เรื่องราวของสองครอบครัวที่ต้องส่งลูกชายทั้ง 2 คนมาเเต่งงานกันเพราะคำว่า "ธุรกิจ" โดยที่ทั้งคู่ไม่ได้มีความเต็มใจตั่งเเต่เเรก

สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ) - 20 ผมเชื่อว่าเราจะชนะ โดย Raine Whitmore @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,ผู้ใหญ่,ครอบครัว,วาย,YAOI,Yaoi,นิยายวาย,NC,NC+,18+,ชาย-ชาย,ชายชาย,ชายรักชาย,ชายรับ,จับแต่งงาน,คลุมถุงชน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,ผู้ใหญ่,ครอบครัว

แท็คที่เกี่ยวข้อง

วาย,YAOI,Yaoi,นิยายวาย,NC,NC+,18+,ชาย-ชาย,ชายชาย,ชายรักชาย,ชายรับ,จับแต่งงาน,คลุมถุงชน

รายละเอียด

สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ) โดย Raine Whitmore @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เรื่องราวของสองครอบครัวที่ต้องส่งลูกชายทั้ง 2 คนมาเเต่งงานกันเพราะคำว่า "ธุรกิจ" โดยที่ทั้งคู่ไม่ได้มีความเต็มใจตั่งเเต่เเรก

ผู้แต่ง

Raine Whitmore

เรื่องย่อ

ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขาเขียวขจี "กันต์"  เขาคือลูกชายคนโตของตระกูลเกษตรกรที่เคยร่ำรวย แต่ตอนนี้ครอบครัวของเขากำลังเผชิญหนี้สินมหาศาลจากการลงทุนที่ผิดพลาด วันหนึ่ง แม่ของเขาก็เดินมาพร้อมสีหน้าซีดเซียว "กันต์ ลูกต้องแต่งงาน" คำพูดนั้นเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจเขส

อีกฟากหนึ่งของเมือง "ภีม" ลูกชายคนเล็กของตระกูลวรวิทย์ วัย 24 ปี ร่างบางแต่สูง ผิวขาวซีดราวกับไม่เคยโดนแดด ผมสีดำสนิทยาวถึงต้นคอ ดวงตาคู่สวยที่มักมองทุกอย่างด้วยความเย็นชา เขาคือทายาทของตระกูลนักธุรกิจที่ร่ำรวยจากการค้าขายสมุนไพรและยาแผนโบราณ คืนนั้น พ่อของภีมเรียกเขาเข้าไปคุยในห้องทำงาน "ภีม พ่อตัดสินใจแล้ว ลูกจะต้องแต่งงานกับลูกชายของตระกูลนั้น" ภีมขมวดคิ้ว "อะไรกันครับ? ผมจะแต่งกับผู้ชายเนี่ยนะ? พ่อบ้าไปแล้ว!" เขาตะโกน พ่อของเขามองด้วยสายตาแข็งกร้าว "นี่ไม่ใช่คำขอ แต่เป็นคำสั่ง ถ้าลูกไม่ทำ ธุรกิจของเราจะเสียโอกาสใหญ่ ตระกูลนั้นมีที่ดินที่เราต้องการ ลูกต้องยอม"

สารบัญ

สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-1 พันธนาการใต้เงาคลุม,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-2 ผมเกลียดคุณจริงๆ NC,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-3 บางที...เราอาจจะไม่ได้ต่างกันมาก,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-4 ความเข้าใจที่เริ่มก่อตัวขึ้นช้าๆ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-5 เพราะ...เราแต่งงานกันแล้ว ไม่ใช่เหรอ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-6 ความอบอุ่นจากเตาผิงและความสัมพันธ์ที่เริ่มก่อตัว,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-7 ความผูกพันที่ทั้งคู่เริ่มยอมรับ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-8 คุณเปลี่ยนไปเยอะ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-9 การเลือกทางของตัวเอง,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-10 คุณก็อยากไม่ใช่เหรอ (NC),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-11 ความสัมพันธ์ที่เติบโตขึ้นท่ามกลางความท้าทาย,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-12 ที่นี่คือบ้าน,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-13 ที่ดีที่สุดสำหรับพ่อ ไม่ใช่สำหรับผม,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-14 ผมอยากจะลองอะไรใหม่ๆกับคุณ (์NC หนักๆ),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-15 ผมไม่อยากให้คุณไปไหน,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-16 การต่อสู้เพื่อที่ดินกำลังจะถึงจุดสำคัญ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-17 ผมดีใจที่มีคุณอยู่ด้วย,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-18 ระหว่างรอผลศาลก็หาอะไรทำดีกว่า (NC ดุเดือด),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-19 ทั้งสองพร้อมที่จะเผชิญหน้ากัน,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-20 ผมเชื่อว่าเราจะชนะ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-21 หวังว่าจะได้ร่วมงานกัน,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-22 ผมอยากทำอะไรสนุกๆ รุกหนักไปไหม ( NC ),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-23 ไร่ชากำลังเติบโต และการต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-24 การต่อสู้ยังไม่จบ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-25 ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง ผมดีใจที่มีคุณ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-26 ผมจะทำให้คุณจำคืนนี้ (NC),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-27 อนาคตของหมู่บ้านเริ่มสว่างไสวขึ้น,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-28 สองเดือนนี่มันท้าทายจริงๆ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-29 ความท้าทายใหม่ที่รออยู่ข้างหน้า,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-30 คุณ...ดุเกินไป (NC เร่าร้อนน),สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-31 การแข่งขันและความท้าทายที่ไม่หยุดนิ่ง,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-32 ชาของเรามีจิตวิญญาณ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-33 ร้านใหญ่ในเมืองจะชอบชาเราไหมนะ,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-34 อุปสรรคเริ่มคลี่คลาย,สัญญารักกลางไร่ (NC ฉ่ำ)-35 คืนแห่งความสุข (จบบริบูรณ์ nc 20+)

เนื้อหา

20 ผมเชื่อว่าเราจะชนะ

เช้าวันตัดสินคดีเริ่มต้นด้วยแสงแดดที่สาดส่องลงมาบนหมู่บ้านอย่างอ่อนโยน ไร่ชายังคงเงียบสงบ แต่ในใจของทุกคนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความกังวล กันต์ตื่นขึ้นมาก่อนตามปกติ เดินไปที่หน้าต่างกระท่อม มองออกไปเห็นต้นกล้าชาที่เติบโตดีขึ้นทุกวัน ภีมตื่นตามมา เขาขยับตัวลุกขึ้นยืนข้างกันต์ "วันนี้วันสำคัญ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง

กันต์พยักหน้า "ใช่" เขาตอบ "ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง เราทำเต็มที่แล้ว" ภีมวางมือบนไหล่เขา "ผมเชื่อว่าเราจะชนะ" เขาพูด กันต์หันมามอง "คุณมั่นใจเกินไป" เขาพูดหยอก ภีมยิ้ม "บางที" เขาตอบ "แต่ผมรู้สึกดี"

แม่ของกันต์เดินออกมาจากมุมกระท่อม "ลูกพร้อมไหม" นางถาม กันต์ตอบ "พร้อมครับ" เขาพูด "เราจะไปเมืองกับลุงชัย" ภีมเสริม "ผมจะไปด้วย" เขาพูด แม่ของกันต์ยิ้ม "ดีแล้ว" นางพูด "ลูกสองคนนี่เข้ากันดีจริงๆ แม่จะรอฟังข่าวดี"

ลุงชัยเดินเข้ามา "รถพร้อมแล้ว" เขาพูด "พ่อใหญ่คำกับป้าสายจะไปด้วย" กันต์พยักหน้า "ดีครับ" เขาตอบ "ยิ่งคนไปเยอะยิ่งดี" ภีมมองลุงชัย "ทุกคนในหมู่บ้านฝากความหวังไว้จริงๆ" เขาพูด ลุงชัยยิ้ม "ใช่" เขาตอบ "เราจะไม่ทำให้ผิดหวัง"


กันต์ ภีม ลุงชัย พ่อใหญ่คำ และป้าสายขึ้นรถกระบะเก่าเพื่อเดินทางไปเมือง ถนนโค้งและขรุขระเหมือนเคย แต่ครั้งนี้บรรยากาศในรถเต็มไปด้วยความเงียบที่หนักแน่น พ่อใหญ่คำพูดขึ้น "ถ้าเราชนะ หมู่บ้านเราจะปลอดภัย" เขาพูด "แต่ถ้าแพ้..." เขาหยุดพูด ป้าสายต่อ "เราจะสู้ต่อ" นางพูด "เราไม่ยอมแพ้"

ภีมมองทุกคน "ไม่ว่าแพ้หรือชนะ ผมจะอยู่ที่นี่" เขาพูด กันต์หันมามอง "คุณพูดจริง" เขาถาม ภีมพยักหน้า "จริง" เขาตอบ "ที่นี่คือบ้านของผมแล้ว" ลุงชัยหัวเราะ "เจ้าภีมนี่พูดได้ดี" เขาพูด "กันต์โชคดีที่มีคนแบบนี้"

เมื่อถึงศาลในเมือง อาคารสูงตระหง่านเต็มไปด้วยผู้คนเหมือนครั้งก่อน ทนายสมชายรออยู่ที่หน้าประตู "พร้อมแล้ว" เขาพูด "ผมมั่นใจในหลักฐานของเรา" กันต์พยักหน้า "เราเชื่อคุณ" เขาตอบ ภีมมองเขา "เราเชื่อในตัวเราด้วย" เขาเสริม กันต์ยิ้ม "ใช่" เขาพูด

ในห้องพิจารณาคดี บรรยากาศตึงเครียดยิ่งกว่าครั้งก่อน ทนายของบริษัทลุกขึ้นพูด "ที่ดินนี้ถูกทิ้งร้างมานาน และสัญญาเก่าไม่มีผลตามกฎหมายปัจจุบัน" เขาย้ำ "ชุมชนไม่มีสิทธิ์ครอบครอง" ทนายสมชายโต้กลับ "เรามีหลักฐานว่าที่ดินนี้ถูกดูแลโดยชุมชนมาโดยตลอด" เขาพูด "และสัญญาเก่ายังมีผลผูกพันตามเจตนาของผู้ให้"

ผู้พิพากษานั่งฟังอย่างเงียบขรึม เขามองเอกสารทั้งสองฝ่าย "คดีนี้มีความซับซ้อน" เขาพูด "แต่หลักฐานของทั้งสองฝ่ายชัดเจน" ทุกคนในห้องนั่งรอด้วยลมหายใจที่แทบหยุดนิ่ง "หลังจากพิจารณาแล้ว" ผู้พิพากษาเริ่ม "ศาลตัดสินว่า ที่ดินนี้เป็นของชุมชนตามสัญญาเก่า และการขายโดยบุคคลที่สามไม่มีผล"

กันต์และภีมมองหน้ากันด้วยความโล่งใจ ทนายสมชายยิ้ม "เราชนะ" เขาพูด พ่อใหญ่คำตบไหล่กันต์ "เราทำได้" เขาพูด ป้าสายน้ำตาคลอ "เรารักษาที่ดินไว้ได้" นางพูด ภีมมองทุกคน "ขอบคุณที่สู้ด้วยกัน" เขาพูด

ทนายของบริษัทเดินออกไปด้วยสีหน้าไม่สู้ดี กันต์หันไปหาภีม "คุณพูดถูก" เขาพูด "เราชนะ" ภีมยิ้ม "ผมบอกแล้ว" เขาตอบ "แต่เราไม่ชนะแค่ในศาล เราได้อะไรที่มากกว่านั้น"


เมื่อกลับถึงหมู่บ้านในช่วงบ่าย ชาวบ้านมารวมตัวกันที่ศาลากลางเพื่อรอฟังผล กันต์ก้าวออกมา "เราชนะคดี" เขาประกาศ เสียงเฮดังลั่นไปทั่วหมู่บ้าน ชายหนุ่มคนหนึ่งตะโกน "ไร่ชาของเราปลอดภัยแล้ว!" หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งวิ่งมา กอดป้าสาย "เราทำได้!" นางพูด

พ่อใหญ่คำพูดขึ้น "นี่ไม่ใช่แค่ชัยชนะของกันต์หรือภีม" เขาพูด "มันเป็นชัยชนะของเราทุกคน" ภีมมองทุกคนด้วยความซาบซึ้ง "ผมดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง" เขาพูด กันต์วางมือบนไหล่เขา "คุณเป็นมากกว่านั้น" เขาพูด ภีมหน้าแดง "เลิกพูดแบบนี้ได้ไหม" เขาบ่น กันต์หัวเราะ "ไม่ได้" เขาตอบ

ลุงชัยยกมือ "เราควรฉลอง!" เขาพูด ชาวบ้านเห็นด้วย ป้าสายบอกว่าจะไปเตรียมอาหาร "เราจะกินข้าวด้วยกันคืนนี้" นางพูด "และเอาชาที่เราคั่วมาชงด้วย" ภีมยิ้ม "ผมจะช่วย" เขาพูด กันต์มองเขา "ผมด้วย" เขาเสริม


ช่วงเย็น หมู่บ้านเต็มไปด้วยความคึกคัก โต๊ะไม้ถูกตั้งเรียงกันที่ศาลากลาง ชาวบ้านนำอาหารมาแบ่งปัน ข้าวเหนียว ไก่ย่าง และผักต้มวางเต็มโต๊ะ ป้าสายยกชาที่เพิ่งคั่วเสร็จมาให้ทุกคนชิม "ลองดู" นางพูด "นี่คือชาไร่เขา" กันต์หยิบถ้วยมาดื่ม "หอมดี" เขาพูด ภีมลองบ้าง "อร่อยจริงๆ" เขาเสริม

พ่อใหญ่คำยกถ้วยชาขึ้น "ขอบคุณกันต์และภีม" เขาพูด "ถ้าไม่มีสองคนนี้ เราคงไม่ชนะ" ชาวบ้านปรบมือ กันต์มองภีม "คุณสมควรได้คำขอบคุณมากกว่าผม" เขาพูด ภีมส่ายหน้า "เราได้ด้วยกัน" เขาตอบ "ผมแค่ช่วยนิดหน่อย"

ลุงชัยพูดขึ้น "แล้วสหกรณ์ชาล่ะ" เขาถาม "เราจะทำต่อไหม" กันต์ตอบ "ทำต่อ" เขาพูด "ตอนนี้ที่ดินปลอดภัยแล้ว เราจะทำให้มันดีขึ้น" ภีมเสริม "ผมจะช่วยหาตลาดในเมือง" เขาพูด "เราจะทำให้ชาไร่เขาไปไกลกว่านี้"

ชายหนุ่มคนหนึ่งยกมือ "ผมจะช่วยปลูกชาเพิ่ม" เขาพูด หญิงสาวคนหนึ่งพูดต่อ "ฉันจะช่วยแพ็ค" เธอพูด "เราจะทำด้วยกัน" บรรยากาศเต็มไปด้วยความหวังและพลัง ชัยชนะในศาลกลายเป็นจุดเริ่มต้นของอะไรที่ใหญ่กว่านั้น


วันต่อมา กันต์และภีมลงไปที่ไร่ชาเพื่อวางแผนขยายแปลง "เราจะปลูกเพิ่มอีกสองแปลง" กันต์พูด "และซ่อมโรงคั่วให้ดีขึ้น" ภีมมองเขา "แล้วเราจะหาเงินจากไหน" เขาถาม กันต์ตอบ "เราจะเริ่มจากชาที่มีอยู่" เขาพูด "และถ้าคุณหาตลาดได้ เราจะมีเงินหมุน"

ภีมพยักหน้า "ผมจะติดต่อเพื่อนในเมือง" เขาพูด "เขาคงช่วยได้" กันต์ยิ้ม "คุณนี่มีประโยชน์จริงๆ" เขาพูด ภีมหน้าแดง "เลิกแซวผมได้ไหม" เขาบ่น กันต์หัวเราะ "ไม่ได้" เขาตอบ "ผมชอบ"

ขณะที่ทั้งสองคุยกัน แดงจากหมู่บ้านข้างๆ เดินเข้ามา "กันต์ ภีม!" เขาเรียก "ผมมีข่าวดี" กันต์หันไปมอง "อะไรครับ" เขาถาม แดงยิ้ม "หมู่บ้านผมอยากร่วมสหกรณ์ด้วย" เขาพูด "เราจะช่วยปลูกชาและแบ่งผลกำไรกัน" ภีมตาโต "จริงเหรอครับ" เขาถาม

"จริง" แดงตอบ "ถ้าชาไร่เขาดังขึ้น หมู่บ้านเราจะได้ประโยชน์ด้วย" กันต์มองภีม "คุณว่าไง" เขาถาม ภีมตอบ "ผมว่าดี" เขาพูด "ยิ่งคนช่วยเยอะยิ่งดี" กันต์พยักหน้า "ตกลง" เขาตอบ "เราจะคุยกันให้ชัดเจน"


คืนนั้น กันต์และภีมนั่งหน้ากระท่อม มองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว "ทุกอย่างดีขึ้นเยอะ" ภีมพูด กันต์มองเขา "ใช่" เขาตอบ "และมันดีขึ้นเพราะคุณ" ภีมหน้าแดง "เลิกพูดแบบนี้ได้ไหม" เขาบ่น กันต์ยิ้ม "ไม่ได้" เขาพูด "ผมพูดจริง"

ลุงชัยเดินมาหา "พรุ่งนี้เราจะเริ่มขยายไร่ไหม" เขาถาม กันต์พยักหน้า "เริ่ม" เขาตอบ "เราจะทำให้ไร่ชาดีที่สุด" ภีมมองเขา "ผมจะอยู่ช่วยไปนานๆ" เขาพูด กันต์วางมือบนไหล่เขา "ดี" เขาตอบ "เพราะผมไม่อยากให้คุณไปไหน"

ความเงียบครอบงำทั้งคู่ แต่เป็นความเงียบที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและความผูกพัน ไร่ชากำลังจะเติบโต และชีวิตของกันต์กับภีมก็เช่นกัน