เรื่องราวชีวิต ของนักศึกษาแพทย์ เพิร์ธ ที่ต้องใช้ชิวิตโดยซ่อนความลับตัวเองไม่ให้ไครรู้ และเพื่อนสุดจะสนิท กิต ที่ฉลาดเป็นกรด แล้วเค้ายังเป็นเดียวที่ความลับของเพิร์ธ

Deadline |ขีดเส้นใต้(ตาย) ความรักสองเรา - บทที่ 3.1 ต่อ โดย วิจิตราวดี @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,โอเมกาเวิร์ส,รัก,เล่าประสบการณ์,ผู้ใหญ่,omegaverse,โอเมกาเวิร์ส,Boylove/Yaoi,Boy Love,นักศึกษา,มหาวิทยาลัย,มหาลัย,น่ารัก,ดราม่า,รักวัยรุ่น,ความรัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Deadline |ขีดเส้นใต้(ตาย) ความรักสองเรา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,โอเมกาเวิร์ส,รัก,เล่าประสบการณ์,ผู้ใหญ่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

omegaverse,โอเมกาเวิร์ส,Boylove/Yaoi,Boy Love,นักศึกษา,มหาวิทยาลัย,มหาลัย,น่ารัก,ดราม่า,รักวัยรุ่น,ความรัก

รายละเอียด

Deadline |ขีดเส้นใต้(ตาย) ความรักสองเรา โดย วิจิตราวดี @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เรื่องราวชีวิต ของนักศึกษาแพทย์ เพิร์ธ ที่ต้องใช้ชิวิตโดยซ่อนความลับตัวเองไม่ให้ไครรู้ และเพื่อนสุดจะสนิท กิต ที่ฉลาดเป็นกรด แล้วเค้ายังเป็นเดียวที่ความลับของเพิร์ธ

ผู้แต่ง

วิจิตราวดี

เรื่องย่อ

🛑 Trigger Warning


[Omegaverse] [Feral Behavior / Instincts] [Possessiveness / Dominance] [Intimate Scenes] [Drama] [Blood] [Teasing] [Power Dynamics] [Lost / Vulnerability] [Pheromones / Scent Dynamics] [Slow Burn / Romantic Tension] [Protective Partner] [Humor / Light-hearted Moments] [Emotional Manipulation] [Jealousy / Envy Themes]

คำอธิบาย | เพิ่มเติมใน แนะนำตัวละคร





ตัวอย่างความ สนุก(เสว)

เพิร์ธยังไม่ทันได้ตั้งตัว กิตก็ใช้สิทธิ์ของตัวเองทันที กิตจับข้อมือของเพิร์ธเบาๆ ก่อนจะออกแรงดึงให้เข้ามาใกล้

"ก็ฉันชนะนี่นา… นายเองก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะให้ฉันทำอะไรก็ได้กับร่างกายนาย"

เพิร์ธขมวดคิ้วทันที พยายามดึงมือกลับแต่ไม่สำเร็จ

"เดี๋ยว! นี่มันไม่แฟร์! ฉันไม่คิดว่านายจะเอาจริงขนาดนี้!"

กิตหัวเราะในลำคอ มืออีกข้างเลื่อนมาจับเอวเพิร์ธหลวมๆ

"งั้นก็คิดซะใหม่ละกัน"

เพิร์ธรีบยกมือขึ้นดันอกแน่นๆ ของกิต "เฮ้ย! นายจะทำอะไร?! ปล่อยเลยนะ!"

กิตโน้มหน้าเข้ามาใกล้อีกนิด สายตาคมเป็นประกาย

"ก็แค่… ใช้สิทธิ์ของฉันนิดหน่อย"

เพิร์ธเบิกตากว้าง รู้สึกได้ว่านิ้วยาวของกิตค่อยๆ เลื่อนมาจับที่คางอย่างเบามือ

"เดี๋ยว… กิต… เดี๋ยวก่อน…"

กิตเอียงคอเล็กน้อย มองใบหน้าที่เริ่มขึ้นสีของเพิร์ธอย่างพอใจ

"อะไร? กลัวเหรอ?"

เพิร์ธสะบัดหน้าหนี ไม่กล้าสบตา

"ไม่ได้กลัวสักหน่อย!"

กิตหัวเราะ ก่อนจะกระซิบข้างหูเบาๆ

"แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะ"

เพิร์ธสะดุ้ง รีบผลักกิตออกทันที

"บ้าบอ! นายมันเจ้าเล่ห์! หยุดแกล้งฉันสักที!"

กิตหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้นแบบยอมแพ้

"โอเคๆ ไม่แกล้งแล้วก็ได้…"

แต่ดวงตาของเขายังคงเป็นประกายเจ้าเล่ห์อยู่

"แต่ก็… นายแพ้แล้วนะเพิร์ธ ฉันก็แค่ทำตามข้อตกลงของเราเอง"

เพิร์ธเม้มปากแน่นก่อนจะหันหน้าหนี หัวใจยังเต้นแรงไม่หยุด

*ให้ตายสิไอ้เจ้าอัลฟ่านี่…มันอันตรายจริงๆ *

เพิร์ธได้แต่คิดในใจเพราะตอนนี้ สถานการณ์มันสุ่มเสี่ยงสุ่มเสว




#ขีดเส้นใต้(ตาย) ความรักสองเรา 

| For u my sunshine. For you my little child . For you forever . Just for you my… |

| I wish your soul ,well be fine in heaven , I wish… |


สารบัญ

Deadline |ขีดเส้นใต้(ตาย) ความรักสองเรา-บทที่ 1 อารัมภบท,Deadline |ขีดเส้นใต้(ตาย) ความรักสองเรา-บทที่ 2 ชีวิตเสี่ยงๆของ นศ.แพทย์ท่านนึง,Deadline |ขีดเส้นใต้(ตาย) ความรักสองเรา-บทที่ 0 แนะนำตัวละคร,Deadline |ขีดเส้นใต้(ตาย) ความรักสองเรา-บทที่ 3 ความค้างคาที่ติดตัว,Deadline |ขีดเส้นใต้(ตาย) ความรักสองเรา-บทที่ 3.1 ต่อ

เนื้อหา

บทที่ 3.1 ต่อ

"จะกลับเลยเหรอ?"

กิตถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะแฝงความเป็นห่วง เพิร์ธเม้มปากเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า

"อืม... พ่อว่าถ้าอยู่ต่อก็คงไม่ดีขึ้น"

กิตนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ แล้วหยิบเสื้อแจ็กเก็ตของตัวเองมายัดใส่มือเพิร์ธ

"เอาไปใส่กันหนาว เดี๋ยวเป็นไข้ขึ้นอีก"

เขารับเสื้อนั้นมา กำมันไว้แน่น รู้สึกถึงกลิ่นของกิตที่ยังติดอยู่ชัดเจน

พ่อพอลมองภาพนั้นแล้วแอบยิ้มนิด ๆ ก่อนจะพูดขึ้น

"งั้นไปกันเถอะ เดี๋ยวพ่อขับรถให้"

พ่อราฟพยุงเราช้า ๆ และพ่อพอลเดินนำหน้าออกไป ส่วนกิต... เขายืนมองเพิร์ธตรงนั้น ไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาเขาเหมือนจะบอกว่า

"พักผ่อนดี ๆ นะ"

เพิร์ธกำเสื้อของเขาไว้แน่นขึ้นอีกนิด ก่อนจะเดินออกจากคอนโดไปพร้อมพ่อทั้งสองคน



พ่อพอลพอพ่อราฟพาเพิร์ธขึ้นรถได้ ก็รีบออกรถตรงไป โรงบาลทันที พ่อราฟถามมาด้วยความสงสัย

"ไปทำไม"

พ่อพอลก็ถอนหายใจแล้วตอบไป

"ไปตรวจ น่ะว่ากิตมันไม่ได้ทำจริง แล้วก็ตรวจอะไรหลายอย่าง"

เพิร์ธนั่งเงียบอยู่เบาะหลัง กอดเสื้อแจ็กเก็ตของกิตไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว รู้ว่าพ่อพอลห่วงเขา แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอาย

"พ่อ... ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้" เพิร์ธพูดเบา ๆ มองออกไปนอกหน้าต่าง

"ต้องสิ"

พ่อพอลสวนกลับทันที

"นี่มันรอบฮีท แล้วลูกก็อยู่กับกิตสองต่อสองตั้งหลายชั่วโมง พ่อไม่เชื่อใจใครทั้งนั้น"

พ่อราฟถอนหายใจเบา ๆ แต่ไม่ได้ห้ามอะไร ดูเหมือนจะเห็นด้วยกับพ่อพอล

"แค่ตรวจให้แน่ใจก็ไม่เสียหายหรอกนะลูก" พ่อราฟหันมาพูดกับเพิร์ธเสียงอ่อนโยน

"อย่างน้อยพ่อจะได้สบายใจ ว่าลูกปลอดภัยจริง ๆ"

เพิร์ธก้มหน้าลง มือกำเสื้อกิตแน่นขึ้น ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ

"เข้าใจแล้วครับ"

พ่อพอลขับรถเร็วแต่ก็ยังปลอดภัย จนในที่สุด รถก็มุ่งตรงสู่โรงพยาบาล...

พอถึงโรงบาล และถึงมือหมอ หมอเริ่มจากการตรวจร่างกายทั่วไปก่อน ทั้งวัดความดัน ชีพจร อุณหภูมิร่างกาย ก่อนจะเข้าสู่การตรวจละเอียดเกี่ยวกับอาการฮีทของเรา

"จากประวัติที่เล่าให้ฟัง "

"ฮีทของคุณเกิดขึ้นเพราะลืมกินยาระงับตอนเช้าใช่ไหมครับ?"

หมอถามขณะตรวจ

"ครับ" เพิร์ธตอบเบา ๆ

รู้สึกอายที่พ่อพอลกับพ่อราฟนั่งฟังอยู่ด้วย

"แล้วก่อนหน้านี้เคยมีอาการฮีทหนักแบบนี้ไหม หรือเป็นแค่ช่วง ๆ?"

"เคยครับ… ตอน ม.4" เพิร์ธตอบ แต่ไม่กล้าสบตาหมอ

หมอพยักหน้าแล้วจดบันทึก

"ครั้งนั้นมีอาการหนักขนาดนี้ไหมครับ หรือเบากว่านี้?"

เขานิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนตอบ

"เบากว่านี้ครับ แต่ก็ลำบากพอสมควร"

หมอพยักหน้า

"ดูจากอาการแล้ว รอบฮีทครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรงกว่าปกติ"

"คาดว่ามีผลมาจากความเครียดสะสม และการได้รับฟีโรโมนของอัลฟ่าที่เข้มข้น"

หมอหยุดเล็กน้อยก่อนเสริม

"คุณกิตเป็นเพียวอัลฟ่าใช่ไหมครับ?"

"ครับ" เพิร์ธตอบเบา ๆ

พ่อพอลที่นั่งฟังอยู่ดูมีสีหน้าที่อ่านไม่ออก ขณะที่พ่อราฟถอนหายใจเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น

"แบบนี้ต้องปรับยาไหมครับหมอ?"

"ใช่ครับ อาจต้องเปลี่ยนสูตรยาให้เหมาะสมกว่านี้"

” และควรพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินเพิ่มเติม”

"ว่าร่างกายตอบสนองต่อฮีทปกติ หรือมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย"

พ่อพอลฟังแล้วพูดเสียงเข้ม

"สรุปว่ากิตมันไม่ได้ทำอะไรลูกผมแน่นะ?"

หมอเหลือบตามองเราก่อนจะตอบ

"จากการตรวจร่างกาย ไม่มีร่องรอยการถูกล่วงละเมิดครับ ทุกอย่างยังปกติ"

เขารู้สึกหน้าแดงขึ้นมาทันที

"พ่อ! ถามอะไรเนี่ย"

พ่อราฟหัวเราะเบา ๆ แล้วตบบ่าพ่อพอล

"เห็นไหมล่ะ ไม่มีอะไรหรอก หายห่วงได้แล้ว"

แต่พ่อพอลยังดูจริงจัง

"ก็ดี…แต่คราวหน้าถ้าฮีทอีก ห้ามอยู่กับกิตตามลำพังเด็ดขาด เข้าใจไหม?"

เพิร์ธเม้มปากแน่นก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ
 

หมอจัดการนัดหมายให้เพิร์ธเข้าพบแพทย์เฉพาะทางด้านโอเมก้าอีกสองวันข้างหน้า เพื่อประเมินอาการฮีทของเราโดยละเอียด และปรับยาหรือวิธีการดูแลให้เหมาะสม

"ระหว่างนี้ให้พักผ่อนเยอะ ๆ ดื่มน้ำมาก ๆ"

"แล้วก็พยายามหลีกเลี่ยงฟีโรโมนของอัลฟ่าโดยตรงนะครับ" หมอพูดพลางยิ้มบาง ๆ

เขาพยักหน้ารับ

พ่อราฟลูบหัวเพิร์ธเบา ๆ

"พรุ่งนี้ไม่ต้องไปเรียน พักอยู่บ้านก่อนนะลูก"

พ่อพอลเสริมเสียงเข้ม

"แล้วอย่าลืมกินยาตามเวลาล่ะ ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก"

เขาได้แต่พยักหน้ารับเงียบ ๆ พอออกจากห้องตรวจ พ่อพอลก็ยังคงขมวดคิ้วเหมือนคิดอะไรบางอย่าง ส่วนพ่อราฟดูเหมือนจะใจเย็นลงแล้ว

"กลับบ้านกันเถอะ"

พ่อราฟพูด ก่อนที่พ่อพอลจะเดินนำออกไปตรงลานจอดรถ เพิร์ธเดินตามไปเงียบ ๆ แต่ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่า…กิตจะรู้เรื่องที่พ่อพ่อพาเรามาตรวจไหมนะ?
 

และพอถึงบ้านพ่อราฟก็ค่อยๆ พยุงเพิร์ธลงจากรถ และ คุณแม่บ้านเฟีย,เซอร์ (ทั้งคู่เป็นเบต้า) ก็เดินออกมารับ คุณแม่บ้านเฟียกับเซอร์รีบเดินเข้ามาหาเขาด้วยสีหน้าเป็นห่วง

"คุณหนูเพิร์ธเป็นยังไงบ้างคะ?"

เฟียถามเสียงนุ่มพลางยื่นมือมาช่วยพยุงเพิร์ธอีกแรง

เซอร์เองก็มองเราด้วยสายตาเป็นกังวล

"ให้ผมไปเตรียมห้องให้เลยไหมครับ?"

พ่อราฟพยักหน้า

"อืม เตรียมห้องให้เรียบร้อย แล้วเอาน้ำอุ่นกับผ้าขนหนูมาไว้ด้วย"

เขาถูกพยุงเข้าไปในบ้านช้า ๆ กลิ่นอบอุ่นของบ้านทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย แต่เพราะร่างกายยังอ่อนเพลียจากฮีท ทำให้เพิร์ธซบพ่อราฟไว้ตลอดทาง

พ่อพอลที่เดินตามมาห่าง ๆ เอ่ยขึ้นเสียงเข้ม

"คืนนี้ให้เฟียคอยดูแลเพิร์ธด้วย เซอร์ด้วย"

"ค่ะ/ครับ" แม่บ้านทั้งสองตอบรับทันที

เพิร์ธถูกพาไปที่ห้องนอน ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้อย่างดี พ่อราฟช่วยให้เขาล้มตัวลงนอน แล้วดึงผ้าห่มมาคลุมให้

"พักผ่อนเยอะ ๆ นะลูก ถ้ามีอะไรเรียกเฟียได้ตลอด"

พ่อราฟพูดเสียงอ่อนโยน

พ่อพอลที่ยืนกอดอกอยู่มองเราด้วยสายตาจับสังเกต ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ

"ถ้ารู้สึกไม่ดีขึ้น หรือมีอะไรผิดปกติ บอกพ่อทันที เข้าใจไหม?"

เพิร์ธเงยหน้ามองพ่อพอลแล้วพยักหน้าเบา ๆ

"ครับ…"

คืนนี้ดูเหมือนจะยาวนานอีกคืน…

เพิร์ธก็นอนกอดเสื้อกันหนาวที่กิตให้มาแบบแน่นตลอดคืน กลิ่นของกิตกลิ่นฟีโรโมน

กลิ่นของกิตยังคงติดอยู่บนเสื้อกันหนาวที่เพิร์ธกอดแน่น มันอบอุ่นและให้ความรู้สึกปลอดภัย ถึงแม้จะอยู่ที่บ้านแล้ว แต่ร่างกายก็ยังคงรับรู้ถึงผลกระทบของฮีทที่ยังไม่หายดี

เขาเบียดตัวเข้ากับผ้านุ่ม ๆ หายใจลึก ๆ ซุกหน้าลงไปกับเสื้อของกิต กลิ่นฟีโรโมนจาง ๆ ยังคงติดอยู่ ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ในความเงียบของห้อง เพิร์ธค่อย ๆ ปิดเปลือกตาลง แต่ร่างกายยังร้อนวูบวาบเป็นระยะ ฮีทอ่อน ๆ ยังหลงเหลืออยู่เล็กน้อย แม้จะไม่รุนแรงเหมือนตอนกลางวัน แต่ก็ทำให้รู้สึกกระสับกระส่ายอยู่ดี

เพิร์ธขยับตัวนิดหน่อย กอดเสื้อกันหนาวแน่นขึ้นกว่าเดิม แล้วพึมพำเบา ๆ กับตัวเอง

"กิต…"

ก่อนที่สติจะค่อย ๆ เลือนหายไปพร้อมกับความง่วง


 

ในความฝัน ทุกอย่างเริ่มต้นอย่างปกติ เพิร์ธอยู่กับกิต ออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเดินเล่น นั่งกินข้าว หรือแค่คุยกันธรรมดา ทุกอย่างดูเหมือนจริงมาก จนรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากตัวกิต กลิ่นของเขายังคงชัดเจน

แต่แล้ว ความฝันก็เปลี่ยนไป…

บรรยากาศรอบตัวค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความรู้สึกอบอ้าว ร่างกายเหมือนถูกโอบล้อมด้วยไออุ่นจากกิต เพิร์ธรู้สึกได้ถึงลมหายใจของเขา เสียงของเขาที่กระซิบอยู่ข้างหู ทุกสัมผัสของเขาทำให้เพิร์ธตัวสั่น และทุกการเคลื่อนไหวของเขาทำให้เขาหายใจติดขัด

เพิร์ธไม่อาจควบคุมตัวเองได้เลย ร่างกายตอบสนองต่อกิตอย่างสมบูรณ์แบบ ได้แต่จมดิ่งลงไปในฝันที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอ่อนไหว ร้อนผ่าว และยากจะต้านทาน

"เพิร์ธ…"

เสียงของกิตเรียกชื่อเราด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์

แล้วทันใดนั้น—

เพิร์ธก็สะดุ้งตื่น

ร่างกายยังคงร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรง มือยังคงกอดเสื้อของกิตไว้แน่น และกลิ่นของเขาก็ยังคงอยู่รอบตัวเขา…


 

ร่างกายร้อนจัดจนทนไม่ไหว เรานอนบิดตัวไปมา รู้สึกเหมือนมีบางอย่างจุกแน่นอยู่ในอก ความรู้สึกในฝันยังคงชัดเจนอยู่ในหัว เราหายใจติดขัด กลิ่นฟีโรโมนของกิตที่ติดอยู่กับเสื้อกันหนาวยังคงโอบล้อมเราเอาไว้ ทำให้ร่างกายยิ่งไวต่อความรู้สึกมากขึ้น

"อื้อ…"

เราเผลอครางออกมาเบา ๆ ขณะที่พยายามขยับตัวเพื่อหาท่าที่ทำให้รู้สึกดีขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่ามันยิ่งกระตุ้นความรู้สึกมากกว่าเดิม

มือของเราเผลอกำเสื้อของกิตแน่นขึ้น ซุกหน้าลงกับเนื้อผ้าที่มีกลิ่นของเขาอยู่เต็มไปหมด

"กิต..." เราเผลอเรียกชื่อเขาออกมาอย่างไม่รู้ตัว ร่างกายเหมือนกำลังโหยหาบางอย่างที่ขาดหายไป

แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากนอนบิดไปมาอยู่แบบนั้น…

พอเช้ามา แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านม่านเข้ามาในห้อง เราค่อย ๆ ลืมตาขึ้น รู้สึกถึงความอบอุ่นที่โอบล้อมตัวอยู่

"หืม?"

เราก้มลงมองตัวเอง แล้วก็ต้องชะงักไปเล็กน้อย เพราะเสื้อกันหนาวของกิตที่เมื่อคืนยังอยู่ในอ้อมแขน ตอนนี้เราดันเอามาสวม—หรือเรียกว่าห่มก็ได้—คลุมตัวทั้งตัว เสื้อของกิตมันใหญ่จนปิดมิดแทบจะครึ่งตัวเราเลย

กลิ่นของกิตยังคงติดอยู่บนเนื้อผ้า กลิ่นฟีโรโมนของเขายังอ่อน ๆ รอบตัวเรา

"อือ..."

เราซุกหน้าลงกับแขนเสื้อโดยไม่รู้ตัว เหมือนเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติ

พ่อราฟที่เดินเข้ามาพอดี มองเราแล้วยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเอ็นดูปนเหนื่อยใจ

"หืม… แล้วนั้นใส่เสื้อของกิตไว้ทำไมล่ะ"

"คิดถึงเจ้าเพื่อนคนนั้นหลอลูก"

เราเม้มปากแน่น ไม่ตอบอะไร แต่กลับซุกหน้าลงไปกับแขนเสื้อของกิตมากกว่าเดิม

พ่อราฟเห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะยื่นมือมาลูบหัวเราเบา ๆ

"คิดถึงก็โทรหาสิลูก หรือไม่ก็ให้กิตมาหา"

"แต่ถ้าจะนอนกอดเสื้อเค้าแบบนี้ทุกคืน พ่อว่ามันก็เกินไปหน่อยนะ"

พ่อราฟพูดด้วยน้ำเสียงล้อ ๆ

เราเงยหน้าขึ้นมองพ่อราฟ หน้าเริ่มร้อนขึ้นมาหน่อย ๆ

"ก็ไม่ได้คิดถึงขนาดนั้นซะหน่อย…"

พูดออกไปเบา ๆ แต่ก็ยังไม่ปล่อยเสื้อออกจากตัว

พ่อราฟหัวเราะเบา ๆ

"เหรอครับ?"

ดวงตาของพ่อดูเหมือนรู้ทันทุกอย่าง เราเลยเลือกที่จะเบือนหน้าหนี

"ไปล้างหน้าล้างตาเถอะลูก เดี๋ยวพ่อทำอาหารเช้าให้"

พ่อราฟลูบหัวเราอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นไทิ้และเดินออกไปทิ้งให้เรานั่งอยู่บนเตียง กอดเสื้อของกิตแน่นเหมือนเดิม…

พอเพิร์ธกำลังจะลุกไปล้างหน้า โทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างเตียงก็ดังขึ้น

— ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด —

เขาหยิบขึ้นมาดู หน้าจอขึ้นชื่อ "กิต"

ใจเพิร์ธสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะกดรับสายแบบเร็ว ๆ

"…ฮัลโหล" เสียงเพิร์ธยังงัวเงียเล็กน้อยจากที่เพิ่งตื่น

"ตื่นแล้วเหรอ"

ปลายสายถามกลับมา เสียงของกิตฟังดูปกติ แต่เราสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่ดู…แปลก ๆ

"อืม…"

ะขาตอบเบา ๆ ก่อนจะเผลอซุกหน้าลงกับแขนเสื้อของกิตที่เราสวมอยู่

"เมื่อคืนหลับสบายมั้ย?"

คำถามของกิตทำให้เพิร์ธชะงักไปนิดหน่อย ก่อนจะตอบเสียงเบา

"ก็…โอเค…"

"แน่ใจน่ะ"

น้ำเสียงของกิตดูเหมือนจะแฝงอะไรบางอย่างที่เพิร์ธจับไม่ได้ เพิร์ธกัดปากแน่น ไม่รู้จะตอบอะไรดี แต่สุดท้ายก็พูดออกไปเบา ๆ

"ก็…ฝันแปลก ๆ นิดหน่อย…"

"หืม…~ฝันว่าอะไร~"

เพิร์ธกัดริมฝีปากแน่นกว่าเดิม หน้าเริ่มร้อนขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ

"มะ…ไม่บอก!"

ปลายสายเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของกิต

"อืม ไม่บอกก็ไม่บอก"

เพิร์ธถอนหายใจโล่งอก คิดว่ากิตคงไม่ถามต่อแล้ว…แต่เปล่าเลย

"แต่เมื่อคืนเราฝันถึงกันใช่มั้ย"

"!!!"


 

"ไม่มีทาง!" เขารีบเถียงกลับทันที ใจเต้นแรงขึ้นมาเองโดยไม่รู้ตัว

ปลายสายหัวเราะเบา ๆ

"เหรอ? แต่เสียงนายตอนนี้มันน่าสงสัยชะมัดเลยนะ"

"ฉันไม่ได้ฝันถึงนายสักหน่อย!"

เพิร์ธพยายามปฏิเสธสุดชีวิต แต่ยิ่งพูดมากเท่าไหร่ มันยิ่งดูเหมือนเรากำลังแก้ตัว

"โอเค ๆ ก็ได้ ไม่ฝันถึงก็ไม่ฝันถึง"

กิตพูดเสียงเนือย ๆ เหมือนไม่ได้ใส่ใจ แต่ทำไมเรารู้สึกว่ามันต้องมีอะไรแฝงอยู่แน่ๆ เพิร์ธกอดเสื้อของกิตแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว กลิ่นของเจ้าตัวที่ติดอยู่มันยังชัดเจนไม่จางหายไปไหนเลย

"แล้วเป็นไงบ้าง"

กิตถามต่อ เสียงดูจริงจังขึ้นกว่าเดิม

"ก็…ดีขึ้นแล้วล่ะ"

เพิร์ธตอบเบา ๆ จริง ๆ ก็ยังรู้สึกโหวง ๆ อยู่บ้าง แต่ก็ดีกว่าเมื่อวานเยอะแล้ว

"อืม ดีแล้ว"

กิตพูดเสียงเรียบ แต่เพิร์ธรู้ว่ามันคือคำพูดที่แฝงความเป็นห่วงอยู่ เขากำโทรศัพท์แน่นขึ้น ไม่รู้ทำไมอยู่ดี ๆ ก็ไม่อยากให้บทสนทนานี้จบลงเลย…


 

"ก็…ไปสิ"

เพิร์ธตอบแบบลังเลนิดหน่อย เพราะจริง ๆ ก็ยังมึน ๆ อยู่

"แน่ใจน่ะ เด็กดื้อ"

กิตถามย้ำ เสียงดูไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่

"แน่ใจดิ"

เพิร์ธตอบกลับทันที ไม่อยากให้กิตมองว่าเราอ่อนแอเกินไป

"ถ้ามาแล้วเวียนหัวหรือไม่ไหว บอกฉันทันที เข้าใจไหม"

"รู้แล้วน่า~"

เพิร์ธลากเสียงยาว ทำไมกิตถึงดูเป็นห่วงขนาดนี้ก็ไม่รู้

"ดี… ฉันไปรอที่มหาลัยนะ อย่ามัวโอ้เอ้ล่ะ"

กิตพูดทิ้งท้ายก่อนจะวางสายไป เขามองโทรศัพท์ในมือแล้วเผลอยิ้มออกมาเล็กน้อย… ' เอาล่ะ! ต้องรีบไปอาบน้ำเตรียมตัวไปเรียนแล้ว! '

เพิร์ธยืนมองตัวเองในกระจก หน้ายังขึ้นสีแดง ๆ นิดหน่อย พอนึกถึงฝันเมื่อคืนก็ยิ่งรู้สึกอายหนักเข้าไปอีก

"บ้าเอ้ย… ฝันอะไรของเราวะเนี่ย!" เพิร์ธพึมพำกับตัวเองก่อนจะเอามือกุมหน้าด้วยความเขิน

ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามันชัดเกินไป ทุกสัมผัส ทุกความรู้สึกมันเหมือนจริงมากเกินไป

"หยุดคิดได้แล้วเพิร์ธ! ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลย!"

พูดกับตัวเองจบก็รีบเปิดน้ำล้างหน้าทันที เอาไอ้ความคิดพวกนั้นออกไปให้หมด! วันนี้ต้องไปเรียน จะมามัวเขินกับฝันเมื่อคืนไม่ได้เด็ดขาด!


 

เพิร์ธเลือกเสื้อเชิ้ตตัวสวย สีที่เข้ากับผิวขาว ๆ ของตัวเอง แมทช์กับกางเกงที่ใส่แล้วดูดีมีสไตล์ ยืนหมุนตัวดูในกระจกนิดหน่อย ก่อนจะยิ้มให้ตัวเองเบา ๆ

"โอเค คนสวยพร้อมไปเรียน!"

หยิบกระเป๋า หยิบของที่ต้องใช้ แล้วเดินออกจากห้องไปแบบมั่น ๆ แต่ในใจก็แอบกังวลนิดหน่อยว่า… วันนี้จะต้องเจอกิตไหม แล้วถ้าเจอ จะทำตัวปกติได้รึเปล่า!?


 

พอลองใส่เสื้อกันหนาวของกิตแล้ว เพิร์ธก็มองตัวเองในกระจก …

เพิร์ธยืนมองตัวเองในกระจก พลิกซ้ายพลิกขวา เสื้อกันหนาวตัวโคร่งของกิตคลุมไปจนถึงสะโพก แขนเสื้อยาวจนเลยมือไปหมด

“ตัวโคตรใหญ่เลยอ่ะ…” เพิร์ธพึมพำกับตัวเอง แล้วลองยกแขนขึ้นสะบัดเบา ๆ เพื่อให้มือโผล่ออกมา

พ่อราฟที่เดินผ่านมาเห็นพอดีถึงกับหัวเราะ “ลูกจะไปเรียนหรือจะไปเป็นก้อนกลมเดินได้กันแน่?”

เพิร์ธมุ่ยหน้า เอามือดึงแขนเสื้อขึ้นมา “ก็เสื้อมันอุ่นดีนี่…”

พ่อราฟยิ้มขำ ๆ “หรือเพราะคิดถึงเจ้าของเสื้อกันแน่?”

เพิร์ธชะงัก หันไปมองพ่อทันที “พ่ออ่ะ!”

พ่อราฟหัวเราะเบา ๆ “แล้วตกลงจะใส่ไปจริงเหรอ? ตัวลูกเล็กนิดเดียว เสื้อกิตตัวใหญ่อย่างกับเสื้อคลุม”

เพิร์ธกอดอกแล้วพยักหน้าหนักแน่น “ก็เสื้อมันอุ่น” พูดจบก็เดินออกจากห้องไป ไม่ได้เถียงอะไรต่อ เพราะยังไงก็ไม่ยอมถอดออกแน่ ๆ

พ่อราฟส่ายหน้าเบา ๆ “เด็กน้อยเอ๊ย…”


 

เพิร์ธเดินลงบันไดไปยังห้องอาหาร กลิ่นอาหารหอม ๆ ลอยมาแตะจมูกจนท้องร้องเบา ๆ

“หิวแล้วสินะคะ คุณเพิร์ธ” แม่บ้านเฟียที่กำลังจัดจานอยู่เอ่ยยิ้ม ๆ

เพิร์ธพยักหน้า เดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะโดนพ่อพอลที่นั่งอยู่ก่อนแล้วมองด้วยสายตาจับผิด

“ใส่เสื้อนั่นไปเรียน?” พ่อพอลถามเสียงเรียบ

เพิร์ธยิ้มแหย ๆ “อื้ม อุ่นดี…”

พ่อพอลมองเสื้อที่ตัวใหญ่เกินตัวของลูกชาย ก่อนจะถอนหายใจ “หึ… กอดเสื้อคนอื่นทั้งคืน ยังจะเอาไปใส่ต่ออีก”

พ่อราฟที่เพิ่งเดินมานั่งหัวเราะเบา ๆ “ก็บอกแล้วว่าเด็กมันคิดถึงเพื่อน”

เพิร์ธรีบก้มหน้าก้มตากินข้าว ไม่อยากโดนแซวมากกว่านี้ แต่ก็ไม่วายได้ยินเสียงพ่อราฟกระซิบกับพ่อพอล

“หรือต้องให้กิตมาเอาเสื้อคืนเองดี?”

เพิร์ธสำลักข้าวทันที “พ่ออ่ะ!!”


 

พอกินหมด เพิร์ธก็เตรียมไปมหาลัย คุณแม่บ้านเซีย ก็เตรียมรถไว้พร้อมแล้ว

เพิร์ธเดินออกมาหน้าบ้าน เห็นคุณแม่บ้านเซียยืนรออยู่ข้างรถแล้ว

“รถพร้อมแล้วค่ะ คุณเพิร์ธ” เซียเอ่ย พลางเปิดประตูรถให้

เพิร์ธพยักหน้า ก้าวขึ้นไปนั่งในรถพร้อมเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ของกิตที่ยังสวมอยู่ พอรถเคลื่อนออกจากบ้าน พ่อราฟก็โทรเข้ามาพอดี

“อยู่ในรถแล้วใช่ไหมลูก?”

“ครับพ่อ”

“อย่าเผลอหลับในรถนะ เดี๋ยวถึงมหาลัยแล้วจะเบลอ”

เพิร์ธยิ้มนิด ๆ “ไม่หลับหรอกน่า”

“อืม… แล้ววันนี้จะแวะไปหากิตไหม” พ่อราฟถามเสียงเนียน ๆ

เพิร์ธสะดุ้ง รีบตอบทันที “ไม่! ไม่ต้องเลย!”

ปลายสายมีเสียงหัวเราะเบา ๆ “พ่อแค่ถามเฉย ๆ”

เพิร์ธถอนหายใจ เงยหน้ามองกระจกข้าง รถกำลังแล่นเข้าสู่เส้นทางที่คุ้นเคยของมหาวิทยาลัยแล้ว

“พ่อ พ่ออย่ากวนผมเลย เดี๋ยวถึงแล้ว”

“จ้า ๆ ตั้งใจเรียนนะลูก”

เพิร์ธวางสายก่อนจะพ่นลมหายใจเบา ๆ แค่เช้า ก็โดนแซวไม่หยุดแล้ว…