ความรู้ดั่งเครื่องประดับงามกว่าทรัพย์ประดับกายสิ่งอื่นหมุนเวียนมลายวิทยานั้นมิรู้เลือน

สุดหทัยวิทยา - 3. ชีวิตแพทย์ในวังหลวง โดย summer_T @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ไทย,ย้อนยุค,วาย,วายพีเรียด,ชาย-ชาย,ชายรักชาย,ชายชาย,ย้อนยุค,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

สุดหทัยวิทยา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ไทย,ย้อนยุค

แท็คที่เกี่ยวข้อง

วาย,วายพีเรียด,ชาย-ชาย,ชายรักชาย,ชายชาย,ย้อนยุค

รายละเอียด

สุดหทัยวิทยา โดย summer_T @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ความรู้ดั่งเครื่องประดับงามกว่าทรัพย์ประดับกายสิ่งอื่นหมุนเวียนมลายวิทยานั้นมิรู้เลือน

ผู้แต่ง

summer_T

เรื่องย่อ

วิทยา

นักเรียนแพทย์จบใหม่จากต่างแดน 

เดินทางจากหัวเมืองเข้าสู่พระนครพร้อมจดหมายฝากฝังตนเองจากอาจารย์ของเขาถึง

พระยาเอกชาติ

ขุนนางสูงศักดิ์ผู้ที่จะสามารถส่งวิทยาเข้าไปทำงานในกรมการแพทย์ของวังหลวงได้

เพราะความถูกชะตา และเห็นแก่ผู้ใหญ่ที่ฝากฝังนายแพทย์หนุ่ม

เขาจึงคอยช่วยวิทยาอยู่เสมอ

ไม่ทันได้ตั้งตัว ความรู้สึกที่มีต่อนายแพทย์หนุ่มจากหัวเมืองก็ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนไป

จนตัวเขาเองไล่ตามความรู้สึกของตนแทบไม่ทัน

.

.

เมื่อรู้แน่ชัดถึงความรู้สึก ชายหนุ่มสูงศักดิ์จึงไม่คิดจะรั้งรอเวลาให้ยาวนาน

การเอ่ยให้อีกฝ่ายได้เข้ามาอยู่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นจึงเป็นประตูด่านแรก

ที่จะเผยความรู้สึกของคนทั้งสอง...

ว่าตรงกันหรือไม่

สารบัญ

สุดหทัยวิทยา-1. การเดินทางสู่พระนคร,สุดหทัยวิทยา-2. นักเรียนแพทย์ในสายตา,สุดหทัยวิทยา-3. ชีวิตแพทย์ในวังหลวง,สุดหทัยวิทยา-4. ความอ่อนล้าที่ถูกโอบกอด,สุดหทัยวิทยา-5. ความรู้สึกที่เติบโต,สุดหทัยวิทยา-6. การช่วยงานที่น่ากังขา,สุดหทัยวิทยา-7. วิทยามิรู้เลือน,สุดหทัยวิทยา-8. มิอาจสูญเสีย,สุดหทัยวิทยา-9. ความรู้สึกที่ (เคย) ร้างรา,สุดหทัยวิทยา-10. ภาพวาดของความรู้สึก,สุดหทัยวิทยา-11. ความสัมพันธ์เริ่มต้น,สุดหทัยวิทยา-12. ราตรีแรก,สุดหทัยวิทยา-13. อรุณแรก,สุดหทัยวิทยา-14. สายตา,สุดหทัยวิทยา-15. ของหวาน

เนื้อหา

3. ชีวิตแพทย์ในวังหลวง

วิทยาเดินเข้าไปในแผนกการแพทย์ของวังหลวงครั้งแรกด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความหวังและความตื่นเต้น เขาคิดว่าเขาจะสามารถใช้ความรู้ที่เคยไปศึกษาในต่างประเทศและที่ได้ฝึกปรือฝีมือภายใต้ความดูแลของครูอาจารย์ที่หัวเมืองเพื่อมาพัฒนาและช่วยส่งเสริมแนะนำแนวทางการแพทย์ใหม่ๆ ให้กับวงการแพทย์ไทย

 

แต่เมื่อเข้ามาแล้วเขากลับพบว่าความหวังนั้นเริ่มจืดจางลงทันทีที่เขาเจอกับบรรยากาศในแผนกการแพทย์ของวังหลวงนี้ บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเคยชินและยึดมั่นในวิธีการรักษาแบบดั้งเดิมที่เขากำลังเผชิญอยู่นี้ไม่ต่างจากไม้กั้นที่ไม่อาจทำให้เขาเดินไปตามเส้นทางและจุดประสงค์ที่ตั้งใจไว้โดยง่าย

 

ในวันแรกที่เขาเริ่มทำงาน วิทยาได้พบกับหมอและขุนนางหลายคนที่เต็มไปด้วยความสงสัยในตัวเขา อาจเพราะเขาอายุน้อยที่สุด หรือไม่ก็อาจจะเพราะเหตุผลอื่น ๆ ที่วิทยาไม่อาจรู้ได้เลยว่ามาจากสาเหตุใดบ้างจึงทำให้บางคนมองเขาด้วยสายตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตรนัก บางคนแสดงความคิดเห็นโดยตรงว่าเขาเป็นเพียงแค่คนรุ่นใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการรักษา บางทีก็ได้ยินเสียงกระซิบที่วิทยาไม่อาจแยกแยะได้ว่าเป็นการพูดคุยกันในเชิงดีหรือไม่ดี

 

“หมอวิทยา แม้จะเรียนจบจากต่างประเทศมาแล้ว แต่ความรู้ในหมู่หมอที่นี่ย่อมเหนือกว่าของท่านเสียอีกหลายเท่านัก” เสียงพูดเย้ยหยันดังขึ้นจากหมอท่านหนึ่งที่นั่งอยู่ข้าง ๆ วิทยารู้สึกถึงความไม่ยอมรับที่แฝงอยู่ในคำพูดนั้น ซึ่งตัวเขานั้นได้แต่พยายามเก็บอารมณ์ไว้และยิ้มตอบไปอย่างสุภาพ

 

เขาไม่อยากจะทำสิ่งใดให้เกิดความเสียหายไปถึงครูบาอาจารย์ รวมถึงพระยาเอกชาติซึ่งเมตตานักเรียนแพทย์จบใหม่อย่างเขาให้ได้เข้ามาทำงานในที่แห่งนี้

 

“ขออภัยที่อาจจะทำให้ท่านไม่พอใจขอรับ แต่กระผมคิดว่าแนวทางการรักษาของต่างประเทศอาจจะมีประโยชน์บ้างนะขอรับ” วิทยาตอบด้วยเสียงที่สั่นเล็กน้อย เขารู้สึกเหมือนถูกทดสอบอย่างหนัก แต่ก็พยายามตั้งใจทำงานให้เต็มที่

 

เสียงวิจารณ์ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น เมื่อวิทยาแนะนำการรักษาผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัด ด้วยวิธีการใช้ตำรับยาจากตะวันตก หมอในวังบางคนเริ่มพูดถึงเขาเบา ๆ ว่าทำไมต้องนำสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยใช้ในราชสำนักมาใช้ในการรักษาผู้ป่วย พวกเขามองว่าการใช้ยาตะวันตกนั้นยังไม่สมเหตุสมผลในแง่ของการรักษาผู้ป่วยในขณะนี้

 

วิทยาเริ่มรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเห็นเพื่อนร่วมงานและหมอในแผนกคอยมองเขาด้วยสายตาไม่เห็นด้วยแทบตลอดเวลาที่เขาขยับตัว แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกยิ่งกว่าความเหงาคือความสงสัยในตัวเอง

 

บางที...เขาอาจจะมาถูกที่แต่ผิดเวลา

 

หรือบางที...เขาอาจจะยังไม่มีความสามารถพอที่จะทำให้ความคิดของคนเหล่านั้นเปลี่ยนแปลงได้ก็เป็นได้

 

ในช่วงเวลาที่เขากำลังรู้สึกท้อแท้ พระยาเอกชาติ ผู้ที่วิทยาเคารพนับถืออย่างยิ่งก็เข้ามาช่วยฉุดรั้งความรู้สึกเหล่านั้นของเขาไว้ พระยาเอกชาติเป็นขุนนางที่มีตำแหน่งสูงในราชสำนัก และมีชื่อเสียงในด้านการสนับสนุนวิทยาศาสตร์และการแพทย์ตะวันตก

 

ท่านเจ้าคุณไม่เพียงแต่เป็นผู้สนับสนุนในทางการงานเท่านั้น แต่ท่านยังเป็นผู้ที่ให้คำแนะนำและคำปลอบใจที่มีค่าแก่วิทยาในช่วงเวลาที่เขารู้สึกอ่อนแอที่สุดมาโดยเสมอ

 

เป็นความอบอุ่นเดียวที่วิทยาได้รับนับจากเขามาถึงพระนคร

 

 

 

“วิทยา ข้าเข้าใจความรู้สึกของเจ้าดี”

 

พระยาเอกชาติพูดขึ้นในขณะที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ในเย็นวันหนึ่งขณะที่เขาและท่านเจ้าคุณยืนรอเกวียนเทียมม้าคันเดิม การกลับบ้านโดยมีพระยาเอกชาติอาสาไปส่งกลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว

 

วิทยาเองก็ไม่ทันสังเกตตัวเองเท่าไหร่นักว่าตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขากล้าหาญพอที่จะเอ่ยถึงปัญหากวนใจมากมายในระหว่างวันให้พระยาเอกชาติฟังทั้งที่รู้ว่าเรื่องเล่านี้ล้วนเป็นปัญหาส่วนตัวของเขาซึ่งเล็กน้อยเกินกว่าจะหยิบขึ้นมากวนใจชายสูงศักดิ์

 

เขาเพิ่งตระหนักเรื่องนั้นก็ตอนที่ได้ยินประโยคปลอบใจแสนเรียบง่ายออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มกว่าทุกครั้งหลังจากเขาเผลอพูดถึงเรื่องราวที่เจอมาในวันนี้ออกไปพร้อมถอนหายใจตบท้ายไปอีกหนึ่งที

 

ดวงหน้านวลสีน้ำผึ้งจึงหันไปหาคนข้างกายเพื่อจะกล่าวขออภัยที่พลั้งปากพูดเรื่องกวนใจออกไปอีกแล้ว ขณะนั้นเองวิทยาจึงได้เห็นความจริงใจในดวงตาของพระยาเอกชาติ ซึ่งมันทำให้ความรู้สึกที่หนักหน่วงในใจของเขาค่อย ๆ เบาบางลงอย่างน่าประหลาด

 

“การเปลี่ยนแปลงไม่เคยง่าย แต่สิ่งที่เจ้าทำเป็นการก้าวไปข้างหน้าที่สำคัญ คนที่กล้าเปลี่ยนแปลงย่อมต้องเจออุปสรรค แต่เจ้าจะต้องไม่ยอมแพ้”

 

คำพูดนั้นของพระยาเอกชาติทำให้วิทยารู้สึกอบอุ่นเหมือนกับได้รับการโอบกอดไม่ต่างจากคนที่บ้านซึ่งอยู่ไกลถึงหัวเมือง แม้จะมีเสียงวิจารณ์และถ้อยคำเยาะหยันจากหมอในแผนกมากมาย แต่คำสนับสนุนเพียงคำเดียวของพระยาเอกชาติกลับทำให้เขามีกำลังใจที่จะเดินหน้าต่อไป ลบเลือนความรู้สึกหนักใจไปเสียเกือบสิ้น

 

“วิทยา” พระยาเอกชาติพูดอย่างจริงจัง

 

“ขอรับ”

 

“ในเมื่อเจ้ามีโอกาสที่ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้แผนกการแพทย์ดีขึ้น มันอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันก็เป็นสิ่งที่คุ้มค่า ทำต่อไปเถิด”

 

ฝ่ามืออุ่นวางลงบนศีรษะของเขาเพียงแผ่วเบาก่อนจะละออกไปเมื่อเกวียนมาจอดเทียบด้านหน้าของพวกเขาทั้งสอง แต่ความอุ่นซ่านจากฝ่ามือนั้นยังคงติดอยู่ที่กลุ่มผม หนังศีรษะ ใบหน้า และอาจจะลามลงมายังภายในอกของเขาเสียด้วย

 

คำพูดและการกระทำที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาอย่างจริงใจของชายร่างสูงสง่าซึ่งขึ้นไปนั่งรอภายในรถม้าแล้วนั้นกระตุ้นความรู้สึกของวิทยาได้อย่างลึกซึ้ง เขารู้สึกเหมือนตัวเองได้รับการยอมรับและเชื่อมั่นในสิ่งที่เขาทำ แถมยังมีความอบอุ่นและแรงผลักดันอยู่ด้านหลังเขาตลอดไม่ว่าเขาจะต้องเผชิญสิ่งใดในวันข้างหน้า

 

แม้ว่าจะยังมีขุนนางบางคนที่ไม่เห็นด้วย แต่คำสนับสนุนจากพระยาเอกชาติทำให้เขารู้สึกว่าความพยายามของเขานั้นต้องมีความหมายอย่างแน่นอนไม่ช้าก็เร็ว

 

 

 

ในวันถัดมา วิทยาได้รับมอบหมายให้ทำการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการไข้สูง ซึ่งเป็นผู้ป่วยคนสำคัญของวัง พระยาเอกชาติซึ่งเข้ามาในแผนกการแพทย์พอดีได้เอ่ยสนับสนุนวิธีการรักษาที่วิทยาเสนอและอนุญาตให้วิทยาใช้วิธีการรักษาในแบบที่ร่ำเรียนมาได้อย่างเต็มที่ด้วยความเชื่อมั่น โดยไม่สนใจคำวิจารณ์จากหมอในแผนก แม้แต่ขุนนางที่มองดูจากข้าง ๆ ก็ยังคงไม่เข้าใจในวิธีการใหม่ ๆ ที่วิทยานำมาใช้

 

แต่เมื่อผลการรักษาของวิทยาประสบความสำเร็จ ผู้ป่วยไข้ลดลงและอาการดีขึ้น พระยาเอกชาติก็ไม่รอช้า เขาชื่นชมและกล่าวคำขอบคุณวิทยาอย่างจริงใจท่ามกลางขุนนางและหมออาวุโสในแผนกการแพทย์นี้ออกมาเสียงดังหนักแน่น

 

“หมอวิทยา ข้าภูมิใจในตัวท่านจริง ๆ การรักษาผู้ป่วยวันนี้เป็นไปได้ดีมาก ขอบคุณที่ทำให้เราเห็นผลลัพธ์ของการแพทย์ตะวันตก ว่าให้ผลลัพธ์ดีและรวดเร็วเป็นประโยชน์ต่อคนไข้ มิใช่ศาสตร์แปลกปลอมที่จะเป็นโทษต่อชีวิตผู้ใดตามคำร่ำลือ”

 

วิทยายิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความรู้สึกที่เขามีต่อพระยาเอกชาติยิ่งทวีความเคารพและรักในตัวท่านมากขึ้น พระยาเอกชาติไม่ได้แค่เป็นผู้สนับสนุนในอาชีพ แต่เขาคือผู้ที่เป็นแรงผลักดันให้วิทยาก้าวข้ามอุปสรรค และทำให้เขารู้สึกถึงความหมายของการเป็นหมอที่แท้จริงได้ในที่สุด

 

เขาไม่รู้ว่าชาตินี้เขาจะตอบแทนบุญคุณของท่านเจ้าคุณได้อย่างไรหมด

 

ความรู้สึกอบอุ่นในใจเมื่อเห็นความเชื่อมั่นและชื่นชมยินดีจากดวงตาคมเด็ดเดี่ยวของพระยาเอกชาติอุ่นวาบอยู่ภายในใจของวิทยาจนหัวใจพานสูบฉีดเต้นแรงแบบที่วิทยาไม่กล้าจะหาเหตุผล

 

แม้จะต้องเผชิญกับการต่อต้านจากขุนนางและหมอในวังมากมาย แต่เขาก็เชื่อมั่นว่าด้วยการสนับสนุนจากพระยาเอกชาติ เขาจะสามารถพิสูจน์ตัวเองในวงการแพทย์ไทยได้ แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคใด ๆ ก็ตาม