาระหว่างร่างบางกับตัวเองขึ้นได้
"ผมขออนุญาตนะ" ชายหนุ่มบอกนับดาวที่เมาหมดสติไปแล้ว ร่างสูงโปร่งเหมือนนายแบบนิตยสารแฟชั่นจับแขนเรียวให้มั่นแล้วกวาดแขนอีกข้างช้อนใต้ข้อพับขาทั้งสองของเธอไว้
ใบหน้าหวานซบลงกับแผ่นอกของเขาหาความอบอุ่น เกื้อพนัสยกแขนเล็กที่ตกตามแรงโน้มถ่วงของโลกขึ้นมาไว้บนหน้าท้องของเธอแทน
ข้อมือของนับดาวเล็กนิดเดียว
พอ ๆ กับฝ่ามือของเธอ
เขาว่ากันว่าหนึ่งกำปั้นของคนเราจะมีขนาดเท่า ๆ กับหัวใจของคนนั้น—ไม่รู้เลยว่าหัวใจของนับดาวต้องทำงานหนักแค่ไหนในการแบกผู้ชายสักคนไว้ในนั้น
รองเท้าหนังขัดเงาเขี่ยเศษซากกระป๋องเบียร์ที่กระจัดกระจายตามพื้น เสียงบันไดบดเบียดกับพื้นรองเท้ามันดังเป็นจังหวะหนักเบาตามน้ำหนักของผู้ชายหนึ่งคนและผู้หญิงอีกคน
เสียงคลื่นทะเลดังอยู่ไกล ๆ ไม่สามารถดึงความสนใจของเกื้อพนัสไปจากเสียงสะอื้นในอ้อมแขน
เขาออกแรงเตะประตูไม้เบา ๆ ถ้าเจ้าของโฮสเทลมาเห็นคงด่าพ่อเขาแน่แต่ใช่ว่าธารจะสน ชายหนุ่มวางร่างบางลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา
"เฮ้อคุณนับดาว"
มือเรียวลูบเรือนผมสีชานมด้วยความสงสาร หวังว่าเวลาจะช่วยเยียวยาหัวใจเธอได้ไว ๆ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นจากอีกฝั่งเรียกความสนใจจากชายหนุ่มผมบลอนด์หันกลับไปมอง
"ดาว"
เสียงผู้ชาย?
คงไม่ใช่แฟนเก่าของคุณนับดาวหรอกใช่ไหม ถึงจะไม่รู้ว่าเป็นคนแบบไหนแต่พอเห็นสภาพของลูกค้าคนสำคัญเป็นแบบนี้ก็อดคุกรุ่นในอกไม่ได้
มันเป็นใครวะ
"ดาวอยู่ในนั้นมั้ย!" เสียงทุ้มเข้มกดต่ำจนเหมือนโมโห เล่นเอาคนนอกอย่างเกื้อพนัสไม่พอใจตาม เขาลุกขึ้นจากเตียงเต็มความสูงก่อนจะเป็นฝ่ายเดินไปเปิดประตูไม้นั้นเอง
"อยู่—แล้วมึงจะทำไม" กลอนประตูถูกกระชากออกเผยให้เห็นบุคคลที่อยู่อีกฟาก
ผู้ชายร่างสูงใหญ่ คาดคะเนเทียบกับความสูงของเขาแล้วคงไม่ต่ำกว่าร้อยเก้าสิบอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีดำปลดกระดุมบนสองเม็ดเผยให้เห็นแผ่นอกแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ
ผิวพรรณดูขาวเนียนละเอียดจนซีดเป็นกระดาษบ่งบอกว่าวัน ๆ คงไม่ได้รับวิตามินดีจากแสงแดดนัก
เส้นผมสีดำยาวปรกใบหน้าบางส่วนแต่ไม่สามารถปิดบังความฮอตของคนตรงหน้าได้ คิ้วเข้มโค้งได้รูป จมูกโด่งเป็นสันได้สัดส่วนพอดิบพอดีกับริมฝีปากหยักสีชมพูเป็นธรรมชาติ ขี้แมลงวันขนาดเล็กบริเวณหางตาขวายิ่งทำให้รูปหน้าของคนตรงหน้าเขาดูดีขึ้นทวีคูณ
แต่ที่ทำให้สะกดสายตาทุกคนได้ก็คงเป็นนัยน์ตาเรียวมีเสน่ห์ที่กำลังจดจ้องมาทางเขาด้วยท่าทางเอาเรื่อง
คิดว่าคนแบบเกื้อพนัสจะกลัวหรือไง
คาดเดาจากรูปลักษณ์ อีกคนคงอายุมากกว่าเขา อาจจะสามสิบต้น ๆ โดยประมาณ ท่าทางดูภูมิฐานและเป็นคุณชายจนเขาหมั่นไส้
"มึงเป็นใคร…"
"มึงนั่นแหละ—" น้ำเสียงที่ใช้พูดคุยกันถูกกดต่ำจนน่ากลัว
แต่ไม่ใช่กับธาร
เขากดเสียงต่ำกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว ทว่ายังพูดไม่จบประโยคดี คนตัวโตตรงหน้าก็ผลักเขาจนกระเด็น
"คิดจะทำอะไรดาว หลบไป!" ร่างสูงโปร่งเซไปตามแรงกระทำเพราะยังไม่ทันตั้งตัว ชายแปลกหน้ารีบย่างกรายเข้ามาในห้องหวังจะเข้าประชิดร่างบางที่นอนไม่ได้สติบนเตียง พอเห็นแบบนั้นเขาก็รีบกระชากคนตัวสูงออกมาทันควัน
ธารเอี้ยวตัวหลบกำปั้นของคนไม่คุ้นหน้า เดาได้เลยว่าถ้าเผลอโดนหมัดเมื่อกี้เข้าไปมีหวังกระดูกอ่อนตรงจมูกหักแน่
ปฏิกิริยาตอบโต้อัตโนมัติสำหรับคนเคยเรียนศิลปะป้องกันตัวแบบธารคือการสวนหมัดกลับไป เขาค่อนข้างมั่นใจในฝีมือตัวเองมากแต่ก็ถูกคนตัวสูงรับกำปั้นนั้นได้ด้วยฝ่ามือ
ชายแปลกหน้าจิ๊ปากไม่พอใจ กำมือเขาแน่นจนเหมือนต้องการบีบให้มันแตกเป็นเสี่ยง ๆ เพื่อระบายอารมณ์ความโกรธที่ถูกขัดขวางการเข้าหานับดาว
ดวงตาสองคู่จ้องกันไม่กะพริบ
ต่างฝ่ายต่างจะกินเลือดกินเนื้อให้ตายกันไปข้าง
"ฮือ ปวดหัว ร้อนด้วย" เสียงพึมพำของคนเมาดังมาจากเตียงนอนขนาดคิงไซซ์ มันไม่ได้ดังมากทว่ามากพอจะเรียกร้องความสนใจจากสองหนุ่มที่ทะเลาะกันอยู่
ธารรีบสะบัดมือออกจากการเกาะกุม ครั้งนี้มันไม่ได้บีบแน่นเหมือนคราแรกเลยเอาออกได้ไม่ยากนัก เขาทำท่าจะปรี่ตัวไปหานับดาว
เขามั่นใจในความสูงตัวเองมาตลอดจนกระทั่งวันนี้ที่ไอ้ผู้ชายคนนั้นก้าวขาไม่กี่ก้าวก็เข้าถึงนับดาวได้ก่อนเขา
"เธอ เค้าโดนทิ้งอะ" คนเมาโผกอดคนตัวโต เขาลอบมองอากัปกิริยาของชายหนุ่มแปลกหน้า ยังไม่ไว้ใจว่ามันจะทำอะไรต่อ
นับดาวพูดด้วยประโยคบอกเล่าแสดงว่าผู้ชายคนนี้คงไม่ใช่ไอ้เวรที่นอกใจเธอสินะ พอคิดแบบนี้ก็เบาใจลงหน่อย มือเรียวเอื้อมไปหยิบรีโมตแอร์ กดเปิดมันโดยให้เล็งไปทางเตียงนอน
"เออไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่โสดเป็นเพื่อนไง"
พี่
พี่ชายเหรอ?
คุณนับดาวมีพี่—แสดงว่าผู้ชายคนนี้อายุจะสี่สิบแล้วงั้นสิ
ฮอตฉิบหาย
"ขอบคุณมาก แต่ออกไปได้ละ"
ขอบคุณด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ มันคงจะรู้แล้วว่าเขาไม่ได้หวังร้ายอะไรกับนับดาว แถมเขาก็ไม่ใช่แฟนเก่าเธอด้วย
เขายักไหล่ไม่ยี่หระ เตรียมตัวกลับห้องของตัวเองที่โรงแรม ส่วนผู้ชายคนนั้นก็ลุกขึ้นจากเตียงหลังจากปลอบให้นับดาวสงบได้แล้ว
ร่างสูงใหญ่เดินไปทางห้องน้ำ คงจะหาอะไรมาเช็ดตัวให้คนเมาล่ะมั้ง
พอเห็นแบบนั้นเขาก็อุ่นใจขึ้นมาเปลาะหนึ่งจนกระทั่งได้ยินเสียงหวานดังขึ้นอีกครั้ง
"ไม่ไหวแล้วอะ!" นับดาวตะโกนเสียงดัง ยันตัวเองลุกขึ้นนั่ง ท่าทางกระสับกระส่ายทำเอาคนที่จะออกจากห้องรีบวิ่งกลับมาดู
"คุณดาวเป็น—"
เขานึกว่าเธอฝันร้าย
ที่ไหนได้—
อ้วกเต็มเสื้อ
"คุณตลกมากปะ" เกื้อพนัสหันไปเหวใส่ไอ้คุณชายที่เดินถือกะละมังและผ้าขนหนูผืนเล็กออกมาจากห้องน้ำพอดี มันหัวเราะตัวโยนจนตาชั้นเดียวหยีเป็นสระอิ
แม่ง
หล่อว่ะ
เป็นความจริงที่ยากจะปฏิเสธ
"ไปอาบน้ำไป ที่ห้องผม" หลังจากวางกะละมังลงบนโต๊ะไม้หัวเตียงแล้ว ชายหนุ่มที่เขาไม่รู้จักก็ชี้นิ้วไปยังทางประตู ธารพอจำได้ราง ๆ ว่าตอนขึ้นบันไดมา มีอีกห้องที่อยู่ตรงข้ามกัน
ธารนั่งอึ้งที่เดิมเป็นนาทีหลังจากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เริ่มตั้งสติและทำใจกับกลิ่นเศษอาหารปนแอลกอฮอล์บนเสื้อตัวเองได้แล้วจึงผ่อนลมหายใจ
ถือว่าสะเดาะเคราห์ไปแล้วกัน
*
ห้องน้ำส่วนตัวดีกว่าที่คิด ตอนแรกนึกว่าจะเป็นแค่ฝักบัว ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นอะไรซะแล้วเพราะบรรยากาศบ้านดูเป็นโลคอลสุด ๆ ตามสไตล์ที่คุณนับดาวชอบ ทว่าภายในห้องนอนกลับถูกตกแต่งได้ทันสมัย มีเตียงนอนและฟูกขนาดหกฟุต ปูด้วยผ้าปูสีขาว มีผ้าคาดเตียงเลียนแบบลายผ้าไหมไทย เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ก็ทำจากไม้ ไม่ก็เครื่องจักสาน
ในห้องน้ำก็เช่นกัน มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ ตรงขอบอ่างมีดอกกล้วยไม้และน้ำมันหอมระเหยวางไว้เข้าธีมสุด ๆ
มือเรียวส่งไปปิดฝักบัว กลิ่นหอมของสบู่และแชมพูที่โฮสเทลจัดไว้ให้สร้างไวบ์เหมือนอยู่ในสปา เกื้อพนัสใช้ผ้าขนหนูสีขาวของที่นี่ห่อหุ้มช่วงล่างไว้ก่อนจะชะงักไป
เขาไม่มีเสื้อผ้าให้เปลี่ยน
สัมภาระเขาอยู่ที่โรงแรมทั้งหมด แน่นอนว่าเขาคงไม่ใจแข็งขนาดกลับไปใส่เสื้อเปื้อนอ้วกของตัวเองแน่
เท้าเปลือยเปล่าค่อย ๆ เหยียบพื้นไม้ ไม่อยากให้มันเกิดเสียงดังรบกวน เขาเดินไปทางตู้เสื้อผ้าหวังว่าจะมีชุดคลุมอาบน้ำสักตัวให้เขาใส่กลับโรงแรม
"ทำอะไรของคุณ"
เลยเบญจเพสแล้วทำไมยังดวงซวยอีกวะ
ในนั้นมีเพียงกระเป๋าสัมภาระของอีกคนเท่านั้น นอกจากจะไม่มีเสื้อคลุมอาบน้ำแถมยังโดนไอ้โง่ที่ไหนไม่รู้ตามหาเรื่องอีก กดน้ำเสียงต่ำเตรียมจะด่าเขาที่เปิดตู้ดูอย่างถือวิสาสะ
ร่างสูงกว่าร้อยเก้าสิบเดินมาชิดแผ่นหลังเขา ใช้แขนข้างหนึ่งยันตู้เสื้อผ้าไว้ ทำเหมือนต้องการขังธารไว้ในอ้อมแขนอีกคน
มันแนบชิดมากจนเขารู้สึกถึงลมหายใจร้อนผ่าวที่รินรดแผ่นหลังเปลือยของเขา
ไออุ่นจากผิวกายอีกคนทำให้ก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายเขาเต้นอย่างบ้าคลั่ง ไม่ใช่เพราะความกลัวหรือความประหม่า
มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย เอาเป็นว่ามันทำให้เขารู้สึกดีมากเพราะให้ความรู้สึกเหมือนโดนคนตัวใหญ่กกกอด
"คุณถอยไปไกล ๆ หน่อยได้มั้ย"
"ทำไม"
"..."
"ก็ผู้ชายเหมือนกัน" ธารคิดว่าคนที่ซ้อนอยู่ข้างหลังเขาต้องคิดว่าเขาเป็นพวกโฮโมโฟบแน่จากการที่เขาไล่มันออกห่าง
คนบ้าชอบเอาชนะไม่ยอมทำตามคำขอของเกื้อพนัส อีกทั้งยังจงใจเบียดแผ่นอกเข้ากับแผ่นหลังเปลือยของธาร เขาฟึดฟัดไม่พอใจที่อีกคนเบียดร่างกายจนเหมือนโถมน้ำหนักมาที่เขา
จากเว้นเหลือเซนหนึ่ง
ก็แนบสนิทจนไม่เหลือช่องว่าง
เขาไม่รู้หรอกนะว่าอีกฝ่ายเป็นใคร บ้าเอาชนะมาจากไหน
ธารรู้แค่ว่าเขาเองก็ไม่ชอบให้ใครมาหยามเหมือนกัน
"มันตรงข้ามน่ะสิ" เกื้อพนัสหันหน้ามาสบตากับตัวสูงกว่า ด้วยความที่ช่องว่างระหว่างเขาสองคนแคบชนิดมดเดินผ่านยังไม่ได้ทำให้เมื่อหันหน้ามาปะทะ ส่วนล่างของเขาสองคนเลยเบียดเสียดกัน
"..."
"เพราะนอกจากจะไม่รังเกียจ ผมออกจะชอบด้วยซ้ำ" คนเปลือยท่อนบนยิ้มเยาะเหมือนสนุกที่ได้แกล้งคนตรงหน้า เขาหยิบมือหนาที่พิงตู้เสื้อผ้ามาวางแหมะบริเวณสะโพกของตัวเองที่มีเพียงผ้าขนหนูสีขาวเป็นปราการไว้อย่างหมิ่นเหม่
อาหารมาป้อนถึงที่
มีหรือวาดจะปฏิเสธ
เกื้อพนัสเบิกตาโตเสี้ยววินาทีอย่างไม่คาดคิด มือหนาข้างที่เขาจับมาวางไว้ตรงสะโพกออกแรงบีบมันไม่หนักไม่เบาแต่พอจะทำให้คนเปลือยท่อนบนแทบหลุดครางออกมา
เขาเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อมือใหญ่ยังคงฟอนเฟ้นสะโพกหนั่นแน่น ความอุ่นร้อนของก้านนิ้วล้วงเข้าไปใต้ผ้าขนหนูที่เขาพันรอบเอว
จากแค่ด้านข้างก็เลื่อนไปตามขอบของผ้าขนหนู
และไปหยุดที่ด้านหลัง
"คุณเป็นเกย์เหรอ" ธารบังคับเสียงไม่ให้สั่นไปตามแรงอารมณ์ คนตรงหน้าไม่ตอบคำถามเขา ทำเพียงรุกเร้าหนักขึ้น ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ก้านนิ้วแต่เป็นฝ่ามือใหญ่ที่ล้วงไปใต้ผ้าขนหนู ออกแรงบีบเคล้นแก้มก้นกลมกลึงเต็มไม้เต็มมือจนเนื้อมันล้นตามซอกนิ้ว
"รุกหรือรับ"
"..."
"..."
"รับ"
ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาตอบกลับไปแบบนั้น ในชีวิตนี้เขานอนอ้าขาให้ผู้ชายเอาไม่ถึงสามครั้งด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับตอนเขาเป็นรุก
หัวใจของเกื้อพนัสเต้นโครมครามเหมือนจะหลุดออกจากอก เขาให้เหตุผลรองรับการตอบสนองของร่างกายไปว่ามันเป็นเพราะเขาตื่นเต้น
เขาได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของคนตรงหน้า
"ลองกันหน่อยปะ"
ใช่
เกื้อพนัสแค่ตื่นเต้น เขาไม่ได้ชอบคนตรงหน้าแม้แต่น้อยแต่ว่า—
"เออ เอาดิ"