เรื่องราวชีวิต ของนักศึกษาแพทย์ เพิร์ธ ที่ต้องใช้ชิวิตโดยซ่อนความลับตัวเองไม่ให้ไครรู้ และเพื่อนสุดจะสนิท กิต ที่ฉลาดเป็นกรด แล้วเค้ายังเป็นเดียวที่ความลับของเพิร์ธ
ชาย-ชาย,โอเมกาเวิร์ส,รัก,เล่าประสบการณ์,ผู้ใหญ่,omegaverse,โอเมกาเวิร์ส,Boylove/Yaoi,Boy Love,นักศึกษา,มหาวิทยาลัย,มหาลัย,น่ารัก,ดราม่า,รักวัยรุ่น,ความรัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
"จะกลับเลยเหรอ?"
กิตถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะแฝงความเป็นห่วง เพิร์ธเม้มปากเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า
"อืม... พ่อว่าถ้าอยู่ต่อก็คงไม่ดีขึ้น"
กิตนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ แล้วหยิบเสื้อแจ็กเก็ตของตัวเองมายัดใส่มือเพิร์ธ
"เอาไปใส่กันหนาว เดี๋ยวเป็นไข้ขึ้นอีก"
เขารับเสื้อนั้นมา กำมันไว้แน่น รู้สึกถึงกลิ่นของกิตที่ยังติดอยู่ชัดเจน
พ่อพอลมองภาพนั้นแล้วแอบยิ้มนิด ๆ ก่อนจะพูดขึ้น
"งั้นไปกันเถอะ เดี๋ยวพ่อขับรถให้"
พ่อราฟพยุงเราช้า ๆ และพ่อพอลเดินนำหน้าออกไป ส่วนกิต... เขายืนมองเพิร์ธตรงนั้น ไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาเขาเหมือนจะบอกว่า
"พักผ่อนดี ๆ นะ"
เพิร์ธกำเสื้อของเขาไว้แน่นขึ้นอีกนิด ก่อนจะเดินออกจากคอนโดไปพร้อมพ่อทั้งสองคน
พ่อพอลพอพ่อราฟพาเพิร์ธขึ้นรถได้ ก็รีบออกรถตรงไป โรงบาลทันที พ่อราฟถามมาด้วยความสงสัย
"ไปทำไม"
พ่อพอลก็ถอนหายใจแล้วตอบไป
"ไปตรวจ น่ะว่ากิตมันไม่ได้ทำจริง แล้วก็ตรวจอะไรหลายอย่าง"
เพิร์ธนั่งเงียบอยู่เบาะหลัง กอดเสื้อแจ็กเก็ตของกิตไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว รู้ว่าพ่อพอลห่วงเขา แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอาย
"พ่อ... ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้" เพิร์ธพูดเบา ๆ มองออกไปนอกหน้าต่าง
"ต้องสิ"
พ่อพอลสวนกลับทันที
"นี่มันรอบฮีท แล้วลูกก็อยู่กับกิตสองต่อสองตั้งหลายชั่วโมง พ่อไม่เชื่อใจใครทั้งนั้น"
พ่อราฟถอนหายใจเบา ๆ แต่ไม่ได้ห้ามอะไร ดูเหมือนจะเห็นด้วยกับพ่อพอล
"แค่ตรวจให้แน่ใจก็ไม่เสียหายหรอกนะลูก" พ่อราฟหันมาพูดกับเพิร์ธเสียงอ่อนโยน
"อย่างน้อยพ่อจะได้สบายใจ ว่าลูกปลอดภัยจริง ๆ"
เพิร์ธก้มหน้าลง มือกำเสื้อกิตแน่นขึ้น ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ
"เข้าใจแล้วครับ"
พ่อพอลขับรถเร็วแต่ก็ยังปลอดภัย จนในที่สุด รถก็มุ่งตรงสู่โรงพยาบาล...
พอถึงโรงบาล และถึงมือหมอ หมอเริ่มจากการตรวจร่างกายทั่วไปก่อน ทั้งวัดความดัน ชีพจร อุณหภูมิร่างกาย ก่อนจะเข้าสู่การตรวจละเอียดเกี่ยวกับอาการฮีทของเรา
"จากประวัติที่เล่าให้ฟัง "
"ฮีทของคุณเกิดขึ้นเพราะลืมกินยาระงับตอนเช้าใช่ไหมครับ?"
หมอถามขณะตรวจ
"ครับ" เพิร์ธตอบเบา ๆ
รู้สึกอายที่พ่อพอลกับพ่อราฟนั่งฟังอยู่ด้วย
"แล้วก่อนหน้านี้เคยมีอาการฮีทหนักแบบนี้ไหม หรือเป็นแค่ช่วง ๆ?"
"เคยครับ… ตอน ม.4" เพิร์ธตอบ แต่ไม่กล้าสบตาหมอ
หมอพยักหน้าแล้วจดบันทึก
"ครั้งนั้นมีอาการหนักขนาดนี้ไหมครับ หรือเบากว่านี้?"
เขานิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนตอบ
"เบากว่านี้ครับ แต่ก็ลำบากพอสมควร"
หมอพยักหน้า
"ดูจากอาการแล้ว รอบฮีทครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรงกว่าปกติ"
"คาดว่ามีผลมาจากความเครียดสะสม และการได้รับฟีโรโมนของอัลฟ่าที่เข้มข้น"
หมอหยุดเล็กน้อยก่อนเสริม
"คุณกิตเป็นเพียวอัลฟ่าใช่ไหมครับ?"
"ครับ" เพิร์ธตอบเบา ๆ
พ่อพอลที่นั่งฟังอยู่ดูมีสีหน้าที่อ่านไม่ออก ขณะที่พ่อราฟถอนหายใจเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น
"แบบนี้ต้องปรับยาไหมครับหมอ?"
"ใช่ครับ อาจต้องเปลี่ยนสูตรยาให้เหมาะสมกว่านี้"
” และควรพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินเพิ่มเติม”
"ว่าร่างกายตอบสนองต่อฮีทปกติ หรือมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย"
พ่อพอลฟังแล้วพูดเสียงเข้ม
"สรุปว่ากิตมันไม่ได้ทำอะไรลูกผมแน่นะ?"
หมอเหลือบตามองเราก่อนจะตอบ
"จากการตรวจร่างกาย ไม่มีร่องรอยการถูกล่วงละเมิดครับ ทุกอย่างยังปกติ"
เขารู้สึกหน้าแดงขึ้นมาทันที
"พ่อ! ถามอะไรเนี่ย"
พ่อราฟหัวเราะเบา ๆ แล้วตบบ่าพ่อพอล
"เห็นไหมล่ะ ไม่มีอะไรหรอก หายห่วงได้แล้ว"
แต่พ่อพอลยังดูจริงจัง
"ก็ดี…แต่คราวหน้าถ้าฮีทอีก ห้ามอยู่กับกิตตามลำพังเด็ดขาด เข้าใจไหม?"
เพิร์ธเม้มปากแน่นก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ
หมอจัดการนัดหมายให้เพิร์ธเข้าพบแพทย์เฉพาะทางด้านโอเมก้าอีกสองวันข้างหน้า เพื่อประเมินอาการฮีทของเราโดยละเอียด และปรับยาหรือวิธีการดูแลให้เหมาะสม
"ระหว่างนี้ให้พักผ่อนเยอะ ๆ ดื่มน้ำมาก ๆ"
"แล้วก็พยายามหลีกเลี่ยงฟีโรโมนของอัลฟ่าโดยตรงนะครับ" หมอพูดพลางยิ้มบาง ๆ
เขาพยักหน้ารับ
พ่อราฟลูบหัวเพิร์ธเบา ๆ
"พรุ่งนี้ไม่ต้องไปเรียน พักอยู่บ้านก่อนนะลูก"
พ่อพอลเสริมเสียงเข้ม
"แล้วอย่าลืมกินยาตามเวลาล่ะ ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก"
เขาได้แต่พยักหน้ารับเงียบ ๆ พอออกจากห้องตรวจ พ่อพอลก็ยังคงขมวดคิ้วเหมือนคิดอะไรบางอย่าง ส่วนพ่อราฟดูเหมือนจะใจเย็นลงแล้ว
"กลับบ้านกันเถอะ"
พ่อราฟพูด ก่อนที่พ่อพอลจะเดินนำออกไปตรงลานจอดรถ เพิร์ธเดินตามไปเงียบ ๆ แต่ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่า…กิตจะรู้เรื่องที่พ่อพ่อพาเรามาตรวจไหมนะ?
และพอถึงบ้านพ่อราฟก็ค่อยๆ พยุงเพิร์ธลงจากรถ และ คุณแม่บ้านเฟีย,เซอร์ (ทั้งคู่เป็นเบต้า) ก็เดินออกมารับ คุณแม่บ้านเฟียกับเซอร์รีบเดินเข้ามาหาเขาด้วยสีหน้าเป็นห่วง
"คุณหนูเพิร์ธเป็นยังไงบ้างคะ?"
เฟียถามเสียงนุ่มพลางยื่นมือมาช่วยพยุงเพิร์ธอีกแรง
เซอร์เองก็มองเราด้วยสายตาเป็นกังวล
"ให้ผมไปเตรียมห้องให้เลยไหมครับ?"
พ่อราฟพยักหน้า
"อืม เตรียมห้องให้เรียบร้อย แล้วเอาน้ำอุ่นกับผ้าขนหนูมาไว้ด้วย"
เขาถูกพยุงเข้าไปในบ้านช้า ๆ กลิ่นอบอุ่นของบ้านทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย แต่เพราะร่างกายยังอ่อนเพลียจากฮีท ทำให้เพิร์ธซบพ่อราฟไว้ตลอดทาง
พ่อพอลที่เดินตามมาห่าง ๆ เอ่ยขึ้นเสียงเข้ม
"คืนนี้ให้เฟียคอยดูแลเพิร์ธด้วย เซอร์ด้วย"
"ค่ะ/ครับ" แม่บ้านทั้งสองตอบรับทันที
เพิร์ธถูกพาไปที่ห้องนอน ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้อย่างดี พ่อราฟช่วยให้เขาล้มตัวลงนอน แล้วดึงผ้าห่มมาคลุมให้
"พักผ่อนเยอะ ๆ นะลูก ถ้ามีอะไรเรียกเฟียได้ตลอด"
พ่อราฟพูดเสียงอ่อนโยน
พ่อพอลที่ยืนกอดอกอยู่มองเราด้วยสายตาจับสังเกต ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ
"ถ้ารู้สึกไม่ดีขึ้น หรือมีอะไรผิดปกติ บอกพ่อทันที เข้าใจไหม?"
เพิร์ธเงยหน้ามองพ่อพอลแล้วพยักหน้าเบา ๆ
"ครับ…"
คืนนี้ดูเหมือนจะยาวนานอีกคืน…
เพิร์ธก็นอนกอดเสื้อกันหนาวที่กิตให้มาแบบแน่นตลอดคืน กลิ่นของกิตกลิ่นฟีโรโมน
กลิ่นของกิตยังคงติดอยู่บนเสื้อกันหนาวที่เพิร์ธกอดแน่น มันอบอุ่นและให้ความรู้สึกปลอดภัย ถึงแม้จะอยู่ที่บ้านแล้ว แต่ร่างกายก็ยังคงรับรู้ถึงผลกระทบของฮีทที่ยังไม่หายดี
เขาเบียดตัวเข้ากับผ้านุ่ม ๆ หายใจลึก ๆ ซุกหน้าลงไปกับเสื้อของกิต กลิ่นฟีโรโมนจาง ๆ ยังคงติดอยู่ ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ในความเงียบของห้อง เพิร์ธค่อย ๆ ปิดเปลือกตาลง แต่ร่างกายยังร้อนวูบวาบเป็นระยะ ฮีทอ่อน ๆ ยังหลงเหลืออยู่เล็กน้อย แม้จะไม่รุนแรงเหมือนตอนกลางวัน แต่ก็ทำให้รู้สึกกระสับกระส่ายอยู่ดี
เพิร์ธขยับตัวนิดหน่อย กอดเสื้อกันหนาวแน่นขึ้นกว่าเดิม แล้วพึมพำเบา ๆ กับตัวเอง
"กิต…"
ก่อนที่สติจะค่อย ๆ เลือนหายไปพร้อมกับความง่วง
ในความฝัน ทุกอย่างเริ่มต้นอย่างปกติ เพิร์ธอยู่กับกิต ออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเดินเล่น นั่งกินข้าว หรือแค่คุยกันธรรมดา ทุกอย่างดูเหมือนจริงมาก จนรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากตัวกิต กลิ่นของเขายังคงชัดเจน
แต่แล้ว ความฝันก็เปลี่ยนไป…
บรรยากาศรอบตัวค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความรู้สึกอบอ้าว ร่างกายเหมือนถูกโอบล้อมด้วยไออุ่นจากกิต เพิร์ธรู้สึกได้ถึงลมหายใจของเขา เสียงของเขาที่กระซิบอยู่ข้างหู ทุกสัมผัสของเขาทำให้เพิร์ธตัวสั่น และทุกการเคลื่อนไหวของเขาทำให้เขาหายใจติดขัด
เพิร์ธไม่อาจควบคุมตัวเองได้เลย ร่างกายตอบสนองต่อกิตอย่างสมบูรณ์แบบ ได้แต่จมดิ่งลงไปในฝันที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอ่อนไหว ร้อนผ่าว และยากจะต้านทาน
"เพิร์ธ…"
เสียงของกิตเรียกชื่อเราด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์
แล้วทันใดนั้น—
เพิร์ธก็สะดุ้งตื่น
ร่างกายยังคงร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรง มือยังคงกอดเสื้อของกิตไว้แน่น และกลิ่นของเขาก็ยังคงอยู่รอบตัวเขา…
ร่างกายร้อนจัดจนทนไม่ไหว เรานอนบิดตัวไปมา รู้สึกเหมือนมีบางอย่างจุกแน่นอยู่ในอก ความรู้สึกในฝันยังคงชัดเจนอยู่ในหัว เราหายใจติดขัด กลิ่นฟีโรโมนของกิตที่ติดอยู่กับเสื้อกันหนาวยังคงโอบล้อมเราเอาไว้ ทำให้ร่างกายยิ่งไวต่อความรู้สึกมากขึ้น
"อื้อ…"
เราเผลอครางออกมาเบา ๆ ขณะที่พยายามขยับตัวเพื่อหาท่าที่ทำให้รู้สึกดีขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่ามันยิ่งกระตุ้นความรู้สึกมากกว่าเดิม
มือของเราเผลอกำเสื้อของกิตแน่นขึ้น ซุกหน้าลงกับเนื้อผ้าที่มีกลิ่นของเขาอยู่เต็มไปหมด
"กิต..." เราเผลอเรียกชื่อเขาออกมาอย่างไม่รู้ตัว ร่างกายเหมือนกำลังโหยหาบางอย่างที่ขาดหายไป
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากนอนบิดไปมาอยู่แบบนั้น…
พอเช้ามา แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านม่านเข้ามาในห้อง เราค่อย ๆ ลืมตาขึ้น รู้สึกถึงความอบอุ่นที่โอบล้อมตัวอยู่
"หืม?"
เราก้มลงมองตัวเอง แล้วก็ต้องชะงักไปเล็กน้อย เพราะเสื้อกันหนาวของกิตที่เมื่อคืนยังอยู่ในอ้อมแขน ตอนนี้เราดันเอามาสวม—หรือเรียกว่าห่มก็ได้—คลุมตัวทั้งตัว เสื้อของกิตมันใหญ่จนปิดมิดแทบจะครึ่งตัวเราเลย
กลิ่นของกิตยังคงติดอยู่บนเนื้อผ้า กลิ่นฟีโรโมนของเขายังอ่อน ๆ รอบตัวเรา
"อือ..."
เราซุกหน้าลงกับแขนเสื้อโดยไม่รู้ตัว เหมือนเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติ
พ่อราฟที่เดินเข้ามาพอดี มองเราแล้วยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเอ็นดูปนเหนื่อยใจ
"หืม… แล้วนั้นใส่เสื้อของกิตไว้ทำไมล่ะ"
"คิดถึงเจ้าเพื่อนคนนั้นหลอลูก"
เราเม้มปากแน่น ไม่ตอบอะไร แต่กลับซุกหน้าลงไปกับแขนเสื้อของกิตมากกว่าเดิม
พ่อราฟเห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะยื่นมือมาลูบหัวเราเบา ๆ
"คิดถึงก็โทรหาสิลูก หรือไม่ก็ให้กิตมาหา"
"แต่ถ้าจะนอนกอดเสื้อเค้าแบบนี้ทุกคืน พ่อว่ามันก็เกินไปหน่อยนะ"
พ่อราฟพูดด้วยน้ำเสียงล้อ ๆ
เราเงยหน้าขึ้นมองพ่อราฟ หน้าเริ่มร้อนขึ้นมาหน่อย ๆ
"ก็ไม่ได้คิดถึงขนาดนั้นซะหน่อย…"
พูดออกไปเบา ๆ แต่ก็ยังไม่ปล่อยเสื้อออกจากตัว
พ่อราฟหัวเราะเบา ๆ
"เหรอครับ?"
ดวงตาของพ่อดูเหมือนรู้ทันทุกอย่าง เราเลยเลือกที่จะเบือนหน้าหนี
"ไปล้างหน้าล้างตาเถอะลูก เดี๋ยวพ่อทำอาหารเช้าให้"
พ่อราฟลูบหัวเราอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นไทิ้และเดินออกไปทิ้งให้เรานั่งอยู่บนเตียง กอดเสื้อของกิตแน่นเหมือนเดิม…
พอเพิร์ธกำลังจะลุกไปล้างหน้า โทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างเตียงก็ดังขึ้น
— ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด —
เขาหยิบขึ้นมาดู หน้าจอขึ้นชื่อ "กิต"
ใจเพิร์ธสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะกดรับสายแบบเร็ว ๆ
"…ฮัลโหล" เสียงเพิร์ธยังงัวเงียเล็กน้อยจากที่เพิ่งตื่น
"ตื่นแล้วเหรอ"
ปลายสายถามกลับมา เสียงของกิตฟังดูปกติ แต่เราสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่ดู…แปลก ๆ
"อืม…"
ะขาตอบเบา ๆ ก่อนจะเผลอซุกหน้าลงกับแขนเสื้อของกิตที่เราสวมอยู่
"เมื่อคืนหลับสบายมั้ย?"
คำถามของกิตทำให้เพิร์ธชะงักไปนิดหน่อย ก่อนจะตอบเสียงเบา
"ก็…โอเค…"
"แน่ใจน่ะ"
น้ำเสียงของกิตดูเหมือนจะแฝงอะไรบางอย่างที่เพิร์ธจับไม่ได้ เพิร์ธกัดปากแน่น ไม่รู้จะตอบอะไรดี แต่สุดท้ายก็พูดออกไปเบา ๆ
"ก็…ฝันแปลก ๆ นิดหน่อย…"
"หืม…~ฝันว่าอะไร~"
เพิร์ธกัดริมฝีปากแน่นกว่าเดิม หน้าเริ่มร้อนขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ
"มะ…ไม่บอก!"
ปลายสายเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของกิต
"อืม ไม่บอกก็ไม่บอก"
เพิร์ธถอนหายใจโล่งอก คิดว่ากิตคงไม่ถามต่อแล้ว…แต่เปล่าเลย
"แต่เมื่อคืนเราฝันถึงกันใช่มั้ย"
"!!!"
"ไม่มีทาง!" เขารีบเถียงกลับทันที ใจเต้นแรงขึ้นมาเองโดยไม่รู้ตัว
ปลายสายหัวเราะเบา ๆ
"เหรอ? แต่เสียงนายตอนนี้มันน่าสงสัยชะมัดเลยนะ"
"ฉันไม่ได้ฝันถึงนายสักหน่อย!"
เพิร์ธพยายามปฏิเสธสุดชีวิต แต่ยิ่งพูดมากเท่าไหร่ มันยิ่งดูเหมือนเรากำลังแก้ตัว
"โอเค ๆ ก็ได้ ไม่ฝันถึงก็ไม่ฝันถึง"
กิตพูดเสียงเนือย ๆ เหมือนไม่ได้ใส่ใจ แต่ทำไมเรารู้สึกว่ามันต้องมีอะไรแฝงอยู่แน่ๆ เพิร์ธกอดเสื้อของกิตแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว กลิ่นของเจ้าตัวที่ติดอยู่มันยังชัดเจนไม่จางหายไปไหนเลย
"แล้วเป็นไงบ้าง"
กิตถามต่อ เสียงดูจริงจังขึ้นกว่าเดิม
"ก็…ดีขึ้นแล้วล่ะ"
เพิร์ธตอบเบา ๆ จริง ๆ ก็ยังรู้สึกโหวง ๆ อยู่บ้าง แต่ก็ดีกว่าเมื่อวานเยอะแล้ว
"อืม ดีแล้ว"
กิตพูดเสียงเรียบ แต่เพิร์ธรู้ว่ามันคือคำพูดที่แฝงความเป็นห่วงอยู่ เขากำโทรศัพท์แน่นขึ้น ไม่รู้ทำไมอยู่ดี ๆ ก็ไม่อยากให้บทสนทนานี้จบลงเลย…
"ก็…ไปสิ"
เพิร์ธตอบแบบลังเลนิดหน่อย เพราะจริง ๆ ก็ยังมึน ๆ อยู่
"แน่ใจน่ะ เด็กดื้อ"
กิตถามย้ำ เสียงดูไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
"แน่ใจดิ"
เพิร์ธตอบกลับทันที ไม่อยากให้กิตมองว่าเราอ่อนแอเกินไป
"ถ้ามาแล้วเวียนหัวหรือไม่ไหว บอกฉันทันที เข้าใจไหม"
"รู้แล้วน่า~"
เพิร์ธลากเสียงยาว ทำไมกิตถึงดูเป็นห่วงขนาดนี้ก็ไม่รู้
"ดี… ฉันไปรอที่มหาลัยนะ อย่ามัวโอ้เอ้ล่ะ"
กิตพูดทิ้งท้ายก่อนจะวางสายไป เขามองโทรศัพท์ในมือแล้วเผลอยิ้มออกมาเล็กน้อย… ' เอาล่ะ! ต้องรีบไปอาบน้ำเตรียมตัวไปเรียนแล้ว! '
เพิร์ธยืนมองตัวเองในกระจก หน้ายังขึ้นสีแดง ๆ นิดหน่อย พอนึกถึงฝันเมื่อคืนก็ยิ่งรู้สึกอายหนักเข้าไปอีก
"บ้าเอ้ย… ฝันอะไรของเราวะเนี่ย!" เพิร์ธพึมพำกับตัวเองก่อนจะเอามือกุมหน้าด้วยความเขิน
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามันชัดเกินไป ทุกสัมผัส ทุกความรู้สึกมันเหมือนจริงมากเกินไป
"หยุดคิดได้แล้วเพิร์ธ! ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลย!"
พูดกับตัวเองจบก็รีบเปิดน้ำล้างหน้าทันที เอาไอ้ความคิดพวกนั้นออกไปให้หมด! วันนี้ต้องไปเรียน จะมามัวเขินกับฝันเมื่อคืนไม่ได้เด็ดขาด!
เพิร์ธเลือกเสื้อเชิ้ตตัวสวย สีที่เข้ากับผิวขาว ๆ ของตัวเอง แมทช์กับกางเกงที่ใส่แล้วดูดีมีสไตล์ ยืนหมุนตัวดูในกระจกนิดหน่อย ก่อนจะยิ้มให้ตัวเองเบา ๆ
"โอเค คนสวยพร้อมไปเรียน!"
หยิบกระเป๋า หยิบของที่ต้องใช้ แล้วเดินออกจากห้องไปแบบมั่น ๆ แต่ในใจก็แอบกังวลนิดหน่อยว่า… วันนี้จะต้องเจอกิตไหม แล้วถ้าเจอ จะทำตัวปกติได้รึเปล่า!?
พอลองใส่เสื้อกันหนาวของกิตแล้ว เพิร์ธก็มองตัวเองในกระจก …
เพิร์ธยืนมองตัวเองในกระจก พลิกซ้ายพลิกขวา เสื้อกันหนาวตัวโคร่งของกิตคลุมไปจนถึงสะโพก แขนเสื้อยาวจนเลยมือไปหมด
“ตัวโคตรใหญ่เลยอ่ะ…” เพิร์ธพึมพำกับตัวเอง แล้วลองยกแขนขึ้นสะบัดเบา ๆ เพื่อให้มือโผล่ออกมา
พ่อราฟที่เดินผ่านมาเห็นพอดีถึงกับหัวเราะ “ลูกจะไปเรียนหรือจะไปเป็นก้อนกลมเดินได้กันแน่?”
เพิร์ธมุ่ยหน้า เอามือดึงแขนเสื้อขึ้นมา “ก็เสื้อมันอุ่นดีนี่…”
พ่อราฟยิ้มขำ ๆ “หรือเพราะคิดถึงเจ้าของเสื้อกันแน่?”
เพิร์ธชะงัก หันไปมองพ่อทันที “พ่ออ่ะ!”
พ่อราฟหัวเราะเบา ๆ “แล้วตกลงจะใส่ไปจริงเหรอ? ตัวลูกเล็กนิดเดียว เสื้อกิตตัวใหญ่อย่างกับเสื้อคลุม”
เพิร์ธกอดอกแล้วพยักหน้าหนักแน่น “ก็เสื้อมันอุ่น” พูดจบก็เดินออกจากห้องไป ไม่ได้เถียงอะไรต่อ เพราะยังไงก็ไม่ยอมถอดออกแน่ ๆ
พ่อราฟส่ายหน้าเบา ๆ “เด็กน้อยเอ๊ย…”
เพิร์ธเดินลงบันไดไปยังห้องอาหาร กลิ่นอาหารหอม ๆ ลอยมาแตะจมูกจนท้องร้องเบา ๆ
“หิวแล้วสินะคะ คุณเพิร์ธ” แม่บ้านเฟียที่กำลังจัดจานอยู่เอ่ยยิ้ม ๆ
เพิร์ธพยักหน้า เดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะโดนพ่อพอลที่นั่งอยู่ก่อนแล้วมองด้วยสายตาจับผิด
“ใส่เสื้อนั่นไปเรียน?” พ่อพอลถามเสียงเรียบ
เพิร์ธยิ้มแหย ๆ “อื้ม อุ่นดี…”
พ่อพอลมองเสื้อที่ตัวใหญ่เกินตัวของลูกชาย ก่อนจะถอนหายใจ “หึ… กอดเสื้อคนอื่นทั้งคืน ยังจะเอาไปใส่ต่ออีก”
พ่อราฟที่เพิ่งเดินมานั่งหัวเราะเบา ๆ “ก็บอกแล้วว่าเด็กมันคิดถึงเพื่อน”
เพิร์ธรีบก้มหน้าก้มตากินข้าว ไม่อยากโดนแซวมากกว่านี้ แต่ก็ไม่วายได้ยินเสียงพ่อราฟกระซิบกับพ่อพอล
“หรือต้องให้กิตมาเอาเสื้อคืนเองดี?”
เพิร์ธสำลักข้าวทันที “พ่ออ่ะ!!”
พอกินหมด เพิร์ธก็เตรียมไปมหาลัย คุณแม่บ้านเซีย ก็เตรียมรถไว้พร้อมแล้ว
เพิร์ธเดินออกมาหน้าบ้าน เห็นคุณแม่บ้านเซียยืนรออยู่ข้างรถแล้ว
“รถพร้อมแล้วค่ะ คุณเพิร์ธ” เซียเอ่ย พลางเปิดประตูรถให้
เพิร์ธพยักหน้า ก้าวขึ้นไปนั่งในรถพร้อมเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ของกิตที่ยังสวมอยู่ พอรถเคลื่อนออกจากบ้าน พ่อราฟก็โทรเข้ามาพอดี
“อยู่ในรถแล้วใช่ไหมลูก?”
“ครับพ่อ”
“อย่าเผลอหลับในรถนะ เดี๋ยวถึงมหาลัยแล้วจะเบลอ”
เพิร์ธยิ้มนิด ๆ “ไม่หลับหรอกน่า”
“อืม… แล้ววันนี้จะแวะไปหากิตไหม” พ่อราฟถามเสียงเนียน ๆ
เพิร์ธสะดุ้ง รีบตอบทันที “ไม่! ไม่ต้องเลย!”
ปลายสายมีเสียงหัวเราะเบา ๆ “พ่อแค่ถามเฉย ๆ”
เพิร์ธถอนหายใจ เงยหน้ามองกระจกข้าง รถกำลังแล่นเข้าสู่เส้นทางที่คุ้นเคยของมหาวิทยาลัยแล้ว
“พ่อ พ่ออย่ากวนผมเลย เดี๋ยวถึงแล้ว”
“จ้า ๆ ตั้งใจเรียนนะลูก”
เพิร์ธวางสายก่อนจะพ่นลมหายใจเบา ๆ แค่เช้า ก็โดนแซวไม่หยุดแล้ว…
•
•
•
•
•